สัมมาสติ และมหาสติ เพื่อความตื่นอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย pra_TopSecret, 8 สิงหาคม 2010.

  1. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    852
    ค่าพลัง:
    +63
    [​IMG]

    ALOHA
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าเรายังไม่ได้ละสักกายะทิฏฐิลงได้อย่างถาวร
    ก็ต้องระวัง อภิสังขารมาร เกิดเป็นอัตตา พาหลงทางได้
    ธรรมดาๆ เข้าไว้ ก็ไม่มีอะไรพาหลงทางได้ มันก็สะอาดเจริญสติปัฏฐาน ค่อยๆเลาะกิเลส
    เลาะอัตตาออกไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมันก็สะอาดก็ใสไปเอง
    คนมีแต่อัตตาใหญ่โตคับบ้าน คับห้องหับ ถือตัวเป็นเจ้าที่เจ้าทาง ก็มีแต่ความห่วง ความถือ
    ความยึดเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ มันก็หนัก มีห่วงก็พันแข้งพันขา อิสระทางใจก็ไม่มี
    ติดนู่น ติดนี่ มีแต่ความเครียดความทุกข์
     
  3. โชแปง

    โชแปง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    852
    ค่าพลัง:
    +63
    เรานี้โครตชอบอัตตา

    อัตตามันทำให้รู้จักตน รู้จักคน

    ที่ไหนมีอัตตา เราจะเขยิบปากล่วงอัตตา ล่วงใจคน

    สนทนากับคนหมดอัตตา มันไม่มีรส มันไม่เห็นตน ไม่เห็นใจตน
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ในทางโลก ใคร ๆ ก็ทราบว่า ความคิดไม่มีผิด ไ่ม่มีถูก แสดงกันให้เต็มที่เลย

    ในทางธรรม มันมีสองอย่าง ไม่ผิด ก็ถูก ไม่มิจฉาทิฐิ ก็สัมมาทิฐิ และสัมมาทิฐิ ก็เป็นองค์แรกของมรรคเสียด้วย

    คนเห็นธรรม ย่อมเห็นโทษภัยของการเกิด ไม่มีใครประมาท ใจ วาจา กาย จึงสำรวมยิ่ง เพราะการประมาทแม้เพียงนิดเดียว เพลิดเพลินนิดเดียว ก็เท่ากับเป็นการเจริญชาติภพ ซ้ำร้ายอาจเป็นการเจริญทุคติภูมิเสียด้วย

    อันกิเลสสามตัว ความหลงนี่ร้ายกาจ ขึ้นชื่อว่าหลงแล้ว ไม่มีทางรู้ตัว โกรธ โลภยังเพราะเห็นได้ แต่ถ้าเป็นหลงนี่ ไม่มีรู้ตัว ไม่มีรู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี บาป บุญ คุณ โทษ ใครเตือนก็ไม่ฟัง ใครว่าก็ไม่เชื่อ จะเชื่อใจเชื่อมั่นแต่ตัวเอง เข้าข้างตัวเองไป คิดไปเรื่อย ผิดยังเป็นเป็นชอบ ถูกก็ยังเห็นเป็นผิด

    คิดเอง เชื่อเอง หลงเอง ต้องแ้ก้เอง

    เจริญธรรม เจ้าของกระทู้ ผ่านจุดนี้ให้ได้ค่อยว่ากัน จะผ่านยาก จะผ่านง่าย ขึ้นกับตัวเองแล้ว
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    sample อัตตา พอสังเขป อิอิ
    [​IMG] .........[​IMG].........[​IMG]

    อัตตาอยู่กันครบ สนทนาแร้ว มันส์โคตรๆ อิอิ
     
  6. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    หัวใจคนนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    [​IMG]

    หัวใจคนนี้เป็นสิ่ง สำคัญมาก เพราะหัวใจนี้จะเป็นผู้สืบต่อภพชาติ ต่ำสูงดีชั่วต่าง ๆ นี้จะขึ้นอยู่กับใจ ใจขึ้นอยู่กับบาปกับบุญ ถ้าใครมีบาปมากก็กดลงให้ไปทางต่ำได้รับความทุกข์ความทรมานมาก

    ใครมีบุญมีกุศลที่สร้างไว้แล้วผู้นั้นก็มีเครื่องหนุนให้ไปสู่สุคติ คือคติที่ดีงาม คติที่มีความสุขความเจริญ คติที่สมหวังเป็นลำดับไป จนกระทั่งถึงพระนิพพาน เพราะอำนาจแห่งบุญแห่งกุศลนี้เท่านั้นเป็นของสำคัญ

