เรื่องเด่น หญิงสองร่างนางสองชาติ... โดย หลวงพ่อจรัญ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 11 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    หญิงสองร่างนางสองชาติ.jpg


    เรื่องมาสร้างกุฎิกัมมัฎฐานโดยหญิงสองร่าง นางสองชาติ อาตมาเคยคิดว่ามันจะมีอย่างไรเรือ่งนรกสวรรค์ แต่ก็มีประสบการณ์กับที่วัดเรานี่เอง

    เมื่อตอนที่อาตมาอยู่ที่วัดนี้ พ.ศ. 2499 พอดี 2500 กุฎิกัมมัฎฐานไม่มีเลย ยังไม่ได้มาเริ่ม เริ่มมาจากที่อื่น สอนกัมมัฎฐานมาเมื่อ 2495 สอนมานาน เมื่อสอนแล้วมาอยู่ที่วัดนี้ มาเป็นเจ้าอาวาส มาประสบการณ์กับหญิงสองร่าง นางสองชาติ จึงได้สร้างกุฎิกัมมัฎฐานต่อเนื่องมาตามลำดับจนบัดนี้

    เล่าถึงประวัติ นายปุ่น นางสอิ้ง นายปุ่น บวช 2-3 พรรษา สวดปาติโมกข์ได้รุ่นเก่าแก่นานมาแล้ว
    แล้วเจริญกัมมัฎฐาน เมื่อสึกแล้วก็มาแต่งงานกับแม่สอิ้ง อยู่ด้วยกันมีลูก 2 คน ตาปุ่นเป็นคนร่ำรวยอยู่ในอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ นายปุ่น นี้จิตใจเป้นมหากุศล สวดมนต์ไหว้พระตลอด แต่นางสอิ้ง ใจบาปหยาบช้า มีร่างกายที่เขียนรูปไว้ นุ่งผ้าโจงกระเบน ใส่เสื้อเตี่ยว มีผมก็ทัดหู มีสร้อยใส่..ไปบ้านใครต้องลักขโมยตลอดเวลา.....
    แล้วมาวันหนึ่ง นางสอิ้ง ไปช่วยงานหลานตาปุ่นบวชในพระศาสนา นางสอิ้ง ก็ลักทอง ลักสร้อยแล้วก็บุ้ยใบ้ไปโทษหลานตาปุ่นที่ยากจนกว่า ตีเสียหัวร้างข้างแตก แล้วยัดเยียดให้เป็นคนขโมย แท้จริงตัวเป็นคนขโมยแท้ๆ ไม่มีใครเชื่อว่านางสอิ้งนี่เป็นคนขโมย เพราะเป็นคนรวย มีจิตใจเป็นอกุศลเป็นอย่างนี้ ทำบาปหยาบช้าเหลือเกิน สวดมนต์ก็ไม่เป็น นางสอิ้ง อ่านหนังสือไม่ออก ตาปุ่นสวดคนเดียวแทน ตาปุ่น เป็นสามีที่ดีของศรีภรรยาไม่มองภรรยาในแง่ร้ายแต่ประการใด ไม่มีการนินทาลูกเมีย นี่ประการหนึ่ง
    ประการที่สอง เขานิยมการไปทำไร่ไถนา โฉนดไม่มี ใครอยากจะมีขยันขันแข็งก็ไปถากถางเอาเอง
    บุกป่า ฝ่าดงพงไพรมีนาอยู่หลายร้อยไร่ เพราะด้วยความขยัน พ่อ แม่ ของเขาทำสืบเนื่องกันมาตามลำดับ มีบ้านทรงไทย 2 หลังแฝด และเรือนหออีกหลังหนึ่ง มีครบทุกรายการ แล้วทุกปีก็ทำนาไป
    ปลูกโรงนาอยู่กลางทุ่งกลางนา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขามีลูกจ้าง 5 คน จ้างมาจากภาคอีสาน คนละ 20 บาท ข้าวคงจะเกวียนละ 40 หรือ 80 จำไม่ได้มันนานแล้ว เวลาไปอยู่โรงนา ตาปุ่น ก็ต้องเฝ้าบ้านอยู่กะแม่ แต่เมียเป็นคนจัดการเสร็จ ไปออกไปโรงนา พอเกี่ยวข้าวเกี่ยวปลาเสร็จแล้ว

