หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 7 ธันวาคม 2016.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    1.เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน (เนื้อทองแดง) บูชา xx,xxx บาท (ปิดรายการครับ)

    เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน จัดสร้างโดยพี่ชัยหรือกำนันสัญชัย มีเนื้ออัลปาก้า 1,000 เหรียญ เนื้อทองแดง 1,000 เหรียญ และได้มอบให้คุณภักดีภูริ จำนวน 300 เหรียญ

    คุณภักดีภูริ อยู่ในเหตุการณ์ตอนจัดสร้างเหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน พิธีเสกเหรียญรุ่นนี้ไม่เหมือนเกจิอาจารย์ที่ไหน โดยหลวงปู่ท่านนั่งเพ่งดูสักครู่แล้วท่านก็โยนเหรียญทั้งหมดลงพื้นดิน แล้วบอกให้พี่ชัยและพี่สามารถไปเก็บเหรียญขึ้นมา

    หลังจากนั้นผู้ที่ได้รับเหรียญไปเกิดประสพการณ์ปาฏิหารย์มากมายจนเป็นที่เสาะหา ด้วยมีจำนวนน้อยแค่สองพันเหรียญ และกลายเป็นเหรียญยอดนิยมในเวลาต่อมา


    เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน (เนื้อทองแดง) ผมเช่าบูชามาจากคุณภักดีภูริ(นักเขียนมีชื่อในเครือหนังสือโลกทิพย์-โลกลี้ลับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2018
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2018
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ผมเคยไปกราบและทำบุญกับหลวงปู่สรวง เมื่อนานมาแล้ว สมัยปี 2543

    ช่วงนั้นทำงานเป็นวิศวกร จบจากพระจอมเกล้าลาดกระบัง เงินเดือนอีกไม่กี่พันก็เกือบสองหมื่น ก็พอมีเงินได้ทัวร์ทำบุญตามต่างจังหวัดบ้าง

    วันที่เดินทางไปถึงกระต๊อบที่หลวงปู่สรวงพักอาศัย ก็มีผู้คนอยู่พอสมควร สงสัยเขาคงมารอหรือขอเลขเด็ด

    เมื่อคณะใหญ่ในทัวร์บุญที่ผมเดินทางไปด้วยรถบัสขนาดใหญ่ ผู้คนจากคณะทัวร์ก็ลงจากรถ เข้าไปกราบหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน

    บางท่านก็นำข้าวของ และปัจจัยทำบุญกับหลวงปู่สรวง แต่ที่ผมสังเกตเห็นก็คือ เมื่อมีบุคคลถวายปัจจัย หลวงปู่สรวงจะโยนเข้ากองไฟ

    สิ่งที่ผมปลื้มมากๆ มีปิติมากๆ ในวันนั้น ก็คือ เมื่อถึงคิวที่ผมจะได้ทำบุญกับหลวงปู่สรวง ผมก็เข้าไปหาหลวงปู่สรวง นำเงิน 100 บาท มอบถวายหลวงปู่สรวง และบอกว่าผมมาจากกรุงเทพ มาทำบุญกับหลวงปู่ ปรากฏว่าหลวงปู่ไม่โยนเงินเข้ากองไฟ แต่หลวงปู่สรวงนำเงินที่ผมถวายเก็บเข้าที่รัดประคตเอว ญาติธรรมอีกท่านที่ผมรู้จัก(ท่านผู้มีอภิญญา) ก็ถวายเงิน 100 บาท ตามผมในลำดับถัดไป หลวงปู่สรวงก็นำเงินเก็บเข้าที่รัดประคตเอวเช่นกัน ปรากฎว่าในวันนั้นผมคิดว่ามีเพียงเงินของผมและผู้มีอภิญญาที่ถวายหลวงปู่แล้วหลวงปู่ไม่โยนเข้ากองไฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน พระอริยะเจ้าแห่งทุ่งละลม

    0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87-450x600.jpg

    เพื่อเป็นการเผยแผ่บารมีธรรมของหลวงปู่สรวง จึงขออนุญาตนำเรื่องนี้มาลงและขอขอบคุณ ทิพยจักร ผู้เขียน มา ณ โอกาสนี้

