เสียงธรรม หนึ่งเพชรล้านนา ล้านนาบารมี

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย ทางสายธาตุ, 25 สิงหาคม 2010.

  1. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึี่งในเพชรล้านนา

    ใจตรงกัน ชอบเหมือนกัน คุยกันได้ บังเอิญเปืดเข้ามาเจอในเว็ปนี้พอดี และเปิดฟังทั้งวันทั้งคืนเพลงเดียวนี่แหละ คุณฟอร์ทแนะนำมาเดี๋ยวจะตัดใจจากเพลงนี้ไปฟังตามที่ชี้แนะ ขอบคุณเจ๊า..
     
  2. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    คุณโมเย..เจ๊า..
    ทั้งขออนุโมทนาและสาธุไปพร้อมกัน ที่บอกตั้งใจแต่งเพื่อเทอดพระเกียรติพระองค์ท่านบอกได้คำเดียว ..สมเจตน์จำนงแล้ว เพลงอะไรไม่รู้ ฟังทั้งวันทั้งคืนไม่เบื่อ แถมยิ่งฟังยิ่งเศร้าคิดถึงทั้งสองพระองค์ ยิ่งได้อ่านพระราชหัตถเลขาที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีถึงพระราชชายาแล้ว น้ำตาไหลเลย พระองค์ท่านทรงน่ารัก อ่อนโยน เป็นfamily man มาก (แอบกระซิบนะ..อยากให้พระองค์ทรงลืมคนอื่นให้หมดให้รำลึกแต่ เจ้าดารารัศมี)..
    คุณโมเยคะ อยากจะได้ CD ตามร้านมีไหม ดูรายชื่อแล้วอยากฟังเพลงพระนเรศวรดูว่าคุณจะแต่งออกมาแนวไหน..เฮ้อคนอะไรเสียงหวานเย็นจับใจจัง เพราะสมความสวยเลยเนาะ
    ที่บ้านทุกวันนมีแต่เพลงล้านนาทุกชนิด จนมีคนถามว่าเป็นคนเหนือหรือ...(เสียใจมากเวลาตอบว่าเปล่า แต่ชาติก่อนเป็นและรู้ว่าอยู่ตรงไหนของล้านนาด้วยสิ 555 )

    ไม่ลองแต่งเทอดพระเกียรติพระนางจามเทวีบ้างเล่าคะ กับ พ่อขุนมังราย(ถึงมีคนแต่ง+ร้องแล้ว) อยากขอให้คุณโมเยแต่ง และร้อง เชื่อฝีมือว่าฉีกแนวได้ แล้วจะตามฟัง ตามซื้อ ตามเชียร์ให้คนซื้อ สุดท้ายทำอย่างไรจะให้โหลดเป็นเพลงเสียงรอสายโทรศัพท์ได้คะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2010
  3. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    เพลง พระนเรศวรมหาราช

    เพลง พระนเรศวรมหาราช เนื้อร้อง/ทำนอง /ขับร้อง/ กัญญนัทธ์ ศิริ - PaLungJit.com

    (เพลงนี้ สื่อความหมาย ทั้งหมดในความรู้สึกของโมเยค่ะ จึงไม่ห้าวหาญ เท่าที่ควร )


    อนุโมทนา กับคุณ ดอกไม้เมืองบน ค่ะ

    คุณไม้เมืองบน ผูกพันธ์กับล้านนา แลทั้งสองพระองค์ มากจริงๆนะคะ

    อยากให้นำพระราชหัตถเลขา ที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงมีถึงพระราชชายามา

    แบ่งปันด้วย สักฉบับ คงจะเป็นเกียรติแก่กระทู้แห่งนี้ค่ะ

    พระราชชายา ท่านเป็น แม่หญิงคนเมือง ที่ สมค่า ขัตติยานารี จริงๆ

    ความรักทั้งสองพระองค์ สถิตแลซาบซึ่งอยู่ความรู้สึกของโมเย เสมอค่ะ

    หลายคน วนเวียนเกิดมาแล้วในภพชาตินั้น

    เกิดมา ตามหน้าที่กันบ้าง ค่ะ

    ซีดี ของโมเย มีขายที่เชียงใหม่ที่เดียว ( ที่ ตัวของโมเย ค่ะ ^_^ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2010
  4. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ซีดี ของโมเยหากไปขายตาม ท้องตลาด จะไม่ค่อยมีคนซื้อ

    เพราะแนวเพลง ไม่ใช่แนว ตลาด เลยไม่ได้เอาไปวางขายที่ไหน

    เลยทำตามกำลัง คือทำเองขายเอง ค่อยๆไป ค่ะ

    แต่หากในกลุ่ม ที่ศรัทธา จะเรียกพากันว่า เพลงจิตญาณ ^_^

    บางคนจะรัก ในแต่ละเพลง ไม่เหมือนกันค่ะ

    เช่นเดียวกับคุณ ดอกไม้เมืองบน รักเพลง หนึ่งเพชรล้านนา

    เพลง พระนางจามเทวี แฟนเพลง (เหมือนแฟน AFเลย) อยากให้แต่งกันมากเลยค่ะ

    คงต้องได้แต่งแน่นอนเลยค่ะ อีกทั้งพ่อขุนมังราย

    บางที หยุดและเลี่ยงไม่ได้ หากมีวาระ ค่ะ
     
  5. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    สาธุ ฟอร์ท ต้องขออนุโมทนากับพี่โมเย และคุณพี่ ดอกไม้เมืองบน (ขออนุญาตเรียกคุณพี่ ด้วยความนับถือนะขอรับ) ถ้าคุณพี่ดอกไม้เมืองบนจะ
    เปลี่ยนเป็น ดอกไม้เมืองเหนือ ก็ดูจะเข้ากับบรรยากาศได้ไม่น้อยนะขอรับ
    หัดอู้คำเมืองกับพี่โมเยอีกหน่อย ก็เป็นจาวเหนือได้เลย ฟอร์ทว่าคงถึงเวลา
    แล้วกระมังที่พี่ๆจะได้พานพบกัน
    ฟอร์ทขอเชียร์ให้พี่โมเย แต่งเพลงเทอดพระเกียรติพระนางจามเทวี ด้วยอีก
    หนึ่งเสียง ขอรับ ทุกครั้งที่ฟอร์ทมีโอกาสไปลำพูน จะต้องไปกราบพระองค์
    ท่านทุกครั้ง ด้วยความรู้สึกที่เคารพเทิดทูนและผูกพัน ประมาณนั้นนะขอรับ
     
  6. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    บ่ต้องตัดใจดอกขอรับ ฟังทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้แหละขอรับ ชอบมากบ้างน้อยบ้างเป็นธรรมดาของจิตมนุษย์ เพลงไหนถูกใจก็ชอบมากหน่อย ไม่ค่อยถูกใจ
    ก็ชอบน้อยหน่อย แต่ฟอร์ทอยากจะยืนยัน เพลงมนต์เจียงใหม่ อีกสักครั้ง เคย
    มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง (ขออภัยที่จะไม่เอ่ยนาม) เปรียบเทียบให้ฟังว่าวงดนตรีสุน
    ทราภรณ์เคยทำเพลง "ถิ่นไทยงาม" ขับร้องโดย คุณมัณฑนา โมรากุล เป็น
    ท่านแรก " เพลงนี้บรรยายถึงความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนทางเหนือได้ไพเราะสุดจะหาคำเปรียบเปรยได้" ลองดู
    เนื้อเพลงในท่อนแรกสักท่อนนะขอรับ


    เห็นแดนแผ่นดินท้องถิ่นไทยงาม
    ดูอยู่ด้วยความเพลินใจนิยม
    อากาศก็ดีน่าสบาย พระพายรื่นรมย์
    ใครได้มาชมคงชื่นในใจ


    เพลงนี้โด่งดังมาแล้วในอดีตและยังคงความไพเราะที่เป็นตำนานต่อไป ท่าน
    ผู้ใหญ่ท่านนี้ได้เปรียบเทียบให้ฟอร์ทฟังว่า เชียงใหม่มีธรรมชาติ ขนบธรรมเนียมและศิลปะวัฒนธรรมที่เป็นจุดเด่นที่ทุกคนที่ได้มาเยือนล้วนต่างยอมรับและหลงใหล การที่มีศิลปิน
    ของล้านนาอย่างพี่โมเยนำความงดงามของธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมของ
    เชียงใหม่มาร้อยกรองนำเสนอผสมผสานกับเครื่องดนตรีของล้านนาในเพลง
    "มนต์เจียงใหม่" จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ดีควรแก่การสนับสนุน ถ้าเพลงนี้ได้รับการ
    โปรโมทตามสมควรแล้ว ทายว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงที่ดังและโปรโมทให้กับเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี จะคล้ายๆกันกับเพลงถิ่นไทยงามของ
    สุนทราภรณ์ในอดีตทีเดียว ลองดูเนื้อเพลงตอนหนึ่งของ"มนต์เจียงใหม่"
    นะขอรับ พี่ดอกไม้เมืองบน
    ส่วนความไพเราะในน้ำเสียงของพี่โมเย ฟอร์ทต้องขออนุญาตกล่าวถึงในตอน
    ต่อไปอีกตอนนะขอรับ

