หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ โทร 0827893576

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 2 เมษายน 2013.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๓๗.

    พระปิดตาจัมโบ้ วัดบ่อวิน หลวงปู่ทิมปลุกเสก องค์แชมป์ งานพื้นที่ศรีราชา

    [​IMG]

    พร้อมใบประกาศที่ ๑. งานพื้นที่ศรีราชา

    [​IMG]
    [​IMG]

    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13

    พระชุดวัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

    พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ. 2515-2516

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทิมมอบให้ในปริมาณมาก อาทิ ผงพุทธคุณต่างๆ,
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จำนวนมากสุด,
    2. จีวร,
    3. เกศาของหลวงปู่ทิม,
    4. พลอยเสก หลวงปู่ทิม
    5. หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม พลอยเสก (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ) และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ

    เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก
    รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน
    1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง
    7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี

    วาระสุดท้าย
    ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่เมื่อ
    วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20 วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่าง แท้จริง

    พระเครื่องพิมพ์นี้นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ นับว่าเป็นของดีราคาเบาน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งครับ

    ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่า อีกทั้งเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในพิธีทำบุญ ๑๐๐ วันหลวงปู่ทิมโดยหลวงปู่แก้ว เกสาโร ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งครับ

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๓๘.

    พระปิดตาหลวงปู่สิม "รุ่นเมตตา" ๒๕๑๗

    พระอรหันต์องค์ที่ 17. ของเมืองไทย

    หลวงปู่ทิมปลุกเสก


    พระปิดตาหลวงปู่สิม "รุ่นเมตตา" ๒๕๑๗ หลวงปู่ทิมปลุกเสก

    องค์ที่นำมาลงประมูลนี้เป็น ๑ ในจำนวน ๒๐๐๐ องค์ ที่ปิดทอง และ มีเส้นเกศา(ผม)ของหลวงปู่สิมชัดเจนที่ด้านหลัง สภาพสวยมากๆ

    ***ประวัติการสร้างพระปิดตาหลวงปู่สิม***

    พระปิดตาผงคลุกรัก รุ่นเมตตา หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สร้างเมื่อปี ๒๕๑๗ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกและมอบผงพุทธคุณ คุณธงชัย อุดมความสุขได้กราบขออนุญาตหลวงปู่สิมในการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ เพื่อหาปัจจัยไป ซื้อยารักษาโรคให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธในโรงพยาบาลสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่,ผู้ป่วยในโรงพยาบาลปอด จ.เชียงใหม

    พระปิดตาผงคลุกรักรุ่นเมตตานี้ สร้างพร้อมกับเหรียญรุ่นเมตตา ที่นักสะสมพระเครื่องสายนี้รู้จักเป็นอย่างดี คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ไปขอความอนุเคราะห์จาก "อาจารย์ประถม อาจสาคร" ศิษย์ฆราวาสที่ได้รับการถ่ายทอดพิธีกรรมในการสร้างพระปิดตาจาก ท่านเจ้าคุณวรพจน์ปัญญาจารย์(หลวงปู่เฮี้ยง) วัดป่าฯ จ.ชลบุรี และเป็นผู้ที่ได้รับผงวิเศษต่างๆจากท่านเจ้าคุณวรพจน์ฯมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างพระเนื้อผงยุคแรกๆให้หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่

    อาจารย์ประถม เล็งเห็นถึงกุศลเจตนาอันแรงกล้าของ คุณธงชัย อุดมความสุข ในการสร้างพระครั้งนี้ จึงรับปากที่จะช่วย และได้บอกกล่าวกับ คุณธงชัย อุดมความสุข ว่าจะจัดทำให้เป็นครั้งสุดท้าย

    สำหรับผงวิเศษที่รวบรวมมานั้น นำมาผสมสร้างพระปิดตารุ่นนี้หมด ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักนี้ ดีอย่างไร เนื้อหามวลสารในการสร้าง

    จากข้อเขียนของคุณธงชัย อุดมความสุข และอาจารย์ประถม อาจสาคร ที่เผยแพร่ในหนังสืออภินิหารและพระเครื่องในช่วงปี พ.ศ.2517-2518 พอจะสันนิษฐานได้ว่า พระปิดตาผงคลุกรัก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สร้างขึ้นจากมวลสารต่างๆดังนี้

    1.ผงท่านเจ้าคุณวรพจน์ปัญญาจารย์(เฮี้ยง) วัดป่าอรัญญิกาวาส
    2.ผงพระสัตตะนาเค หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    3.ดินขุยปู ๑๐๘ รู
    4.ข้าวสารดำ
    5.พระไตรปิฏก ๓ ภาษา(ขอมใหญ่ สันสกฤต มอญ)
    6.ดินสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง
    7.ผงพระโบราณสมัยศรีวิชัย
    8.ผงประชุมอรหันตมงคลมหาลาภ วัดสารนารถฯ จ.ระยอง
    9.ผงรัตนมาลาของชีปะขาวสิงห์อินทิปัตย์
    10.ผงวิเศษของท่านพระอาจารย์เฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
    11.ผงธูปเสกของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    12.ผงว่านร้อยแปด
    13.ผงเกสรร้อยแปด
    14.เกศา(เส้นผม)หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    จำนวนการสร้างทั้งหมด 2,000 องค์ ปลุกเสกเดี่ยวพร้อมเหรียญเมตตา โดยหลวงปู่สิม พุทธาจาโร เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๑๗ ที่วัดถ้ำผาปล่อง พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากจะปิดทอง ไม่ปิดทองก็มีบ้างแต่จำนวนน้อย พุทธคุณเน้นหนักไปทางเมตตามหานิยม
    ที่สำคัญหลวงปู่ทิม ยังได้ปลุกเสกพร้อมมอบผงวิเศษ(สัตตะนาเค) + ผงธูป การจัดสร้างในครั้งนี้ด้วย


    [​IMG]

    มีเส้นเกษาหลวงปู่ชัดเจนครับ

    [​IMG]

    อยูในระหว่างส่งออกบัตรรับรองพระแท้ครับท่านมาแล้วจ้า

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์
    พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  3. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๓๙.

    เหรียญห่วงเชื่อม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ บล๊อกนิยม

    "คอวนผมหวีชัด" สภาพสวยเดิมๆๆ พร้อมเลี่ยมทอง

    (เหรียญคลาสสิคอีกเหรียญที่น่าเก็บ)
    แรงตามมาจากเสมาแปดรอบครับท่าน


    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากล

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  4. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๐.

    หลวงปู่ทิม ปรกไตรมาศ นิยมสุดพิมพ์อุยาว พร้อมเลี่ยมทอง

    พระสวยครับท่าน เป็นพิมพ์พระนาคปรกที่นิยมสุดครับท่าน

    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากล

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๑.

    เหรียญหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ นาคปรกพิมพ์ทิมซ้อน ปี 18 สภาพสวย

    พร้อมเลี่ยมทอง บูชาขึ้นคอได้เลยครับ รีบเก็บนะครับกำลังดัง SK

    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากล

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  6. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๒. ปิดแล้วครับ

    องค์นี้สวยที่สุดใน 20 องค์ที่ผ่านมา โค๊ดเต็มๆ องค์พระหล่อได้เต็มๆสวยมากๆครับ

    พระปิดตาน้ำท่วม มรดกที่หลวงปู่ทิมทำไว้ให้แก่สานุศิษย์

    พระที่หลวงปู่ทิมตั้งใจสุดๆ ตามที่ทางคุณเพียรวิทย์เล่าให้ฟัง หลวงปูทิมท่านเอา ผงพรายกุมารออกมาจากคำภีร์ ที่ท่านนำแผนผงพรายสอดไว้ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนกระโหลกที่ยังไม่ได้ตำหรือเปล่า หลวงปู่ทิมที่ทำการพี มานิดแล้วใส่ลงใน ตะกั่ว มาดูครับเรื่องเมตตาและพรายคุ้มครองสุดยอดครับ พระองค์ที่แจกครับว่า พระชุดนี้หลวงปู่เป็นผู้สร้างเอง นั่งควบคุมการเทเอง และแถมยังเป็นผู้ดำริคิดสร้างเอง วัตถุมงคลชุดนี้คือ “พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วม”
    กรรมวิธีการสร้างและสลับซับซ้อนอย่างไร ทำไมจึงเรียกว่า “รุ่นน้ำท่วม” ก็ขอให้ท่านลองติดตามดูนะครับ

    ย้อนหลังไปในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาท่วมอย่างฉับพลันแถว อ.บ้านค่าย อ.แกลง และทีอื่นๆ อีกมาก วัดละหารไร่ ตอนนั้นน้ำท่วมสูงถึงประมาณ ๑ คืบจะถึงพื้นกุฏิของวัด

    หลวงปู่ทิม ท่านก็ปรารภกับผมว่าอยากจะทำพระสักรุ่นหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกตอนน้ำท่วม ผมได้ยินเช่นนั้นจึงพูดสนับสนุนทันที เพราะทราบอยู่ในใจว่า หลวงปู่เป็นผู้ที่สร้างของยาก

    เมื่อท่านเอ่ยเช่นนี้แสดงว่าพวกเราจะได้ของดีจากท่านไว้ติดตัวอย่างแน่นอน ท่านใช้ผมไปตามหลวงลุงรอด ซึ่งมีห้องอยู่ตรงข้ามห้องของหลวงปู่ เมื่อมาถึงหลวงปู่ได้ถามหลวงลุงรอดว่า ตะกั่วที่นี่ให้เก็บไว้ ให้เอาออกมาให้หมดจะทำพระไว้แจก เมื่อท่านพูดเสร็จหลวงปู่ก็ลุกไปที่ห้องท่านและเรียกผมเข้าไปด้วย หลวงปู่ใช้ให้ผมมุดเข้าไปใต้เตียงนอนตรงบริเวณหัวเตียงด้านล่างจะมีถังใบหนึ่งภายในมี ตะกั่วเป็นก้อนๆ บรรจุอยู่เต็มไปหมด ท่านให้ผมลากออกมาผมสังเกตว่า นอกจาก ตะกั่วแล้วยังมีตะกรุดเก่าๆ ที่เป็นเนื้อชินตะกั่วและตะกั่วอวนเป็นเม็ดๆ อยู่ในนั้นอีกด้วย ผมยังหยิบเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกดอกหนึ่งและเม็ดตะกั่วอีก ๕-๖ เม็ด สำหรับแผ่นตะกั่วที่อยู่ในห้องหลวงลุงนั้น เป็นแผ่นตะกั่วยาวๆ นิ่มอ่อน หลวงปู่ได้ใช้ให้ผมตีตะกั่วแผ่ออกเป็นแผ่น เมื่อตีจนได้ที่แล้วท่าน ก็ใช้เหล็กจารอักขระลงไปทีละแผ่น หลังจากนั้นท่านก็ให้ผมพับแผ่นตะกั่วและใช้ฆ้อนตีกลับไปกลับมาและแผ่ออกมาใหม่ และจึงใช้เหล็กจารอักขระลงไปอีก และก็ทุบกลับไปกลับมาอีก ทำเช่นนี้ตั้งหลายครั้งจนผมสงสัยจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่เห็นสนุกเลย ท่านตอบว่า คนโบราณเรียกว่า ลงถมต้องลงให้ครบ ๙ ครั้งถ้าได้ ๑๐๘ ครั้งยิ่งดีใหญ่

    พวกเราพอได้ยินเช่นนั้นจึงได้ช่วยหลวงปู่ทำเพื่อหวังขอของดีจากหลวงปู่ในครั้งนี้
    กว่าจะลงถมเสร็จก็ใช้เวลากว่า ๓ วัน เมื่อหลวงปู่เห็นว่าดีแล้วท่านก็รวบรวมแผ่นตะกั่วทั้งหมดรวมทั้งตะกั่วเถื่อนที่อยู่ในห้องของท่าน ผมสังเกตว่าตะกั่วทุกก้อนที่อยู่ในห้องของท่านจะมีจารอักขระทุกก้อน แสดงว่าท่านได้เตรียมการมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสและฤกษ์ดีไม่ได้ จากนั้นท่านจึงนำตะกั่วทั้งหมดทำพิธีปลุกเสกในห้องของท่าน ๗ วัน จนถึงวันเสาร์ หลวงปู่ก็เรียกผม เณรฉ่ำ เณรลาว และช่างมงคล หลวงลุงรอด ให้มาหาและบอกว่า วันนี้ฤกษ์ดี

    เทวดารักษา จะได้ลงมือทำพระกันเสียที เมื่อท่านพูดเสร็จท่านหยิบ ขันสำริด ที่ก้นขันได้จารอักขระเต็มไปหมด ต่อจากนั้นจึงให้หลวงลุงเอาพิมพ์พระเครื่องต่างๆ มาให้ท่านดู ท่านได้เลือกดูสักพักจึงหยิบเอาพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ที่ทางคุณชินพร สุขสถิตย์ ได้ถวายคืนให้วัดนำมาพิจารณาต่อ ต่อจากนั้นหลวงปู่ก็หยิบเหล็กจารจารลงไปที่พิมพ์ปิดตาและพิมพ์เจริญพร พนมมืออธิษฐานจิต ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ดูการกระทำของท่านอยู่เงียบๆ หลังจากนั้น
    จึงตั้งไปเพื่อที่จะหลอมตะกั่ว

    แต่ก่อนที่จะทำพิธีหลอมตะกั่วนี้

    หลวงปู่ได้ลุกขึ้นไปหยิบคัมภีร์ใบลานเก่าค่อยๆ เปิดทีละแผ่น หยิบวัสดุชิ้นสีขาวออกมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเราที่อยู่ในพิธีนี้รู้ทันทีว่า “วัสดุสีขาวที่หลวงปู่หยิบออกมาคือหัวกะโหลกเด็กที่หลวงปู่นำมาทำผงพรายกุมาร ทุกครั้งที่จะมีการสร้างพระผง ท่านยกมือบริกรรมคาถาอยู่ชั่วครู่ใหญ่ จึงค่อยๆ บิหัวกะโหลกพรายกุมาร แล้วจึงใช้ค้อนทุบลงไปในแผ่นตะกั่ว เณรฉ่ำเห็นเช่นนั้นจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ทุบหัวกะโหลกหรือ? ท่านก็เงื้อค้อนตีเณรบอกว่า กำลังตีตะกั่วอยู่ไม่เห็นหรือไง? จากนั้นท่านจึงค่อยๆ บรรจงเอาแผ่นตะกั่วชิ้นนี้วางลงไปในขันสำริดและติดไฟสุมอ่อนๆ จนแผ่นตะกั่วละลายลงไปทีละน้อย

    ในการเทครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เท่าไหร่นัก จึงเทออกมาสวยบ้างไม่สวยบ้าง หล่อติดบ้าง ไม่ติดบ้าง เนื่องจากทนไอพิษจากตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่จึงให้ทุกคนที่อยู่ในพิธีใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก เหลือไว้แต่ตาคอยดูเพื่อป้องกันไอตะกั่วระเหยออกมาอย่างรุนแรง

    แต่นั่นแหละครับ ถึงแม้จะป้องกันแค่ไหนเณรฉ่ำเข้าไปนั่งเทได้สักพักหนึ่งยังต้องออกจากพิธีเพราะทนความร้อนและพิษไอตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่เห็นเช่นนั้นจึงให้ทุกคนค่อยๆ ถอยห่างออกไป ท่านค่อยๆ ใช้ช้อนคนตะกั่วในขันสัมริดและหยิบพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ซึ่งช่างมงคลได้ใช้คีมคีบไว้กันไม่ให้ร้อนมือพอเทใส่เบ้าเสร็จท่านจึงรีบนำมาแช่น้ำมนต์ที่ท่านวางใส่ขันเตรียมไว้ข้างๆ

    พระชุดนี้เนื่องจากมีแม่พิมพ์ตัวเดียวจึงทำให้เทช้ามาก หลวงปู่กลัวว่าจะเสียฤกษ์จึงให้ช่างมงคลและหลวงลุงรอดทำการถอดพิมพ์ออกมาหลายอันเพื่อที่จะได้ช่วยกันเทให้เสร็จโดยเร็ว กว่าพวกเราจะช่วยหลวงปู่ทำพระชุดนี้เสร็จก็ใช้เวลาเกือบ ๑ เดือน เนื่องจากตะกั่วที่หลอมในครั้งนี้บางอันละลายเร็ว แต่ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนจะละลายช้ามาก เพราะมีขี้ตะกั่วลอยอยู่ที่ผิวเต็มไปหมดจึงลำบากมากในการเทเมื่อเทเสร็จแล้วได้พระประมาณ ๑ บาตร หลวงปู่จึงใช้ในผม เณรฉ่ำ เณรลาว ให้จารหลังปิดตาด้วยคาถาว่า
    “อิ สวา สุ” จารได้ประมาณไม่ถึงร้อยองค์ทุกคนก็เลิกจารเนื่องจากเหล็กจารนั้นติดตะกั่วเวลาจารต้องลงแรงมาก หลวงลุงรอดจึงเดินเข้าไปในห้องหลวงปู่หยิบโค้ดต่างๆ ที่คุณชินพร สุขสถิตย์ ทำถวายวัดเพื่อนำมาตอกปลัดขิกของวัดให้หลวงปู่พิจารณาดูว่าจะใช้ได้หรือไม่ เมื่อท่านดูแล้วท่านก็หยิบโค้ดตัว “เฑาะ” และโค้ด “มะอะอุ” ออกมา บอกให้เอาโค้ดตัว “เฑาะ” นี้ตอกหลังพระปิดตา โค้ด “มะอะอุ” ตอกหลังรูปเหมือนเจริญพร

    วันแรกที่ทำพิธีเทพระชุดนี้ ท้องฟ้าที่สว่างไสวกลับมือครึ้มลมกระโชกแรงจนทุกคนกลัวกุฏิหลวงปู่และหอฉันหลังเก่าจะพังจมลงไปในน้ำ เมฆฝนคลุมไปทั่วราวกับว่าฝนจะตกหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกคนที่อยู่ในวัด ถ้าฝนตกลงมาเที่ยวนี้น้ำป่าจะไหลทะลักท่วมวัดพัดกุฏิพังเป็นแน่

    หลวงปู่เห็นเรามีความกังวลเช่นนี้ท่านก็เอ่ยว่า ไม่ต้องกลัวๆ เขารับรู้แล้วว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน เมื่อทำการหลอมพระเสร็จเฉพาะวันนั้น ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างไสวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลวงปู่ได้หยิบพระชุดนี้ขึ้นมาดูทีละองค์และท่าน
    สายสิญจน์ที่ล้อมรอบวัตถุมงคลในห้องไว้ในมือท่าน ท่านจะนั่งปลุกเสกและลงของในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นวันออกพรรษาหรือเข้าพรรษา ท่านทำทุกคนจนถึง ๖ โมงเช้าจึงจะลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นท่านจะกราบลงที่หมอน ๓ ครั้งและก็ลุกออกไปนอกห้องเดินดูอะไรต่ออะไรไปเรื่อยๆ จนถึง ๘ โมงเช้าจึงจะถึงเวลาฉันเช้า ปกติหลวงปู่จะฉันเช้าเพียงมื้อเดียว อาหารที่ฉันจะเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อ จะมีผักถั่วฝักยาวเป็นพื้น ซึ่งท่านจะฉันเช่นนี้เป็นประจำจนชั่วชีวิตของท่าน

    พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกอยู่ทุกคืนเป็นเวลานาน จนพระเครื่องที่มีอยู่ในบาตรเต้นระรัวกระทบกันเสมือนคั่วข้างตอกแตก มีบางองค์กระเด็นออกมานอกบาตรก็มี ผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอหลวงปู่เก็บไว้ส่วนตัวจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็มอบให้ หลวงปู่ได้ทำการแจกพระชุดนี้ให้แก่บรรดาผู้ที่นับถือท่านนำไปใช้และที่ไปกราบท่านที่วัด ท่านจะพูดเสมอว่า
    เก็บไว้ให้ดีของนี่รักษาตัวได้ และยังทำยากอีกด้วย พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพร ใครมาหาท่านท่านจะใช้ผมไปหยิบในบาตรและนำมาใส่พานเล็กๆ วางไว้หน้าท่าน ท่านจะแจกไปเรื่อยๆ จนใครๆ เรียกพระชุดนี้ว่า รุ่น “แจกทาน”
    ซึ่งก็ไม่ผิดกติกาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดจะเรียกรุ่นนี้ว่า “รุ่นน้ำท่วม”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรนี้สร้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์อันดีของหลวงปู่เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่ยากจน ถ้าท่านเจอและดูเป็นก็ให้เก็บไว้ใช้เถิด ผมมั่นใจว่าพระชุดนี้ต้องยอดเยี่ยมไร้เทียมทานจริงๆ มิฉะนั้นผมคงไม่เลือกแขวนและใช้ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้หรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีพระเครื่องชุดอื่นของหลวงปู่ทิมนะครับ ตอนนี้ยังเหลืออยู่หลายองค์ทีเดียวแต่ที่ผมเลือกรุ่นนี้เพราะผมได้ยินหลวงปู่กล่าวว่า “พระรุ่นนี้นี่สร้างขึ้นมายาก หาฤกษ์มานาน ใครใช้จะรู้เอง แต่นี่รับรองใครมีไม่รู้จักอด มีเงินมีทองเหมือนกับน้ำที่ไหลไปที่ใดจะทำให้บ้านเรือนที่นั่นเกิดความสมบูรณ์”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรของหลวงปู่นี้ จัดเป็นพระชุดหนึ่งที่ท่านทำกับมือ เวลาเช่าหา ขอให้สังเกตุโค้ดที่ตอกหลังองค์พระเป็นสำคัญ ถ้าท่านจำโค้ดแม่นท่านอาจเช่าหากันในราคาไม่แพงก็ได้ เพราะเวลานี้คนที่ดูพระชุดนี้เป็นยังมีอยู่ไม่กี่คน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าหลวงปู่เลยกลับตั้งเป็นผู้รู้เสียเองว่าพระนี้จะต้องมีลักษณะอย่างนี้เช่นนี้ ด้านหลังจะต้องมีรอยวนๆ อันนี้ไม่ใช่หลักสำคัญในการดูพระให้เป็นหรอกครับ เหตุที่ด้านหลังเป็นวนๆ นั้นเนื่องจากตะกั่วที่เทเป็นตะกั่วเนื้ออ่อน ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนหรือเป็นตะกั่วที่เป็นเนื้อชินด้านหลังจะไม่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากส่วนผสมของเนื้อตะกั่วหลายชนิดมารวมกันจึงมีความแข็งเป็นพิเศษ บางองค์จะมีสีดำ บางองค์จะมีพรายปรอทอยู่ไปทั่ว ก็แล้วแต่ส่วนผสมที่แต่ละคนเติมลงไป

    หลวงปู่ทองฤทธิ์ พระผู้เฒ่าเรืองอาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฉันทนิมิต จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งผมและคุณชินพรได้ขึ้นไปกราบท่านที่วัด พอท่านเห็นรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมที่ผมคล้องอยู่ถึงกับขอดู พอดูเสร็จท่านก็หยิบพระขึ้นมาจบทำปากหมุบหมิบเหมือนท่านจะทำความเคารพหลวงปู่ทิมต่อหน้าผมและคุณชินพรที่มองท่านอย่างฉงนและทึ่งอยู่ในใจ ผมจึงถามท่านพระองค์นี้ดีอย่างไรครับ ? ท่านตอบว่า “องค์นี้ดีแล้วทุกอย่าง คุ้มได้ทุกอย่าง เจ้าของลงและเสกดีแล้ว”

    สมัยที่ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ จ. อยุธยา ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้อนุญาตให้ผมไปหา “ลูกแก้ว” นำมาให้ท่านอธิษฐานจิตเป็น “แก้วสารพัดนึก” ซึ่งท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ ๑ พรรษา และผมได้นำรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมให้ท่านดู พอท่านดูจบท่านตอบว่า “พระองค์นี้ดีมาก มีอานุภาพสูง ป้องกันสรรพสิ่งในโลกนี้ได้ ยิ่งอยู่กับคนที่มีศีลมีธรรมพระองค์นี้จะปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็นเร็ว เนื่องจากผู้ทำได้อัญเชิญเทวดาให้มารับรู้ด้วย” ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบความหมายของประโยคหลัง แต่คิดว่าตอนหลวงปู่ทำพิธีคงจะอัญเชิญครูบาอาจารย์ เทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มารับรู้เป็นแน่แท้ ผมเคยถามหลวงปู่ว่า คาถาเชิญครูนั้นหลวงปู่เชิญและสวดใช้บทไหน ท่านตอบว่า ถ้าอยากรู้ ๒ ทุ่มมาหานี่ นี่จะสอนให้ และคืนนั้นผมก็ได้คาถาอัญเชิญครูจากท่านจริงๆ ซึ่งจะขอกล่าวถึงให้ท่านผู้อ่านที่สนใจจดจำไว้เผื่อมีโอกาสจะได้นำออกมาใช้บ้าง

    หลวงปู่เคยกล่าวให้ฟังว่า ตะกั่วเถื่อนที่นี่ได้มาเป็นของดีที่เกิดเองตามธรรมชาติ เมื่อมานำทำเป็นองค์พระให้ถูกต้องตามตำราที่นี่เรียนมา จะมีอำนาจความศักดิ์สิทธิ์สูงมากเพราะตะกั่วมีกระแสการดูดซับและรับพลังจิตจากผู้เสกเข้าไปได้ง่ายและรวดเร็วมาก ซึ่งก็ตรงกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ได้พูดไว้เมื่อคราวที่ผมและรองศาสตรจารย์ ดร.ชวลิต นิตยะ อาจารย์สถาปัตย์จุฬาฯ ได้ไปกราบหลวงปู่โต๊ะที่วัดเพื่อขอเมตตาให้ท่านทำเบี้ยแก้ใว้ใช้ติดตัว
    ซึ่งหลวงปู่ได้สาธิตวิธีทำและบอกว่าให้หาตะกั่วมาปิดปากหอยเบี้ย เนื่องจากตะกั่วนี้มีคุณพิเศษในตัวเองสามารถรับกระแสจิตและพลังอณูที่อยู่ในโลกนี้ได้เร็วกว่าวัตถุชนิดอื่น ยิ่งเป็นตะกั่วเถื่อนยิ่งดีใหญ่ แม้กระทั่ง หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ท่านก็เคยกล่าวให้ผมฟังเช่นกัน

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมนี้สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจของหลวงปู่เอง เพื่อฝากความเป็นอมตะของพระรุ่นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้ ประสบการมากมายท่านท่านลงลึกศึกษาดูซิครับ


    ของดีมีน้อยถ้าท่านพอที่จะหาได้หาเก็บไว้ครับแนะนำ<!-- google_ad_section_end -->


    " ความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องพระปิดตา "

    พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง

    พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจ ผิดๆ กันมาตลอดเลยครับจริงแล้วพระปิดตาเป็น พระเมตตามหาโชดครับ

    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการส ร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" กับ "พระมหาอุต"

    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย

    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย

    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกส ินทร์เรื่อยมา จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย

    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย

    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็น

    ปริศนาธรรม ที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสน าธุระทั้งสิ้น

    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น

    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว

    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวก ับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง

    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย

    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินต ะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น

    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึง

    พระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างง ดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพ ิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว

    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอ ง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังน ี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย

    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปท างเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์

    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้ว คลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ
    ปริศนาธรรม ของพระปิดตา นั้นพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมเป็นหลักครับ
    <!-- google_ad_section_end -->

    องค์ที่ 21. เลี่ยมทองไว้ครับมีแสงสะท้อนถ่ายยากมากๆครับท่าน

    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    องค์นี้สวยที่สุดใน 20 องค์ที่ผ่านมา โค๊ดเต็มๆ องค์พระหล่อได้เต็มๆสวยมากๆครับ

    คิวจองถึงวันพุธครับ

    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    โค๊ดเต็มๆ องค์พระหล่อได้เต็มๆสวยมากๆครับ

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ
    พลังชาตรี 13


    [​IMG]

    เป็นพระเครื่องเนื้อโลหะของหลวงปู่ทิมชนิดเดียวที่มีผงพรายกุมารผสม ปิดตาน้ำท่วม

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2013
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    ลูกอมผงพรายกุมาร วัดละหารไร่ มาตรฐานการเล่นหาสุดที่สุด (มาแรงสุดๆนาทีนี้)

    พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ของดีที่ใครก็อยากได้ไว้บูชา บางท่านมีแล้วก็อยากมีอีกหลายคนคงรู้สึกว่า * แพง * แพงสุดๆ ราคาขึ้นทุกพิมพ์ทุกอย่างทุกเวลา ต่อไปก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้บูชา ผมจึงอยากแนะนำให้หา ลูกอมผงพรายผงพราย - ลูกประคำผงพรายกุมาร - ตะกรุดสาริกา (เป็นตะกรุดที่ฝังหลังพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่)
    สามชิ้นที่ต้องหา มาแขวนบูชากันครับ ราคาเบากว่ากันมากครับ ตามจริงแล้วลูกอมกลมๆที่ปั้นเป็นลูกกลมนั้นเพื่อที่นำมากดเป็นพระพิมพ์ขุนแผนลูกใหญ่ก็พิมพ์ใหญ่เล็กก็เป็นพิมพ์เล็กครับ ลูกที่กดกดไม่ทันก็จะแข็งนำไปกดพิมพ์ไม่ได้ก็กลายมาเป็น "ลูกอมผงพรายมหาภูติและลูกประคำ"