    เรื่องราวของหลวงปู่สรวงแห่งทุ่งละลมเป็นเรื่องราวที่เล่าขานมานานหลายต่อหลายชั่วอายุคน ว่ามีพระอริยะเจ้าองค์หนึ่งมีอายุยืนยาวหลายร้อยปี มีผู้พบเห็นมาตั้งแต่รุ่นทวด รุ่นปู่ย่าตายายจนกระทั่งรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่ท่านก็ยังคงสภาพอยู่อย่างนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังมีปาฏิหาริย์สารพัด เป็นเรื่องเหนือโลก เหนือความคิด ความคาดหมายของปุถุชนธรรมดา โดยกล่าวกันว่าท่านเดินตากฝนไม่เปียก ดำน้ำได้เป็นชั่วโมงๆ ล่องหนหายตัว เดินย่นย่อระยะทาง รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้อย่างน่าอัศจรรย์ และมีอีกหลายต่อหลายเรื่อง เรียกว่าเป็นเรื่องเล่าที่ไม่รู้จบ ล้วนมีแต่ความน่าอัศจรรย์พิศวงในตัวท่านทั้งนั้น
    ความเป็นมาจริงๆของเรื่องหลวงปู่สรวงนั้นไม่มีใครทราบประวัติท่านแน่ชัด เพราะท่านไม่เคยบอกใคร ใครถามท่านว่าท่านจำไม่ได้ เขาเรียกเราว่าสรวงก็สรวง คำพูดคำตอบของหลวงปู่สรวงนั้น ฟังดูแล้วหากพิจารณาดีๆท่านมีความมุ่งหมายให้ผู้ถามผู้ฟังทั้งหลายเลิกยึดตัวตน เข้าหาธรรมแท้ ความปล่อยวางเป็นหลัก อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นปุถุชนคนธรรมดา ก็ยังอยากรู้เรื่องราวของท่านว่าท่านคือใคร แม้ไม่รู้ก้อยากรู้ปาฏิหาริย์ของท่านอยู่ดี ซึ่งแท้จริงไม่ใช่เรื่องหลุดพ้นแต่อย่างใด
    หลวงปู่สรวง ท่านเป็นสรณะที่พึ่งของชาวสุรินทร์ ชาวศรีษะเกศ และทั้งผู้ศรัทธาทั้งใกล้และไกล รวมๆแล้วก็น่าจะมีผู้นับถือท่านอยู่ทั่วประเทศ เพราะกิติศัพท์ของท่านนั้นเลื่องลือจริงๆ ไม่ว่าการให้โชคลาภ การโปรดผู้ยากให้พ้นจากความทุกข์ทั้งการกินอยู่ การเงิน ต่างๆ ผู้ที่ท่านโปรดล้วนได้รับความสุขกายสุขใจ เปรียบดังว่าได้ตายแล้วเกิดใหม่ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนมากต่างพยายามแสวงหาที่จะพบท่านให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นบุญวาสนา บางท่านได้เจอแต่บางท่านก็ผิดหวัง แต่กระนั้นหากมีความเชื่อความศรัทธาอย่างแน่นแฟ้นว่า หลวงปู่สรวงท่านเป็นพระผู้วิเศษมีจิตเป็นทิพย์ท่านย่อมรู้เรื่องราวที่เราอธิษฐานถึงท่านด้วยความจริงใจ และมีหลายต่อหลายคนที่ได้ประสบปาฏิหาริย์จากการอธิษฐานถึงหลวงปู่สรวงโดยการอธิษฐานต่อหน้ารูปของท่านบ้างหรือแม้แต่พนมมือขอบารมีท่านก็ยังมี
    ตัวผู้เขียนเองนั้นไม่เคยได้กราบหลวงปู่สรวง แต่ได้ยินเรื่องเล่าของท่านจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่เคยได้ติดตามท่าน อย่างหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบราษฏ์บำรุง ท่านเล่าว่าท่านเองพบเห็นหลวงปู่สรวงมาแต่เล็ก หลวงปู่สรวงท่านปักผ้าขาวไว้ที่ไหน ชาวเขมรอพยบที่หนีภัยสงครามจะมารวมกันอยู่บริเวณเพราะรู้กันว่าจุดที่หลวงปู่ปักผ้าขาวไว้ ลูกระเบิดไม่เคยตกลงมาสักครั้ง เพราะบารมีหลวงปู่คุ้มครอง ยามที่ชาวบ้านที่หนีตายจากภัยสงครามอดอยากหิวโหย ด้วยขาดแคลนอาหารการกินนั้นหลวงปู่สรวงท่านจะมีหม้อข้าวเล็กนำมาหุงจากนั้นก็ตักข้าวให้กับผู้ลี้ภัยสงครามทุกคน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อหม้อเล็กๆที่เด็กใช้เล่นกันนั้นกลับสามารถมีข้าวเพียงพอแก่ความต้องการทุกคนอย่างน่าอัศจรรย์
    สมัยเด็กหลวงพ่อสร้อยหรือเด็กชายสร้อยสมัยนั้น เคยถูกชวนจากหลวงปู่ให้เดินจากศรีษะเกศไปจังหวัดจันทบุรี ด้วยว่ามีคหบดีท่านหนึ่งจากจันทบุรีนิมนต์ท่านให้ไปฉันเพลที่บ้าน หลวงปู่ตอบตกลงพอถึงวันนัด หลวงปู่ปลุกเด็กชายสร้อยแต่เช้าตรู่ตอนตีสี่ จากนั้นทั้งหลวงปู่สรวงกับเด็กชายสร้อยต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง แสงแดดก็เริ่มแรงกล้าขึ้นทุกขณะ เด็กชายสร้อยก็เริ่มหมดแรงเพราะเดินมานานหลายชั่วโมง และไม่มีทีท่าว่าจะถึงสถานที่นัดหมายของเจ้าภาพนั้นได้ มันจะเป็นไปได้อย่างไรด้วยการเดินเท้าเปล่าจากศรีษะเกษไปจันทบุรี ที่สุดเมื่อเด็กชายสร้อยรู้สึกเหนื่อยจนใจจะขาดแล้วนั้น ก็เอ่ยปากถามหลวงปู่สรวงขึ้นว่า หลวงปู่มันจะถึงหรือเนี่ย หลวงปู่สรวงตอบว่าเดินตัดทุ่งนาที่เห็นนี่ก็ถึงบ้านเจ้าภาพแล้ว เด็กชายสร้อยคิดว่าหลวงปู่พูดหลอกตน เพราะมันไม่น่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน มันจะเป็นไปได้อย่างไรเล่ากับการเดินด้วยเท้าเปล่า แต่เด็กชายสร้อยก็อดทนเดินตามหลวงปู่ไป เมื่อพ้นจากเขตทุ่งนาเด็กชายสร้อยก็เข้าไปถามคนละแวกนั้นว่าที่นี่ที่ไหน คำตอบที่ได้คือ เขตจังหวัดจันทบุรี คำตอบที่ออกมาจากปากคนแถวนั้นเป็นสิ่งที่เด็กชายสร้อยแทบไม่เชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว พักเดียวหลวงปู่สรวงก็พาเด็กชายสร้อยขึ้นไปบนบ้านเจ้าภาพ ทันเวลาฉันเพลพอดี
    เรื่องอัศจรรย์เช่นนี้มีอีกมาก หลวงพ่อสร้อยเคยเล่าว่าบางครั้งท่านนั่งรถตู้จากกรุงเทพไปทุ่งละลมเพื่อกราบหลวงปู่สรวง พอรถวิ่งเข้าเขตทุ่งละลมบางครั้งเห็นหลวงปู่สรวงท่านเดินดุ่มๆอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนักท่านก็บอกคนขับรถว่าให้ขับแซงหน้าหลวงปู่ขึ้นไปจะได้รับหลวงปู่ขึ้นรถ คนขับก็เหยียบเกียร์เร่งหมายให้ทันหลวงปู่สรวงที่เดินอยู่ข้างหน้าไม่ไกลนัก แต่แปลกอะไรเช่นนั้นรถเร่งความเร็วเท่าไหร่ระยะห่างระหว่างหลวงปู่กับรถยังเท่าเดิม และทุกคนก็เห็นว่าหลวงปู่ท่านเดินเนิบๆอย่างมที่ท่านเคยเดินและหลวงปู่เองก็ชราแล้วไม่ได้เดินเร็วสักหน่อยแล้วทำไมรถถึงตามไม่ทัน เมื่อหลวงพ่อสร้อยฉุกคิดได้ ท่านจึงบอกให้รถหยุด จากนั้นท่านจึงเดินลงไปตามหลวงปู่สรวง ก็เดินทันนับเป็นเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับการเดินหนย่นระยะทางที่หลวงปู่สรวงท่านแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์
    พวกเราชาวภาคกลางคนกรุงเทพเรียกท่านว่าหลวงปู่สรวง แต่สำหรับคนศรีษะเกษจะเรียกท่านว่าลูกตาเบ๊าะ หรือลูกตาเอ็อว แปลว่าพระดาบส แม้ว่าหลวงปู่สรวงจะสิ้นไปแล้วแต่ท่านก้ยังอยู่ในความทรงจำและเป้นอีกตำนานของพระผู้วิเศษแห่งภูตะแบง