    งาม งามเหลือเกินเจียงใหม่ ผูกร้อยใย ในวัฒนธรรม
    ประเพณีเด่นงามล้ำ เอื้อนเอ่ยคำเจ้าม่วน จึ่นใจ๋
    หากว่าใครได้มายล เหมือนมีมนต์มาดล มัดใจ
    หลงไอกลิ่นแดนแห่งเวียงวิไล ไม่อยากจากไป ไกลฟ้าเวียงพิงค์
     
  7. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    พอแต่งเพลงมนต์ เจียงใหม่เสร็จ มีความรู้สึกว่า

    เหมือนเคยได้ยินเพลงนี้มาจากไหน


    เนื้อร้อง และทำนอง เพลง มนต์เจียงใหม่

    พี่โมเย ได้ยินทำนอง และจำเนื้อร้องได้บางส่วนจาก ความฝัน


    ฝันว่าได้ยินเสียงเพลง

    แต่ว่า ในฝันเนี่ย เอ....นั่นเสียงเรานี่นา
    เลยจำเอามาแต่ง

    (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ) ^_ู^
     
  8. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    สวัสดีค่ะน้องฟอร์ท

    ยินดีที่มีน้องชายอารมณ์สุนทรีเพิ่มอีกคน
    เพลงของสุนทราภรณ์พี่เคยฟัง ก็ว่าเพราะอยู่แล้ว นอกจากไพเราะด้วยท้วงทำนองแล้ว ยังภาษาที่ใช้สวยงามมาก เห็นภาพลื่นไหลไปตามเพลง (แอบนินทานิดต่างจากเพลงสมัยปัจจุบันที่ไร้อรรถรส ภาษาก็แย่ บางเพลงใกล้วิบัติเต็มที) พอมาดูท่อนที่น้องยกมาให้อ่าน ไม่รู้นะอาจลำเอียงตามส่วนลึกในใจ พี่ว่าภาษาไพเราะมาก (ว่าแค่ภาษาเพราะยังหาซิ้อซีดีไม่ได้ แต่สั่งซื้อทางE - Mailแล้ว)
    ที่ภาษาให้อารมณ์กว่าเพราะ คุณโมเยใส่คำเมืองแทรกผสมไป ตรงนี้ได้เปรียบเพลงเดิม
     
  9. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    อนุญาตด้วยความยินดีที่มีหนุ่มอารมณสุนทรีมาเป็นน้องชายอีกคน
    สำหรับที่อยากให้พี่เปลี่ยนจาก ดอกไม้เมืองบน เป็นดอกไม้เมืองเหนือน่ะ ชอบนะไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ออกกระดาก ดอกไม้เมืองเหนือของจริง เพราะชาตินี้ พี่ไม่ได้เกิดเป็นสาวล้านนาอีก

    ที่วัดอนาลโย พะเยา มีบรรดาผู้มีเงินได้บริจาคเงินสร้างกุฏิ ถวายวัด สำหรับให้คนไปพักปฏิบัติธรรม โดยมีชื่อต่าง ๆ กัน แต่ส่วนใหญ่จะใช้นามสกุล บ้าง ชื่อคนถวายบ้าง มีอยู่หลังหนึ่งชื่อเพราะมาก ภูผาสวรรค์ แล้วสมชื่อจริง ๆ เพราะอยู่ที่สูงกว่าหลังอื่น

    พี่ไปปฏิบัติธรรมทุกปี ครั้งละ 10 วัน เลยนึกครึ้มอยากสร้างหลังเล็ก ๆ ถวายวัด ได้เสียงสนับสนุนจากหลวงพ่อไพบูลย์เจ้าอาวาส และครูบาพระเลขา ท่านชี้พื้นที่ในหุบให้ดู บอกยกให้เลยถ้าจะสร้าง เอาแบบมาให้ดูเสร็จ น่ารักมากห้องเดียวเหมือนกระท่อมปีกไม้ในป่า แถมครูบาท่านยังก้าวหน้าไปอีก มีชื่อกุฏิให้เสร็จ ท่านว่า หลังโน้นชื่อภูผาสวรรค์ หลังนี้ชื่อ ดอกไม้สวรรค์ก็แล้วกัน..

    ที่เล่าท้าวความเสียยาวก็เพื่อบอกน้องว่า ถ้าอยากมีชื่ออยู่ในแผ่นดินล้านนาชาตินี้ ก็คงมได้แค่ชื่อเรียกกุฏิในวัดบนแผ่นดินล้านนาเท่านั้นเองแหละเน้อ

    ที่สำคัญที่ซู๊ด ชื่อดอกไม้เมืองบน นี้คงเหมาะที่สุดแล้ว เพราะ ความหมายเดียวกับชื่อจริง อีีกอย่าง คำว่า เมืองบน นี้ แต่ก่อนพี่ก็ไม่รู้จัก เคยได้ยินหรือรู้คำแปลหรอก

    มาได้ยินครั้งแรกจาก หลวงตามหาบัว ซึ่งท่านเคยรู้จักคุณพ่อคุณแม่พี่มานาน วันหนึ่งไปกราบท่าน จู่ จู่ ท่านก็เปรยว่า มีเมือง เมืองหนึ่งเขาเรียกกันว่าเมืองบน ....คนที่เมืองบนจักปฏิบัติธรรมแล้วท่านก็ว่าอีกยาว..
    ฟังดูก็รู้ว่าท่านเล่าถึงบรรดาเทพบุตรเทพธิดาที่ประพฤติดีมีคุณธรรม ควรเป็นแบบอย่าง ฯลฯ

    เราก็นึกว่าท่านคงใช้ภาษาของท่านเอง ว่าเมืองบน กลับบ้านยังข้องใจ เปิดพจนานุกรมดู เลยพึ่งรู้ว่า เมืองบน หมายถึงสวรรค์ เลยน้อมคำท่านมาใช้ต่อท้ายคำว่า..ดอกไม้

    เพราะชื่อจริงพี่เ็ป็้นชื่อดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวว่า ะมีอยู่เฉพาะบนสวรรค์เท่านั้น เป็น ดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาดอกจะบาน และร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์ ก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ ...พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
    ตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร

    ส่วนจะเป็นดอก..อะไร น้องลองเดาเอาเองแล้วกัน คงไม่ต้องถึง 20 คำถามกระมัง เพราะดอกไม้สวรรค์มีอยู่ไม่กี่ชื่อ ไม่กี่ชนิด

    นี่แหละน้องเอ๋ย..ชื่อดอกไม้เมืองบน จึงต้องอยู่กับพี่ แต่ไม่เป็นไรนะ พี่อนุญาตให้น้องฟอร์ท เรียกได้ตามต้องการ ดอกไม้เมืองเหนือ หรือ ล้านนา
    ตามที่ต้องการก็แล้วกันนะคะ
     
  10. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488

    ฟอร์ทได้เคยอ่านพบศิลปินที่มีชื่อเสียงรุ่นก่อนๆหลายท่านก็จะเป็นอย่างนี้

    เสียดายจำไม่ได้ว่าท่านใดบ้าง แต่ที่จำได้แม่นก็เพลงบุหลันลอยฟ้า เนี่ย

    ก็เกิดมาจากนิมิตรเหมือนกัน (ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะขอรับ)
     
  11. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    สวัสดีครับ พี่สาวครับ (พี่ดอกไม้เมืองบน) ขึ้นต้นยังกับเพลงของอ้ายจรัล มโน

    เพชร เลยขอรับ ฟอร์ทต้องขออภัยพี่ดอกไม้เมืองบนมา ณ โอกาสนี้ด้วย ไม่ได้

    มีเจตนาใดๆเลยครับ เพียงเห็นว่ากำลังอยู่ในบรรยากาศเรื่องเมืองเหนือเท่านั้น

    เองครับ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฟอร์ทอยากจะเรียนพี่ดอกไม้เมืองบนตรงๆว่า เหมือนมี

    อะไรดลใจที่ทำให้ฟอร์ทใช้คำว่า "ถึงเวลาแล้วกระมังที่พี่ๆจะได้พานพบกัน"

    ตรงนี้เป็นความคิดที่ผุดวาบขึ้นมาอย่างรู้สึกได้ จึงได้กล้าที่จะเขียนแนะนำเพลง

    ออกไป คงจะถึงเวลาแล้วจริงๆฟอร์ทอยากจะย้ำคำนี้อีกครั้ง พูดถึงดอกไม้บน

    สวรรค์ เดิมๆก็รู้จักเพียงดอกปาริชาติ ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ กามนิต-วาสิฎฐี

