สมัยพุทธกาล คนที่ไม่ได้นั่งสมาธิ แต่บรรลุธรรมได้ เพราะอะไร?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย คนมีกิเลส, 23 พฤศจิกายน 2007.

  1. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    [​IMG]



    ถาม : หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกสงสัยว่า ทำไมเวลาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ทรงแสดงธรรม ผู้ฟังจึงสามารถบรรลุธรรมได้ ทั้งที่นั่งฟังเทศน์
    ไม่ได้นั่งหลับตาทำสมาธิเจ้าค่ะ ​

    ตอบ : เรื่องการนั่งสมาธิอย่างชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันนั้น ก็มีความจำเป็น
    ไม่น้อยแต่ว่าในสมัยพุทธกาลผู้ที่เกิดในยุคนั้น เขาเกิดในยุคที่มีการ
    ฝึกสมาธิเป็นเรื่องปกติธรรมดา เขาฝึกกันจนกระทั่งเกิดความชำนาญ
    เมื่อฝึกจนกระทั่งชำนาญ เวลามาพบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เลยทำให้ฟังเทศน์แล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะใจของ
    เขาหยุดนิ่งมาก่อนนั่นเอง
    เพราะฉะนั้น โดยภาพรวมๆ แล้ว ไม่ว่าการศึกษาทางธรรม หรือการศึกษาทางทางโลกก็ตาม ผู้ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ สำเร็จสมความมุ่งหมายกันจริงๆ ต้องมีองค์ประกอบอย่างน้อย ๔ ประการ ด้วยกัน คือ

    ๑. มีครูดี คือ ต้องได้ครู หรือได้พระอาจารย์ดี ที่เป็นต้นแบบได้จริงๆ มาเป็นหลักไว้ก่อน ​

    ๒. มีหลักวิชาดี คือ หลักวิชาที่นำมาสอนนั้น เป็นหลักวิชาที่ถูกต้อง และลึกซึ้งจริงๆ​

    ๓. มีวิธีการสอนที่ดี ถึงแม้จะมีครูดี มีหลักวิชาดี แต่ถ้าวิธีการสอนไม่ดี ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์
    จึงต้องมีความเชี่ยวชาญในการสอนอย่างดีด้วย ​

    ๔. มีลูกศิษย์ดี ลูกศิษย์ก็ต้องมีสติปัญญา พร้อมจะรับฟังคำสอนไม่ใช่ลูกศิษย์ประเภทปัญญาอ่อน หรือลูกศิษย์ที่ขี้เกียจ อย่างนี้ไปได้ ไม่ถึงไหนหรอก ​


    เมื่อนำองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการนี้ มาเปรียบเทียบกับการบรรลุธรรมของคนในสมัย พุทธกาล จะพบว่า​

    ประการที่ ๑ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นบรมครู เป็นศาสดาเอกของโลก เป็นผู้เดียวที่ตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง ไม่ได้ไปลอกใครมา ทรงรู้จริง ทำได้จริง นี่คือคุณสมบัติของบรมครูของเรา ​

    ประการที่ ๒ ธรรมะ หรือหลักวิชาที่พระองค์ทรงค้นพบนั้น ไม่ใช่ค้นพบได้ง่ายๆ พวกเราคงจำกันได้ว่าแต่เดิมพระองค์ก็ประทับอยู่ในวัง พอถึงเวลาจะค้นคว้าหาธรรมะ ทรงยอมสละบ้านเมือง สละบัลลังก์ สละทุกสิ่ง ทุกอย่าง พระองค์ทรงเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการ เข้าถึงธรรมะ แล้วนำธรรมะนั้นมาสอนพวกเรา​

    ประการที่ ๓ วิธีการสอนของพระพุทธองค์นั้น ทรงเป็นเลิศกว่าใครๆ ถ้าเราศึกษาพุทธประวัติ มาอย่างดีจะพบว่า ความจริงเมื่อ ๔ อสงไขยกับแสนกัปก่อนนั้นถ้าพระองค์ปรารถนาเพียงแค่จะหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ ก็คงทำได้ไม่ยากนัก แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งถึงวันตรัสรู้ พระพุทธองค์ทรงใช้เวลาถึง ๔ อสงไขยกับแสนกัป ในการฝึกวิชาครู เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับลูกศิษย์ลูกหา เมื่อทรงฝึกวิชาครูมาขนาดนี้ เพราะฉะนั้น หลังจากตรัสรู้แล้ว เวลาสอนธรรมะใคร คำพูดจะเกินสักคำก็ไม่มี จะขาดสักคำหนึ่งก็ไม่มี พอเหมาะ พอดีไปหมด นี้คือความเป็นเลิศ ความเป็นอัจฉริยะ ในการสอนธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา​

