การเล่นหุ้นมีความเสี่ยง แหล่งทำเงินของบางคน

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 1 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    รับพรต้องอธิษฐาน

    มีหลายคนพูดอยู่เสมอว่าตั้งแต่มาทำบุญกับแม่ชี อะไรๆ ในชีวิตดีขึ้นเรื่องการงานดีขึ้น ดีขึ้นหมดทุกอย่าง แต่ว่าในครอบครัวทำไมพูดกันไม่รู้เรื่อง คนในครอบครัว ไม่มีความสุขมีแต่ความหวาดระแวง เป็นเพราะอะไรแม่ชี แม่ชีก็สงสัยทำไมเป็นอย่างนี้กันเยอะ พอถึงวัน อาทิตย์วันที่เขาถวายสังฆทานพอพระให้พรเป็นภาษา บาลี แม่ชีก็นั่งดูก็เลยถึงบางอ้อว่า ในขณะที่พระท่านให้ พรเป็นภาษาบาลีนั้น ไม่มีใครอธิษฐานเลยไม่มีใคร อธิษฐานเลยจริงๆ ถามว่าบุญที่ทำนั้นสำเร็จหรือยัง บุญ ที่ทำตอนนั้นสำเร็จแล้วนะ แต่ไม่มีใครอธิษฐานเอาบุญให้ กับตัวเองเลย ขณะที่พระให้พรตอนนั้นทุกคนอธิษฐาน ได้ ขอให้พรอันประเสริฐนี้ จงส่งผลให้ข้าพเจ้ามีสติมี ปัญญา มีความสมปรารถนาคือ ถ้าใครปรารถนาให้ลูกดี ลูกก็ดีเลย คือไม่ว่าปรารถนาอะไรก็สำเร็จ

    คำอธิษฐานขณะที่พระให้พร (ยะถา... สัพพี...) ขณะที่พระกล่าว “ยะถาวารีวะหา…”
    ให้ อธิษฐานให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับตระกูลปู่ย่าตายายพ่อ แม่พี่น้องผู้มีพระคุณผู้มีบุญคุณทั้งหลาย

    ขณะที่พระกล่าว “สัพพีติโย…” ให้อธิษฐานว่า
    “ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีปัญญา ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีทรัพย์ ขอให้ ข้าพเจ้าเป็นผู้สมปรารถนา ขอให้ ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีโรค ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้สิ้นสงสัยในพระพุทธศาสนา ขอให้ญาติลูกหลานของข้าพเจ้าเป็น ผู้มีปัญญาเป็นอภิชาตบุตร”


    เครดิต : รับพรต้องอธิษฐาน
     
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    คติธรรม จากมหากาพย์ "สามก๊ก"

    "สามก๊ก" เป็นมหานวนิยาย ที่อาจมีส่วนของเรื่องจริงในอดีต

    มหากาพย์ "สามก๊ก" ให้คติธรรมและความรู้ในหลักพิชัยสงคราม/กลศึก การปกครอง ความโหด การจงรักษ์ภักดี ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ ความเสียสละ ความไม่จีรังยั่งยืน และอื่นๆ อีกมาก

    สมัยก่อน สามก๊ก เป็นเพียงนวนิยาย ที่เป็นรูปเล่มหนังสือ สมัยปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นบทละครโทรทัศน์แบบยาว เหลือเพียงยังไม่นำไปสร้างเป็นภาพยนต์

    เมื่อคนมีความเจริญก้าวหน้าในทางวัตถุ สิ่งหนึ่งที่จะห้วนหา ก็คือ เรื่องราวในอดีต อดีตที่มีค่า นำเรื่องราวในอดีตเพื่อมาสร้างค่า หาเงินกัน ซึ่งก็มีลักษณะแบบนี้ค่อนข้างบ่อยพอสมควรในสมัยปัจจุบัน

    คติธรรมความรู้ต่างๆ ที่ได้จากสามก๊ก

    1.การตัดสินใจที่รวดเร็ว เด็ดขาด ในบางครั้ง

    2.การรู้จักรอ แม้จะอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ

    3.การรู้จักผูกมิตร เพื่อความอยู่รอด

    4.การยอมเสียดินแดนบางส่วน เพื่อแลกกับส่วนหลัก ที่จะยังสามารถอยู่ต่อได้

    5.การพูดโกหก เพียงเพื่อการบรรลุเป้าหมาย

    6.ความจงรักภักดี ในสามก๊ก บางครั้งก็ไม่มีคุณค่า

    7.ความทะนงตนแบบกวนอู ทำให้หมดเวลาเร็ว หากรู้จักใช้ปัญญา ก็อาจต่อเติมความหวังของตน

    8.ความใจร้อนแบบเตียวหุย ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก

    9.ร้ายกับคนอื่น ระวัง คนอื่นจะร้ายตอบ เช่น ทำให้คนอื่นเจ็บ เขาอาจผูกใจเจ็บรอวันแก้แค้น

    10.การใช้ความเมตตา ทำให้คนเราจงรักภักดี ได้ดีกว่า การทำลาย

    11.การเตรียมพร้อม ย่อมทำให้ มีโอกาสสำเร็จสูง

    12.คนฉลาด อาจไม่ต้องไปสู้เอง รอให้ฝ่ายอื่นสู้กันไปก่อน แล้วค่อยโจมตีทีหลัง

    13.หญิงงามนั้นอันตราย

    14.ให้ชีวิตเขา วันหนึ่ง เขาก็อาจให้ชีวิตเรา หรือสรรเสริญเราในภายหลัง แม้จะเป็นศัตรูกันก็ตาม

    15.เมื่อไม่มีเหตุ ไม่มีข้ออ้าง ก็ต้องสร้างข้ออ้างขึ้นมา การยึดอำนาจหรือบุกโจมตี ล้วนต้องมีข้ออ้างที่สมเหตุผล

    16.ดูหรืออ่านเรื่องสามก๊ก อย่าเพิ่งไปอ่านธรรมะ เพราะมันมีโอกาสจะขัดกัน

    17.อย่าทำตัวเด่นเกิน หากต้องการความสงบและอายุที่ยืนยาว คนอิจฉานั้นมีเยอะ และก็มีทุกยุคทุกสมัย

    18.ที่ปรึกษานั้นเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่า อาณาเขตที่เพิ่มขึ้น หรือชัยชนะในสงคราม ส่วนใหญ่เป็นผลงานมาจากที่ปรึกษา

    18.ความไม่จีรัง แม้โจโฉ หรือใครก็ตาม ยิ่งใหญ่ เพียงใดก็ตาม ไม่เคยมีใครอยู่ค้ำฟ้า


    คนที่มาแสวงหานิพพานในชาติปัจจุบัน จะต้องวางดาบหรือวางปืนลง ดั่งที่ว่า "วางดาบเพื่อบรรลุนิพพาน"

    พระอริยเจ้าบางรูป สามารถล่วงรู้ในอนาคตได้ ถามว่า ทำไม ท่านไม่ช่วย ขึ้นกับเหตุปัจจัยหลายอย่าง เช่น กรรมของคนหมู่มาก กรรมร่วมของมหาชน ฯลฯ หากจะช่วย ก็คงต้องมีเหตุปัจจัยที่เกี่ยวเนื่อง เช่น อาจเคยมีส่วนได้เสียหรืออาจเคยมีกรรมร่วมกับคนเหล่านั้น, ช่วยไปเพื่ออะไร, บุคคลเหล่านั้นได้เคยมาบำรุงช่วยเหลือตนเองเพียงใด