    การสร้างลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม ท่านศึกษาตำราที่ตกทอดมาจากหลวงพ่อสังฆ์เฒ่า ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ ของท่าน ผงพรายกุมารมหาภูติ สร้างจาก กะโหลกเด็กชาย ผีตายท้องกลม ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร โดยลูกศิษย์ที่หลวงปู่ครอบครูให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะไปสืบหาตามที่หลวงปู่บอกมา โดยที่มิได้กำหนดเวลามาก่อน ศพผีตายท้องกลมศพเด็ก พอได้ข่าวก็จะไปขอกับญาติศพเพื่อที่จะนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีขอขมา และสะกดวิญญาณ หลังจากนั้นก็กำชับกับศิษย์ว่า อย่าเผาให้หมด เพื่อจะเก็บเอากะโหลกเด็ก ไปให้หลวงปู่ สร้างพระ เครื่องรางที่ท่านปลุกเสก มีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานเป็นที่สุด กล่าวกันว่าผู้ใดได้ครอบครองบูชา ผงพรายกุมารนับว่าเป็นของวิเศษขั้นสูง จะส่งผลให้เกิดโภคทรัพย์ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ประสบการณ์มีมากมายโดยเฉพาะทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภ
    ไม่เป็นสองลองใคร

    พุทธคุณนั้นยอดเยี่ยมมากๆครับ รับรองว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับพระพิมพ์ขุนแผนบูชาหลักแสนและล้าน ผู้ที่มีลูกอมลูกประคำตะกรุดสาริกาไว้บูชาย่อมทราบกันดีทุกๆท่านว่าได้ผลตามที่ต้องการ สำหรับท่านที่มีอยู่แล้วยังอาราธนาไม่เป็น ท่านที่ยังไม่มีแต่คิดว่าต่อไปคงจะได้มาบ้างสักลูก และท่านที่นับถือหลวงปู่ มาลองดูกันครับ

    วิธีอาราธนาลูกอมผงพราย (จากปากหลวงปู่ทิม)

    มีคนถามหลวงปูว่า " ลูกอมนี่ดีอย่างไร "
    หลวงปู่ตอบว่า " ไม่อยากจะบอก ตามแต่จะใช้ นี่ทำดีที่สุดแล้ว

    "เวลานำติดตัวให้ว่า" นะโมฯ 3 จบ แล้วต่อด้วยคาถานี้

    @@ สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ อานุภาเวนะ ๆ ๆ จงอยู่ใต้พุทธบารมี @@

    ว่าดังนี้แล้วนำติดตัวไปลูกอมจะมีอิทธิฤทธิ์แรงและเห็นผลเร็วครับ แต่จงเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ทิมและ ลูกอมประคำผงพราย-ประคำมหาภูติ ที่เรามีอยู่ อย่าลังเลสงสัย อย่าไขว้เขวแล้วจะบังเกิดผลอย่างแน่นอน ถ้าท่านอยากจะขอพรอะไรควรขอ "หลังเที่ยงคืน"


    จากที่ผมประสพมา ท่านใดที่มีของหลวงปู่ทิมบูชาแล้ว ก็ยังไม่พอที่จะหาเก็บตลอดไปถึงแม้ว่าราคาบูชาจะสูงขึ้นเท่าไรก็ตาม ทำให้เห็นว่าบูชาแล้ว ล่ำรวย ไม่หยุดเช่นกัน หาบูชากันนะครับ ชิ้นเดียวก็พอ


    หากันเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องของผมขอให้เป็นของแท้ๆก็พอก่อนที่ราคาบูชาจะทะลุ ไปมากกว่านี้

    แนะนำครับ

    การเช่าหาควรจะศึกษาเสียก่อน ไปหาดูของแท้ก่อนที่ร้านมีมาตฐาน ผงพรายหลวงปู่ดูไม่ยากครับดูง่ายมากๆ
    "คำเตือน" อย่าโลภเห็นของถูกแล้วใจกลับเสียด่ายเงิน ของดีของถูกไม่มีหรอกครับ สู้เถอะครับของแท้ไม่แพง

    หลวงปู่ทิม เราท่านย่อมทราบกันดีว่าท่าน สำเร็จอภิญญา ชั้นสูง พระที่สำเร็จอภิญญาชั้นสูงนั้นการที่บรรจุพุทธคุณย่อมเป็นไปตามที่ท่านอธิฐานจิตใว้

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ

    ตามคำร้องขอมาครับเปิดบูชา ครับ

    ลูกอมผงพรายกุมาร วัดละหารไร่ มาตราฐานการเล่นหา (มาแรงสุดๆนาทีนี้)

    ช่วงนี้ไม่มีอะไรแรงเกินจ้า


    ลูกที่ 1

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้มาตราฐานสากล

    [​IMG]

    ลูกอมผงพรายกุมารบรอนซ์ฝุ่น วัดละหารไร่ ปี 2517

    หมดแล้วครับต้องรออีก 10 วันครับ

    ลูกอมผงพุทธคุณ (ผงพราย) ออกวัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปลุกเสก

    โดยมีเกจิอาจารย์อีกหลายคณาจารย์ปลุกเสกแบบหมู่และเสกเดียวปี 2513 จนเกิดอัศจรรย์ขี้น และ ประการณ์มากมาย

    หลวงปู่ทิมท่านได้บอกว่า "ทำให้ดีแล้ว" ท่านสมามรถใช้แทนลูกอมราคาแพงได้ครับ

    นานๆมาที่ครับมีอยู่ 2 ลูกเท่านั้นราคาเบาๆแท้สบายใจ

    ลูกที่ ๑.พร้อมบัตรรับรองพระแท้
    [​IMG]


    ลูกที่ ๒.พร้อมบัตรรับรองพระแท้

    [​IMG]

    เครื่องราง พร้อมบัตรรับรอง ถ้าไม่แท้ดูง่ายส่วนมากจะไม่ออกบัตรกันครับ
    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ
    พลังชาตรี 13

    ลูกอมผงพรายไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์
    พระแท้คือแท้ไปที่ใหนๆก็แท้ไม่กลัวการรับประกัน



    บารมีของหลวงปู่ทิม

    คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ
    พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518

    จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

    บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

    มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

    ยิงไม่ถูก

    มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

    ยิงไม่เข้า

    มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

    น้ำมนต์เดือด

    เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

    แคล้วคลาด

    นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

    ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต

    เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

    เสกตะกรุดใต้น้ำ

    คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

    เสกตะกรุดลอย

    ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

    อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม

    แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยปิดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

    หลวงปู่ทิมเป็นพระที่สร้างของยาก

    มีผู้ไปขอสร้างของเสมอ แต่ถูกปฏิเสธไปเกือบทุกราย ท่านบอกว่าท่านไม่เก่ง แต่นับเป็นการประหลาดมากเมื่อครั้งที่คุณชินพร สุขสถิตย์ บรรณาธิการหนังสืออภินิหารและพระเครื่องไปกราบนมัสการและขออนุญาตท่านสร้างพระเครื่องเพื่อหารายได้สร้างศาลาการเปรียญท่านอนุญาตให้โดยดี ทั้งๆ ที่ตัวผู้ขอสร้างเองยังหนักใจเรื่องทุนที่จะนำมาลงทุนสร้างซึ่งต้องใช้เงินหลายแสนเพราะมีการหล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ พราะสังกัจจัยและพระปิดตาถึง 4 รายการด้วยกัน แต่หลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า "ทำไปเถิดและจะสำเร็จเอง" ถึงปรากฏเป็นเรื่องจริงขึ้น บรรดาทุนรอนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะต้องจ่ายให้ช่างหล่อกันก็มีลู่ทางและได้มาอย่างไม่น่าเชื่อในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ หลวงปู่ทิมท่านพูดว่า "เป็นการสร้างของลูกศิษย์แท้ๆ และเงินทองจะไหลมาเทมา" หลวงปู่ทิมจึงอนุญาตให้คุณชินพรและคุณอารมย์ ทับสุวรรณ ครอบครูเป็นศิษย์ของท่านได้ทั้งๆ การจะครอบครูเป็นศิษย์โดยตรงของหลวงปู่ทิมนั้นนับว่ายากมาก ศิษย์ที่จะได้รับครอบครูต้องปรนนิบัติรับใช้เป็นเวลาหลายๆ ปีจึงจะครอบครูให้


    เรื่องจากคุณธงชัย อุดมความสุข

    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    นับเป็นยอดตะกรุดมหานิทรา ยิงไม่ออก ถ้านำไปแขวนไว้ที่เสาหมอจะสะกดคนในบ้านให้หลับไหลหมด ขึ้นหยิบทรัพย์สินได้และดูเหมือนจะประสบกับโยมวัดผู้หนึ่ง เสียของเกือบหมดบ้านเพราะนอนไมรู้สึกตัวเลย เนื่องจากเอาตะกรุด 3 กษัตริย์ไปแขนไว้ที่เสาหมอกลางบ้าน หลวงปู่ทิมทราบเรื่องจึงไม่คิดจะทำอีก

    อาของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่านางเอี้ยน เกสารัตน์ เสมียนประจำสำนักงานสหกรณ์ระยองไปขอตะกรุด 3 กษัตริย์จากหลวงปู่ทิม พอได้มาก็เอากลัดไว้กับเสื้ออย่างมั่นคง พอลากลับหลวงปู่ทิมถามว่าตะกรุดยังอยู่ดีหรือ? นางเอี้ยนก็ตอบว่าอยู่ค่ะ หลวงปู่หัวเราะแบมือให้ดู ปรากฏว่าตะกรุดอยู่ในมือหลวงปู่ทิม นายเอี้ยนหันมาดูที่เสื้อไม่พบตะกรุดก็ตกใจ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าหลวงปู่ทิมทราบดีว่านางเอี้ยนไม่ค่อยเชื่อถือท่านเท่าใดนัก จึงลองให้ดู ตะกรุด 3 กษัตริย์ของท่านนี้เล่ากันว่าเอาปืนยิงใส่บ้านยังไม่ออกเลย ไปยิงลิงยิงค่างถ้าเอาตะกรุดไปด้วยก็จะทำให้ยิงไม่ออกเช่นกัน

    เรื่องจากคุณชินพร สุขสถิตย์

    ปลาของหลวงปู่ทิม

    ช่างมงคล นาคแทน ผู้รับเหมาสร้างโบสถ์และศาลาการเปรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งคุณมงคลได้มาที่วัดเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง หลวงปู่ได้เรียกเข้าไปหาและสั่งว่าได้ขอร้องไม่ให้ลูกน้องไปยุ่งเกี่ยวกับปลาในสระแล้วทำไมลูกน้องจึงเข้าไปยุ่งอีก ขอให้ช่วยไปตักเตือนสั่งสอนด้วย คุณมงคลได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะหลวงปู่ได้สั่งไว้หลายหนแล้วว่าให้กำชับคนงานอย่าให้ไปยุ่งกับปลาในสระน้ำ คุณมงคลจึงกลับไปที่พักคนงานและเรียกลูกน้องมาด่าทุกคน แล้วถามว่าใครไปจับปลาของหลวงปู่ ซึ่งทุกคนปฏิเสธ คุณมงคลจึงไปหาหลวงปู่อีกและออกรับแทนลูกน้องว่า ไมมีลูกน้องคนใดไปยุ่งเกี่ยวกับปลาของหลวงปู่เลย หลวงปู่ทิมจึงว่า "ไอ้คนดำมืดยังไง" คุณมงคลก็กลับไปใหม่ และไปเรียกนายดำซึ่งมีผิวกายดำมะเมื่อมอยู่คนเดียวมา และบอกว่า "หลวงปู่บอกว่าลื้อไปจับปลาของท่านมาจริงหรือเปล่า" นายดำได้ยินก็ตกใจพูดกับช่างมงคลว่า "ท่านรู้ได้อย่างไรก็ผมไปแอบจับตอนตี 1 แล้วนี่ครับ

    เกี่ยวกับปลานี้

    คุณเพรียรวิทย์ จารุสถิติศิษย์ก้นกุฏิของท่านเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อถึงวันดีคืนดี หลวงปู่จะเดินลุยน้ำลงไปในสระ คลี่ชายจีวรออก จับกางสองมือแล้วช้อนปลาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง มีปลาเข้ามาขังอยู่ที่ชายจีวรแน่นไปหมด คุณเพียรวิทย์บอกว่าหลวงปู่ใช้มนต์จินดามณีเรียกปลามาหา

    เรื่องจากคุณ พ.เด็กวัด..หลวงปู่ทิมของผม

    สมัยที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม ท่านกำหนดจิตยกมือพนมเหนืออก ข้อศอกคู้แนบติดกับลำตัวย่างเท้าก้าวเดินอยางช้าๆ กำหนดเดินไปข้างหน้าเก้าสิบเก้าก้าว และกันหลังกลับถอยไปอีกเก้าสิบเก้าก้าว บริเวณที่หลวงปู่ทิมเดินจงกรม บริเวณที่เดินจงกรมนี้ต้นหญ้าไม่กล้างอกขึ้นมา แต่แปลกที่สุด ไม่ว่าพวกมดหรือสัตว์สี่เท้าใดๆ ไม่กล้าเดินผ่านบริเวณนั้น จะต้องเดินอ้อมพ้นเขตบริเวณจงกรม

    คาถาของหลวงปู่ทิม

    "มะอะอุ ทุกขัง อนิจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ"
    หลวงปู่ทิมท่านว่าเป็นคาถาที่ดีและก็สั้น และพุทธคุณของคาถาบทนี้ก็สูงมากอยู่ที่คนปฏิบัติ ท่านยังกรุณาเล่าให้ฟังว่า มีใครคนหนึ่งที่อยู่ตลาดมาปรับทุกข์ให้ท่านฟังว่า ขายของก็ไม่ดีทะเลาะกับเมีอยู่ที่บ้านแทบทุกวัน ญาติพี่น้องต่างเกลียดชัง อยากจะขอคาถาให้เขารัก หลวงปู่จึงให้คาถาบทนี้ไป ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ชายผู้นั้นมีความสุขแล้ว จะไปไหนเมียก็ตามไปด้วย ญาติพี่น้องก็รักใครกันดี ผู้เขียนจึงมั่นใจว่าพุทธานุภาพในคาถาบทนี้จะประสบผลสำหรับผู้ที่ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอ ถ้าผู้ใดได้รับคาถานี้ไป ขอให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคุณหลวงปู่ทิมเป็นที่ตั้งทุกอย่างก็จะอำนวยโชคพอสมควรกับบุญกรรมของบุคคลนั้น

    พัดโบกหลวงปู่ทิม

    ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2517 ได้เกิดน้ำป่าไหลท่วมบริเวณวัด ขณะนั้นหลวงปู่ทิมนั่งฟังเสียงน้ำหลากอยู่หน้าห้องของท่านพลันลุกขึ้นเข้าห้องหยิบผ้ายันต์ผืนสี่เหลี่ยม ถือเดินออกไปยังหอฉันเก่า ซึ่งผู้เขียนเกรงว่าจะถูกน้ำพัดพาไปด้วย หลวงปู่ท่านยืนเสกผ้าผืนนั้นซักอึดใจหนึ่งท่านก็โยดผ้าผืนนั้นลงไปตามกระแสน้ำ ผ้าผืนนั้นก็ลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็วท่ามกล่างคนงานที่ได้ช่วยกันเก็บเครื่องครัวอยู่บนวัดโดยไม่ทราบว่าหลวงปู่ได้ทำอะไร สักครู่หนึ่งทุกคนต่างตะลึงได้เห็นผ้าผื้นนั้นไหลทวนน้ำขึ้นมาหาหลวงปู่โดยหอบเอาอะไรมาสิ่งหนึ่ง หลวง ปู่ได้หยิบผ้าผืนนั้น ปรากฏมีลูกไก่เล็กๆ สีขาวคู่หนึ่งอยู่ในอุ้งมือ ท่านเอามือลูบไล้ไปที่ลูกไก่สีขาวคู่นี้ด้วยความปราณีอย่างเมตตา


    .............................................................


