สอบถามอาการสมาธิ ไม่ทราบว่าหลงทางหรือเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชั่งเถอะ, 29 ธันวาคม 2017.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ดูกิเลสสังโยชน์เป็นหลักค่ะ ตัวเจ้าของย่อมรู้ดีกว่าใคร สภาวะมีเกิดมีดับ แต่กิเลสสังโยชน์ถ้าขาดแล้วขาดเลย ไม่กลับมาอีกค่ะ
     
  2. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ช่วงนี้ก็ลองทรงอารมณ์พรหมวิหาร 4 ไปก่อนนะครับ ตั้งแต่เมตตาไปจนถึงอุเบกขา
    ฝึกตามจริตของตัว
    หลังจากทรงพรหมวิหาร 4 ไปสักพัก ต่อไปจะมีอาการเบื่อเกิดขึ้น ช่วงนี้ให้ตั้งสติให้ดี
    ยอมรับให้ได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม ยังไงก็ต้องรับต่อไป ยอมรับให้ได้ว่าสักวันเราต้องตายจริงๆ
    ทุกคนล้วนต้องตาย

    เล่านิทานสักเรื่อง

    สำหรับผู้ที่มีความชำนาญในสมาธิ เมื่อฝึกต่อไปเรื่อยๆ กำลังของฌาน 4 จะมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนจะเริ่มได้ยินเสียงรอบตัว ทั้งๆที่ไม่ได้ถอยฌาน เมื่อทรงอารมณ์พรหมวิหาร 4 ในชีวิตประจำวันไปสักพัก จะเกิดอาการเบื่อขึ้น และเมื่อตัดลงสถานะปกติได้แล้ว ยอมรับในผลแห่งกรรมแล้ว
    เมื่อเข้าสมาธิ ฌาน4 จะมีกายทิพย์ปรากฏ สำหรับขึ้นหมวด อรูปฌาน

    เมื่อไรที่ท่านถึงการณ์นี้ ให้ส่งข้อความมาครับ สำหรับท่านผ่านได้สบายครับ
    อย่าลืม อุทิศ บุญ กุศล บ่อยๆล่ะ
     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



    อันนี้ถูกต้องที่สุดครับ เพราะสุดท้ายแล้ว เค้าจะวัดกันที่
    ตัดสังโยชน์ เครื่องรัดคอ ได้ถูกต้อง หรือ เบาบาง ไหม
    หากตัดได้บ้างแล้ว คือ โสดาปัตติมรรค สังโยชน์ข้อนั้น
    ก็จะเบาบางลง จนเกือบจะขาดแล้ว แต่ยังไม่ขาดสะบั้น
    ผู้ที่จะตัดขาดสะบั้น จะต้องเป็น พระโสดาปัตติผล เท่านั้น
     
  4. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คนที่ชอบบอกคนอื่นสมาธิระดับเด็กน้อยนี้ถามตัวเองบ้างนะครับลดละเลิกอะไรได้บ้างมั้ย. เพราะคนที่มีสมาธิระดับสูงๆ. เขาเลิกอะไรได้เยอะแล้วนะ. อย่างพวกฤษีนะ
     
  5. บ้านแสนสุข

    บ้านแสนสุข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +453
    สาธุ ๆ ๆ ครับ
     
  6. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ หลังจากผ่านมาหลายวัน อาการหลงเริ่มจางลงครับ แต่จะเป็นมากเท่าเดิมตอนเข้ากรรมฐานครับ พอออกจากกรรมฐาน อาการหลงก็บางลง แต่ยังไม่หายครับ