    มาครั้งนี้โชคดีได้รู้จักพี่ดอกไม้เมืองบนแล้วยังได้รู้จักดอกไม้บนสวรรค์อีกหลาย

    ชนิด โดยเฉพาะชนิดสำคัญที่จะบานเฉพาะในวาระที่พิเศษสุดเท่านั้น

    "เป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอม เป็นพิเศษเวลาดอกจะบาน และร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร"

    ขออนุโมทนา สาธุการขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  12. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    พี่ โมเย ก็ จะได้ยินเรื่องราวของครูเพลง สมัยก่อน ท่านจะแต่งเพลง กัน แบบที่เรียกว่า เทพนิมิตร

    ด้วยบารมี ของสิ่งศักดิ์สิทธ์ ครู บาอาจารย์ ดลจิตดลใจ หรือให้นิมิตร ค่ะ

    ทีแรก พี่โมเยนึกว่าตัวเอง ผิดปกติ แต่ไม่ใช่ค่ะ

    พี่โม ปกติ

    แต่ สิ่งที่พี่โมเป็นคือ คล้าย ครูเพลงบางท่าน

    แต่ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน (เทพนิมิตร)
     
  13. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    ไม่ต้องซีเรียสหรอกน้องฟอร์ท เ็้ป็นพี่เป็นน้องแล้วก็พูดคุยกันได้ตามสบาย พี่แยกออกว่ามีเจตนาแบบไหน ก็เรามาคุยกันเรื่องดีมีมงคลสืบเนื่องจ ากการเปิดฉากจากหนึ่งล้านบารมีของคุณโมเย ก็ต้องมีแต่ดี ดีทั้งนั้น สิ...

    อือ์ม! มีซิ๊กเซ๊นส์เสียด้วยสิน้องชายเรา ถ้าส่วนลึกบอกแบบนั้น ก็คงไม่พบแค่ 2 คนกับพี่โมเยแล้วมั้ง พี่สาวทั้ง2 คงมีน้องชายมาแจมด้วยแล้วล่ะ 555

    เหมือนกันจ๊ะ เด็ก ๆ ก็คิดว่ามีแต่ดอกปาริชาต ถึงชื่อพี่ ก็นึกว่าแปลเป็นดอกไม้ของเทวดาเท่านั้น แล้วตกลงน้องฟอร์ทรู้หรือยังว่า เมืองบนมีดอกไม้กี่ชนิด ชื่ออะไรบ้าง......

    ดอกไม้สวรรค์


    1.ดอกปาริชาต
    ในสวรรค์ชั้นดุสิตา (สวรรค์ชั้นที่ 4) ไม่ปรากฎว่ามีต้นไม้สวรรค์ ดอกไม้สรรค์มีกล่าวไว้ในสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์/ไตรตรึงษ์ (สวรรค์ชั้นที่ 2) นอกเมืองดาวดึงส์ออกไปมีอุทยานใหญ่ชื่อ ปุณฑริกวัน มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน ใต้ร่มปาริชาต มีแท่นศิลาของพระอินทร์ ชื่อ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ กลางสวนมีไม้ทองหลางใหญ่ต้นหนึ่ง เป็นไม้ทิพย์ ชื่อ ปาริชาต ซึ่งจะบานครั้งหนึ่งเมื่อครบ 100 ปี ขณะบานจะมีรัศมีไปไกลแปดแสนวา และลมพัดพาไปทิศใด กลิ่นจะฟุ้งทิศนั้นไกลแสนไกล หอมตลบอบอวลทั่วบริเวณสวรรค์ชั้นนี้นานเท่านาน ยามดอกปาริชาตบาน จะมีเหล่าเทพบุตร – ธิดามาเล่นสนุกสนานใต้ต้น เมื่อได้กลิ่นโชยมาต้อง จะช่วยให้ระลึกชาติได้

    2. ดอกอสาพตี ... เป็นชื่อดอกไม้สวรรค์ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจยิ่งกว่าดอกปาริชาต ดอกไม้นี้จะขึ้นอยู่ที่ ศาลาสุธรรมาเทวสถาน ล้อมรอบด้วยกำแพงทองคำ ดอกจะบานสักครั้งต้องใช้เวลา 1 พันปี ขณะที่จะบานเทวดาทั้งหลายจะเปลี่ยนเวรกันเฝ้ารอการบานของดอกไม้สวรรค์นี้

    3.ดอกมณฑาทิพย์......มณฺฑารวะ (มัน-ทา-ระ-วะ).เป็นดอกไม้ที่มิได้มีในมนุษยโลก แต่ปรากฎเฉพาะตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ครรภ์พระมารดา หรือเมื่อประสูติออกสู่มหาภิเนษกรมณ์อภิสมโพธิ ตรัสเทศนาพระธรรมจักรกระทำยมกปาฏิหาริย์ เสด็จจากเทวโลก กำหนดปลงพระชนมายุสังขาร จึงจะบันดาตกลงมาจากเทวโลก



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2010
  14. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    มณฑาทิพย์ หรือ มณฑารพ
    ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์



    ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จปรินิพพานได้ตรัส
    กับพระอานนท์ดั่งว่า…….


    “ดูกรอานนท์ ...ไม้สาละ ทั้งคู่เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาลร่วง.หล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา

    แม้...ดอกมณฑารพ... อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพ เหล่านั้น..ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคต เพื่อบูชา

    แม้...จุณแห่งจันทน์... อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์ เหล่านั้น..ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคต เพื่อบูช า

    ดนตรี อันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศเพื่อบูชาตถาคต

    แม้..สังคีต... อันเป็นทิพย์ ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชา
    ตถาคต”…


    (ปรากฎ ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ของ มหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่๑๓ ทีฆนิกายมหาวรรคหน้า ๓๐๖ –๓๐๗ ข้อ๑๒๙ มหาปรินิพพานสูตร ทรงปรารภสักการบูชา)

    ดอกมณฑาทิพย์ หรือ ดอกมณฑารพ เป็น...ดอกไม้ทิพย์ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏเฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ประสูติ ตรัสรู้
    ปรินิพพาน วันจาตุรงคสันนิบาต วันที่ทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร เป็นต้น ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ ดอกมณฑารพ ตกลงมาจากเทวโลก !
     
  15. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    โมทนา สาธุขอรับพี่ดอกไม้เมืองบน ดอกไม้สวรรค์ทั้งนั้นเลย เป็นวาสนาของฟอร์ทจริงๆที่ได้รู้จัก ก่อนหน้านี้ก็รู้แค่ว่าดอกปาริชาติทำให้ระลึกชาติได้ แต่ดอก
    มณฑาทิพย์หรือมณฑารพเนี่ยเป็นของทิพย์จะมีปรากฎขึ้นมาเฉพาะที่เป็นวาระ
    สำคัญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ช่างเป็นดอกไม้ที่พิเศษสุดทีเดียวนะขอรับ
     
  16. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ....ส่วนความไพเราะในน้ำเสียงของพี่โมเย ฟอร์ทต้องขออนุญาตกล่าวถึงในตอนต่อไปอีกตอนนะขอรับ...

    ยังติดค้างกันอยู่ วันนี้ฟอร์ทขออนุญาตใช้หนี้เคลียร์บัญชี เรื่องของเรื่องฟอร์ทจำได้ว่า ประมาณเกือบสองปีเมื่อครั้งที่พี่โมทำเพลงพระนเรศวรใหม่ๆยังไม่ได้ออกแผ่น พี่โมได้นำมาลงให้เพื่อนๆและญาติธรรมได้ฟังในกระทู้ที่เกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่เว็บพลังจิตแห่งนี้ ก็เรียกว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยทีเดียว ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ท่านเดิมที่ฟอร์ทได้กล่าวพาดพิงถึงไปแล้ว ท่านได้พูดถึงน้ำเสียงของพี่โมว่าเป็นเสียงที่มีความไพเราะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเสียงหวานปนเศร้าที่ดึงดูดผู้ฟังให้อยู่กับเพลงได้ เคยมีการเปรียบเสียงของนักร้องหลายๆท่านไว้ว่า เหมือนเสียงการะเวกบ้าง เสียงขยี้แพรในฟองเบียร์บ้าง เสียงน้ำเซาะทราย บ้าง ท่านสุดท้ายเนี่ยคับคล้ายคับคลาว่าจะเป็นคุณรวงทอง ทองลั่นทม หรือ คุณบุษยา รังสี ท่านใดท่านหนึ่ง ฟอร์ทไม่ค่อยแน่ใจอาจจะจำผิดพลาด พี่ดอกไม้เมืองบน จะพอรู้จักบ้างไหมขอรับ สำหรับพี่โมเย ท่านเปรียบว่า คล้ายเสียงพริ้วไหวของกำมะหยี่ ทำนองนั้น อะครับ ฟอร์ทก็ขอนำมาถ่ายทอดสู่กันฟัง นอกจากนั้นแล้วฟอร์ทก็ยังมีสิ่งละอันพันละน้อยมาฝากกันในฐานะที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ ประมาณนั้นละขอรับ