    หลวงปู่สรวง (ลูกตาเบ๊าะ) ผู้วิเศษแห่งภูตะแบง
    ผู้เขียนเองเคยได้ยินคำร่ำลือมาแต่เด็กว่าตามตะเข็บชายแดนไทยกัมพูชานั้นเต็มไปด้วยป่าดิบ มีอันตายทั้งจากกับดักระเบิด สัตว์ร้าย โรคภัยไข้เจ็บ ภูตผีปีศาจ แต่กระนั้นก็เต็มไปด้วยผู้มีวิชาอาคม พระผู้วิเศษ ฤาษีชีไพร ที่หลีกเร้นซ่อนกายบำเพ็ญตบะณานอันแรงกล้า พระผู้วิเศษ และฤาษีชีไพร โยคีที่กล่าวถึงเหล่านั้น หลายท่านมีอายุเกินกว่าร้อยปีขึ้นไปทั้งนั้น
    อำนาจจิตจากการบำเพ็ญตบะณาน ประกอบด้วยอิทธิบาทสี่ ทำให้ฤาษีโยคีและพระผู้วิเศษทั้งหลายสามารถชนะกาลเวลา รักษาสังขาร มีอายุยืนนานนับร้อยนับพันปี หลวงปู่แหวน สุจินโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ศิษย์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เล่าวว่าสมัยที่ท่านเดินธุดงค์ไปยังภูเขาควายและป่าลึกแถบจำปาศักดิ์นั้นท่านเคยพบโยคีบางตนมีอายุหลายร้อยปีนั่งนิ่งจิตดิ่งอยู่ในฌานสมาบัติ มีต้นโพธิ์ต้นไทรขึ้นโอบ บางตนก็มีจอมปลวกขึ้นหุ้มตัว บางตนเล่าก็มีหินงอกหินย้อยขึ้นตามร่างกายหุ้มไว้กลายเป็นหิน ท่านว่ามหาโยคีฤาษีเหล่านี้ไม่ตายนะ แต่จิตอยู่ในฌานบางตนถอดจิตไปชั้นพรหมโลก ที่เป็นฤาษีโพธิสัตว์ก็มี ท่านเหล่านี้มีฤทธิ์มากแม้ต้องการออกโปรดสัตว์ก็ใช้อำนาจจิตสลายสิ่งห่อหุ้มร่างกายออกเป็นจุลมหาจุล เที่ยวออกโปรดสัตว์ได้ตามสบาย ท่านเหล่านี้หลวงปู่แหวนกล่าวว่าแม้ได้ฟังธรรมจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะบรรลุไม่ตกต่ำ
    เรื่องที่หลวงปู่แหวนเล่านั้นดุจดั่งนิทานปรำปะรา แต่สำหรับชาวชนบทห่างไกล อย่างเมืองสุรินทร์ ศรีษะเกษนั้น ชาวบ้านแถบนั้นกลับมีพระผู้วิเศษที่มีวัตรปฏิปทาดุจดั่งมหาฤาษีโยคีที่หลวงปู่แหวนเคยเล่าไว้ไม่มีผิดนั่นคือ หลวงปู่สรวง ผู้วิเศษแห่งภูตะแบงนั้นเอง
    ด้วยว่าวัตรปฏิบัติและความเป็นมาของหลวงปู่สรวงนั้นลี้ลับ ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงท่านคือใคร บางคนร่ำลือว่าท่านเป็นพระเจ้าชัยวรมันพระองค์หนึ่ง บ้างก็ว่าสันณิฐานไปต่างๆนาๆ บางคนเชื่อว่าท่านคือขรัวขี้เถ้าหนึ่งในคณะโลกอุดรที่ร่ำลือกัน แต่ที่แน่ๆคือหลวงปู่สรวงนั้นมีอายุยืนยาวมาหลายร้อยปีแล้ว เห็นกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายยาย มีอายุเฉลี่ยอย่างต่ำก็ไม่น้อยกว่า ๒๗๕ ปีอย่างแน่นอน ทั้งยังมีฤทธิ์ปาฏิหาริย์เป็นที่อัศจรรย์อีกด้วย เช่นหุงข้าวหม้อเล็กนิดเดียวแต่แจกจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่หมด สามารถเดินหนย่นระยะทางได้ มีความสามารถแบบผู้ทรงอภิญญาสมาบัติอย่างน่าอัศจรรย์ รู้เห็นมิติต่างๆ เข้าออกดินแดนลี้ลับไปมาอย่างอัศจรรย์ยิ่ง
    ในอดีตที่ผ่านมาเคยมีทั้งพระและฆราวาสที่ได้ร่วมเดินทางเข้าสู่ดินแดนลี้ลับแห่งเขมรและเป็นประจักษ์พยานถึงสิ่งลี้ลับในโลกที่ซ่อนเร้นสายตามนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย เช่นดินแดนที่มีทองคำและเพชรพลอยงอกออกมาจากดินอยู่ตามลำธารอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อลองเอามือไปหยิบจับดู ทองคำที่งอกออกจากดินนั้นก็อ่อนนิ่มคล้ายเทียนโดนไฟลน แต่กลับไม่สามารถดึงให้ขาดออกมาได้ เป็นเรื่องน่าแปลกอย่างยิ่ง
    หลวงปู่สรวงจะบอกกับคณะที่ติดตามท่านไปนั้นว่ามันเป็นของเขา เพียงคำเดียวเท่านี้ ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่ของๆเรา คำว่าของเขา อาจหมายถึงมันเป็นของธรรมชาติ เป็นสมบัติแผ่นดิน เป็นของผู้มีบุญญาธิการเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ไปกับท่านจึงได้แต่ดู และเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้ในความทรงจำเท่านั้น ถือว่าเพียงเท่านี้ก็เป็นบุญวาสนาของชีวิตที่ได้เห็นของจริง ว่าในโลกนี้ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นอีกมากมายนัก
    ในชั่วระยะเวลาที่หลวงปู่สรวงได้โปรดลูกหลานทั้งหลายนั้น ท่านได้แสดงตัวอย่างของผู้ละโลก พร้อมทั้งแสดงความจริงในศักยภาพของจิตอันเป็นไปตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดาได้เป็นอย่างดีที่สุด แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาหลวงปู่จะพูดน้อยที่สุด แต่การกระทำของท่านนั้นยิ่งกว่าคำพูดเป็นหมื่นเป็นแสนคำ
    หลวงปู่สรวง พระผู้พ้นไปจากโลกและความนึกคิดของปุถุชน ผู้มีจิตเมตตาไม่มีประมาณ และเป็นแสงสว่างให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นที่พึ่งให้กับผู้ที่ยังเวียนว่ายในสังสารวัฏฏ์ ผู้เขียนเชื่ออย่างยิ่งว่าพระผู้พ้นโลกย่อมเป็นผู้ที่มัจจุราชไม่เห็นตัว มัจจุราชย่อมไม่อาจทำอันตรายแก่ผู้พ้นโลกไปแล้วได้ฉันใด หลวงปู่สรวงย่อมเป็นพระผู้อยู่เหนือสมมุติทางโลกรวมทั้งความตายด้วยฉันนั้น