    หลังวันตั้งกระทู้ได้ 1- 2 วัน มีความแปลกใหม่เพิ่มขึ้นมาครับคือ เราเข้าสมถะ จนสุด แล้วเหมือนทุกวัน กำลังจะถอยออกจากฌาน เพื่อจะเข้า วิปัสนา มีความรู้สึกจะปวดหัวตุบๆ ขึ้นมาเล็กๆ ทั้งที่เราผ่าน ปิติมาแล้ว ผ่านสุข มาแล้วไม่น่าจะมีอาการของปิติเกิดขึ้นอีก จึงกำหนดดู กลายเป็นปวดมากยิ่งขึ้น เหมือนมีของวางทับอยู่บนหัวและบีบเหมือนหัวจะแตกออก แต่จิตไม่ทุกข์ตามนั้นนะครับ รู้สึกว่าเราจะตาย แค่รู้ตามว่ามันเป็นแบบนั้น จนผ่านไปซักพัก คิดว่าจะตายก็ตาย ยอมตาย มันก็ทะลุออก แล้วหัวก็โล่งเลยครับ แล้วหลังจากออกจาก กรรมฐาน เริ่มนั้นรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรสักอย่างที่กลางหน้าอก จับได้ไม่ชัด แต่มีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม คือมีก้อนความสุข อยู่กลางอกอยู่ตลอด อธิบายไม่ถูก จะอุ่นหรือเย็น แยกไม่ออก ครั้งแรกคิดว่าเป็นอาการติดออกมาจาก กรรมฐาน คงจะโดนอะไรหลอกลวงซักอย่างจึงไม่ได้สนใจ สักพักน่าจะหายเอง แต่กลายเป็นมันยังอยู่ตลอดจนวันนี้ น่าจะ 7 วันได้แล้ว

    ภายหลัง อาการปวดหัวก็ยังมีอยู่ตอนนั้งกรรมฐานแล้วสังเกตุดู แต่น้อยมาก แทบจะจับไม่ได้ พักเดียวแล้วก็หายไป

    เป็นอาการ บ้าแบบใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 อย่าง

    วันนี้ผมตัดสินใจจะหยุดนั้งกรรมฐาน ดู จนกว่าอาการต่างๆ เหล่านี้จะหมดไปก่อน แล้วถึงจะกลับมานั้งปฏิบัติใหม่ครับ หรือท่านที่กรุณา พิจารณา วิเคราะห์ ให้ผม ท่านมีวิธีอื่น อีกหรือไม่ ที่ไม่ต้องหยุด นั้งกรรมฐาน เพื่อวิเคราะห์ ถึงสาเหตุต่างๆ เหล่านี้ เพราะ จริงๆ ผมก็ไม่อยากหยุดทำความเพียรเลยซักวัน

    ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยพิจารณา วิเคราะห์ให้ครับ ขอให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงนิพาน ในเร็ววัน ..... สาธุ
     
  7. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คุณไม่จำเป็นต้องเลิกนั่งกรรมฐานหรอกครับเพียง เดินจิตใจใหม่ ตามเห็นการเกิดดับ ของรูปและนามเท่านั้น ด้วยการดูลมหายใจ เข้าออกมันเกิดดับมั้ย ลมหายใจเปลี่ยนแปลงมั้ย เราไม่หายใจได้มั้ย ถ้ามันเกิดดับ ถ้ามันเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่หายใจไม่ได้ ก็แสดงว่าจิตรู้ตรงลักษณะความจริง คือกายนี้ไม่ใช่เราบังคับบัญชาไม่ได้เลย มันเป็นของมันแบบนั้นตามธรรมชาติคือ เป็น ขันธ์ ธาตุ อายตนะ เมื่อจิตวางถูกทางสัมมาสมธิมันจึงเกิด เมื่อมันเกิดเราจะไม่สงสัยอะไรทั้งนั้นเลยด้วยจิตใจที่ยอมรับความเป็นธรรมชาติในตัวมันเอง ที่หลายๆท่านสงสัยอย่างนั้นอย่างนี้เพราะขาดการเข้าใจในอริยสัจเป้าหมายการปฎิบัติยัวไม่ตรง ในสมาธิที่เป็นมิจฉาสมาธินั้นะมีเรื่องราวมากมายจนทำให้ผู้ปฎิบัติออกนอกแนวกันมาก ได้ฤทธิ์ทำอะไรได้ที่วิเศษกว่าคนปกติแต่นั้นอันตรายมากๆยิ่งออกห่างจุดหมายไปไกลมาก บางคนถึงกลับเข้าฝั่งไม่ได้เลยในชาตินี้
     
  8. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    สมาธิมีระดับ ต้น กลาง สูง
    ฌานทุกระดับ ก็คือ สมาธิขั้นสูง
    ดังนั้น ฌานไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง


    ตอนนี้อย่าว่าแต่คนทั่วไปเลย แม้แต่คนที่ยังไม่เข้าใจธรรมะมากนักก็รู้แล้วว่าฌานมีจริง
    เพราะคนเหล่านี้เริ่มเชื่อแล้วว่า ปาฏิหาริย์มีจริง ๆ
    ปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมี ศีล สมาธิ และ ปัญญาในระดับหนึ่ง
    ถึงจะสามารถทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้
    และสิ่งที่ทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ฌานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
    ดังนั้น ในตอนนี้คนที่รู้ว่าปาฏิหาริย์มีจริงนั้น มีมากแล้ว
    เพียงแต่ยังรู้แค่นั้น ไม่สามารถรู้ได้ว่า ในเมื่อมีปาฏิหาริย์แล้ว บาปบุญก็ย่อมมีจริงไปด้วย

