สวดมนต์ทุกวัน แต่ไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธาน

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย กนกพลศรี, 4 กรกฎาคม 2008.

  1. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    ผมก็ไม่มีพระพุทธรูปที่ห้องครับแต่สวดมนต์เกือบทุกวัน แต่ติดภาพพระพุทธชินนราชแทนครับ ผมสวดมนบางบทก็ไม่ทราบความหมายครับแต่ก้ยังสวดอยู่ประจำครับเพราะศรัทธาครับอนุโมทนาสาธุครับ
     
  2. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ถูก-ผิดอย่างไร ขอความอนุเคราะห์ช่วยบอกกล่าวตักเตือนด้วยครับ

    อ้างอิงมาจาก
    สวดมนต์ทุกวัน แต่ไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธาน
    ผมเริ่มมาสนใจหลักธรรมะได้ไม่นานครับ ยังใหม่กับการปฏิบัติธรรม ผมจึงมีคำถามมาสอบถามทุกท่านครับ ก็คือ...

    ตอนนี้ ผมสวดมนต์ทุกวัน ตอนเช้าและก่อนนอน แต่ที่ห้องผมไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธานเลย ผมอยากทราบว่า ควรจะมีพระพุทธรูปไหมครับ เอาไว้เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า

    ปล. ผมเคยอ่านกระทู้อันหนึ่ง เค้าบอกว่า ถ้าจะบูชาพระพุทธรูป ควรจะมีห้องพระแยกต่างหาก แต่ของผม ผมอยู่หอ เป็นห้องเดี่ยว อยากทราบว่า จะเอาพระพุทธรูปไว้ในห้องได้ไหมครับ จะดูไม่ดีเปล่า เช่น ถ้าเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แล้วก็มีพระพุทธรูปอยู่ด้วย

    แต่ในใจของผม ผมอยากมีพระพุทธรูปครับ ไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว แต่ก็ติดขัดตามที่ผมได้บอกไปนั่นแหระ

    ผมควรจะทำอย่างไรดี ????

    ผมขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นครับ


    ตอบ ถ้าเป็นสมัยก่อน ครอบครัวใหญ่ ๆ มีพ่อแม่ ลูก พี่ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย การสร้างบ้านเรือนสมัยก่อนมีกันหลากหลายห้องนอน ขึ้นอยู่จำนวนผู้อยู่อาศัยตามชนบท

    แต่เดี๋ยวนี้ ตามยุคสมัยใหม่ ตามหัวเมือง ว่ากันไปตามเศรษฐกิจ ว่ากันไปตามอัตภาพ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก หากคุณมีจิตใจที่จะยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมเป็นการดีต่อจิตใจของคุณเอง

    แต่ถ้าคุณอยู่หอ หรืออยู่ห้องที่คล้ายรูปสี่เหลี่ยม ตามอัตภาพของคุณเอง คุณเองก็สามารถเอาโปสเตอร์ แผ่นพับ ที่มีรูปพระพุทธ หรืออริยสงฆ์เจ้า ก็ดีเพื่อนำมาบูชากราบไหว้ ตามความถนัด ตามความสะดวกและเหมาะสม ย่อมทำได้ ขอให้คุณมีจิตใจที่เจตนาดีก็พอแล้วครับ สวดมนต์ ทำสมาธิ เช้าและก่อนนอนย่อมดีต่อจิตใจ แต่ถ้าคุณจะหาพระประธานก็จะต้องหาทิศทางการวางตั้งให้เหมาะสมเท่าที่ควร ให้อยู่เหนือศรีษะของเราเอง ทิศทางอยู่บนหัวนอน (ไม่ใช้ใกล้กับหน้าห้องน้ำ) ไม่ใช่บูชาไว้เหนือหัว แต่!! อยู่ปลายเท้า ปลายเตียง

    ส่วนที่คุณบอกว่า ถ้าจะบูชาพระพุทธรูป ควรจะมีห้องพระแยกต่างหาก แต่ของผม ผมอยู่หอ เป็นห้องเดี่ยว อยากทราบว่า จะเอาพระพุทธรูปไว้ในห้องได้ไหมครับ จะดูไม่ดีเปล่า เช่น ถ้าเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แล้วก็มีพระพุทธรูปอยู่ด้วย

    อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาดีหรือร้าย ถึงขั้นลบหลู่ ดูหมิ่นหรือเปล่า แต่ถ้าจิตใจละอายต่อบาปกลัวผลร้ายจะตามมากับสิ่งที่ทำก็จะต้องอย่าประมาท และควรที่จะสวดมนต์เพื่อขอขมาอยู่เสมอครับ ผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์ย่อมรู้ดี และอภัยต่อผู้ที่เจตนาอยู่เสมอ และจะคุ้มครองคนดี ๆ ไปตลอดครับ

    ขอบุญอนุโมทนาครับ....
    <!-- / message -->
     
  3. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,596
    ค่าพลัง:
    +6,346
    ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ถูก-ผิดอย่างไร ขอความอนุเคราะห์ช่วยบอกกล่าวตักเตือนด้วยครับ

    อ้างอิงมาจาก
    สวดมนต์ทุกวัน แต่ไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธาน
    ผมเริ่มมาสนใจหลักธรรมะได้ไม่นานครับ ยังใหม่กับการปฏิบัติธรรม ผมจึงมีคำถามมาสอบถามทุกท่านครับ ก็คือ...