    หลวงปู่สรวงเพ่งกสิณไฟ
    ครั้งที่แล้วได้เล่าเรื่องประสบการณ์ของพระอาจารย์สร้อย วัดเลียบราษฏ์บำรุง เขตบางซื่อ ซึ่งถือเป็นท่านหนึ่งที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดและสัมผัสปาฏิหาริย์จากหลวงปู่สรวง แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ว่าในปัจจุบันท่านได้มรณภาพไปแล้ว
    ตอนที่ผู้เขียนไปกราบหลวงพ่อสร้อยสมัยก่อนนั้น ไปแต่ละครั้งก็จะได้ยินที่น่าอัศจรรย์ เกี่ยวกับหลวงพ่อสร้อยบ่างหลวงปู่สรวงบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของหลวงปู่สรวงนั้นแทบจะได้ฟังเรื่องราวไม่ซ้ำกันเลย เรื่องหนึ่งที่ยังจำได้เล่าว่าศิษย์ติดตามหลวงพ่อสร้อยท่านหนึ่งเป็นโรคหอบหืด เมื่ออาการกำเริบจะทรมานมาก ครั้งหนึ่งขณะที่ติดตามหลวงปู่สรวง หลวงปู่ท่านปัสสาวะเป็นยาให้ดื่ม ท่านนี้มีศรัทธาเชื่อมั่นจึงดื่มน้ำปัสสาวะของหลวงปู่สรวงนั่นแหละ ไม่น่าเชื่อเพราะตั้งแต่ดื่มน้ำปัสสาวะของหลวงปู่เข้าแล้ว อาการของโรคหอบหืดก็ไม่เคยกำเริบขึ้นอีกเลย
    เรื่องราวของหลวงปู่สรวงนั้นผู้เขียนได้ศึกษาดูแล้ว เหมือนๆกับเรื่องราวของผู้วิเศษในอดีตหลายๆท่านมารวมกัน ความยืนยาวของอายุหลวงปู่สรวง เหมือนเรื่องของเซียนเจียงกั๊วเล่าผู้มีอายุหลายยุคหลายสมัย ในโป๊ยเซียนไม่มีผิด ยาวิเศษของหลวงปู่สรวงนั้นท่านมักเอาขี้เล็บขี้ตาของท่านทำน้ำมนต์ ก็เหมือนกับอรหันต์จี้กงที่ปั้นขี้ไคลเป็นยา หลวงปู่สรวงได้อะไรเผาทิ้ง มักก่อกองไฟเสมอๆ เหมือนกับหลวงพ่อโอภาสี และหลวงปู่กบวัดเขาสาลิกา ที่เผาทุกอย่างที่มีคนนำมาถวาย
    หลวงปู่สรวงท่านมีวัตรปฏิบัติแบบไม่ยึดติดกับสิ่งใดทั้งสิ้นการนุ่งห่มผ้าก็นุ่งแบบขอไปที บางครั้งนุ่งขาว บางนุ่งผ้าลาย บางครั้งนุ่งห่มเรียบร้อย แล้วแต่ ท่านอยากฉันตอนไหนก็ฉันไม่มีเวลา อยากไปไหนก็ไปไม่สนใจใคร เรื่องราวของท่านแม้เรียบง่ายที่สุดแต่ก็อัศจรรย์ที่สุด วัตรปฏิบัติของท่านเป็นพรหมจรรย์ ความเป็นอยู่ของท่านก็ประดุจพระพรหมโดยแท้
    ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งเมื่อท่านละสังขารเข้าสู่นิพพาน ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏเป็นอัศจรรย์อย่างยิ่ง
    ท่านเป็นพระที่ไม่มีวัดอยู่แต่กลับอยู่ได้ทั่วทั้งจักรวาล ซึ่งประโยคเด็ดนี้มาจากที่ครั้งหนึ่งเคยมีคนถามท่านว่าท่านอยู่วัดไหน หลวงปู่สรวงตอบไปว่า ไม่มีวัดอยู่แต่เดินท่องทั่วทั้งจักรวาล ซึ่งหมายความว่าท่านไม่ติดในถิ่นที่อยู่ ไม่มีความเป็นของเขาของใคร มีอิสระเหนือทุกสิ่ง ทุกที่ที่ย่ำไปก็เป็นที่ของท่านโดยธรรม
    ในสิ่งที่ท่านไม่ยึดไม่ติด ไม่สนใจใคร แต่ในขณะเดียวกันกลับมีผู้ติดตามท่านมากมาย ปรารถนาอยากเป็นศิษย์ อยากเห็นอยากพบอยากกราบไหว้ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็เป็นไปด้วยอำนาจธรรมเหนือโลก เหนือสมมุติ ที่เมื่อไม่ยึดติดสิ่งใดไม่ปรารถนาสิ่งใด ทุกๆสิ่งกลับเป็นของเราโดยปริยาย
    ชีวิตปฏิปทาของหลวงปู่ตราบเท่าที่แสดงให้เราเห็นนั้น นับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดมากกว่าคำเทศน์เป็นร้อยเป็นพัน หลวงปู่แสดงให้เราเห็นจริง หากผู้ศรัทธาได้นำเอาท่านเป็นแบบอย่างแม้ไม่ทั้งหมดเพียงบางเสี้ยวบางส่วนเท่านั้นก็นับว่าก่อให้เกิดความจรรโลงใจ เบาใจ น้อมไปทางนิพพิทาญาณได้เป็นอย่างดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    6n394b.jpg
    หลวงปู่สรวงผู้วิเศษแห่งภูตะแบง พระผู้อยู่เหนือโลก เหนือสมมุติ