    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของลูกอมผงพรายของหลวงปู่ทิมกันสักหน่อยนะครับ

    ได้มีเพื่อนๆหลายต่อหลายท่านได้โทรมาพูดคุยกับผมและขอความรู้ในเรื่องต่างที่เกี่ยวกับ "ลูกอมผงพราย" ว่าทำไมลูกอมผงพรายนั้นจึงมีหลายๆท่านได้นำเสนอในการบูชามากมายหลายราคามีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพันต้นๆและหลักหมื่นซึ่งทำให้การตัดสินใจที่จะบูชาไม่รู้จะบูชาแบบไหนกันดี

    อันนี้ผมขอแจงอธิบายดังนี้ครับ

    ลูกอมหลวงปู่ทิม (ผงพรายกุมาร) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าเป็นผงพรายที่มีพุทธคุณสูงที่สุดของเมื่องไทย มารตฐานในการเล่นหาจะมีไม่กี่นิดครับ บอร์นฝุ่น บอร์นน้ำมัน และลูกอมยุดแรกๆและต้องออกจากวัดระหารไร่เท่านั้นในปี 17/18 ครับ ค่านิยมที่ผมกล่าวถึงนี้จะเล่นหากันในราคาที่สูงครับ และเนื้อผงพรายนั้นนั้นจะเป็นชนิดเดียวกันกับขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ซึ่งมีค่านิยมสูงถึงหลักหลายๆแสนบาทในปัจจุบัน

    ส่วนลูกอมผงพรายอีกชนิดหนึ่งที่มีออกมามากๆในปัจจุบันนั้น ผู้ที่ให้บูชาอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอันนี้ผมมิทราบครับ โดยไม่ได้บอกที่มาว่าเป็นลูกอมหลวงปู่ทิมแบบใหน แบบมาตรฐานเล่นหา หรือ แบบลูกอมที่ออกมายุดหลังออกมาหลายๆวัดมากๆโดยที่ได้ทำเรื่องของผงพรายกุมารมาจากวัดหลวงปู่ทิมซึ่งทางมูลนิธิหลวงปู่ก็ได้จัดให้ไปทุกๆวัดที่มีความประสงค์ที่จะนำไปเป็นส่วนประสมการการทำลูกอมผงพรายของวัดนั้นๆ จากที่ผมทราบมานะครับจะจัดให้ไปประมาณตลับยาหม่องเท่านั้นครับ ทั้งทางแทบระยองและจังหวัดต่างๆทั่วประเทศและจะมีบางวัดนะครับที่ได้หลวงปู่ไปรวมในการปลุกเสกด้วย เมื่อทำพิธีปลุกเสกเสร็จแล้วก็เรียกกันว่า "ลูกอมผงพรายหลวงปู่ทิม"

    ดังนั้นจึงปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นของแท้ ผมก็ว่าแท้ครับ ไม่เคยว่าไม่แท้เลยสักครั้ง ผมจึงขอทำความเข้าใจว่า "คำว่ามาตรฐานในการเล่นหา" แตกต่างกันครับ

    จากเพื่อนๆสอบถามกันมาครับ

    จากเพื่อนๆหลายๆท่านได้สอบถามมาว่า ผมมีเก็บแบบที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกใหมในราคาเบาๆแต่ออกวัดอื่น

    ผมขอเสนอครับ ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    ค่านิยมยังไม่แรงครับที่มาชัดเจน อนาคตดีมากเป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือครับ


    โทรสอบถามราคาบูชาได้ครับ 0827893576

    ขอบคุณมากครับ


    จากเพื่อนๆหลายๆท่านได้สอบถามมาว่า

    ผมมีเก็บแบบที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกใหมในราคาเบาๆแต่ออกวัดอื่น


    ผมขอเสนอครับ ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    ค่านิยมยังไม่แรงครับที่มาชัดเจน อนาคตดีมากเป็นทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือครับ

    ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ 940 บาท

    ท่านใดต้องการเลี่ยมสั่งได้ครับเพิ่ม 80 บาท (ร้านเลี่ยมอยู่ไกล้ลบ้านจ้า)

    ลูกที่ 1. ปิดแล้วครับ

    [​IMG]

    ลูกที่ 2.

    [​IMG]

    ลูกที่ 3. ปิดแล้วครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ลูกที่ 5.

    [​IMG]

    ลูกที่ 6.

    [​IMG]

    ลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์หลวงปู่ทิมและหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก

    [​IMG]

    ลูกอม วัดโพธิ์ สัมพันธ์ นาเกลือ บางละมุง จ.ชลบุรี เนื้อผสมผงพรายกุมาร พิธีปลุกเสก โดยมี ลป.ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ,ลป.โตะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ลป.คร่ำ วัดวังหว้า, ลป.ม่น วัดเนินตามาก และยังมีพระเกจิอาจารย์อื่นๆอีกมากที่เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีนี้

    ราคาเบาๆสำหรับผู้ที่เคารพหลวงปู่ทิม ของแท้ๆที่ค่านิยมยังไม่แรงเพราะออกที่วัดอื่น มิใช่ออกที่วัดระหารไร่ ที่ผมเคยกล่าวไว้ครับว่า "มาตรฐานในการเล่นหา"

    ขอมอบให้บูชาแบ่งๆกันไว้บูชาครับ มีจำนวนไม่มาก

    ลูกอมผงพรายกุมาร ออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ หลวงปู่ทิม และหลวงปู่โต๊ะร่วมปลุกเสก ครับ




    (ping)(ping)(ping)(ping)(ping)(ping)(ping)(ping)
    พระแท้ราคาแท้ไว้ใจได้ในเรื่องพุทธคุณ พลังชาตรี 13
    <!-- google_ad_section_end -->


    ลูกอมผงพรายไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2013
  8. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๓.

    รูปถ่ายลงกระดาษสารพัดกัน รุ่นแรกปี ๒๕๑๗

    ขนาดบูชา 12 x 15 นิ้ว

    หลวงปู่ทิม ท่านเมตตาให้ยันต์ ที่ขึ้นต้นด้วย นะกัน โมกัน พุทกัน ธากัน กันนะ กันนา นะล้อม โมล้อม พระคาถา พระเจ้า ๑๖ พระองค์ และพระคาถาหัวใจต่างๆ อีกด้วย หลวงปู่ทิมได้เมตตาปลุกเสกไว้นานมาก ขนาดบูชา 12x15 นิ้ว ไว้บูชาที่ร้านค้าขายนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองในธุระกิจดีเยี่ยม ลมเพลมพัดและอาถรรท์ชั่วร้ายแก้เคล็ดต่างๆได้ดีเยี่ยม พุทธคุณก็ครบทุกด้าน ปกป้องคุ้มครองภัย ได้สารพัด นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว เหมือนชื่อที่เรียกว่า " สารพัดกัน "

    สำหรับศิษย์สายตรง ขนาด 12 x 15 นิ้ว

    ขนาดกระดาษสาระพัดกันขนาดเท่ากับ พ.ร.บ บูชากัน 7000 กว่าแล้วครับ

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  9. glock

    glock Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +36
    ขอราคา ไตรมาส และลูกอมครับ
     
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    พระกริ่งเก้าแก้ว วัดละหารไร่

    [​IMG]

    วันนี้ขอแนะนำพระกริ่งรุ่นแรก รุ่นเดียวของหลวงปู่แก้ว ทดแทนพระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม ที่ปัจจุบนค่าบูชาสูงลิบเป็นหลักล้านแล้วครับ พระกริ่งรุ่นนี้คือ พระกริ่งเก้าแก้ว

    เป็นพระเครื่องชุดสุดท้ายที่หลวงปู่แก้วปลุกเสกให้อย่างเต็มที่เป็นพิเศษนานถึง 56 วันอันเท่ากับกำลังพระพุทธคุณ. พระกริ่งเก้าแก้วถอดแบบจากพระกริ่งจีนเล็กอันเป็นแบบเดียวกับพระกริ่งจาตุรงคมุนีที่สร้างโดยเจ้าคุณศรี(สนธิ์)เมื่อปี 2490

    จัดสร้างโดยคุณชินพร สุขสถิตย์เมื่อ ปี 2527 เพื่อนำรายได้ไปต่อเติมอาคารสำนักงานมูลนิธิหลวงปู่ทิม.สร้างทั้งหมด 2507 องค์

    มูลเหตุที่ตั้งชื่อว่า พระกริ่งเก้าแก้ว เพราะกริ่งชุดนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในวันคล้ายวันมรณภาพครบ 9 ปีของหลวงปู่ทิม อิสริโกเป็นประการแรก.

    ประการที่สองได้นำวัตถุมงคล 9 ชนิดที่มีชื่อว่า แก้ว ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับหลวงปู่แก้วมาผสมรวมเป็นองค์พระกริ่งชุดนี้ขึ้น แก้วเป็นนามอันนับว่าเป็นมงคล เพราะเป็นธาตุที่แข็ง และ แสดวถึงความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง พ้นจากกิเลสตัณหาและมลทินทั้งสิ้น ทั้งปวงของพระอริยสงฆ์ ซึ่งเรียกว่า ใสประดุจแก้ว วัตถุมงคลที่มีชื่อว่าแก้วมาหลอมรวมเป็นพระกริ่งชุดนี้ขึ้นคือ

    1.เศษโลหะจากองค์พระแก้วมรกต ซึ่งได้จากการซ่อมบุษบกโดยนายช่างจากกรมศิลปากรมอบให้มาเล็กน้อย
    2.โลหะจากยอดปราสาทวัดพระแก้ว
    3.ตะกรุดวัดพระแก้ว จากหอศาสตราคม เป็นตะกรุดโบราณที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแม่ทัพนายกองเวลาออกศึก
    4.อธิษฐานแล้วหลอมเหรียญพระแก้วมรกตรุ่นฉลองพระนคร 150 ปีลงไป 9 เหรียญ และรุ่นฉลอง 200 ปีอีก 9 เหรียญ
    5.แผ่นยันต์ผ้า และเหรียญหลวงปู่แก้ว(พระเทพสาครมุนี) วัดช่องลม สมุทรสาคร
    6.เหรียญอาจารย์แก้ว คำวิทูร ฆราวาสผู้เรืองนาม
    7.พระปิดตาเนื้อตะกั่วค่อนข้างชำรุด ของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี
    8.น้ำในสระแก้ว จ.นครราชสีมา ใช้สำหรับพระกริ่งในระหว่างหล่อเป็นองค์พระ
    9.วัตถุมงคลของหลวงปู่แก้ว เกสาโร ซึ่งได้สร้างไว้ในรุ่นก่อนๆพร้อมทั้งแผ่นพระยันต์ 108 และนะ 14 ซึ่งหลวงปู่แก้วปลุกเสกให้

    นอกจากนี้ยังมีชนวนพระกริ่งชินบัญชร พระชัยฟ้าลั่น พระกริ่งปรโมของหลวงพ่อเริ่ม ตลอดจนเนื้อพระกริ่งปรโมในส่วนที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งปรโมและพระชัยบูชาประจำตระกูล

    พระกริ่งเก้าแก้ว สร้างทั้งหมด 3 เนื้อ ดังนี้
    1. เนื้อสัมฤทธิ์เดช จำนวน 1,978 องค์ เป็นเนื้อผสมของทองเหลืองและดีบุก ขันสัมฤทธิ์เก่าๆ หลวงปู่แก้ว ท่านเน้นให้เอาดีบุกมาผสมด้วย เพื่อเป็นเคล็ดว่า ดีแล้วบุก เนื้อออกคราบเก่าแบบพระสมัยโบราณ ตอกโค๊ต อุ หงายขึ้น 1 ตัว ด้านหลังขององค์พระ
    2. เนื้อนวโลหะ จำนวน 499 องค์ เนื้อนี้เหลือจากการสร้างพระกริ่งปรโม ตอกโค๊ต อุ หงายขึ้น 1 ตัว บริเวณฐานด้านหลังขององค์พระ
    3. เนื้อเงินสัมฤทธิผล จำนวน 30 องค์ เป็นเนื้อสัมฤทธิ์เดช 15 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับเนื้อนวโลหะ 15 เปอร์เซ็นต์ และอีก 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นเนื้อเงินเก่ามีเงินพดด้วง เหรียญเงินรัชกาลที่ 5-6-7 และเงินกลมตรายันต์.