    ตอนนี้ ผมสวดมนต์ทุกวัน ตอนเช้าและก่อนนอน แต่ที่ห้องผมไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธานเลย ผมอยากทราบว่า ควรจะมีพระพุทธรูปไหมครับ เอาไว้เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า

    ปล. ผมเคยอ่านกระทู้อันหนึ่ง เค้าบอกว่า ถ้าจะบูชาพระพุทธรูป ควรจะมีห้องพระแยกต่างหาก แต่ของผม ผมอยู่หอ เป็นห้องเดี่ยว อยากทราบว่า จะเอาพระพุทธรูปไว้ในห้องได้ไหมครับ จะดูไม่ดีเปล่า เช่น ถ้าเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แล้วก็มีพระพุทธรูปอยู่ด้วย

    แต่ในใจของผม ผมอยากมีพระพุทธรูปครับ ไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว แต่ก็ติดขัดตามที่ผมได้บอกไปนั่นแหระ

    ผมควรจะทำอย่างไรดี ????

    ผมขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นครับ


    ตอบ ถ้าเป็นสมัยก่อน ครอบครัวใหญ่ ๆ มีพ่อแม่ ลูก พี่ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย การสร้างบ้านเรือนสมัยก่อนมีกันหลากหลายห้องนอน ขึ้นอยู่จำนวนผู้อยู่อาศัยตามชนบท

    แต่เดี๋ยวนี้ ตามยุคสมัยใหม่ ตามหัวเมือง ว่ากันไปตามเศรษฐกิจ ว่ากันไปตามอัตภาพ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก หากคุณมีจิตใจที่จะยึดมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมเป็นการดีต่อจิตใจของคุณเอง

    แต่ถ้าคุณอยู่หอ หรืออยู่ห้องที่คล้ายรูปสี่เหลี่ยม ตามอัตภาพของคุณเอง คุณเองก็สามารถเอาโปสเตอร์ แผ่นพับ ที่มีรูปพระพุทธ หรืออริยสงฆ์เจ้า ก็ดีเพื่อนำมาบูชากราบไหว้ ตามความถนัด ตามความสะดวกและเหมาะสม ย่อมทำได้ ขอให้คุณมีจิตใจที่เจตนาดีก็พอแล้วครับ สวดมนต์ ทำสมาธิ เช้าและก่อนนอนย่อมดีต่อจิตใจ แต่ถ้าคุณจะหาพระประธานก็จะต้องหาทิศทางการวางตั้งให้เหมาะสมเท่าที่ควร ให้อยู่เหนือศรีษะของเราเอง ทิศทางอยู่บนหัวนอน (ไม่ใช้ใกล้กับหน้าห้องน้ำ) ไม่ใช่บูชาไว้เหนือหัว แต่!! อยู่ปลายเท้า ปลายเตียง

    ส่วนที่คุณบอกว่า ถ้าจะบูชาพระพุทธรูป ควรจะมีห้องพระแยกต่างหาก แต่ของผม ผมอยู่หอ เป็นห้องเดี่ยว อยากทราบว่า จะเอาพระพุทธรูปไว้ในห้องได้ไหมครับ จะดูไม่ดีเปล่า เช่น ถ้าเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แล้วก็มีพระพุทธรูปอยู่ด้วย

    อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจตนาดีหรือร้าย ถึงขั้นลบหลู่ ดูหมิ่นหรือเปล่า แต่ถ้าจิตใจละอายต่อบาปกลัวผลร้ายจะตามมากับสิ่งที่ทำก็จะต้องอย่าประมาท และควรที่จะสวดมนต์เพื่อขอขมาอยู่เสมอครับ ผมเชื่อว่าสิ่งศักดิ์ย่อมรู้ดี และอภัยต่อผู้ที่เจตนาอยู่เสมอ และจะคุ้มครองคนดี ๆ ไปตลอดครับ

    ขอบุญอนุโมทนาครับ....
     