    เรื่องราวความเป้นมาของหลวงปู่สรวงนั้นไม่มีใครเคยรู้เลยว่าแท้จริงท่านคือใคร

    ท่านมีวัตรปฏิปทาที่แปลก ซึ่งคนทั่วไปอาจไม่เข้าใจ แต่สำหรับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมนั้น เมื่อเห็นวัตรการปฏิบัติของท่านแล้ว

    จะทราบได้ว่านี่คือแนวทางแห่งการละโลก เหนือสมมุติ

    หลวงปู่บอกว่าท่านไม่มีวัดอยู่แต่อยู่ทั่วไปในจักรวาล หมายความว่าเมื่อใดที่เรามีความยึดมั่นที่ตัวเอง ในสถานที่อยู่ ในอาหาร ในทรัพย์สมบัติ เมื่อนั้นเราก็ถูกพันธนาการ ถูกกักของด้วยความคิดของเราเอง ทำให้เราจำกัดซึ่งถสานที่และเวลา และผุกพันยึดมั่นเป้นเจ้าเข้าเจ้าของอย่างเหนียวแน่น เกิดความถือเนื้อถือตัว อวดศักดาต่างๆนาๆ

    แต่สำหรับพระผู้ละโลกแล้วนั้น ไม่มีอะไรเป็นของของใคร ทุกอย่างก็ไม่ใช่ของของเรา สรรพสิ่งล้วนพึ่งพาอาศัยกัน

    หลวงปู่สรวงท่านละจากโลกนี้นานแล้ว ไม่สถานที่ไม่มีเวลาสำหรับท่าน และแม้ในวันนี้หลวงปู่สรวงท่านจะละสังขาร แต่ในความเป็นจริงท่านก้ยังอยู่และอยู่ในทุกที่อย่างอิสระ การอยู่ด้วยการเนื้อ หรือการจากไปของกายสังขารท่านเป็นเพียง


    สถานปฏิบัติธรรม บายตึ๊กเจีย

    ในปัจจุบันนี้พระอาจารย์เทียนชัย ได้ดำเนินการสร้างสถานปฏิบัติธรรมบายตึ๊กเจียขึ้น และเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนของ หลวงปู่สรวง

    คำว่า "บายตึ๊กเจีย" เป็นภาษาเขมร เป็นคำที่หลวงปู่สรวงมักกล่าวให้พรเสมอๆ คำว่าบายเป็นภาษาเขมร แปลว่าข้าว ตึ๊ก แปลว่าน้ำ และเจียแปลว่าดี

    รวมแล้วคำว่าบายตึ๊กเจีย แปลว่าข้าวน้ำดีนั่นเอง

    รูปเหมือนหลวงปู่สรวงที่นำมาลงนี้ สร้างขึ้นโดย ช่างมือหนึ่งของไทยคือ คุณหนึ่ง อัศจรรย์

    ในขณะที่ดำเนินการปั้นนั้น หลวงปู่สรวงได้มาเข้าทรงคนงานด้วย

    ใช้เส้นเกศาจริงของหลวงปู่ในการปั้น หากผู้ใดที่มีจิตศรัทธาไปองค์หลวงปู่สรวงน่าจะไปกราบนมัสการท่านที่นี่นะครับ


    สวนพุทธธรรมบายตึ๊กเจีย อ.เมือง จ.ปทุมธานี โทรสอบถามโดยตรงได้ที่ ๐๒-๕๐๑-๓๕๓๖


    ภาพถ่ายของหลวงปู่สรวง

    ภาพถ่ายของหลวงปู่สรวงทุกภาพถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ตามความรู้สึกของคนทั่วไป ชาวบ้านรู้กันดีว่าการถ่ายภาพหลวงปู่ทุกครั้งต้องขออนุญาติท่านก่อน เพราะอย่างนั้นจะถ่ายไม่ติดและกล้องอาจเสียได้ ภาพชุดที่พี่เม้านำมาลงเป็นครั้งมที่หลวงปู่ท่านไปเมืองกาญจนบุรี ไปกับหลวงพ่อสร้อย วัดเลียบฯ และคณะลูกศิษย์ ถือว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วครับ

    องค์หลวงปู่สรวงท่าน ปกติแล้วท่านไม่ค่อยให้หวยกับใคร แต่คนจำนวนมากก็มักนำกิริยาต่างๆของท่านไปตีเป็นตัวเลข ป้าของผมท่านเคยไปกราบหลวงปุ่สรวงที่วัดเลียบราษฏ์บำรุง ท่านเล่าว่าครั้งนั้น หลวงปู่สรวงยื่นปากกาให้ป้าผมแล้วเออออให้เขียนเลขอะไรก็ได้ ป้าผมก็เขียนอย่างงง งง แต่แปลกครับเพราะงวดนั้นมันออกเลขตามที่ป้าผมเขียน เป็นเรื่องแปลกๆอีกเรื่องหนึ่ง

    ทุกครั้งที่มีคนถูกหวยมาก จะมีสื่งหนึ่งที่ศิษย์ทั้งหลายสังเกตเห็นคือ เท้าของหลวงปู่จะบวมและมีแผลน้ำเหลืองไหล หลวงปู่จะเป่าขาตนเองหรือให้คนที่อยู่ใกล้ๆเป่าให้ท่าน เมื่อประกาสเลขรางวัลเรียบร้อยผ่านไปสองสามวันเท่านั้น แผลที่เกิดบนเท้าของท่านจะหายไปเอง และเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นกับท่านเลย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่แปลกๆเกี่ยวกับหลวงปู่ท่านครับ

    มีหลายคนพยายามที่จะเรียนวิชากับหลวงปู่ แต่หลวงปุ่ท่านก็ไม่เคยรับใครเป็นศิษย์ แต่ก็มีที่หลวงปู่พาไปเดินธุดงคืกับท่าน ได้พบเห็นสิ่งเร้นลับมากมาย

