สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสแห่งวัดสุทัศน์ มรณภาพแล้ว สิริอายุ 86 ปี

'เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์'มรณภาพ เตรียมเคลื่อนศพประกอบพิธี | เดลินิวส์

„'เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์'มรณภาพ เตรียมเคลื่อนศพประกอบพิธี ผอ.สำนักพุทธฯ เผย "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เจ้าอาวาสวัดสุทัศนฯ มรณภาพลงอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุ 86 ปี พรรษา 64

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทางคณะสงฆ์วัดสุทัศเทพวรารามว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) เจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ฝ่ายมหานิกาย ได้มรณภาพอย่างสงบ ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ในเวลา 08.45 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ สิริอายุ 86 ปี พรรษา 64 โดยคณะสงฆ์วัดสุทัศน์ จะมีการประชุมในเวลา 17.00 น. ถึงการจัดพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการเตรียมสถานที่จัดพิธีศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งคาดว่า ทางคณะสงฆ์จะเคลื่อนศพกลับวัดในวันที่ 12 เม.ย.นี้

สำหรับประวัติ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มีนามเดิมว่า "วีระ รอดบำเรอ" เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ม.ค.2473 โยมบิดาชื่อ "นายลี รอดบำเรอ" โยมมารดาชื่อ "นางมา รอดบำเรอ" มีภูมิลำเนาที่ บ้านป่าฝ้าย หมู่ที่ 4 ต.เขาแร้ง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เมื่ออายุได้ 16 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเขาวัง จ.ราชบุรี ในวันที่ 1 ก.ค. 2488 และได้เข้ามาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ ก็เริ่มศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี โดยในปีเดียวกันก็สอบได้นักธรรมชั้นตรี ปี 2489 อายุ 17 ปี สอบได้เปรียญธรรม (ป.ธ.) 3 ประโยค และในเดือนพฤษภาคม 2494 เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเทพธิดาราม โดยมีพระมงคลธรรมรังสี (ปาน อินฺทโชโต) เจ้าอาวาสวัดเทพธิดาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระราชธรรมเสนานี (ศุข สุภทฺโท) วัดมหาธาตุวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวิสุทธิโสภณ (ปลอด กมุทฺโท) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระอนุสาวนา จำพรรษาที่วัดเทพธิดาราม

เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ตั้งใจศึกษาเปรียญธรรมอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี 2504 จึงสอบได้ป.ธ. 9 ซึ่งถือว่า เป็นพระภิกษุที่มีความรู้ทางด้านบาลีในทางพระพุทธศาสนาจนแตกฉาน จากนั้นในปี 2507 จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดสุทัศน์ โดยได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สำนักเรียนวัดเทพธิดาราม เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงเป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง โดยในปี 2508 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ และขึ้นดำรงตำแหน่ง "เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์" ในปี 2527 จนถึงปัจจุบัน

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ปฏิบัติศาสนกิจเพื่อพระพุทธศาสนามาตลอดอายุของท่าน โดยในปี 2508 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระศรีวิสุทธิวงศ์" ปี 2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชเมธี" ปี 2523 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ "พระเทพเวที" ปี 2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมปิฏก" ปี 2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏ หรือรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ "พระวิสุทธาธิบดี" และในปี 2553 ได้รับสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่ "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" โดยดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม กระทั่งมรณภาพลงในที่สุด

สำหรับสมเด็จพระราชาคณะที่มรณภาพลง จะได้รับพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพตามสมณศักดิ์ ประกอบด้วย น้ำหลวงสรงศพ ไตรครอง โกศไม้สิบสอง ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน“

ข่าวจากเดลินิวส์

 

กราบหลวงพ่อ สู่นิพพานครับ สาธุครับ

 

ขอบารมีหลวงพ่อช่วยคุ้มครองลูกหลานด้วยครับ
หากข้าพเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน หลวงพ่อไว้ จะด้วย กาย วาจา ใจ
เจตนาหรือไม่เจตนา หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม จะในชาติใดๆก็ตาม
ขอหลวงพ่อได้โปรดเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