สอบถาม มโนมยิทธิ ครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Shinjang2545, 2 มิถุนายน 2017.

  1. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    คือ ผมสนใจการฝึกมโนมยิทธิ ก็เลย ไปดูวิธี ฝึก ในยูทูป มา ภาวนา จับลมหายใจ จับภาพพระ แต่เนื่องจาก เราเคย เห็นภาพ พระ หลายแบบ ภาพก็เปลี่ยน ไปบ้าง ก็เลยอธิษฐาน ขอดูสวรรค์ แล้วซักพัก ภาพก็เปลี่ยน ไปเป็นปราสาท มียอดแหลม ระยิบระยับ มีทางเดิน ทางเข้า เป็นบันไดสีแดง ๆ บางครั้งรู้สึกเหมือนว่า บันไดมันไหลไป บางครั้งเห็นผู้หญิงคนนึง ใส่สไบใส่ผ้่าถุงนั่งอยู่บนแท่น บางทีเห็นพระพุทธรูปแก้วนั่งอยู่ในโถงกว้างๆ ไม่รู้ว่าที่เห็นไปนี้ มันคือการอุปทานไปเองหรือเปล่า ครับ ไม่ค่อยแน่ใจ ว่าทำถูกหรือเปล่า
     
  2. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    ที่ว่าเห็นสีแดงนิ เห็นจริงๆใช่ไหมครับ หรือคิดว่าเป็นสีแดง
    แล้วสิ่งอื่นที่เห็นนิมีสีไหมครับ ผู้หญิงใส่สไบใส่ผ้าถุงนิ เห็นไหมครับว่า สไบสีอะไร ผ้าถุงสีอะไร
     
  3. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ทางเดินเป็นสีแดง ผู้หญิงใส่ชฎา สไบเป็นคล้ายๆ เลื่อม ระยิบระยับ ผ้าถุง ไม่ค่อยแน่ใจ ครับ
     
  4. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    แล้วสีของ สไบ ผ้าถุงและอื่นๆล่ะครับ เห็นไหม...
    คร่าวๆคือ ความคิดจะไม่มีสีนะครับ
     
  5. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    อ๋อ หมายถึง ถ้าเป็นอุปทานจะไม่มีสี ใช่ไหมครับ
     
  6. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าเราเห็นสีครบถ้วน แสดงว่าใช้ได้ หรือเปล่า คับ
     
  7. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    ผมไม่ได้ฝึกมโนมยิทธินะครับ ผมจึงไม่อาจจะตอบข้อนี้ได้เพราะผมก็ยังไม่เคยเห็นสวรรค์เหมือนกัน 555
    แต่ถ้าเห็นสีครบถ้วนไม่ขาดตอนนิ ไม่ใช่อุปทานแน่นอน แต่คืออะไรนิผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
    ต้องให้ท่านอื่นเข้ามาช่วยตอบแล้วครับ
     
  8. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณครับ ผมก็ฝึกไปเรื่อย ละครับ ถูกผิด ช่างมัน ขอสงบสบายๆ ก็พอแล้ว ถ้าเห็นก็เป็นของแถม
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ความเข้าใจทางด้านนามธรรมต่างๆ
    ขึ้นอยู่กับกำลังสติทางธรรม
    ถ้าเห็นแล้วไม่ทราบเลย ณ เวลานั้น แสดงว่า
    เราต้องมาฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวันเพิ่มครับ...
    สติทางธรรมคล้ายๆตัวที่ทำให้เราคิดอะไรได้
    ในแบบที่ไม่ได้ลืมตาปกตินั่นหละครับ
    เข้าใจคำว่า นามธรรมนะครับ...


    และตราบใดที่ยังเห็นเป็นสีได้ ไม่ว่าสีอะไร
    แสดงว่า จิตยังมีการปรุงแต่งอยู่
    เนื่องจากสัญญา เพื่อให้ทราบหรือเพื่อบอกอะไรก็ตาม
    แต่ก็ยังเป็นการปรุงแต่ง เพราะฉนั้นเรื่องสี
    อย่าไปสนใจไม่ว่าจะเห็นสีอะไรคับ..
    และเห็นสีแล้ว รู้แล้วก็ให้วางไปเลยครับ...