    พระกริ่งอุดผง มีทั้ง 3 เนื้อ คือ
    1. เนื้อสัมฤทธิ์อุดผง หรือ พระกริ่งกวนอู จำนวน 200 องค์ ตอกโค๊ต ปิ ด้านหลังขององค์พระ
    2. พระกริ่งเก้าแก้วเนื้อสัมฤทธิ์อีกประมาณ 10 องค์ที่อุดแบบเดียวกับพระกริ่งนวโลหะ,เงิน อุดผง+ทับทิม+พระธาตุครับ ตอก 2 โค๊ตเหมือนกัน
    3. เนื้อนวโลหะอุดผง+ทับทิมและพระธาตุ ประมาณ 10 องค์ ตอกโค๊ต อุ หงายขึ้น 2 ตัว และ ตอกโค๊ต ปิ ด้านหลังขององค์พระ บริเวณฐานด้านหลังขององค์พระ
    4. เนื้อเงินอุดผง+ทับทิมและพระธาตุ ประมาณ 10 องค์ ตอกโค๊ต อุ หงายขึ้น 2 ตัว บริเวณฐานด้านหลังขององค์พระ

    ปลุกเสกโดย
    1.หลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่ ตั้งแต่ 16 ต.ค. 2527 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ 9 ปีเต็มของหลวงปู่ทิม โดยท่านจะลุกขึ้นนั่งสมาธิแล้วปลุกเสกพระกริ่ง ซึ่งบรรจุไว้ในหีบเหล็กทุกคืนมิได้ขาด ตั้งแต่ 2 นาฬิกา รวม 56 วัน เท่ากำลังพระพุทธคุณ ก่อนที่ผู้สร้าง (คุณชินพร) จะรับพระกริ่งกลับ ได้เรียนถามหลวงปู่แก้วว่า พระกริ่งนี้ดีทางไหน หลวงปู่แก้วท่านตอบว่า ดีทุกทาง แล้วแต่จะอธิษฐานเอา และ ท่านบอกว่า ต่อจากนี้ไปท่านจะไม่ปลุกเสกพระเครื่องอะไรอีกแล้ว พระกริ่งชุดนี้ จึงเป็นพระกริ่งรุ่นแรก และ รุ่นสุดท้ายของท่าน
    2.หลวงพ่อเริ่ม ปรโม (พระครูวิริยาภรณ์) เจ้าคณะอำเภอศรีราชา เมื่อนำหีบพระกริ่งมา เปิดต่อหน้าหลวงพ่อเริ่มแล้วท่านได้เพ่งดูสักอึดใจ. หลวงพ่อเริ่มท่านก็พูดว่า “หลวงปู่แก้วท่านทำไว้เต็มที่สุดยอดแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องปลุกเสกอีกเพราะของท่านดีอยู่แล้ว ฉันจะสวดสรรเสริญพระพุทธคุณให้จบหนึ่งแล้วกัน แล้วจะอธิษฐานทางโชคลาภให้อีกครั้ง” เมื่อกล่าวเสร็จหลวงพ่อเริ่มท่านก็เชิญครูบาอาจารย์ แล้วสวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณดังๆขึ้นจบหนึ่ง พร้อมสวดคาถาพระฉิมพลีอันเป็นคาถาที่เจริญเกี่ยวกับโชคลาภนานประมาณ 20 นาทีเสร็จแล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้อีกครั้งหนึ่ง.

    สำหรับพระกริ่งเนื้อสัมฤทธิ์อุดผงนั้น ได้อุดด้วยผงของหลวงปู่ทิมที่เก็บรักษาโดยพระเย็น คำมี ซึ่งเคยช่วยทำผงของหลวงปู่ทิม ผงมหาจินดามณีของหลวงปู่แก้ว และลูกอมผงพรายกุมารที่แตกชำรุดผสมลงไปอีก จากนั้นนำพระไปเข้าพิธีปลุกเสกครั้งสำคัญๆหลายครั้งทั้งของวัดสุทัศน์และวัดบวรนิเวศฯ จากนั้นนำพระกริ่งไปแช่ในตุ่มน้ำมนต์ที่ใช้ปักเทียนชัย ในพิธีเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรมหาโสฬส เมื่อ 5 พ.ค. 2533 และแช่ทิ้งไว้ปีเศษ เมื่อขึ้นจากตุ่มน้ำมนต์ ก็มีสนิมสีแดงจับหนาสวยงามมาก ดังนั้นจึงเรียกว่า พระกริ่งเก้าแก้ว”กวนอู” แล้วก็มีการนำไปปลุกเสกเดี่ยวหลายครั้งหลายหน นำไปให้หลวงพ่อเกษม เขมโก โดยฝากไปกับบรรดาพ่อค้าหมูสะพานสองลาดพร้าว หลังจากปลุกเสกเสร็จ กลับลืมกล่องพระไว้ในกุฏิหลวงพ่อเกษม ซึ่งท่านก็ได้มนต์ให้ทุกคืนทั้ง 3 คืน จนมารับพระกลับไป และครั้งสุดท้ายให้หลวงปู่พรหมา เขมจาโร (หรือ สำเร็จแก้ว) ปลุกเสกพร้อมกับพระเศรษฐีนวโกฏิ และ ล๊อกเก็ตรุ่นแรก(ฝังเหรียญบาท) เมื่อ 29 พ.ค. 2536

    ขอขอบคุณ คุณชินพร สุขสถิตย์ ผู้อนุเคราะห์ข้อมูลครับ

    พระกริ่งเก้าแก้ว หลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้

    [​IMG]

    ............................................

    องค์ที่ 2.

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  11. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๔.

    พระขุนแผนไข่ผ่า หลวงปู่ทิมปลุกเสก หลวงปู่กล่าวว่า ใส่ผงพรายเยอะมาก

    หลวงพ่อนิด วัดทับมา ท่านเป็นศิษย์น้องของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ครับ (พระอุปัชฌาย์เดียวกัน) ซึ่งท่านก็เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับความเคารพจากคนในพื้นที่

    พระขุนแผนไข่ผ่าพิมพ์นี้คุณชินพร สุขสถิตย์ได้นำแม่พิมพ์เดิมที่ใช้สร้างพระขุนแผนไข่ผ่าเนื้อดำ มาถวายเป็นแม่พิมพ์ให้กับหลวงพ่อนิด และได้นำผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม มาผสมเป็นมวลสารหลักผสมผสานกับผงวิเศษต่าง ๆ ซึ่งสร้างเพียง 2,000 องค์และมีเนื้อขาวเท่านั้น และคุณชินพรได้ไปขอผงพรายกุมารมาจากหลวงปู่ทิม และเอามาสร้างพระขุนแผนพรายกุมารขึ้น ซึ่งหลวงพ่อนิด ได้นำพระชุดนี้มาแจกในงานแซยิด 84 ปีของท่านในปี 2517

    คนพื้นที่เล่าเรื่องพระชุดนี้ให้ฟังว่า เมื่อตอนที่กดพิมพ์พระครบ 2,000 องค์แล้ว คุณชินพรตั้งใจจะนำพระชุดนี้ไปให้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ (เอาฤกษ์ เอาชัย) พอไปกราบเรียนหลวงปู่ทิม ท่านก็ว่า ท่านนิดก็ทำได้เช่นกัน แต่พอคุณชินพรเรียนว่ามีผงพรายกุมารของท่านเป็นมวลสารหลัก หลวงปู่ทิมท่านจึงยอมปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ให้ และหลวงปู่ทิมบอกว่า ใส่ผงเยอะมาก ไม่ต้องมากขนาดนี้ก็ได้
    หลวงปู่ทิมท่านปลุกเสกให้นานถึง 7 วัน หลวงปู่ทิมปลุกเสกมาเต็มที่แล้ว จึงบอกให้เอาไปให้หลวงพ่อนิดปลุกเสกต่ออีก 1 พรรษา

    หลังจากที่หลวงปู่ทิม ปลุกเสกเป็นปฐมฤกษ์ให้เสร็จแล้ว คุณชินพร ได้นำพระชุดนี้ไปถวายให้ หลวงพ่อนิด ที่วัดทับมา พอหลวงพ่อนิดได้ท่านหยิบพระขึ้นมาหนึ่งองค์ แล้วพูดว่า ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ครบหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไรจะเพิ่มโชคลาภให้ แต่ท่านก็ได้นำพระชุดนี้มาปลุกเสกต่ออีก 1 พรรษาเต็มๆ

    สรุปแล้วพระชุดนี้น่าจะถือได้ว่าเป็นขุนแผนของหลวงปู่ทิมก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะใส่ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมแบบเข้มข้นแล้ว หลวงปู่ทิมท่านยังได้ปลุกเสกให้อีก 7 วันจนเสร็จสมบูรณ์ แต่พระชุดนี้ไปออกในนามหลวงพ่อนิด วัดทับมา และหลวงพ่อนิดท่านก็ปลุกเสกเพิ่มอีก 1 พรรษาก่อนนำออกแจกจ่าย แบบนี้แล้วพระชุดนี้ย่อมไม่มีอะไรต่างจากขุนแผนพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม

    พระขุนแผนผงพรายกุมาร พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก บล็อก 1 บล็อก 2 ราคาหลักแสนหลักล้านไปนานแล้ว หันมาใช้ขุนแผนไข่ผ่าหลวงพ่อนิด พิมพ์นี้ก็เหมือนกันครับ หลวงปู่ทิมเสก มีผงพรายกุมารเพียบอีกด้วย แถมราคายังถูกกว่ากันเยอะเลย เรื่องพุทธคุณการันตีได้ เมตตามหานิยม โชคลาภ สุดยอดจริงๆ

    เมื่อราคาของพระขุนแผนที่ออกในนามวัดละหารไร่สูงสุดเอื้อม ลองหันมาบูชาพระขุนแผนไข่ผ่าหลวงพ่อนิด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้เมตตาปลุกเสกไว้ให้ดูครับ

    -----องค์นี้สวยมากครับ จมูกโด่ง หูตากระพริบ ยันต์เต็ม ชั่วโมงนี้หาสภาพสวยๆ อย่างนี้หายากสุดๆครับ ท่านใดชอบพระสวยไม่ควรพลาด องค์เดียวจบครับองค์นี้ น่าบูชามากครับ


    ขุนแผนหลวงปู่ทิมปลุกเสกเนื้อผงพรายกุมารออกวัดทับมา

    องค์นี้มวลสารจะเห็นผงพรายกระจายทั่วองค์ครับ

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองแท้สากล

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  12. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๕.

    กริ่งชินบัญชรมหาปราบ เนื้อนวโลหะ ปี 46

    พิมพ์วังสามพญา(แบบฉีด) ก้นอุดผงพรายกุมาร ใต้ฐานเชื่อมปิดด้วยแผ่นยันต์ครู "ยันต์จินดามณี" ยันต์ประจำตัวหลวงปู่ทิม สภาพสวยเดิมๆ ตอก โค๊ด พระกริ่งที่สร้างโดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม พิธีเดียวกับพระกริ่งชินบัญชรมหาปราบ
    จัดสร้างน้อยมากน่าจะมีไม่เกิน 800 องค์


    [​IMG]

    ก้นอุดผงพรายกุมาร ใต้ฐานเชื่อมปิดด้วยแผ่น "ยันต์จินดามณี" ยันต์ประจำตัวหลวงปู่ทิม

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  13. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๖...

    พระปิดตาน้ำท่วม มรดกที่หลวงปู่ทิมทำไว้ให้แก่สานุศิษย์

    พระที่หลวงปู่ทิมตั้งใจสุดๆ ตามที่ทางคุณเพียรวิทย์เล่าให้ฟัง หลวงปูทิมท่านเอา ผงพรายกุมารออกมาจากคำภีร์ ที่ท่านนำแผนผงพรายสอดไว้ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนกระโหลกที่ยังไม่ได้ตำหรือเปล่า หลวงปู่ทิมที่ทำการพี มานิดแล้วใส่ลงใน ตะกั่ว มาดูครับเรื่องเมตตาและพรายคุ้มครองสุดยอดครับ พระองค์ที่แจกครับว่า พระชุดนี้หลวงปู่เป็นผู้สร้างเอง นั่งควบคุมการเทเอง และแถมยังเป็นผู้ดำริคิดสร้างเอง วัตถุมงคลชุดนี้คือ “พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วม”
    กรรมวิธีการสร้างและสลับซับซ้อนอย่างไร ทำไมจึงเรียกว่า “รุ่นน้ำท่วม” ก็ขอให้ท่านลองติดตามดูนะครับ

    ย้อนหลังไปในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาท่วมอย่างฉับพลันแถว อ.บ้านค่าย อ.แกลง และทีอื่นๆ อีกมาก วัดละหารไร่ ตอนนั้นน้ำท่วมสูงถึงประมาณ ๑ คืบจะถึงพื้นกุฏิของวัด

    หลวงปู่ทิม ท่านก็ปรารภกับผมว่าอยากจะทำพระสักรุ่นหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกตอนน้ำท่วม ผมได้ยินเช่นนั้นจึงพูดสนับสนุนทันที เพราะทราบอยู่ในใจว่า หลวงปู่เป็นผู้ที่สร้างของยาก

    เมื่อท่านเอ่ยเช่นนี้แสดงว่าพวกเราจะได้ของดีจากท่านไว้ติดตัวอย่างแน่นอน ท่านใช้ผมไปตามหลวงลุงรอด ซึ่งมีห้องอยู่ตรงข้ามห้องของหลวงปู่ เมื่อมาถึงหลวงปู่ได้ถามหลวงลุงรอดว่า ตะกั่วที่นี่ให้เก็บไว้ ให้เอาออกมาให้หมดจะทำพระไว้แจก เมื่อท่านพูดเสร็จหลวงปู่ก็ลุกไปที่ห้องท่านและเรียกผมเข้าไปด้วย หลวงปู่ใช้ให้ผมมุดเข้าไปใต้เตียงนอนตรงบริเวณหัวเตียงด้านล่างจะมีถังใบหนึ่งภายในมี ตะกั่วเป็นก้อนๆ บรรจุอยู่เต็มไปหมด ท่านให้ผมลากออกมาผมสังเกตว่า นอกจาก ตะกั่วแล้วยังมีตะกรุดเก่าๆ ที่เป็นเนื้อชินตะกั่วและตะกั่วอวนเป็นเม็ดๆ อยู่ในนั้นอีกด้วย ผมยังหยิบเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกดอกหนึ่งและเม็ดตะกั่วอีก ๕-๖ เม็ด สำหรับแผ่นตะกั่วที่อยู่ในห้องหลวงลุงนั้น เป็นแผ่นตะกั่วยาวๆ นิ่มอ่อน หลวงปู่ได้ใช้ให้ผมตีตะกั่วแผ่ออกเป็นแผ่น เมื่อตีจนได้ที่แล้วท่าน ก็ใช้เหล็กจารอักขระลงไปทีละแผ่น หลังจากนั้นท่านก็ให้ผมพับแผ่นตะกั่วและใช้ฆ้อนตีกลับไปกลับมาและแผ่ออกมาใหม่ และจึงใช้เหล็กจารอักขระลงไปอีก และก็ทุบกลับไปกลับมาอีก ทำเช่นนี้ตั้งหลายครั้งจนผมสงสัยจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่เห็นสนุกเลย ท่านตอบว่า คนโบราณเรียกว่า ลงถมต้องลงให้ครบ ๙ ครั้งถ้าได้ ๑๐๘ ครั้งยิ่งดีใหญ่