    ดังนั้น เรื่องของฌานสมาบัตินั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ

    ส่วนถ้าถามว่าทำยังไงถึงจะรู้ว่าไม่หลง
    อันนี้ก็ต้องขอบอกเป็นกลาง ๆ ไว้ เพราะผมเองก็ยังหลงอยู่ แต่พอรู้แนวทาง
    คือ เมื่อใดก็ตามที่เราทรงฌาน รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ปรากฏ ตอนนั้นเราไม่หลงแน่
    และถ้าเราไม่ทำไปเพื่อยกตนข่มท่าน เวลานั้น เราก็ไม่หลง

    ถ้าจะให้ชัวร์ ก็มุ่งเข้าตัดสังโยชน์ 10 ไปเลย คือ

    1. รู้สึกนึกถึงอยู่เสมอว่า ร่างกายของเรานี้ยังไงก็ต้องตายแน่ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
    2. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจตลอดเวลา
    3. มีศีล 5 ครบ
    4. ตั้งใจว่าตายเมื่อไหร่ ขอไปพระนิพพาน


    ถ้าจะให้ดีก็นึกถึงภาพพระไว้เสมอด้วยครับ
    แบบนี้ รับรองไม่หลงชัวร์ ถ้าตั้งใจจะไปจริง ๆ ไม่มีหลงครับ
     
  9. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    การที่จะไม่หลงมีทางเดียวคือเห็นไตรลักษณะเท่านั้น
     
  10. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ขอบคุณ ทุกท่านครับ ที่เข้ามาให้คำตอบในสิ่งที่ผมสงสัย การไม่มีครูบาอาจาร์นี้ ทำให้ก้าวหน้าได้ลำบาก ในการหาคำตอบหลายอย่างครับ ผมไม่ได้ศึกษา ในบาลี หรือ อรรถคาถา เลย ผมเป็นคนโง่ จึงต้องใช้ความพยายามเยอะ กว่าคนอื่น

    วันนี้อ่านเจอแล้วครับ วิปัสสนูปกิเลส 10 ประการ เป็นอาการในตอนนี้ โดน ไปแล้ว 4 ตัว จาก 10 จากหน้านี้

    http://palungjit.org/threads/สอบอารมณ์ตนเองเมื่อปฏิบัติธรรม.614791/

    ขอบคุณผู้เขียนไว้อย่างมากครับ เป็นบุญกุศล ของท่านผู้นำมาเผยแพร่ จริงๆ ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ

    เป็นความสุขใจอย่างมาก เพราะ ผลในการปฏิบัติ มีการก้าวหน้ามาโดยลำดับ ถึงจะช้า แต่ก็ก้าวหน้า

    ต้องค่อยๆ แก้ไขไปเป็นลำดับ

    ธรรมใดๆ ที่ท่านทั้งหลาย มุ่งหวัง ขอให้ธรรมนั้นถึงแก่ท่านทั้งหลายและตัวข้าพเจ้าเทอญ

     
  11. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ฝึกสติปัฐฐานครับ
    ท่านอยากเห็นผลของสมถะใช่ไหมครับ
     
  12. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แต่ก่อนผมก็เคยโง่ มาก่อนครับ การมีครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้รู้ อริยเจ้า ช่วยได้มากครับ พึ่งมาหายโง่ ด้วยอวิชาของตัวเอง ไม่กี่ปี พยายามเข้าครับ
     
  13. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ณานในอานาปานสติ มีลมหายใจเป็นรูป คุณเข้าไปรับรู้ของอารมที่เกิดขึ้นในขณะทำกรรมฐาน และรับรู้ความสงบระงับไปของนิวรแล้ว จิตมีความนิ่งตรงนี้จิตเริ่มรวมตัวครับเข้าสู่อัปปานาสมาธิ คือมีจิตตั่งมั่นในอารมเดียวคืออุเบขขารม เอคตารมณ์ ตรงนี้จะเป็นความสงบนิ่งเฉยๆ ท่าเข้าสู่ณานที่ลึกลงไปเช่น 1 2 3 4 ก้จะสงบนิ่งไม่ไหวติง หากคุณย้อนกลับมาที่ความคิดไตร่ตรองก้กลับมาสู่ณานที่ 2 1 เป็นลำดับ

