สมภารไม่ยอม ถอดป้ายหมิ่นฯ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เฮียปอ ตำมะลัง, 29 กรกฎาคม 2008.

  1. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ธาตุ ๔ ดินน้ำลมไฟ
    ไม่ใช่กูแน่
    ไม่ต้องมากราบกู

    ป้ายนี้ต่อไปอาจจะเป็นป้ายอันใหม่
    ติดที่หน้ากุฏิ........ เพื่อยืนยัน
    ความไม่ยึดติด

     
  2. korachaa

    korachaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +548
    เลยยุคกึ่งพุทธกาลแล้ว ก็คงเป็นไปดั่งพุทธทำนาย ทุกสิ่งทุกอย่างความรู้สึกนึกคิดก็สุดแต่สภาวธรรมของแต่ละบุคคลที่สั่งสมมาในแต่ละภพชาติ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปก็เพราะมีเหตุและผลตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน ซึ่งก็แล้วแต่บุคคลที่ได้รับและเรียนรู้สั่งสมมาทุกภพทุกชาตินับไม่ถ้วน ความรู้สึกนึกคิดบังคับกันไม่ได้ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น "กฏแห่งกรรม" ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงพระดำรัสไว้ว่า "กัมมุนา วัตะตีโลโก" ......"สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตาม กรรม"
     
  3. คำแสง

    คำแสง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมดูข่าวแล้ว..นึกไม่ถึงว่าสมัยนี้ จะมีวีธีการสอนญาติโยมแบบนี้และผมก็ฟันธงในใจว่าพี่น้องชาวพิษณุโลกเขาคงไม่พอใจแน่ๆ และก็จริงๆด้วยครับ พออีกไม่กี่วันก็มีชาวพิษณุโลกก็เดินทางไปที่วัดดังกล่าว...ผมว่าเรื่องความเชื่อมันต่างมันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ และจะไปเปลี่ยนแปลงเขาก็ไม่ได้...ฆ่ากันตายเกิดสงคราม เพราะความเชื่อก็เห็นกันมามาก ถ้าเขาทำแล้วสบายใจไม่เป็นภัยกับผู้ไดไร้คนเดือดร้อนก็..สมควร สาธุ...สาธุ...เขาจะกราบกองอึควายก็แล้วแต่เขา...ช่างเขาเถอะ
     
  4. sasitorn2006

    sasitorn2006 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +4
    ก็ใช่จริงๆ หลวงพ่อเกษมไม่ได้ให้ใครมากราบด้วย ไม่จำเป็นไม่ต้องมา แม้แต่รูปก็ไม่ให้กราบ เมื่อเชื่อก็ไปถามซิ แต่ที่ต้องกราบคือ พุทธ ธรรม สงฆ์
     
  5. sasitorn2006

    sasitorn2006 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +4
    จบข่าว ใครจะบ้า นิยาย นิทาน ที่เล่าให้เด็กฟังก่อนนอนก็ตามสบาย
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ไอ้นี่เล่นไม่เลิก ผมฝากบอกไปหาเทวดา ตัวนั้นด้วยบอกว่า ขันธ์ ที่เคยเป็นพ่อมันนั่นแหละ ให้มันมาหาได้
    แล้ว ช่วยเอามาบอกผมทีว่ามันว่ายังไง
    มาถาม ชื่อ จริงนามสกุลจริง ที่อยู่
    โง่หรือเปล่า ทำเป็นไอ้พวกที่ขอเบอร์โทร แจกเบอร์โทรกับผม ควายชัดๆ
    แล้วมันเป็นเทวดาประสาห่าอะไร มันไม่รู้คนไหนอยู่ตรงไหน
    แล้วเสือกปากดีมาบอกอีกว่า ผมปากเสีย มันรู้ได้อย่างไร ก็บอกมันว่าอย่าให้ผมเจอแล้วกัน
     
  7. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087


    [​IMG]
     
  8. paranyu

    paranyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +122
    และก็ขอเรียนเชิญ ผู้เคารพ พ่อในธรรม และผู้ต้องการปกป้องพระศาสนา ทุกๆท่านครับ


    ยินดีครับ.........

