หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ตอบปัญหาเรื่องวัตถุมงคล - ละชั่ว ทำดี มีพุทโธอยู่ทุกลมหายใจ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย kennek, 28 พฤษภาคม 2013.

  1. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,164
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,232
    [​IMG]

    [​IMG]


    หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี

    "ละชั่ว ทำดี มีพุทโธอยู่ทุกลมหายใจ"

    พระวิสุทธิญาณเถร หรือหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ประธานสงฆ์วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ปัจจุบันอายุ 78 ปี พรรษาที่ 56 เป็นพระป่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังขจรขจายอีกรูปหนึ่งที่เป็นศิษย์ที่สืบสายธารธรรมของ " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ผู้นำกองทัพธรรมแห่งดินแดนที่ราบสูงในอดีต

    ด้วยบทบาทการเป็นทั้งพระนักสังคมสงเคราะห์ พระนักพัฒนาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเป็นที่ประจักษ์ชัดมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี แม้ว่าในปัจจุบันสุขภาพร่างกายของท่านจะไม่ค่อยสมบูรณ์แข็งแรงนัก แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ได้กราบนมัสการสัมภาษณ์ท่านทั้งในเรื่องของวัตรปฏิบัติและมุมมองของท่านที่มีต่อเรื่องต่างๆ

    ขอเชิญท่านทั้งหลาย ติดตามอ่านกันได้ ณ บัดนี้


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -​

    โยม: สุขภาพของหลวงปู่ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ?

    หลวงปู่: ก็รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ

    โยม: เห็นลูกศิษย์บอกว่าช่วงนี้ หลวงปู่ต้องเดินทางไปฟอกไตที่กรุงเทพฯทุกสัปดาห์เลยเหรอครับ ?

    หลวงปู่: ใช่ ... อาตมาต้องไปฟอกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
    หลวงปู่มีปัญหาเรื่องไตมานานหรือยังครับ?

    ก็เริ่มจากเป็นโรคเบาหวาน เป็นมา 20 กว่าปีแล้ว แล้วก็มาเป็นโรคหัวใจ หัวใจตีบ 3 เส้น เริ่มเป็นประมาณปี 2535 ส่วนโรคไตมาเป็นหนักๆ ก็เมื่อ 3 ปีมานี้เอง


    โยม: เป็นอย่างนี้หลวงปู่เป็นทุกข์ไหมครับ?

    หลวงปู่: ไม่ทุกข์หรอก เพราะสังขารทั้งหลายล้วนไม่เที่ยง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นของธรรมดา

    โยม: หลวงปู่อยากหายไวๆ มั๊ยครับ?

    หลวงปู่: อยาก ... (หัวเราะ)

    โยม: แล้วเมื่อไหร่จะหายล่ะครับ หลวงปู่ครับ?

    หลวงปู่: เดี๋ยวก็หาย

    โยม: โรคภัยที่เกิดขึ้นจะสามารถอธิบายในเชิงธรรมะได้อย่างไรครับ?

    หลวงปู่: สังขารก็ต้องมีเสื่อมไปตามธรรมชาติ

    โยม: การเจ็บไข้ได้ป่วยจะถือเป็นเรื่องกรรมได้หรือไม่ครับ?

    หลวงปู่: ได้ ... ที่อาตมาไม่ค่อยสบายก็เป็นกรรมที่เกิดจาก 2 ชาติ ไม่ว่าจะเป็รกรรมที่ทำไม่ดีไว้ในชาติที่แล้วหรือในชาติปัจจุบัน

    โยม: แล้วเราจะแก้กรรมได้อย่างไรครับ?