    ส่วนเหตุผลหลักๆที่ท่านไม่อยากสอนใครท่านว่าวิชานี้เรียนแล้วจะจนทำมาหากินไม่ขึ้น เหล้กไหลหลวงปู่สรวงท่านก็มีท่านฝังไว้ในตัว ท่านว่าให้ใครไม่ได้ เพราะหากประพฤติตัวไม่ดีจะทำมาหากินไม่ขึ้นอีกเช่นกัน ทั้งหมดก็อยู่ที่บารมี การถือศีลปฏิบัติธรรมของแต่ละคนนั่นเอง หลวงปู่จึงมักบอกกับคนทั่วไปว่าให้ทานทำใจให้สบาย รักษาศีล ดังนี้เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    get_auc3_img.php?id=2585175.jpg

    เรื่องราวอภินิหาริย์ ของหลวงปู่เล่าสืบกันมา ไม่รู้จบสิ้น ดังตัวอย่าง เช่น
    การย่นระยะทาง การหายตัว ตาทิพย์ เสกกิ่งไม้กลายเป็นสัตว์ และฯลฯ
    สมัยก่อน ทหารมาขอของดี ท่านหักก้านธูปให้คนละหน่อย ก็ยิงไม่ออกแล้ว
    ใครถวายอะไรท่านโยนเข้ากองไฟหมด
    หลวงปู่ สรวง ท่านเดินทางมาที่วัดเลียบ บ่อยๆ (ปีละหลายครั้ง) เนื่องจาก หลวงพ่อสร้อย เป็นลูกศิษย์ท่าน มาแต่ละครั้งก็ได้อธิษฐานวัตถุมงคลให้ และมักแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นอยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่สรวงลุกขึ้นไปยืนถ่ายปัสสาวะที่หน้ากุฏิ พระอาจารย์โต(ลูกศิษย์หลวงพ่อสร้อย) เห็นดังนั้นจึงบอกลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งเป็นโรคลมบ้าหมูว่า ถ้าอยากหายรีบเอามือไปรองปัสสาวะหลวงปู่ทำน้ำมนต์รดหัวแล้วจะหาย ( ความจริงท่านแกล้งพูดเล่นเฉยๆ) ลูกศิษย์คนนั้นจึงวิ่งเอามือแหย่เข้าไปตรงช่องขาด้าน หลังรองน้ำปัสสาวะของหลวงปู่ แล้วเอาน้ำปัสสาวะรดบนหัวทันที หลวงปู่สรวงหันมาหัวเราะ แต่ท่าน ไม่พูดอะไร พระอาจารย์โตเล่าต่อไปว่า เมื่อไปดมบนหัวของศิษย์คนนั้นไม่ปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใดเหมือนน้ำธรรมดา หลังจากนั้นศิษย์คนนั้นก็หายจากโรคลมบ้าหมู จนทุกวันนี้ พระอาจารย์โตเล่าว่า เรื่องนี้มีผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายคน และสามารถเรียกศิษย์คนนั้นมายืนยันตัวตนได้

    ตาเลียด เสาศิลา เคยเห็นหลวงปู่ลงไปในน้ำ เป็นครึ่งวัน เข้าใจว่าจะจมน้ำตาย กระโดดลงไปจะไปงม ก็เห็นหลวงปู่นั่งอยู่บนขอนไม้ใต้น้ำ ที่น่าแปลกคือ รอบตัวหลวงปู่กลายเป็นอากาศหาใช่น้ำไม่ (เหมือนอยู่ในฟองสบู่)

    พระของหลวงปู่ว่ากันว่าโดดเด่นหลายทางตามคำอธิษฐานดังนี้

    1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี

    2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย

    3. บูชา 3 อาทิตย์เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอนหากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่

    4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง

    5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเวลาเดือดร้อนทางการเงิน ให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบ ท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด

    6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ

    7. ป้องกันคุณไสย์แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้

    8. เสริมดวงหนุนดวงชะตา

    9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้

    หลวงปู่สรวงท่านไม่ยึดติดกับสรรพสิ่ง ใครถวายอะไร ท่านให้ แจกหมด หรือโยนเข้ากองไฟ บางครั้งท่านก็ใช้ทราย อาบราดบนตัวแทนน้ำ แต่ที่น่าแปลกคือ ทรายที่ผ่านการอาบตัวของท่านเหล่านั้น แปรสภาพเป็นพระธาตุได้

    ครั้งแรกที่หลวงพ่อสร้อย พบ หลวงปู่สรวง
    ตอนนั้นหลวงพ่อสร้อยอายุยังน้อยๆ เป็นเด็กๆ ไปกับอาจารย์ของท่าน (ตอนนั้นอาจารย์ของท่านอายุ 90 กว่าปี) อาจารย์ของท่านไปกราบหลวงปู่สรวง
    ตอนขากลับหลวงพ่อสร้อยก็ถามอาจารย์ว่า ทำไมอาจารย์ไปกราบหลวงปู่สรวง อาจารย์อายุมากขนาดนี้
    อาจารย์ท่านตอบกลับว่า ไม่ใช่ จริงๆ แล้ว หลวงปู่ท่านอายุมากกว่าอาจารย์ไม่รู้กี่เท่า

    ย่ามวิเศษ
    หลวงปู่สรวงท่านจะมีย่ามอยู่ 1 ใบ สามารถหยิบอะไรที่ต้องการออกมาจากย่ามได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลก บางทีท่านก็หยิบยามวนออกมา บางทีก็หยิบ ธนบัตรออกมาเป็นปึกๆ 4 พันบ้าง 5 พันบ้าง ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร

    หลวงปู่สรวงนั่ง เดิน บนผิวน้ำ
    เรื่องนี้เล่าแล้วยาว ท่านเคยแสดงปาฏิหาริย์ นั่งบนผิวน้ำตอนอยู่ในประเทศลาว มีผู้ถ่ายรูปไว้ได้ ตอนนี้รูปอยู่ที่ อ.บุญส่ง กัดจิตร (ผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่มากผู้หนึ่ง)
    ในคราวหนึ่งตอนหลวงปู่พาพระหลายรูปธุดงค์ มีแม่น้ำพระต่างๆ ก็ลุยน้ำข้ามไป ขาดแต่หลวงปู่ หลวงปู่ทำท่าขาหย่อนๆ แล้วก็ชักขึ้น พระหลายรูปที่ข้ามไปแล้วก้กังวลใจว่าหลวงปู่จะข้ามมาได้ไหม ฉับพลันหลวงปู่สรวงก็ก้าวลงมา แต่ไม่ได้ลงในน้ำ ฝ่าเท่าท่านกลับอยู่เหนือผิวน้ำ เดินข้ามาเหมือนดินบนดินอย่างไรอย่างนั้น