    พวกเราพอได้ยินเช่นนั้นจึงได้ช่วยหลวงปู่ทำเพื่อหวังขอของดีจากหลวงปู่ในครั้งนี้
    กว่าจะลงถมเสร็จก็ใช้เวลากว่า ๓ วัน เมื่อหลวงปู่เห็นว่าดีแล้วท่านก็รวบรวมแผ่นตะกั่วทั้งหมดรวมทั้งตะกั่วเถื่อนที่อยู่ในห้องของท่าน ผมสังเกตว่าตะกั่วทุกก้อนที่อยู่ในห้องของท่านจะมีจารอักขระทุกก้อน แสดงว่าท่านได้เตรียมการมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสและฤกษ์ดีไม่ได้ จากนั้นท่านจึงนำตะกั่วทั้งหมดทำพิธีปลุกเสกในห้องของท่าน ๗ วัน จนถึงวันเสาร์ หลวงปู่ก็เรียกผม เณรฉ่ำ เณรลาว และช่างมงคล หลวงลุงรอด ให้มาหาและบอกว่า วันนี้ฤกษ์ดี

    เทวดารักษา จะได้ลงมือทำพระกันเสียที เมื่อท่านพูดเสร็จท่านหยิบ ขันสำริด ที่ก้นขันได้จารอักขระเต็มไปหมด ต่อจากนั้นจึงให้หลวงลุงเอาพิมพ์พระเครื่องต่างๆ มาให้ท่านดู ท่านได้เลือกดูสักพักจึงหยิบเอาพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ที่ทางคุณชินพร สุขสถิตย์ ได้ถวายคืนให้วัดนำมาพิจารณาต่อ ต่อจากนั้นหลวงปู่ก็หยิบเหล็กจารจารลงไปที่พิมพ์ปิดตาและพิมพ์เจริญพร พนมมืออธิษฐานจิต ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ดูการกระทำของท่านอยู่เงียบๆ หลังจากนั้น
    จึงตั้งไปเพื่อที่จะหลอมตะกั่ว

    แต่ก่อนที่จะทำพิธีหลอมตะกั่วนี้

    หลวงปู่ได้ลุกขึ้นไปหยิบคัมภีร์ใบลานเก่าค่อยๆ เปิดทีละแผ่น หยิบวัสดุชิ้นสีขาวออกมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเราที่อยู่ในพิธีนี้รู้ทันทีว่า “วัสดุสีขาวที่หลวงปู่หยิบออกมาคือหัวกะโหลกเด็กที่หลวงปู่นำมาทำผงพรายกุมาร ทุกครั้งที่จะมีการสร้างพระผง ท่านยกมือบริกรรมคาถาอยู่ชั่วครู่ใหญ่ จึงค่อยๆ บิหัวกะโหลกพรายกุมาร แล้วจึงใช้ค้อนทุบลงไปในแผ่นตะกั่ว เณรฉ่ำเห็นเช่นนั้นจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ทุบหัวกะโหลกหรือ? ท่านก็เงื้อค้อนตีเณรบอกว่า กำลังตีตะกั่วอยู่ไม่เห็นหรือไง? จากนั้นท่านจึงค่อยๆ บรรจงเอาแผ่นตะกั่วชิ้นนี้วางลงไปในขันสำริดและติดไฟสุมอ่อนๆ จนแผ่นตะกั่วละลายลงไปทีละน้อย

    ในการเทครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เท่าไหร่นัก จึงเทออกมาสวยบ้างไม่สวยบ้าง หล่อติดบ้าง ไม่ติดบ้าง เนื่องจากทนไอพิษจากตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่จึงให้ทุกคนที่อยู่ในพิธีใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก เหลือไว้แต่ตาคอยดูเพื่อป้องกันไอตะกั่วระเหยออกมาอย่างรุนแรง

    แต่นั่นแหละครับ ถึงแม้จะป้องกันแค่ไหนเณรฉ่ำเข้าไปนั่งเทได้สักพักหนึ่งยังต้องออกจากพิธีเพราะทนความร้อนและพิษไอตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่เห็นเช่นนั้นจึงให้ทุกคนค่อยๆ ถอยห่างออกไป ท่านค่อยๆ ใช้ช้อนคนตะกั่วในขันสัมริดและหยิบพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ซึ่งช่างมงคลได้ใช้คีมคีบไว้กันไม่ให้ร้อนมือพอเทใส่เบ้าเสร็จท่านจึงรีบนำมาแช่น้ำมนต์ที่ท่านวางใส่ขันเตรียมไว้ข้างๆ

    พระชุดนี้เนื่องจากมีแม่พิมพ์ตัวเดียวจึงทำให้เทช้ามาก หลวงปู่กลัวว่าจะเสียฤกษ์จึงให้ช่างมงคลและหลวงลุงรอดทำการถอดพิมพ์ออกมาหลายอันเพื่อที่จะได้ช่วยกันเทให้เสร็จโดยเร็ว กว่าพวกเราจะช่วยหลวงปู่ทำพระชุดนี้เสร็จก็ใช้เวลาเกือบ ๑ เดือน เนื่องจากตะกั่วที่หลอมในครั้งนี้บางอันละลายเร็ว แต่ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนจะละลายช้ามาก เพราะมีขี้ตะกั่วลอยอยู่ที่ผิวเต็มไปหมดจึงลำบากมากในการเทเมื่อเทเสร็จแล้วได้พระประมาณ ๑ บาตร หลวงปู่จึงใช้ในผม เณรฉ่ำ เณรลาว ให้จารหลังปิดตาด้วยคาถาว่า
    “อิ สวา สุ” จารได้ประมาณไม่ถึงร้อยองค์ทุกคนก็เลิกจารเนื่องจากเหล็กจารนั้นติดตะกั่วเวลาจารต้องลงแรงมาก หลวงลุงรอดจึงเดินเข้าไปในห้องหลวงปู่หยิบโค้ดต่างๆ ที่คุณชินพร สุขสถิตย์ ทำถวายวัดเพื่อนำมาตอกปลัดขิกของวัดให้หลวงปู่พิจารณาดูว่าจะใช้ได้หรือไม่ เมื่อท่านดูแล้วท่านก็หยิบโค้ดตัว “เฑาะ” และโค้ด “มะอะอุ” ออกมา บอกให้เอาโค้ดตัว “เฑาะ” นี้ตอกหลังพระปิดตา โค้ด “มะอะอุ” ตอกหลังรูปเหมือนเจริญพร

    วันแรกที่ทำพิธีเทพระชุดนี้ ท้องฟ้าที่สว่างไสวกลับมือครึ้มลมกระโชกแรงจนทุกคนกลัวกุฏิหลวงปู่และหอฉันหลังเก่าจะพังจมลงไปในน้ำ เมฆฝนคลุมไปทั่วราวกับว่าฝนจะตกหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกคนที่อยู่ในวัด ถ้าฝนตกลงมาเที่ยวนี้น้ำป่าจะไหลทะลักท่วมวัดพัดกุฏิพังเป็นแน่

    หลวงปู่เห็นเรามีความกังวลเช่นนี้ท่านก็เอ่ยว่า ไม่ต้องกลัวๆ เขารับรู้แล้วว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน เมื่อทำการหลอมพระเสร็จเฉพาะวันนั้น ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างไสวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลวงปู่ได้หยิบพระชุดนี้ขึ้นมาดูทีละองค์และท่าน
    สายสิญจน์ที่ล้อมรอบวัตถุมงคลในห้องไว้ในมือท่าน ท่านจะนั่งปลุกเสกและลงของในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นวันออกพรรษาหรือเข้าพรรษา ท่านทำทุกคนจนถึง ๖ โมงเช้าจึงจะลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นท่านจะกราบลงที่หมอน ๓ ครั้งและก็ลุกออกไปนอกห้องเดินดูอะไรต่ออะไรไปเรื่อยๆ จนถึง ๘ โมงเช้าจึงจะถึงเวลาฉันเช้า ปกติหลวงปู่จะฉันเช้าเพียงมื้อเดียว อาหารที่ฉันจะเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อ จะมีผักถั่วฝักยาวเป็นพื้น ซึ่งท่านจะฉันเช่นนี้เป็นประจำจนชั่วชีวิตของท่าน

    พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกอยู่ทุกคืนเป็นเวลานาน จนพระเครื่องที่มีอยู่ในบาตรเต้นระรัวกระทบกันเสมือนคั่วข้างตอกแตก มีบางองค์กระเด็นออกมานอกบาตรก็มี ผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอหลวงปู่เก็บไว้ส่วนตัวจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็มอบให้ หลวงปู่ได้ทำการแจกพระชุดนี้ให้แก่บรรดาผู้ที่นับถือท่านนำไปใช้และที่ไปกราบท่านที่วัด ท่านจะพูดเสมอว่า
    เก็บไว้ให้ดีของนี่รักษาตัวได้ และยังทำยากอีกด้วย พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพร ใครมาหาท่านท่านจะใช้ผมไปหยิบในบาตรและนำมาใส่พานเล็กๆ วางไว้หน้าท่าน ท่านจะแจกไปเรื่อยๆ จนใครๆ เรียกพระชุดนี้ว่า รุ่น “แจกทาน”
    ซึ่งก็ไม่ผิดกติกาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดจะเรียกรุ่นนี้ว่า “รุ่นน้ำท่วม”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรนี้สร้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์อันดีของหลวงปู่เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่ยากจน ถ้าท่านเจอและดูเป็นก็ให้เก็บไว้ใช้เถิด ผมมั่นใจว่าพระชุดนี้ต้องยอดเยี่ยมไร้เทียมทานจริงๆ มิฉะนั้นผมคงไม่เลือกแขวนและใช้ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้หรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีพระเครื่องชุดอื่นของหลวงปู่ทิมนะครับ ตอนนี้ยังเหลืออยู่หลายองค์ทีเดียวแต่ที่ผมเลือกรุ่นนี้เพราะผมได้ยินหลวงปู่กล่าวว่า “พระรุ่นนี้นี่สร้างขึ้นมายาก หาฤกษ์มานาน ใครใช้จะรู้เอง แต่นี่รับรองใครมีไม่รู้จักอด มีเงินมีทองเหมือนกับน้ำที่ไหลไปที่ใดจะทำให้บ้านเรือนที่นั่นเกิดความสมบูรณ์”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรของหลวงปู่นี้ จัดเป็นพระชุดหนึ่งที่ท่านทำกับมือ เวลาเช่าหา ขอให้สังเกตุโค้ดที่ตอกหลังองค์พระเป็นสำคัญ ถ้าท่านจำโค้ดแม่นท่านอาจเช่าหากันในราคาไม่แพงก็ได้ เพราะเวลานี้คนที่ดูพระชุดนี้เป็นยังมีอยู่ไม่กี่คน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าหลวงปู่เลยกลับตั้งเป็นผู้รู้เสียเองว่าพระนี้จะต้องมีลักษณะอย่างนี้เช่นนี้ ด้านหลังจะต้องมีรอยวนๆ อันนี้ไม่ใช่หลักสำคัญในการดูพระให้เป็นหรอกครับ เหตุที่ด้านหลังเป็นวนๆ นั้นเนื่องจากตะกั่วที่เทเป็นตะกั่วเนื้ออ่อน ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนหรือเป็นตะกั่วที่เป็นเนื้อชินด้านหลังจะไม่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากส่วนผสมของเนื้อตะกั่วหลายชนิดมารวมกันจึงมีความแข็งเป็นพิเศษ บางองค์จะมีสีดำ บางองค์จะมีพรายปรอทอยู่ไปทั่ว ก็แล้วแต่ส่วนผสมที่แต่ละคนเติมลงไป

    หลวงปู่ทองฤทธิ์ พระผู้เฒ่าเรืองอาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฉันทนิมิต จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งผมและคุณชินพรได้ขึ้นไปกราบท่านที่วัด พอท่านเห็นรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมที่ผมคล้องอยู่ถึงกับขอดู พอดูเสร็จท่านก็หยิบพระขึ้นมาจบทำปากหมุบหมิบเหมือนท่านจะทำความเคารพหลวงปู่ทิมต่อหน้าผมและคุณชินพรที่มองท่านอย่างฉงนและทึ่งอยู่ในใจ ผมจึงถามท่านพระองค์นี้ดีอย่างไรครับ ? ท่านตอบว่า “องค์นี้ดีแล้วทุกอย่าง คุ้มได้ทุกอย่าง เจ้าของลงและเสกดีแล้ว”

    สมัยที่ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ จ. อยุธยา ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้อนุญาตให้ผมไปหา “ลูกแก้ว” นำมาให้ท่านอธิษฐานจิตเป็น “แก้วสารพัดนึก” ซึ่งท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ ๑ พรรษา และผมได้นำรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมให้ท่านดู พอท่านดูจบท่านตอบว่า “พระองค์นี้ดีมาก มีอานุภาพสูง ป้องกันสรรพสิ่งในโลกนี้ได้ ยิ่งอยู่กับคนที่มีศีลมีธรรมพระองค์นี้จะปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็นเร็ว เนื่องจากผู้ทำได้อัญเชิญเทวดาให้มารับรู้ด้วย” ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบความหมายของประโยคหลัง แต่คิดว่าตอนหลวงปู่ทำพิธีคงจะอัญเชิญครูบาอาจารย์ เทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มารับรู้เป็นแน่แท้ ผมเคยถามหลวงปู่ว่า คาถาเชิญครูนั้นหลวงปู่เชิญและสวดใช้บทไหน ท่านตอบว่า ถ้าอยากรู้ ๒ ทุ่มมาหานี่ นี่จะสอนให้ และคืนนั้นผมก็ได้คาถาอัญเชิญครูจากท่านจริงๆ ซึ่งจะขอกล่าวถึงให้ท่านผู้อ่านที่สนใจจดจำไว้เผื่อมีโอกาสจะได้นำออกมาใช้บ้าง