    ความชัดเจนในการเห็น ขึ้นอยู่กับว่า
    จิตสามารถตัดขาดร่างกายได้มากน้อยแค่ไหน
    ดังนั้น ถ้ายังมีสี ไม่ใส ก็ควรมาเน้นเรื่อง
    วิปัสสนา เรื่องเดินปัญญาตัดกิเลสครับ
    จริงๆเรื่องนี้คือประเด็นหลัก
    เรื่อง เห็นโน้นนี่นั้น หรือเห็นแล้วคืออะไร
    คือเรื่องรอง ไม่ใช่ประเด็นหลักของวิชานี้ครับ...

    เพราะนามธรรมพิสูจน์ และรักษาให้คงอยู่
    นำมาแสดงให้คงค้างไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเน้น
    แต่ถ้าเห็นได้ รู้ได้ อะไรก็ตาม ให้ช่างมัน
    เรื่องคนอื่นๆ เห็นได้ รู้ได้ ช่างเค้า
    เอาของเราพอ

    ท่านก็จะเป็นไปตาม ปฏิปทา ของท่าน
    ผู้เผยแพร่วิชานี้เองครับ...

    ปล. ความสามารถในการเห็นได้
    แบบใช้งานได้ จะเกิดในเวลาปกติได้
    ท่านต้องเข้าถึงสมาธิในระดับ
    สูงให้ได้ก่อน และอฐิษฐานจิตในกำลังสมาธิ
    ระดับสูงให้ได้ อย่างน้อย ๒ ถึง ๓ ครั้ง
    ครั้งแรกจะยากสุด เพราะกำลังสมาธิจะตกลงมา
    แต่จะกลับขึ้นมาเองของมันอัตโนมัติพร้อมกับ
    แสดงสิ่งที่ท่านอฐิษฐานจิตได้ ส่วน ๒ หรือ ๓ ๔ ๕
    จะมาเองตามลำดับ กำลังสมาธิไม่ตก
    แต่ท่านต้องวางอารมย์เรื่อง ๒ ๓ ๔ ๕ ไว้ก่อน
    ในระหว่างวัน ไม่งั้นถ้าไปนึกเอาตอนนั้นสดๆ
    จะตกจากสมาธิกลับมาสู่ระดับลืมตาปกติทันที
    ภายในเสี้ยววินาทีครับและ
    ย้ำว่าระดับสูงนะครับ ไม่ใช่อุปจารสมาธิ
    ที่นอนๆก็ทำได้ หรือแค่รู้สึกว่า ไม่ต้องนั่งสมาธิอะไรมาก
    (หลักสังเกตุคือ ท่านจะไม่มีกำลังจิต ทำอะไรพิเศษได้
    แม้ว่าท่านจะเห็นอะไรได้ก็ตามนั้นเอง)
    ระดับสูงคือ ระดับปฏิภาคนิมิต ที่ภาพของนิมิต
    มีความสว่างในตัวมันเองนะครับ

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  10. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณครับ... อ่านแล้วสำหรับผมคงยังห่างไกล แต่ก็ภาวนาไปเรื่อย ผมชอบสวด อิติปิโส กับ จับภาพพระในใจ เวลาว่าง ก่อนนอน ตื่นนอน นั่งเล่น ส่วนการพิจารณาร่างกาย ก็พิจารณาไปเรื่อย ส่วนจะตัดได้ไม่ได้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ส่วนปฏิภาคนิมิต สมาธิขั้นสูง คงยังทำไม่ได้ครับ ขอบคุณมากครับ
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อย่าไปสับสน

    ปฏิภาคนิมิต สมาธิขั้นสูง ประเภทระลึกชาติย้อน
    หน้า ย้อนหลังได้ สี่สิบอสงไขย คุณอาจจะทำ
    ได้มาจนเบื่อแล้ว

    ระลึกชาติหน้าหลังสี่สิยอสงไขย ก้ยังชื่อว่า
    คนนอกศาสนา

    ส่วนคนในศาสนา ระลึกภาพชัดใส่แจ๋วได้ไม่
    ลำบาก ไม่ต้องเปนเรื่องราว จะทำเพียงอาสัย
    ระลึก พละบางอย่าง การที่จิตมันสงัดจาก
    อกุสลมูล จิตมันจึงเหนภาพชัดๆ แล้วก้ดับไป

