สรรพคุณสมุนไพรไทย 200 ชนิด

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 2 พฤศจิกายน 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้ปวดฟัน : ลำโพงดอกขาว

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Datura metel L.

    ชื่อสามัญ : Apple of Peru, Green Thorn Apple, Hindu Datura, Metel, Thorn Apple

    วงศ์ : Solanaceae

    ชื่ออื่น : มะเขือบ้า, มั่งโต๊ะโล๊ะ, ละอังกะ, เลี๊ยก

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 1-2 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่ม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไข่ กว้าง 8-15 ซม. ยาว 10-20 ซม. โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบจักเป็นซี่ห่างกัน แผ่นใบสีเขียว ดอก ออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกสีขาวนวล กลีบเลี้ยงติดกันเป็นหลอดยาวคึ่งหนึ่งของความยาวดอก กลีบดอกโคนเชื่อมติดกัน ปลายบานเป็นรูปแตร ผล รูปทรงค่อนข้างกลม สีเขียว ผิวเป็นตุ่มหนาม ผลแห้งแตกได้ เมล็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก

    ส่วนที่ใช้ : ใบแห้ง ดอกแห้ง ยอดอ่อน ช่อดอก

    สรรพคุณ :

    ใบ - พอกแผลฝี แผลไหม้ รักษาไขข้ออักเสบ แก้กลากเกลื้อน

    น้ำจากใบสด - หยอดหู แก้ปวดหู

    เมล็ด - แก้โรคผิวหนัง แก้ปวดฟัน
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มสมุนไพรแก้มะเร็ง : ทองพันชั่ง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhinacanthus nasutus (L.) Kurz
    ชื่อพ้อง : R. communis Nees

    ชื่อสามัญ : White crane flower

    วงศ์ : ACANTHACEAE

    ชื่ออื่น : ทองคันชั่ง หญ้ามันไก่ (ภาคกลาง)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 1-2 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยม ส่วนโคนต้นเนื้อไม้เป็นแกนแข็ง ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน รูปไข่ กว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-8 ซม. ปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 2 ปาก ปากล่างมีจุดประสีม่วงแดง ผล เป็นฝักเล็ก พอแห้งแตกออกได้

    ส่วนที่ใช้ : ราก ทั้งต้น ต้น ใบ

    สรรพคุณ :

    ราก - แก้กลากเกลื้อน รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคผิวหนัง ดับพิษไข้ แก้พิษงู แก้พยาธิวงแหวนตาผิวหนัง

    ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน รักษามะเร็ง คุดทะราด ขับพยาธิตามผิวหนัง ตามบาดแผล แก้ไส้เลื่อน ไส้ลาม แก้ปัสสาวะผิดปกติ

    ต้น - บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ รักษาโรคผมร่วง

    ใบ - ดับพิษไข้ แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน แก้โรคไขข้ออักเสบ รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ แก้ปวดฝี แก้พิษงู ถอนพิษ แก้อักเสบ แก้โรคมุตกิต รักษาโรคพยาธิวงแหวนตามผิวหนัง

    นอกจากนี้ยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ รักษาโรคต่อไปนี้คือ

    ราก - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด กระเพาะลำไส้ มะเร็งตามร่างกาย ทำให้ผมดกดำ แก้ไอเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร ดับพิษไข้ รักษาโรคผิวหนัง แก้กระษัย แก้ผมหงอก ผมร่วง รักษาโรคตับพิการ รักษาโรครูมาติซึม รักษาโรคไขข้อพิการ แก้ลมเข้าข้อทำให้ปวดบวมต่างๆ ขับปัสสาวะ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค

    ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง คุดทะราด แก้เม็ดผื่นคัน

    ต้น - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะ มะเร็งตามร่างกาย มะเร็งลำไส้ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง

    ใบ - แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้ปวดหัวตัวร้อน แก้มะเร็งไช แก้หิดมะตอย รักษาโรคมะเร็ง รักษาวัณโรค แก้ใจระส่ำระสาย แก้คลุ้มคลั่ง แก้สารพัดพิษ

    นอกจากนี้ในตำราบางเล่ม ยังได้กล่าวถึงสรรพคุณทองพันชั่ง โดยไม่ได้ระบุว่าใช้ส่วนใดของพืช หรือส่วนใดในตำรายาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ ในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ
    - รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคมะเร็ง แก้มุตกิตระดูขาว เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ผมร่วง รักษาโรคนิ่ว
    - แก้เคล็ดขัดยอกชายโครง มือเคล็ด คอเคล็ด แก้มะเร็งในกระเพาะ แก้ฝีประคำร้อย แก้มะเร็งในคอ แก้มะเร็งในปาก แก้ไข้เหนือ แก้จุกเสียด เป็นยาหยอดตา แก้ไอเป็นเลือด แก้ช้ำใน แก้นิ่ว แก้โรคผิวหนัง แก้ลมสาร แก้มะเร็งในปอด แก้มะเร็งภายในและภายนอก

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    ใช้รับประทานเป็นยาภายใน รักษาโรคมะเร็ง และวัณโรคระยะเริ่มแรก
    1. ใช้ทั้งต้น สด จำนวน 30 กรัม ต้มกับน้ำ จำนวนท่วมใบยา ต้มดื่มต่างน้ำ
    2. ใช้ก้านและใบสด 30 กรัม (แห้ง 10-15 กรัม) ผสมน้ำตาลกรวดต้มน้ำดื่ม รักษาโรคปอดระยะเริ่มแรก

    ใช้เป็นยาภายนอก แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อนและผื่นคันอื่นๆ
    1. ใช้ใบสด 5-8 ใบ หรือ รากสด 2-3 ราก
    ใบสดตำให้ละเอียด เติมเหล้าโรงเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน หรือเอารากมาป่น แช่เหล้าไว้ 1 สัปดาห์ กรองเอาน้ำยาที่แช่มาทา ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
    2. ใช้ใบสดตำผสมน้ำมันดิบ หรือ แอลกอฮอล์ 75% ทาบริเวณที่เป็น

    สารเคมี - Rhinacathin, Oxymethylanthra quinone, Quinone, Rutin (quercetin - 3 - rutinoside)
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มสมุนไพรแก้มะเร็ง : ผักคาวทอง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Houttuynia cordata Thunb.

    วงศ์ : Saururaceae

    ชื่ออื่น : คาวตอง(ลำปาง,อุดร) คาวทอง(มุกดาหาร,อุตรดิตถ์) ผักก้านตอง(แม่ฮ่องสอน) ผักเข้าตอง,ผักคาวตอง ผักคาวปลา(ภาคเหนือ) พลูคาว(ภาคกลาง)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 15-30 ซม. ลำต้นกลม สีเขียว รากแตกออกตามข้อ มีกลิ่นคาวทั้งต้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปหัวใจ กว้าง 4-6 ซม. ยาว 6-10 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเว้ารูปหัวใจ ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ก้านใบยาวและโคนเป็นกาบหุ้มลำต้น ดอก ออกเป็ฯช่อที่ปลายยอด มีใบประดับสีขาว 4 ใบ ที่โคนช่อดอก ปลายมน ดอกเล็กจำนวนมาก สีขาวยออกเหลือง ผล เป็นผลแห้ง แตกออกได้ เมล็ดรี

    ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น เก็บในฤดูร้อน และฤดูหนาว ถอนทั้งต้นและราก ล้างให้สะอาด ตากแห้งเก็บไว้ใช้ ช่อดอก ดอกย่อย ช่อดอกแก่ ผล เมล็ด

    สรรพคุณ :

    ทั้งต้น - รสฉุน เย็นจัด ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ ฝีบวมอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไอ บิด โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หูชั้นกลางอักเสบ และริดสีดวงทวาร พืชนี้ถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้หายใจสั้นและถี่ อาจเป็นอันตรายได้

    ต้นสด - ใช้ภายนอก พอกฝี บวมอักเสบ บาดแผล โรคผิวหนัง ดากออก งูพิษกัด และช่วยทำให้กระดูกเชื่อมติดกันเร็วขึ้น