    [​IMG] จัดเดินทางไป "วัดสามแยก"


    ทริปนี้ตาามคำเรียกร้อง (คุณขอมา)นะค่ะ [​IMG] ท่านที่โทรมาสอบถามทีมงานจนท.แวป และผู้ที่กำลังคิดไปต่างๆนานาว่า อะไร คือความจริงที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆ เรื่องราวความเป็นจริงคืออะไร ... หลวงปู่เกษมทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ด้วยเหตุผลอะไร ? ... ท่านที่ยังสงสัย และยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่า สิ่งที่พระวัดสามแยกตอบคำถามบนแวปกล่าวอ้างพุทธพจน์ต่างๆ( คำสอนของพุทธองค์ ) เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามสื่อต่างๆนั้น มันใช่หรือป่าว

    ก็ขอเรียนเชิญพิสูจน์ค้นหาความจริง ทวนกระแสความเชื่อต่างๆของสังคมที่ยังหลง ... [​IMG] ด้วยพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ โดยหลวงปู่เกษม อาจิณฺณสีโล ด้วยกันนะค่ะ ... แจ้งความประสงค์ก่อน วันที่12 สค. 2551 นี้นะค่ะ [​IMG]


    วันเดินทาง วันเสาร์ 16 - อาทิตย์ 17 สิงหาคม 2551
    ค่าใช้จ่ายเดินทาง 1,300 บาท (รวมอาหารกลางวันและวันเดินทางกลับ ค่ะ )

    แจ้งความประสงค์ได้ที่ :-

    1 - ในกระทู้นี้เลย (แจ้งเบอร์โทรกลับด้วยนะค่ะ)
    2 - คุณ หนิง 081-8423610
    3 - คุณ โอ๋ 081-6331567

    เราจะออกเดินทางประมาณ 7.45น.วันเสาร์ ที่ 16 สค.2551 ซอยข้างโรงเรียนหอวัง (เซ็นทรัลลาดพร้าว ) นะค่ะ ...เดินทางกลับวันอาทิตย์ที่ 17สค..2551 หลังจากถวายอาหารเช้าแล้วก็ประมาณ 10 -11โมงเช้าค่ะ ... เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ราวๆ 2-3 ทุ่ม ค่ะ

    สำหรับท่านที่ประสงค์จะไปกับคณะเรา แต่ขาดปัจจัย และมีปัญหาส่วนตัวหรือข้อธรรมที่สงสัยจริงๆ อยากกราบเรียนถามข้อธรรมที่ยังติดขัด ก็สามารถแจ้งความประสงค์เข้ามาได้ค่ะ เรามีกองทุนสนับสนุนส่วนนี้อยู่ ( ถึงแม้มันจะไม่มาก ) แต่ทางคณะทีมงานแวป ยินดีที่จะช่วยแบ่งเบาปัญหาจากท่านค่ะ โดยแจ้งความประสงค์มาได้ที่ >> หนิง 081-8423610 หรือ โอ๋ 081-6331567 ก็ได้ค่ะ

    ก้อเรียนเชิญไปพิสูจน์ในข้อธรรมกัน ดีกว่าโทรมาสอบถามทีมงาน ....เมื่อวานก้อมีคนโทรมาก้อได้คุยกะระดับมีองค์พรหมรักษา ( เห็นเค้าว่ายังงั้นนะค่ะ ) แต่เป็นพรหมที่แปลก ไม่รู้พรหมไทปิง หรือป่าว แช่งด่าทอทีมงานกะหลวงปู่ซะจนหู อื้อเลย [​IMG] ... ไม่ประสงค์จะไปกับคณะเรา ก้อขับรถตามกันมาได้ค่ะ หรือจะนัดเจอ
    กันระหว่าทางแล้วตามๆ กันไปก้อได้ค่ะ ยินดีค่ะ [​IMG]




    (ทางทีมงานจะจัดเตรียมอาหารไว้ให้พวกเราร่วมทำและถวายพระพร้อมๆกัน ค่ะ...ท่านใดจะนำไปเพิ่มเติมอีกก็ได้ค่ะ)