    อิทธิฤทธิ์ของผู้ทรงฤทธิ์ หรือพระอรหันต์ หรือผู้มีบุญบารมี อาจสามารถช่วยได้ และคงเป็นการช่วยชั่วคราว และอยู่ที่ว่าท่านจะช่วยไหม

    พระอริยเจ้า หรือพระอรหันต์ หรือผู้มีญาณ-อภิญญา อาจรู้อะไรล่วงหน้า เช่น อาจรู้ว่า สามก๊กตั้งแต่ต้นจนจบ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ญาณรู้อาจรู้โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่สิ่งที่รู้นั้น/เรื่องราวในก๊กนั้นหรือของประเทศนั้น จะต้องดำเนินไปเป็นเวลาเกือบร้อยปี เรื่องราวของประเทศที่อยู๋อาศัยจะเป็นอย่างไรในอีก 10 ปี หรือ 20 ปี หรือ 50 ปี ข้างหน้า บางทีท่านรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่ก็พูดไม่ได้หรือพูดได้นิดหน่อย บางอย่างก็ต้องปล่อยให้เกิดขึ้น และตั้งอยู่ระยะหนึ่ง สุดท้ายก็จะดับไปเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2017
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ละครมหากาพย์ "สามก๊ก" ให้คติธรรมมากมาย

    สิ่งที่ได้จากการดูเรื่อง "สามก๊ก" ก็คือ จะแสดงให้เห็นถึงความไม่จีรังยั่งยืนในชีวิต และทุกสรรพสิ่ง

    หมองูนั้นอาจตายเพราะงู นักรบส่วนหนึ่งตายในสนามรบ นักฆ่าส่วนหนึ่งก็โดนฆ่า หัวหน้าแคว้นหรือผู้บริหารก๊ก/ประเทศ ต้องระวังในเรื่องกรรม และอื่นๆ ซึ่งคงเกี่ยวกับกฎแห่งกรรม กรรมบางอย่างที่ทำในชาติปัจจุบัน อาจได้รับในชาติปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมที่ทำเป็นประจำ มีแน้วโน้มจะส่งผลได้ในชาติปัจจุบันหรือในเวลาปัจจุบัน
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ขงเบ้ง จากไปตอนมีอายุได้ 54 ปี ส่วนสุมาอี้ สามารถมีอายุได้ถึง 70 กว่าปี อาณาจักรสามก๊กถูกรวมเป็นหนึ่งโดยตระกูลสุมา

    ละครสามก๊ก ย่อจากในหนังสือค่อนข้างมาก ปกติจะมีตอนที่ขงเบ้งต่ออายุตนเอง แต่ฉากดังกล่าวไม่มี และมีอีกหลายฉากที่ไม่ได้นำเข้ามาในละคร
     
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    คาถาเงินล้าน.jpg

    เคล็ดลับสวดคาถาเงินล้าน


    สวดโดยใจ ต้องสงบ ไม่หวังผลว่า ต้องได้เดี๋ยวนี้
    ต้องมาช่วยเร็วๆ คือ ความศักดิ์สิทธิ์ของคาถานี้มีจริง
    หากท่านใดยังไม่ได้ผล ให้ทำใจใหม่ค่ะ ให้ใจไม่หวังอะไรมาก
    ก่อนสวดให้อาราธนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านครูผึ้ง หลวงพ่อปานวัดบางนมโค ให้ท่านมาโปรด อธิษฐาน ขอความคล่องตัวด้านการเงิน แค่นี้ค่ะ ไม่ใช่ขอให้รวยๆ ไม่นาน จะเห็นผลค่ะ ดิฉันได้พบความศักดิ์ของคาถานี้มาแล้วค่ะ


    เครดิต : สมาชิกท่านหนึ่ง (จำไม่ได้แล้วว่าอ่านมาจากกระทู้อันไหน)
     
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    4DQpjUtzLUwmJZZC5sV5kx7l8viudY579PoteUXor2Kq.jpg
    รู้ไหมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดธูปกี่ดอก

    เคยงงไหมว่า เวลาเราจุดธูป บูชาพระ บูชาเทพ ไหว้เจ้า บูชาโน่น นี่ นั่น กระทั่งไหว้สัมภเวสีธรรมดา ไหว้ศาลตายายยังสับสนไหมว่าเราต้องใช้ธูปกี่ดอกกัน เพื่อความเป็นมงคลให้กับชีวิต ไทยรัฐออนไลน์พาไปหาคำตอบมาให้...

    ธูป 1 ดอก : เป็นเรื่องของการเน้นหรือเจาะจง ในเรื่องที่เกี่ยวกับผีบ้านผีเรือน วิญญาณภาคพื้น เช่น การจุดไหว้เจ้าที่ หรือผีบ้านผีเรือน
    ธูป 2 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิญญาณ และการปักธูปบนอาหาร
    ธูป 3 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ธูป 4 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
    ธูป 5 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา คุณมารดา และครูบาอาจารย์
    ธูป 6 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุกำลังไฟ (คนที่เกิดวันอาทิตย์) ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา

    ธูป 7 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ (ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่) ครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
    ธูป 8 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องการเสริมดวง (คนที่เกิดวันอังคาร)
    ธูป 9 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสักการบูชาเทพ เจ้าป่า เจ้าเขา หรือ รุกขเทวดาศาลพระภูมิ ศาลเทพ
    ธูป 10 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันเสาร์)

    ธูป 11 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาเทวดาชั้นสูง
    ธูป 12 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาพระราหู ใช้ในการสวดเสริมดวง (คนที่เกิดวันพุธกลางคืน)
    ธูป 13 ดอก : ไม่นิยมจุด
    ธูป 14 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาคุณพระสงฆ์ เช่น การจุดบูชาสักการะรูปปั้นพระสงฆ์
    ธูป 15 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันจันทร์)
    ธูป 16 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาเทพชั้นสูง เช่น บูชาพรหม ฯลฯ (ใช้จุดกลางแจ้ง จุดธูปเทพเทวดา ทั้งสิบหกชั้นฟ้าด้วย)

    ธูป 17 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันพุธ)
    ธูป 18 ดอก : ไม่นิยมจุด
    ธูป 19 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการจุดบูชาครู และใช้ในการเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันพฤหัสบดี)
    ธูป 20 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสวดเสริมดวงชะตา
    ธูป 21 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่ธรณี (ใช้ในพิธีเบิกพระแม่ธรณี) และการสวดเสริมดวงชะตา (คนที่เกิดวันศุกร์)
    ธูป 32 ดอก : ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั้ง 4 ทิศ (การไหว้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 1 โลกมนุษย์)

    ธูป 38 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระธรรม
    ธูป 39 ดอก : เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่โพสพ
    ธูป 56 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับคุณพระพุทธเจ้า
    ธูป 108 ดอก : เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีกรรมสวดเสริมดวงชะตา และบูชาสิ่งสูงสุดทั่วโลกทุกชั้นฟ้า