    ใบสด - ผิงไฟพอนิ่ม ใช้พอกเนื้องอกต่างๆ ใบสดใช้ป้องกันปลาเน่าเสีย ต้มน้ำรดต้นฝ้าย ข้าวสาลี และข้าว ป้องกันพืชเป็นโรคเหี่ยวเฉาตาย พืชนี้ใช้รับประทานเป็นยาระบาย ขับพยาธิ แก้ไข้ อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย ออกหัด

    ดอก - ใช้ขับทารกที่ตายในท้อง
    - ใช้พืชนี้ต้มรับประทานติดต่อกันเป็นประจำ แก้โรคน้ำกัดเท้า อาจรับประทานน้ำต้มจากพืชอย่างเดียวหรือผสมวิตามินเอและวิตามินรวมด้วย ได้มีการขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์ตำรับยานี้
    - นอกจากนี้มีผู้ขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องสำอางโดยใช้น้ำมันจากผักคาวทองเป็นครีม ทาแก้ผิวหนังหยาบกร้าน และใช้ป้องกันผิวหนังแตกเป็นร่อง ได้ผล 65% จากผู้ทดลองใช้ 35 ราย เครื่องสำอางนี้ประกอบด้วย แอลกอฮอล์ 8% โปรโพลีนกลัยคอน 5% น้ำมันผักคาวทอง 10% กรดซีตริก 0.02% โซเดียมซีเตรท 0.2% เติมน้ำจนครบ 100%

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ทั้งต้น แห้ง 15-30 กรัม (สด 30-60 กรัม) ต้มน้ำดื่ม ก่อนต้มให้แช่น้ำไว้สัก 1-3 นาที ต้มให้เดือดประมาณ 5 นาที (ถ้าใช้ร่วมกับยาอื่น ให้ต้มยาอื่นให้เดือดก่อนจึงใส่ยานี้ต้มให้เดือด ดื่ม)
    ใช้สด ตำคั้นเอาน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำชะล้างหรือตำพอก

    ตำรับยา

    วัณโรคปอด อาเจียนเป็นเลือดหรือมีหนองปน
    ใช้ต้นแห้ง รากเทียนฮวยฮุ่ง (Trichosanthes kirilowii Maxim) เจ็กแปะเฮี๊ยะ (Biota orientalis Endl.) แห้ง อย่างะ 15 กรัม ต้มน้ำดื่ม
    หรือ ใช้ต้นสด 30 กรัม คั้นเอาน้ำดื่มกับผักกาดดอง วันละ 2 ครั้ง

    ปอดอักเสบ มีหนองในช่องปอด
    ใช้ต้นแห้ง 30 กรัม กิ๊กแก้ (Platycodon grandiflorum A.DC.) รากแห้ง 15 กรัม ต้มน้ำหรือบดเป็นผงผสมน้ำดื่ม

    มะเร็งที่ปอด
    ใช้ต้นแห้ง 18 กรัม ตังขุ่ยจี้ (Malva verticillata L.) แห้ง 30 กรัม เหง้ายาหัว (Smilax glabra Roxb.) แห้ง 30 กรัม กะเม็งตัวเมีย (Eclipta prostrata L.) และ ปวงเทียงขิ่มเล้า (Cyathea spinulosa Wall.) ทั้งต้นแห้งอย่างละ 18 กรัม และชะเอม 5 กรัม ต้มน้ำดื่ม

    เป็นหวัด หลอดลมอักเสบ
    ใช้ต้นแห้ง เปลือกต้นเถ่าป๊ก (Magnolia officinalis Rehd. et Wils.) แห้ง ผสมเหลี่ยงเคี้ยว (Forsythia suspensa Vahl.) แห้ง อย่างละ 10 กรัม บดเป็นผง และยอดต้นหม่อน (Morus alba L.) สด 30 กรัม ต้มเอาน้ำ ชงยาผงนี้ ดื่ม

    เป็นโรคปอด ไอ มีเหงื่อออกมาก
    ใช้ต้นสด 60 กรัม ใส่ในกระเพาะอาหารหมู ตุ๋นรับประทาน วันละชุดติดต่อกัน 3 วัน

    บิด
    ใช้ต้นสด 20 กรัม เถ้าจากผลซัวจา (Crataegus pinnatifida Bge. var. Major N.E.Br) 6 กรัม ต้มเอาน้ำ ผสมน้ำผึ้งดื่ม

    หนองใน ตกขาวมากผิดปกติ
    ใช้ต้นสด 25-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม

    ริดสีดวงทวาร
    ใช้ต้นสด ต้มน้ำดื่ม จิบตามด้วยเหล้าเล็กน้อย แล้วเอากากพอก ให้รับประทานยานี้ติดต่อกัน 3 วัน หัวริดสีดวงจะค่อยๆ ยุบไป

    โพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง
    ใช้ต้นสด คั้นเอาน้ำหยอดจมูกวันละหลายๆ ครั้ง และใช้ต้นสด 21 กรัมต้มน้ำดื่มด้วย

    ฝีบวมอักเสบ
    ใช้ต้นแห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งพอกฝีที่ยังไม่มีหนอง จะยุบหายไป ฝีที่มี่หนองก็จะเร่งให้หนองออกเร็วขึ้น

    ฝีเนื้อร้าย (Furancle)
    ใช้ต้นสดตำพอก จะปวดอยู่ 1-2 ชั่วโมง อย่าเอายาออก พอกยา 1-2 วัน อาการอักเสบลดลงและค่อยๆ หายไป

    ผื่นคันที่อวัยวะเพศ ฝีที่บริเวณก้น
    ใช้ต้นสดต้มเอาน้ำชะล้าง

    งูพิษกัด
    ใช้ต้นสด ใบชุ่ยฉิ่วเฮี๊ยะ (Sophora japonica L.) สด เมล็ดชุมเห็ดไทย อย่างละเท่าๆ กัน ตำพอก

    ผื่นคัน ใช้ต้นสด ตำพอก

    สารเคมี :
    ที่พบทั้งต้นที่ปลูกในญี่ปุ่นมีน้ำมันระเหย 0.0049% ประกอบด้วยสารมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อคือ Decanoylacetaldehyde และยังมี methyl - n - nonylketone, myrcene, lauric alldehyde, capric aldehyde, capric acid
    ที่ปลูกในจีนมีน้ำมันระเหย ประกอบด้วย Decanoylacetaldehyde dodecanaldehlyde, 2-undecanone, caryophyllene α -pinene, camphene, myrcene, d-limonene, linalool และ bornyl acetate
    นอกจากนี้ยังมี โปแตสเซียมคลอไรด์ โปแตสเซียมซัลเฟต และ cordarine
    ดอกและใบ มีสารพวก flavone ประกอบด้วย Quercirin, Isoquercitrin, quercetin, reynoutrin และ hyperin
    รากมีน้ำมันหอมระเหย ที่ประกอบด้วย decanoyl acetaldehyde.
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มสมุนไพรแก้มะเร็ง : แพงพวยฝรั่ง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Catharanthus roseus (L.) G.Don

    ชื่อสามัญ : Cape Periwinkle, Bringht Eye, Indian Periwinkle, Madagascar Periwinkle, Pinkle-pinkle, Pink Periwinkle, Vinca

    วงศ์ : Apocynaceae

    ชื่ออื่น : นมอิน (สุราษฎร์ธานี); ผักปอดบก (ภาคเหนือ); แพงพวยบก, แพงพวยฝรั่ง (กรุงเทพมหานคร)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 0.5-0.9 เมตร โคนต้นค่อนข้างแข็ง ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่กลับ กว้าง 2-3 เซ็นติเมตร ยาว 5-7 เซ็นติเมตร ปลายมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนมนสีเขียวเข้มเป็นมันก้านและเส้นกลางใบมีสีขาว ดอก มีหลายสี เช่น ขาว ม่วง ชมพู ฯลฯ ออกตามซอกใบ 1-3 ดอก กลีบดอกเป็นหลอดยาว 2.5-3 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรตัวผู้ 5 อัน ผล เป็นฝักยาว 2-3 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้

    ส่วนที่ใช้ : ใบ ราก ทั้งต้นสดหรือแห้ง

    สรรพคุณ :

