สอบถามวิธีจับภาพพระ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะนำสุข, 20 ตุลาคม 2012.

  1. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    คือผมพึ่งเริ่มฝึกกำหนดลมหายใจควบคู่กับภาวนาพุท โธและจับภาพพระ
    ผมอยากทราบว่าการจับภาพพระพุทธเจ้าเราจะจำทั้งองค์หรือโฟกัสส่วนใดส่วนหนึ่งครับ ผมอ่านเจอคือเขาให้ให้โฟกัสทีใบหน้า
    และพอเราหลับตานึกภาพในใจสลับกับลืมตาดูพระเราจะรอให้มันลอยมาเองหรือให้เรานึกภาพนั้นครับ
    ช่วยชี้แนะด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  2. เมธญา

    เมธญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +1,584
    ขออนุโมทนาและขออนุญาติแนะนำ
    หากท่าน จขกท ยังไม่ชำนาญแนะนำให้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งไปก่อน พุทโธ หรือ การจับภาพพระก็เป็นกรรมฐานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนกัน แต่ต่างวิธีกันเท่านั้นเอง หากฝึกแรกๆก็ทำทีละอย่างก่อนก็ได้ จิตจะได้ไม่สับสนและการปฏิบัติจะได้ก้าวหน้า การเห็นภาพพระเราจะเห็นหรือระลึกได้จากจิต มิใช่จากความคิด การดูภาพพระก็ใช้จิตดู แต่ต้องฝึกบ่อยๆ และทำให้ชิน แล้วการระลึกนึกเห็นพระก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากท่าน จขกท สนใจลองเข้าไปหาอ่าน จิตเกาะพระ จากกระทู้จิตพร้อม รับภัยพิบัติ ในห้องภัยพิบัตและการเตรียมการก็ได้
     
  3. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับที่แนะนำ
     
  4. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ตอนแรกผมคิดว่าการฝึกหลายๆอย่างพร้อมกันจะได้ดีไวๆ
    และอีกอยางที่ผมจับภาพพระก็เพืออยากรู้เห็นสิ่งที่เป็นทิพย์ครับ
    แต่ถ้าเราปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึงก่อนและถ้าจิตดีแล้วก็พัฒนาไปเรื่อยๆก็จะได้เหมือนกันใช่ไหมครับ
    ช่วยแนะนำด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  5. เมธญา

    เมธญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +1,584
    การฝึกหลายอย่างพร้อมกัน เหมือนอาการรักพี่เสียดายน้อง จะทำให้ไม่ได้อะไรเลย และการปฏิบัติธรรม เราต้องเดินสายกลาง อย่าอยาก ยิ่งอยาก ยิ่งไม่ได้ เพราะความอยากเป็นกิเลส จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติธรรมคือการลด ละ เลิก จากกองกิเลส เห็นทุกข์ เห็นธรรมจากกองกิเลส รู้ เห็น ดับ วาง การเห็นธรรม ต้องเห็นจากจิตของตน ไม่ใช่การจด การจำตามตัวอักษร การจะทำเช่นนั้นได้ ผู้ปฏิบัติต้องตามดูอารมณ์หรืออาการของจิต ซึ่งต้องอาศัยการปฏิบัติภาวนา ซี่งมีหลายๆวิธี และการจับภาพพระหรือการระลึกถึงพระเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้จิตเดินมรรค เป็นวิปัสนา มีดวงตาเห็นธรรม มีบางคนอาจได้อภิญญาหากมีของเก่าติดตัวมา แต่ตัวนี้เป็นของแถมเท่านั้นเอง ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เป้าหมายหลักคือการ ไม่เกิด ไม่ดับ นั่นก็คือพระนิพพาน หากท่าน จขกท ตั้งใจปฏิบัติก็นำภาพพระมาจับได้เลย แต่ต้องไม่ลืมศีล 5 ต้องปฏิบัติให้ได้ทุกข้อ มีความเพียร ทำอย่างสม่ำเสมอ แล้วจิตจะพัฒนา ขอให้เรามุ่งมั่น เดินสายกลาง อย่าอยาก แล้วจะพบธรรม ขออนุโมทนา
     
  6. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ขออนุโมทนาสาธุครับ ช่วยได้เยอะเลยครับ
    ขอบคุณอย่างจริงใจครับ
     
  7. ไทยเบล

    ไทยเบล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +449
    คุณธรรมมะนําสุข วิธีการจับภาพพระ ก่อนอื่นก็ให้เลือกภาพพระภาพใดภาพนึง