    ขณะที่รองศาสตราจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการ นักโบราณคดีชื่อดัง กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์สั้นๆ ว่าจำนวนของธูปนั้นเป็นตำนานความเชื่อเป็นประเพณีที่มีมานาน โดยส่วนใหญ่คนไทยจะนิยมจุดธูปเลขคี่ ส่วนคนจีนมักจะจุดเลขคู่ส่วนใหญ่

    'คนไทยนิยมเลขคี่เพราะเลขคี่เพราะมีความเป็นมงคล จำนวนดอก 1 - 3 - 5 - 7 - 9 แต่จะจำนวนลดหลั่นตามสถานภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ส่วน 108 ดอก ซึ่งน่าจะมากที่สุดมันเป็นมงคล เป็นเลขมงคลซึ่งเป็นตอนหลังที่มีการเพิ่มจำนวนขึ้นมา ซึ่งกี่ดอกๆ ก็ขึ้นอยู่กับตำนานท้องถิ่น เวลาคนจะสร้างอะไรก็ต้องสร้างตำนานขึ้นมาเพื่อสร้างให้เหตุผลว่าทำไมแค่นั้นเอง' นักประวัติศาสตร์ชื่อดังกล่าวสรุป

    ขอบคุณข้อมูล หนังสือ คัมภีร์ พิธีกรรมแบบโบราณของไทย

    ที่มา : สาธุ! รู้ไหมไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบไหนใช้ธูปกี่ดอก...?
     
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ช่วงเช้าอากาศที่หาดใหญ่ค่อนข้างหนาว

    เช้าวันนี้ได้เข้าไปที่สวน ช่วงประมาณ 7.00 น. อากาศหนาวมาก ขับรถด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อไปถึงสวน ตัวหนาวสั่น ปกติไม่ค่อยเข้าสวนในช่วงหัวเช้า เพราะอากาศหนาว

    ผมต้องขับรถไปนั่งตากแดดที่อีกสวนของญาติ นั่งอยู่นานหลายนาทีกว่าจะหายหนาวสั่น อายุเริ่มเยอะ ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง ไม่รู้จะอยู่ได้อีกถึง 3 ปีหรือเปล่า

    ชาตินี้คงไม่มีเมียและไม่มีลูก เป็นชีวิตที่อิสระเสรี อยากกินอะไรกิน อยากทำอะไรทำ ไม่ต้องเป็นห่วงใคร และก็ไม่ค่อยมีใครมาห่วงผม แม้ปัจจุบันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ญาติๆ ก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไรนัก บางคนอาจจะยังคิดเมื่อไรนาย Muang99 จะไปสักที เขาอาจอยากได้มรดกเพิ่มก็ได้มั๊ง

    เมื่อหลายปีที่ผ่านมา น้องชายแท้ๆ ก็จากไปด้วยโรคมะเร็ง ญาติๆ ก็ไม่มีปัญญาช่วย ขนาดเฝ้าไข้ ก็ยังเกี่ยงกันเลย โดยเฉพาะพี่ชายคนโตเป็นคนที่ค่อนข้างเห็นแก่ตนมาก สวนแม่ 15 ไร่ เขาก็เริ่มฮุบ เข้าไปโค่นต้นยาง ขายไม้ยางได้เงินไปล้านกว่าบาท แต่ไม่ให้เงินแม่สักบาท อนาคต พอกรีดยางได้ เขาคงฮุบเอาหมด อนาคตต้องรอดู แต่เขาตั้งใจแล้ว คงจะเอาให้ได้ ทั้งๆ พี่น้องคนอื่นก็ยังอยู่ แต่พูดไม่ออก โดยหลักความจริงต้องแบ่งให้ญาติพี่น้องคนอื่นด้วย ในครอบครัวนี้มีผมคนเดียวที่กล้าสู้หรือต่อยกับพี่ชาย ส่วนคนอื่นๆ เขากลัวพี่ชายกันทั้งนั้น เหมือนเต่าหัวหด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2017
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ประสบการณ์เปิดโครงการบุญให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว

    ผมได้เปิดโครงการบุญให้ความช่วยเหลือค่าอาหาร เงินกินข้าว มาจำนวนหลายครั้งแล้ว ได้พบเจอประสบการณ์มากมาย อาทิเช่น

    1.พบว่าส่วนหนึ่งที่มาขอค่าอาหาร มีอายุน้อยกว่า 20 ปี บางคนเป็นผู้หญิง แต่มีลูกแล้ว ในขณะที่มีอายุยังไม่ถึง 21 ปี เรื่องราวแบบนี้เหมือนปัญหาสังคมอย่างหนึ่ง

    2.พบว่า ที่เป็นบุคคลล้มละลาย มาขอความช่วยเหลือ ก็มี อดีตเขาอาจมีเงินมากมายหลายสิบหรือหลายร้อยล้านบาท ช่วงหลัง อาจด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย เขามาขอความช่วยเหลือ แบบคนที่มีปัญหามากที่สุดคนหนึ่ง ในประสบการณ์ต่างๆ ที่ผมเคยประสบมา คือ จะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ค่อยจะทำตามกติกา และเป็นคนที่ศึกษาธรรมะ โดยเฉพาะธรรมประเภทคัมภีร์ใบลาน เถี่ยงคำไม่ตกฟาก หากเอ่ยธรรมอันใดไป เขาก็ย้อนหรือสอนกลับมาตลอด เป็นบุคคลที่น่าเบื่อมาก ที่ผมเคยเจอ สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยเขา ด้วยเหตุผล หลายอย่าง ผมเคยถามเขาไปตรงๆ ว่า มาขอความช่วยเหลือ หรือมาหาเรื่อง...

    3.พบว่าที่มีอายุช่วง 20-23 ปี เป็นผู้หญิง แต่มีลูก 1-2 คน ผัวก็ไม่ค่อยสนใจ บางคนติดต่อมา บอก อยากได้เงินไปซื้อนมให้ลูก เขาแจ้งว่าตัวเขาอดได้ แต่ลูกต้องไม่อด บ้านเขาก็ต้องเช่า งานก็ไม่ค่อยได้ทำ เพราะต้องเลี้ยงลูก ผัวก็ไม่ค่อยช่วย หรือเงินเดือนผัวไม่กี่พัน ไม่ค่อยพอ นี่ก็จัดเป็นปัญหาสังคมอย่างหนึ่ง

    4.อีกส่วนนี่มาขอยืมเงิน ตอนมายืมเงิน ทั้งโทรทั้งอีเมล์ และรับปากว่าจะคืนให้ในวันที่เท่านั้นเท่านี้ เมื่อถึงกำหนดที่จะต้องคืนเงิน กลับหายเข้ากลีบเมฆ ไม่ติดต่อกลับ โทรไปก็ไม่รับ ไม่โทรกลับ บางทีก็ปิดเครื่อง กรณีมาขอยืมเงิน แล้วไม่ยอมโอนเงินคืน เจออยู่บ่อย

