สุภาษิตของอดีตภารโรงเกี่ยวกับการยืมเงิน

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย พญายา, 22 สิงหาคม 2013.

  1. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    -อดีตภารโรงชายชราซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้ว เมื่อตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แกมักจะกล่าวกับเพื่อนบ้าน ลูกๆหลานๆอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับการหยิบยืมเงินกัน ว่า "เงินตู ถ้าตูไม่ให้เมิงยืม เมิงก็ต่อว่าตู เงินตู ถ้าตูให้เมิงยืม เวลาทวงถาม เมิงก็จะฆ่าตู"
    -คงจะเป็นข้อคิดดีๆได้ นะเพื่อนๆสมาชิก สวัสดี
     
  2. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,026
    เห็นด้วยค่ะ

    เรื่อง เงินทำให้ตัดญาติขาดมิตรกันมาเยอะค่ะ

    ไม่ให้ยืม ก็โกรธ

    พอให้ยืมแล้ว ทวงก็โกรธ และก็ยังมีที่ ให้ยืมไปแล้ว ไม่คืนก็มี หนักใจจริงๆค่ะ

    แต่แปลกอยู่อย่างคนที่มายืมเงิน มาขอเงิน ก็มักจะเป็นคนเดิมๆ

    เมื่อไหร่ ปัญหานี้จะหมดไปเสียทีหนอ
     
  3. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    ถูกค่ะคุณmakigochan
    เป็นมิตรตอนกู้ เป็นศัตรูตอนทวง
    เราให้คนอื่นยืม ได้เงินคืน
    แต่ให้พี่แท้ๆยืม ซึ่งก็พี่ๆนี่แหละค่ะน่าหนักใจกว่าให้คนอื่นยืม
    ผ่านมาเกือบสิบปีเงินต้นก็ไม่ได้ เงินดอกที่เขาจะให้เป็นปี ปีละแค่สองพันก็ไม่เคยให้ แถมยังหลบหน้าไม่อยากเจอหน้าน้องสาวคนนี้ตั้งนาน จนพักหลังๆไม่พูดถึงหนี้ที่ยืมเราอีกเลย เราก็รู้ว่าเขามีหนี้เยอะ เลยไม่เคยทวง ผ่านมานานจนเลิกคิดที่จะได้คืนแล้ว
    อีกอย่าง ฝากเงินไว้กับพ่อแม่ก้อนหนึ่งเป็นก้อนสุดท้ายที่เราจะเก็บไว้ลงทุนและไว้สำรองเผื่อฉุกเฉินส่วนตัว เป็นเงินจำนวนหกหลัก เงินจำนวนหกหลักก็ถือว่าเยอะสำหรับเรา พอพี่ๆมีความเดือดร้อน พ่อแม่ก็เอาเงินนี้ให้พี่ๆไปใช้ก่อน จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เงินคืนเลย เรามารู้อีกทีเงินก้อนนั้นก็ไม่เหลือแล้ว เพราะพี่ๆมีเท่าไหร่ก็ไม่พอ ชอบกู้ชอบยืม มีหนี้สินมากมาย ส่วนเรามีแต่ให้จนตัวเองไม่มีจะให้แล้ว เงินเก็บก้อนสุดท้ายนั้นก็หมดแล้ว ไม่รู้จะพูดยังไงเลย จะว่าพ่อว่าแม่ก็ไม่สมควร ทั้งๆที่ในใจเราก็นึกเสียใจที่พ่อแม่เอาเงินเก็บเราไปให้พี่โดยที่ไม่ถามเราสักคำ เขาใช้เงินเหมือนไม่รู้คุณค่า แป๊บเดียวก็หมด แถมหนี้สินอีกเพียบ มาพ่อก็อยากได้รถก็ดาวน์รถมา ถึงเวลาก็ต้องส่งงวด แล้วด้วยความที่กลัวไม่มีเงินส่งค่างวดรถก็ทำงานหนัก แถมคิดมากทั้งพ่อและแม่ก็เลยทั้งผอมและดูแก่ลงไปมาก บางครั้งแม่ป่วยมากๆก็ไม่ไปหาหมอโรงบาลดีๆ แถวบ้านหมอรักษาจะชอบให้แต่ยาพาราก็ไม่หาย จนป่วยมากๆถึงขั้นได้นอนรพ. เงินที่เราส่งให้ใช้เดือนละหมื่นก็ไม่รู้ว่าถึงสิ้นเดือนหรือเปล่า สงสารพ่อแม่ก็สงสาร เงินเก็บเราก็ไม่มี มาตอนนี้เราอยากช่วยพ่อแม่ก็ไม่มีเงินจะช่วยแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงดี เวรกรรมจริงๆ เฮ้อ...Sad
     
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    ....มาส่งกำลังใจให้ท่านมะลิฯครับ อ่านแล้วก็สลดใจจริงๆ ..