    ประการที่ ๔ ลูกศิษย์ที่มาเรียนธรรมะกับพระพุทธองค์ในสมัยพุทธกาล ไปค้นประวัติดูเถอะ ลูกเอ๊ย แล้วจะพบว่า ท่านเหล่านั้นก็ได้ฝึกตัว เตรียมตัวกันมาตลอดชีวิตเหมือนกัน
    ยกตัวอย่าง พระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งมีอายุมากกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเสียอีก ในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ พระโกณฑัญญะท่านนี้แหละ ที่เป็นโหรประจำราชวงศ์ และยังเป็นผู้พยากรณ์ว่า พระราชโอรสพระองค์นี้ ต่อไปภายภาคหน้าไม่ครองราชสมบัติหรอก พระองค์จะเสด็จออกบวช แล้วบรรลุธรรมเป็นศาสดาเอกของโลก มาช่วยโปรดสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ พยากรณ์เสร็จ ท่านโกณฑัญญะก็ตั้งใจรักษาศีล ตั้งใจฝึกสมาธิ ปฏิบัติธรรมของท่าน เรื่อยมา เมื่อทราบว่าเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวช ท่านก็ออกบวชบ้างและต่อมาได้ตามไปอุปัฏฐากรับใช้อยู่ถึง ๖ ปี
    เมื่อเตรียมตัวมาดีอย่างนี้ พอได้ฟัง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเทศน์เพียงครั้งเดียว ท่านก็บรรลุธรรม เป็นพระโสดาบันทันที
    เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะนั่งหลับตา หรือจะนั่งลืมตาก็ตาม ถ้าฝึกตัวมาดีล่ะก็ สามารถเข้าถึงธรรมได้โดยง่ายทั้งนั้นแหละ ​

    หรืออย่างพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ก่อนที่จะมาพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสำเร็จการศึกษามาถึง ๑๘ ปริญญา
    พระอรหันต์แต่ละท่านในยุคต้นพุทธกาล ท่านเตรียมตัวของท่านมาดี ไปค้นประวัติดูเถอะ แต่ละท่านสำเร็จการศึกษาดีๆ กันทั้งนั้น
    พระอรหันต์บางรูป พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเทศน์ข้างถนนแท้ๆ ตรัสสั้นๆ เพียง ๒-๓ คำ ท่านก็บรรลุธรรม แต่นั่นแหละ กว่าจะมาถึงขนาดนี้ได้ ท่านฝึกตัวเองมาตลอดชีวิต ฝึกมาในระดับเอาชีวิตเป็นเดิมพันกันทีเดียว
    ก่อนหน้านั้น ที่ท่านเหล่านี้ยังไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ก็เพราะว่าท่านปฏิบัติมรรคไม่ครบองค์ ๘ คือ​

    ๑. มีความเข้าใจถูกในเรื่องบุญ เรื่องบาป ยังไม่พอ
    ๒. มีความเข้าใจถูกในเรื่องวิธีวางใจให้ พอเหมาะพอสม ยังไม่พอ ​



    <TABLE width=602 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=pair20 width=596 height=207><TABLE width=156 align=left border=0><TBODY><TR><TD width=150>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เมื่อ การอบรมบ่มนิสัยของเราดีพอ บารมีแก่กล้าพอ เมื่อไปพบ​




    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันต์ในเบื้องหน้า เราก็​




    สามารถจะบรรลุธรรมได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับพระอรหันต์ในยุด​



    พุทธกาลเหมือนกันเพราะว่าเราได้เดินตามรอยของท่านมานั่นเอง​









    </TD></TR></TBODY></TABLE>เพราะฉะนั้น พอมาได้ฟังพระสัมมา สัมพุทธเจ้าตรัสย่อๆ สั้นๆ ว่าเรื่องบุญ เรื่องบาปเป็นอย่างนี้ การวางใจที่พอเหมาะพอสม​

    เป็นอย่างนี้ก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์กันข้างทางนั่นเอง

    สำหรับพวกเราในยุคนี้ แม้สภาพสิ่งแวดล้อม จะไม่ค่อยดี ไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการบรรลุธรรมนัก ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ ให้ตั้งใจฝึกตัวเองเรื่อยไป