    ใบ - บำรุงหัวใจ ช่วยย่อย

    ราก
    - แก้บิด ขับพยาธิ ใช้ห้ามเลือด
    - รักษามะเร็งในเม็ดเลือด

    ทั้งต้น
    - แก้เบาหวาน ลดความดัน
    - รสจืด เย็นจัด ใช้แก้ร้อน
    - ขับปัสสาวะ แก้บวม ถอนพิษสำแดง ถอนพิษต่างๆ แก้ไอแห้งๆ เกิดจากร้อน
    - แก้อาการตัวเหลืองอันเกิดจากพิษสุรา
    - แก้โรคหนองใน หัด ผื่นคันและแผลอักเสบอื่นๆ

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ทั้งต้นแห้ง 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือใช้ต้นสดคั้นเอาน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอกหรือสุมไฟให้เป็นถ่านผสมพอก
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มสมุนไพรแก้มะเร็ง : หญ้าปักกิ่ง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Murdannia loriformis (Hassk.) Rao et Kammathy

    วงศ์ : Commelinaceae

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 10 ซม. ลำต้นกลม สีเขียว ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ใบที่โคนต้นรูปขอบขนาน กว้าง 1.5 ซม. ยาว 10 ซม. ส่วนใบที่ปลายยอดมีขนาดเล็กกว่าและสั้นกว่า ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียว ก้านใบเป็นกาบหุ้มลำต้น ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีใบประดับย่อยค่อนข้างกลม สีเขียวอ่อน ดอกสีฟ้า หรือม่วงอ่อน กลีบดอกบาง มี 4 กลีบ โคนกลีบเรียว ผล เป็นผลแห้งแตกออกได้

    ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น

    สรรพคุณ :
    ทั้งต้น - ใช้แก้ไข้ รักษามะเร็งในตับ รักษาโกโนเรีย ใช้เป็นยาพอก แก้อักเสบ ปวดบวม

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ใช้ทั้งต้น ต้มดื่มกินกับน้ำผึ้ง
    ใช้ทั้งต้น ตำพอก ที่อักเสบ ปวดบวม
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : เทียนบ้าน

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Impatiens balsamina L.

    ชื่อสามัญ : Garden Balsam

    วงศ์ : BALSAMINACEAE

    ชื่ออื่น : เทียนดอก เทียนไทย เทียนสวน (ภาคกลาง)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกสูง 30-80 ซม. ลำต้นอวบน้ำและค่อนข้างโปร่งแสง ออกดอกออกผลแล้วต้นจะตาย ใบเดี่ยวเรียงสลับรอบลำต้น รูปวงรี ขอบใบหยักฟันเลื่อย ดอกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก ออกที่ซอกใบ กลีบดอกมีสีชมพู แดง ม่วง ขาว ผลเป็นผลแห้ง เมื่อแก่จัดจะแตกออก เปลือกผลม้วนขมวดขึ้น และดีดเมล็ดที่ค่อนข้างกลมสีน้ำตาลออกมา เพื่อช่วยกระจายพันธุ์

    ส่วนที่ใช้ : ใบทั้งสดและแห้ง ยอดสด ต้นและรากสด เมล็ดแห้ง

    สรรพคุณ :
    ใบสด แก้ปวดข้อ ยารักษากลากเกลื้อน แก้ฝีและแผลพุพอง ยากันเล็บถอด

    ใบแห้ง แก้แผลอักเสบ ฝีหนอง แผลเน่าเปื่อย รักษาแผลเรื้อรัง

    ยอดสด แก้จมูกอักเสบ บวมแดง

    ต้นสด แก้แผลงูสวัด

    รากสด แก้บวมน้ำ ตำพอกแผลที่ถูกเสี้ยนหรือแก้วตำ

    เมล็ดแห้ง แก้ประจำเดือนไม่มา ขับประจำเดือน

    ขนาดและวิธีใช้
    -แก้ปวดข้อ ใช้ใบสดต้มกับน้ำผสมเหล้าดื่ม
    - ยารักษากลากเกลื้อน ใช้ใบสด 1 กำมือ ตำให้ละเอียด ตำทั้งน้ำและเนื้อบริเวณที่เป็น ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
    - แก้ฝีและแผลพุพอง ใช้ใบสด 5-10 ใบ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด นำมาพอกที่เป็นแผล วันละ 3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
    - ยากันเล็บถอด ใช้ใบ ยอดสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำตาลทรายแดง 1/2 ช้อนชา พอกตรงเล็บ เปลี่ยนยาเช้า-เย็น
    - แก้แผลอักเสบ ฝีหนอง แผลเน่าเปื่อย ใช้ใบแห้ง 10- 15 กรัม ต้มกับน้ำดื่ม เช้า-เย็น
    - รักษาแผลเรื้อรัง ใช้ใบแห้งบดเป็นผงผสมพิมเสนใส่แผล
    - แก้จมูกอักเสบ บวมแดง ใช้ยอดสดตำกับน้ำตาลแดง พอกบริเวณที่เป็น เปลี่ยนเช้า-เย็น
    - แก้แผลงูสวัด ใช้ต้นสดตำ คั้นเอาน้ำดื่ม เอากากพอกแผล
    - แก้บวมน้ำ ใช้รากสด 4-5 ราก ต้มกับเนื้อรับประทาน 3-4 ครั้ง
    - แก้ประจำเดือนไม่มา ขับประจำเดือน ใช้เมล็ดแห้งของต้นเทียนบ้านชนิดดอกสีขาว 60 กรัม บดเป็นผงรวมกับตังกุย 10 กรัม ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาเม็ด รับประทานครั้งละ 3 กรัม วันละ 3 เวลา หลังอาหาร
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : เทียนกิ่ง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lawsonia inermis L.

    ชื่อสามัญ : Henna

    วงศ์ : Lythraceae

    ชื่ออื่น : เทียนขาว เทียนแดง เทียนไม้ (ภาคกลาง)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 3-5 เมตร เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล กิ่งอ่อนสีเขียวนวล แตกกิ่งก้านเล็กเป็นพุ่มกว้าง ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน รูปรี กว้าง 1-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียว ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ดอกสีแดงหรือสีขาว กลีบดอก 4 กลีบ ยับย่น เกสรเพศผู้มี 8 อัน เกสรเพศเมียมี 1 อัน ผล รูปทรงกลม สีเขียว พอแก่เป็นสีน้ำตาล ผลแห้ง แตกได้

    ส่วนที่ใช้ : ใบสดและแห้ง ราก เปลือกต้น ดอก ผล

    สรรพคุณ :

    ใบ
    - มีตัวยาสำคัญชื่อลอร์โซน (Lawsone) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ใช้ทำยากันเล็บถอด เล็บช้ำ เล็บขบ แก้ปวดนิ้วมือนิ้วเท้า แผลมีหนอง ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน ฝี แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบ
    - รักษากามโรค แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับปัสสาวะ
    - ในสมัยโบราณ ใช้เป็นเครื่องสำอาง พอกเล็บ เป็นยาย้อมผม ขน

    ราก - ใช้ขับประจำเดือน รักษาตาเจ็บ ขับปัสสาวะ และรักษาโรคลมบ้าหมู

    เปลือก - ขับน้ำเหลืองเสียในโรคเรื้อน

    ดอก - ใช้ขับประจำเดือน แก้ปวดศีรษะ รักษาดีซ่าน

    ผล - ใช้ขับประจำเดือน

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    ยากันเล็บถอด เล็บขบ เล็บช้ำ
    วิธีที่ 1 ใช้ใบเทียนกิ่งสด 20-30 ใบ ล้างให้สะอาดตำให้ละเอียด เอาข้าวสุกปั้นเป็นก้อนขนาดเท่าแม่มือ เผาไฟให้บางส่วนดำเป็นถ่านตำรวม ใส่เกลือเล็กน้อย พอกที่เล็บซึ่งถูกของหนักๆ ทับ หรือตรงจมูกเล็บเป็นหนอง หนองก็จะหาย เล็บไม่ถอด

    วิธีที่ 2 ใช้ใบเทียนกิ่งสด 20-30 ใบ
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : ผักบุ้งทะเล

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ipomoea pes-caprae ( L.) R.br.