    บทวิเคราะห์ อายุกาลหลวงปู่สรวง
    อันนี้ข้าพเจ้าวิเคราะห์เอง จากการฟังอาจารย์ และศิษย์ในสายหลวงปู่สรวง
    ท่านน่าจะอายุมากกว่า 500 ปี มาก เพราะ
    สมัยก่อนครูบาเที่ยงธรรม เคยบอกกับผู้คนที่ ถามถึงอายุท่านว่า ท่านอายุเท่าไร ท่านถามอายุแต่ละคนที่อยู่ในที่นั้น พอถามเสร็จ ท่านตอบว่าเอาอายุพวกแกมารวมกันยังไม่เท่าอายุฉัน (ตอนนั้นลองบวกคร่าวๆ ได้ กว่า 700 ปี)
    แต่ ครูบาเที่ยงธรรม ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สรวงอีกทีนะ (พระอาจารย์โตท่านเล่าให้ฟังนะ) แล้วหลวงปู่สรวงจะอายุเท่าไรอ่ะ
    อายุ 500 ปี จำวัดทั่วจักรวาล บางท่านเรียกว่า ผู้วิเศษแห่งภูตะแบง บางท่านเรียกว่า เทวดาเล่นดิน
    เป็นสมญานามที่ หลาย ๆ ท่านให้ไว้กับ หลวงปู่สรวง พระอภิญญาผู้อยู่เหนือโลก เหนือกาลเวลานั่นเอง
    พระอภิญญาในยุคนี้ คงจะไม่มีใครโดดเด่นเท่าหลวงปู่สรวง
    คนแก่เฒ่า กล่าวว่า ตอนเด็กๆ ก็เห็นท่านอยู่แบบนี้ ปู่ย่า ตายาย ก็เคยเห็นท่านอยู่แบบนี้ แม้แต่หลวงปู่ฤทธิ์ ก็เคยกล่าวถึงสังขารของหลวงปู่สรวงว่าไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่ของท่านที่เปลี่ยนแปลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    124914_41Soi.jpg

    พ่อลุงบุญเลิศเล่าว่าเรื่องนี้เกิดหลังจากเริ่มติดตามหลวงตาสรวงช่วงแรกๆ
    ท่านพาเดินป่าขึ้นไปพักอยู่บนเขาในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
    มีลูกศิษย์ไม่เต็มบาทไปด้วยอีกคนหนึ่ง

    ราวๆบ่ายของวันหนึ่ง หลวงตาบอกพ่อลุงบุญเลิศให้ก่อไฟเตรียมไว้ ตัวท่านจะไปหาปลามาให้กิน
    ท่านหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมปลาช่อนตัวขนาดหน้าแข้ง
    ยังดิ้นกระแด่วไม่ทันตาย

    พอมาถึงท่านหักคอปลาดังกร๊อบ

    พ่อลุงบุญเลิศเล่าว่าถึงกับร้องครางในใจอยู่คนเดียว เอ๊า..เป็นไงเป็นกัน ก็มันหิวเต็มที

    หลวงตาลงมือเผาปลาด้วยตัวเอง เอาไม้คอยเขี่ยคอยพลิก กลิ่นปลาเผาหอมจนน้ำลายแตกเต็มปาก

    พอปลาสุกท่านก็แบ่งปลาออกเป็น3ส่วน
    ส่วนหางให้คนไม่เต็มบาท
    ส่วนกลางให้พ่อลุงบุญเลิศ
    ส่วนหัวท่านฉันเอง

    พ่อลุงบุญเลิศเล่าว่า ปลาอร่อยมาก ทั้งสดทั้งเหนียวพอดีกิน เสียแต่ว่ากินลำบากอยู่บ้าง ต้องค่อยๆลอกหนังปลาออก ไม่ให้ขี้เถ้าเปื้อนเนื้อปลา
    ลอกหนังแล้วก็กองไว้ที่ก้อนหินข้างๆตัว
    ก้างปลาก็กองรวมไว้ด้วยกัน

    หลังจากอิ่มดีแล้ว หลวงตาเรียกให้รีบลุกขึ้นตามท่านลงไปทำน้ำมนต์ให้ชาวบ้านที่หมู้บ้านตีนเขา
    พอลงเขามาเห็นชาวบ้านเตรียมครุน้ำถังน้ำนั่งรอกันสลอน อย่างกับว่านัดกันไว้

    หลวงตาก็แค่นิ้วมือจุ่มลงไปแกว่งในน้ำให้ทีละราย เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ
    ชาวบ้านถวายเงินคนละ 10 บาท, 20 บาท ท่านไม่รับ ส่งเงินคืนให้ชาวบ้านหมด

    "เขาไม่รู้ทำไง ก็เลยไปตักข้าวสารมาให้ บอกว่าเอาขึ้นไปหุงกินบนเขา"

    เมื่อกลับขึ้นมาถึงที่พักบนเขา จวนมืดแล้ว พ่อลุงบุญเลิศจึงเตรียมหุงข้าวกินมื้อเย็น

    "เห็นแปลก..หนังปลากับก้างปลาที่เราลอกแกะทิ้งไว้บนก้อนหิน กลายเป็นเปลือกมันสำปะหลัง เท่านั้นแหละจึงร้องเอะอะใส่ท่าน โอ๊ยยๆ..หลวงตาตั๋วข้าน้อย หลวงตาตั๋วแล้ว"
    (ตั๋ว-โกหก,หลอกลวง,)

    หลวงตาก็แค่หัวเราะอยู่หยุมๆ

    "เราเลยไปสำรวจดู เดินตามรอยเท้าที่ท่านหายไปหาปลา ก็ไปเห็นรอยขุดหัวมันสำปะหลัง เราไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า แถวนั้นมันมีน้ำมีห้วยมีธารที่ไหน หลวงตาจะไปเอาปลามาได้ไง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    22dec4.gif
    หลวงปู่เคยใบ้หวย หุ้นดาวโจนส์ โดยท่านได้ให้เลข 14
    โดยจะเอา เลขสองตัวท้ายของหุ้นดาวโจนส์ ที่ปิดลง