    <!-- / message -->
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    <table id="post1405525" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_1405525" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> [๒๔๗] ถามว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติ เท่าไร? <o>:p></o>:p>
    ตอบว่า ภิกษุกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติ ๓ คือ <o>:p></o>:p>
    ภิกษุมีความปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาลามกครอบงำ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มี <o>:p></o>:p>
    ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติปาราชิก ๑ ภิกษุกล่าวว่า ภิกษุใดอยู่ในวิหารของท่าน ภิกษุนั้นเป็นพระอรหันต์ <o>:p></o>:p>
    เมื่อผู้ฟังเข้าใจความ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ๑ เมื่อไม่เข้าใจความ ต้องอาบัติทุกกฏ ๑ <o>:p></o>:p>
    ภิกษุกล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันไม่มี ไม่เป็นจริง ต้องอาบัติเหล่านี้. </td> </tr> </tbody></table>
    พระวินัยปิฎก เล่ม 8

    ประเด็น แรก ผมปรับอาบัติ เกษมมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ สอนเรื่อง บ้าเรื่องบอ ว่าตนเหาะได้บ้าง ตนเห็นนรกผีสาง บ้าๆ บอ
    คำว่า อวดอุตริมนุสธรรม คือ ธรรมที่ คิดขึ้นเอง ธรรมที่ไม่ใช่ธรรม ธรรมที่ไม่ได้มีในตน

    ผมอธิบายไปหลายรอบแล้ว ไม่ว่าจะโอนบุญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้ามสวดมนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ห้ามสวดชินบัญชร ห้ามรดน้ำมนต์โดยอ้างว่า ไปโดนผีแขนขาดขาขาด อ้างว่าตัวเองเห็น ผีเปรต ทั้งลืมตาหลับตา อ้างว่า ตัวเองเป็นลูกศิษย์หลวงปู่หล้า แต่ ลูกศิษย์บ้าอะไร ท่านไม่ให้อยู่วัดเดียวกับท่าน
    อ้างว่า ไม่ต้องกราบพระพุทธรูป โดยใช้คำว่า ไม่ต้องไปกราบมัน ถือว่าเป็น การไม่เคารพในพระพุทธ ข้อนี้ ถ้าจะชี้แจงว่า อิฐหินปูนทราย ไปกราบทำไม ผมถือว่าเป็นการเลี่ยงบาลี เพราะโดยทั่วไป เรายกพระพุทธรูป ถือเป็นตัวแทน องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เราหาได้ระลึกถึง อิฐ ไม่
    ยังมีต่อ
    เกษม ด่า โดยใช้คำหยาบคาย อันไม่ใช่ธรรม เช่น พระอริยะ ฮุกคว... สั่งสอนธรรมอันผิดๆเช่น เอาบุญไปจ้างเทวดาบ้าง โอนบุญให้เทวดา ให้เชื้อโรคบ้าง

    ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็น การอวดอุตริมนุสธรรมอันไม่มีในตน และ กล่าวทำนองให้คนเข้าใจว่าเป็นพระอรหันต์แล้ว เป็นพระอริยะแล้ว ข้อนี้ เกษมขาดจากความเป็นพระแล้ว
    <!-- / message --> </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("1405525")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> <!-- controls --> [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  10. ๙๙๙๙๙๙๙๙๙

    ๙๙๙๙๙๙๙๙๙ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +2,808
    ไม่อยากให้ชาวพุธ มาตำหนิติเตียนพระเลยครับ ให้พระท่านจัดการกันตามระเบียบของสงฆ์เทิดครับ เรามีศีลแค่ 5 - 8 ข้อ ไม่มีสิทไปด่าว่า หรือตำหนิ พระที่ท่านมีศีล 227 ข้อ นะครับ แม่แต่นำข่าวที่ไม่ดีมาประจานก็มิควรครับ

    ให้พระท่านจัดการกันตามระเบียบของสงฆ์เทิดครับ
     
  11. สุวรรณบัณฑิต

    สุวรรณบัณฑิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +0
    อ้างถึง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ไม่มีใครไหว้พระพุทธรูปแล้วคิดว่าเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆหรอกครับ ถึงแม้คนที่เกิดทันกายเนื้อของพระพุทธเจ้า
    ก็ไม่ได้ไหว้ เนื้อหนัง เลือด หรือกระดูก หรอกครับ เรากราบไหว้ ความดีของท่าน ต่างหาก <o:p></o:p>


    ขอพูดถึงแค่ประเด็นนี้ก็แล้วกัน

    ถ้าหากว่าชาวพุทธทุกคนคิดได้ - ทำได้ ดังที่ว่ามานี้ ก็เป็นสิ่งที่น่าจะอนุโมทนายินดีเป็นอย่างยิ่ง

