เรื่องเด่น หลวงปู่ตื้อเผชิญหน้าวิญญาณหลงทางในเมืองลาว!! ขนาดชี้ทางสว่างให้ ดวงตาก็ยังมืดมน

หลวงปู่ตื้อเผชิญหน้าวิญญาณหลงทางในเมืองลาว!! ขนาดชี้ทางสว่างให้ ดวงตาก็ยังมืดมน ... จนต้องปล่อยไปตามยถากรรม!




เมื่อครั้งหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ออกจาริกธุดงค์ได้เดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปทางฝั่งลาวได้พักบำเพ็ญเพียรบริเวณนครเวียงจันทน์เป็นเวลาหลายเดือน
หลวงปู่ตื้อ เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า แถวใกล้นครเวียงจันทน์ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ได้ไปปักกลดภาวนาบนเส้นทางช้างศึกของเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์ในประวัติศาสตร์ของลาว ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นเส้นทางเดินทัพของเจ้าอนุวงศ์ในอดีต หลวงปู่ได้ปักกลดภาวนาอยู่บนเส้นทางนั้นหลายคืน ไม่ทราบว่าท่านมีจุดประสงค์ภายในใจอะไร ความจริงพอจะเดาได้ แต่ไม่อยากเดา

หลวงปู่เล่าให้สานุศิษย์ฟังว่า มีคืนหนึ่ง ท่านได้นิมิตว่ามีวิญญาณหลงทางมาหามากมายจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นทหารหนุ่มๆ ทั้งสิ้น เดินผ่านมาทางที่ท่านพักปักกลดอยู่ที่ท่านเรียกว่าวิญญาณหลงทาง ก็คือ เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่รู้จักกราบพระไหว้พระ บางคนก็ยืนมองพระเฉยๆ บางคนก็สนุกสนานเฮฮาไปตามเรื่อง

หลวงปู่ ได้แผ่เมตตาอุทิศบุญกุศลไปให้ ปรากฏว่าไม่ได้ทำให้พวกเขาสามารถระลึกและคลายมานะทิฏฐิได้เลย วิญญาณเหล่านั้นได้แต่มาปรากฏให้เห็นเท่านั้น ก็ได้แสดงกริยาอะไรกับท่านเลย คล้ายกับเป็นวิญญาณที่มืดบอดจากคุณธรรมความดี ท่านจึงเรียกว่าเป็นวิญญาณหลงทาง ยังไม่สามารถชี้แนะในทางดีได้ ท่านก็ปล่อยให้วิญญาณเหล่านั้นผ่านไป

ที่มา:http://www.dharma-gateway.com/monk/monk-main-page.htm


---------
ขอบคุณที่มา
https://bkkcoth.blogspot.com/2016/10/puthsasna_7.html

 

กรณีดวงจิตที่เป็นมิจฉาทิฐิแบบในบทความดังที่กล่าวมา
มีวิธีแก้ ด้วยการ พาดวงจิตเหล่านั้นขอขมากรรม
ต่อพระรัตนตรัยก่อนครับ ขอขมากรรมในลักษณะ
ที่ปฏิเสธพุทธศาสนา(สำหรับดวงจิตที่เป็นมิจฉาทิฐิ
หรือวิบากกรรมมากที่ตอนมีชีวิตได้สัมผัสสัมพันธ์
กับพุทธศาสนา)หรือ ไม่นับถือพุทธศาสนา
(ใช้ได้ดีกับดวงจิตที่ก่อนตายไม่ได้นับถือพุทธศาสนา
คือดวงจิตกลุ่มนี้ ปกติเวลาเราอุทิศส่วนกุศลให้ไป
แต่พอไปถึงเค้าแทนที่จะเย็นมันจะกลายเป็นร้อนครับ)
อะไรทำนองนี้ครับ. ดวงจิตเหล่านั้นถึงจะได้รับอานิสงค์
และดวงจิตถึงจะคลี่คลายได้ครับ...

แต่ถ้าพยายามลองทำแล้ว ยังไม่ได้ผล จิตเค้า
ยังไม่ละคลายทิฐิมานะ ก็ให้ปล่อยผ่านไป
หรือ อุเบกขารับรู้อย่างเดียว

แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้โปรด
มากบารมีที่มีบารมีมากๆ ท่านผ่านมา
บริเวณนั้นครับ ดวงจิตเหล่านั้น
ถึงจะละคลายมานะทิฐิได้ครับ
แต่ว่า ไม่รู้ว่า จะอีกนานแสนนานแค่ไหน
กว่าจะมีผู้โปรดมากบารมี ผ่านไปซักท่านครับ

แต่สมัยนี้ บ้านเรามีระดับผู้โปรดมากบารมี
แวะไปที่ประเทศลาวบ่อยแล้วหละครับ
คิดว่า ปัจจุบันก็ยังดีกว่าสมัยก่อนเยอะครับ...

ปล.ฟังหูไว้หูนะครับ
ดวงจิตแบบต้นเรื่องที่นำมาลง
มีมากมายที่แม่น้ำคงคานั่นหละครับ
หลายครั้งที่ ห่มเหลืองมากบารมีไป
อุทิศส่วนกุศลให้ จะโดนเค้าด่ากลับก็มีครับ
นี่หละเป็นที่มาว่า ทำไมต้องเป็นระดับผู้โปรดครับ