    5.ประเภทเล่นเป็นทีม หรือคนเดิมๆ ใช้รูปแบบแบบเดิมๆ หวังเอาเงินท่าเดียว เขียนอีเมล์แบบเวอร์ๆ เช่น ไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว หิวมาก งานก็ยังหาไม่ได้ เพื่อนหรือญาติก็ไม่ให้ยืมเงิน เป็นต้น กรณีนี้ต้องพิจารณาให้ดี ประเภทมาหลอกเอาเงินก็มีนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2017
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    สื่ออังกฤษเผย 11 สิ่งที่คุณควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

    facebook-AFP.jpg
    เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ indy100.independent.co.uk ของประเทศอังกฤษรายงานถึงคำแนะนำในการใช้เฟซบุ๊กเพื่อความปลอดภัยโดยระบุถึง 11 สิ่งที่ผู้ใช้ควรลบออกจากเฟซบุ๊ก เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของตนดังต่อไปนี้

    1.วันเกิด
    ข้อมูลวันเกิดเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เมื่อรวมเข้ากับชื่อและที่อยู่ ซึ่งผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ในการเข้าถึงบัญชีธนาคารและข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ได้

    2.เบอร์โทรศัพท์
    ถ้าโชคดีคุณอาจได้รับสายจากคนสุภาพที่ชื่นชอบคุณ แต่ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือสายจากพวกสะกดรอยโรคจิตที่จะโทรมารบกวนคุณอย่างไม่หยุดหย่อน

    3.เพื่อนที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์
    โรบิน ดันบาร์ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ระบุว่าจากการศึกษาพบว่าตามทฤษฎีแล้วมนุษย์สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่คงที่ได้กับคนจำนวน 150 คนโดยประมาณ
    ดันบาร์ ศึกษาผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวน 3,375 คนพบว่าโดยเฉลี่ยผู้ใช้เหล่านี้จะมีเพื่อนจำนวน 4.1 คนที่คิดว่าสามารถพึ่งได้ และมีเพื่ออีกราว 13.6 คนที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจในช่วงเวลาที่เราอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตทางอารมณ์
    ฉะนั้นรายงานจึงระบุว่าการลบผู้ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยเป็นวิธีการที่ดีในการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีความสุข

    4.ภาพลูกๆของคุณ หรือสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็ก
    วิกตอเรีย แนช ผู้อำนวยการสถาบันอินเตอร์เน็ตมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ตั้งคำถามสำคัญที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ระบุว่า “ข้อมูลอะไรที่เด็กๆ อยากเห็นเกี่ยวกับตัวเองในโลกออนไลน์ในอนาคต” นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาและเกี่ยวข้องกับสิทธิที่กฎหมายในบางประเทศให้ความคุ้มครองด้วย

    5.สถานที่ๆลูกๆหรือเด็กๆสมาชิกครอบครัวไปโรงเรียน
    ท่ามกลางสถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศเด็กที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน โดยล่าสุดระหว่างปี 2013-2014 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากถึง 36,429 คดีในอังกฤษนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
    สถิติดังกล่าวน่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กปกป้องเด็กๆ จากการเปิดเผยโรงเรียนที่เด็กๆ ต้องไป

    6.โลเคชั่นเซอร์วิส
    เว็บไซต์เทคครันช์ รายงานเมื่อปี 2558 ระบุว่ามีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนที่ใช้เฟซบุ๊กผ่านทางอุปกรณ์มือถือ นั้นหมายถึงว่ามีผู้ใช้ถึง 500 ล้านคน ที่จะเปิดเผยสถานที่อยู่ของตนเองโดยอัตโนมัติ ให้กับผู้ที่อาจอยากจะทำร้ายคุณได้ล่วงรู้

    7.เจ้านาย
    ประเด็นคลาสสิก สำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยรายงานระบุว่า เฟซบุ๊ก เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ในบางขณะที่ผู้ใช้ต้องการใช้เพื่อการผ่อนคลาย แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้านายสามารถเข้าถึงฟีดข่าวของคุณได้ เมื่อนั้นเจ้านายคุณก็สามารถเข้าถึงสเตตัสที่คุณโพสต์บ่น ที่รวมไปถึงเรื่องงานของคุณก็ได้

    8.หยุดแท็กโลเคชั่น
    ผู้ใช้มักลืมว่าการแท็กสถานที่ในสเตตัสต่างๆ ที่ตั้งขึ้นนั้นเปรียบเสมือนการให้ที่อยู่ของบ้านคุณโดยไม่รู้ตัว

    9.เวลาและสถานที่ที่คุณไปเที่ยวพักผ่อน
    เว็บไซต์ดิสอิส มันนีย์ เว็บไซต์ด้านการเงินระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ถูกปล้นระหว่างการเดินทางในช่วงวันหยุดอาจไม่ได้รับการอนุมัติเงินประกันหากผู้เอาประกันโพสต์แผนการท่องเที่ยวผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากบริษัทประกันจะพิจารณาว่า ผู้เอาประกันไม่ได้ป้องกันตัวจากผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างเพียงพอด้วยการโพสต์ข้อมูลต่อสาธารณะ

    10.สถานะความสัมพันธ์
    หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหนึ่งก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่า

    11.ข้อมูลเครดิตการ์ด
    อย่าได้ลองทำเลยทีเดียว มันไม่ใช่ไอเดียที่ดี

    ที่มา : http://www.matichon.co.th/news/199441
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    อานิสงส์การเดินจงกรม

    ในคัมภีร์ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าได้ตรัสอานิสงส์ หรือประโยชน์ของการเดินจงกรมไว้ว่า มี ๕ ประการ คือ

    ๑. เป็นผู้อดทนต่อการเดินทางไกล
    ๒. เป็นผู้อดทนต่อการทำความเพียร
    ๓. เป็นผู้มีอาพาธน้อย
    ๔. อาหารที่บริโภคเข้าไป ย่อยง่าย
    ๕. สมาธิที่ได้ในขณะเดินจงกรมอยู่ได้นาน


    อธิบายเพิ่มเติมสำหรับอานิสงส์ทั้ง ๕ ประการของการเดินจงกรมนี้

    ๑. เป็นผู้อดทนต่อการเดินทางไกล คือการเดินจงกรมนี้ ทำให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้อดทนในการเดินทางไกล คือเดินได้ทน เดินได้นาน และเดินได้ไวด้วย เพราะมีร่างกายแข็งแรง เนื่องจากฝึกเดินเป็นประจำ

    ๒. ทนต่อการทำความเพียร คือการเดินจงกรมนี้ ทำให้เป็นคนอดทนต่อการทำความเพียร คำว่า “ทำความเพียร” ในที่นี้ หมายถึงผู้ทำความเพียรเพื่อชำระจิตให้สงบ เพื่อทำลายกิเลส หรือเพื่อพัฒนาจิต เพราะผู้ที่ฝึกจิต ถ้าเพียงแต่นั่งอย่างเดียว ไม่เดินจงกรมเลย จะนั่งไม่ได้นาน เพราะความเมื่อยขบมักจะมีมาก แต่ถ้าหากว่าผู้ฝึกจิตเดินจงกรมสลับกับการนั่ง จะทำให้การทำสมาธิเป็นไปได้นาน นักปฏิบัติจึงมักจะใช้การเดินจงกรมสลับกับการนั่ง เพราะทำให้อดทนได้ และปฏิบัติติดต่อกันได้เป็นชั่วโมง หรือแม้แต่เป็นวันก็ยังทำได้ และจะทำให้การฝึกจิตได้ผลไวขึ้น