    นอกนั้นช่วยไม่ได้ วัตถุดินฟ้าอากาศ ฟ้าแดดดินลมกว้างแคบขนาดไหนไม่มีความหมาย สำหรับที่จะมาหนุนใจหรือเหยียบย่ำใจของเราให้ได้รับความสุขและความทุกข์ มีบุญกับบาปนี่เท่านั้นเป็นของสำคัญ เราจึงต้องให้ระวัง

    เรื่องบาปให้พากันระวังให้มาก ให้เชื่อพระพุทธเจ้า ถ้า ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วจะเป็นคนดื้อด้านหาญทำ เวลาผลตกลงมาแล้วจะมีแต่บาปแต่กรรม หาบกันอยู่ตลอดกัปตลอดกัลป์ ไม่มีเสร็จสิ้นลงได้ อย่างนี้เรียกว่าคนดื้อด้าน

    ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้าท่านสอนว่าอย่างไรก็ให้พยายามปฏิบัติอย่างนั้น แล้วก็เป็นลูกศิษย์ที่มีครู เดินตามหลังครูคือพระพุทธเจ้าของเรา ท่านเป็นผู้วิเศษเลิศโลก เราก็เดินตามทางแห่งความวิเศษของท่าน ก็จะถึงความพิเศษเลิศเลอเหมือนกันกับท่านนั้นแล นี่เป็นของสำคัญ


    ที่มา ให้เชื่อพระพุทธเจ้า

    ที่มา นันทเศรษฐี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 สิงหาคม 2010
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คุยกับคนหนีอัตตาตัวเอง ก็ไม่มันส์ ไม่ได้อะไร เลี่ยงของตัวเองตลอด
    มันจะแก้ตัวเองได้อย่างไร มองเห็นแต่คนอื่นก็จะไปแก้ของคนอื่นอยู่นั่น
    คนโน้นก็ทำผิด คนนี้ก็ทำไม่ได้อย่างใจฉัน
    แต่ของตัวเองทำเป็นไม่มี ไม่รู้ไม่เห็นไม่เอา ผลักไสอัตตาตัวเองให้อยู่ในคุก
    แล้วบอกว่าไร้อัตตาแล้ว วันดีคืนดีอัตตามันก็แหกคุกมาปั้นจิ้มปั้นเจ๋อให้คนอื่นเขาหัวเราะ
    เป็นที่บันเทิงไป มีแต่คนอื่นเห็นอัตตาเราแต่เรากลับไม่เห็นอัตตาตัวเอง ซะงั้น อีกแระ
     
  8. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    อันนี้ เอามาแบ่งปันกัน

    เย็นวันหนึ่งพระท๊อป ขณะนั่งเป็นผู้ช่วยสอบอารมรมณ์ พระกรรมฐาน อยู่ข้าง ๆ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ ได้ยินได้ฟังเรื่องดีมา เลยนำมาแบ่งปันกัน

    ได้ยินเศษเสี้ยวหนึ่ง จากท่านมาว่า

    ลูกเอ๋ย....
    คนเห็นคน ไม่ใช่คน
    คนเห็นช้างไม่ใช่ช้าง
    คนเห็นตัวเอง ไม่ใช่ตัวเอง
    นี่แหล่ะ พระอริยเจ้า

    ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
    ประโยคดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้า
    น้ำตาไหลพรากโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้สาเหตุ

    เศษฝุ่นข้างกระโถน นำมาฝาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2010
  9. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    กระทู้นี้ไม่นานจะแสดงไตรลักษณ์ให้เห็น ดังเช่นกระทู้ก่อนหน้านี้...หุๆๆๆ
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    <DL><DD>พุทธานุญาติ ให้ วิญญูชน หรือ บัณฑิต พึง ติเตียน ภิกษุ ด้วยเหตุ 3 ประการ</DD></DL>



    <DL><DD><DD>[๒๔] ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวคำนี้ว่า ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เมื่อพระศาสดาเสด็จ</DD></DL>อยู่สงัดแล้ว สาวกทั้งหลายย่อมไม่ศึกษาความสงัดตาม ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ? ดูกรท่านผู้มี
    อายุทั้งหลาย เมื่อพระศาสดาเสร็จอยู่สงัดแล้ว สาวกทั้งหลายในพระธรรมวินัยนี้ ไม่ศึกษาความ
    สงัดตาม คือ พระศาสดาตรัสถึงการละธรรมเหล่าใด สาวกทั้งหลายไม่ละธรรมเหล่านั้น เป็นผู้มัก
    มาก ย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในการท้อถอย ทอดธุระในความสังกัด. บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุ
    ผู้เถระอันวิญญูชนพึงติเตียนได้ ด้วยเหตุสามสถาน คือ อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่หนึ่ง
    นี้ว่า เมื่อพระศาสดาเสด็จอยู่สงัดแล้ว พระสาวกทั้งหลายไม่ศึกษาความสงัดตาม อันวิญญูชนพึง
    ติเตียนได้ด้วยสถานที่สองนี้ว่า พระศาสดาตรัสถึงการละธรรมเหล่าใด สาวกทั้งหลายไม่ละธรรม
    เหล่านั้น อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่สามนี้ว่า สาวกทั้งหลายเป็นผู้มักมาก ย่อหย่อน
    เป็นหัวหน้าในการท้อถอย ทอดธุระในความสงัด. ภิกษุผู้เถระ อันวิญญูชนพึงติเตียนด้วยเหตุ
    สามสถานเหล่านี้.



