หยุด! ทำร้ายพระพุทธศาสนา.......

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย theboo123, 14 ตุลาคม 2010.

  1. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    สัทธรรมปฏิรูป = สัทธรรม + ปฏิรูป
    สัทธรรม คือ ธรรมอันเป็นที่ตั้งของความเชื่อมั่น, หรือคำสอนของพระศาสดา
    ปฏิรูป คือ เปลี่ยนไป,เปลี่ยนแปลง
    ฉะนั้น สัทธรรมปฏิรูป จึงหมายถึง คำสอนของพระศาสดาถูกเปลี่ยนแปลง

    ต้นหน หมายถึง ผู้บังคับเรือ ,ผู้พาเรือไป

    โมฆะบุรุษ คือบุคคลผู้ว่างเปล่า ,บุคคลผู้ไร้ประโยชน์

    อ้าว!แล้วไม่กลัวผู้ที่จะทำลายศาสนาหรือจึงบอกออกมาอย่างนี้?
    ถ้าผู้ถือตามพุทธธรรมสงฆ์จริงๆ จะกลัวทำไม เพราะพระพุทธเจ้าก็บอกอยู่แล้วว่า อยู่ที่ ต้นหน
    และพระพุทธเจ้าก็ทรงสอนวิธีไว้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อมีผู้เปลี่ยนแปลงคำสอนของพระองค์
    ถ้าต้องการรู้เปิดตัวมาจะบอกว่าอยู่ตรงไหน หรือใครข้องใจข้ออื่น ก็เปิดตัวมาไม่ใช่มัวซ่อนตัวถามไม่เปิดเผยตัวมัวไร้แก่นสารอยู่ โทษของคนปิดตาผู้อื่นไม่แสดงตัวตนให้เห็นให้รู้ คือตนจะถูกปิดตา ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ใช้สิ่งใดทำผิดย่อมเกิดโทษกับสิ่งนั้น
    สิ่งใดทำดีย่อมปรากฏกับสิ่งนั้น
    เล่ม ๔๙ หน้า ๑๗
    http://www.samyaek.com/tripidok/book49/001_050.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
  2. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
  3. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ทำไมจึงต้องเป็นพระที่รักษาศีล พระที่ไม่ละอายต่อศีลไม่ได้หรือ?
    เล่ม ๔๙ หน้า ๒๒๒
    http://www.samyaek.com/tripidok/book49/201_250.htm

    ควรเลือกให้หรือให้ๆไปเถอะได้เหมือนกัน?
    เล่ม ๔๓ หน้า ๓๓๔
    http://www.samyaek.com/tripidok/book43/301_350.htm

    แล้วถ้าหามีแต่พระไม่รักษาศีล จะทำยังไงหล่ะ จึงจะปลอดภัย ?
    เล่ม ๓๖ หน้า ๑๔๖
    http://www.samyaek.com/tripidok/book36/101_150.htm

    จะทำนายังไม่เลือกนาแล้วจะได้ผลไหมหล่ะ?
    เล่ม ๔๒ หน้า ๓๑๒
    http://www.samyaek.com/tripidok/book42/301_350.htm

    ยังมัวแต่จะทำบุญกับพระไม่รักษาศีล จนลืมหน้าที่ของชาวพุทธ อันเป็นบุญที่ชื่อว่าผู้ทำตามคำสอนของพระศาสดาแล้วหรือ?
    เล่ม ๑๖ หน้า ๘๘
    http://www.samyaek.com/tripidok/book16/051_100.htm

    วิธีทำบุญโดยไม่ต้องอาศัยพระไร้ศีล มีอยู่ไหม?
    เล่ม ๒๕ หน้า ๒๙๔
    http://www.samyaek.com/tripidok/book25/251_300.htm

    อันไหนทำแล้วได้บุญมากว่ากัน?ระหว่าง
    ทำตามวิธีที่พระพุทธเจ้าสอน กับ ให้การสนับสนุนในพระไม่รักษาศีล
    เล่ม ๑๓ หน้า ๔๒๑ บรรทัด ๖
    http://www.samyaek.com/tripidok/book13/401_450.htm

    บุญที่ชื่อว่าปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรม

    บุญนี้จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้าครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา และให้ผู้ต้องการตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2010
  4. tattooo

    tattooo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +5


    รับทราบครับ
    กว่าจะหาที่แก้ไขได้ เล่นเอางงอยู่เหมือนกัน พอดีไม่ค่อยเก่งคอมครับ
     
  5. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    เพิ่มเติมครับ
    แม้กระทำทางใจก็อันตรายนะครับ
    เล่ม ๑๕ หน้า ๑๖๔
    http://www.samyaek.com/tripidok/book15/151_200.htm