    ...เพราะมาก ช่วงต้นฟังด้วยใจ ที่กลางอก สงบเบามากเลยครับ อนุโมทนาครับ จะขอติดตามผลงานต่อไปครับ- คุณ dojit

    ...มื่อครู่นี้ ลองนั่งสมาธิฟังดูแล้วครับ ไพเราะมากครับและรู้สึกว่า จักระที่สี่
    เอิบอาบไปด้วยพลังแห่งความรักความปราถนาดี จนขนลุกซู่ๆเป็นระยะๆ -
    คุณ chayutt

    ... เพราะเหลือเกิน เย็นฉ่ำ สบายใจดีค่ะ หลับตาแล้วทำจิตให้ว่าง จะเห็นต้นไม้ใหญ่ มีลมพัดผ่าน มีแสงอาทิตย์รำไร.. - คุณ ศรัทธาในพระองค์

    ...ทีแรกว่าจะไม่พิมพ์ ตั้งใจว่าจะโมทนาบุญ อย่างเดียวโดยการกดปุ่ม
    แต่ยิ่งฟัง ยิ่งขนลุกทั้งตัว เพราะมากๆครับ ตั้งสติฟังตาม... - คุณ Ricardo DeCalgary

    ...ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนกับความดีที่ทำอยู่นะครับ
    ดนตรีไพเราะมากเลยฟังแล้วเข้าในจิตเลยขนลุกเลยสาธุ ... - คุณ porch

    ...ขออนุโมทนากับปี๋โมเยโตยเน้อเจ้า... บ่าฮู้ว่าปี๋เป๋นคนจังหวัดอะยั่งเจ้า?
    (ฟังแล้วตื้นตั๋นใจ๋..น้ำต๋าจะไหลเจ้า...) - คุณ Nongmai ka


    รวมหกท่านที่ฟอร์ทต้องขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม ล้วนเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อได้ฟัง "โพชฌังคปริต ล้านนาบารมี โอสถกถา เยียวยาผู้ป่วย" ผลงานของพี่โมเย ขอรับ ในส่วนตัวของฟอร์ท เมื่อสักครู่ก่อนหน้าที่โพสเรื่องนี้ ได้ทดลองตั้งใจฟังพอสมควร เกิดความรู้สึกที่สามารถเข้าใจได้ว่าเสียงและทำนองเพลงที่กำลังกล่าวถึงนี้เข้ามาสู่จิตที่ประมาณกลางอก เกิดเป็นสมาธิน้อยๆ - แปลก!
    ลองทดลองกันดูนะขอรับ (โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2010
  17. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    สวัสดีน้องฟอร์ท

    ไหน ๆ เปิดเกมส์เกี่ยวกับดอกไม้สวรรค์กันมาเสียยาวแล้ว ต่ออีกนิดให้จบคอร์สไปเลยนะ

    อันดับแรกพี่ขออัญเชิญบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพฯมาฝากน้องฟอร์ทไพเราะมาก


    ......มิ่งไม้มณฑารพ…..

    มณฑารพมิ่งไม้...........เมืองบน
    เหตุพิเศษจึ่งหล่น..........จากฟ้า
    คือพระพุทธเสด็จดล......สู่ครรภ
    ประสูติผนวชเจิดจ้า........ตรัสรู้วิโมกข์ธรรม

    ตรัสธรรมจักรล้วน........หลักศาสน์
    พระยมกปาฏิหาริย์อาจ....เอกแท้
    จากเทวโลกยาตร..........สู่ภพ
    ปลงอายุไป่แก้............. ตราบเข้าพระนิพพาน


    อันดับที่สอง

    นำมาจากเว็ปบ้านอุณมิลิต เขาเรียก มนต์ดอกไม้สวรรค์ เขาบอกว่าจัดเป็นพุทธคุณบทเมตตาในพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา
    ยอดทางเมตตา ถ้าเป็นพระคาถาอิติปิโสรัตนมาลาแล้ว ย้าวววยาวมาก 108 จบ(เชื่อว่าสวดไปต้องมีคนเมตตาแน่ ๆ มาช่วยกันปฐมพยาบาลเพราะ เป็นลมไปก่อนจะจบ)

    แต่ที่นำมาฝาก(ของเว็ปบ้านอุณมิลิต)สั้นหน่อย พอลุ้น


    มนต์ดอกไม้สวรรค์

    ปิโยเทวะมนุสสานัง
    ปิโยพรหมานมุตตโม
    ปิโยนาคสุปันณานัง
    ปิณินทรียังนะมามิหัง




    ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณนะจ้ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010
  18. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    หนึ่งเพชรล้านนา

    คุณเมโยคะ

    ตามที่ขอให้นำสำเนาพระราชหัตถเลขาในสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงมีถึงพระราชาชายาดารารัศมีที่เคยอ่านเจอ มาเผยแพร่ในเว็ปด้วย สัก 1 ฉบับ ดำเนินการให้แล้ว นะคะ แต่ อย่าอ่านเลย แค่ฉบับเดียว อ่านทั้งทีต้องอ่านหมด แล้วจะเห็น ถึง ความรักและคิดถึงห่วงใยของพระพุทธเจ้าหลวงของเราที่มีต่อพระราชชายามากมายเพียงใด แบบไม่เคยคิดมาก่อน (แล้วจะ เอ้อ ..เฮ้อ...ซาบซึ้งประทับใจ)


    พระราชหัตถเลขานี้ทรงเขียนถึงเมื่อคราวพระราชาชายา ทรงเสด็จคืนเชียงใหม่ หลังจากที่ทรงจากไปประทับที่กรุงเทพฯนานถึง 21 ปี และระหว่างที่ประทับที่เมืองเหนือ 6 เดือนกว่าพระบรมราชสวามีทรงมีพระราชหัตถเลขาไปถึงมิขาด

    (อ่านจากหนังสือ“ดารารัศมี”เล่มปกแข็งหน้าปกเป็นพระฉายาลักษณ์พระราชชายาและพระธำมรงค์ฯที่ได้รับพระราชทานมาจากพระบรมราชสวามี ขนาดอยากได้อีกเล่มตอนนี้หาหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เลย)


    อีกเรื่องคือเรื่องเกี่ยวกับหีบกาไหล่ทองของพระราชชายาฯ

    เคยอ่านพบว่า..... ก่อนจะสิ้น พระราชชายาได้ทรงสั่งความพระเชษฐา(เจ้าครองนครเชียงใหม่คนที่เท่าไหร่จำไม่ได้)ว่า ให้นำหีบหีบกาไหล่ทองพระราชทานที่ทรงวางไว้เหนือพระแท่นบรรทมของพระองค์ตลอดมาไปบรรจุรวมไว้ในกู่ที่เก็บพระอัฐิด้วย

    หีบกาไหล่ใบนี้เป็นที่สงสัยของพระญาติมานานว่ามีอะไรข้างในเพราะพระองค์ทรงหวงแหน และเทิดทูนมาก หลังจากสิ้นพระชนม์แล้ว พระเชษฐา และพระญาติทั้งปวงจึงมารวมกัน นำหีบใบนี้มาเปิดดู ว่า ความลี้ลับของพระองค์ในหีบใบนี้คืออะไร..เป็นหีบกาไหล่ทองสีดำขนาดกว้าง 12 นิ้ว โดยมีความยาวเท่า ๆ กันทุก ๆ ด้าน บนฝาหีบนั้นมีเครื่องหมาย ตราสกุล “ เจ้าเชียงใหม่ “ แห่งราชวงศ์ “ ทิพย์จักราธิวงศ์ “ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชเจ้าได้ทรงสร้างขึ้นพระราชทานแด่เสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี อันเป็นสุดที่รักของพระองค์และทรงสร้างขึ้นให้มีความหมายเป็นตราของสกุลวงศ์ “ เจ้าเชียงใหม่ โดยเฉพาะเป็นตราพระอินทร์ขาวนั่งประทับอยู่ในปราสาทและหีบกาไหล่ทองใบนี้ มีทับทิมเม็ดใหญ่ และมีเพชรล้อมรอบมีมูลค่ามหาศาล

    ลองอ่านดูนะคะ......