    ถึงแม้ว่าฝึกแล้ว จะยังไม่ได้ผลดีเหมือนในยุคพุทธกาลก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็ได้เพาะนิสัยรักการฝึกสมาธิ
    เพาะนิสัยรักการปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ เป็นชีวิตจิตใจ ติดตัวของเราไปในภายภาคหน้า ซึ่งไม่ว่าจะชาตินี้ หรือชาติไหนก็ตาม เมื่อการอบรมบ่มนิสัยของเราดีพอ บารมีแก่กล้าพอ เมื่อไป พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันต์ในเบื้องหน้า
    เราก็สามารถจะบรรลุธรรมได้ง่ายๆเช่นเดียวกับพระอรหันต์ในยุคพุทธกาลเหมือนกัน เพราะว่าเราได้เดินตามรอย
    ของท่านมานั่นเอง

    http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/main/index.php?option=com_content&task=view&id=288&Itemid=60
     
  2. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    คงเป็นเพราะบุญที่ทำให้เกิดมาเจอพระพุทธเจ้ามั้งครับเหมือนที่หลายๆท่านตอนนี้ก็คงอยากเกิดไปเจอพระเมตไตย
     
  3. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    แด่ผู้..เพียรบำเพ็ญ

    โมทนา...สาธุ



    พึงบำเพ็ญ ตบะ ละกิเลส
    อันเป็นเหตุ หักห้าม กามฉันท์
    มุ่งทำลาย ถ่ายบาป สาบสูญพันธุ์
    เข้าสู่ขั้น สุโข ฌาณโกลีย์
     
  4. phumphum

    phumphum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +67
    ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
     
  5. ComeFromSaturn

    ComeFromSaturn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2007
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +330
    อ้อ ถึงว่า มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณค่ะ
     
  6. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    การปฏิบัติธรรมควรทำเรื่อยๆทุกอิริยาบถ ไม่ใช่เจาะจงเวลาว่าจะทำเฉพาะเวลานั่งหลับตา ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ดีแล้วครับ เพราะท่านรู้ว่าถ้าจะทำเฉพาะเวลานั่งสมาธิจะใช้เวลาหลายชาติกว่าบารมีจะเต็ม
     
  7. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

    ขอขอบคุณสาระดีดีครับ ปัจจุบันกาลคนเราไม่เพียงบรรลุธรรมแต่จะทำลายธรรมด้วย
     
  8. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    คนสมัยพุทธกาล สิ่งยั่วยุต่าง ๆ มีน้อยมาก ศีลธรรมก็คือเรื่องปกติที่ปฏิบัติกัน ปัจจุบันศีลธรรม คือการต้องพยายามปฏิบัติกันให้ถูกต้องดีงามอยู่ในศีลในธรรม ไม่ต้องแปลกใจเลยทำไมพระอริยสงฆ์ในอดีตและต่อ ๆ มาต้องไปหาความวิเวทตามป่าลึกตามเขาห่างไกลผู้คน อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    อนุโมทนาสาธุค่ะ.....สมัยก่อนไม่ได้เหมือนสมัยนี้ค่ะ กิเลสยั่วยวนจิตใจเยอะค่ะ
     
  10. เงาใจ

    เงาใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,214
    ขอร่วมแสดงความคิดเห็นครับ อีกแนวทางหนึ่งที่เป็นธรรมชาติ คือ คนสมัยพระพุทธเจ้า อยู่ในสัปปายะที่ ป่าไม้ ภูเขา นิเวศน์ ครบวงจร คนที่ อยู่ในที่ๆ สงบ ร่างกาย จิตใจ จะซึมซับ โดยอัตโนมัติ แบบธรรมชาติ คุณค่า อย่างหนึ่งของธรรมชาติ คือ ความนิ่ง จิตใจเรา ถ้าอยู่ ในธรรมชาติ อย่างนั้น จะเกิดการเรียนรู้เอง โดย อัตโนมัติ โดยไม่ต้อง บังคับบัญชา เลย จะนิ่งไปตาม ธรรมชาติ และยิ่งนิ่ง สมาธิยิ่ง แก่กล้า มาก เพราะผู้รู้ ท่าน บอกไว้ว่า ธรรมะ มีมาก่อน พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ แต่พระองค์ ทรงค้น พบและที่ยัง ไม่สอน ยังมีอีกมากมาย มาก เพราะ ฉะนั้น ชาวบ้าน สมัยพุทธองค์ จึงมีสมาธิมาก่อน โดย ธรรมชาติ ทั้งที่รู้ ตัวเอง ว่ามี สมาธิ และไม่รู้ว่า ตัวเอง มีสมาธิ ครับ แต่ในยุคปัจจุบัน เรา ห่างจากธรรมชาติ จิตใจจึงห่าง ความนิ่ง และสงบ สังเกตุ ได้ง่าย คนในยุคนี้ ตกใจง่าย มาก เพราะจิตใจ ไม่นิ่งพอ ครับ ผู้ใดอยากบรรลุธรรมแบบ รวดเร็ว ควรหันหน้า เข้าหา ธรรมชาติ อยู่ในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ แม้ร่างกาย จิตใจ ก็จะมีอายุยืน ไปด้วย และเข้าไปทำความรู้สึก ในธรรมชาติ แล้วจิตใจเราจะเรียนรู้ ของเขาเอง ขอให้พาเขา ไปลองดู แม้จะไม่บังคับ มาก ก็เป็นสมาธิ ง่าย เพราะมีสัปปายะคอย ช่วยอีกทางหนึ่ง เราเคยลองทำมาแล้ว เห็นว่า ดีจึงบอกต่อ ครับ ธรรมะ มีแล้วในธรรมชาติ แต่ คนเราพยายาม หนีจากธรรมชาติ เท่า กับกำลัง หนี ตัวเอง ครับ ขออนุโมทนา กับ ทุกท่านครับ
     