    ส่วนวิธีการแก้ไขรายละเอียดครับ
    เข้าที่แผงควบคุมส่วนตัว มุมซ้ายถัดขึ้นไปจาก .กดปุ่มเพื่อรับฟังวิทยุพลังจิต.
    เข้าไปแล้วจะเจอแผงควบคุมอยู๋ซ้ายมือ
    แก้ไขข้อมูลส่วนตัว
    Customize Profile ปรับแต่งข้อมูลส่วนตัว
    Profile Privacy ประวัติความเป็นส่วนตัว
    แก้ไขรูปส่วนตัว

    เข้าที่ แก้ไขข้อมูลส่วนตัว
    แล้วไป เพิ่มรายละเอียดที่
    ข้อมูลเพื่มเติม ในช่องสีฟ้าที่สามครับ
    เสร็จแล้ว กดปุ่มเก็บรายละเอียดที่ถูกเปลี่ยน ครับ
    ____________________________________

    เพิ่งเข้าเหมือนกันครับ ไม่ค่อยชำนาญพื้นที่เท่าไหร่



    ลบ...ถึงผลที่จะได้รับหากไม่ทันระวัง...
    มาดูแล้วมันไปได้สองทาง คือไปทางส่อเสียดให้เสียหาย กับไปทางเตือนแต่ไม่ได้มุ่งไปทางอันเสียหายน๊า แต่ก็รับผิดชอบคำตัวเองอยู่นะ ถ้ามันเป็นโทษก็ขอขมาในความเลินเล่อนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  6. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ที่ยกขึ้นมาเตือนกันนั้น ไม่ได้ หมายว่าปรามกันนะครับ
    แต่เตือนกันเพราะ เห็นว่าถ้าหมู่กัน มาลงทุนก็ควรที่จะได้แต่กำไรโดยไม่เสียแม้แต่บาทเดียว แม้สลึงเดียวก็ไม่ควรจะเสีย จึงยกขึ้นมาไว้กันความเสียหายครับ
    สิ่งนี้พระพุทธเจ้าสรรเสริญครับ
    เล่ม ๓๐ หน้า ๑๓๒ ปทสูตร
    http://www.samyaek.com/tripidok/book30/101_150.htm

    ด้วยผู้ที่ด่าทออยู่ยังไม่ได้ไตร่สวน ตรวจสอบ จึงกล้าเช่นนั้น เราจึงเตือนกันเพื่อควรหลีกความเดือดอันที่จะทำให้ใจเศร้าหมองไปตรับ
    เห็นด้วยความไม่รู้ก็ต้องมีความสงสัยอยู่แล้ว แม้ ๔ พี่น้องผู้ไม่มีความรู้ก็ยังสงสัยในสิ่งที่ตนเห็น
    เล่ม ๕๗ หน้า ๕๑๕ บรรทัดที่ ๑๑
    http://www.samyaek.com/tripidok/book57/501_526.htm

    เช่นนั้นเราควรเอื้อเฟื้อแก่พระพุทธเจ้าในข้อนี้
    เล่ม ๑๑ หน้า ๓ บรรทัด ๑๔
    http://www.samyaek.com/tripidok/book11/001_050.htm




    เพิ่มเติม เมื่อคืนว่าจะใส่ไว้ แต่เตลิดไป เลยต้องมาเพิ่มทีหลังครับ
    ญาณ แปลว่า ความรู้
    ถ้าเจอ ญาณทัศนะ คือ ญาณ+ทัศนะ = ความรู้+การมองเห็น จึงมีความหมายว่า การเห็นด้วยความรู้
    ญาณ ๑๖ ก็คือ ความรู้ ๑๖ อย่าง


    บุญอันเกิดจากการเปิดธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา และ ผู้ต้องการตลอดไป



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  7. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    จากที่สกิดแผลไว้ ถึงเหล่าพุทธภูมิที่ไม่เคารพธรรมนั้น ว่าเป็นผู้เกะกะ ทำไมจึงกล้าสกิดขนาดนั้น?

    หน้า ๑๒๙
    http://www.palungjit.org/tripitaka/default.php?cat=2500124

    ถ้าเป็นพระก็ควรหาทางหลีกจากการต้องยุ่งเกี่ยวเงินทองหรือข้อที่ผิดวินัยถ้าต้องการไว
    ถ้าเป็นโยมก็ต้องระมัดระวังไม่สนับสนุนให้พระต้องทำผิดวินัย ทั้งตนก็ต้องตรวจดูว่าพระพุทธเจ้าสอนให้ทำอะไร
    ไม่อย่างนั้นพุทธภูมิก็ล่าช้าไป เพราะมัวแต่เกะกะธรรมวินัย ตนเองจึงถูกเกะกะทางที่จะถึงธรรวินัย