    ชื่อสามัญ : Goat's Foot Creeper, Beach Morning Glory

    วงศ์ : Convolvulaceae

    ชื่ออื่น : ละบูเลาห์ (มลายู-นราธิวาส)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เลื้อยล้มลุก เลื้อยไปตามผิวทรายหรือดิน ชอบขึ้นในพื้นที่ใกล้ทะเล ทั้งต้นมีน้ำยางสีขาว ใบ เดี่ยว แผ่นใบกว้าง โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบเว้าลึก ดอก ช่อ มี 4-6 ดอก กลีบดอกสีชมพูอมม่วง กลีบดอกติดกันปลายบานคล้ายปากแตร ดอกบานตอนเช้า บ่ายๆ จะหุบเหี่ยว ผล เป็นผลแห้งแตกได้

    ส่วนที่ใช้ : ใบ รากสด ทั้งต้น เมล็ด

    สรรพคุณ :

    ใบสด - เป็นยาพอก ต้มอาบรักษาโรคผิวหนัง แก้ปวดไขข้อบวมอักเสบมีหนอง

    รากสด - ขับปัสสาวะในโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แก้โรคเท้าช้าง ปวดฟัน ผดผื่นคันมีน้ำเหลือง

    ทั้งต้น - แก้อาการอักเสบจากพิษแมงกระพรุนไฟ ถอนพิษลมเพลมพัด ต้มอาบแก้โรคคันตามผิวหนัง

    เมล็ด - ป้องกันโรคตะคริว

    วิธีและปริมาณที่ใช้

    แก้พิษแมงกระพรุนไฟ แก้แพ้พิษต่างๆ
    - ใช้ใบโขลก พอก ถอนพิษ
    - ใช้รากสด 1 ราก นำมาฝนกับน้ำฝนให้ข้นๆ อาจใช้เหล้าโรงหรือแอลกอฮอล์ผสมด้วยจะได้ผลดี ใช้ทาบ่อยๆ

    สารเคมี

    ใบ พบ Fumaric acid, Succinic acid, Citric acid, Maleic acid, Curcumene, Ergotamine

    ลำต้นเหนือดิน พบ Behenic acid, Benzoic acid, Butyric acid, Essential Oil, Potassium Chloride, Myristic acid, Sodium chloride, ß-Sitosterol

    ทั้งต้น พบ Citric acid, Fumaric acid, Hyperoside, Malic acid, Isoquercitrin, Succinic acid, Tartaric acid

    เมล็ด พบ Dehydrocacalohastine, Cacalol methyl ether, Ergotamine, Matorin, Matorin acetate
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : พุดตาน

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus mutabilis L.

    ชื่อสามัญ : Cotton rose, Confederate rose

    วงศ์ : Malvaceae

    ชื่ออื่น : ดอกสามสี สามผิว (ภาคเหนือ)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงประมาณ 5 เมตร ต้นและกิ่งมีขนสีเทา ใบ เดี่ยว ออกสลับ รูปไข่โคนรูปหัวใจ ปลายแหลม ขอบใบเว้าลึก มี 3- 5 แฉก ใบมีขนสาก ดอก ซ้อนใหญ่งามมาก แรกบานมีสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีริ้วประดับ 7- 10 อัน ผล กลม เมื่อแก่แตกเป็น 5 แฉก เมล็ด รูปไต มีขน ออกดอกตลอดปี

    ส่วนที่ใช้ : ใบสด หรือใบตากแห้ง ดอก เก็บดอกตอนเริ่มบานเต็มที่ รากเก็บได้ตลอดปี ตากแห้งหรือใช้สดก็ได้

    สรรพคุณ :

    ยารักษาคางทูม

    ยาถอนพิษ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลมีหนอง

    ยาแก้งูสวัด

    วิธีและปริมาณที่ใช้

    ยารักษาคางทูม
    - ใช้ใบแห้ง 10-15 ใบ บดให้ละเอียด เติมไข่ขาวผสมให้เข้ากัน เพื่อให้ยาจับกันเป็นแผ่น นำไปพอกปิดบริเวณที่บวมเป็นคางทูม เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะหายบวม
    - ใช้ดอก อย่างแห้ง หนัก 3-12 กรัม ใบสด 30-40 กรัม ต้มน้ำรับประทาน ใช้ภายนอก บดเป็นผงผสม หรือใช้สดตำพอก

    ยาดถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง
    - ใช้ใบสด 3-4 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำมันพืช ใช้ทาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ แผลมีหนอง

    ยาแก้งูสวัด
    - ใช้ใบสด 4-5 ใบ ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าว ใช้ทาบริเวณที่เป็น ทาบ่อยๆ
    - รากใช้เป็นยาทาภายนอก ตำพอกหรือบดเป็นผงผสมพอก

    สารเคมี

    ใบ มี Flavonoid glycosides , phenol, amino acid, tannin

    ดอก มี Flavonoid glycosides
    Flavonoid glycosides จะมีปริมาณเปลี่ยนไปตามสีของดอกไม้เมื่อบานเต็มที่ สีแดงจะมี anthocyanin ในตอนที่ดอกมีสีแดงเข้ม จะมีปริมาณของ anthocyanin เป็น 3 เท่าของตอนที่มีดอกเป็นสีชมพู
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : รางจืด

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thumbergia laurifolia Lindl.

    วงศ์ : Acanthaceae

    ชื่ออื่น : กำลังช้างเผือก ขอบชะนาง เครือเขาเขียว ยาเขียว (ภาคกลาง) คาย รางเย็น (ยะลา) จอลอดิเออ ซั้งกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ดุเหว่า (ปัตตานี) ทิดพุด (นครศรีธรรมราช) น้ำนอง (สระบุรี) ย่ำแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เลื้อย/ไม้เถา เนื้อแข็ง ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปขอบขนานหรือรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมนเว้า มีเส้น 3 เส้นออกจากโคนใบ ดอก มีสีม่วงอมฟ้า ออกเป็นช่อห้อยลงตามซอกใบ ใบประดับสีเขียวประแดง กลีบเลี้ยงรูปจาน ดอกรูปแตรสั้น โคนกลีบดอกสีเหลืองอ่อน เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 4 อันผล เป็นฝักกลม ปลายเป็นจะงอย เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก

    ส่วนที่ใช้ : ใบ ราก และเถาสด

    สรรพคุณ : รางจืดที่มีประสิทธิภาพ คือรางจืดชนิดเถาดอกม่วง

    รากและเถา - รับประทานแก้ร้อนใน กระหายน้ำ

    ใบและราก - ใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ทำลายพิษยาฆ่าแมลง พิษจากสตริกนินให้เป็นกลาง พิษจากดื่มเหล้ามากเกินไป หรือยาเบื่อชนิดต่างๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เช่น ติดอยู่ในฝักผลไม้ที่รับประทาน เมื่ออยู่ในสถานที่ห่างไกล การนำส่งแพทย์ต้องใช้เวลา อาจทำให้คนไข้ถึงแก่ชีวิตได้ ถ้ามีต้นรางจืดปลูกอยู่ในบ้าน ใช้ใบรางจืดไม่แก่ไม่อ่อนเกินไปนัก หรือรากที่มีอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป และมีขนาดเท่านิ้วชี้ มาใช้เป็นยาบรรเทาพิษเฉพาะหน้าก่อนนำส่งโรงพยาบาล (รากรางจืดจะมีตัวยามากกว่าใบ 4-7 เท่า) ดินที่ใช้ปลูก ถ้าผสมขี้เถ้าแกลบหรือผงถ่านป่น จะช่วยให้ต้นรางจืดมีตัวยามากขึ้น

    วิธีใช้ :
    ใบสด
    สำหรับคน 10-12 ใบ
    สำหรับวัวควาย 20-30 ใบ
    นำใบสดมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำซาวข้าวครึ่งแก้ว คั้นเอาแต่น้ำดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ อาจให้ดื่มซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมงต่อมา

    รากสด
    สำหรับคน 1-2 องคุลี
    สำหรับวัวควาย 2-4 องคุลี
    นำรากมาฝนหรือตำกับน้ำซาวข้าว แล้วดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ อาจใช้ซ้ำได้อีกใน 1/2 - 1 ชั่วโมง ต่อมา

    คำเตือน : การใช้รางจืดสำหรับถอนพิษยาฆ่าแมลง ยาพิษและสตริกนินนั้น ต้องใช้ยาเร็วที่สุดเท่าที่จำทำได้ จึงจะได้ผลดี ถ้าพิษยาซึมเข้าสู่ร่างกายมากแล้ว หรือทิ้งไว้ข้ามคืน รางจืดจะได้ผลน้อยลง
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : ว่านหางจระเข้

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aloe vera (L.) Burm.f.