    เมื่อก่อนนี้มีกระแทะ มีเกวียน เวลานวดข้าวเสร็จแล้วก็ต้องใช้สากเอา ใช้ลมกลางทุ่ง เวลาก่อนจะนวดก็ใช้ลูกจ้างไปลักข้าวเขาตามโน่นตามนี่มาใส่ ทุกปีลักข้าวเขามาใส่บาปมาก ไม่มีใครจับได้ เพราะเนื่องจากว่า ตาปุ่น นางสอิ้ง ในหมู่บ้านตำบลนั้น เป็นนายทุนให้แก่คนอื่น อีกหลายนายทุนด้วยกัน สามีก็ไม่ทราบว่าภรรยาเป็นคนขโมย

    แล้วปีสุดท้ายนางสอิ้งมีทอง 2 เส้น สายสะพาย หนักเส้นละ 8 บาท ปีนั้นกำลังตั้งครรภ์ขึ้นอีก ก็ใจคอหงุดหงิดสังหรณ์ในใจว่าปีนี้โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ออกไปทำนาก็มีโรงนาปลูก ไปประจำ จนเกี่ยวข้าว ขายเรียบร้อย นางสอิ้ง เอาทองไปฝังในโรงนา โดยที่คิดอกุศล กลัวลูกจ้างจะลัก อยู่บ้านกลัวไม่ปลอดภัย แล้วก็ใช้วิธีอย่างเดิมให้ลูกจ้างไปลักข้าวอีก ยังไม่ทันจะนวด พอดีเกิดคลอดบุตรตายทั้งกลมคานา ตายแล้ว ตาปุ่นก็จัดงานศพ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นางสอิ้งเล่าว่ารู้ไปหมด นรก 100 ปี เวลาถึงวันโกน วันพระ มีพระมาลัยมาโปรดสั่งสอนในวันพระ แล้วในเมืองนรกเขาให้สวดมนต์ไหว้พระ นางสอิ้งไม่เคยสวดได้เมื่อตอนอยู่ในภพมนุษย์ นางสอิ้งสวดได้หมด ทำวัตรเช้าเย็นพระมสลัยไปโปดเทศน์เรื่องกรรมในโลกของนรกนั้น ในภพนั้นได้สวดมนต์ไหว้พระเจริญวิปัสสนากัมมัฎฐานเหมือนกันสอนอย่างนั้น

    กล่าวถึงภพมนุษย์ ตาปุ่นก็คิดถึงลูกเมีย เมื่อนวดข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ขายส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ก่อพระเจดีย์ทรายข้าวเปลือกอุทิศส่วนกุศลให้แม่สอิ้งศรีภรรยาของตน
    พออุทิศส่วนกุศลให้แล้วก็ได้อภัยโทษ นางสอิ้งได้ทำคุณงามความดีสวดมนต์ไหว้พระในเมืองนรก คงจะเป็นยมบาลบอกเหตุการณ์ให้นางสอิ้งฟังว่า สามีของเธอได้เอาข้าวที่ร่วมงานกันเอามาก่อเจดีย์ทรายข้าวเปลือกในวัด และอุทิศส่วนกุศลมาให้เธอ ก็ขอให้อภัยโทษเธอ 20 ปี เหลือ 80 ปี

    ต่อมานายปุ่นเห็นเรือนหอ คิดถึงภรรยาทุกวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องการเอาเรือนหอไปถวายวัด เอาไปลูกกุฎิเป็นทรงไทย ตามลำดับ สมภารเจ้าวัดก็เห็นด้วย นายปุ่นก็สร้างกุฎิ เมื่อเสร็จแล้วก็ฉลองกันใหญ่ มีหมอลำ และมีหนังตลุง 2 อย่าง ฉลองวันไหนรู้หมด ฉลองเสร็จแล้วก็ถวายเป็นการสงฆ์ให้แก่พระสงฆ์ ทุกสารทิศทั้งที่มาจากทิศใดก็ตาม ถวายเป็นสังฆทานอุทิศแด่พระสงฆ์ เรียบร้อยแล้วก็อุทิศส่วนกุศล ให้แก่ภรรยาของตน ก็ได้ลดอภัยโทษอีก 20 ปี เหลือ 60 ปี