    ศึกษากระทู้นี้ให้ดีนะครับ
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1512.0







    ถ้าหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บอกไว้ ว่าจะมีพุทธภูมิมาอีกเยอะ ก็ขอถามว่า มากันทำไม ถ้ามาแล้วมาเกะกะทำให้ พระธรรมวินัยนี้เสียหาย เพราะแทนที่จะมาช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาให้ยืนนาน มาแล้วมาโดนหลอกให้เสียไปอีก
    โดนหลอกยังไง?
    พุทธรูป แปลว่า อะไร
    พุทธะ+รูป จึงมีความหมายว่า รูปของพุทธะ


    [​IMG]



    จึงว่ามาถูกหลอกให้ต้องสร้าง ทองเหลือง ทองแดง ปูนปั้น พลาสติกหล่อ
    ถูกหลอกไปว่า ต้องเก็บซากอันเน่าเปลือยนี้ไว้ ไม่อย่างนั้น คนจะไม่มาวัด


    รู้ไหมใครชอบเรื่องนี้?
    เล่ม ๒๔ หน้า ๔๐๑
    http://www.samyaek.com/tripidok/book24/401_450.htm

    ปั้นแต่งปูน ทองหลืองทองแดงพลาสติกหล่อให้วิจิตร หรือแม้แต่ยิงรูปเข้าผนังหินด้วยพลังฌาณ แล้วนั่งมองกัน หลอกกันว่ารูปพุทธะ
    รู้ไหม? พระพุทธเจ้ากล่าวว่าอย่างไร
    เล่ม ๒๘ หน้า ๑๙๒
    http://www.samyaek.com/tripidok/book28/151_200.htm

    ไม่ใช่ไม่เคยเรียนนะ แม้ไม่ได้เรียนกับหลวงพ่อหรือพระในวัดแต่ก็เรียนกับตำราที่ออกมานั้นแหล่ะ เกือบจะได้เข้าเรียนอยู่เหมือนกัน ป.๖ ต่อ ม.๑ ตอนยังไม่รู้ก็ดีใจอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นของนอกศาสนาเฉยเลย จึงต้องกลับมาเตือน จะเอาหรือไม่เอาไม่บังคับ แต่แจ้งให้รู้ว่า หากข้ามลำดับที่พระพุทธเจ้าสอนนั้นมันมีโทษรออยู่ หากไปตามลำดับที่ถูกต้องมีคูณอันหามิได้รออยู่ ในพระไตรปิฎกนี่ยังคงถ้วน ถ้าคิดจะมาสร้างบารมีให้เต็ม


    ยังมี ๒ เรื่องที่ต้องแก้ คือ
    ของนอกศาสนาเฉยเลย กับ ซากอันเน่าเปลือย
    วันนี้ไม่ไหวแล้ว

    รู้ไหม? ทำไมอภิญญาที่ทำกันจึงเรียกว่าของนอกศาสนา
    รู้ไหม? ซากอันเน่าเปลือยนี้ ใครเป็นผู้พาเรียก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2010
  8. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    วันนี้ได้รับความรู้ใหม่อีกแล้วขอขอบพระคุณครับ
     
  9. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    งานก็ยุ่งจัง
    ขอถามทิ้งไว้ก่อน ทำอภิญญากันเพื่ออะไร?
     
  10. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ทำไม?อภิญญา ที่ทำกันจึงเรียกว่าของนอกศาสนาทั้งๆที่ผู้ที่บวชเป็นพระพาทำนะนั้น

    เข้าใจว่า พระพุทธเจ้าสอนไปเรื่องฤทธิ์เรื่องนิพพานเลยโดยไม่สนใจฐานของผู้ที่จะทำเลยหรือ?
    เล่ม ๓๗ หน้า ๔๑๔
    http://www.samyaek.com/pratripidok/index.php?topic=43.0

    แล้วลำดับศาสนาเป็นอย่างไร?
    เล่ม ๑๑ หน้า ๓๐๔ เป็นต้นไปจนจบเรื่อง อาจเข้าใจได้
    http://www.samyaek.com/pratripidok/index.php?topic=21.0

    พระพุทธเจ้าสอนให้ทำสมาธิเลยหรือ?
    เล่ม ๓๘ หน้า แรก
    http://www.samyaek.com/tripidok/book38/001_050.htm