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา

    นั่งนึกว่าป่านนี้คงจะไปถึงที่พักแล้ว เพราะบ่าย ๕ โมงตรง ได้นึกจะส่งของไปทำบุญแต่รุงรังนัก ก็จะพาไปลำบาก จะสั่งก็เผอิญมีการชุลมุน บัดนี้ได้ให้กรมสมมติฯ จัดไตรแพร ๙ ไตรส่งขึ้นมา ขอให้บังสุกุลพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ ๓ ไตร พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ๓ ไตรเจ้าทิพเกสรไตรขอให้นิมนต์พระราชาคณะพระครูและครูบาที่เป็นผู้ใหญ่ชักผ้าไตรนี้ อุทิศให้ท่านทั้ง ๓ ผู้ได้มีความรักใคร่คุ้นเคยกันมา

    การที่จะไปครั้งนี้เป็นระยะทางไกลให้เป็นห่วงด้วยเป็นเวลาต่อฤดูกำลังจะเปลี่ยนใหม่ ถ้าเจ็บไข้ขอให้เร่งรักษาก่อน อย่าทอดทิ้งไว้มากแล้วจึงรักษา กันเสียก่อนดีกว่ารักษาเมื่อเป็นมากแล้ว

    ขออำนวยพรซ้ำอีกให้เป็นสุขสบายอย่างเจ็บไข้ขอฝากความอาลัยที่กำลังผูกอยู่ในใจเวลานี้มาด้วย ถ้าจะมีความปรารถนาอันใดฤๅไปดีประการใดขอให้บอกข่าวมาให้ทราบตามที่บอกได้ด้วย.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.

    ..........................................................................
    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา

    ด้วยความคิดถึง มีช่องที่ยังจะถึงกันได้ง่าึยหาเหตุว่าจะทำอะไรดี นึกได้ว่ามีหีบหนังจระเข้ซื้อมาเมื่อไปยุโรปคราวนี้ซึ่งลืมเสียแล้วนั้นมีอยู่ เรียกมาดูเห็นงามดี น่าจะใช้ใส่ผ้าตั้งไปในเรือปิกนิคได้ แต่มันเป็นหรั่งๆ อยู่หน่อย จะแก้ไขใช้ได้ ฤๅไม่ก็ตาม เป็นของเขานับถือกันว่าดีมีราคาและงามมาก จึงให้เอาตามขึ้นมาให้

    ค่ำวันนี้ได้เอาแผนที่มากะที่จะทำเรือน(๑) เห็นว่าจะขยายได้มาก ยกนางวาด และนางเหมมาอยู่เสียที่เรือนทำใหม่ในเกาะเอาสามบ้านนั้นมารวมเป็นบ้านเดียว เรือนจะทำให้ใหญ่กินที่สวนเดิมและสวนนางวาดหมด ส่วนนางเหมจะรอไว้ทำเป็นสวนผสมกับที่เดิมจะได้สวนใหญ่ขึ้นมาก เห็นจะเป็นอันตรายพอเพียงได้ ตัวอย่างจะให้ฝรั่งคิด แต่พระยาวรวงศ์ฯ ได้รับแข็งแรงมากว่าจะทำให้แล้วทัน.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ...................................................................................................................................................
    (๑) ตำหนักที่โปรดเกล้าฯ ให้ทำไว้คอยท่าพระราชชายาฯ ในพระราชวังดุสิต
    ..........................................................................


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา

    ได้รับหนังสือลงวันที่ ๑๓ ฉบับหนึ่ง วันนี้กรมดำรงฯ นำมาส่งอีกฉบับหนึ่ง กับแกงปลาเทโพด้วย ได้ทราบตามหนังสือและทราบจากกรมดำรงฯ ตลอดมีความสงสารเจ้าเป็นอันมากตั้งแต่ไปแล้วยังไม่เคยลืมนึกถึงสักเวลาหนึ่งเลย

    เรือปิกนิคมันเห็นจะโตและอาละวาดจึงไม่ใคร่ขึ้นไปถึง เรือสุวรรณวิจิกเคยไปกำแพงเพ็ชร์คราวหนึ่งแล้ว ร้อนเต็มทีไม่สบาย กลางวันเก๋งเหมือนอั้งโล่ด้านหนึ่ง จนต้องลงเรือเล็กไปเสียจนเย็น จึงขึ้นนอนเรือลำนั้นได้ กรมดำรงฯ ว่าเจ้าอินทฯ จะเปลี่ยนเรือของแกให้ แกจะไปเรือปิกนิคเห็นจะดี

    ทราบว่าปากน้ำโพโทรมลงกว่าเมื่อไปเห็นปีกลายนี้ ได้ทักแล้วว่าจะโทรม แต่งยังมีคนแก้อยู่บัดนี้กรมดำรงฯรับว่าถูกเสียแล้วเพราะรถไฟมันฆ่าเสียเท่านั้น

    เรื่องเรือนที่บอกไม่ได้ไปดูเอง หลับตาเชื่อแผนที่พระยาวรวงศ์ฯ แกผิดทั้งนั้น รุ่งขึ้นไปดูเองจึงต้องแก้ไขใหม่ เรือนที่จะรวมนั้น คือ สวนนางวาดข้างหนึ่ง จะไปทำครัวและอะไรๆให้ที่เก๋งพร้อมพิสมัยสวนหนึ่งจะให้ย้ายไปอยู่เรือนนางเหม ฤานางจัน เพราะสองคนนั้นจะได้เรือนใหม่ ที่ตำหนักกรมหลวงวรเสรษฐ์ฯ และเรือนอรทัย เรือนนั้นกำลังลงมือเขียนอย่างคะเนจะเป็น ๙ ห้อง แต่จะมุขฤๅเฉลียงโถงอะไรให้สบายกว่าเก่า เขารับว่าจะทำให้ทัน แต่อย่างไรจวนกลับก็คงต้องเร่ง ได้เห็นลำดวนของรักแล้ว งามดีไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะไม่ถูกเรือน ดินต่ำมากจริงจะต้องถม นึกเห็นว่าถ้าเขียนหนังสือถึงพระยาสุรสีห์ฯ ฉบับหนึ่งจะดี จึงได้เขียนส่งมาในซองนี้ ต่อพบพระยาสุรสีห์ฯ จึงส่ง
    กับเห็นตำรวจเจ้านายไปในเมืองอื่น เขาเคยจอตราให้คนที่ได้รับอุปการะ แต่ในเมืองเราเองไม่เคยมี

    แต่ครั้งนี้เจ้าเป็นเมียผิดกับคนอื่น จะถึงให้บัตรตรามันเกินไป จึงได้จัดของเป็นส่วนสำหรับพระราชทานมอบขึ้นมา ไม่ใช่จะให้แจกแก่ใครๆ ที่มารับรองทั่วไป จะเป็นการฟั่นเฝือไปไม่เก๋ ไว้ให้ใครที่ทำความดีไว้เป็นพิเศษกว่าปกติ เลือกขอให้ตามควรแก่ฐานานุรูป โดยอ้างว่าเป็นของพระราชทานขึ้นมาสำหรับให้แก่ผู้ได้อุปการะ

    ขอให้เขา ถือว่าเป็นของพระราชทานเพราะมีอักษรพระนามเป็นสำคัญ ชาวเหนือที่ควรจะให้ก็ให้ได้ ไม่ใช่ตั้งใจสำหรับให้แก่ชาวใต้ จะได้เป็นเกียรติยศแก่ตัวเจ้า ได้สอดบัญชีของมาในซองนี้ด้วย

    กรมนราธิปฯ ส่งบทละครพระลอตอนปลายมาให้ดู ยังมีผิดอยู่ที่บอกไปให้แก้อยู่บ้าง แต่เห็นว่าเจ้ามาวังเวงไม่มีอะไรทำ จึงเก็บท่อนต้นละท่อนกลางเติมมา ๒ เล่ม รวมเป็น ๓ เล่ม จะได้อ่านเล่นพอเพลินๆ ปีใหม่นี้ วันที่ ๓๑ มีนาคม กรมนราฯ จะเล่นพระลอตอนต้นให้ดูคืนหนึ่ง แต่บอกว่าจะกินเวลา ๙ ชั่วโมง เล่นสองทุ่มตีสิบเอ็ดเลิก ถ้ารับสั่งให้ตัดถึงจะตัดลงมาเลิก ๘ ทุ่ม

    วันที่ ๑ เมษายน จะเล่นพงศาวดารตอนพระยาจักรีโรงฆ้องไปตีกัมพูชา มีพระยาโกษาจีนและนักแก้วฟ้าสัดจอง เขมรงุ่มง่ามอะไรต่างๆ แกว่าจะเล่นให้ตรงข้ามกับตอนพระยารามเดโช ตอนนั้นร้องไห้มากันแล้ว ตอนนี้ให้หัวเราะยังรุ่งอีก

    คิดถึงเจ้าล่วงหน้าเสียแต่ยังไม่ได้เห็นแล้ว แต่แกยังจะมีเก่งอีก เดี๋ยวนี้กำลังลงมือซ้อมโขน จะเล่นตอนล้างพิธีน้ำทิพย์ เป็นพากย์รับพิณพาทย์ไม่ใช่ละคร เรื่องนี้เห็นจะรอไว้เล่นต่อเจ้ากลับได้ เพราะแกยังต้องทำไมตรีกับแม่เขียนให้สอนนางช้อยเป็นทศกรรฐ์ เพราะแม่เขียนให้สอนนางช้อยเป็นทศกรรฐ์ เพราะแม่เขียนทำท่าลิ้นจี่ทศกรรฐ์ของทูลกระหม่อมได้ดีกว่าขุนระบำมาก ตึงตังทำนองเดียวกันแต่ลิ้นจี่ท่าทางเป็นผู้ดีกว่าขุนระบำก็ต่อจากยายลำไยน้องลิ้นจี้นั่นเอง แต่ยายลำไยแกเป็นนางไม่ใคร่เอาใจใส่มาก

    ทราบว่าจะได้ออกเรือวันที่ ๑๘ จึงขออำนวยพรอีกครั้งหนึ่งให้ไปเป็นสุขสบายดี อย่าเจ็บไข้จนกลับมา จะมีความระลึกถึงเจ้าอยู่เสมอเป็นนิจ.

    พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ..........................................................................
     
  19. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    (ต่อ)พระราชหัตถเลขา


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา

    ด้วยวันนี้ดิลกฯ(๑) ลาว่าจะขึ้นไปส่ง เผอิญพอฝรั่งให้เอารูปถ้ำมองมาขาย จึงนึกว่าไปตามทางจะเปล่าเต็มที อ่านหนังสือตาลายเผื่อจะหยุดดูรูปเป็นการแก้รำคาญ แต่เสียดายเวลาไม่พอที่จะได้จดชื่อตำบลลงเป็นหนังสือไทย นอกจากเมืองจีนและญี่ปุ่น เป็นที่ซึ่งเคยไปเที่ยวแล้วโดยมาก ที่เล่าถึงหนังสือไกลบ้านก็มีหลายตำบล ยังมีสวิซเซอร์แลนด์ เบลลเยี่ยม และฮอลแลนด์ที่ได้ไป แต่เห็นว่าที่ส่งมาถึง ๗๙๘ เต็มทีอยู่แล้ว จะไม่มีเอาไป แต่เท่านี้ก็หนักพออยู่แล้ว ไม่แน่ใจว่าจะชอบฤๅไม่ เพราะมันหนัก เรือกีดที่เต็มที แต่ถ้าเป็นเรือมีชั้วสมุดจะเรียงแทนก็ได้ ดุ๊ก(๒)และเจ้าชาย(๓)ว่าคงจะชอบจึงได้ส่งมา แต่ถ้าพะรุงพะรังนักส่งให้ดิลกฯคืนมาเสียก็ได้ มันยังมีช่องที่จะส่งถึงได้ก็ส่งด้วยความคิดถึงเท่านั้น

    ออำนวยพรอีกครั้งพร้อมกับความรัก.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ....................................................................................................................................................
    (๑) พระเจ้าพระบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสวรรควิสัยนรบดี โอรสเจ้าทิพเกสร
    (๒) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจ
    (๓) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช
    ..........................................................................

    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๖ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา

    ด้วยนึกถึงอายุเจ้าเต็มสามรอบ ได้คิดไว้แล้วว่าจะให้ของขวัญ เผอิญประจวบเวลาไม่อยู่ จะให้ก่อนขึ้นไปทำไม่ทันจึงได้จัดของส่งขึ้นมาด้วยหวังว่าจะได้รับที่เชียงใหม่ไม่ช้ากว่าวันไปถึงเท่าใด

    ขออำนวยพรให้มีอายุยืนยาวหายเจ็บไข้ กลับลงมาโดยความสุขสบายทุกประการ ขอให้ดูหนังสือที่เขียนไว้ข้างหลังหีบหน่อย เผลอไปจะไม่ได้อ่าน ขอบอกความคิดถึงอยู่เสมอไม่ขาด ตัวไปเที่ยวเองทิ้งอยู่ข้างหลังไม่ห่วง แต่ครั้นเวลาเจ้าจากไปรู้สึกเป็นห่วงมากจริงๆ.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    .........................................................................

    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๖ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๗

    ดารา


    ได้รับโทรเลข จะต้องการรูปเข้ากรอบแล้ว ไปติดบ้านเจ้าอุปราชนั้น ได้ส่งมากับหนังสือนี้ รูปนี้เป็นรูปถ่ายใหม่ เขาว่ากันว่าเหมือน

    เรื่องเรือนทำเป็นรูปกงฉากทำนองนี้ ห้องนอนอยู่ตะวันออก ไม่ถูกแดดบ่าย รูปร่างพอใช้ได้ ถ้านับขื่อเป็น ๙ ห้อง ถ้านับฝากั้นเป็นห้อง เป็นข้างบน ๕ ห้อง ข้างบนคือห้องนอน ห้องนั่ง ห้องเก็บของ ห้องกระได ห้องรับแขก ข้างล่างห้องเหมือนกัน ตามแต่จะจัดอย่างไร มีศาลากลาง สวนตะพานเดินไปถึงด้วย มีเฉลียงด้านตะวันออกและด้านเหนือตลอด แต่ตะวันตกไม่มีมุข นึกว่าคงจะสบายดี กลัวแต่ต้องเร่งกันลาตาย ถ้านิ่งเข้าก็จะโอ้เอ้

    นึกว่าจะรอต่อปีใหม่จึงจะส่งหนังสือ ก็กลัวจะถึงช้าจึงรีบส่งเสียก่อน หนังสือทวนน้ำไม่ทันใจเลย.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ........................................................................
     
  20. ดอกไม้เมืองบน

    ดอกไม้เมืองบน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +518
    พระราชหัตถเลขา (ต่อ)


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๒๔ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    ดารา

    ด้วยได้รับโทรเลขว่า จะต้องการศิลาจารึกติดที่กู่ สอบถามกว้างยาวได้ความว่ากว้าง ๑๖ นิ้ว ยาว ๓ ฟุตนั้น ได้ศิลามาโตไปหน่อย จึงให้เลื่อยได้ขนาดแล้ว วันนี้ได้มอบให้กรมหลวงดำรงฯ ขอให้ส่งขึ้นไป แต่เป็นของหนักจะเดินบกลำบาก จึงคิดจะให้ส่งขึ้นไปทางเรือ แต่จะให้เร็วกว่าปกติ

    ข้างบางกอกเวลานี้สนุกอยู่ ไม่มีเหตุการณ์อะไร อากาศร้อน แต่มีลมมาก ดูเหมือนจะเย็นกว่าทุกปี กำลังคิดทำนาที่ปลายถนนซางฮี้ในทุ่ง ได้ลงมือซื้อควายเสร็จแล้ว แต่แรกนาของเราต้องเป็นเดือน ๗ แรกนาสำหรับเมืองพรุ่งนี้ ในการเล่นละครขึ้นเรือน องสร้อย(๑)และคุณโหมด(๒) กรมนราฯ ส่งบทมาให้แล้ว ได้เอาส่งมาให้อ่านในซองนี้ด้วย

    เรื่องขวดแก้วเจียระไนเป็นเรื่องที่แกเคยเล่นที่วิมานนฤมิตร์ วัดสระเกษ แต่ก่อนแล้ว แต่เรื่องเครือฟ้าเป็นเรื่องมาดัมบัตเตอไฟล ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือไกลบ้านตอนเมืองปารีส เปลี่ยนญี่ปุ่นเป็นลาว ฝรั่งเป็นไทยเท่านั้น ที่แกทำคำร้องเช่นนี้ เอาอย่างออปฝรั่ง เพราะเคยได้ชมเมื่อเจ้าเขมรร้อง ละครกรมนราฯ ดูค่อยเฟื่องฟูขึ้น แต่กระนั้นคนยังดูน้อย จนผู้ดีก็ไม่ใคร่ดู เพราะเป็นเรื่องใหม่ ไม่เข้าอกเข้าใจ และต้องฟังมากดูมาก แลไปอื่นไม่ได้ ต่อไม่ติด ด้วยธรรมดาคนเราไปดูละครชอบไปนั่งพูดกัน พอให้เห็นตัวละครเตะตาไปเตะตามา เสียงร้องพิณพาทย์เตะหูแล้วก็พอเท่านั้น ต้องการแต่จะพูดอย่างเดียว จึงไม่ใคร่ชอบ

    มีความรำคาญด้วยเจ้าเชียงใหม่เจ็บออดแอดนักควรจะคิดอ่านรักษาป้องกันให้ดีอีก
    รู้สึกคิดถึงมาก เมื่อมีงานครั้งใด ใครๆ ก็บ่นถึงอยู่ทุกคราว.