    ขออนุโมทนาสาธุการในกิจอันเป็นอุดมมงคลแก่ตนคือความกตัญญูตอบแทนคุณพ่อแม่ ทั้งอุปถัมภ์พี่ร่วมอุทรด้วยกรุณาจิต....

    ท่านมะลิฯ พึงทราบว่า พ่อแม่นั้นมีใจรักใคร่ลูกๆโดยลืมคำนึงถึงความเหมาะควรไปได้ในบางคราว ด ังนั้น ท่านจึงกลายเป็นช่องทางแห่งการก่อบาปเวรภัยของพี่ผู้ไม่รู้จักประมาณ ยินดีในการก่อหนี้ไม่รู้จบ..เพราะเขาคุ้นเคยกับการได้รับความช่วยเหลือแบบง่ายๆ...คือการหยิบยืมทีไรได้ทุกทีจากน้องแลพ่อแม่..


    ..พี่ผู้ไม่ทราบบุญบาป..ว่ามีผล .. เขาไม่ได้เข้าถึงความมีหนี้เพราะเหตุบังเอิญในชาตินี้ฉันใด แม้ภพต่อๆไป ความพร่องย่อมมีตามไปฉันนั้น เพราะเหตุที่ตนทำคือการนิ่งเฉยไม่ชำระเงินที่เจ้าของหวงแหนหามาได้โดยยากลำบาก แต่มีใจดีคิดช่วยเหลือให้เขายืม...ยิ่งกว่านั้น เขายังผลาญทรัพย์ที่พ่อแม่มีอยู่โดยไม่คำนึงถึงความสะดวกสบายที่พ่อแม่ควรมีควรได้ในยามชรา...

    ท่านมะลิฯ เมื่อจะป้องกันพี่ไม่ให้ทำบาปเพิ่มเติม พึงรักษาทรัพย์ด้วยตนเอง เมื่อจะดูแลพ่อแม่ ก็อาจส่งเสียตามกำลังที่มี อย่างเต็มที่.. ไม่ควรฝากทรัพย์ที่พ่อแม่อีก...เพราะหากทรัพย์หมดไม่เหลือ แม้ท่านมะลิฯเองก็คงประคองตนได้ลำบาก อาจหมดความสามารถในการค้ำจุนพ่อแม่ไปเสียทุกด้าน....

    อย่างในเวลานี้ที่ท่านมะลิฯกังวลเรื่องการดูแลรักษาพ่อแม่ เพราะทรัพย์พร่องไปนั้น..ท่านมะลิฯก็พึงทราบว่า ท่านเองไม่มีอำนาจเกินวิบากกรรมไรๆของใครๆ .. แม้พ่อแม่หากไม่ได้รับการรักษาที่ดีได้...ก็หาใช่เจตนาของท่านมะลิฯไม่...ที่แท้เป็นความจัดสรรค์แห่งกรรมของท่านให้เป็นดังนั้น..จะโทษใครอื่นย่อมไม่ได้เลย

    ท่านมะลิ ฯหากสามารถก็พึงตอบแทนคุณพ่อแม่ด้วยการแนะนำชักจูงท่านให้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง...ชักชวนให้สมาทานศีล หรือได้ฟังธรรมะบ้างย่อมเป็นอุปนิสสยปัจจัยพาท่านได้พบพระธรรมได้ในภพต่อๆไป การเช่นนี้ย่อมรองรับความพ้นทุกข์ของท่านได้ในโอกาสใดโอกาสหนึ่งภายหน้า..แม้ความอัตคัดขัดสนย่อมบรรเทาไปเพราะทราบวิธีการเจริญกุศลอย่างถูกต้อง การได้สดับพระธรรมเป็นเครื่องคุณรักษาพ่อแม่ไว้ในความสวัสดีถ่ายเดียว หาโทษไรๆไม่มีเลย..

    ส่วนท่านมะลิฯเอง แม้ทรัพย์ในปัจจุบันพร่องไปแล้วน่าใจหาย ก็ให้ทราบว่า ทรัพย์เหล่านั้น ได้รับการโอนย้าย ไปเป็นอริยทรัพย์ ที่ใครๆไม่อาจลักขโมยไปได้ โจรก็ปล้นไม่ได้ ไฟ แลน้ำไม่อาจผลาญได้ ทรัพย์นั้นจะตามส่งเสียดูแลท่านให้เข้าถึงความบริบูรณ์พ้นความแร้นแค้นได้แม้ในปัจจุบันแลสัมปรายภพ ..