    อวิปปฎิสาร = ความไม่เดือดร้อน
    ปราโมทย์ = ความปลื้มใจ,บันเทิงใจ
    ปิติ = ความอิ่มใจ,ความดื่มด่ำในใจ
    ปัสสทธิ = ความสงบกายใจ,ความผ่อนคลายกายใจ,ความสงบจากอารมณ์
    สุข = ความสบาย,ความสำราญกายใจ
    สมาธิ = ความตั้งมั่งแห่งจิต
    ยถาภูตญาณทัสสนะ = รู้ตามความจริง,การรู้ตามจริงในสิ่งต่างๆ
    นิพพิทาวิราคะ = สำรอกออก,คลายออก,คลายออกได้หายติดขัด
    วิมุตติญาณทัสสนะ = ความรู้เห็นในวิมุตติ,รู้ว่าพ้นแล้วอย่างชัดเจน

    ถ้าคิดว่าศีลดี
    แล้วจะทำอภิญญารู้จักความกังวลหรือยัง?
    เล่ม ๒ หน้า ๓๕๑
    http://www.samyaek.com/pratripidok/index.php?topic=10.0

    หากไม่เป็นไปตามขั้นตอนของศาสนาก็มีแต่ งงกับงง ? เคยเป็นมาแล้วไม่ใช่ไม่เคย

    ศึกษากระทู้นี้ก่อนผู้ที่สนใจในฤทธิ์ทั้งหลาย
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1424.0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  11. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ทำกรรมฐานโดยคิดว่าศีลไม่สำคัญคิดว่ากรรมฐานจะเจริญไหมหล่ะ?
    เล่ม ๑ หน้า ๗๖๓ บรรทัด ๖
    เล่มที่ 1 : พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม 1 ภาค 1 ( 863 หน้า )

    แล้วคราวนี้คิดว่า ถวายเงินพระจะได้บุญหรือได้บาป ส่งให้เจริญหรือทำให้เสื่อม?




    ลืมจ่ายบุญ ผู้อ่าน อ่านแล้วเกิดความรู้ขึ้น สามารถอุทิศบุญความรู้ ความกระจ่างนี้ออกไปได้ครับ
    หากสงสัยว่าได้ด้วยหรือ ก็ตอบว่า ที่มาเปิดความรู้ในที่นี้ก็เป็นการมาอุทิศบุญแห่งความรู้อยู่นี่ ใครรับได้ก็เกิดความรู้กับเขาขึ้น ใครรับไม่ได้ก็ไม่เกี่ยวกับผู้ที่ส่งให้ เพราะผู้ส่งให้ส่งให้แล้วด้วยใจอันดี

    บุญจากการเปิดธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้า ครอบครัวข้า ให้ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา และผู้ต้องการตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  12. tattooo

    tattooo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +5
    ได้ความรู้มากมายครับ


    ยินดีในบุญนี้ ให้ญาติ เทพที่รักษา นายเวร เชื้อโรคของข้า พ่อแม่ พี่น้อง ญาติข้า และผู้โพสให้ความรู้ และผู้อ่านทุกท่าน
     
  13. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    ศีล จึงเป็นรากฐานสำคัญในพระพุทธศาสนา เพราะเป็นฐานในการดำเนินไปในความเจริญต่างๆ จนไปถึงการไม่ต้องมาทุกข์ยากลำบากอีก

    แม้แต่สุเนตตะผู้มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมากหลายๆชาติก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเข้าไปในทางของพุทธศาสนา
    เล่ม ๓๗ หน้า ๒๑๗ บรรทัด ๒
    http://www.samyaek.com/tripidok/book37/201_250.htm


    เมื่อพุทธศาสนามีลำดับ อริยศีล อริยสมาธิ อริยปัญญา อริยวิมุติ
    อริยศีล จึงเป็นรากฐานสำคัญอย่างมาก
    แล้วอริยศีลเป็นอย่างไร?
    เล่ม ๑๑ หน้า ๓๐๙ บรรทัด ๘
    http://www.samyaek.com/tripidok/book11/301_350.htm

    แล้วคิดว่าควรจะรักษาให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติหรือสนใจแค่สะดวกสะบายหล่ะคราวนี้?

    พระที่ไม่รักษาศีลนี้พระพุทธเจ้ากล่าวว่าอย่างไร?
    เล่ม ๓๗ หน้า ๒๖๐
    http://www.samyaek.com/tripidok/book37/251_300.htm

    แล้วโยมที่ไปร่วมทำผิดหล่ะ?
    เล่ม ๕๑ หน้า ๔๗ บรรทัด ๘
    http://www.samyaek.com/tripidok/book51/001_050.htm

    เล่ม ๔๕ หน้า ๑๒๘ บรรทัด ๒๒
    http://www.samyaek.com/tripidok/book45/101_150.htm

    เล่ม ๓๙ หน้า ๑๗๓ บรรทัด ๑๑
    http://www.samyaek.com/tripidok/book39/151_200.htm




    บุญในการเปิดธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้าครอบครัวข้า ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา และผู้ต้องการตลอดไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2010
  14. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    การโพสให้ข้อมูลศึกษาในที่นี้ เป็นการโพสโดยข้าพเจ้าเท่านั้น คณะเว็ปสามแยกและคณะพระไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโพสของข้าพเจ้า หากมีส่วนใดขาดเกินประการใด ความรับผิดชอบทั้งหมดควรตกอยู่ที่ข้าพเจ้า ไม่ควรเกินผ่านข้าพเจ้าไป
    จริงอยู่ ที่ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกในเว็ปสามแยกและมีการมาทำงานเพื่อเปิดความรู้ในธรรมวินัยของพระสุคตอันประกาศไว้ดีแล้ว แต่การกระทำทั้งหมดนี้เป็นการกระทำอันเกิดจากการข้าพเจ้าโดยตรง อันเกิดจากการศึกษาพระไตรปิฎก แล้วไปตามวิธีการที่มีในพระไตรปิฎกโดยส่วนใหญ่ ไม่กล่าวว่าทั้งหมด ซึ่งมีทั้งอันเกิดจากข้าพเจ้าเองด้วยโดยไม่เกี่ยวกับผู้อื่น ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจแก่ผู้ศึกษาพุทธศาสนา อันจะเป็นประโยชน์ที่ผู้ศึกษาเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติตนได้ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา อันจะเกิดประโยชน์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อผู้ศึกษานั้นเอง แต่ข้าพเจ้าไม่กล่าวว่า ความรู้ที่ได้มานี้ข้าพเจ้าเท่านั้น ไม่มีผู้อธิบายผู้เตือนผู้แจงธรรมให้เข้าใจในพุทธศาสนาที่ถูกต้องตรงต่อธรรมของพุทธะ ข้าพเจ้าไม่กล่าวเช่นนั้น
    แต่ข้าพเจ้ากล่าวยืนยันว่า ข้าพเจ้าเกิดความรู้จากการศึกษาพระไตรปิฎกตามที่คณะวัดสามแยก ค้นออกมาให้ประชาชนศึกษา แต่การเรียงร้อยองค์ธรรมนั้น ข้าพเจ้าเป็นผู้เรียงร้อยไปตามวิธีของพระพุทธเจ้าและเหล่าสาวกที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกซึ่งได้นำออกมาใช้จากในนั้น ไปตามที่ควรจะแจงธรรมให้ทราบกัน โดยคณะเว็ปและคณะพระวัดสามแยกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโพสของข้าพเจ้า หากมีส่วนใดขาดเกิน ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบทั้งหมดในการโพสนี้

    จึงประกาศไว้ใน ณ ที่นี้
    นาย ทศพล เศรษฐกสิกิจ
    ภูมิลำเนา ๑๑๔ หมู่ ๒ ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
    สถานที่ทำงาน ๒๐๘ ซ.เทียนทะเล ๒๖ ถ.บางขุนเทียนชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

    ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2010
  15. THODSAPOL SETTAKASIKIT

    THODSAPOL SETTAKASIKIT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +101
    รู้หรือไม่ ทำไม?ยินดีในบุญผู้อื่นจึงได้บุญ ยินดีในบาปผู้อื่นจึงได้บาป
    เล่ม ๑๗ หน้า ๑
    เล่มที่ 17 : พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม 1 ภาค 1 ( 783 หน้า )

    จึงเป็นเหตุว่า ทำไม ภิกษุจึงไม่ควรแม้จะยินดีในทองและเงิน
    แล้วยังจะยินดีในการมุ่งถวายเงินให้แก่ภิกษุ หรือ ควรจัดการให้ถูกต้องตามพระวินัย


    วิธีการจัดการเงินเกี่ยวกับภิกษุ
    http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=214.0

    และสำหรับผู้สนใจในการแก้ไขก็หาศึกษาได้จากเหล่ากระทู้นี้ครับ

    http://www.samyaek.com/board2/index.php?board=14.0



    บุญจากการเปิดธรรมวินัยนี้ จงสำเร็จแก่ ญาติ เทวดาที่รักษา นายเวร เชื้อโรคข้าครอบครัวข้า ให้ชาวทิพย์ที่ดูแลรักษาพุทธศาสนา และ ผู้ต้องการตลอดไป


    แก้ไข เพิ่มเติม
    เนื่องจากวันที่โพสนี้ว่าจะโพสความหมาย ของคำว่า กำหนดรู้เข้าไปด้วย แต่เตลิดไปอีก จึงต้องมาเพิ่มให้ทีหลังครับ

    กำหนดรู้ คือ กำหนด+รู้
    กำหนด ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง จำกัดไว้ แต่หมายถึง กำหนดเป้าหมาย หรือ เล็งเป้าหมาย
    จึงได้ความหมายว่า เล็งที่จะไปเรียนรู้ หรือ มุ่งที่จะไปเรียนรู้ เรียนไปเรียนรู้อะไร

    ตัวอย่าง
    ย่อมสำคัญหมายธาตุดินว่าของเรา ย่อมยินดียิ่งซึ่งธาตุดิน.
    ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. ? เราตถาคตกล่าวว่าเพราะเขาไม่ได้กำหนดรู้.

