สิ่งศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ใจ...ที่วัดปิปผลิวนาราม

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย ปาปิปผลิ, 28 กรกฎาคม 2013.

  1. ปาปิปผลิ

    ปาปิปผลิ พระอุโบสถเจดีย์7ชั้น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2012
    โพสต์:
    503
    ค่าพลัง:
    +1,801
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ใจ...ที่วัดปิปผลิวนาราม

    “วัดปิปผลิวนาราม” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

    ที่นี่เป็นวัดที่อยู่บนเขาสุนทรีบรรพต นอกจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิแล้ว

    ยังมีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวโยงกันแบบข้ามมิติกาลเวลา ผู้เขียนไปทำบุญที่นี่มาแล้ว

    พร้อมกับได้พบกับสิ่งอันน่าอัศจรรย์อยู่หลายเรื่องด้วยกัน

    จึงขอนำเรื่องเล่าขานที่เป็นตำนานมาเล่าสู่กันฟัง

    “หลวงปู่กัสสปมุนี เป็นข้าราชการในกรมสรรพากรและได้ลาออกมาอุปสมบท

    เป็นพระภิกษุ ในปี พ.ศ.2505 อายุ 52 ปี และได้ออกธุดงค์ไปบำเพ็ญเพียรภาวนา

    บนภูกระดึงอันแสนจะหนาวเหน็บ

    หลวงปู่อยู่ในสมณเพศตลอด โดยสมาทานธุดงควัตร 4 ข้อ คือ ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร

    ครองจีวรชุดเดียวเป็นวัตร (จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเก่าหรือขาดเท่านั้น) รับบิณฑบาทเป็นวัตร

    และอยู่ป่าเป็นวัตร จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพด้วยโรคปอดอักเสบ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2531

    ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ “สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยบรรจุอยู่ในหีบมุกสวยงามตั้งอยู่ในชั้นที่ 1

    ณ ศาลาหงส์ยนต์” และ ศาลเจ้าแม่จำปากะสุนทรี (เทพผู้ดูแลเทือกเขาสุนทรีบรรพต)

    ตั้งอยู่หน้ากุฏิ “ฉฬภิญญา” ซึ่งหลวงปู่ได้พูดถึงท่านไว้ในหนังสือเรื่อง “หกเดือนบนภูกระดึง

    และเมื่อข้าพเจ้ามาพบที่ใหม่” เล่าเอาไว้ว่า “เจ้าแม่จำปากะสุนทรี เป็นสาวอายุราว 18 ปี

    ทรงเครื่องสีชมพู ดูแพรวพราวไปทั้งร่าง แววตา ใบหน้าอิ่มละไม ดูงามไปทุกสัดส่วน

    อาตมาเพ่งพิศดูและถามท่าน ทราบว่าอายุของท่านประมาณ 9,640 ปี

    เจ้าแม่จำปากะสุนทรี เป็นผู้ชี้จุดให้ก่อสร้างวัด

    และบอกจุดว่าตรงไหนสร้างอะไรบ้าง ซึ่งหลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามคำของท่านทุกประการ

    การก่อสร้างวัดปิปผลิวนาราม ในสมัยก่อนนั้นมีไข้ป่าระบาด และยังชุกชุมไปด้วยสัตว์ป่ามากมาย

    และเป็นวัดที่สร้างอยู่บนเขาที่สูงมาก แต่สามารถสร้างได้แล้วเสร็จโดยง่าย และถือว่าเป็นทิพย์อุปัฏฐาก

    ของหลวงปู่ตลอดกาล ส่วน “ท่านท้าวสุโรดม” ซึ่งสถิตอยู่บริเวณต้นไทรใหญ่ก่อนบันไดทางขึ้นเขาในช่วงที่ 2

    เป็นเทพบุตรสถิตอยู่ในต้นไม้ใหญ่ซึ่งขึ้นพันกันถึง 3 ต้น คือ ต้นไทรขาว ต้นตะแบก ต้นไทรดำ

    เป็นเทพพิทักษ์รักษาวัด ท่านเป็นยักษ์ที่สถิตอยู่ที่ต้นไม้แห่งนี้มาเป็นเวลาช้านาน และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

    จุดเด่นอีกอย่างสำหรับวัดแห่งนี้คือ พระอุโบสถ ประตู หน้าต่าง และหลังคาเป็นสเตนเลส ทั้งหมด

    และถือว่าเป็นโลหะปราสาทอุโบสถแห่งที่ 4 ของโลก และเป็นแห่งที่ 2 ของโลกที่ยังเหลือเอาไว้ได้ดู

    ภายในเป็นพระประธานองค์ใหญ่ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอกคืบ ปางสมาธิพระนามว่า

    “พระพุทธเทวาติเทวะศากยะมหามุนี” ด้านหน้ามีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้ง จำนวน 6 หุ่นด้วยกัน ภายในมีภาพเขียนหลายภาพ

    งดงามมาก เพดานอุโบสถเป็นเพดานโค้งคล้ายโดม และทำเป็นสองชั้น พื้นเพดานทาสีต่างกัน 3 ตอน คือ

    ตอนเบื้องหน้าพระประธาน ทาเป็นสีแดงอ่อน หมายถึง รุ่งอรุณ หรืออดีตกาล สีเหลืองตอนกลาง

    หมายถึง เที่ยงวัน หรือปัจจุบันกาล สีเขียวแก่มืดในตอนท้าย หมายถึง ราตรี หรืออนาคตกาล และอยากจะให้ทุกท่าน

    ที่ต้องการขอพร อย่าลืมแวะ ขอพร “หลวงพ่อทันใจ” เพราะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จภายใน 1 วันเท่านั้น

    มีพุทธานุภาพมาก ที่จะสามารถบันดาลให้เกิดโชคลาภ และความปรารถนา ได้ทันอกทันใจเมื่อเราได้อธิษฐานขอพร

    ........ทั้งหมดทั้งหลายที่วัดแห่งนี้....ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ใจสำหรับคนที่นี่ยิ่งนัก....

    การเดินทางก้าวย่างไปในแต่ละที่...ล้วนแล้วแต่มีตำนานและสิ่งเร้นลับที่ เล่าขาน...จากรุ่นสู่รุ่น...ลองไปเที่ยวดูแล้วจะรู้ว่า.

    “ระยอง”..ยังมีอะไรอีกมากที่น่าค้นหา.....[/CENTER][/SIZE]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2016
  2. mac_act

    mac_act สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +15
    เคยไปมาแล้วครับ สถานที่ดีครับ เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัตธรรมจริงๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...