    ๓. เป็นผู้ที่มีอาพาธน้อย คือ ใครก็ตามที่เดินจงกรมอยู่เสมอเป็นประจำ จะมีสุขภาพสมบูรณ์แน่นอน ดังที่นายแพทย์ทั้งหลายแนะนำให้ประชาชนออกเดินเล่นในตอนเช้า ๆ เพื่อออกกำลังกายและเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ โดยชี้ให้เห็นผลของการเดินว่า ทำให้โรคหลายชนิดหายไปได้ เช่น โรคเบาหวาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่ค่อยเจ็บป่วย ซึ่งพระพุทธองค์ทรงค้นพบคุณประโยชน์ของการเดินนี้มาด้วยพระองค์เอง ก่อนแพทย์ในปัจจุบันเป็นเวลานานถึง ๒,๕๐๐ ปีกว่ามาแล้ว แต่ไม่ใช่ทรงสอนให้เดินเล่นอย่างคนทั่วไปเดินกัน แต่ทรงสอนให้เดินจงกรม เพื่อบริหารจิตเป็นสำคัญ และทำให้เป็นผลดีแก่การบริหารกายด้วย ฉะนั้น ผู้เดินจงกรมจึงมีอาพาธน้อย มีสุขภาพดี ทำให้มีอายุยืน

    ๔. อาหารที่บริโภคเข้าไปย่อยง่าย คือใครก็ตามถ้ารับประทานอาหารแล้ว มัวแต่นั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวหรือไม่ค่อยทำงาน การย่อยอาหารก็ไม่ค่อยสะดวก เพราะร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ร่างกายก็ใช้พลังงานน้อย อาหารที่บริโภคเข้าไปมักจะตกค้างอยู่ทำให้เกิดอาการท้องขึ้น ท้องเฟ้อได้ง่าย แต่ถ้าเดินหรือทำงานอันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกายมาก การย่อยอาหารในร่างกายก็สะดวก ย่อยง่าย ไม่ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นเหตุส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น ทำให้ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ เพราะการเดินจงกรมทำให้น้ำย่อยหลั่งออกมา ย่อยอาหารประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย

    ๕. สมาธิที่ได้ในขณะเดินจงกรมอยู่ได้นาน ข้อนี้เป็นอานิสงส์โดยตรงของการเดินจงกรม ถ้าใครเคยฝึกการเดินจงกรมแล้วจะเห็นอานิสงส์ข้อนี้ชัด คือจิตของผู้ที่เดินจงกรมแล้วไปนั่งสมาธิ จะสงบไวกว่าผู้ที่นั่งแล้วไปเดินจงกรม ข้อนี้อาจจะเป็นเพราะเลือดลมเดินสะดวกหรือเพราะจิตมีสติควบคุมให้สงบเป็นพื้นมาก่อนแล้วนั่ง จึงทำให้จิตใจสงบไวและสงบได้ง่ายกว่านั่งสมาธิอย่างเดียว สมาธิที่ได้ในขณะเดินจงกรมนี้ ดำรงอยู่ได้นาน คือเสื่อมยาก


    เครดิต : อานิสงส์การเดินจงกรม
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    บางคนได้ญาณได้ฌาน จากการเดินจงกรมนะครับ เพราะบางท่านนั้นชอบเอาแต่นั่งสมาธิ นั่งมาเป็น 10 ปี ก็ไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร แต่หากเปลี่ยนมาเดินจงกรม ก็ทำให้การปฏิบัติก้าวหน้าจนถึงกับได้ญาณก็มี แต่ไม่ใช่เดินจงกรมแค่ 4-5 รอบนะครับ แต่ควรเดินจงกรมให้มาก อาจเป็นที่ 20-50 รอบ ใน 1 รอบนั้นระยะเดินจงกรม 10-20 เมตร

    เมื่อนานหลายปีมาแล้ว สมัยที่ผมไปบวช ช่วงปี 2543-2544 ได้ปฏิบัติธรรมมาก สำนักสงฆ์นั้นอยู่ติดเชิงเขาที่ภูลังกา ซึ่งเป็นแดนอาถรรพ์พิเศษแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีมิติที่ซ้อนกันหลายชั้น เช่น ภูมิของมนุษย์ ภูมิของชาวลับแล และภพภูมิของพญานาคา

    ในช่วงที่บวช มีอยู่ครั้งหนึ่ง ได้เดินจงกรม จนจิตค่อนข้างนิ่ง อยู่ๆ ภาพของอดีตหัวหน้างาน (ที่ทำงานบ.เพจเจอร์) ก็ปรากฎให้เห็น ในจิตบอกว่าอดีตหัวหน้างานกำลังกลุ้มใจ ซึ่งอาจมีแน้วโน้วจะโดนจ้างออก เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่บ.เพจเจอร์นี้จะต้องไปร่วมกับบริษัทเพจเจอร์ในเครือเลนโซ่กรุ๊ป เมื่อบริษัทรวมตัวกัน ก็อาจต้องจ้างบางคนออก ช่วงนั้นผมมาพิจารณาดู ก็คิดในจิตว่าช่วยอะไรไม่ได้หรอก สัตว์โลกย่อมเดินไปตามกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2017
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระคาถาอาราธนาเวลาขับรถ หรือเดินทางไกล

    ตั้งนะโม 3 จบ

    ภาวนาว่า (แผ่เมตตาให้เทวดา) :

    เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง

    ให้ภาวนาไปเรื่อยๆ ในขณะขับรถหรือเดินทางไกล

    พระคาถาบทนี้มีพบเห็นอยู่ในหนังสือสวดมนต์ทั่วไป

    มีหลายท่านต่างยืนยันมาว่าพระคาถาบทนี้ ภาวนาหรือสวดแล้วเห็นผลจริง เช่น สามารถป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ หรือช่วยบรรเทาจากหนักให้กลายเป็นเบา

    หลวงพ่อจรัญกล่าวว่า เวลาขับรถให้ภาวนาพระคาถาบทนี้ ถ้าจะภาวนาเป็นหัวใจก็ภาวนาว่า “เมตตา คุณณัง อรหัง เมตตา


    แหล่งอ้างอิง : หนังสือกฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ วัดอัมพวัน เล่มที่ 7 เรื่องพระภูมิ เจ้าที่


    เครดิต :
    http://metharung-background.blogspot.com/2014/11/blog-post.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2017
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    อุทิศบุญให้ตนเองและเทวดาประจำตัว.jpg
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    งวดนี้เห็นเลขเด่นขึ้นมา เห็นมาหลายวันแล้ว เป็นเลขตัวเดียว (เลขช่วงกลาง) ปกติไม่ค่อยบอกใคร บางงวดก็เข้าตรงๆ เห็นเป็นเลขไทยหรืออาราบิค อย่าไปรู้เลยครับ เล่นวิ่งนั้นแทง 1 บาท จ่าย 3 บาท เล่น 1 แสน ถ้าถูกก็ได้ 3 แสนบาท กำไร 2 แสน
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    แวะดูกระทู้วันเสาร์
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    11914887_1645824372327049_4239648595059290208_n-768x850.jpg

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เผย “สูตรตำรายารักษาโรคมะเร็ง” และเบาหวาน แถมโรคอักเสบภายในทั้งหมด ก็รักษาได้