  11. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855
    ปัจจุบันสิ่งยั่วยุมันมีเยอะมาก ทำให้เราหลงทางไปกับกิเลส จึงดูเหมือนว่าปฏิบัติได้ยาก แต่ถ้าเราลองพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากก็คือใจของเรานั่นเอง
     
  12. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    อนุโมทนา ครับ


    แค่


    พูดดี ทำดี คิดดี

    ฝึกให้จนเคยชิน ติดเป็นนิสัย น่าจะดีมาก

    ......(deejai)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2007
  13. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกครับ คนที่จะได้เกิดร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้า ได้มาเจอกับพระองค์ท่านและได้ฟังธรรมโดยตรงจากพระองค์ท่านนี่ก็แสดงว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการบารมีมากเต็มที ต้องเป็นผู้สั่งสมบารมีมาจนนับภพนับชาติไม่ถ้วนนับอสงไขยจนเต็มส่วนแห่งสาวกภูมิอยู่แล้วครับ จึงไม่แปลกเลยที่บางท่านเพียงได้ฟังแค่หัวข้อธรรมก็สามารถบรรลุได้โดยฉับพลัน เรียกว่าของเก่ารวมตัวก็คงไม่ผิดครับ
     
  14. saringkarn

    saringkarn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +11
    อนุโมทนาด้วยค่ะ....
    ทางสายเอกเป็นทางที่ประเสริฐสุดแล้วค่ะ
     
  15. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +898
    ทำดีเถอ ครับ ผลจะดีเอง ไม่มีใครเห็นก็ช่างเขา
     
  16. denchai

    denchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +145
    ไม่ได้นั่งสมาธิแต่บรรลุธรรมได้อย่างไร

    ขอเพิ่มเติมให้กับหลวงพ่อนิดหนึ่งครับ

    เราอย่าไปคิดว่า คนที่ไปนั่งฟังพระพุทธเจ้าไม่ได้ทำสมาธิสิครับ คนที่นั่งฟังพระพุทธเจ้าแล้วตรัสรู้ตามนั้น ก็เพราะฟังแล้วส่งกระแสจิต พิจารณาตามจนรู้แจ้งเห็นจริง นั่นแหละครับคือสมาธิมีปราฏอยู่ในกระบวนการปฏิบัติ บางท่านก็ฟังมา ไปปฏิบัติอยู่ 15 วัน จึงได้บรรลุ บางท่านฟังเสร็จพิจารณาตามก็บรรลุทันที ตามที่กำลังแห่งบุญวาสนาบารมีของตนสั่งสมมา พรั่งพร้อมอยู่แล้ว จึงสะกิดเพียงนิดเดียวกิเลศก็หลุดออก
     
  17. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    สาธุ อนูมโมทนาครับ

    ที่นั่งสมาธิ + ปฏิบัติธรรมก็มี

    แต่ฟังธรรมครั้งเดียว แล้วบรรลุเลย เพราะอนุศัยเก่าครับ
     
  18. Forest_Sa

    Forest_Sa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,444
    ใช่ ๆ พูดถูกครับ ตัวอย่างผู้ที่ฟังแล้วบรรลุ ก็อย่างเช่น พระยสะ พระอัญญาโกณทัญญะ

    7 วันแล้วค่อยบรรลุ พระโมคัลลานะ

    ส่วนพระสารีบุตรบำเพ็ญเพียรถึง 15 วัน จึงบรรลุพระอรหันต์
     
  19. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,254
    อนุโมทนาด้วยครับ
    บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
    พยายามต่อครับ
     
  20. ฮุ้ง-หงส์

    ฮุ้ง-หงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +532
    อนุโมทนา..


    สาธุ.................. ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...