    ถอดกำหนดรู้ออก แล้วใส่ความหมายเข้าไป

    ย่อมสำคัญหมายธาตุดินว่าของเรา ย่อมยินดียิ่งซึ่งธาตุดิน.
    ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. ? เราตถาคตกล่าวว่าเพราะเขาไม่ได้ มุ่งไปเรียนรู้.

    แล้วไปเรียนรู้อะไรหล่ะ? ไปที่ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    จึงปรากฏความหมายขึ้นมาว่า เพราะเขาไม่ได้เรียนรู้ว่ามันมีการแปรเปลี่ยน มันเป็นทุกข์ มันไม่มีตัวตน ใครเข้าไปยึดถือหรือแม้ยินดีก็ตาม ใจเขาย่อมได้ชื่อว่า ไปสู่การเปลี่ยนแปลง อันเป็นความทุกข์ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไร แล้วคิดว่าถ้าพระบวชไปแล้วแล้วไปหลงติดยินดีเงินทองแล้วสึกออกมามีลูกมีเมีย แล้วน่ายินดีไหมหล่ะ?
    ในการส่งเสริมให้ทำลายศีลของพระอริยะนี่ มรคคนี้เป็นมรรคของพระอริยะเลยนะ

    มรรค แปลว่า ทางดำเนิน,ทางเดิน,ทางสัญญจร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  16. smile072

    smile072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +461
    ขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยครับ เรื่องที่คุณทศพลกล่าวมาในเรื่องที่มองพระพุทธรูปเป็นวัตถุก็ถูกต้องครับ แต่ถ้าเรามามองในแง่ของความคิดและเจตนารู้สึกจะทำร้ายจิตใจไปหน่อยนะครับ เพราะแต่เดิมนั้นการสร้างพระพุทธรูปมีวัตถุประสงค์แทนพระพุทธองค์เพื่อใช้ในการเคารพสักการะซึ่งผู้สร้างก็ทำโดยจิตที่ศรัทธาด้วยระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงเสียสละแสวงหาทางพ้นทุกข์เพื่อนำมาสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลาย แต่ไม่มีผู้สร้างที่ได้เห็นพุทธลักษณของพระองค์จึงสร้างขึ้นมาตามความนึกคิดของตนเองและได้ใช้พระพุทธรูปนั้นแทนพระองค์ไว้ใช้กราบไหว้และรำลึกถึงคุณความดีของพระองค์ ผมถึงคิดว่าถ้าเรามองพระพุทธรูปต่างๆเป็นเพียงแค่ทองเหลือง ทองแดง หรือวัตถุนั้นจึงดูว่าจะทำร้ายจิตใจไปหน่อยกับผู้สร้างที่มีเจตนาดี และถ้าคิดเป็นเพียงวัตถุจริงไม่ว่าจะเจดีย์ใหญ่ๆโตๆก็คงไม่เกิด วัดต่างๆก็คงมีสภาพเป็นเหมือนบ้านทั่วไปไม่ต้องมีช่อฟ้า ใบระกาหรือหางหงส์ หรือแม้กระทั่งพระพุทธรูปที่สร้างกันขนาดใหญ่ๆโตๆก็คงไม่มี พระสำคัญคู่บ้านเมืองก็ไม่มี รวมไปถึงเวลาประกอบพิธีกรรมต่างๆก็จะไม่มีพระพุทธรูปมาตั้งเป็นประธาน อย่างงานทำบุญบ้าน งานศพ และงานอื่นๆอีก ผมจึงอยากให้มองในอีกมุมที่ไม่ได้มองเรื่องของวัตถุแต่ให้มองในแง่ของเจตนาและความรู้สึกครับ ถ้าข้อความอันใดที่ผมลงนี้ทำให้คุณไม่สบายใจหรือไม่พอใจผมก็ต้องขออโหสิกรรมด้วยครับ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะมากล่าวโทษใครแต่อยากให้มองในด้านอื่นบ้างครับ และผมก็ต้องขออนุโมทนาในบุญกับคุณทศพลด้วยครับที่มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาครับ สาธุ
     