    ด้วยอำนาจพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่ยังไม่ บวช หลังจากบวชแล้วก็ได้เป็นผู้ช่วยหลวงปู่ปาน รักษาคนไข้ และได้เรียนวิชาแพทย์จากท่านที่มีอทิสสมานกายอีกมาก วิชาเหล่านี้ต่อมาจากท่านละทิ้งหมด จนกระทั้งเริ่มรับลูกศิษย์ และเห็นทุกขเวทนาของลูกศิษย์บางคน จึงได้บอกสูตรยาต่าง ๆ ให้ รายละเอียดมีดังนี้

    สูตรยาแก้โรคมะเร็งและโรคอักเสบภายในต่างๆ

    สูตรตัวยามีดังนี้ ขมิ้นชัน ๑ กำมือ กับหญ้าแพรก ๑ กำมือ โขลกให้ละเอียดคั้นกับน้ำปูนใส (ปูนกินกับหมาก) แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง

    biodiversity-182215-3-768x576.jpg
    VE0111.1.jpg

    วิธีใช้ รับประทานครั้งละประมาณ ๑ ถ้วยชา หรือประมาณ ๓๐ ซี.ซี รับประทานวันละ ๑ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า ๓๐ นาที หรือ ๑๕ นาที เป็นอย่างน้อย

    รักษาโรคมะเร็ง และโรคอักเสบต่าง ๆได้ทั้งหมด เช่น โรคกระเพาะ โรคลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ ไตอักเสบ ฯ ล ฯ ถ้าโรคเบาหวาน ขณะที่กินยา ห้ามกินกะปิกับของแสลง คือของหวานในช่วงกินยา ๓ วันหาย

    ประวัติของยานี้หลวงพ่อเล่าให้ฟัง เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๒๘ ยานี้ท่านหมอ โกมารภัจมาบอกหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า

    “ ยานี้คือยารักษาโรคมะเร็ง โรคเบาหวานเพียงแค่พื้น ๆ โรคกระเพาะ โรคตับนี้รักษาง่าย ท่านบอกว่า แต่อย่าไปรับรองชาวบ้านเขานะ ห้ามรับรองชาวบ้านเขา ฝีในท้องกิน ๓ ระยะ ๆ ๓ วัน เว้น ๗ วันหาย บอกว่าถ้าหัวฝีแตกยิ่งดีใหญ่ โรคไต ๓ ถ้วยหายโรคอักเสบทั้งหมดรักษาได้ทุกอย่าง โรคเบาหวานห้ามกินกะปิ และของหวานในช่วงเวลาที่กินยา คนไข้คนไหนไม่เว้นของแสลง ไม่ควรสงสาร เพราะว่าตัวเขาเองยังไม่รัก แล้วเราจะไปรักทำไมต้องถือคตินี้นะ

    ประวัติ ความเป็นมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ตอนนั้นอยู่ชัยนาท คุณสมศรี เธอเป็นโรคมะเร็งในมดลูก รักษาตัวมาเป็นเดือนหมดเงินเป็นหมื่น มะเร็งระยะสองไม่หาย เธอมาปรารภอาการป่วยให้ฟัง ยาฉันก็ไม่มี ฉันไม่รู้จะไปหาที่ไหน นั่งนึกถึง ท่านโกมารภัจ ท่านก็มาท่านบอกให้แม่มันไป ตลาดโพธิ์นางดำ ไปถามหมอโบราณที่นั่น หมอชื่ออะไร รูปร่างอย่างไร ท่านก็ไม่บอก บอกไปเถอะไปเจอใครเขาบอกยาองเขารักษาหาย ให้เอามารักษาจะหาย ไม่ใหม่ประวัติความเป็นมาจำไว้นะ

    แล้ว แกก็ไปหาทันที ไปรอลงเรือที่ ประตูน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ก็ไปรอลงเรือ
    ไอ้ท่าเรือก็มีผู้ชายคนหนึ่งผอมโปร่งผิวขาว แต่งตัวเรียบร้อยไม่พูดไม่จากับใคร
    นั่งเฉยหัว ก็ขาวโพลน นั่งเฉยคอยเรือเกือบชั่วโมงไม่พูดกับใครเลย

    เวลาลงเรือหางยาวบังเอิญ นั่งคู่กันไป เรือวิ่งไปประมาณ ๑ กิโลเมตร แกหันมาถามว่าหนูจะไปไหน บอกจะไป ตลาดโพธิ์นางดำ ถามไปทำไม บอกลูกสาวประจำเดือนออกไม่หยุด หมอบอกเป็นมะเร็งที่มดลูก ชายคนนั้น แกถามต่อไปว่า แล้วนี่จะไปไหน บอกไปหาหมอ ถามหมอชื่ออะไร แกบอกไม่รู้ บอกไม่รู้ไปอย่างไร

    บอกว่าพระท่านบอกถ้าไปเจอหมอที่ โพธิ์นางดำ ท่านเป็นหมอโบราณ
    ถ้าท่านบอกยารักษาหายให้นำมาเลย บอกถ้าอย่างนั้นไม่ต้องไป ยาที่ฉันมีพอเรือหางยางสวนมาแกกวักมือบอกกลับได้

    แล้ว ปรากฏว่าวันหลังไปถามเรือหางยาวคนนั้นว่า คนรูปร่างแบบนั้นขึ้นที่ไหน ไอ้เรือหางยาวเขารู้จักกันบอกเวลานั่งมาเห็น เลาขึ้นไม่เห็นตอนขึ้นเขาเก็บสตางค์ ไม่เห็นโดดน้ำไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แก่ทำกินไม่ถึงถ้วยชา แคครึ่งถ้วยชา ถ้วยเดียวหาย แต่ท่านบอกว่าให้กิน ๓ ถ้วย แล้วจะหายสนิทมะเร็งนี่นะ ไอ้โรคเบาหวานเรื่องเล็ก ๆ เล็ดหมดเลย เบาหวานขนาดม้า มะเร็งขนาดช้าง ท่านเลยบอกว่าหาย ไอ้โรควัณโรคนานหน่อยนะ กิน ๓ วันติด ๆ กัน เว้น ไป ๗ วัน ๓ ระยะ เท่ากับกิน ๙ ถ้วยหาย

    ท่านก็เลยสรุปอักเสบทั้งหมดใช้ได้หมดเลย เดี๋ยวลองถามท่านกินบ่อย ๆ จะได้ไหม ท่านบอกว่าป้องกันโรคต่าง ๆ ปีละงวด ๓ ถ้วย กิน ๓ วัน ถ้ากินป้องกันร่างกายทรุดโทรม ๖ เดือนงวด จะไปกินเร็วกว่านั้นไม่ได้ ๖ เดือนกิน ๓ ถ้วย

    แต่ท่านบอกว่าอย่าไปรับรองใครเขานะ บอกเราเคยกินหายมาแล้ว เราอย่าไปรับรองผล ถ้าบังเอิญมันเป็นระยะปลาย และคนนั้นจะต้องตายมีอยู่ อย่าไปรับรองเขา แล้วท่านบอกว่า หญ้าแพรกทำให้เย็น ขมิ้นรักษา และน้ำปูนใสทำให้อย่างแห้งเร็ว

    ก่อนกินยานี้ให้นำดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ ขอพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่วยให้โรคหายไปจากร่างกาย ขอพรท่านโกมารภัจเจ้าของยา ขอให้ท่านช่วยให้ยานี้มีฤทธิ์ทำลายโรคให้หมดไป ขอพรท่านแม่ศรีช่วยด้วย ขอให้โรคทั้งหลายสลายตัวไปให้หมด นับตั้งแต่กินยานี้เข้าไปแล้ว ยานี้ใช้ได้ผลเฉพาะบุคคลที่มีความเชื่อในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เท่านั้น

    หมายเหตุ
    สูตรบนที่ใช้แห้วหมู มะเร็งกับเบาหวาน ส่วนหญ้าแพรกคลอบคลุมหลายโรค มีเรื่องกระเพราะ ตับ ไต เข้ามาด้วย

    เครดิต :
    สุดยอดยาอายุวัฒนะ!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เผย “สูตรตำรายารักษาโรคมะเร็ง” และเบาหวาน แถมโรคอักเสบภายในทั้งหมด ก็รักษาได้??