    ชื่อพ้อง : Aloe barbadensis Mill

    ชื่อสามัญ : Star cactus, Aloe, Aloin, Jafferabad, Barbados

    วงศ์ : Asphodelaceae

    ชื่ออื่น : หางตะเข้ (ภาคกลาง) ว่านไฟไหม้ (ภาคเหนือ)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นข้อปล้องสั้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนรอบต้น ใบหนาและยาว โคนใบใหญ่ ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็นหนามแหลมห่างกัน แผ่นใบหนาสีเขียว มีจุดยาวสีเขียวอ่อน อวบน้ำ ข้างในเป็นวุ้นใสสีเขียวอ่อน ดอก ออกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ดอกสีแดงอมเหลือง โคมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 แฉก เรียงเป็น 2 ชั้น รูปแตร ผล เป็นผบแห้งรูปกระสวย

    ส่วนที่ใช้ : วุ้นในใบสด ยางในใบ เหง้า

    สรรพคุณ :

    วุ้นในใบสด
    - บรรเทาอาการปวดศีรษะ
    - รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้
    - ถอนพิษ แก้ปวดแสบปวดร้อน แผลเรื้อรัง

    ยางในใบ - ทำยาดำ เป็นยาระบาย

    เหง้า - ต้มเอาน้ำรับประทาน แก้หนองใน

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    บรรเทาอาการปวดศีรษะ
    เลือกใบว่านหางจระเข้ที่อยู่ล่างสุด ใบสด 1 ใบ (เพราะมีตัวยามากกว่า) ฝานตามขวางใบ หนาประมาณ 1/4 ซม. ใช้ปูนแดงทาตรงเนื้อที่มีลักษณะคล้ายวุ้นสีขาวใสๆ แล้วเอาทางด้านปูนแดงปิดบนขมับ

    รักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ ถอนพิษ
    ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างยางสีเหลืองออกให้หมด ขูดเอาวุ้นใสออกมาทาพอกบริเวณแผลที่ถูกไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวกให้ชุ่ม เปลี่ยนวุ้นทุกวันจนกว่าจะหาย ช่วยระงับความเจ็บปวดด้วยและป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้แผลหายเร็วและไม่เกิดแผลเป็น

    ** วุ้นว่านหางจระเข้ ยังใช้ทารักษาผิวไหม้ที่เกิดจากแดดเผาได้

    ข้อควรระวัง : ก่อนใช้ว่านทดสอบดูว่าแพ้หรือไม่ โดยเอาวุ้นทาบริเวณท้องแขนด้านใน ถ้าผิวไม่คันหรือแดงก็ใช้ได้
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : เสลดพังพอนตัวเมีย (พญาปล้องทองง)

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Clinacanthus nutans (Burm.f) Lindau.

    ชื่อสามัญ : -

    วงศ์ : ACANTHACEAE

    ชื่ออื่น : ผักมันไก่ ผักลิ้นเขียด (เชียงใหม่) พญาปล้องดำ (ลำปาง) พญาปล้องทอง (ภาคกลาง) ลิ้นมังกร โพะโซ่จาง (กะเหรี่ยง) เสลดพังพอนตัวเมีย

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นไม้พุ่มเลื้อย ลำต้นและกิ่งก้านสีเขียว ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวออกตรงข้ามกัน รูปรีแคบขอบขนาน กลีบดอกสีแดงส้ม โคนกลีบดอกติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 2 ส่วน ขึ้นตามป่า หรือปลูกกันตามบ้าน ขยายพันธุ์โดยวิธีปักชำ เสลดพังพอนมีชื่อพ้องกัน คือ เสลดพังพอนตัวผู้ และเสลดพังพอนตัวเมีย แต่ต่างกันที่เสลดพังพอนตัวผู้มีหนาม สรรพคุณอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย เพื่อไม่ให้สับสนจึงเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า พญายอ และตำรายาไทยนิยมนำมาทำยา

    ส่วนที่ใช้ : ส่วนทั้ง 5 ใบสด ราก

    สรรพคุณ :

    ส่วนทั้ง 5 - ใช้ถอนพิษ โดยเฉพาะพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ตะขาบ แมลงป่อง รักษาอาการอักเสบ งูสวัด ลมพิษ แผลน้ำร้อนลวก

    ใบ - นำมาสกัดทำทิงเจอร์และกรีเซอรีน ใช้รักษาแผลผิวหนังชนิดเริ่ม Herpes และรักษาแผลร้อนในในปาก Apthous ตับพิษร้อน แก้แผลน้ำร้อนลวก

    ราก - ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ ขับประจำเดือน แก้ปวดเมื่อยบั้นเอว

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :

    รักษาอาการอักเสบ ถอนพิษ รักษาแผลร้อนในในปาก เริม งูสวัด
    - ใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด 10-20 ใบ (เลือกใบสีเขียวเข้มสดเป็นมันไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป)นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำทาแผลและเอากากพอกแผล
    - ใช้ใบเสลดพังพอน 1,000 กรัม หมักใน alcohol 70 % 1,000 ซีซี. หมักไว้ 7 วัน นำมากรองแล้วเอาไประเหยให้เหลือ 500 ซีซี. เติม glycerine pure ลงไปเท่ากับจำนวนที่ระเหยไป (500 ซีซี.) นำน้ำยาเสลดพังพอนกรีเซอรีนที่ได้ทาแผลเริม งูสวัด แผลร้อนในปาก ถอนพิษต่างๆ

    ทาบริเวณที่แมลงสัตว์กัดต่อยเป็นผื่นคัน
    - ใช้ใบสด 5-10 ใบ ตำขยี้ทาบริเวณที่เป็นแผลที่แพ้ จะยุบหายได้ผลดี

    แก้แผลน้ำร้อนลวก
    - ใช้ใบตำเคี่ยวกับน้ำมะพร้าวหรือน้ำมันงา เอากากพอกแผลที่ถูกน้ำร้อนลวกหรือไฟไหม้ แผลจะแห้ง
    - นำใบมาตำให้ละเอียดผสมกับสุรา ใช้พอกบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก มีสรรพคุณดับพิษร้อนได้ดี

    สารเคมี :
    ราก พบ Betulin, Lupeol, β-sitosterol
    ใบ พบ Flavonoids
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มพืชถอนพิษ : เสลดพังพอนตัวผู้ (ซองระอา)

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barleria lupulina Lindl.

    ชื่อสามัญ : Hop Headed Barleria

    วงศ์ : ACANTHACEAE

    ชื่ออื่น : พิมเสนต้น (ภาคกลาง) ทองระอา ช้องระอา ลิ้นงูเห่า เสลดพังพอนตัวผู้ (กรุงเทพฯ) คันชั่ง (ตาก) อังกาบ อังกาบเมือง (ไทย) ก้านชั่ง (พายัพ)
    ชื่อภาษาอังกฤษ

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูงประมาณ 1 เมตร มีหนามแหลมยาว ข้อละ 2 คู่ ถึง 3 คู่กิ่งก้าน ก้านใบสีน้ำตาลแดง ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบแดง ดอกช่อออกที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 8 ซม. มีใบประดับสีน้ำตาลแดง ค่อนข้างกลม กลีบดอกสีส้ม ผลเป็นฝักรูปไข่

    ส่วนที่ใช้ : ราก ใบ ส่วนทั้ง 5

    สรรพคุณ :

    ราก - แก้ตาเหลือง หน้าเหลือง เมื่อยตัว กินข้าวไม่ได้ แก้เจ็บท้อง แก้ผิดอาหาร ถอนพิษงู พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดฟัน

    ใบ - ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ลมพิษ รักษาเม็ดผื่นคันตามผิวหนัง แก้โรคเบาหวาน แก้ปวดแผล แผลจากของมีคมบาด แก้โรคฝีต่างๆ รักษาโรคคางทูม แก้โรคไฟลามทุ่ง แก้ขยุ้มตีนหมา แก้โรคงูสวัด รักษาโรคเริม ถอนพิษจากเม็ดตุ่มฝีดาษ รักษาโรคฝีดาษ แก้ฟกช้ำ แก้ช้ำบวมเนื่องจากถูกของแข็ง ถอนพิษไข้ พิษไข้ทรพิษ แก้ปวดฟัน เหงือกบวม แก้ริดสีดวงทวาร แก้ยุงกัด แก้พิษไฟลวกน้ำร้อนลวก แก้ปวดจากปลาดุกแทง

    ส่วนทั้ง 5 - ใช้เหมือนเสลดพังพอนตัวเมีย และใช้แทนเสลดพังพอนตัวเมียได้ แต่ใบเสลดพังพอนตัวเมียมีรสจืด ใบเสลดพังพอนตัวผู้มีรสขมมาก และเสลดพังพอนตัวผู้มีฤทธิ์อ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย

    วิธีและปริมาณที่ใช้ :
    ใช้เหมือนเสลดพังพอนตัวเมียทุกอย่าง
    สารเคมี :
    ต้น พบ Iridiod glycoside, Acetyl barlerin , Barlerin, Shanzhiside methyl ester.
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : กระเบาน้ำ

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hydnocarpus anthelminthicus Pieere ex Laness.