    เพราะว่าวัตถุทั้งหมดทั้งสิ้นในโลกธาตุทั้งหลาย ไม่จำกัดเฉพาะแค่พระพุทธรูปทองเหลือง - ทองแดงเท่านั้น
    ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาได้ทั่วถึงดีเมื่อเห็นวัตถุใดๆก็ตาม
    ก็สามารถที่จะน้อมระลึกนึกถึงพระธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าตรัสได้
    ก็สามารถจะระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้าได้เหมือนกัน
    เพราะธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน เมื่อว่ากันโดยย่อก็สรุปลงที่เรื่องของอนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตาทั้งนั้น
    วัตถุทั้งหมดในโลกทั้งหลาย ก็เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้กฎของอนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตาด้วย
    เมื่อเห็นวัตถุใดๆก็น้อมพิจารณาถึงสภาพของมันตามความเป็นจริงคืออนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา
    อันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องดี

    แม้แต่อุจจาระหรือขี้ ถ้าผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนามาทั่วถึงดีแล้ว
    ก็สามารถน้อมนำเอาประโยชน์จากอุจจาระหรือขี้นี้มาเป็นประโยชน์ต่อจิตใจได้
    คือ เมื่อเห็นขี้แล้วสามารถจะน้อมรำลึกถึงธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า จนสามารถจะบรรลุมรรค - ผลก็มีตัวอย่างอยู่

    แต่เมื่อเห็นขี้และสามารถพิจารณาความเป็นจริงของขี้จนบรรลุมรรค - ผล ได้แล้ว
    ก็จะต้องไม่หวงในขี้นั้น ใครเขาจะมาทำลายขี้ - ทำความสะอาดขี้ ก็จะต้องไม่หวง - จะต้องไม่โกรธต่อผู้นั้น
    เพราะเข้าใจดีว่า วัตถุทั้งหมดรวมทั้งขี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะยึดมั่นถือมั่นได้
    อันนี้ต้องย้ำว่า นี่คือวิถีของผู้ที่ศึกษาพุทธธรรมมาดีแล้ว

    เรื่องตามตัวอย่างก็ตามนี้ เล่ม 16 หน้า 333

    ...ก็ในคืนนั้น มนุษย์คนหนึ่ง ถูกอุจจาระเบียดเบียนเอา จึงถ่ายอุจจาระลงในผ้าสาฎกนั้น
    ทิ้งผ้าสาฎกนั้นไว้ในกองขยะ.
    พระบังสุกูลิกเถระ (พระเถระผู้ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร)
    เห็นผ้าสาฎกนั้นมีแมลงวันหัวเขียวรุมตอมอยู่ จึงประคองอัญชลี.


    พระมหาเถระจึงถามว่า ทำไมคุณจึงได้ประคองอัญชลีต่อกองอยากเยื่อเล่า.

    ก็ตอบว่า ท่านขอรับผมมิได้ประคองอัญชลีต่อกองหยากเยื่อดอก
    ผมประคองอัญชลีต่อพระทศพลพระบิดาของผมต่างหาก

    ท่านขอรับ การที่ภิกษุถือเอาผ้าบังสุกุล ที่เขาห่มซากของนางปุณณทาสีแล้วทิ้งไว้
    ไล่ตัวสัตว์เล็ก ๆ ประมาณทะนานหนึ่งออกมาจากป่าช้า ทำได้ยาก.

    พระมหาเถระ คิดว่า การตรึกของภิกษุผู้ทรงผ้าบังสุกุลหมดจดแล้ว.

    แม้พระเถระผู้ทรงผ้าบังสุกุลยืนอยู่ในที่นั้นนั่นเอง เจริญวิปัสสนาบรรลุผล ๓
    ถือเอาผ้าสาฎกผืนนั้นทำเป็นจีวรห่มไปยังปาจีนขัณฑราชีวิหาร แล้วบรรลุพระอรหัตซึ่งเป็นผลชั้นเลิศ...