    จิตที่มีสติกำจัดระงับนิวรลงแล้วครับ มีความสุขสงบอยู่มีความรู้อยู่ คือมีสติกำกับอยู่สามารถนึกคิดพิจารณาทุกๆอย่างได้เป็นอย่างดีโดยไม่ถูกสิ่งอื่นใดๆรบกวนได้ ลองพิจารณาสติตรงนี้ในสมาธิดูนะครับว่าเมื่อน้อมนำไปเพื่อสิ่งใดก้ง่ายและไม่มีสิ่งใดเข้ามาแทรกมารบกวนได้เลยเห็นอาไรก้เด่นชัดตรงนี้เป็นปฐมณานครับเป็นสมาธิที่มี สติ กำกับพร้อมใช้งาน

    ใช้ปฐมณานนี้ครับที่มีสติพร้อมแล้วสานต่อกันจนเป็นสมาธิพิจารณาธรรม หรือการธรรมวิจัย การโยนิโสมนสิการ คือการไตร่ตรองใคร่ครวนทบทวนในใจ ทำไว้ในใจ พิจารณาด้วยกำลังสติสมาธิที่ปฐมณานนี้ครับเป็นการทำ ธัมมวิจย

    หากท่านน้อมนำสติ ไปพิจารณา นิวรณ์ ใช้สติ ธัมมวิจย ลงในนิวรณ์ ท่านก้จะเห็นว่าจิตของท่านนั้นมีนิวรณ์ ใดอยู่บ้าง นิวรณ์นั้นสงบระงับไปหรือยัง เห็นโทษของนิวรณ์ ละเสียซึ่งนิวรณ์ออกไปจากจิต ด้วยความเพียรพยามตรนี้ท่านกำลังใช้ความเพียร
    วิริยะ

    จิตมี สติ มี ธัมวิจย มีวิริยะ ลงในธรรม จะเป็น นิวรณ์ ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ก้ตาม พิจารณาให้เห็นความจริงให้ปรากด ในความไม่เที่ยง เป็นทุขขัง เป็นอนัตตา ในทุกๆส่วนส่วนไหนยังไม่รู้เห็นจริงก้ใช้ สติ ธัมมวิจย วิริยะ ในไตรลักษณ์ ดำเนินต่อไปเรื่อยๆในสมาธิ เมื่อธรรมเหล่านั้นถูกพิจารณาจะรู้เห็นในความจริงแล้วจะเกิด ปิติ อันไม่ได้ประกอปด้วยอามิส หรือไม่ประกอปด้วยกิเลศ ไม่ใช่ปิติในณาน ในการทำสมาธิไม่ใช่ปิติ ชนิดต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยกิเลศ แต่เป็นความอิ่มเอิบใจรงนี้จะเกิด ปีติสัมโพชฌงค์

    เมื่อปิติสงบระงับลงการเฟ้นธรรมนั้นกระจ่างแล้วก้จะเกิด
    ปัสสัทธิ ความสงบกายสงบใจขึ้นเกิด สมาธิ มีความตั่งมั่นของจิตและมี อุเบขขา เกิดขึ้นไม่ใช่อุเบขขาเช่น อทุขมเวทนา ไม่ใช่อุเบกขาในณานนะครับ แต่เป็น อุเบกขาสัมโพชฌงค์ เพราะมีใจเป็นกลางด้วยรู้เห็นธรรมตามความเป็นจริง ปัญญา หรือความรู้ความกระจ่างที่เกิดขึ้นในการตั้ง สติ ธัมมวิจย วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ จนเกิดอุเบขขา ในธรรมนี้จัดเป็น โพชฌงค์ 7 ครับท่านก้จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมที่เกิดจากการปติบัติครับ
     
