สวดมนต์ภาวนายันต์เกราะเพชรเองทุกราตรีดีกว่าไปเป่ายันต์เกราะเพชรจริงหรือครับ

กระผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อจะได้ทำความกระจ่างและเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องยันเกราะเพชร ซึ่งผมไม่ได้ไปเป่ายันต์เกราะเพชร แต่ผมเองได้สวดภาวนายันต์เกราะเพชรจนขึ้นใจ อยู่ในสมาธิมานานแล้ว
จึงอยากเรียนถามท่านทั้งหลายว่า ด้วยวิธีการเช่นนี้จะดีกว่าการไปเป่ายันต์เกราะเพชรหรือเปล่าครับ

 

เมื่อคืนปู่มาสอนว่า ถ้าเราศรัทธาในพระคาถา ให้ทำทั้งสองอย่างเพื่อกันพลาดคือ

1หากมีโอกาสให้เราไปให้พระอริยะท่านเป่ายันต์เกราะเพชรให้ จะสำเร็จหรือไม่ก็ไม่ต้องไม่กังวลแต่ให้เลือกพระอริยะที่น่าเชื่อถือ ควรเป็นสายหลวงพ่อปานเท่านั้น

2ให้สวดภาวนาไปด้วยทุกวัน อย่างน้อย1จบ

พระคาถายันต์เกราะเพชร มีดังนี้

ชาโล มหาชาโล ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลิตัง มหาชาลิตัง

มุตเต มุตเต สัมปัตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตตัง สุตังคะมิติ

สุตังคะมิติ มัคคะยีติ ทิฏถิลา ทัณฑ์ทิลา มัณติลา โรคิลา

ขะระลา ทุขพะลา

ฤทธิ์ติ ฤทธิ์ติ ฤทธิ์ติ กิตติ กิตติ กิตติ อัตติ อัตติ อัตติ

วิติ วิติ วิติ มิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ จิตติ
มุตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ จุตติ
ธาระณี ธาระณีติอิตัง ธาระณะปริตตัง

สัพพะโสตถี ภะวันตุเม สัพพะโสตถี ภะวันตุเม [COLOR=#8b0000]สัพพะโสตถี ภะวันตุเม[/COLOR]

ด้วยอำนาจของพระคาถายันต์เกราะเพชรนี้ด้วยอำนาจของพระธารณะปริตรนี้ มีอานุภาพให้ปลอดภัยจากทุกภัยทั้งปวงครับ สาธุ

 

ไม่แน่ใจครับ ว่าเรียกพระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้ามากกว่าที่จะเป็น ยันต์เกราะเพชรหรือเปล่าครับเพราะดูจากตัวพระคาถาแล้ว ยิ่งบอกว่าสายหลวงปู่ปานด้วย ยิ่งไม่ใช่ไปใหญ่นะครับ

 

ขอความกระจ่างด้วยครับแล้วพระคาถาเกราะเพชรหลวงพ่อปาน เป็นอย่างไรรบกวนช่วยลงให้เป็นวิทยาทานด้วยครับ หากไม่เป็นการหวงวิชาครับ

 

ว่าจะเข้ามาขอตัวคาถา ยันเกราะเพชรด้วย พอดีสนใจอยู่ค่ะ เพราะไม่มีโอกาสได้ไปรับกับคนอื่นเขา สรุปใช่คาถานี้แน่หรือเปล่าคะ
ขออนุโมทนากับผู้มีส่วนให้ความรู้กับกระทุ้นี้ค่ะ สาธุ

 

คาถายันต์เกราะเพชร หรือ อิติปิโส 8 ทิศ
1. อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา คุ้มทิศบูรพา
2. ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง คุ้มทิศอาคเณย์
3. ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท คุ้มทิศทักษิณ
4. โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ คุ้มทิศหรดี
5. ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ คุ้มทิศประจิม
6. คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ คุ้มทิศพายัพ
7. วา โธ โน อะ มะ มะ วา คุ้มทิศอุดร
8. อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ คุ้มทิศอิสาน