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ....................................................................................................................................................
    ๑) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอาง
    (๒) เจ้าจอมมารดาโหมด


    (สำเนาพระราชหัตเลขา)

    วันที่ ๒๙ มิถุนายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    เจ้าดารารัศมี เชียงใหม่

    ดาวกาไหล่ทองที่จะประดับพระธาตุดอยสุเทพเขียนอย่างงามดี แต่ตามขนาดที่บอกมาโตมาก อยากทราบว่าที่ซึ่งจะติดนั้นแบนหรือรูปโก่งกลม จะติดปูนหรือจะได้ให้มีแกน คำจาฦกนั้นดังนี้

    “เจ้าดารารัศมี อันเป็นราชธิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ และแม่เจ้าทิพเกสร ซึ่งได้ครองนครเชียงใหม่ อันได้ลงเป็นพระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ กรุงเทพมหานครศรีอยุธยา ถ้วน ๒๒ พรรษ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กลับมาเยี่ยมพระนคร เมื่อจุลศักราช ๑๒๗๑ ได้เสด็จมานมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ทรงศรัทธาแผ่หิรัญจำหลักรูปดาราทาสุวรรณอันวิจิตร์แผ่นนี้ ประดับบูชาพระมหาธาตุเจ้าไว้เป็นที่ตั้งแห่งกุศลสมภาร”

    จบเท่านี้ จะเอาตามนี้หรือขอแก้ไขเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง จะรีบส่งขึ้นไปให้ทันกันฉลองกู่

    (พระบรมนามาภิธัย) สยามมินทร์
    ..........................................................................

    (สำเนาพระราชหัตเลขา)
    วันที่ ๒ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๘

    ดารา

    ด้วยเมื่อไปเที่ยวทะเลครั้งนี้ ถึงเกาะพงันได้รับหนังสือ ๒ ฉบับ ฉบับหนึ่งลงวันที่ ๑๖ เมษายน ฉบับหนึ่งลงวันที่ ๒๘ เล่าถึงออกท่าทำยศทำศักดิ์สนุกดี เจ้าจะเรียนน้อยกว่าคนอื่น เพราะเคยออกหน้ามาตั้งแต่พ่อยังอยู่ถ้าหากว่าเป็นข้างในตามเคยเห็นจะเกือบตาก คำรับรองที่อ่านนั้นแต่งดีจริงๆได้ให้กรมหลวงนริศฯดูตอบมาว่าได้เห็นเข้าก็ใจหาย กลัวในเรื่องแต่งหนังสือเช่นนี้เราจะแพ้เขาเสียในภายหน้า เชียงใหม่ยังไม่สิ้นรู้

    ใบเมี่ยงที่ส่งลงมาใช้ได้ ฟังเล่าก็นึกอยากจะไป ข้อที่ต้องการจะเห็นมากนั้น คือ ห้วยแก้ว ดอยสุเทพ

    ด้ให้ลงมือเขียนอย่างดาว(๑)ที่จะประดับพระเจดีย์ กันในทะเลนั้นเอง แต่ประดักประเดิดด้วยเรื่องขนาด เพราะเหตุที่เขาดัดเลข ๘ เป็นเลข ๒ ไป

    ยังนึกวิตกอย่างเดียวว่าจะติดที่ไหน ถ้าต่ำๆ กลัวมันจะไม่อยู่ ถ้าสูงนักใครจะอ่านหนังสือเห็น เพราะหนังสือนั้นบรรจุลงไปมาก จึงทำให้ตัวเล็ก แต่เห็นดีเช่นนั้น ถ้าจะนึกหน้ารูปร่างอย่างไร ก็คือดวงตราสะตาร์ตราจักรีนั้นเอง เว้นไว้แต่ไม่มีสามง่ามออกไปคั้น อยู่ในระหว่างแฉก ช่างเขาว่าจะแล้วสำเร็จส่งได้ในกลางเดือน ๘ อุตราสารท จะรีบให้เดินบกขึ้นไปให้ทันเดือน ๙


    การที่ไปทะเลครั้งนี้ เหตุด้วยไม่สบายให้ตึงเมื่อยไป จึงได้ประคบลูกประคบพลาดที่ท้องข้างซ้าย คราวนี้เลยปวดเป็นลำยันอยู่ข้างใน ขี้ก็คั่ง เลยลุกลามปวดไปจนถึงข้างขวา เดินก็ไม่ถนัด ต้อๆ แต้ๆ นอนจะพลิกตัวก็โอย ลุกขึ้นจะนั่งก็โอย แต่ข้าวกินได้ นอนหลับอยู่จึงไม่เป็นอะไรมาก เป็นแต่ไม่มีความสุขและดูงุ่มง่ามไป ที่จริงเหตุที่เกิดทั้งนี้เห็นจะเป็นด้วยราชการชุกชุมหมู่ใหญ่ทรมานตัวประมาณสักสองเดือนเต็มๆ รู้สึกเมื่อยฟกเต็มที ได้แก้ไขเท่าไรไม่ยักหาย กลัวจะจับไข้จึงได้คิดอ่านหลบออกไปทะเล การไป ก็ไปเที่ยวอย่างตาแก่ คือนอนอืดอยู่แต่ในเรือ ขึ้นบกน้อย ด้วยเดินไม่ใคร่ไหว รีดน้ำมันร้อยอย่างตลอดทุกวัน แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร ไม่ยักหาย

    จนกลับมาก็ยังเป็นอยู่เช่นนั้น จนทีหลังสุดนี้อ่านอาการเจ็บ ใครๆ เห็นชื่อพระยาอมรสาตร์ฯ คือ สิทธิสารเก่า บ่อยๆ นึกว่าลองเอาแกมารักษาดูสักที เผอิญพอมาให้กินยาก็ถูกต้อง ค่อยยังชั่วขึ้นทุกวัน จนเดี๋ยวนี้ยังเหลืออยู่สองแห่งที่ตะโพกข้างซ้ายแห่งหนึ่ง กับที่ใต้รักแร้ข้างขวาแห่งหนึ่ง ตึงอยู่เท่านั้น ยาที่กินนั้นก็ขนานเดียว เรียกว่าสิทธิสารประสิทธิ์ ของพระยาอมรสาตร์ฯ บ้านปูน เดี๋ยวนี้ยานั้นเลยเก่งใหญ่ เพราะเขาเห็นหายได้เร็ว ใครๆ ก็กินกัน ซื้อไว้คนละมากๆ ตาอมรสาตร์ฯ ออกจะรวยๆ ในครั้งแรกที่ให้กินสองเมล็ด รุ่งขึ้นแกมาถามว่าเป็นอย่างไร บอกว่าเอาไปเถิดเมล็ดละ ๑๐๐ บาท ส่งเงินไปให้ ๒๐๐ บาท สรรพยานั้น ใบสมอกับโกศน้ำเต้ากินเวลาก่อนจะนอน ไม่ไซ้ไม่เซาะอย่างหนึ่งอย่างใด นิ่งๆ ตื่นขึ้นก็ไปหมดท้อง เว้นไว้แต่ถ้าท้องเสียจึงจะเหลวมาก กินทีละ ๒ เมล็ด สำหรับธาตุหนัก ถ้าธาตุเบาบางทีเมล็ดเดียวจะพอกระมัง

    ม่รู้ว่าจะถูกกับโรคภัยของเจ้าหรือไม่ แต่ตั้งใจว่าอะไรเป็นแฟแช่นที่ออกใหม่ในวัง จะส่งขึ้นมาให้เช่นนั้นเอง ถ้าดีอยู่แล้วขออย่าให้กิน ถ้ากินขออย่าให้ทุกวันจะเคยท้องเสีย

    ของแฟแช่นเนบอลในวังเดี๋ยวนี้มีอีกอย่างหนึ่ง คือ ถุงตีนสี แฟแช่นอันนี้ได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกลับจากยุโรปใส่ถุงตีนและเกือกหนังสี ก็มีความปรารถนาที่จะใส่กันขึ้นมาบ้างจนความรั่วรู้ไปถึงอ้ายพวกห้างสั่งมาขาย เกือกนั้นมาประเดี๋ยวเดียวหมดไม่ทันรู้ แต่ถึงรู้ก็ไม่รู้จักขนาดตีนคงไม่กล้าส่ง จึงได้แต่ถุงตีนส่งขึ้นมาสีละคู่ ที่เขาใช้กันอยู่เวลานี้แฟแช่นอื่นยังไม่สู้เดิน

    คราวนี้ว่าด้วยเรื่องคลั่ง ชาววังคลั่งละครกรมนราฯ ทุกรูปทุกนาม ตั้งแต่เจ้านายลงไปจนถึงขี้ข้า ตั้งแต่เจ้าไปแล้วยิ่งมีหลายหนเข้า และตามแบบที่เจ้าตั้งไว้ไม่ให้ผู้ชายมาดู แต่นั้นมาก็ไม่มีผู้ชายมาดูอีกเลย ผลที่ผู้ชายไม่ได้ดูนั้น ทำให้เกิดทุรนทุราย สุดแต่กรมนราฯ มาเล่นอะไรในวังแล้วกลับเอาไปเล่นที่ปรีดาลัยคนก็ไปดูมาก แต่ก่อนโรงละครกรมนราฯ ได้เคยไปคนไม่เกิน ๕๐ ตั้งแต่มาเล่นในวังแล้วคราวนี้ เล่นวันใดที่นั่งไม่พอเสมอ แต่เพียงเรื่องที่มาเล่นในวังแล้ว ไปเล่นข้างนอก ได้ส่วนเงินข้างนอกถึงหมื่นบาทกว่าแล้ว กรมนราฯ ร้องว่า เดชะบารมี