    หลวงปู่: ก็หมั่นทำความดี ละเว้นชั่ว

    คำว่า พระอรหันต์ หมายถึงผู้ถึงนิโรธ คือความดับทุกข์ ผู้ที่มีความสุขแล้วจะไปหาความสุขที่ไหนอีกเล่า คนที่แสวงหาความสุขอยู่ ก็คือ ผู้มีทุกข์ ยกรูปเปรียบคนที่หิว อาศัยความหิวเป็นเหตุ จึงแสวงหาของรับประทาน คนที่อิ่มออกมาจากครัวเดี๋ยวนี้ เขายังจะต้องวิ่งเข้าครัวไปหาของรับประทานอีกหรือ คนที่อาบน้ำมาเดี๋ยวนี้สะอาดแล้วเย็นแล้ว เขายังจะต้องวิ่งไปหาน้ำอาบอีกหรือ

    โยม: ระยะนี้หลวงปู่ยังคงปฏิบัติธรรม และบำเพ็ญภาวนาได้เป็นปกติหรือเปล่าครับ?

    หลวงปู่: ก็ทำได้ นอนก็ทำได้ นั่งก็ทำได้ ก็จะภาวนาว่า พุท-โธ ทุกลมหายใจเข้าออก

    โยม: การภาวนา "พุท-โธ" มีความสำคัญอย่างไรครับ?

    หลวงปู่: ทำให้เกิดสมาธิ และทำให้จิตใจสงบสุข

    อยากให้ญาติโยมรู้จักการภาวนา "พุท-โธ" เพราะจะทำให้ใจสงบ ถ้าใครจิตใจขุ่นมัว ต้องพยายามภาวนาพุท-โธ จะทำให้จิตสงบ เกิดความเป็นสุขได้ เนื่องจากจิต คือ ตัวเราเองเป็นไทย ไม่ใช่ทาส มีอิสระในตัวเต็มที่ เป็นจิตที่ไม่โง่ เป็นจิตที่ฉลาด จิตรู้ คือรู้ดี รู้ชั่ว รู้สุข รู้ทุกข์ ไม่ยึดเอาเรื่องทุกข์เป็นเรื่องสุข จิตนี้เป็นประภัสสร เพราะจิตสะอาด ปราศจากสิ่งปรุง กิเสลตัณหาเจ้านายของจิตก็ถูกสติขับไล่ออกไปแล้ว สติปัญญาก็เลบเข้าไปทำงานแทนกิเลส จิตก็เป็นด้วยกำลังของสติปัญญา

    เมื่อบังคับออกมาภายนอก คือ ทางกาย และวาจา ก็สั่งออกมาด้วยกำลังของสติปัญญา จะพูดอะไร จะฟังอะไรทั้งหมดทุกอย่างไม่ได้เป็นอำนาจกิเลสตัณหาเลย ก็เป็นไปด้วยสติกำลังปัญญานำพาทุกอย่าง สติ ปัญญา เป็นตัวรู้ จึงควรให้นามผู้รู้อย่างนี้ว่า "พุท-โธ" เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยความรู้ คือ สติปัญญานำพา จึงเรียกว่า ผู้ไม่หลงสังขาร คือ ความปรุง เรียกว่าผู้ถึง อสังขตะธรรม หรือ อสังขตะธาตุ หมายถึง มโนธาตุ คือใจ เป็น อสังตะธาตุ

    โยม: เรื่องการภาวนาว่า "พุท-โธ" ทุกลมหายใจเข้าออกนี่ หลวงปู่มั่นเป็นคนสอนหลวงปู่เลยใช่มั๊ยครับ?

    หลวงปู่: ใช่ ท่านสอนให้ละความชั่ว ทำความดี และการภาวนาพุทโธ..

    โยม: กิจวัตรประจำวันของหลวงปู่ตอนนี้ ทำอะไรบ้างครับ?

    หลวงปู่: ตื่นเช้า 6 โมงเช้า ก็ทำกายภาพบำบัด ไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็ลงไปต้อนรับญาติโยมประมาณ 9 โมงเช้า สัก 1 ชั่วโมง ก็กลับกุฏิเพื่อพักผ่อน ช่วงเย็นก็ลงไปให้อาหารปลาที่สระหน้าวัด แล้วก็เข้าจำวัดประมาณ 3-4 ทุ่ม

    โยม: เห็นลูกศิษย์บอกว่า ตอนนี้หลวงปู่ต้องเดินทางไปดูงานสร้างวัดที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นประจำเลยเหรอครับ?