  14. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ต่อนะครับ จากโพชฌงค์ 7 ที่กล่าวไปแล้ว ใช้สติปัฐฐาน ลงในฐานกาย พิจารณา ธาตุ ขันธ์ อายตนะ พิจารณาในไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุขขัง อนนัตตา เห็นความไม่เที่ยงในกาย ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของๆตน ไม่มีในตน กายนี้บังคับบันชาไม่ได้ เห็นภัยในกายแล้ว พิจารณาไปด้วย สติ ธัมวิจย วิริยะ จนเกิดปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบขขา ในความว่าง มีความว่างเป็นอารมณ์ พิจารณาความว่างตรงนี้ตัวจิตจะเด่นชัดขึ้นครับหลังจากเพิกกายออกไป ตัววิญญานจะเด่นชัดขึ้น เพราะเป็นตัวรับรู้ทุกๆอย่างจาก อายตนะ 6 พิจารณาวิญญานด้วย สติ ธัมวิจย วิริยะ ในไตรลักษณ์ ก้จะรู้แจ้งเห็นในตัววิญญานว่าไม่ใช่ตน ไม่เป็นของตน ไม่มีในตน จนเกิด ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และวางเฉยที่อุเบขขา ละวิญญาน ลงจิตก้จะเหลือ สังขารธรรม สัญญา พิจารณา ขันธ์ ตามหลักไตรลักษณ์ ในความเป็น อนิจจัง ทุขขัง อนัตตา จิตตรงนี้จะ เป็นความไม่มีอาไรเลย มีความสว่างจ้ามาก ระวังจะหลงว่าเป็นการบรรลุนะครับ แต่เป็นการพิจารณาลงสู่อรูปณาน เท่านั้น ในส่วนนี้กำลังของกิเลศนั้นสงบระงับไปแล้ว เหลืออยู่ในความยึดมั่นในขันธ์ในจิต พิจารณาด้วยธรรมมาสติปัฐฐาน ก้จะรู้เห็นด้วยตนเองครับ
    อาการที่กายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆนั้นจิตกำลังจะลงสู่อรูปคับที่เกิดกับคุณใครไม่เคยมาถึงตรงนั้นจะไม่รู้ว่าอาการนั้นเป็นอย่างไร
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เห็นไตรลักษณ์. ในอานาปานสติอย่างงไรครับ
     
  16. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ใช้อานาปานสติเป็นตัวเริ่มเข้าสู่สมาธิครับให้สติมีกำลังสานต่อเนื่องเพื่อน้อมนำไปพิจารณา ธาตุ ขันธ์ อายตนะ นิวรณ์ ใช้ไตรลักษณ์พิจารณาลงใน รูป เวทนา จิต ธรรมครับ
     
  17. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ปัญญารู้อะไรในอานาปานสติ ข้อแรกที่พิจารณากายครับ
     
  18. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เธอมีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า.
    เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า หายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้ายาว.
    เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจออกสั้น เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้าสั้น.
    ย่อมสำเหนียกว่า

    จักกำหนดรู้กองลมทั้งปวง จักระงับกายสังขาร จักกำหนดรู้ปีติ จักกำหนดรู้สุข จักกำหนดรู้จิตสังขารจักระงับจิตสังขาร จักกำหนดรู้จิต จักทำจิตให้ร่าเริง จักดำรงจิตมั่น จักเปลื้องจิต จักพิจารณาโดยความเป็นของไม่เที่ยง จักพิจารณาธรรมอันปราศจากราคะ จักพิจารณาธรรมเป็นที่ดับสนิท จักพิจารณาธรรมเป็นที่ สละคืน

    แบ่งเป็นส่วนของสมถะและวิปัสนาครับ
     
  19. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ปัญญารู้อะไรตรงไหนบ้าง
     
  20. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ตรงสมาธิที่แนะนำไปนี้เป็นไปตามหลักสติปัฐฐานและโพชฌงค์ 7 ครับ กำลังของการ ใช้ สติ ไปธัมวิจย วิริยะ ในกายนี้ บางท่านนั้นสามารถ เห็นตามไตรลักษณืได้ถึงขั้น ดับกิเลศได้เลย คือเห็นความไม่เที่ยงในกาย เห็นความไม่เป็นตนในกาย เห็นความไม่ใช่ตนในกาย เห็นความไม่มีตนในกาย ตามหลักสัมมาฐิทิ แต่หากไม่รู้แจ้งเห็นจริงจนเกิด ปิติสัมโพฌง อันเป็นอริยะมรรคที่ดับปติคะและเกิด ปัสสัททิโพฌงค์ ที่ดับราคะ ก้เป็นเพียงเกิดอรูปณานธรรมดาครับแต่สำหรับท่านที่มีกำลังของ สติ ธัมวิจย วิริยะ ได้ถูกส่วนตรงนี้ ปิติ และ ปัสสัททิ ของโพฌง ก้จะดับ ราคะ และปติคะลงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...