    สังเกตความนิยมของคนชั้นหลังนี้ เห็นจะนิยมเรื่องสาวเครือฟ้ายิ่งกว่าเรื่องอื่นๆ จนได้รับหนังสือไปรษณีย์ขอให้เล่นซ้ำในวิกนี้ ข้อที่นิยมเห็นจะเป็นด้วยเหตุหลายอย่างๆ หนึ่งนั้นเป็นเรื่องละครฝรั่ง อีกอย่างหนึ่งนั้นคงจะโปรด จึงได้เล่าไว้ในหนังสือไกลบ้าน แต่ข้อสำคัญที่สุดนั้นเป็นสาวเครือฟ้าเข้ามาเล่นในวังทำเหมือนเชือดคอตายได้รางวัลครั้งเดียวถึง ๑๐๐ บาท มีผู้ปรารภกันว่าถ้าเจ้ากลับมาควรจะมีสมโภชเสีย ๓ วัน นึกวิตกกลัวแต่จะต้องซ้ำ เพราะเจ้าไม่ได้เห็น ๓ วัน เพราะเจ้าไม่ได้เห็นมากเรื่อง เขาทายกันว่าเจ้าจะขอให้ซ้ำเรื่องสาวเครือฟ้านี้

    การที่เล่นละครแล้วไม่ได้เขียนเล่าเรื่องขึ้นมา เหตุด้วยกำลังปวดเหลือเกิน บทที่เตรียมไว้จะส่งก็เลยค้างไปไม่ได้ส่งไปด้วย บัดนี้ได้ส่งขึ้นมา ๙ เล่ม แต่จะซ้ำไปเล่มหนึ่งฤๅอย่างไรไม่ทราบ จำไม่แน่จึงเห็นว่าเหลือไว้ดีกว่าขาด
    การที่ตั้งพยายามไปซ้อมละครเล่นพระลอแก้ขัด ใจคอก็เด็ดหนักหนา คนที่จะเล่นละครมันต้องเป็นคนคิดได้ทั้งบทและคุมเรือให้ท่า จำต้องคิดเรื่องคิดใหม่ประกอบกับตัวคนที่มีอยู่ จึงจะเล่นได้ดี เพราะฉะนั้นคนที่เล่นละครดีมาแต่ก่อนๆ พระพุทธเลิศหล้า ตาเจ้ากลับ นายเนตร นายต่าย เจ้าพระยามหินทร เหล่านี้เขานึกของเขาเองทั้งนั้น ถ้าเล่นละครมีผู้มาคอยติว่าที่นี่ต้องอย่างนั้น ที่นั่นต้องอย่างนี้จึงจะถูก แล้วเล่น อย่างไรๆ ก็สู้เมื่อกระนั้น คือ คนที่เล่นแรกไม่ได้

    พูดถึงกรมนราฯ มามากแล้ว คราวนี้เอาเรื่องอื่นเสียที มียายฝรั่งคนหนึ่งเป็นชาวอิตาเลียน ชื่อบัวซอนี คิดตั้งโรงละครที่ถนนพาหุรัด ลงพิมพ์ประกาศมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะเล่นละครเรื่องอิตาเลียนแปลเป็นไทย คนไทยเล่นแต่ตัวเป็นฝรั่ง จะได้เล่นในเดือนเมษายนเป็นแน่ คำประกาศนั้นลงพิมพ์ทุกวันจนถึงเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม จนถึงเดือนพฤษภาคมแล้วก็ยังลงพิมพ์ว่าจะได้เล่นเดือนเมษายนเป็นแน่ มันช้าเช่นนี้ ได้มาเล่นต่อเดือนมิถุนายน เชิญเสด็จด้วย แต่ไม่เสด็จ ครั้งแรกคนตื่นกันไปดูมาก โรงละครว่าทำดีกว่าโรงไหนๆ ในบางกอกทั้งหมด ตัวละครแต่งตัวเป็นฝรั่งอย่างดี ฝรั่งโบราณชั้น ๑๕๐ ปีมาแล้วเสื้อแสงหรูมาก เรื่องที่เล่นออกจะสนุกๆ แต่ตัวละครนั้นเก็บเอาพวกละครปรีดาลัยบ้าง นักสวดบ้าง ยี่เกบ้าง ผู้ชายก็เป็นผู้ชาย ผู้หญิงก็เป็นผู้หญิง แต่มันเล่นพูดเป็นฝรั่งพูดไทยอีกโย่งโก้งเก้ง เห็นจะมีคนดูเต็มแต่วันแรกวันเดียว แล้วเล่นต่อมาอีกครั้ง ๒ – ๓ วัน กลายเป็นเล่นแต่วันเสาร์วันอาทิตย์ วันอื่นๆ เอาหนังเข้าไปเล่น เมื่อวิกก่อนนี้หนังสือพิมพ์กล่าวว่าต้องเลิกเพราะไม่มีคนดู มันกล้าเล่นมีเงิน ๓,๐๐๐ บาทเท่านั้น เที่ยวซื้อของเชื่อ กว้านของซื้อให้หมดตลาดแล้วกลับขายกรมนราฯ ครางอู้หาซื้อช้องไม่ได้ เดี๋ยวนี้เจ้าหนี้ตอมนุงทีเดียว

    จรูญฯ ต้องรียกกลับเข้ามาเป็นรองเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม เมื่อแรกนี้กรมนเรศฯ ได้ขออนุญาตที่จะถามขึ้นไปถึงเจ้าว่าเรื่องหลาน(๒)จะจัดการอย่างไรต่อไปแต่ภายหลังนี้ตกลงเป็นบวรเดชจะไปเป็นทูตแทนแล้วก็เป็นสิ้นเรื่อง ไม่มีเปลี่ยนแปลงอันใด

    ที่เรื่องนั้นพระยาวรพงศ์ฯ แกเรี่ยมาก เหตุที่ไม่เคยเข้าใจผิดถึงเพียงนั้น จึงได้เขม้นขะมักทำ บัดนี้ได้มุงหลังคาและถือปูนแล้ว ไม่ได้ไปดูมานาน แต่นางเอิบ(๓) บอกว่าถ้าทางดูเหมือนจะโต มีห้องหับมากกว่าเรือนในวัง กำลังคิดอ่านให้เข้าไปถ่ายรูปจะส่งขึ้นไปให้ดู
    นางชุ่ม(๔)ไปเที่ยวถึงเพ็ชรบุรี กลับมาฟื้นขึ้นมาก เห็นจะยังไม่เป็นไร องค์อัจฉร(๕)นั้นขึ้นมาจากปากน้ำอยู่บ้านระพี(๖)อาการโทรมลงมาก นอนราบลงไปไม่ได้ทีเดียว แต่แกรักษาตัวแกเก่งไม่มีใครสู้ กินยาเกือบทุกชั่วโมง อาหารก็อุตส่าห์ทำเอง พยายามมาก บวมแล้วยุบเล่า เห็นจะยังไปได้อีกหลายเดือน แต่หญิงเล็กเยาวมาลย์(๗)นั้นไม่มีฟื้นเลย แกชักให้เร็วที่ธาตุเอาไว้ไม่อยู่ อย่างไรๆ ก็คงจะตามกันไปในสองคนนี้

    พระที่นั่งอนันตสมาคมก่อผนังขึ้นมาเกือบถึงขื่อแล้ว ที่สวนดุสิตหน้าตาแปลก ก็ที่แลเห็นพระที่นั่งนี้ตั้งโตอยู่กลางสวนแง่เต๋ง จะเป็นซึ่งเจ้าจะกลับมาเห็นแปลกนอกนั้นก็คงที่อยู่อย่างเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงอันใด

    หนังสือนี้เขียนมายาวมากแล้วจึงขอจบไว้เสียที คิดถึงทุกเวลาที่มีอะไรสนุก และมีคนบ่นถึงเสมอด้วย

    ในที่สุดนั้น ต้นลำดวนยังอยู่ดีไม่ตาย เขากั้นคอกเสียแน่นหนา

    (พระบรมนามาภิธัย) จุฬาลงกรณ์ ป.ร.
    ....................................................................................................................................................
    (๑) รูปดาวที่พระราชชายาขอพระราชทานมาติดที่พระธาตุดอยสุเทพ
    (๒) เจ้ากาวิละวงศ์ เวลานั้นอยู่เมืองนอก
    (๓) เจ้าจอมเอิบ
    (๔) เจ้าจอมมารดาชุ่ม
    (๕) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณิรัชกัญญา
    (๖) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์
    (๗) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล

    ..........................................................................
    ........
     

แชร์หน้านี้

Loading...