  17. nattakorn

    nattakorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +31
    หลังจากที่ได้อ่านความคิดเห็นของแต่ละท่าน ล้วนมีเหตุผลของต้นเองทั้งนั้น แต่ทุกท่านอย่าลืมว่าเป้าหมายสูงสุด สิ่งที่เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออะไร เรื่องที่เราถกเถียงกันอยู่ นำไปสู่พระนิพพานหรือไม่ ทำให้เราหลุดพ้นสงสารวัฎหรือเปล่า หรือว่าเรากับลังติดกับดัก ของอุปทาน ความยึดมั่นถือมั่น กรรมสำเร็จได้ด้วยเจตนาครับ แม้แต่พระพุทธองค์การแสดงธรรม แต่ละครั้ง ยังต้องดูปัญญาของแต่ละนุคคลก่อน เพราะแต่ละคน สร้างมาไม่เหมือนกัน คนมีปัญญาน้อยก็ต้องใช้ศัทธานำ ส่วนคนที่ปัญญาดีแล้ว ศัทธาก็ไม่จำเป็น ขออนุโมทนา กับทุกๆท่านครับ การได้สนทนาธรรม ทำให้เกิดปัญญา เข้าถึงวิมุต ได้เร็วขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. tattooo

    tattooo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +5
    การแสดงความเห็นส่วนตัวยังไงเสียก็เถียงกันไม่จบ (เลยงด)
    ด้วยเหตุปัญญาแค่หางอึ่งยังไม่ได้ เพราะจิตยังโง่

    ผู้ใดมีอะไรสงสัย เรื่องใด พระไตรปิฎกมีคำตอบ
    ถกข้อธรรมคำสอน มีอะไรแย้งมา ยกมา ข้อไหน เล่มไหน หน้าที่เท่าไร บรรทัดไหน ตำราไหน
    ครูอาจารย์และคณะศิษย์วัดสามแยกพร้อม ยินดี ให้ตรวจสอบ แก้ไข
    เพราะหลวงพ่อเกษมสอนว่า
    [​IMG]
    ---------------------------------------------------------
    จะเอาแต่จิต เอาแต่เจตนาไม่ได้
    (ถึงทำให้มีการบิดเบือนจนทุกวันนี้ และด้วยที่มีผู้คนต่างกรรมต่างวาระต่างปัญญา ผู้ที่ด้อยกว่าย่อมตกเป็นเหยื่อล่อของมาร)
    เพราะจิตที่ตั้งไว้ผิดก็อันตราย จิตที่ตั้งไว้ผิดทำความฉิบหายให้ยิ่งกว่าเหตุใด ๆ (นันทโคปาลกะ) เล่ม 40 หน้า 441
    ต้องมีปัญญาประกอบ ด้วยเหตุนี้แหละเราจึงต้องศึกษาพระไตรปิฎก
    พระไตรปิฏกศึกษา-โรงเรียนวัดสามแยก - หน้าแรก


    ศีกษาเถิด ฟังเถิด �http://www.samyaek.com

    ยินดีในบุญ (คุณทศพล)นี้ให้ญาติเทพที่รักษา นายเวร เชื้อโรค ของข้า พ่อแม่ พี่น้อง ญาติข้า ครอบครัวข้า ผู้อ่านทุกท่าน
     
  19. tattooo

    tattooo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +5
    ขออนุญาติ พระพันธกานต์ อภิปญฺโญ นำโพสมาเปิดเผยสู่สาธารณชน
    เรื่อง หลวงพ่อเกษม สอนเรื่องเล่ห์เหลี่ยมของมาร

    พวกมารเขาฉลาดอยู่มาก

    พวกมารเขาหลอกคนให้บริจาคทานเยอะๆ
    พวกมารเขาหลอกคนให้เคารพรูปต่างๆเยอะๆ
    พวกมารเขาหลอกคนให้รักษาศีลไม่ได้
    พวกมารเขาหลอกคนให้ภาวนาทำกรรมฐานทั้งๆที่มีกังวลหลายอย่าง
    พวกมารเขาหลอกพระในพุทธศาสนาให้ยุ่งเหยิง – วุ่นวาย จนไม่สามารถจะรักษาศีลของพระได้ พระจึงเป็นพระทุศีล
    แล้วพวกมารก็หลอกโยมผู้มีศรัทธาในพุทธศาสนาให้เข้าไปบริจาคทานกับพระทุศีลด้วยสิ่งของเยอะๆ
    พวกมารทำเช่นนี้ก็เพื่อให้โยมผู้ใจบุญได้บาปมากๆในการบริจาคทานแก่พระทุศีลนั่นเอง

    เมื่อรู้เรื่องของมารแบบนี้แล้ว

    พวกเราต้องให้ทานกับพระแค่พอให้พระอยู่ได้ และอุปถัมภ์ผู้เขาเคารพและรับใช้พระซึ่งก็คือโยมวัด
    ให้ดำรงอยู่ได้โดยสะดวก เมื่อโยมวัดก็สะดวกดีแล้ว