    นายปุ่นก็คิดว่าลูกก็โตแล้ว พ่อจะบวชในพระศาสนา บวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาของตนต่อไป สึกขาลาเพศแล้วก็แต่งงานใหม่ ก็ได้ปรึกษาสมภารๆก็ว่าไม่ต้องสวดปาติโมกข์หรอก เคยสวดปาติโมกข์ได้ บวชแล้วก็ให้ธุดงควัตรปฏิบัติฉันข้าวเวลาเดียว อยู่ในป่าช้า เจริญวิปัสสนากัมมัฎฐานเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ภรรยาของตนต่อไป
    ตาปุ่นก็ได้บวชในพระศาสนาอยู่ 1 พรรษา เจริญวิปัสสนากัมมัฎฐานอโหสิกรรม และอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยา ก็ไม่ได้ทราบว่าภรรยาไปตกนรก หรือขึ้นสวรรค์ประการใด พอออกพรรษาก็กราบลาสมภารสึกขาลาเพศไป แล้วไปแต่งงานกับภรรยาใหม่ต่อไป เมื่อสึกไปแล้วกุศลผลบุญก็ไปถึงแม่สอิ้งในเมืองนรก

    ยมบาลก็ให้อภัยโทษอีก 40 ปี บอกว่าสามีของเธอได้บวชในพระศาสนา ได้เจริญวิปัสสนากัมมัฎฐานอุทิศส่วนกุศลมา ขอให้อภัยโทษ 40 ปี เหลือ 20 ปี ให้อภัยไม่ได้ 20 ปีนี้เพราะเธอมีโทษ
    หนึ่ง ลักทองแล้วโยนความผิดให้คนอื่น
    สอง ที่บาปหนัก คือ ลักข้าว ให้อภัยไม่ได้
    เธอจะเอาอย่างนี้ไหม ก็เห็นว่าเธอมีคุณงามความดีสวดมนต์ไหว้พระเป็นหัวหน้าในเมืองนรก เจริญกัมมัฎฐานในที่สุด จะให้กลับไปอยู่เมืองมนุษย์ 20 ปี ไปใช้หนี้ผัว และจะต้องไม่กลับมาที่นี่ แต่ให้สัญญานะว่าเจ้าจะต้องรักษาอุโบสถทุกวันพระ ทำได้หรือไม่