    <DL><DD>บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้มัชฌิมะ อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยเหตุสามสถาน คือ</DD></DL>อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่หนึ่งนี้ว่า เมื่อพระศาสดาเสด็จอยู่สงัดแล้ว สาวกทั้งหลาย
    ไม่ศึกษาความสงัดตาม อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่สองนี้ว่า พระศาสดาตรัสถึงการ
    ละธรรมเหล่าใด สาวกทั้งหลายไม่ละธรรมเหล่านั้น อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่สามนี้ว่า
    สาวกทั้งหลายเป็นผู้มักมาก ย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในการท้อถอย ทอดธุระในความสงัด. ภิกษุผู้
    มัชฌิมะ อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยเหตุสามสถานเหล่านี้.



    <DL><DD>บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้นวกะ อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยเหตุสามสถาน คือ</DD></DL>อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่หนึ่งนี้ว่า เมื่อพระศาสดาเสด็จอยู่สงัดแล้ว สาวกทั้งหลายไม่
    ศึกษาความสงัดตาม อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่สองนี้ว่า พระศาสดาตรัสถึงการละธรรม
    เหล่าใด สาวกทั้งหลายไม่ละธรรมเหล่านั้น อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยสถานที่สามนี้ว่า สาวก
    ทั้งหลายเป็นผู้มักมาก ย่อหย่อน เป็นหัวหน้าในการท้อถอย ทอดธุระในความสงัด. ภิกษุผู้นวกะ
    อันวิญญูชนพึงติเตียนได้ด้วยเหตุสามสถานเหล่านี้.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2010
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    แสดงไตรลักษณ์ ได้ย่อมเป็นผลดี อิอิ
    ไตรลักษณ์ไม่มีให้เห็น นิพพานก็ไม่มีให้สัมผัส เหมือนกัล
    เราชอบไตรลักษณ์ มาให้เห็นบ่อยๆ สิดี ถ้าจะกอดไตรลักษณ์ไว้กับตัว
    จะให้มันเที่ยงตลอด ก็เมื่อยอะดิ พอเมื่อยก็ลืมตัว พอลืมตัวก็หลง
    หลงแล้วก็ไม่รู้เพราะขาดสติมันเอาแต่อร่อยในรสของกิเลสตัณหาพาเพลิดเพลิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2010
  12. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    สัพเพธัมมา อนัตตา
    ธรรมทั้งหลายไม่มีตัวตน

    ทุกสิ่งในเนื้อนี้จึงเป็นไตรลักษณ์
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อาศัยความที่ พระท๊อป ภิกษุนวกะ ผู้นี้ กล่าวเช่นนี้ว่า

    "เราเป็นผู้ที่ปราถนาพุทธภูมิ"

    และ อาศัยความที่ว่า ผู้บวชสู่ร่มกาสวภัทร ทุกรูป ต้อง ปรวนาการทำ
    "นิพพานให้แจ้ง"

    ความประสงค์อันภิกษุผู้นี้ประกาศให้หลงเชื่อ หลงไหล เพื่อ สลับ ภาระกิจ ของการ
    บวชให้พ้นไปเสียจากการเป็น ธุระ ใหญ่ จึงอาศัยความข้อนี้ ตำหนิพระท่านนี้ว่า

    ย่อหย่อน ธรรมวินัย เป็น อามิสทายาที่อยู่เพื่อกินเศษอาหาร อันสงฆ์ทั้งหลายเหลือไว้ให้
     
  14. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อาศัยความที่ พระพุทธองค์ปรารภว่า การเสวนากับสตรีนั้น ไม่ควรกระทำเลย