    ผู้ที่มีกำลังในการให้ทานก็ควรให้ทานแก่ลูกๆ – บริวารทั้งหลายของตนและผู้ลำบากทั่วๆไป
    ไม่ใช่ขนสิ่งของไปบริจาคให้แต่วัดอย่างเดียว การขนสิ่งของไปบริจาคให้วัดก็พอให้วัดดำรงอยู่ได้เท่านั้น
    และพอได้เป็นทุนบุญของตนเอง แล้วก็ใช้ทุนบุญนั้นสร้างบุญต่อๆไป (เบิกบุญจ่าย)

    วัตถุสิ่งของเครื่องใช้ทั้งหลายของตนเอง ก็ให้มีไว้ใช้แต่พอดีไม่ควรมีให้เหลือเฟือจนเกินไป
    คือ พอให้กิจกรรมในการดำรงชีวิตของตนเองดำเนินไปได้อย่างสะดวก

    1. บุญทานเป็นสิ่งที่เราควรสร้างเองและสร้างบุญทานตามที่พระพุทธเจ้าสอน
    2. บุญศีลเป็นสิ่งที่เราควรสร้างเองและสร้างบุญศีลตามที่พระพุทธเจ้าสอน
    3. ธรรมคำสอนเป็นสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง โดยการใช้บุญทานและบุญศีล
    เป็นเครื่องสนับสนุนในการส่องดู - ตรวจดูพระธรรมคำสอน

    การทำทานทุกอย่างเปรียบเหมือนเป็นการสร้างฐานของยานพาหนะ
    การสร้างบุญศีลที่สมบูรณ์เปรียบเหมือน การประกอบเครื่องกั้น – มุง ของยานพาหนะ
    การเรียนรู้ธรรมคำสอนเปรียบเหมือน การตรวจดูว่าเราจะนำยานพาหนะดำเนินไปทางไหนจึงจะถึงเป้าหมาย
    ตามที่พระพุทธองค์บอกไว้ และตรวจดูสิ่งของสัมภาระบนยานพาหนะของเราว่าพอเหมาะพอควรกับการเดินทางไหม
    หากสัมภาระในยานพาหนะมีมากเกินไป
    ยานพาหนะก็จะข้ามภูเขาสูง ,ร่องลึก ,คลื่นสูง ,น้ำเชี่ยว ,ลมแรงพุ่ง ,ลมหมุน และฝ่าเปลวเพลิงไปไม่ได้
    ยานพาหนะก็อาจจะพังยับเยินก่อน


    คือ สร้างบุญทานก็กะว่าให้พอไปรอด
    สร้างบุญศีลก็ทำตามที่พุทธองค์สอนไว้ให้มั่นคงนั้นก็พอแล้ว
    พระธรรมคำสอนก็ต้องเร่งเรียน – เร่งเล่าเรียนให้รู้ - เรียนให้รู้ทิศทางอย่างทั่วถึงรอบคอบ
    ทั้งทิศเหนือ – ใต้ – ตะวันออก – ตะวันตก – ด้านบน – ด้านล่าง – ด้านขวาง - รวมทั้งฤดูกาล
    เราจะได้รู้จักเลือกดำเนินไปให้ตรงทางแต่เพียงสายเดียวเท่านั้น
    เพื่อจะได้ไปให้ถึงเป้าหมายตามที่พระพุทธองค์ได้บอกไว้โดยเร็ว

    พระเกษม เขียนที่กุฏิ 9 / 03 / 51

    บุญจากการเปิดเผยนี้ให้ญาติ เทพที่รักษา นายเวร เชื้อโรคของข้า พ่อแม่ พี่น้อง ครอบครัวข้า และผู้อ่านทุกท่าน
     
  20. tattooo

    tattooo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +5
    การโพสให้ข้อมูลศึกษาในที่นี้ เป็นการโพสโดยข้าพเจ้าเท่านั้น คณะเว็ปสามแยกและคณะพระไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโพสของข้าพเจ้า หากมีส่วนใดขาดเกินประการใด ความรับผิดชอบทั้งหมดควรตกอยู่ที่ข้าพเจ้า ไม่ควรเกินผ่านข้าพเจ้าไป ไปตามที่ควรจะแจงธรรมให้ทราบกัน โดยคณะเว็ปและคณะพระวัดสามแยกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโพสของข้าพเจ้า หากมีส่วนใดขาดเกิน ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบทั้งหมดในการโพสนี้

    จึงประกาศไว้ใน ณ ที่นี้ด้วย
    ข้าพเจ้านายสันต์ ลอยวรานนท์
    289 ซ.10 ถ.เพชรเกษม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
     

แชร์หน้านี้

Loading...