    ประการที่สอง จะต้องไปสร้างกุฎิกัมมัฎฐานเงิน 1 ขชั่ง ไม่เกินไม่ขาด เพื่ออุทิศส่วนกุศล มิฉะนั้นจะต้องกลับมาเมืองนรกอีก อย่างนี้นางก็รับปาก ก็มาเกิดใกล้บ้านตาปุ่น ประมาณ 2 กิโลกว่าๆ มาเกิดเป็นลูกตาแป๊ะแก่ อยู่คนละตำบล แต่รู้จักกัน แป๊ะแก่ได้ภรรยามา 15 ปี ไม่มีบุตร ภรรยาสาว แต่ผัวก็ 50 กว่าแล้ว แต่เกิดมามีบุตรตอน 15 ปีผ่านไป บุตรนั้นได้แก่นางสอิ้งนั่นเอง นางสอิ้งคนเดิม รูปร่างเหมือนนางยักษ์ขะหมูขี มีไฝฝีขี้แมงวันเม็เบ้อเร่อ แล้วจอนตัดทัด ใบหู ดำปี๋ นุ่งผ้าโจงกระเบน ผอมเกร็ง อาตมารู้เพราะดูรูปที่เขาแต่งงานกับตาปุ่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เมื่อเป็นเช่นนี้ พอ 11 ปีผ่าน ก็รำลึกชาติได้ ว่าเตี่ยหนูนี่ไม่ใช่ลูกนะ ฉันนี้เป็นนางสอิ้งภรรยาตาปุ่น ตำบลโน้น เตี่ยก็ยังไงกัน ก็ไปปรึกษาตำบลโน้น ตำบลนี้ เอาอย่างนี้ให้มันลืมเรื่องเสียว่าจะจริงเท็จยังไงไม่ทราบ ก็เอาไข่หลงรัง ไข่ที่ตายโคม ไข่ข้าวเอามาต้มให้กิน มันก็ไม่ลืม
    พออายุ 15 ปีแล้ว ให้พาไปบ้านตาปุ่น เตี่ยอดรนทนไม่ได้ก็พาไป อายุ 15 ปีแล้ว รูปร่างสวยขาว เพราะเป็นลูกเจ๊ก แต่วิญญาณของนางสอิ้งคนเดิม พอไปถึงบ้านตาปุ่น ก็ถามว่า
    "พี่ปุ่นจำฉันได้มั้ย" ตาปุ่นก็อายุ 78 แล้ว "ฉันสอิ้งยังไงเล่า" ตาปุ่นเข้าใจผิดคิดว่าไอ้ตาแป๊ะนี่คงเสี้ยมสอนลูกให้ว่าป็นนางสอิ้งจะมาเอาสมบัติ เพราะตาปุ่นแกรวย ตาแป๊ะแกไม่ใช่คนรวย พอมีพอใช้ มีอาชีพทางแลกข้าวขายโชห่วย
    ก็เล่าให้ฟัง ตาปุ่นก็ไม่ยอมรับเชื่อ
    "พี่ปุ่นจำได้มั้ย ว่าตอนอยู่กับพี่ปุ่นมา ตอนบวชหลาน ฉันนี่เป็นคนลักทอง" "แล้วไปโทษหลาน ข้อเท็จจริงฉันเป็นคนเอา เพิ่งมารู้ความจริงในชาตินี้ "
    ยังไม่เชื่ออาจเป็นการเสแสร้งแกล้งเล่าก็ได้
    เรื่องที่ 2 เล่าต่อไปว่า "พี่ปุ่นตอนที่ฉันออกลูกตายทั้งกลมนั้น ฉันไปตกนรกอยู่ตั้ง 100 ปี พี่ปุ่นเอาข้าวไปถวายวัด ก่อพระเจดีย์ทรายข้าวเปลือก ฉันก็ได้ลดโทษตามลำดับ
    นอกเหนือจากนั้นก็เอาเรือนหอไปถวายวัด ฉันก็รู้ในวันที่ เท่านั้นได้อุทิศส่วนกุศล ยังมีหมอลำ และหนังตะลุง ในวันนั้น"
    "เรื่องต่อไป พี่ปุ่นได้บวชในพระศาสนา ฉันก็ได้รับส่วนบุญกุศล ลดโทษไปตามลำดับดังที่กล่าวแล้ว
    นอกเหนือจากนั้น ที่ฉันมาเกิดใหม่นี้ได้ลดโทษานุโทษมาแล้ว 20 ปี ลดไม่ได้ เนื่องจากสร้างบาปลักทอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    "เรื่องต่อไป พี่ปุ่นได้บวชในพระศาสนา ฉันก็ได้รับส่วนบุญกุศล ลดโทษไปตามลำดับดังที่กล่าวแล้ว
    นอกเหนือจากนั้น ที่ฉันมาเกิดใหม่นี้ได้ลดโทษานุโทษมาแล้ว แต่ 20 ปี ลดไม่ได้ เนื่องจากสร้างบาปลักทอง
    ลักข้าว ให้อภัยโทษไม่ได้ ฉันก็ต้องกลับมาอยู่กับพี่ปุ่นต่อไป แล้วได้สัญญากับทางนรกมาว่า ให้รักษาอุโบสถทุกวันพระ สวดมนต์ไม่ขาดและต้องไปสร้างกุฎิกัมมัฎฐานด้วยเงินหนึ่งชั่ง"
    ตาปุ่นรับฟังเฉยๆ ยังเชื่อแน่ไม่ได้ แม่สอิ้งในร่างใหม่จึงถามต่อไปว่า
    "พี่ปุ่น ทองหมั้นของฉันยังอยู่มั้ย" "ทองอะไร" "มีสายสะพาย 2 เส้น เส้นหนักละ 8 บาท"
    "ตาปุ่นก็นึกไม่ออก ไม่ทราบว่ายังอยู่มั้ย แต่มันไม่มีแล้วบัดนี้ จำความไม่ได้
    นางสอิ้งก็เล่าต่อไปว่า"พี่ปุ่นโรงนายังอยู่มั้ย" "โรงนาไม่มีอยู่แล้ว เพราะโรงนาก็แบ่งให้ลูกเก่าหมดแล้ว มีเขยมีสะใภ้ไปหมดแล้ว" นางสอิ้งบอกว่าจำได้เลาๆ "ต้นกระทุ่มมีมั้ย" "ยังอยู่" ก็พากันออกไป
    ที่นาเดินออกไปที่นาหลายกิโล จ้างเขาขุด ในที่สุดได้สร้อยคืนมา 2 เส้น หนักเส้นละ 8 บาท
    ตาปุ่นจึงยอมรับว่าเป็นนางสอิ้งจริง ในที่สุดก็ไม่กลับไปอยู่กะเตี่ย อยู่กะตาปุ่นต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    แม่สอิ้งก็เล่าความให้อาตมาฟังว่า 3 คนด้วยกัน ภรรยาใหม่ อายุ 72 สามี 78 ก็ปรึกษาปรองดองกันว่า
    ฉันรับคำมั่นสัญญาจะต้องไปสร้างกุฎกัมมัฎฐานให้ได้ สามคนนี้ก็เดินทางไปหาทางสร้างกุฎิกัมมัฎฐาน เอาสร้อยไปด้วย ไปปากน้ำโพ ลงเรือแดงจากปากน้ำโพ มากรุงเทพฯ แสวงหาว่าที่ไหนมีสำนักกัมมัฎฐาน
    ก็ให้เทวดาสนใจดลบันดาลสามคนนั้น ก็ลงเรือแดงมาขึ้นที่สิงห์บุรี อาตมาก็มาอยู่ที่วัดนี้
    เขาก็ไปถามชาวตลาดว่า ที่ไหนเป็นสำนักวิปัสสนามีมั้ย จังหวัดสิงห์บุรีนี้ เลยพอดีไปเจอเอาญาติของโยมสุ่ม หาบของไปขาย เขาก็เลยเล่าว่า อาตมาได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดอัมพวันแล้ว ลองเดินทางไปถามดูว่าจะสร้างกุฎิกัมมัฎฐานมั้ย เห็นว่าท่านสอนกัมมัฎฐานมาช้านาน เลยสามคนก็ลงเรือเมล์ต่อจากนั้นก็มาขึ้นที่หน้าวัด ก็เดินเข้ามาหาอาตมาเล่าเหตุการณืให้ฟัง
    อาตมาก็ตกใจข้อไหนรู้มั้ย....ว่าไปลักข้าว อาตมานี่ตัวลักข้าวมากกว่ายายสอิ้งอีก
    มันตกใจตอนเป็นเด็กเวลาโรงเรียนปิด อย่าลืมอาตมาไปกับยายเม้าๆเป็นหมอตำแยเก่า
    ถามว่า"ป้าเก็บข้าวตกได้วันละเท่าไร"
    "ได้วันละกระผีก"
    "แล้วเอ็งได่เท่าไร"
    "ผมได้วันละ 10 กว่าถัง"
    "เอ็งทำไมเก็บได้มากนัก"
    "ก็ยายไปเซ่อทำไมที่เป็นฟ่อนนี่ก็ใส่กระสอบเข้าซิ แล้วข้าวที่เขานวดไว้กลางทุ่งก็ใส่กระสอบเลย"
    นี่ลักอย่างนี้ ลักมากกว่ายายสอิ้งอีก ถ้าหน้าข้าวต้องออกอย่างนี้ ตกใจแต่ไม่พูดอะไร
    นางสอิ้งมีประโยชน์ที่โบสถ์เก่าเวลาพระทำวัตรเขาเข้าไปด้วย มาค้างหลายคืน
    โยโส ภควา สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นได้ทั้งหมดดีกว่าพระ ได้มาจากเมืองนรก
    ตอนนั้นอายุ 16 ปีแล้ว ตาปุ่น 78 อาตมายังเย้าเลย นี่สอิ้งอยู่กะตาแก่ทำไม ไม่อยู่กะหนุ่มดีกว่าเข้าท่ากว่า เพราะรูปร่างสวย มารยาทดี เปลี่ยนแปลงตามสภาพ ก็แม่สอิ้งได้สร้างกุฎิกัมมัฎฐานข้างโบสถ์เป็นหลังแรก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เขาบอกว่าจะสร้างแล้วต้องมีน้ำหล่อไม่ให้มดขึ้น อาตมาก็ทำเป็นน้ำหล่อเดี๋ยวนี้มาแปลงใหม่ สร้างเป็นหลังแรกของวัดนี้สร้างเสร็จครบ 80 บาทพอดี บ้านทายกชื่อโยมเล็ก สุขสายพงศ์ ปีเดียวกะตาปุ่นอายุ 78 ต้องมาพักบ้านนี้ อาศัยข้าวบ้านนี้ทาน ตอนนั้นโรงครัวไม่มี บ้านอยู่ข้างวัด เริ่มทำกัมมัฎฐานหมดเงิน 80 บาทพอดีไม่เกินไม่ขาด

