เรื่องเด่น สาธุ.."สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระสัมโมทนียกถา เตือนสติ"ศาสนิกชนที่ดี" ต้นเหตุแห่งการแตกสามัคคี คือ ความชิงชัง บาดหมาง!!

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 13 มิถุนายน 2017.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    สาธุ.."สมเด็จพระสังฆราช" ประทานพระสัมโมทนียกถา เตือนสติ"ศาสนิกชนที่ดี" ต้นเหตุแห่งการแตกสามัคคี คือ ความชิงชัง บาดหมาง!!

    92073_9508.jpg


    แฟนเพจเฟสเบุ๊ค สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้เผยแพร่ภาพพระราชกรณียกิจของเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเปิดป้ายหอประชุมสมาคมฮินดูสมาช โดยข้อความระบุว่า..



    เช้าวันอาทิตย์ ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปทรงเปิดป้ายหอประชุมสมาคมฮินดูสมาช เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

    การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า

    "ตามที่อาตมภาพทราบมาโดยตลอด สมาคมฮินดูสมาชและวัดเทพมณเฑียรมีวัตถุประสงค์ในการดูแลโรงเรียนภารตวิทยาลัย ทั้งยังมุ่งหมายให้สาธุชนได้มีจิตใจงดงาม ส่งเสริมผู้คนทุกศาสนิกให้สมัครสมานปรองดองกันเพื่อยังสันติสุขแก่โลก และมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ยากไร้ทุกชาติทุกศาสนา

    ด้วยเหตุนี้ การที่ได้มาอยู่ท่ามกลางบุคคลผู้ล้วนเป็นสมาชิกองค์กรที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่โดยมนุษยธรรมอย่างจริงใจ อาตมภาพย่อมรู้สึกยินดีอย่างจริงใจเช่นกัน



    19029394_1795888694055360_5584238857533787901_n.jpg


    แผ่นดินไทยของเรานั้นมีคุณลักษณะพิเศษที่โดดเด่นกว่าบ้านเมืองอื่น ตรงที่ผู้คนบนแผ่นดินนี้ล้วนมีจิตใจกว้างขวาง มีความเมตตาปรานีต่อกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันฉันญาติ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ศาสนิกชนของแต่ละศาสนาสามารถประกอบศาสนกิจตามความเชื่อความเลื่อมใสของตน ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายเสมอกัน และภายใต้พระบรมโพธิสมภารแห่งพระมหากษัตริย์เจ้าพระองค์เดียวกัน

    คุณธรรมพื้นฐานของทุกศาสนาที่อาตมภาพสังเกตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระพุทธศาสนาและในศาสนาฮินดู มีลักษณะสอดคล้องต้องตรงกันประการหนึ่ง ได้แก่ 'เมตตาธรรม'

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้สรรพชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยกัน และวางน้ำใจไว้ให้เสมอกันบนหลักการที่เรียกว่า 'พรหมวิหาร ๔' มี 'ความเมตตา' คือความรักความปรารถนาดีต่อกันเป็นข้อต้น เทียบได้กับหลักธรรมในมหาภารตะของศาสนาฮินดู ก็ย้ำเตือนว่าให้มนุษย์มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น

    การยุทธตามคัมภีร์ของศาสนาฮินดูนั้น หากพิจารณาให้ลึกซึ้งอย่างบุคลาธิษฐานแล้ว ก็จะพบว่าเสมอด้วย 'ธรรมยุทธ' ในทัศนะของชาวพุทธ นั่นคือ การเป็นนักรบแห่งธรรม ไม่ใช่มุ่งประหัตประหารผู้อื่น แต่มุ่งประหารกิเลสและอวิชชาในใจตน ทำจิตให้พ้นจากความเศร้าหมอง ประกอบด้วยความเมตตากรุณา เพื่อทำลายโครงสร้างความรุนแรงในสังคมจนเข้าถึงสันติสุข

    เมื่อบุคคลประกอบด้วยสัมมาทิฐิแล้ว ก็จะเข้าถึงการกระทำชอบ การเลี้ยงชีพชอบ และมรรควิธีอื่นๆ ได้โดยง่าย ฉะนั้น ธรรมะที่ลึกซึ้งในศาสนาของเราทั้งหลายจึงไม่มีวันทำให้เราหลงเข้าไปสู่วิถีแห่งความรุนแรงได้เลย



    18951158_1795888660722030_4429658016594058657_n.jpg



    18952705_1795888594055370_1435549722069387722_n.jpg



    18952875_1795888497388713_6210499845182040397_n.jpg



    ท่านทั้งหลายล้วนอยู่บนแผ่นดินไทย ที่กล่าวได้ว่าเป็นแผ่นดินแห่งเมตตาธรรม อีกทั้งยังมีศาสนธรรมสำคัญ คือความเมตตากรุณาคอยกำกับ ท่านจึงควรที่จะเตือนตนอยู่เป็นนิตย์ว่า เมื่อใดที่ท่านเกิดความรู้สึกเป็นอริ บาดหมาง ชิงชังกัน อันเป็นเหตุแห่งการแตกสามัคคีแล้ว เมื่อนั้นท่านไม่ใช่ศาสนิกชนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือว่าเป็นฮินดู

    ทุกคนต่างมีหน้าที่ที่จะเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจอันดีงามของกันและกัน ด้วยมิตรภาพอย่างจริงใจ ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เพื่อให้ความแตกต่างทางเชื้อชาติศาสนา เป็นเสมือนดอกไม้นานาพรรณอันถูกจัดลงบนภาชนะเดียวกันได้อย่างงดงามลงตัว

    ภาชนะนั้นเปรียบได้ดั่งแผ่นดินไทย และนายมาลาการผู้ผสานมวลดอกไม้นั้น มาบรรจุรวมกันไว้ได้อย่างลงตัว ก็คือคุณธรรมในใจท่านทั้งหลายอันได้แก่ความเมตตา"



    19029564_1795888700722026_4398444631004145417_n.jpg



    18952898_1795888504055379_8151039864910058014_n-1.jpg



    19060072_1795888537388709_3365626827071985966_n.jpg

    ที่มา FB สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช


    เรียบเรียงโดย

    วิลาสินี แววคุ้ม : สำนักข่าวทีนิวส์



    -----------------------
    http://www.tnews.co.th/contents/326846



     

แชร์หน้านี้

Loading...