คาถา นี้ ภาวนาป้องกันภยันตราย 108 มีคุณอเนกคณานับแล เวลาเดินทางแรมป่าเขาลำเนาไพร เสกก้อนดิน 8 ก้อน วางไว้ 8 ทิศ ศัตรู ผีป่า สัตว์ร้ายใดๆ ไม่กล้าทำร้ายเลย ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก แล
เกจิอาจารย์ ท่านพรรณาไว้ถึงความมหัศจรรย์ ของคาถา นี้ ดังนี้
บท 1 เสกเป่าแก้พิษสัตว์ กัด ต่อยๆ ได้ฉมังนัก
บท 2 เสกทำน้ำมนต์ รดคนเจ็บไข้ได้ป่วย ผีเจ้าเข้าทรงดีนัก
บท 3 เสกภาวนกันภูติผีปีศาจ เป่าพิษบาดแผลดีนัก
บท 4 เสกจนครบ 108 จบ ทำน้ำมนต์ไล่ผี หรือคนท้องกินคลอดลูกง่าย ประสิทธิ์นัก


เป็นบทนี้ครับ ส่วนบทที่ผมโพสไว้ก่อนด้านบนนั้นเป็นพระคาถา ข่ายเพชรพระพุทธเจ้าครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ที่คัดลอกมาผิดครับ น้อมรับผิดครับผมขอบคุณครับที่มีผู้ทักท้วงครับ

สุดท้ายถ้าสวดคู่กันได้จะดีมากๆครับ

 

คาถา ยันต์เกราะเพชร

อิระชาคะตะระสา
ติหังจะโตโรถินัง
ปิสัมระโลปุสัตพุท
โสมาณะกะริถาโธ
ภะสัมสัมวิสาเทภะ
คะพุทปันทูทัมวะคะ
วาโธโนอะมะมะวา
อะวิชสุนุตสานุติ

ใช่ตัวคาถานี้หรือเปล่าคะ
เคยได้ยินว่าเป็นบท อิติปิโส ใช้เรียงตัวเลยค่ะ

 

อืมมม .. เห็นทีจะได้คำตอบแล้ว ขออนุโมทนากับผู้ใคร่ศึกษาในตัวคาถาค่ะ

 

อย่างนี้ผมก็เข้าใจผิดมานานเลยนะครับเนี้ยะ หลงสวดพระคาถาข่ายเพชรพระพุทธเจ้ามานานเลยครับ แต่พุทธานุภาพของพระคาถานี้คงดีพอๆกันกับพระคาถาเกราะเพชรแน่นอนเพราะผมก็แคล้วคลาดมาได้หลายครั้งแล้วครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขออภัยนะคะคุณ TPC อยากทราบว่าตัวคาถา ข่ายเพชรพระพุทธเจ้า ของคุณนี่ ฉบับเก่าดั้งเดิมหรือเปล่า เท่าที่ศึกษาดูคาถาของคุณจะมีเพิ่มขึ้นมา

ชาโล มหาชาโล ชาลัง มหาชาลัง ชาลิเต มหาชาลิเต ชาลิตัง มหาชาลิตัง
มุตเตมุตเต สัมปัตเต มุตตัง มุตตัง สัมปัตตัง สุตัง คะมิติ สุตัง คะมิติ มัคคะยีติ
ทิฏฐิลา ทัณฑะลา มัณฑะลา โรคิลา กะระลา ทุพพะลา ริตติ ริตติ กิตติ กิตติ
มิตติมิตติ จิตติ จิตติ มุตติ มุตติ จุตติ จุตติ ธาระณี ธาระณีติ อิทัง ธาระณะ ปะริตตังฯ

เป็นการถามเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ค่ะ สาธุ

 

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ก็สวดแบบนี้มานานแล้วครับ ของคุณกับของผมต่างกันนิดหน่อยแต่โดยความหมายต่างกันเล็กน้อยครับ แต่ก็ไม่น่าจะทำให้พุทธานุภาพเปลี่ยนไปครับ หรือจะลองใช้สวดตามของผมก็ได้ครับ
แต่ถ้าเราสวดเป่าที่ศรีษะและคลุมทั้งกายครับให้ผู้อื่น ให้ จบด้วย
สัพพะโสตถี ภะวันตุเต สัพพะโสตถี ภะวันตุเต สัพพะโสตถี ภะวันตุเตครับ

 

ขอบคุณ คุณ TPC ที่ให้คำแนะนำค่ะ

 