    เวลาจิตมันสงัดจากอกุสล จิตมันจะมีสภาพ
    ควรแก่การงาน จิตมันรำพึงนิดเดียว เหมือน
    ไม่ได้เจตนา ภาพปราสาท เทพนิกาย ก้ปรากฏ
    แล้วก้ดับ

    ความดับไปของภพที่เคยเปน เคยอยู่ พอมันเสพ
    หรือเหน มันก้สำรอกออกทันที

    สังเกตความนิ่ง ไม่คว้ามาคิดต่อ ไม่ค้นคว้าต่อ

    เหมือนคนอิ่มข้าว จะไม่งงงวยว่า เสพอะไรไแ
    พบเหนอะไรมา

    สังเกตเหต ตรงจิตก่อนการน้อมไป จิตมีสภาพ
    สงัดจากอกุสลยังไง จิตที่น้อมไปเหนปราสาท
    เทพนิกาย ถอยกลับมา สภาพจิตหลังเหนกับ
    ก่อนเหน ราบเรียบเสมอกันไหม

    หรือมี กระเดิด ทยานอยาก กรุ้มรุม

    ก้กำหนดรู้แบบนี้ ก้จะทราบเองว่า ชำนาญจริง
    แค่ไหน และ เปนคนมีศาสนาแค่ไหน
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ทีนี้ อย่าไปวาดภาพ จิต ที่คล่อง ตรงที่
    จิตมีสภาพควรแก่การงาน น้อมไปในนิมิต
    ได้ตลอด

    จิตมันจะมีสภาพพร้อม คล่อง สลับกับ
    ไม่พร้อม ไม่คล่อง

    จิตที่เหนสภาพจิต เดี๋ยวคล่อง เดี๋ยวไม่คล่อง

    มีอุเบกขาต่อการเหน สามัญลักษณะของจิต

    ตรงนี้จะสำคัญกว่า การเหนภาพชัด หรือกระ
    ทั่งว่า ตอนนี้ไม่สามารถรู้ชัด แล้วจิตไม่ดิ้นรน

    เนี่ยะ ตรงเนี่ย คือ จิตมันคล่องต่อการเดิน
    ปัญญา มีปิติ มีปัสสัทธิ มีธรรมวิจัยยะ มีอาการ
    พ้นการเข้าหาภพ ตามๆกันไป เปนทางเดิน
    คนเดียว เอ กายา มัคโค
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ทีนี้ จิตที่อิ่มสำรอก กับ จิตที่ขี้เกียจปฏิบัติ ไม่ได้

    มันจะต่างกัน

    จิตที่อิ่มสำรอก มันจะมี รสรับรู้ที่จับต้องได้
    ว่าเสพมา

    ส่วนจิตขี้เกียจ ทำไม่ได้ มันจะมีรส ไม่เต็ม
    ไม่อิ่ม แล้ว คว้าอะไรวับๆแวมๆ มาปะผุ ติต่าง
    ว่า เหนภาพ เหนชัด เอ้อดับไป เอ้อสำรอก

    ถ้ามันมีอาการ ธรรมปะผุ นิดเดียว ต้องฉลาด
    มีปฏิภานที่จะ ไม่ไปเชือมัน กำหนดรู้มันมีในจิต
    ไม่มีในจิต

    ดังนั้น เหนจริง ทำได้จริง ก้ ยกการภาวนาได้

    เหนไม่จริง รู้ไม่จริง ไร้ความสามารถ มีแต่อาการ
    มารยา ก้ยกการภาวนาได้

    ธรรมะของพระพุทธองค์ ไม่มีขอบเขตกางกั้น

    สามารถฝึกได้ทุกรูปนาม อินทรียอย่างไร พละก้อย่างนั้น

    เหนความเปนอินทรียแบบนี้ ลัดเข้าศาสนาเข้ามา
    เลย ไม่มีพลัดวันประกันพรุ่ง อ้างความพร่อง
     
  14. Shinjang2545

    Shinjang2545 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ ต่างๆ ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...