    ที่เราชอบ พอใด้ภาพพระแล้วก็ให้มองภาพพระด้วยใจสบายๆ อาจจะมองทั้งองค์พระ

    หรือส่วนใดส่วนนึงขององค์พระ ก็ใด้อาจจะเป็นช่วงพระพักต์ แขน ขา บ่า จมูก

    ส่วนใดส่วนนึงก็ใด้ทั้งนั้น ขอให้ความรู้สึกเราๆรู้ว่า นั่นคือพระ

    พอมองไปเรื่อยๆ จิตเราละเอียดขึ้น เดี๋ยวภาพพระก็จะเปลี่ยนไปเอง

    แต่ก่อนอื่นต้องวางความอยากลงก่อนนะคะ อยากเห็นโน่นเห็นนี่

    ยิ่งอยากยิ่งจะไม่ใด้นะคะ เอาคร่าวๆแค่นี้ก่อน ถ้าอยากรู้ลายละเอียด

    ลองเข้าไปอ่านในกระทู้(จิตพร้อม รับภัยพิบัติ)ในห้องภัยพิบัติและการเตรียม

    การฯดูก่อนก็ใด้ค่ะ
     
  8. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +3,776
    โดยทั่วไปแล้วให้จับพระรูปพระโฉมทั้งองค์ครับ

    ส่วนภาพลอย นั่นคือภาพติดตา ซึ่งในทางปฏิบัติจะไม่ใช้ภาพนี้
    จะใช้ภาพติดใจ หรือใช้สัญญานั่นเอง
    เอาง่ายๆ ลองนึกถึงหน้า คุณพ่อ คุณแม่ หรือเพื่อนออกมั้ย
    นึกเอานะ
    อาการภาพพระที่ใช้กันก็เหมือนกัน คือนึกเอา นึกแล้วจับภาพไว้
    จริงๆแล้วสมัยวัยรุ่นเราใช้กันบ่อยมากในการจับภาพแฟนขึ้นในใจ
     
  9. toseal

    toseal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +618
    เป็นอย่างที่พูดเลยครับถ้าเราพยายามเพ่งที่ภาพจะไม่ได้อะไรเลยครับ
    ผมก็เริ่มฝึกเหมือนกันครับ
     
  10. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ถ้าจริตเราเหมาะกับแนวนี้แนะนำไปที่กระทู้นี้เลยครับ
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ถ้าแบบใช้ญานดูก็ต้องได้ฌาน4 แล้วใช้กำลังฌานในการดูจะเห็นว่าใครสร้างพระ อายุกี่ปีสมัยไหน พิธีกรรมเป็นยังไง ของจิงหรือของปลอม ผู้สร้างญานฌานแก่กล้ามากไหม ไม่เฉพาะดูแต่พระ ยังดูวัตถุของคลัง หิน เหล็กไหลได้ และ จะสามารถดูของหายคนหาย เห็นจิตและความคิดผู้อื่นได้ถูกต้องเท่านั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2012
  12. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ยิ่งมีความอยากยิ่งไม่เห็นคับ ต้องจิตเป็นอุเบกขา และ มีญาน ฌานแล้ว ไม่งั้นยากคับที่จะเห็น
     
  13. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
     
  14. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
     
  15. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ผมเพิ่งมาอ่านซ้ำอีกยิ่งมีกำลังใจในการบฎิบัติมากขึ้นครับ
    ขอโมทนาในความเมตตาของทุกๆทานที่ชวยชี้แนะครับ
     
  16. kamol9

    kamol9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2010
    โพสต์:
    609
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ก่อนอื่นขออนุโมทนาสาธุกับท่านเจ้าของกระทู้เป็นอย่างยิ่งครับ ที่มีความเพียรในการปฏิบัติกสิณภาพพระ......

    ผมคือคนนึงที่ศรัทธาและมีปฏิปทารักในการเพ่งภาพพระเช่นกัน ทุกสิ่งที่ผมตอบคือความรู้ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ(ลพ.ฤาษี)ท่านเมตตาสอนสั่งมา ขอให้ท่านจขกท. สบายใจในการรับทราบว่าผมไม่ได้ดั้นเมฆหรืออาศัยภูมิปัญญา(อันน้อยนิด)ของตนเองมาเเนะนำท่านเลย ความจริงผมพิมพ์ช้ามากและไม่สะดวกเข้า web บ่อยๆ...แต่เห็นใจเหลือเกินกับการที่พอเริ่มจับภาพพระเเล้ว อาจเกิดปัญหาหรือคำถามที่ไม่รู้จะหาใครชี้เเนะได้ตรงทาง(นึกถึงตนเองในสมัยก่อน.....)
    ขออกตัวว่าผมขออนุญาตไม่มีวาทะตอบโต้กับท่านที่มีความเห็นต่างจากผม เพราะไม่ต้องการสร้างกรรม"สงครามkeyboard"กับใคร...ขออนุญาตสื่อสารกับท่านจขกท เป็นหลักเท่านั้น จริงๆผมอยากจะตั้งกระทู้แนะนำเรื่องการจับภาพพระโดยเฉพาะ แต่ยังไม่มีจังหวะสักที...