    วงศ์ : Flacourtiaceae

    ชื่ออื่น : กระเบา (ทั่วไป) ตึก (เขมร-ภาคตะวันออก) กระเบาเบ้าแข็ง กระเบาใหญ่, กาหลง (ภาคกลาง) ตัวโฮ่งจี๊ (จีน) เบา (สุรษฎร์ธานี)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 10-20 ม. ลำต้นเปลา ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอกแกมรูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ปลายสอบเรียว โคนสอบหรือมน เบี้ยวเล็กน้อย ขอบเรียบ เส้นแขนงใบ และเส้นใบย่อยเห็นได้ชัดทางด้านล่าง ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้น ดอกเพศผู้ออกเดี่ยวๆ ตามง่ามใบ กลิ่นหอมมาก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีขนอ่อนนุ่มทั้ง 2 ด้าน กลีบดอก 5 กลีบ สีชมพู เกสรเพศผู้ 5 อัน ดอกเพศเมียออกเป็นช่อสั้นๆ ตามง่ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเหมือนกับดอกเพศผู้ เกสรเพศผู้ไม่สมบูรณ์ 5 อัน ยอดเกสรเพศเมียแยกเป็น 5 แฉก รังไข่รูปไข่หรือรูปไข่กลับ มีขนสั้นๆ ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 8-12 ซม. ผิวเรียบ เปลือกแข็ง มีขนหรือเกล็ดสีน้ำตาล มี 30-50 เมล็ด อัดกันแน่น เมล็ดรูปไข่ เบี้ยว ปลายทั้ง 2 ข้างมน

    ส่วนที่ใช้ : ผลแก่สุก เมล็ด น้ำมันในเมล็ด (Chaumoogra Oil)

    สรรพคุณ :

    ผลแก่สุก - ใช้รับประทานเนื้อในเป็นอาหารคล้ายเผือกต้ม

    น้ำมันในเมล็ด
    - ใช้ดัดแปลงทางเคมีเป็นยารับประทานหรือยาฉีดหรือยาทาภายนอก บำบัดโรงเรื้อน มะเร็ง คุดทะราด และโรคผิวหนัง ผื่นคันที่มีตัวทุกชนิด เพราะมีรสเมา สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี
    - ใช้ปรุงเป็นน้ำมันใส่ผมรักษาโรคบนศีรษะได้ด้วย

    วิธีและปริมาณที่ใช้ - ใช้เมล็ดแก่เต็มที่ 10 เมล็ด แกะเอาเปลือกออก ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันพืชพอเข้าเนื้อ ใช้ทาโรคผิวหนังได้แทบทุกชนิด

    ข้อมูลเพิ่มเติม : น้ำมันที่บีบได้จากเมล็ดเรียกว่า น้ำมันกระเบา (Chaulmoogra oil หรือ Hydnocarpus oil) มีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็น chaulmoogric acid และ hydnocarpic acid น้ำมันกระเบานำมาใช้รักษาโรคเรื้อน และโรคผิวหนังอย่างอื่นอีก เช่น โรคเรื้อนกวาง หิด นอกจากนี้ ยังใช้แก้อาการปวดบวมตามข้อ เนื้อผลกินได้

    โทษ : ใบ และเมล็ดเป็นพิษ มี cyanogenetic glycoside
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : ดองดึง

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gloriosa superba L.

    ชื่อสามัญ : Flame lily, Climbing lily, Turk's cap, Superb lily, Gloriosa lily

    วงศ์ : Colchicaceae

    ชื่ออื่น : ก้ามปู (ชัยนาท); คมขวาน, บ้องขวาน, หัวขวาน (ชลบุรี); ดาวดึงส์, ว่านก้ามปู (ภาคกลาง); พันมหา (นครราชสีมา); มะขาโก้ง (ภาคเหนือ); หมอยหีย่า (อุดรธานี)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เถาล้มลุกอายุหลายปี ยาวได้ถึง 5 เมตร มีเหง้าใต้ดินทรงกระบอกโค้ง ใบเดี่ยวเรียงสลับ หรือเรียงเป็นวงรอบข้อ 1-3 ใบรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ยาว 5-15 ซม. ปลายใบเรียวแหลมงอเป็นมือเกาะ ไร้ก้าน ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกใหญ่ ยาว 6-10 ซม. ก้านดอกยาวประมาณ 5 ซม. ดอกมีสีแดงด้านบน หรือตามขอบกลีบ มีสีเหลืองด้านล่าง บางครั้งมีสีเหลืองซีด อมเขียว หรือสีแดงทั้งดอก เกศรเพศผู้มี 6 อัน ก้านยาว 3-5 ซม. อับเรณูยาวประมาณ 1 ซม. ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.3-0.7 ซม. แยกเป็น 3 แฉก ผลรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน เมล็ดกลมสีแดงส้มจำนวนมาก

    ส่วนที่ใช้ : หัว แป้งที่ได้จากหัว เมล็ด ราก

    สรรพคุณ :

    ราก, หัวดองดึง - แก้โรคเรื้อน คุดทะราด บาดแผล และขับผายลม รับประทานแก้ลมพรรดึก แก้เสมหะ แก้ลมจับโปง ลมเข้าข้อ (รูมาติซั่ม) หัวเข่าปวดบวมได้ดี หัวใช้ต้มรับประทานแก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด
    - ขับพยาธิ สำหรับสัตว์พาหนะ
    - ฝนทาแก้พิษงู พิษตะขาบ แมลงป่อง
    - ทาแก้โรคผิวหนัง
    - มีสารเมททิลโคลซิซี

    แป้งที่ได้จากหัว, ราก
    - แก้โรคหนองใน
    - ใช้สารสะกัดสำหรับเปลี่ยนแปลงพันธุ์พืช

    ข้อควรระวัง - สารมีฤทธิ์ข้างเคียงเป็นอันตรายถึงตายได้
    - ราก พบ Methylcolchicine

    ข้อมูลเพิ่มเติม

    การแพร่กระจายพันธุ์ : ดองดึงมีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาเขตร้อน ขึ้นเป็นวัชพืชทั่วไปในเอเชียเขตร้อน รวมทั้งไทย ตามที่โล่ง ชายป่า ดินปนทราย สามารถขึ้นได้บนดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ จนถึงระดับความสูง 2500 เมตร (ในต่างประเทศ) นอกจากนี้พบปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปในประเทศเขตอบอุ่น โดยเฉพาะในเรือนกระจก

    ประโยชน์ : เหง้าดองดึงมีสารอัลคลอลอย์ดหลายชนิดที่มีพิษถึงเสียชีวิตโดยเฉพาะสาร colchicines ถ้าใช้ในปริมาณน้อยสามารถใช้รักษาโรคเก๊าและมะเร็งได้
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : เลี่ยน

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melia azedarach L.