    แต่ พระนวกะผู้นี้ พยายามไต่ถามถึง ความในใจของ k.kwan หลายคำรบ

    จึงอาศัยพฤติกรรมเช่นนี้ ตำหนิพระนวกะผู้นี้ ทอดธรุทำสิ่งที่พระพุทธองค์ชี้ให้ละ

    ย่อหย่อน ธรรมวินัย เป็น อามิสทายาที่อยู่เพื่อกินเศษอาหาร อันสงฆ์ทั้งหลายเหลือไว้ให้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  15. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    เช่นนี้ ท่านพึงติเตียน ท่านพระภิกษุอชิตะ บุตรแห่งพระเจ้าอชาตศัตรู ด้วยเทอญ
    เพราะท่านไม่ได้ทำให้สิ้นไปแห่งพระนิพพาน
    เพียงเพราะท่านปราถนาพุทธภูมิ
    อยู่เที่ยวกินเศษอาหาร ที่เขาเหลือไว้​
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    รู้ว่าทุกสิ่งเป็นไตรลักษณ์แล้ว จะยึดถืออะไรไปใยเล่า
    ก็ปล่อยไป เกิดก็ดี ดับก็ช่าง มันก็เป็นไปตามของมัน จะตามไปทุกข์เศร้าโศกกับมันอีกหรือ
    โง่ เปล่าๆ ห่วงอะไรกับความไม่เที่ยง กระทู้มันจะไปไหน ใครจะลากไปไหน ก็เรื่องของมัน
    กระทู้เกิดก็เพราะเราทำให้มันมีขึ้นมา แต่ถ้ากระทู้ไม่ถูกใจคนอื่นหรือคนดูแล เขาก็จัดการมัน
    ไปตามกรรม ถ้ามีคนทุกข์เพราะกระทู้ ก็ต้องมีคนกำจัดกระทู้นั้น นานาจิตตัง
    ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเรา มีแต่เราควรทำใจยอมรับความเกิดดับเป็นไตรลักษณ์ไป แต่อย่าไป
    ตามเกิดดับกับกระทู้ละกัน เดี๋ยวจะทุกข์มิใช่น้อย
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อาศัยความที่ เมื่อฉันอาหารแล้ว ธรรมดาพระพุทธองค์จะเสพเสนาสนะอันสงัด เพื่อ
    ประพฤติธรรม หรือ หากเป็นสาวก แม้จะปฏิเสธการประพฤติสมณะธรรม ก็ควร
    ทำหน้าที่ครรธุระ แต่ ครั้งก่อน เราถามถึง ความรู้ทางบาลีของพระนวกผู้นี้แล้ว
    ไม่สามารถตอบได้

    ทั้งๆที่ อานาปานสติ ก็คือ สติ ที่มีอยู่ ระลึกได้โดยไม่ต้องรักษา อันเป็นคำสอน
    ที่พระนวกะผู้นี้พร่ำสอน แต่ กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถึง การเจริญสติที่กระทำอยู่

    แต่กลับเที่ยว เปิดกระทู้ เสอนข้อความวนเวียน ไม่เสพเสนาสนะอันสงัด และไม่ศึกษา
    ข้อธรรมวินัยใดๆ

    จึงอาศัยพฤติกรรมเช่นนี้ ตำหนิพระนวกะผู้นี้ ทอดธรุทำสิ่งที่พระพุทธองค์ชี้เป็น จรณะ

    ย่อหย่อน ธรรมวินัย เป็น อามิสทายาที่อยู่เพื่อกินเศษอาหาร อันสงฆ์ทั้งหลายเหลือไว้ให้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- google_ad_section_end -->
     
  18. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    พวกเราพากันไปกล่าว ว่าต้นไม้ สิ่งต่างๆ นอกไปจากใจ ว่าเป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา
    เราไปกล่าวตู่เค้าต่างหากล่ะ !!!...
    ไอ้ไตรลักษณ์นี่ มันอยู่ที่ไหน มันอยู่ที่ไอ้เจ้าตัวจิต นี่ ...โอวาท หลวงปู่พุธ ฐานิโย
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ท่านรู้ได้อย่างไรว่า พระอชิตะ บวชอยู่ร่มกาสวภัทรตลอด

    เราจักตั้งข้อสังเกตว่า

    ก็ในพระสูตรใดๆ มีการกล่าวถึง พระอชิตะ เพียงกาลเดียว กาลอื่นไม่มี

    นั้นแปลว่าอะไร แปลว่า พระอชิตะ ไม่ได้ปรากฏเป็นภิกษุอยู่ในที่ประชุมใดๆ

    ขอให้ ภิกษุนวก จงทราบความนัยนี้ไว้ไตร่ตรองด้วย
     
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    คนที่อยากเป็นพระพุทธเจ้า จะไม่ได้เป็น
    คนที่ไม่อยากเป็น จะได้เป็น ....
    เอ..อันนี้ครูผมสอนมา :boo::boo::boo:
     

แชร์หน้านี้

Loading...