ปู่บอกว่า พระอริยะที่ท่านเก่งๆ จะนำพระคาถามากำหนดในสมาธิ แล้วเจริญสมาธิ ให้พระคาถาทำให้เป็นกสิน คือนำอักขระมาเรียงร้อยกันจนเป็นกสิน พอเป็นกสินแล้วด้วยอำนาจกสิน ก็จะทำให้มีพุทธานุภาพเต็มกำลังครับ ปู่ท่านบอกว่า ถ้าทำจนชำนานแล้วนี้ ไม่ต้องสวดพระคาถาแต่ให้กำหนด เป็นกสินที่ทำจนชำนาญแล้วเป่าลงไปที่ไหนก็ได้

ผมเคยทำและฝึกเฉพาะคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า ส่วนพระคาถาอื่นยังไม่เคยได้ลองทำ ตอนนี้จะลองฝึกเฉพาะคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าเอาให้แม่น ให้ชำนาญก่อนแล้วค่อยไปคาถาอื่นๆครับ
ใครจะลองฝึกแบบผมก็ได้นะครับ แต่เรื่องศีลเรื่องทาน เรื่องกรรมฐานนี้ต้องทำได้ก่อนเป็นพื้นฐานนะครับ

 

ตั้งนะโม ๓ จบ และสวดบทอิติปิโสภควาฯ แล้วอาราธนาบารมี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่บารมียันต์เกาะเพ็ชรลงในกายของผู้ต้องการ

 

ขอถามค่ะ ระหว่างของคุณ rungdao กับ คุณ TPC ต่างกันนิดนึง ตรงทิศที่ ๕ ภะสัมสัมวิสะ (สา)เทภะ ต่างกันระหว่างสากับสะ นี่ใช้เหมือนกันใช่หรือไม่ค๊ะ

 

เคยนำบทพระคาถาที่ชอบมากำหนดในสมาธิและก็เจริญสมาธิไป เป้าหมายก็เพื่อลองฝึกให้เห็นอักษระคล้ายๆกับกสิณเพื่อผลแห่งบทพระคาถาตามที่เคยเข้าใจในเบื้องต้น....แต่ว่าทำเกือบทุกครั้งจะตัดเข้าสู่โหมดอุปจารฯก่อนเกือบทุกครั้ง..แต่ก็ดีตรงที่สามารถบังคับควบคุมจิตให้อยู่ในร่างกายได้..แล้วถ้าตัดหรือเคลีย์เรื่องภพภูมิในขณะนั้นได้.แล้วยังรักษาอารมย์ได้.สามารถยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้..แต่ระยะเวลาจะไม่นาน..​

จุดนี้นะครับ..ที่ผมเห็นว่ามีประโยชน์สำหรับการใช้พระคาถาใดๆก็ตาม..ซึ่งก็มามองว่าจิตเรายังไม่ละเอียดเหมือนพระอริยเจ้าที่เก่งๆหลายๆท่าน..แต่ถ้าคิดจะทำแล้วยังไม่สำเร็จ.อย่างน้อยพระคาถาก็เป็นเครื่องเชื่อมโยงจิต.และเราก็ใช้ประโยชน์จากช่วงที่จิตเป็นทิพย์จากจุดที่ได้เคยกล่าวมาก่อนหน้านี้.ยกขึ้นสู่ภูมิวิปัสสนา.. โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าผลของพระคาถาที่เรานำมากำหนดก็ยังประโยชน์ได้ในระดับหนึ่ง..ประมาณนี้นะครับในมุมที่เห็น.ซึ่งจะผิดถูกอย่างไรไม่ทราบ...
​

 

คาถาเกราะเพรช อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ปิ สัม ระ โล ปุ สัท พุท โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ วา โธ โน อะ มะ มะ วา อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ ด้วยอนุภาพคาถาจะทำให้ไม่ตายโหงตายห่า ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน ใครทำอะไรไม่ดีกับเราก็จะสะท้อนหาตัวมันเอง ถ้าจะสวดคาถาเกราะเพรชให้ใด้ผลจะต้องสวดพุทธคุณพร้อมระลึกถึงหลวงพ่อปานและยันต์เกราะเพรชแล้วกลืนน้ำลายทำอย่างนี้สามครั้ง(ทุกวัน) แล้วจึงสวดคาถาเกราะเพรช ก่อนสวดควรปลุกคาถาด้วยคาถาว่า โอมอิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชเดชะเดชัง ขอเดชเดชา จงมาเป็นที่พึ่งแด่ มะ อะ อุ นี้ด้วยเถิด (ต้องถือศีลข้อสองและข้อห้าอย่างเคร่งครัดแล้วไม่ต้องไปเป่ายันต์ให้เสียเวลา)