    ท่านมะลิฯพึงยังใจให้แล่นไปด้วยปิติโสมนัสว่า ตนเองทำที่พึ่งอันดีแก่ตนไว้แล้ว ความหวงห่วงอาวรณ์ในสิ่งที่เสียไปควรยุติลง เพราะไม่เป็นความปลอดภัยแก่ตนเลย ด้วยว่าหากติดใจคิดใคร่อยากได้คืนมา ยังพยาบาทวิตกน้อยใจให้เป็นไป ถ้าต้องจุติในเวลาที่ใจติดข้องอยู่อาจไปเกิดเป็นสัตว์เล็กๆคลานอยู่บนตัวพี่ก็ได้...และเขาย่อมไม่คิดเอ็นดูเราในอัตภาพนั้น ย่อมหาวิธีกำจัดเสียให้พ้นเท่านั้น ...

    ผู้ใดติดข้องสิ่งใด ตัณหาย่อมเหวี่ยงเขาไปให้ได้อยู่กับสิ่งนั้น แม้คนติดข้องในทรัพย์บางท่าน มี โตเทยยะเป็นต้น.......เขาเป็นคนตระหนี่มาก ก็คงเพราะตระหนี่นี้กระมังที่ทำให้แกรวยเอา ๆ ได้มาเท่าไรก็เก็บหมด ไม่ทำบุญทำทาน ไม่บริจาคเพื่อสาธารณกุศลใด ๆ ทั้งสิ้น..

    ลูกเมียเองก็ให้อยู่กินอย่างประหยัด เขาสอนลูกว่า การบริจาคแบ่งปันมีแต่ทางจะทำให้ทรัพย์ร่อยหรอไป ให้ดูอย่างจอมปลวกสิ ปลวกมันค่อย ๆ ก่อขึ้นทีละนิด ๆ ในที่สุดก็กลายเป็นจอมปลวกใหญ่ขึ้นมาได้เราต้องสะสมทรัพย์วันละเล็กละน้อย นานเข้าทรัพย์ก็จะมากเอง

    เมื่อโตเทยยะตายไป ก็ไปเกิดเป็นหมาในบ้านของตน เพราะความห่วงสมบัติ จึงไปไหนไม่ได้ สุภะลูกชายโตเทยยะรักหมาตัวนี้มากถึงขนาดให้นอนห้องเดียวกับตน...ฯ

     
  5. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    บทเรียนของเราที่อุตส่าห์เก็บทรัพย์ไว้ใช้หนี้ สุดท้ายก็มีคนมายืมแล้วคืนเล็กน้อย
    จนตอนนี้หนี้ก็ยังไม่หมดแถมมากกว่าเดิม แต่บทเรียนที่เราได้ คือ มีเงินก็เอาไปทำบุญเพราะเราสละด้วยความเต็มใจ ดีกว่าสละเงินแบบใจเจ็บแค้น ต่อมาก็ทำอกทำใจ แต่ก็ยังอยากได้คืน คนที่มายืมมักเป็นคนเดิมซึ่งคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรามั้ง เพราะคนเดิมๆนั่นแหละต้องเป็นคนใกล้ตัวที่ปฏิเสธไม่ได้ ทางเดียวคือปล่อยวาง หาเงินไป แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง สะสมทรัพย์ สะสมบุญ เลิกผูกเวรกับเขา
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ถ้าจะให้ใครยืมเงิน หรือค้ำประกันเงินกู้
    ต้องทำใจให้ได้ว่า ถ้าไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร
    จะได้ไม่ทุกข์ค่ะ
    น้องที่โรงเรียน ไปค้ำประกันเงินกู้ ๒ ราย
    รายแรก ๗ แสน
    รายที่สอง ๑.๓ ล้าน
    เจ้าหนี้เขาไม่ชำระหนี้ย้ายหนี เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล
    อีกคนลาออกจากราชการ
    น้องเขาต้องทำงานใช้หนี้ ๒ ล้าน พร้อมดอกเบี้ย
    โดยที่ไม่ได้ใช้เงินแม้สักบาทเดียว
     
  7. adisackdi

    adisackdi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +178
    หากลืมได้ ใจจะสงบครับแม้ว่จะยากลำบากก็ควรพยายาม
     
  8. 666666666

    666666666 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +10
    เงินทองเป็นเหมือนงูพิษสามารถนำภัยมาให้ได้เสมอนะหลานนะ
     
  9. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    แม่นขนาดหนัก
     
  10. ubon2555

    ubon2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    3,583
    ค่าพลัง:
    +3,519
    เงินทำให้เห็นด้านมืดของคน.. ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...