     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    สวดมนต์เจริญกรรมฐานเป็นประจำ.jpg
     
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พายุฤดูร้อน

    พายุฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในฤดูร้อน หรือ เรียกว่า พายุฤดูร้อน จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน หรือ ในช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูฝน ขณะที่อุณหภูมิในภาคต่างๆ เริ่มสูงขึ้น เนื่องจากแกนของโลกเริ่มเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาอยู่ที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ทําให้อากาศร้อนอบอ้าว และชื้นในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตอนบนของภาคกลาง อากาศที่อยู่ใกล้ผิวพื้นจะมีอุณหภูมิสูง ประกอบกับลมที่พัดเข้าสู่ประเทศไทย เป็นลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดมาจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้ ในระยะนี้ถ้ามีลมเหนือ (อากาศเย็น) พัดลงมาจากประเทศจีนคราวใด จะทําให้อากาศสองกระแสกระทบกัน ทําให้การหมุนเวียนของอากาศแปรปรวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และฉับพลัน เป็นเหตุให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างแรง และรวดเร็ว มีฟ้าแลบ (Lightning) ฟ้าร้อง (Thunder) และฟ้าผ่า รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ มักจะมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักเกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บตกลงมาด้วย พายุฟ้าคะนองนี้ เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น มีน้อยครั้งที่เกิดขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง


    ข้อมูลบางส่วนจาก : พายุฤดูร้อน (Thunderstorms)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2017
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พายุฤดูร้อนนี่น่ากลัวกว่าฝนตกในยามปกติ

    หากจะเกิดพายุฤดูร้อน ท้องฟ้ามักจะมืดครึ้ม ลมพัดแรงมาก

    คนที่หวังพึ่งพลังความศักดิ์สิทธิ์จากพระเครื่องวัตถุมงคล จะต้องรู้จักเช่าบูชา วัตถุมงคล ที่มีพลานุาภาพเด่นในด้าน แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ คนที่เช่าบูชาแต่วัตถุมงคลที่เด่นแต่ในด้านโชคลาภ ควรพึ่งพิจารณาใหม่ ในการที่จะรู้จักการเช่าบูชาวัตถุมงคลที่โดดเด่นในด้านต้านภัยหรือแคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติด้วย เช่น ป้องกันภัยน้ำท่วม, ป้องกันภัยจากพายุ, ป้องกันภัยแผ่นดินไหว และป้องกันกัมมันตภาพรังสี

    รูปภาพของหลวงปู่เทพโลกอุดร หรือรูปภาพของครูบาอาจารย์ที่ได้อธิษฐานไว้แล้วในด้านป้องกันภัยธรรมชาติ ก็สามารถทำให้แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ รูปภาพหลวงปู่เทพโลอุดรหรือรูปภาพครูบาอาจารย์ที่ได้อธิษฐานไว้แล้ว สามารถคุ้มครองบ้านได้ทั้งหลังหรือในเขตรัศมีหลายสิบเมตร จากศูนย์กลางรูปภาพหรือวัตถุมงคลนั้นๆ (โปรดใช้วิจารณญาณ อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธา)

    พระเครื่องวัตถุมงคลที่ผมมีเก็บบูชาไว้ ที่เด่นในด้านป้องกันภยันตราย แคล้วคลาดจากภัยธรรมชาติ เช่น

    5b8-25b9-25e0-25b9-2588-25e0-25b9-2583-25e0-25b8-25ab-25e0-25b8-258d-25e0-25b9-25889-jpg.4111145.jpg

    1.รูปภาพหลวงปู่เทพโลกอุดร (ถ่ายภาพขึ้นมาได้โดยท่านผู้มีอภิญญา)

    รูปภาพหลวงปู่เทพโลกอุดรนั้นมีพลังอันยิ่งใหญ่นะครับ
    รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร (หลวงปู่ใหญ่) มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวครับ เพราะเป็นสิ่งแทนตัวหลวงปู่เทพโลกอุดร

    สมัยก่อน ผมเคยมีนิมิตความฝัน ได้รับรู้ว่ารูปหลวงปู่ใหญ่ ที่ถ่ายรูปขึ้นมาได้นั้น เป็นรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเอง ผู้ที่มีบูชารูปหลวงปู่ใหญ่อยู่ที่บ้าน จะได้รับความคุ้มครองจากหลวงปู่ใหญ่ แม้จะอัดรูปหลวงปู่ใหญ่เพิ่มอีกกี่ครั้ง รูปภาพหลวงปู่ใหญ่นั้นๆ ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เสมอ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธา



    %AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7-jpg.4111118.jpg
    (รูปภาพประกอบนะครับ องค์นี้มีคนเช่าบูชาไปแล้วครับ)​

    2.พระรอดเชียงดาว สร้างตามคำสั่งหลวงปู่เทพโลกอุดร

    หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านมาทำพิธีปลุกเสก "พระรอดเชียงดาว" เกือบครึ่งชั่วโมงจึงกลับไป

    ความศักดิ์สิทธิ์ของพระรอดเชียงดาว :
    "ถ้ามีศรัทธา และดำรงมั่นในศีลในธรรม จะคุ้มครองป้องกันภยันตราย ทำให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติ ได้อย่างมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นเรื่องเร้นลับ ไม่สามารถนำพิสูจน์ได้ นอกจากท่านจะพบกับตน และวันนั้นท่านก็จะสามารถนำตัวของท่านพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง"


    E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8711-jpg.4111131.jpg
    (รูปภาพประกอบนะครับ องค์นี้มีคนเช่าบูชาไปแล้วครับ)
    3.พญานาคเกี้ยว หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ

    เมื่อโลกกำลังเดินใกล้วิกฤติภัยธรรมชาติเข้าไปเรื่อยๆ...ลองมาอ่านคำทำนายของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน วัดไพรพัฒนา จ.ศรีสะเกษ...
    แต่ธรรมชาติเขาหลอกให้เราตายใจ เขาเป็นไปอย่างเงียบ ๆ ผู้คนไม่รู้จนถึงวันเกิดภัยพิบัตินั่นแหละ
    วัตถุมงคลที่ครูบาอาจารย์ในอดีตได้อธิษฐานจิตกันภัยพิบัติกันและกัมมันตภาพรังสีไว้นั้น ได้แก่
    1.ผู้ที่บูชาพกพาพระอุปคุต และหลวงปู่สรวงจะรอดพ้นภัยครั้งนี้ได้ด้วยอำนาจของพระอุปคุตและหลวงปู่สรวงจะบันดาลให้คนผู้นั้นมีเหตุไม่ไปยังที่จะเกิดภัยพิบัติหรือพาให้พ้นจากสถานที่นั้นก่อนจะเกิดเหตุ
    2.พระเครื่องหนังสือธรรมะ ก้อนกรวดอธิษฐานจิตของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต
    3.พระพุทโธน้อย หนังสือธรรมะ และศิลาน้ำอธิษฐานจิตของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    4.พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำทุกรุ่น เช่น พระคำข้าว พระหางหมาก หัวแหวนข้าวตอกพระร่วง ผ้ายันต์พิชัยสงคราม...
    10.พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่คำพันธุ์ โฆษปัญโญ วัดพระธาตุมหาชัย โดยเฉพาะปฐวีธาตุอันเป็นก้อนกรวดสีขาวใสจากแม่น้ำโขงมีอานุภาพกันภัยพิบัติทุกประการ
    อ้างอิง : เมื่อโลกกำลังเดินใกล้วิกฤติภัยธรรมชาติ..


    25B8%252599%2525E0%2525B8%2525AB%2525E0%2525B8%252599%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525B23.jpg
    (รุปภาพประกอบนะครับ องค์นี้มีคนบูชาไปแล้ว)​

    4.เหรียญพระอุปคุตมหาเถระ

    เหรียญพระอุปคุตได้ผ่านพิธีดังนี้

    1.ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย แสดงเจโตฯให้ประจักเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เพราะไม่ได้ตั้งใจนำให้ท่านอธิฐานจิต
    2.ครูบาพรชัย วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง องค์นี้ไม่มีอะไรสงสัยในคุณธรรม องค์ไหนๆที่ว่าเก่งๆแล้วจะชวนท่านไปกราบ ท่านไม่ไป ท่านบอกว่า หากหลวงพ่อเกษม ท่านลุกมานั่งให้กราบได้ ท่านถึงจะไปกราบ
    3.พิธีพุทธาภิเษกพร้อมพระกริ่งเจริญลาภยศบารมี โดยแม่ชีน้อย สายในดง วันทำพิธีปกติก่อนหน้าแดดร้อนจัด ช่วงทำพิธีอากาศเย็นสบาย คุณแม่ท่านทำพิธีให้เป็นอย่างดี สีหน้าแววตาท่านเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง ผมยังกลัวในตบะเดชะ แฟนผมกำหนดดูเห็นหลวงปู่ใหญ่คุมอยู่ มีผู้ปฎิบัติธรรมศิษย์คุณแม่ชี มาสะกิดผมหลังพิธีว่า งานนี้ครูบาอาจารย์มากันเยอะจริงๆ
    4.เข้าร่วมพิธีเข้านิโรธกรรม คุณแม่ชีภา ท่านจะเข้านิโรธฯ 15 วัน เป็นเวลาหลายปีแล้ว มีคนคิดปรามาสว่าจริงหรือ ท่านไม่อยากให้เป็นบาป จึงให้ติดกล้องวงจรปิด ดูกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ท่านนั่งนิ่งสนิท ตลอด 15 วัน ไม่ขบฉัน ไม่ถ่ายหนักเบา คุณแม่เตตาเป็นพิเศษ นำไปไว้ในห้องกรรมฐาน ตลอด 15 วัน หายห่วงครับ เพราะท่านถึงพระฯ
    ๕.ครูบาฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ครูบาท่านเมตตาให้ครั้งนี้เป็นพิเศษ คุยไปเศกไป เดี๋ยวนิ่งไปสักพัก และสลับคุยไปตามสบายๆ และท่านก็กล่าวว่า เราเสกให้นานแล้วนะ นับสองชั่วโมง และนั่งอธิฐานจิตอย่างเป็นทางการอีกพักใหญ่ จึงมั่นใจได้ครับเพราะท่านถึงพระ ถึงท่านปู่พระอุปตุคแน่นอน
    ๖.วันนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกบวงสรวงหล่อสมเด็จองค์ปฐมสี่ศอกวัดศรีชุม โดยมีหลวงพ่อพระมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ ลำพูน และหลวงปู่ครูบาบุญมา วัดสามัคคี ร่วมกันอธิฐานจิต แบบจัดเต็ม ได้รับพลังบารมีสมเด็จฯ พระ เทพพรหม ทุกชั้นฟ้า ต้องลงมาโมทนาบุญเพราะเป็นบุญใหญ่มากครับ

    "วันนี้นำเหรียญท่านปู่พระอุปคุต ไปถวายที่รอยพระพุทธบาทคู่ จำนวนหนึ่งร้อยเหรียญไว้แจกผ้าป่าหรือผู้มาทำบุญ ก็เลยกราบนมัสการขอหลวงพี่ทูน ท่านตรวจสอบกระแสพลังงาน ซึ่งท่านกล่าว เหรียญนี้แปลกมากลาภนำมาก่อน แคล้วคลาดปลอดภัยตามมา ท่านว่าพลังดีมากครับ"

    ** พระเครื่องวัตถุมงคล ที่ยังพอสามารถจัดหาให้ท่านได้ก็มี รูปภาพหลวงปู่เทพโลกอุดร, พระรอดเชียงดาว(ต้องจองนานเป็นเดือน), พญานาคเกี้ยว ถ้าสนใจก็ค่อยติดต่อหาผม ที่เบอร์ 081-2670895 **
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2017
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    เหตุที่หาดใหญ่ไม่ตั้งเป็นจังหวัดสักที เพราะอยู๋ติดกับจังหวัดสงขลา ระยะห่างกันประมาณ 27-30 กิโลเมตร ซึ่งอาจเป็นกฎระเบียบของกระทรวง เท่าที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่อบต. แถวบ้าน เขาก็บอกหาดใหญ่อยู่ติดสงขลา ยกขึ้นเป็นจังหวัดไม่ได้ หากจะยกก็คงเป็นอำเภอนาทวี(เพราะห่างสงขลา) หาดใหญ่เจริญกว่าสงขลา แต่ก็ยังให้หาดใหญ่ เป็นอำเภอหนึ่งของสงขลา อันนี้ก็แปลกดี ประเทศไทยเข้าสู่ AEC หาดใหญ่เจริญมาก ฐานเศรษฐกิจใหญกว่าจังหวัดสำคัญบางจังหวัด ปัจจุบันก็เป็นแค่อำเภอ

    หาดใหญ่นี่เจริญกว่าสงขลา เพราะมีทั้งสนามบิน มหาวิทยาลัยชื่อดัง โรงพยาบาลใหญ่สุดของภาคใต้ ห้างสรรพสินค้าดังหลายแห่ง โรงแรมใหญ่ๆ มีมาก มีชุมทางรถไฟ สถานีขนส่ง

    มีคนเอาหาดใหญ่ไปเทียบกับเชียงใหม่ อ่านแล้วมึน อยากรู้ก็ลองเข้าไปอ่านดู

    หาดใหญ่กับเชียงใหม่ ที่ไหนเมืองใหญ่กว่ากันครับ ขอสอบถามผู้ที่เคยอยู่ทั้งสองที่
    https://pantip.com/topic/33932179
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...