    แต่ทีนี้ชาวพุทธเราเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ศึกษาพุทธธรรมเพื่อที่จะให้ตัวเองเข้าใจในเรื่องของพุทธรูปตามความเป็นจริงเลย
    ซึ่งความจริงตรงนี้เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะชาวพุทธทั้งหลายก็ได้รับการปลูกฝังกันต่อๆมาว่า
    พระพุทธรูปคือตัวแทนพระพุทธเจ้า ก็ได้รับรู้กันมาเพียงเท่านั้น
    เมื่อนานเข้าเรื่องวัตถุกับผู้ทีเ่รียกตัวเองว่าชาวพุทธนี่บานปลายไปเลย
    เท่าที่เห็นนะ ผู้ที่เรียกตัวเองว่าชาวพุทธนี่ไปกราบไปไหว้วัตถุทั้งหลายที่เขาเล่าลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นขลังอย่างนี้
    อย่างรูปเทวดา - พรหม - ยักษ์หรือแม้แต่หมูห้านิ้ว - ต้นกล้วยแปลกๆหน่อย - ควายที่มีรูปร่างประหลาดกว่าควายทั่วๆไป
    ก็เห็นชาวพุทธแห่ไปกราบไหว้ขอให้ร่ำรวย - ขอให้โชดดี บนบานกันสารพัดเรื่อง
    อันนี้คือเรื่องจริงของชาวพุทธที่ต้องยอมรับ

    ซึ่งการเข้าใจของชาวพุทธในลักษณะนี้เป็นการเข้าใจศาสนาที่ผิดเพี้ยน - บิดเบือน ไปจากหลักพุทธธรรมแล้ว
    และตอนนี้ก็ไปไกลจนไม่รู้ว่าจะกู่กันกลับหรือเปล่า ทั้งพระและโยมเพราะเห็นขยันหล่อ - ขยันแกะกันออกมาจัง
    เพราะไปเข้าใจว่า พระพุทธรูปคือตัวแทนของพุทธศาสนา
    ใครไปทำอะไรรุนแรงกับพุทธรูปต้องออกมาปกป้องกันจริงจัง

    แต่พอตอนที่สำนักสอนศาสนาพุทธบางสำนัก ซึ่งก็มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วย (แต่ไม่อยากเอ่ยถึง)
    สอนผิด - สอนเพี้ยน - สอนบิดเบือน ไปจากหลักของพุทธศาสนาที่อ้างอิงได้จากพระไตรปิฎก
    ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไปทำอะไร หรือ ไม่เห็นมีใครเรียกร้องให้ยุติการเผยแพร่ศาสนาธรรมที่ผิดๆนั้น
    ก็ยังเห็นผู้คนเดินทางไปศึกษากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งๆที่สอนผิดไปจากพระไตรปิฎกอย่างชัดเจน


    อันนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสังคมชาวพุทธเรา พยายามพิทักษ์ปกป้อง - รักษา
    พระพุทธรูป กันอย่างจริงจัง
    แต่ไม่ได้พยายามอย่างจริงจังที่จะศึกษาและพิทักษ์ปกป้อง - รักษา
    พุทธธรรม ให้มั่นคงอยู่ในจิตใจไปยาวนาน

    เอาง่ายๆก็ได้ พระภิกษุสามเณรในเมืองไทยนี้ ต้องยอมรับว่าทำผิดพระวินัยของพระพุทธเจ้ากันเต็มบ้านเต็มเมือง
    แต่ก็ไม่เห็นมีใครมาเรียกร้องให้พระ - เณร ประพฤติปฏิบัติตัวตามศีลธรรมที่ถูกต้องอย่างจริงจังเลย
    ทั้งๆที่พระวินัยนี้ก็หมายถึง
    พุทธธรรม อีกอันหนึ่งเหมือนกัน

    แต่พระพุทธรูปที่ทำกันขึ้นมาและพยายามปกป้องกันอย่างสุดจิตสุดใจนั้น
    ก็ต้องยอมรับอีกว่า นี้เป็นเรื่องที่อยู่นอกไปจาก
    พุทธธรรม ชัดเจนตรงตัวแน่นอน
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1233.msg11228;topicseen#msg11228
     