    หลวงปู่: ใช่ ... อาตมาต้องเดินทางไปดูงานที่ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะไปครั้ง เพราะกำลังสร้างวัดป่าม่วง และสวนธรรมอยู่ที่นั่น คาดว่าอีก 1 - 2 ปี ก็คงเสร็จ

    โยม: สุขภาพของหลวงปู่ช่วงนี้ยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำไมหลวงปู่ต้องไปเองล่ะครับ ให้คนอื่นไปคุมงานแทนไม่ได้เหรอครับ ?

    หลวงปู่: ของบางอย่าง เราก็ต้องไปเอง ให้คนอื่นไปแทนไม่ได้

    ดังนั้น ในช่วงนี้ บางเสาร์ - อาทิตย์ก็จะไปตรวจงาน และจำวัดอยู่ที่วัดป่าม่วง ถ้าไม่ไปก็อยู่ที่วัดเขาสุกิม ส่วนวันพุธถึงวันศุกร์ ก็ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปฟอกไตที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ


    โยม: ขอเรียนถึงหลวงปู่ถึงเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่บ้างนะครับ เริ่มแรกที่หลวงปู่คิดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา เพราะเหตุใดครับ?

    หลวงปู่: ก็เพราะถูกญาติเขาอยากได้ไว้เป็นที่ระลึก และอาตมาก็ตั้งใจให้ผู้ที่ต้องการวัตถุมงคลไปใช้นั้น ให้เขาทำมาหากินมีความเจริญรุ่งเรือง ให้เขามีอายุ วัณโณ สุขัง พะลัง
    แต่หลวงปู่มั่น องค์อาจารย์ของหลวงปู่ไม่ส่งเสริมให้มีการสร้างวัตถุมงคลใดๆ เลย เพราะเกรงว่า


    โยม: คนจะยึดติดในวัตถุมากกว่าการพัฒนาจิตใจใช่มั๊ยครับ?

    หลวงปู่: ใช่ ท่านไม่ชอบ

    โยม: ทำไมหลวงปู่มั่นจึงไม่ชอบสร้างวัตถุมงคลให้ญาติโยมได้นำไปใช้กันล่ะครับ?

    หลวงปู่: ท่านเคยบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของไม่ดี เพราะทำให้จิตใจคนฟุ้งซ่าน เมื่อสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาก็จะทำให้คนเกิดกิเลส อยากได้ อยากมี เป็นเหตุทำให้คนเกิดความฟุ้งซ่าน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
    แต่ถ้ามีคนอยากได้วัตถุมงคลเพื่อใช้ป้องกันตัวนั้น ท่านก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพียงแต่ขอให้ทุกคนรู้จักมีความเมตตากรุณา

    โยม: นี่ถ้าหลวงปูมั่นยังมีชีวิตอยู่ และได้รู้ว่าหลวงปู่สมชายสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา หวงปู่มั่นคงต้องดุหลวงปู่น่ะซิครับ?

    หลวงปู่: ใช่ ๆ (หัวเราะ) ท่านคงพูดว่าอย่าไปทำ ทำขึ้นมาทำไม

    โยม: แล้วหลวงปู่จะตอบหวงปู่มั่นยังไงล่ะครับ?

    หลวงปู่: ก็บอกว่าญาติโยมเขาอยากได้ (หัวเราะ)

    โยม: วัตถุมงคลของหลวงปู่เน้นพุทธคุณทางด้านไหนบ้างครับ?

    หลวงปู่: เน้นไปทางพระรัตนตรัย คือ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เพื่อให้ผู้ที่นำวัตถุมงคลไปใช้ได้รู้จักปฏิบัติธรรม รู้จักทำความดีกันให้มากขึ้น

    โยม: เวลาปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงปู่ใช้คาถาบทไหนครับ?

    หลวงปู่: ก็ใช้ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ นี่แหละ

    โยม: หลวงปู่เสกวัตถุมงคลอย่างไรบ้างครับ?