  4. humanbeing

    humanbeing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +214
    อืม ถ้าอย่างน้อยมีพระพุทธรูป หรือ รูปของพระพุทธเจ้า ก็อาจจะดีกว่า ตรงที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของเรา ให้เราทำดี ส่วนหนึ่งเพราะ เราได้เห็นพระองค์ท่านบ่อยๆ เวลาที่เราทำไม่ดี เมื่อเราได้สติ เราก็จะได้รู้สึกละอาย (ความเห็นส่วนตัว)

    แต่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ พระพุทธเจ้าอยู่ที่ใจ อย่าไปยึดติดกับรูปภายนอก
    และเวลาสวดมนต์ ถ้ารู้ความหมายด้วยก็จะดีกว่าไม่รู้

    จากความรู้สึกของตนเอง เมื่อก่อนเวลาสวดมนต์ ไม่รู้ความหมาย มีความรู้สึกว่า สวดไปงั้นๆ เหมือนเป็นสิ่งที่ควรทำ เท่านั้นเอง

    แต่เมื่อทราบความหมายแล้ว เวลาก่อนนอน เมื่อสวดมนต์ ก็ระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย พระคุณของมารดา-บิดา ครูบาอาจารย์ และ ผู้มีพระคุณทุกท่าน แล้วรู้สึกดีกว่าตอนที่สวดโดยไม่รู้ความหมายมาก อย่างน้อยที่สุด จิตในขณะนั้น ก็ได้คิดดี แม้จะแค่ชั่วขณะหนึ่ง ดีกว่า เฉยๆ (ด้วยความไม่รู้)
     
  5. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    บุญ อยู่ ที่ จิต หรือ อยู่ที่ อิฐ หรือ อยู่ที่ ปูน
     
  6. Ukada_Jin

    Ukada_Jin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนา สาธุคะ

    ........แล้วอย่างจินละคะ จินอยู่กับครอบครัวคนจีนคะ...อยากหารูปพระพุทธรูป มาติดไว้ที่ผนังห้องตรงหัวนอน ก็เกรงใจคนบ้านเค้า...ทุกวันนี้ได้แต่สวดมนต์ไม่มีพระพุทธรูปเป็นประธาน เนี่ยละคะ นานเป็นปีแล้วคะ...

    แล้วควรทำไงคะ...!!!

    (^^)Y
     
  7. SaveMax

    SaveMax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +582
    พระพุทธรูปเป็นวัตถุเป็นสิ่งสมมติเป็นสัญลักษณ์ให้พุทธบริษัทได้ระลึกถึง องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงแม้เราไม่มีพระพุทธรูป แต่เรายังระลึกถึง พระพุทธ พระธรรมคำสั่งสอนอยู่ทุกเมื่อยังดีกว่า มีพระพุทธรูป แถมราคาแพงๆ อยู่ในบ้าน แต่ประพฤติทุศีลก็มิเกิดประโยชน์อันใด
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    เข้ามาครั้งแรกอ่านแล้วลักษณะนี้คุ้นๆ ว่าจะเป็นแนวของท่าน เกษม....โป๊ะเชะ....

    คุณ paranyu มีความรู้อ้างอิงมากนะครับ....คือผมเป็นคนที่ไม่รู้อะไรมากนะครับ....แต่ที่รู้ก็คือ...ข้อนี้....จากหนังสือนักธรรมตรีเล่มหนึ่ง(ไม่อาจเอื้อมพระไตรปิฏก)...

    อุปกิเลส 16

    ๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว

    ๒. พยาบาท คือความคิดร้าย มุ่งจะทำร้ายเขา ใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขาก็มี บางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มีซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๓. โกธะ คือความโกรธ มีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๔. อุปนาหะ คือการผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกันคิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคยทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๕. มักขะ คือการลบหลู่คุณท่าน ปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น
    ๖. ปลาสะ คือการตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้

    ๗. อิสสา คือความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้ เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี

    ๘. มัจฉริยะ คือความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร

    ๙.มายา คือเจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดงบทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อยแต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออกด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น

    ๑๐. สาเถยยะ คือการโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข

    ๑๑. ถัมภะ คือความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง

    ๑๒. สารัมภะ คือการแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้

    ๑๓. มานะ คือความถือตัว ทะนงตน

    ๑๔. อติมานะ คือการดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น

    ๑๕. มทะ คือความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปแล้วทำอะไรเกินเหตุ

    ๑๖. ปมาทะ คือความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา


    <!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --><!-- Counter/Statistics data collection code --><SCRIPT language=JavaScript src="http://us.js2.yimg.com/us.js.yimg.com/lib/smb/js/hosting/cp/js_source/whv2_001.js"></SCRIPT><SCRIPT language=javascript>geovisit();</SCRIPT>[​IMG] [​IMG] :z10:z10:z10:z10:z10<NOSCRIPT>[​IMG]</NOSCRIPT>​
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009
  9. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อนุโมทนาสาธุ (smile)

    อานิสงส์พระคาถาชินบัญชร ตอนก่อนจะออกจากบ้านทุกเวลา ให้พนมมือ สวดนะโม
     

แชร์หน้านี้

Loading...