    ในเวลาต่อมา พอสร้างเสร็จเขาก็กลับบ้าน กลับไปแล้วอาตมาตามไปดูบ้าน..ทองก็ได้เห็นขอจับดูด้วย
    หลังจากนั้น ตาปุ่นเริ่มเป็นอัมพาต ต้องป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดก้น ก็ได้นางสอิ้งปรนนิบัติ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  7. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เมียใหม่ก็ไม่ได้ทำอะไร อยู่คนละหลัง ก็ปฎิบัติได้อย่างดีมาก ทั้งๆที่สาวกะตาแก่คนนี้
    แม่สอิ้งอีก 4 ปี ครบ 20 ปี ตามสัญญาในเมืองมนุษย์
    อาตมาก็ติดตามผลสรุปแล้ว ได้ความว่าพออายุ 20 ปีพอดี ตาปุ่นยังไม่ตาย เป็นอัมพาต นางสิ้งก็ปฎิบัติเรียบร้อยดีทุกอย่าง
    พอดีวันนั้นทำกับข้าวไปวัด พอเสร็จแล้ว นางสอิ้งก็ฟุบลงไปตายคาที่ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ อาตมายังไปเผา
    เรื่องนี้เป็นความจริง....พอนางสอิ้งตาย ตาปุ่นก็ 80 กว่าปีแล้ว เผานางสอิ้งเรียบร้อยก็ตาปุ่นตาย อีก 2 ปี เมียใหม่ก็ตายหมด บัดนี้บ้านก็แยกย้ายกันไป เมื่อเร็วๆนี้อาตมาไปเทศน์ที่ตำบลท่าตะโก ยังมีคนรับรู้อยู่อีกคนอายุ 91 ปี เจ้าคณะอำเภอเก่า พระครูนิพันธรรมคุต ท่านเป็นเจ้าคุณ ท่านก็มรณภาพไปนานแล้ว