    หลวงปู่: ก็อธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นประจำทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่จำวัดในเวลาประมาณ 4-5 ทุ่มไปแล้ว

    โยม: สุขภาพของหลวงปู่ยังไม่ค่อยแข็งแรงอย่างนี้ การปลุกเสกจะมีพลังเหมือนช่วงที่ยังแข็งแรงดีหรือเปล่าครับ?

    หลวงปู่: แม้สุขภาพของอาตมาจะไม่แข็งแรง ก็ไม่เป็นสาเหตุให้พลังอธิษฐานจิตลดลง เพราะ ทุกอย่างอยู่ที่กระแสจิต ไม่ใช่อยู่ที่สุขภาพร่างกาย

    โยม: การอธิฐานจิตวัตถุมงคลโดยใช้เวลาน้อย กับใช้เวลานาน ผลที่จะ ได้แตกต่างกันไหมครับ?

    หลวงปู่: ไม่ว่าจะนั่งสมาธิจิตเพียง 5 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ความขลังของพลังก็เหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างกัน เพียงแต่ให้มีความตั้งใจระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยิ่งจะทำให้วัตถุมงคลเกิดเป็นผลในทางปฏิบัตินั้น ผู้ใช้ต้องเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรม ธรรมคุณ สังฆคุณนี่แหละ

    โยม: สมัยนี้ วัดต่างๆ มีการสร้างวัตถุมงคลออกมาให้เช่าบูชา จนถูกมองเป็นพุทธพานิชย์หลวงปู่คิดอย่างไรครับ

    หลวงปู่: ที่เขาสร้างขึ้นมา ก็เพราะเขาต้องการได้ปัจจัยมาสร้างเสนาสนะต่างๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่ญาติโยมมีวัตถุมงลเสมือนมีองค์ตัวแทนพระสัมสัมพุทธเจ้า และช่วยเป็นกำลังใจให้หมั่นทำความดี ส่วนข้อเสียก็ทำให้คนเราเกิดกิเลสอยากได้ เกิดเป็นสิ่งงมงายตามมา เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

    โยม: หลวงปู่มองเรื่อง "ไสยศาสตร์" อย่างไรครับ?

    หลวงปู่: ไสยศาสตร์จริงๆ เกิดขึ้นมาจากความกลัว ไม่ว่าจะเป็นการออกไปสู้รบในศึกสงคราม เมื่อคนเราไม่มีอะไรเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่เมื่อมีเครื่องรางของขลังก็ทำให้ผู้นั้นเกิดความมั่นใจ มีความกล้าหาญมากขั้น อาตมาพอสรุปให้ฟังได้ว่า ไสยศาสตร์เกิดขึ้นมาได้ เพราะความกลัว และความทุกข์ จึงเป็นเหตุให้ครูบาอาจารย์สมัยนั้น ค้นคิดหาสิ่งป้องกันและวิธีทำให้เกิดความอุ่นใจนั่นเอง

    โยม: สมัยนี้ มีพระสงฆ์ทำเสน่ห์ สักยันต์ และเป่าเวทมนต์ต่างๆ ให้แก่ญาติโยมมากมาย หลวงปู่มองอย่างไรครับ?

    หลวงปู่: ถือเป็นเรื่องที่ผิดวินัย แต่ที่เห็นมีพระอาจารย์หลายรูปทำเช่นนั้น เป็นเพราะไม่รู้จักบาป
    ตั้งแต่อาตมาบวชมาไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้เลย กฏระเบียบที่อาตมาได้ตั้งไว้ให้ปฏิบัติ คือ ห้ามไม่ให้มีการทำการสักยันต์ลงนะหน้าทอง หรือแม้แต่มีคนมากินเหล้าในวัด หากพระรูปนั้นไม่สามารถพูดให้เขาเลิกดื่มได้ ก็จะถูกพิจารณาลงโทษ

    โยม: ในความเห็นของหลวงปู่ คิดว่า "ธรรมะ" มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์เพียงใดครับ?