    ขอตอบ + แนะนำเป็นข้อๆดังนี้ครับ....
    1) ลพ. ท่านเเนะนำให้"จับภาพพระทั้งองค์"ทีเดียวเลยครับ ไม่ต้องจับทีละส่วนเช่นจับพระพักตร์เเล้วก้อไล่ลงมาเรื่อยๆ....ผมลองปฏิบัติดูจึงทราบว่าสะดวก + ร่นเวลาที่เราจะค่อยๆไล่ทีละส่วนไปเยอะ ฟังดูเหมือนว่าการจับทั้งองค์จะยากกว่าจับภาพทีละส่วนใช่มั้ยครับ แต่ในการปฎิบัติจริง จะพบว่าไม่ได้ต่างกันเลย
    2) ท่านเเนะนำให้ภาวนา + จับภาพพระ + จับลมหายใจ ในคราวเดียวกันได้เลยครับ....จริงอยู่ว่าหากเรารู้สึกว่ายากไปนิด อยากลดลงเหลือเเค่ทำอานาปาให้ชินก่อนแล้วค่อยมาจับภาพพระหรือจับภาพพระให้ชินก่อนแล้วค่อยเพิ่มอานาปาทีหลัง เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะในกรรมฐาน 40 ท่านขึ้นต้นด้วยกสิณก่อน โดยเราสามารถทำกสิณโดยไม่ร่วมกับการทำอานาปา ลพ.ท่านบอกว่าเราจะทำแค่กสิณก่อนโดยไม่ทำอานาปาก็ได้แต่"หากทำร่วมกับอานาปาได้จะดีมาก....เพราะจะได้ฌานเร็ว!!!" ผมจึงขอแนะนำว่าหากคุณจขกท. เห็นว่าไม่ยากจนเกินไปนัก ก็ทำควบกันได้ครับ เพราะจากสถิติของคนที่ผมสอนให้ทำ 3 อย่างนี้ควบกันจะขลุกขลักแค่ไม่เกิน 7 วันครับ(เเต่ของผมจะให้คนที่มาปฏิบัติท่องคาถาเงินล้านไม่ใช่พุทโธ ซึ่งจะยากกว่าพุทโธเยอะเพราคาถาจะยาวกว่า แม้กระนั้นทุกคนก็ทำได้ในที่สุดครับ เเละจิตมั่นคงดีเหลือเกิน)
    3) คำถามเรื่องภาพพระที่เราจับนี่หมายถึงเรานึกถึงภาพเองหรือภาพลอยมาเป็นคำถามที่ดีมากครับ....หลายคนเข้าใจผิดข้อนี้เยอะมาก ขอตอบว่าการเริ่มฝึกกสิณคือ"การมองภาพ + หลับตา + นึกถึงภาพนั้น+ พอภาพเลือนไปจึงลืมตามามองใหม่" ดังนั้นคำตอบคือ...เราต้อง"นึกถึงภาพเองครับ" ลพ. ท่านย้ำเหลือเกินว่า"ไม่ใช่ภาพลอยมา"!!!เราต้องนึกถึงภาพ......(เเต่มหัศจรรย์มั้ยครับ พอเราได้อุคหนิมิตคือนิมิตติดตาเเล้ว ภาพจะปรากฎเอง ไม่ใช่ภาพที่เราพยายามนึกแล้วครับ แต่เป็นภาพลอยเข้ามาในจิต)

    เดี๋ยวส่วนเพิ่มเติมนอกเหนือจากคำถามของจขกท แต่ผมเห็นว่ามีประโยชน์ ผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ(หากมีโอกาส)

    หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้าง...โมทนากับท่าน จขกท ด้วยครับ :)
     
  17. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ผมขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ ขออนุโมทนา
     
  18. ธรรมะนำสุข

    ธรรมะนำสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +606
    ขอบคุณครับ ขอโมทนา
     
  19. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ถ้ายังไม่เคยมโณยิทธิ อาจจะทำกสิณพระค่อนข้างยากนิดหน่อยคะ เรื่องกรรมฐานนี้ดิฉันได้มาค้นพบด้วยตัวเอง่าเป็นเรื่องพื้นฐานอารมย์ล้วนๆว่าจะทำให้สำเร็จในการเห็นนิมิตช้าหรือเร็ว ถ้าลองยังมี ความรักในเพศตรงข้าม รักสวยรักงาม มีความห่วงในภาระหน้าที่ มีจิตนการอารมย์ศิลปิน พวกนี้ถ้ายังมีอยู่เพียงน้อยนิด ต่อให้ช่วงที่เราทำกรรมฐาน เราคุมชั่วคราว จิตจะว่างได้เพียง ไม่กี่วินาที มิใช่ว่างอย่างแท้จริง แค่รักษาอุปจารสมาธิ ให้นานชั่วโมงนึงนี้ถ้าทำได้ก็ยากแล้ว ขอแนะนำให้มาลองฝึกกสิณสีก่อนจะง่ายกว่า เพราะมีตัววัตถุให้จับจะถูกจริตกับผู้ที่ยังทำจิตให้ว่างไม่ได้ ลองสักเดือนสองเดือน จิตจะติดว่างเร็ว และทำให้กิเลสลดลงไปเองอัตโนมัติ ทีนี้การเข้าฌาณจะง่ายขึ้น พอจิตติดว่างเป็นอารมย์แล้วทีนี้ กรรมฐานกองไนๆจะทำได้หมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2013
  20. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ข้อนี้ ให้ระวังให้มาก จิตติดว่าง คือทางไปสู่ความฉิบหาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...