  12. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    เรียน คุณสวรรณบัณฑิต

    ผมอ่านบทความของคุณต้นๆ ก็ดูจะเป็นบัณฑิตสมชื่อ อ่านไปอ่านมาก็เป็นสาวก
    ของผู้ทำลายพระพุทธรูป ห้ามกราบพระพุทธรูป แถมยังดูถูกคนไทย กล่าวว่าพระภิกษุ
    สามเณรในเมืองไทยว่าผิดพระวินัยเต็มบ้านเต็มเมือง พระดีก็มีมากมาย คุณเอาอะไรไปวัดว่าพระ
    ผิดพระวินัยเต็มบ้านเต็มเมือง คุณเคยไปวัดครบทุกวัดหรือครับ ถึงได้รู้ว่าพระท่านผิดพระวินัย
    กันเต็มบ้านเต็มเมือง พูดแบบนี้เป็นการปรามาสพระรัตนตรัยนะครับ คนที่เป็นบัณฑิตเขาไม่
    ทำแบบนี้แน่นอน

    และยังไปว่ากล่าวสำนักสอนศาสนาพุทธบางสำนักว่าสอนผิด สอนเพี้ยน สอนบิดเบือน
    น่าจะบอกด้วยนะครับว่าสอนผิดนั้นผิดอย่างไร และควรเปิดเผยให้รู้กัน ถ้าผิดจริงก็จะได้ช่วยกัน
    ประชาสัมพันธ์บอกกล่าว เป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา หรือว่าต้องสอนแบบวัดสามแยก
    ถึงจะถูกต้อง

    คุณคงได้ยินคำว่าดอกบัวสี่เหล่านะครับ เพราะฉะนั้นในทุกที่ ทุกสถาน ทุกกาลเวลา แม้
    ในสมัยพุทธกาล ก็จะมีคนสี่ประเภทเสมอ ไม่เว้นแม้ชาวพุทธในปัจจุบันที่คุณกล่าวว่า
    ไปกราบไหว้ เทวดา พรหม ต้นไม้ หรือสิ่งประหลาดต่างๆ ก็เป็นไปตามภูมิจิตภูมิธรรม
    ของแต่ละบุคคลที่สั่งสมกันมา และพวกที่คุณกล่าวมานี้ทุกคนก็กราบพระพุทธรูปแน่
    นอน เพราะชาวพุทธเราถึงเขาจะไม่เข้าใจธรรมะอะไรลึกซึ้งก็ตาม แต่เขาก็กราบด้วย
    ความเคารพ แต่คนบางพวกบางคนคิดว่ามีคุณธรรมสูงกว่าชาวบ้าน กลับไม่กราบพระ
    แถมทำลายพระพุทธรูป เห็นว่าพระธรรมสำคัญกว่า คุณเคารพพระธรรมแต่ไม่เคารพ
    พระพุทธรูป ซึ่งเป็นองค์แทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงบำเพ็ญบารมีมาด้วย
    ความยากลำบากตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์ถึง ๔ อสงไขยกับแสนกัปป์ กว่าจะตรัสรู้
    และนำพระธรรมมาสั่งสอนเหล่าเวนัยสัตว์ คนแบบนี้ จัดว่าเป็นคนดีหรือครับ
    ขาดความกตัญญูรู้คุณ คนเขากราบพระพุทธรูปเขาก็กราบ พระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ
    และพระมหากรุณาธิคุณ ผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คุณยังไม่กราบคุณความดีของท่าน
    แถมทำลายพระพุทธรูป แล้วมาอ้างพุทธธรรม

    สิ่งที่ดีที่ถูกที่ควร คือ เราควรเคารพ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เพราะเป็น
    สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกัน ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม เราจะเอาพระธรรมมาจากใหน ถ้า
    ไม่มีพระอริยสงฆ์สืบทอดพระศาสนามาจนถึงปัจจุบัน เราก็คงไม่รู้จักพระพุทธเจ้า
    ไม่รู้จักพระธรรม เป็นคนไม่มีศาสนา แล้วโลกนี้จะเป็นอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2008
  13. akep

    akep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2005
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +464
    อัตตโน โจทยัตตานัง
    จงกล่าวโทษโจษความผิดของตัวเองไว้เสมอ
     
  14. ซุปเปอร์ไซย่า

    ซุปเปอร์ไซย่า สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +0
    ใครเขาจะบ้ากราบหิน กราบปูน กราบโลหะหล่อกัน

    คนที่เขากราบพระพุทธรูปก็เพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ทั้งน้านแหล่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...