    ชื่อสามัญ : Bastard Cedar, Persian Lilac

    วงศ์ : Meliaceae

    ชื่ออื่น : เลี่ยน, เลี่ยน Lian, เคี่ยน Khian (Central); เกรียน Krian (Northern); เลี่ยนใบหใญ่ Lian bai yai (Central); เฮี่ยน Hian (Northern), ดอกเลี่ยน,ต้นเลี่ยน,ใบเลี่ยน,ผลเลี่ยน,รากเลี่ยน,เกรียน,เคี่ยน,เฮี่ยน

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ตระกูลเดียวกันกับสะเดา ลักษณะลำต้นและใบมีความใกล้เคียงกันกับสะเดา มีความสูงประมาณ 20-30 เมตร เป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตเร็ว แตกกิ่งก้านออกไปรอบ ๆ ลำต้นเป็นจำนวนมาก เปลือกผิวลำต้นมีสีน้ำตาล มีแผลเป็นร่องตามยาว ลำต้นเจริญขึ้นตรง ทรงพุ่มกลมรูปกรวยโปร่ง ใบออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีใบอยู่ประมาณ 3-5 ใบ ช่อใบยาวประมาณ 12 - 15 เซนติเมตร ลักษณะของใบย่อย ปลายใบแหลมเรียวโคนใบสอบขอบใบหยักแบบฟันเลื่อย บนใบเกลี้ยงสีเขียวส่วนล่างของใบมีขนสีเขียวอ่อนเห็นเส้นใบชัด ขนาดความกว้างของใบประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-6 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ เป็นกระจุกใหญ่ออกตามปลายกิ่งที่ง่าม ใบ ดอกมีฐานรองดอกเล็กมีกลีบดอก 5-6 กลีบ ดอกมีสีม่วงอ่อนหรือสีฟ้า กลิ่นหอม ผลกลม รี สีเขียวมีขนาดโตประมาณ 0.5 เซนติเมตร เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 4-5 เมล็ด

    ส่วนที่ใช้ : ส่วนทั้ง 5

    สรรพคุณ : ทุกส่วนของต้นเลี่ยน รสขม เมา แก้โรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อนและกุดถัง ทำให้ผิวหนังดำเกรียมแล้วลอกเป็นขุย เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ร่างกายแข็งแรง

    ยาง - แก้ม้ามโต
    เมล็ด - แก้ปวดในข้อ
    ผล - แก้โรคเรื้อนและฝีคันทะมาลา
    ดอก - แก้โรคผิวหนัง
    น้ำคั้นจากใบ - ขับพยาธิ ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว บำรุงโลหิต ประจำเดือน
    ดอกและใบ - พอกแก้ปวดศีรษะ ปวดประสาท
    เปลือกต้น - รักษาเหา
    วิธีและปริมาณที่ใช้

    ทาแก้โรคผิวหนัง โรคเรื้อน กุดถึง
    ใช้ดอก 1 ช่อเล็ก หรือ ผล 5-7 ผล
    เอาดอกหรือผลตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืช แล้วใช้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันจนกว่าจะหาย

    ใช้รักษาเหา
    ใช้เปลือกต้นประมาณครึ่งฝ่ามือ หรือ ผลที่โตเต็มที่สดๆ 10-15 ผล โขลกให้ละเอียด เติมน้ำมันมะพร้าว 3-4 ช้อนแกง ชะโลมผมที่เป็นเหาทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วสระให้สะอาดติดต่อกัน 2-3 วัน

    ใช้เป็นยาฆ่าแมลงและไล่แมลง
    ใช้ใบเปลือกแห้งต้มกับน้ำ ใช้ฉีดไล่ตั๊กแตนและตั๊กแตนห่า

    ผล ใช้เบื่อปลา
    โดยใช้ผล ตำๆ แล้วเทลงในบ่อปลา จะฆ่าปลาได้ เป็นพิษต่อตัวมวน มวนชอบทำอันตรายต่อผลส้ม เป็นพิษต่อคน (ถ้ารับประทานถึงขนาดหนึ่งจะทำให้อาเจียนและท้องเดิน)

    สารเคมี : มีสารกลุ่มแอลคาลอยด์ ชื่อ Azadirachtin, Toosendanin ในส่วนผลยังพบ Bakayknin, Steroid สารขมชื่อ Margosine, Fixed oil และกำมะถัน
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : พิลังกาสา

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ardisia polycephala Wall.

    ชื่อสามัญ : ตีนจำ (เลย) ผักจำ ผักจ้ำแดง (เชียงใหม่, เชียงราย)

    วงศ์ : MYRSINACEAE

    ชื่ออื่น : กะเบาข้าวแข็ง กะเบาข้าวเหนียว กะเบา กะเบาเบ้าแข็ง (ภาคกลาง) มะกูลอ กะตงคง (ลาว-เชียงใหม่) กะดงเบา (ลำปาง) กะเบาใหญ่ (นครราชสีมา) เบา กูลา (ปัตตานี) หัวค่าง (ประจวบ) กะเบาตึกกะเบาดึก กราเบา (เขมร) ตั้วโฮ่งจี๊ (จีน)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้นขนาดย่อม สูง 2-3 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันเป็นคู่ ๆ ตามข้อต้น ลักษณะใบเป็นรูปไข่ ปลายแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ไม่มีจักร ใบจะหนา ใหญ่ มีสีเขียวเป็นมัน ดอกออกเป็นช่ออยู่ตามปลายกิ่ง หรือตามส่วนยอด ดอกมีสีชมพูอมขาว ผลโตเท่าขนาดเม็ดนุ่น เมื่อยังอ่อนเป็นสีแดง ผลแก่จะเป็นสีม่วงดำ

    ส่วนที่ใช้ : ทั้ง 5 คือ ใบ ดอก ราก เมล็ด ผล

    สรรพคุณ : ใบอ่อนรับประทานเป็นผักได้

    ใบ - มีรสร้อน แก้โรคตับพิการ แก้ท้องเสีย แก้ไอ

    ดอก - ฆ่าเชื้อโรค

    ผล - แก้ไข้ ท้องเสีย แก้โรคเรื้อน

    เมล็ด - แก้ลมพิษ

    ต้น - แก้โรคเรื้อน กุดถัง โรคผิวหนัง

    ราก - แก้กามโรค หนองใน พอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด ใช้กากพอกแผล เอาน้ำดื่ม
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : สบู่เลือด

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Stephania pierrei Diels

    วงศ์ : MENISPERMACEAE

    ชื่ออื่น : บัวกือ (เชียงใหม่, เพชรบุรี) บัวเครือ (เพชรบูรณ์) บัวบก (กาญจนบุรี,นครราชสีมา) เปล้าเลือดเครือ (ภาคเหนือ)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก มีหัวใต้ดินีขนาดใหญ่ กลมแป้น เปลือกหัวสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวนวล รสชาติมันและเฝื่อนเล็กน้อย ลำต้นแทงขึ้นจากหัว โค้งงอลงสู่พื้นดิน เป็นไม้กึ่งเลื้อยทอดยาวได้ประมาณ 3-5 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปเกือบกลม หรือ กลมคล้ายใบบัว แต่จะมีขนาดเล็กกว่า เส้นผ่าศูนย์กลางใบประมาณ 3-6 ซม. ก้านใบยาว 2-3.5 ซม. ติดที่กลางแผ่นใบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบ เป็นดอกแยกเพศ กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ รูปขอบขนาน สีเหลือง ไม่มีกลีบดอก ผลมีลักษณะเป็นทรงกลม มี 1 เมล็ด รูปเกือกม้า

    ส่วนที่ใช้ : หัว ก้าน ต้น ใบ ดอก เถา

    สรรพคุณ :

    ต้น - กระจายลมที่แน่นในอก

    ใบ - บำรุงธาตุไฟ ใส่บาดแผลสดและเรื้อรัง

    ดอก - ฆ่าเชื้อโรคเรื้อน ทำให้อุจจาระละเอียด

    เถา - ขับโลหิตระดู ขับพยาธิในลำไส้

    หัว, ก้าน - แก้เสมหะเบื้องบน ทำให้เกิดกำลัง บำรุงกำหนัด

    ราก - บำรุงเส้นประสาท

    วิธีใช้

    หัวกับก้านรับประทานกับสุรา ทำให้หนังเกิดอาการชาอยู่ยงคงกระพัน ถูกเฆี่ยน ตีไม่เจ็บไม่แตก พวกนักดื่มนิยมกันนัก

    หัวหั่นเป็นชิ้นบางๆ สัก 3 แว่น ตำโขลกกับน้ำซาวข้าวหรือสุราก็ได้ให้ละเอียดๆ แล้วคั้นเอาแต่น้ำดื่ม ประมาณ 1 ถ้วยชา เช้า-เย็น และก่อนนอน แก้ตกเลือดของสตรี แก้มุตกิด ระดูขาว หรือตกขาวได้อย่างชงัด เป็นผลมากแล้ว
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยาแก้โรคเรื้อน : สลอด

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Croton tiglium L.