    หลวงปู่: สำคัญซิ ธรรมะจะสอนให้คนเรารู้จักละความชั่ว และการละความชั่วอย่างเดียวยังไม่พอ แต่ต้องรู้จักบำเพ็ญบุญกุศลด้วย บำเพ็ญบุญกุศลอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องรู้จักชำระจิตใจของตนให้สะอาดหมดจด นี่แหละ 3 อย่าง ที่อาตมาอยากให้ทุกคนยึดเป็นหลักดำเนินชีวิต

    โยม: เวลาที่ญาตืโยมมากราบนมัสการ หลวงปู่ให้พรอะไรกับบรรดาญาติโยมบ้างครับ?

    หลวงปู่: ก็ให้พวกเขาพยายามรักษาศีล
    ในปัจจุบันนี้ ทำไมมีคนทำผิดศีลกันมากล่ะครับ
    เพราะสังคมทุกวันนี้มีสิ่งยั่วยุทางอารมณ์หลายร้อยเท่า หากเปรียบเทียบกับสิ่งแวดล้อมในอดีต โดยเฉพาะศีลข้อที่ 1 คนเราต้องรักษาศีลข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการสร้างเวรสร้างกรรมไม่จบสิ้น หลายคนที่มีอันเป็นไปในลักษณะ ร้ายแรงก่อนเวลานั้น ก็มาจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต


    โยม: ในชีวิตของหลวงปู่เคยฆ่าสัตว์บ้างไหมครับ?

    หลวงปู่: อาตมาก็เคยฆ่าสัตว์เหมือนกัน ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ
    ผลกรรมที่ทำก็ส่งผลให้เห็นกันในชาตินี้แหละ ไม่ต้องไปรอให้ถึงชาติหน้าขึ้นอยู่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง


    โยม: แสดงว่าเรื่องเวรกรรม เป็นสิ่งมีจริงใช่ไหมครับ?

    หลวงปู่: มีจริง แต่มีหลายคนไม่เชื่อในเรื่องของเวรกรรมนั้น ก็เป็นเรื่องของเขา คงไม่สามารถไปบอกให้เชื่อในเรื่องเวรกรรมได้ทั้งหมด อยู่ที่จิตใของคนๆ นั้นเองว่าจะเข้าใจถึงเวรกรรมมากน้อยเพียงใด สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่เราจะไปสอนใครได้ ผู้นั้นจะต้องรักษาศีลให้ได้เสียก่อน ชีวิตก็จะเกิดเป็นความสุข จากนั้น จึงค่อยไปสอนให้คนอื่นได้ล่วงรู้ถึงเวรกรรมอย่างแท้จริงได้

    โยม: หลวงปู่อยากฝากอะไรไปถึงญาติโยมที่กำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่บ้างครับ?

    หลวงปู่: ก็อยากให้ทุกคนเลิกประพฤติความชั่ว ให้หันมาปฏิบัติทำความดี มีความเมตตาต่อกันและกัน หากคนไหนต้องการที่อยากจะร่ำรวย ก็ต้องมีความขยันมั่นเพียร มีความซื่อสัตว์ต่อหน้าที่ และอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ชีวิตไม่สงบสุข เมื่อประมาทครั้งใดก็จะทำให้เกิดทุกข์


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -​

    เรื่อง - กวี สกาวไพร. สุทธิคุณ กองทอง
    ภาพ ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์



    หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ฉบับวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2545

    ขอบคุณที่มา: ละชั่ว ทำดี มีพุทโธอยู่ทุกลมหายใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • newskcl.jpg
      newskcl.jpg
      ขนาดไฟล์:
      478 KB
      เปิดดู:
      2,192
    • Y8717226-4.jpg
      Y8717226-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.3 KB
      เปิดดู:
      3,730
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2013
  2. ธีระนะโม

    ธีระนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,694
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,226
    เมื่อวานฟัง คริปจากคุณปัญญาในyoutube ลูกศิษย์หลวงพ่ออยู่เลย ท่านเห็น รู้ ในจิตทุกอย่างล่วงหน้า แม้แต่ท่านพ่อลี ยังกล่าวว่าจะมีผู้มีบารมีเทียมเท่าท่านเลยไปอยู่ภาคตะวันออก สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...