    หลวงปู่เคยกล่าวให้ฟังว่า ตะกั่วเถื่อนที่นี่ได้มาเป็นของดีที่เกิดเองตามธรรมชาติ เมื่อมานำทำเป็นองค์พระให้ถูกต้องตามตำราที่นี่เรียนมา จะมีอำนาจความศักดิ์สิทธิ์สูงมากเพราะตะกั่วมีกระแสการดูดซับและรับพลังจิตจากผู้เสกเข้าไปได้ง่ายและรวดเร็วมาก ซึ่งก็ตรงกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ได้พูดไว้เมื่อคราวที่ผมและรองศาสตรจารย์ ดร.ชวลิต นิตยะ อาจารย์สถาปัตย์จุฬาฯ ได้ไปกราบหลวงปู่โต๊ะที่วัดเพื่อขอเมตตาให้ท่านทำเบี้ยแก้ใว้ใช้ติดตัว
    ซึ่งหลวงปู่ได้สาธิตวิธีทำและบอกว่าให้หาตะกั่วมาปิดปากหอยเบี้ย เนื่องจากตะกั่วนี้มีคุณพิเศษในตัวเองสามารถรับกระแสจิตและพลังอณูที่อยู่ในโลกนี้ได้เร็วกว่าวัตถุชนิดอื่น ยิ่งเป็นตะกั่วเถื่อนยิ่งดีใหญ่ แม้กระทั่ง หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ท่านก็เคยกล่าวให้ผมฟังเช่นกัน

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมนี้สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจของหลวงปู่เอง เพื่อฝากความเป็นอมตะของพระรุ่นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้ ประสบการมากมายท่านท่านลงลึกศึกษาดูซิครับ


    ของดีมีน้อยถ้าท่านพอที่จะหาได้หาเก็บไว้ครับแนะนำ<!-- google_ad_section_end -->


    " ความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องพระปิดตา "

    พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง

    พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจ ผิดๆ กันมาตลอดเลยครับจริงแล้วพระปิดตาเป็น พระเมตตามหาโชดครับ

    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการส ร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" กับ "พระมหาอุต"

    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย

    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย

    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกส ินทร์เรื่อยมา จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย

    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย

    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็น

    ปริศนาธรรม ที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสน าธุระทั้งสิ้น

    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น

    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว

    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวก ับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง

    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย

    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินต ะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น

    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึง

    พระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างง ดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพ ิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว

    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอ ง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังน ี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย

    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปท างเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์

    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้ว คลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ
    ปริศนาธรรม ของพระปิดตา นั้นพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมเป็นหลักครับ
    <!-- google_ad_section_end -->

    องค์ที่ 22. เลี่ยมทองพร้อมบูชาครับท่าน

    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ
    พลังชาตรี 13


    [​IMG]

    เป็นพระเครื่องเนื้อโลหะของหลวงปู่ทิมชนิดเดียวที่มีผงพรายกุมารผสม ปิดตาน้ำท่วม

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2013
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๗.

    ปิดตาฝังพลอย หลังยันต์ห้า (พิมพ์ใหญ่) ฝังพลอยเสกเนื้อผงพรายกุมาร

    หลวงปู่ถึงกับร้องทักว่า " ยันต์นี้เป็นของพระอระหันต์ " จัดสร้างยากมากครับ พิมพ์ใหญ่ จำนวน 5000 องค์ ไม่เก็บตอนนี้ยากที่จะเก็บครับท่าน


    พิมพ์ใหญ่เนื้อผงพรายกุมารพลอยเสกเลี่ยมทองหนาๆ

    รับประกันแท้จนมวลสารสะหลาย

    ปืดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้มาตราฐานสากล .

    [​IMG]

    .

    .รับประกันแท้จนมวลสารสะหลาย.

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  15. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๘.

    พระสมเด็จหลวงปู่ทิมหลังยันต์ห้า (ยันต์มหาจินดามณีที่หลวงปู่ทิมสำเร็จ)

    หลวงปู่ทิมได้มอบ ผงพรายกุมาร/ผงพุทธคุณ/ว่านต่าง/นำไปผสม เพื่อในการจัดสร้างพระสมเด็จยันต์ห้า เป็นพระสมเด็จที่หลวงปู่ทิมท่านได้กล่าวใว้ว่าเป็นพระที่มีเลขยันต์ครบถ้วนแล้ว
    หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว ๑ พรรษา จำนวนการสร้างประมาณ ๕,๐๐๐ องค์
    ส่วนสีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม (ว่านเหลือง) นั้นจะพบน้อยมากครับและเป็นที่นิยมมากที่สุด
    สมเด็จยันต์ห้า (ยันต์มหาจินดามณี) องค์นี้เนื้อออกโชนสีเหลืองโชนหายากมากที่สุดครับ ที่สำคัญพิมพ์กดได้คมชัดมากๆยันต์ห้ามหาจินดามณ๊ด้านหลังเลขยันต์ชัดคมทุกอักขระ ถือว่าเป็นองค์ที่สวยแชมป์ๆส่งประกวดที่ที่ 2 ครับ

    พระสมเด็จหลวงปู่ทิมหลังยันต์ห้า เลี่ยมทอง

    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    เป็นพระสมเด็จของหลวงปู่ทิมที่มีพุทธคุณพร้อมครบเครื่องครับ ที่สำคัญ ประกวดติดที่ 2 ครับท่าน

    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากล

    [​IMG]

    .รับประกันแท้จนมวลสารสะหลาย.

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๘.

    มีดหมอหลวงปู่ทิม ด้ามงาช้าง ฝักงาช้าง ก้นอุดผงพลายกุมาร

    หมายเลขกำกับ 213 จัดสร้าง 300 เล่มสุดหายาก

    สร้างโดยอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ประมาณปี 47-48

    มีดหมอปากกา ขนาดพกพา ยาว 9 ซม.แหนบทำจากทองเหลือง

    มีดไหว้ครูด้ามงาฝักงา มวลสารที่ตีผสมใบมีดสุดยอด ผงพรายกุมารล้วน ทั้งตะปูโรงผี ยอดปราสาท ชนวนชินบัญชรเหล็กน้ำพี้ด้ามอุดด้วยเส้นผมพรายกุมารสีผึ้งหลวงปู่ทิมล้วนๆไม่ผสมหายากมากๆ

    ปลุกเสกโดยหลวงพ่อสาคร / พ่อท่านหรีด

    [​IMG]

    ปลายด้ามอุดผงพรายสีผึ้งเส้นผม

    [​IMG]

    กรรมวิธีในการจัดสร้าง

    [​IMG]

    [​IMG]

    มีดไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยง รับประกันจนมวลสารสะหลาย พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกันครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๔๙.

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปรกไตรมาศ นิยมสุดพิมพ์อุสั้น

    พระสวยครับท่าน เป็นพิมพ์พระนาคปรกที่นิยมเลขยันต์สวยครับท่าน

    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน
    ปิดรายการนี้แล้วครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้สากล

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2013
  18. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๕๐.

    ปรกจ้อย 3 ขุนพลเล็ก

    องค์ที่ ๑. ปรกใบมะขามหลวงพ่อสาคร รุ่นแรก หลวงปู่ทิมปลุกเสก

    [​IMG]

    องค์ที่ ๒. ปรกใบมะขามหลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่ รุ่นแรก

    [​IMG]

    องค์ที่ ๓. ปรกใบมะขามหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่สิมพลี รุ่นแรก

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้มาตราฐาน

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2013
  19. ณรงค์ s

    ณรงค์ s สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมขอรบกวนคุณ พลังชาตรี สักหน่อยนะครับช่วยดูลูกอมบรอนซ์น้ำมันลูกนี้ให้หน่อย แท้หรือเก๊ครับ ขอขอบคุณอย่างสูงครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • z......jpg
      z......jpg
      ขนาดไฟล์:
      164.1 KB
      เปิดดู:
      1,230
    • z.......jpg
      z.......jpg
      ขนาดไฟล์:
      172.3 KB
      เปิดดู:
      279
  20. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,392
    ค่าพลัง:
    +1,848
    รายการที่ ๕๑. ..

    พระปิดตาน้ำท่วม มรดกที่หลวงปู่ทิมทำไว้ให้แก่สานุศิษย์

    พระที่หลวงปู่ทิมตั้งใจสุดๆ ตามที่ทางคุณเพียรวิทย์เล่าให้ฟัง หลวงปูทิมท่านเอา ผงพรายกุมารออกมาจากคำภีร์ ที่ท่านนำแผนผงพรายสอดไว้ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนกระโหลกที่ยังไม่ได้ตำหรือเปล่า หลวงปู่ทิมที่ทำการพี มานิดแล้วใส่ลงใน ตะกั่ว มาดูครับเรื่องเมตตาและพรายคุ้มครองสุดยอดครับ พระองค์ที่แจกครับว่า พระชุดนี้หลวงปู่เป็นผู้สร้างเอง นั่งควบคุมการเทเอง และแถมยังเป็นผู้ดำริคิดสร้างเอง วัตถุมงคลชุดนี้คือ “พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วม”
    กรรมวิธีการสร้างและสลับซับซ้อนอย่างไร ทำไมจึงเรียกว่า “รุ่นน้ำท่วม” ก็ขอให้ท่านลองติดตามดูนะครับ

    ย้อนหลังไปในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาท่วมอย่างฉับพลันแถว อ.บ้านค่าย อ.แกลง และทีอื่นๆ อีกมาก วัดละหารไร่ ตอนนั้นน้ำท่วมสูงถึงประมาณ ๑ คืบจะถึงพื้นกุฏิของวัด

    หลวงปู่ทิม ท่านก็ปรารภกับผมว่าอยากจะทำพระสักรุ่นหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกตอนน้ำท่วม ผมได้ยินเช่นนั้นจึงพูดสนับสนุนทันที เพราะทราบอยู่ในใจว่า หลวงปู่เป็นผู้ที่สร้างของยาก

    เมื่อท่านเอ่ยเช่นนี้แสดงว่าพวกเราจะได้ของดีจากท่านไว้ติดตัวอย่างแน่นอน ท่านใช้ผมไปตามหลวงลุงรอด ซึ่งมีห้องอยู่ตรงข้ามห้องของหลวงปู่ เมื่อมาถึงหลวงปู่ได้ถามหลวงลุงรอดว่า ตะกั่วที่นี่ให้เก็บไว้ ให้เอาออกมาให้หมดจะทำพระไว้แจก เมื่อท่านพูดเสร็จหลวงปู่ก็ลุกไปที่ห้องท่านและเรียกผมเข้าไปด้วย หลวงปู่ใช้ให้ผมมุดเข้าไปใต้เตียงนอนตรงบริเวณหัวเตียงด้านล่างจะมีถังใบหนึ่งภายในมี ตะกั่วเป็นก้อนๆ บรรจุอยู่เต็มไปหมด ท่านให้ผมลากออกมาผมสังเกตว่า นอกจาก ตะกั่วแล้วยังมีตะกรุดเก่าๆ ที่เป็นเนื้อชินตะกั่วและตะกั่วอวนเป็นเม็ดๆ อยู่ในนั้นอีกด้วย ผมยังหยิบเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกดอกหนึ่งและเม็ดตะกั่วอีก ๕-๖ เม็ด สำหรับแผ่นตะกั่วที่อยู่ในห้องหลวงลุงนั้น เป็นแผ่นตะกั่วยาวๆ นิ่มอ่อน หลวงปู่ได้ใช้ให้ผมตีตะกั่วแผ่ออกเป็นแผ่น เมื่อตีจนได้ที่แล้วท่าน ก็ใช้เหล็กจารอักขระลงไปทีละแผ่น หลังจากนั้นท่านก็ให้ผมพับแผ่นตะกั่วและใช้ฆ้อนตีกลับไปกลับมาและแผ่ออกมาใหม่ และจึงใช้เหล็กจารอักขระลงไปอีก และก็ทุบกลับไปกลับมาอีก ทำเช่นนี้ตั้งหลายครั้งจนผมสงสัยจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่เห็นสนุกเลย ท่านตอบว่า คนโบราณเรียกว่า ลงถมต้องลงให้ครบ ๙ ครั้งถ้าได้ ๑๐๘ ครั้งยิ่งดีใหญ่

    พวกเราพอได้ยินเช่นนั้นจึงได้ช่วยหลวงปู่ทำเพื่อหวังขอของดีจากหลวงปู่ในครั้งนี้
    กว่าจะลงถมเสร็จก็ใช้เวลากว่า ๓ วัน เมื่อหลวงปู่เห็นว่าดีแล้วท่านก็รวบรวมแผ่นตะกั่วทั้งหมดรวมทั้งตะกั่วเถื่อนที่อยู่ในห้องของท่าน ผมสังเกตว่าตะกั่วทุกก้อนที่อยู่ในห้องของท่านจะมีจารอักขระทุกก้อน แสดงว่าท่านได้เตรียมการมานานแล้ว แต่ยังหาโอกาสและฤกษ์ดีไม่ได้ จากนั้นท่านจึงนำตะกั่วทั้งหมดทำพิธีปลุกเสกในห้องของท่าน ๗ วัน จนถึงวันเสาร์ หลวงปู่ก็เรียกผม เณรฉ่ำ เณรลาว และช่างมงคล หลวงลุงรอด ให้มาหาและบอกว่า วันนี้ฤกษ์ดี

    เทวดารักษา จะได้ลงมือทำพระกันเสียที เมื่อท่านพูดเสร็จท่านหยิบ ขันสำริด ที่ก้นขันได้จารอักขระเต็มไปหมด ต่อจากนั้นจึงให้หลวงลุงเอาพิมพ์พระเครื่องต่างๆ มาให้ท่านดู ท่านได้เลือกดูสักพักจึงหยิบเอาพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ที่ทางคุณชินพร สุขสถิตย์ ได้ถวายคืนให้วัดนำมาพิจารณาต่อ ต่อจากนั้นหลวงปู่ก็หยิบเหล็กจารจารลงไปที่พิมพ์ปิดตาและพิมพ์เจริญพร พนมมืออธิษฐานจิต ซึ่งพวกเราก็ได้แต่ดูการกระทำของท่านอยู่เงียบๆ หลังจากนั้น
    จึงตั้งไปเพื่อที่จะหลอมตะกั่ว

    แต่ก่อนที่จะทำพิธีหลอมตะกั่วนี้

    หลวงปู่ได้ลุกขึ้นไปหยิบคัมภีร์ใบลานเก่าค่อยๆ เปิดทีละแผ่น หยิบวัสดุชิ้นสีขาวออกมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเราที่อยู่ในพิธีนี้รู้ทันทีว่า “วัสดุสีขาวที่หลวงปู่หยิบออกมาคือหัวกะโหลกเด็กที่หลวงปู่นำมาทำผงพรายกุมาร ทุกครั้งที่จะมีการสร้างพระผง ท่านยกมือบริกรรมคาถาอยู่ชั่วครู่ใหญ่ จึงค่อยๆ บิหัวกะโหลกพรายกุมาร แล้วจึงใช้ค้อนทุบลงไปในแผ่นตะกั่ว เณรฉ่ำเห็นเช่นนั้นจึงถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ทุบหัวกะโหลกหรือ? ท่านก็เงื้อค้อนตีเณรบอกว่า กำลังตีตะกั่วอยู่ไม่เห็นหรือไง? จากนั้นท่านจึงค่อยๆ บรรจงเอาแผ่นตะกั่วชิ้นนี้วางลงไปในขันสำริดและติดไฟสุมอ่อนๆ จนแผ่นตะกั่วละลายลงไปทีละน้อย

    ในการเทครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนยังไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เท่าไหร่นัก จึงเทออกมาสวยบ้างไม่สวยบ้าง หล่อติดบ้าง ไม่ติดบ้าง เนื่องจากทนไอพิษจากตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่จึงให้ทุกคนที่อยู่ในพิธีใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก เหลือไว้แต่ตาคอยดูเพื่อป้องกันไอตะกั่วระเหยออกมาอย่างรุนแรง

    แต่นั่นแหละครับ ถึงแม้จะป้องกันแค่ไหนเณรฉ่ำเข้าไปนั่งเทได้สักพักหนึ่งยังต้องออกจากพิธีเพราะทนความร้อนและพิษไอตะกั่วไม่ไหว หลวงปู่เห็นเช่นนั้นจึงให้ทุกคนค่อยๆ ถอยห่างออกไป ท่านค่อยๆ ใช้ช้อนคนตะกั่วในขันสัมริดและหยิบพิมพ์ปิดตาและพิมพ์รูปเหมือนเจริญพร ซึ่งช่างมงคลได้ใช้คีมคีบไว้กันไม่ให้ร้อนมือพอเทใส่เบ้าเสร็จท่านจึงรีบนำมาแช่น้ำมนต์ที่ท่านวางใส่ขันเตรียมไว้ข้างๆ

    พระชุดนี้เนื่องจากมีแม่พิมพ์ตัวเดียวจึงทำให้เทช้ามาก หลวงปู่กลัวว่าจะเสียฤกษ์จึงให้ช่างมงคลและหลวงลุงรอดทำการถอดพิมพ์ออกมาหลายอันเพื่อที่จะได้ช่วยกันเทให้เสร็จโดยเร็ว กว่าพวกเราจะช่วยหลวงปู่ทำพระชุดนี้เสร็จก็ใช้เวลาเกือบ ๑ เดือน เนื่องจากตะกั่วที่หลอมในครั้งนี้บางอันละลายเร็ว แต่ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนจะละลายช้ามาก เพราะมีขี้ตะกั่วลอยอยู่ที่ผิวเต็มไปหมดจึงลำบากมากในการเทเมื่อเทเสร็จแล้วได้พระประมาณ ๑ บาตร หลวงปู่จึงใช้ในผม เณรฉ่ำ เณรลาว ให้จารหลังปิดตาด้วยคาถาว่า
    “อิ สวา สุ” จารได้ประมาณไม่ถึงร้อยองค์ทุกคนก็เลิกจารเนื่องจากเหล็กจารนั้นติดตะกั่วเวลาจารต้องลงแรงมาก หลวงลุงรอดจึงเดินเข้าไปในห้องหลวงปู่หยิบโค้ดต่างๆ ที่คุณชินพร สุขสถิตย์ ทำถวายวัดเพื่อนำมาตอกปลัดขิกของวัดให้หลวงปู่พิจารณาดูว่าจะใช้ได้หรือไม่ เมื่อท่านดูแล้วท่านก็หยิบโค้ดตัว “เฑาะ” และโค้ด “มะอะอุ” ออกมา บอกให้เอาโค้ดตัว “เฑาะ” นี้ตอกหลังพระปิดตา โค้ด “มะอะอุ” ตอกหลังรูปเหมือนเจริญพร

    วันแรกที่ทำพิธีเทพระชุดนี้ ท้องฟ้าที่สว่างไสวกลับมือครึ้มลมกระโชกแรงจนทุกคนกลัวกุฏิหลวงปู่และหอฉันหลังเก่าจะพังจมลงไปในน้ำ เมฆฝนคลุมไปทั่วราวกับว่าฝนจะตกหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลของทุกคนที่อยู่ในวัด ถ้าฝนตกลงมาเที่ยวนี้น้ำป่าจะไหลทะลักท่วมวัดพัดกุฏิพังเป็นแน่

    หลวงปู่เห็นเรามีความกังวลเช่นนี้ท่านก็เอ่ยว่า ไม่ต้องกลัวๆ เขารับรู้แล้วว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน เมื่อทำการหลอมพระเสร็จเฉพาะวันนั้น ท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับสว่างไสวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลวงปู่ได้หยิบพระชุดนี้ขึ้นมาดูทีละองค์และท่าน
    สายสิญจน์ที่ล้อมรอบวัตถุมงคลในห้องไว้ในมือท่าน ท่านจะนั่งปลุกเสกและลงของในลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นวันออกพรรษาหรือเข้าพรรษา ท่านทำทุกคนจนถึง ๖ โมงเช้าจึงจะลืมตาขึ้นมา หลังจากนั้นท่านจะกราบลงที่หมอน ๓ ครั้งและก็ลุกออกไปนอกห้องเดินดูอะไรต่ออะไรไปเรื่อยๆ จนถึง ๘ โมงเช้าจึงจะถึงเวลาฉันเช้า ปกติหลวงปู่จะฉันเช้าเพียงมื้อเดียว อาหารที่ฉันจะเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อ จะมีผักถั่วฝักยาวเป็นพื้น ซึ่งท่านจะฉันเช่นนี้เป็นประจำจนชั่วชีวิตของท่าน

    พระชุดนี้หลวงปู่ปลุกเสกอยู่ทุกคืนเป็นเวลานาน จนพระเครื่องที่มีอยู่ในบาตรเต้นระรัวกระทบกันเสมือนคั่วข้างตอกแตก มีบางองค์กระเด็นออกมานอกบาตรก็มี ผมเห็นเช่นนั้นจึงได้ขอหลวงปู่เก็บไว้ส่วนตัวจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็มอบให้ หลวงปู่ได้ทำการแจกพระชุดนี้ให้แก่บรรดาผู้ที่นับถือท่านนำไปใช้และที่ไปกราบท่านที่วัด ท่านจะพูดเสมอว่า
    เก็บไว้ให้ดีของนี่รักษาตัวได้ และยังทำยากอีกด้วย พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพร ใครมาหาท่านท่านจะใช้ผมไปหยิบในบาตรและนำมาใส่พานเล็กๆ วางไว้หน้าท่าน ท่านจะแจกไปเรื่อยๆ จนใครๆ เรียกพระชุดนี้ว่า รุ่น “แจกทาน”
    ซึ่งก็ไม่ผิดกติกาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดจะเรียกรุ่นนี้ว่า “รุ่นน้ำท่วม”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรนี้สร้างขึ้นด้วยเจตนารมณ์อันดีของหลวงปู่เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมที่ยากจน ถ้าท่านเจอและดูเป็นก็ให้เก็บไว้ใช้เถิด ผมมั่นใจว่าพระชุดนี้ต้องยอดเยี่ยมไร้เทียมทานจริงๆ มิฉะนั้นผมคงไม่เลือกแขวนและใช้ติดตัวอยู่จนทุกวันนี้หรอกครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีพระเครื่องชุดอื่นของหลวงปู่ทิมนะครับ ตอนนี้ยังเหลืออยู่หลายองค์ทีเดียวแต่ที่ผมเลือกรุ่นนี้เพราะผมได้ยินหลวงปู่กล่าวว่า “พระรุ่นนี้นี่สร้างขึ้นมายาก หาฤกษ์มานาน ใครใช้จะรู้เอง แต่นี่รับรองใครมีไม่รู้จักอด มีเงินมีทองเหมือนกับน้ำที่ไหลไปที่ใดจะทำให้บ้านเรือนที่นั่นเกิดความสมบูรณ์”

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรของหลวงปู่นี้ จัดเป็นพระชุดหนึ่งที่ท่านทำกับมือ เวลาเช่าหา ขอให้สังเกตุโค้ดที่ตอกหลังองค์พระเป็นสำคัญ ถ้าท่านจำโค้ดแม่นท่านอาจเช่าหากันในราคาไม่แพงก็ได้ เพราะเวลานี้คนที่ดูพระชุดนี้เป็นยังมีอยู่ไม่กี่คน บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าหลวงปู่เลยกลับตั้งเป็นผู้รู้เสียเองว่าพระนี้จะต้องมีลักษณะอย่างนี้เช่นนี้ ด้านหลังจะต้องมีรอยวนๆ อันนี้ไม่ใช่หลักสำคัญในการดูพระให้เป็นหรอกครับ เหตุที่ด้านหลังเป็นวนๆ นั้นเนื่องจากตะกั่วที่เทเป็นตะกั่วเนื้ออ่อน ถ้าเป็นตะกั่วเถื่อนหรือเป็นตะกั่วที่เป็นเนื้อชินด้านหลังจะไม่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากส่วนผสมของเนื้อตะกั่วหลายชนิดมารวมกันจึงมีความแข็งเป็นพิเศษ บางองค์จะมีสีดำ บางองค์จะมีพรายปรอทอยู่ไปทั่ว ก็แล้วแต่ส่วนผสมที่แต่ละคนเติมลงไป

    หลวงปู่ทองฤทธิ์ พระผู้เฒ่าเรืองอาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าฉันทนิมิต จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งผมและคุณชินพรได้ขึ้นไปกราบท่านที่วัด พอท่านเห็นรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมที่ผมคล้องอยู่ถึงกับขอดู พอดูเสร็จท่านก็หยิบพระขึ้นมาจบทำปากหมุบหมิบเหมือนท่านจะทำความเคารพหลวงปู่ทิมต่อหน้าผมและคุณชินพรที่มองท่านอย่างฉงนและทึ่งอยู่ในใจ ผมจึงถามท่านพระองค์นี้ดีอย่างไรครับ ? ท่านตอบว่า “องค์นี้ดีแล้วทุกอย่าง คุ้มได้ทุกอย่าง เจ้าของลงและเสกดีแล้ว”

    สมัยที่ หลวงปู่สด วัดโพธิ์แตงใต้ จ. อยุธยา ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้อนุญาตให้ผมไปหา “ลูกแก้ว” นำมาให้ท่านอธิษฐานจิตเป็น “แก้วสารพัดนึก” ซึ่งท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ ๑ พรรษา และผมได้นำรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมให้ท่านดู พอท่านดูจบท่านตอบว่า “พระองค์นี้ดีมาก มีอานุภาพสูง ป้องกันสรรพสิ่งในโลกนี้ได้ ยิ่งอยู่กับคนที่มีศีลมีธรรมพระองค์นี้จะปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ให้เห็นเร็ว เนื่องจากผู้ทำได้อัญเชิญเทวดาให้มารับรู้ด้วย” ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบความหมายของประโยคหลัง แต่คิดว่าตอนหลวงปู่ทำพิธีคงจะอัญเชิญครูบาอาจารย์ เทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มารับรู้เป็นแน่แท้ ผมเคยถามหลวงปู่ว่า คาถาเชิญครูนั้นหลวงปู่เชิญและสวดใช้บทไหน ท่านตอบว่า ถ้าอยากรู้ ๒ ทุ่มมาหานี่ นี่จะสอนให้ และคืนนั้นผมก็ได้คาถาอัญเชิญครูจากท่านจริงๆ ซึ่งจะขอกล่าวถึงให้ท่านผู้อ่านที่สนใจจดจำไว้เผื่อมีโอกาสจะได้นำออกมาใช้บ้าง

    หลวงปู่เคยกล่าวให้ฟังว่า ตะกั่วเถื่อนที่นี่ได้มาเป็นของดีที่เกิดเองตามธรรมชาติ เมื่อมานำทำเป็นองค์พระให้ถูกต้องตามตำราที่นี่เรียนมา จะมีอำนาจความศักดิ์สิทธิ์สูงมากเพราะตะกั่วมีกระแสการดูดซับและรับพลังจิตจากผู้เสกเข้าไปได้ง่ายและรวดเร็วมาก ซึ่งก็ตรงกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ได้พูดไว้เมื่อคราวที่ผมและรองศาสตรจารย์ ดร.ชวลิต นิตยะ อาจารย์สถาปัตย์จุฬาฯ ได้ไปกราบหลวงปู่โต๊ะที่วัดเพื่อขอเมตตาให้ท่านทำเบี้ยแก้ใว้ใช้ติดตัว
    ซึ่งหลวงปู่ได้สาธิตวิธีทำและบอกว่าให้หาตะกั่วมาปิดปากหอยเบี้ย เนื่องจากตะกั่วนี้มีคุณพิเศษในตัวเองสามารถรับกระแสจิตและพลังอณูที่อยู่ในโลกนี้ได้เร็วกว่าวัตถุชนิดอื่น ยิ่งเป็นตะกั่วเถื่อนยิ่งดีใหญ่ แม้กระทั่ง หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ท่านก็เคยกล่าวให้ผมฟังเช่นกัน

    พระปิดตาและรูปเหมือนเจริญพรรุ่นน้ำท่วมนี้สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจของหลวงปู่เอง เพื่อฝากความเป็นอมตะของพระรุ่นนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้ ประสบการมากมายท่านท่านลงลึกศึกษาดูซิครับ


    ของดีมีน้อยถ้าท่านพอที่จะหาได้หาเก็บไว้ครับแนะนำ<!-- google_ad_section_end -->


    " ความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องพระปิดตา "

    พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง

    พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจ ผิดๆ กันมาตลอดเลยครับจริงแล้วพระปิดตาเป็น พระเมตตามหาโชดครับ

    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการส ร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" กับ "พระมหาอุต"

    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย

    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย

    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกส ินทร์เรื่อยมา จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย

    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย

    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็น

    ปริศนาธรรม ที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสน าธุระทั้งสิ้น

    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น

    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว

    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวก ับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง

    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย

    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินต ะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น

    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึง

    พระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างง ดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพ ิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว

    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอ ง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังน ี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป

    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย

    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปท างเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์

    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้ว คลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ
    ปริศนาธรรม ของพระปิดตา นั้นพุทธคุณเด่นในเรื่องของเมตตามหานิยมเป็นหลักครับ
    <!-- google_ad_section_end -->

    องค์ที่ 23. เลี่ยมทองพร้อมบูชาครับท่าน

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองพระแท้ไม่ต้องเสี่ยงกับเงินแท้ของท่านครับ
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ
    พลังชาตรี 13


    [​IMG]

    เป็นพระเครื่องเนื้อโลหะของหลวงปู่ทิมชนิดเดียวที่มีผงพรายกุมารผสม ปิดตาน้ำท่วม

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13


    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    กติกาในการประกันครับเก็องค์ใหนจ่ายคืนเต็มจำนวน บวกค่าเสียเวลาให้อีก 2000 บาททุกองค์ พระแท้คือแท้ไม่กลัวประกัน

    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...