หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มหาโพธิสัตว์เมืองกรุงเก่า ตอน หลวงพ่อปานกับหลวงพ่อโหน่ง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 23 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,438
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มหาโพธิสัตว์เมืองกรุงเก่า ตอน หลวงพ่อปานกับหลวงพ่อโหน่ง
    [​IMG]
    หลวงพ่อฤๅษีฯ ได้เล่าถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
    ...ในกาลต่อมา เมื่อหลวงพ่อเนียมมรณภาพแล้ว หลวงพ่อปานก็มีความสงสัยในหลวงพ่อโหน่ง
    คำว่าสงสัยน่ะ ไม่ใช่สงสัยอะไรหรอก หมายความว่าอยากจะพบ อยากจะรู้ถึงคุณสมบัติของหลวงพ่อโหน่ง อยากจะเรียนต่อกันนั่นเอง พระสมัยนั้นน่ะท่านไม่ใช่แข่งดีกันนะ ท่านพยายามขอดีกัน หมายความว่าถ้ารู้ว่าใครเขามีดีแล้วก็ไปขอดีจากเขา ไม่ใช่เอาดีไปแข่งหรือเอาดีไปอวด
    หลวงพ่อปานก็ธุดงค์ไปเพื่อจะไปหาหลวงพ่อโหน่ง ตอนไปก่อนจะถึงท่านบอกว่า แดดมันร้อนจัด ท่านก็พักอยู่โคนต้นพุทรา อยู่ไม่ไกลจากกุฏิของหลวงพ่อโหน่งนัก ท่านก็เปิดหน้าต่างออกมาร้องว่า
    แหม พ่อคุณ มาแล้วยังดันมาสั่งเสียอีกนะ ไอ้เราน่ะคอยมาตั้งแต่เช้า คิดว่าจะมาถึงแต่เช้า มาโอ้เอ้ ๆ อยู่ได้ เข้ามาให้ถึงนี่ซี มาพักผ่อนที่นี่ มานั่งคุยกัน เราคอยมาตั้งนานแล้ว
    ผลที่สุดหลวงพ่อปานก็เข้าไปหาท่าน แล้วคุยกันถึงเรื่องพระกรรมฐาน สอบกันไปสอบกันมา สอบกันมาสอบกันไป เอาใครดีกว่าใครไม่ได้ เรียกว่าไม่มีใครกล้าดีกว่ากัน จนแต้มด้วยกัน ท่านบอกว่าไล่ไปตามลำดับ เมื่อถึงที่สุดหลวงพ่อโหน่งก็บอกว่าผมก็หมดแค่นี้แหละไปไม่รอดอีก ก็เป็นอันว่าหลวงพ่อปานกับหลวงพ่อโหน่งเวลานั้นยันกัน เรียกว่ายันกันได้
    a8a8a8a8a8a8a8a8a8a

    ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. เท่าไร ฉันก็จำไม่ได้ แต่ฉันบวชแล้ว ปรากฏว่าหลวงพ่อโหน่งตาย พระที่วัดหลวงพ่อโหน่งก็มาบอกหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานติดธุระไปไม่ได้ วันที่จะเผาหลวงพ่อโหน่ง ท่านติดกำหนดยกช่อฟ้าวัดช่องลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะท่านไปสร้างศาลาไว้ที่นั่น ท่านสั่งพระไปบอกว่า ถ้าหากว่าศพหลวงพ่อโหน่งไม่เน่าละก็ อย่างเพิ่งเผานะ ให้รอท่านก่อน ถ้าหากว่าศพหลวงพ่อโหน่งแห้งหรือว่าเน่า ก็จงเผาเถิด เพระเก็บศพไว้ 13 เดือนแล้ว
    ปรากฏว่าเวลาเขานำศพออกมา มีสภาพเหมือนคนนอนหลับ เวลาท่านจะตาย ท่านนอนตะแคงขวา พนมมือเหมือนกันคนนอนหลับ สภาพการเน่าเหม็นอะไรก็ไม่มี สมัยนั้นไม่มีการฉีดยา แต่ทว่ากรรมการวัดส่วนใหญ่เขาพากันเผาเสีย
    ต่อมาหลวงพ่อปานรู้เข้า ไปที่วัดนั้น ฉันก็ไปด้วย ท่านเรียกกรรมการวัดบ้างพระบ้างมาเทศน์เสียเยอะ เรียกว่าเทศน์ให้ฟัง เพราะไม่รู้ค่าของความดีว่าหลวงพ่อโหน่งนี่เป็นพระอรหันต์
    พวกแกนี่อยู่กับพระอรหันต์นะ ไม่รู้ค่าของความดีของพระอรหันต์ นี่ท่านอธิษฐานตัวทิ้งเข้าไว้นะ วันนั้นฉันมาไม่ได้ ฉันก็สั่งแล้วว่าถ้าศพไม่เน่าไม่ควรจะเผา
    เขาก็ไม่เถียง ท่านพูดแล้วเขาไม่เถียง ท่านก็แพ้เขาน่ะซิ ทีนี้คุณสมบัติหลวงพ่อโหน่งมีพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง หลวงพ่อปานบอกว่า เวลาใครเขานิมนต์ท่านละก็ ท่านต้องถามพระเสียก่อน เพราะว่าท่านไม่เคยเรียนนี่ เวลานิมนต์ไปเทศน์ ท่านบอกว่า ต้องถามพระก่อน แล้วท่านก็จุดธูปถามพระขอท่าน ถ้าพระบอกว่าไม่ควรไป ท่านไม่ไปใครจะนิมนต์ก็ตามท่านไม่ไป
    แล้วปฏิปทาพิเศษของท่านมีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ท่านเอาแม่ของท่านไปเลี้ยงไว้ โยมผู้หญิงนะ เรียกภาษาธรรมดาว่าแม่ มันชัดดีไม่แปลกไม่เปลิกหรอก เรียกแม่ก็ได้ เวลาท่านบิณฑบาตมาแล้วท่านก็เอาข้าวไปให้แม่ของท่านกิน แล้วท่านก็ฉัน แบบนี้ไม่ผิดนะเคยฟังมาแล้ว เมื่อเวลาแม่กินข้าวแล้วท่านก็เทศน์ให้แม่ของท่านฟังกัณฑ์หนึ่งทุกวัน ท่านทำอย่างนี้เป็นปกติจนกระทั่งแม่ของท่านตาย
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...โรงเรียน-เหลือ89กอง.560840/page-7#post9935844
     

แชร์หน้านี้

Loading...