    เรื่องนี้ชี้ให้เห็นได้ว่า หญิง 2 ร่าง นาง 2 ชาติ บาปกรรมนักหนา

    แล้วเมืองนรกก็มีการสวดมนต์ไหว้พระ นางสอิ้งก็ถึงแก่ความตายตามสัญญา 20 ปีพอดี
    วัดนี้ก็ได้กุฎิกัมมัฎฐานของแม่สอิ้ง อาตมาก็กลัวเกรงไปว่าบาปกรรมจะติดพันมา เดี๋ยวจะให้อภัยโทษไม่ได้เลยสร้างกุฎิกัมมัฎฐานเป็นการใหญ่ สร้างเป็นห้องแถวให้ท่านพัก
    บอกลูกหลานไว้ด้วย ว่าอยากมีปัญญาดีมั้ย ขัดส้วมรับรองปัญญาดีทุกคน ไม่ใช่เรื่องโกหก อาตมาไปซื้อบานประตูหน้าต่างจากกำแพงเพชร ไปเจอเด็กคนหนึ่ง "บอกหลวงพ่อ หลานคนนี้ไม่เอาไหนเลย สอบตกอยู่เรื่อย อยากจะเรียนหนังสือ ทำไงจะมีปัญญา"

    "บอกว่า มาบวชเณรที่นี่ พอบวชแล้วเณรขัดส้วม บอกผมอยู่ที่บ้านไม่เคยขัด"
    ตื่น 2 โมงเช้า "ใครหาข้าวให้กิน" บอก " แม่ "
    ก็ขัดส้วม ขัดไปขัดมาก็รักความสะอาด อยู่มาได้หน่อยสึก แล้วไปเรียนหนังสือต่อ เรียนไปเรียนมากลายเป็นผู้พิพากษา ไปสอบได้ที่หนึ่งเลย ...นี่ขัดส้วม...

    (จากหนังสืออนุสรณ์..งานพระราชทานเพลิงศพ นางสาววรรณพร สุวรรณทรัพย์)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2017
  8. tim

    tim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    328
    ค่าพลัง:
    +1,526
    พรุ่งนี้วันจันทร์จะไปส่งธนาณัติร่วมทำบุญสร้างหน้าบันโบสถ็สมเด็จองค์ปฐม ตั้งใจไว้แล้ว
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    sadhuflashing1.gif
     

แชร์หน้านี้

Loading...