    ชื่อสามัญ : Purging Croton, Croton Oil Plant

    วงศ์ : EUPHORBIACEAE

    ชื่ออื่น : บะกั้ง (แพร่) มะข่าง มะคัง มะตอด หมากทาง หัสคืน (ภาคเหนือ) ลูกผลาญศัตรู สลอดต้น หมากหลอด (ภาคกลาง) หมากยอง (แม่ฮ่องสอน)

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 3-6 ม. ต้นเกลี้ยง ใบเดี่ยวรูปไข่ เรียงสลับกัน ปลายใบแหลม ฐานใบกลม ขอบใบหยัก แบบซี่ฟัน มีเส้นใบ 3-5 เส้น ที่ฐานใบมีต่อม 2 ต่อม เนื้อใบบาง ก้านใบเรียวเล็ก ดอกเล็ก ออกเดี่ยว ๆ หรือออกเป็นช่อที่ยอด ใบประดับมีขนาดเล็ก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน หรืออยู่ต่างต้นกัน ดอกเพศผู้ มีขนรูปดาว กลีบรองกลีบดอก 4-6 กลีบ ปลายกลีบมีขน กลีบดอก 4-6 กลีบ ขอบกลีบมีขน ฐานดอกมีขน และมีต่อมจำนวนเท่ากันและอยู่ตรงข้ามกันกับกลีบรองกลีบดอก เกสรผู้มีจำนวนมาก ก้านเกสรไม่ติดกัน เมื่อดอกยังอ่อนอยู่ ก้านเกสรจะโค้งเข้าข้างใน ดอกเพศเมีย กลีบรองกลีบดอกรูปไข่ มีขนที่โคนกลีบ ไม่มีกลีบดอก หรือถ้ามีก็เล็กมาก รังไข่มี 2-4 ช่อง ผลแก่จัดแห้งและแตก รูปขอบขนานหรือรี กว้าง 1-1.5 ซม. ยาวประมาณ 2 ซม. หน้าตัดรูปสามเหลี่ยมมนๆ เมล็ดรูปขอบขนานแกมรูปรี สีน้ำตาลอ่อน (ลีนา ผู้พัฒนพงศ์, 2530)

    ส่วนที่ใช้ : ใบ ดอก ผล เมล็ด เปลือก ราก

    สรรพคุณ :

    ใบ - แก้ตะมอย แก้ไส้ด้าน ไส้ลาม (กามโรคที่เกิดเนื้อร้ายจากปลายองค์กำเนิดกินลามเข้าไปจนถึงต้นองค์กำเนิด)

    ดอก - ฆ่าเชื้อโรคกลากเกลื้อน แก้คุดทะราด

    ผล - แก้ลมอัมพฤกษ์ ดับเดโชธาตุ มีให้เจริญ

    เมล็ด - เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถ่ายร้อนคอ ปวดมวน ก่อนใช้ต้องทำการประสะก่อน (อันตราย)

    เปลือกต้น - แก้เสมหะอันคั่งค้างอยู่ในอกและลำคอ

    ราก - แก้โรคเรื้อน ถ่ายเสมหะ ถ่ายโลหิตและลม

    วิธีการใช้

    ส่วนใบ - ก่อนจะนำมาผสมยา ให้นึ่งเสียก่อน

    เมล็ด - เป็นยาถ่ายอย่างแรง การใช้เมล็ดเป็นยาถ่ายต้องระวังมาก เพราะน้ำมันในมเล็ดสลอดมีพิษร้อนคอ ไข้ปวดมวนและระบายจัด ก่อนใช้ผสมยา ต้องคั่วจนเกรียมให้หมดน้ำมันเสียก่อน อีกวิธีหนึ่งเอาเมล็ดใส่ในข้าวสุกปั้นเป็นก้อนแล้วต้มให้นานๆ จึงใช้ผสมยา อีกวิธีหนึ่งต้องเอาเมล็ดสลอดใส่ปากไหปลาร้า ทิ้งไว้ 3 วัน จึงเอาขึ้นมาตากแห้งใช้ผสมยาได้

    เมื่อจะทำยาระบาย ต้องมียาคุมฤทธิ์ไว้ให้ดี มิฉะนั้นจะมีคลื่นเหียน ปวดมวนไชท้องอย่างยิ่ง ฉะนั้น การใช้สลอดนี้ ถ้ายาคุมฤทธิ์ไว้ได้ดีก็จะเป็นยาวิเศษขนานหนึ่ง แต่ถ้าวิธีคุมฤทธิ์ไว้ไม่ดีก็อย่าบังควรใช้เลย ให้ใช้ยาขนานอื่นแทน
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กลุ่มยารักษา เหา หิด จี๊ด : น้อยหน่า

    [​IMG]


    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Annona squamosa L.

    ชื่อสามัญ : Sugar Apple

    วงศ์ : Annonaceae

    ชื่ออื่น : : น้อยแน่ มะนอแน่ หมักเขียบ

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : : ไม้ยืนต้น สูง 3-5 เมตร ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอกแกมขอบขนาน กว้าง 3-6 ซม. ยาว 7-13 ซม. ดอกเดี่ยว ออกที่ซอกใบ ห้อยลง กลีบดอกสีเหลืองแกมเขียว 6 กลีบ เรียง 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ หนาอวบน้ำ มีเกสรตัวผู้และรังไข่ จำนวนมาก ผลเป็นผลกลุ่ม ค่อนข้างกลม

    ส่วนที่ใช้ : ใบสด หรือ เนื้อในเมล็ดสด

    สรรพคุณ :
    รักษาเหา
    รักษาหิด
    รักษาจี๊ด

    วิธีและปริมาณที่ใช้

    ยารักษาเหา
    ใช้ใบสด 8-12 ใบ หรือเมล็ดที่กะเทาะเปลือกแล้วตำให้ละเอียด 4-5 ช้อนแกง นำมาผสมกับน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันถั่วพอเปียกเล็กน้อย (แฉะๆ) ชะโลมบนเส้นผมที่เป็นเหา ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สระออกให้หมด ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 2-3 วัน ตัวเหา และไข่จะฝ่อหมด หรืออาจจะใช้ความแรงของใบสด หรือเมล็ดน้อยหน่ากับน้ำมันมะพร้าว ความแรง 1:2

    ยารักษาหิด
    ใช้ใบสดหรือเมล็ดในสด จำนวนไม่จำกัด ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอแฉะ ใช้ทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย

    ยารักษาจี๊ด
    ใช้เนื้อเมล็ดสด 20 เมล็ด ตำให้ละเอียด ใช้สารส้มเท่ากับหัวแม่มือ ใส่ในฝาละมี ตั้งไฟอ่อนๆ เมื่อสารส้มละลาย ค่อยๆ โรยผงของเมล็ดน้อยหน่าลงไปทีละน้อย คนจนเข้ากันดี จากนั้นใช้ไม้ป้ายยาที่กำลังร้อนแต่พอให้ผิวหนังทนได้ ป้ายลงตรงตำแหน่งที่บวม ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทำหลายๆ วัน จนกว่าจะหาย ยาที่เหลือจะแข็งพอจะใช้ตั้งไฟอ่อนๆ

    ข้อควรระวัง : ถ้าใช้น้ำสกัดจากเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และควรระวังอย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
    สารเคมี

    ใบ มี แอลคาลอยด์ชื่อ Anonaine และน้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วย Borneol, Camphene, Camphor, Carvone, Eugenol, Geraniol, Thymol, Menthone, Pinene

    เมล็ด มีแอลคาลอยด์ชื่อ Anonaine, Fixed Oil Steroids ผงของเมล็ดน้อยหน่า 1.8 กิโลกรัม ให้ Anonaine 0.258 กรัม
     

แชร์หน้านี้

Loading...