    ระหว่างที่รอให้ตลาดปิดนั้น ชาวบ้านต่างก็แทงออกไปจน เจ้ามือไม่รับ

    จนถึงเวลาที่ชาวบ้านรอคอย หุ้นปิดตลาด ตัวเลขก็ปรากฎขึ้น แต่เลขสองตัวที่ปรากฎ กลับกลายเป็นเลข 13 หน่ะสิครับ ชาวบ้านหน้าซีด ใจตกฮวบไปที่ตาตุ่ม

    หลวงปู่เองก็ชายตามองไปที่ตัวเลขที่ออก ทันใดนั้น โดยที่ไม่มีใครคาดคิด หลวงปู่ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นกระทืบไปที่พื้น ฉับพลันเลขบนจอทีวี ก็ไหลเลื่อนจากเลข 3 ไปเป็นเลข 4

    สุดท้าย เลขปิดตลาดที่ 14 ตามที่หลวงปู่บอกไว้

    อัศจรรย์มีจริง ชาวบ้านนับถือท่านจนหมดใจ

    กระทืบจากกระต๊อปที่สุรินทร์ กระเทือนไปถึง อเมริกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    [​IMG]

    พระเหนือโลกอีกองค์หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่มหาชนในนามหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินทุกวันนี้คืออีกองค์ที่ผมได้สัมผัสในช่วงปี2540ซึ่งในช่วงนั้นเกิดฟองสบู่แตกธุระกิจช่วงนั้นล้มระเนระนาด..ผมก็เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงขนาดเชื่อว่าระหว่างเก่งกับเฮง..เก่งต้องมาก่อนเฮงแต่เมื่อวิกฤติต้มยำกุ้งมันทำให้ผมต้องกลับมาทบทวนถึงคำว่า..เก่งกับเฮง..อีกครั้งเพราะในครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่ผมต้องจำจนวันตายด้วยสมบัติทุกชิ้นที่มีขายใช้หนี้ยังไม่หมดแถมเป็นหนี้สถาบันการเงินถูกฟ้องอีก80กว่าล้านบาท.. เมื่อไม่มีหนทางออกทางที่ดีที่สุดที่คิดได้คือหาพระเพื่อทำบุญให้สบายใจรวมทั้งความหวังว่าปาฏิหารย์อาจเกิดขึ้นได้..ผมเดินทางไปทั่วประเทศแบบค่ำไหนนอนนั่น..นอนในปั๊มน้ำมันบ้าง..นอนในวัดในป่าในเขาลุยไปทั่วทำให้ได้พบพระเหนือโลกหลายองค์เป็นครั้งแรกและนำมาเผยแพร่ในนิตรสารโลกทิพย์โลกลี้ลับจนทำให้เป็นที่รู้จักในปัจจุปันนี้อาทิ..หลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดิน..หลวงปู่หมุนอมตสงฆ์ทรงอภิญญาห้าแผ่นดิน..หลวงปู่ลมัยพระโบราณอจินตรัย..หลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรมพระผู้ไม่ยึดติดในสมมุติบัญญัติ..หลวงปู่ทุย..ฉันท์กาโมพระอรหันต์นิรนาม..หลวงปู่เรืองพระอรหันต์แห่งเขาสามยอด..หลวงปู่อิงสำนักโคกตมคงคำพระผู้มีอภิญญาปรากฏ..หลวงปู่ขาว..พุทธรักขิตโตลูกศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดรผู้มากบารมี..หลวงปู่ทองทิพย์รัตนโคตรผู้ลึกลับมากด้วยอิทธิฤทธิหรืออย่างฆราวาสลึกลับที่ผู้คนยุคนี้ต่างอยากสัมผัสตัวจริงของท่านๆอ.นิรนามไตรภูมิผมก็เคยเป็นศิษย์ใกล้ชิดรับใช้ท่านมาแล้วและอีกมากมายหลายองค์ที่ท่านเมตตากับผมเป็นพิเศษขนาดท่านอ.หม่อมนิรนามไตรภูมิให้ผมพาท่านพร้อมลูกศิษย์ไปกราบสนทนามาแล้วโดยเฉพาะหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินองค์นี้ หลวงปู่สรวงเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงประมาณปี2530ด้วยกิตติศัพท์ว่าท่านให้หวยแม่นซึ่งก่อนวันหวยออกจะมีคนไปเฝ้าขอหวยจากท่านมากมายชนิดรถจอดยาวเหยียด..ผู้คนจะเฝ้าดูอากัปกิริยาท่านแล้วมาตีเป็นหวย..ส่วนใหญ่ท่านจะอยู่ตามเถียงนาเล็กๆแถบบ้านละลม..จ.ศรีษะเกษและวันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสพบท่านเป็นครั้งแรกหลังจากตามท่านมานาน..วันนั้นผมได้พาเพื่อนรุ่นพี่ทายาทฟาร์มจรเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการไปด้วย..หลวงปู่อยู่ที่เถียงนาของยายแน็ต(โยมอุปถากหลวงปู่สรวงและเจ้าของเถียงนา)มีผู้คนไปคอยเฝ้าดูหลวงปู่นับสิบคน..ผมได้เตรียมเครื่องสังฆทานไปถวายท่านหลังจากท่านรับสังฆทานเสร็จท่านรื้อของในถังออกมาแล้วโยนเข้ากองไฟหมดต่อหน้าต่อตาเงินในซองที่ถวายท่านก็เผาหมดแล้วท่านก็เอาเหล็กตะหลิวมาขุดดินแล้วท่านก็นั่งถ่ายให้ผมดูเสร็จแล้วท่านก็เอาดินที่ขุดกลบ ผมนั่งตะลึงอยู่พักใหญ่ในใจคิดว่า..เอาละซิหลวงปู่ทำไมทำอย่างนี้ตอนนั้นใจเริ่มแขวคิดว่าท่านไม่น่าเคารพเลยท่านหันมามองหน้าแล้วโยนไข่ต้มที่คนมาถวายท่านให้ผมในถุงนั้นมีไข่ต้มหกลูกเสียงฮือฮาจากคนที่เฝ้าท่านอยู่ว่า..ท่านให้หวย06หรือ60สักพักผมก็กราบนมัสการลาท่านแล้วเดินออกมายังไม่ถึงรถลูกศิษย์ท่านวิ่งตามมายื่นกระดาษมีตัวเลขสามตัวอีกแล้วบอกหลวงปู่ให้เอามาให้ท่านมักจะให้หวยกับคนที่มาครั้งแรก..ลูกศิษย์ท่านนี้ต่อมาผมได้มีความสนิทสนมและเป็นศิษย์ที่อุปถากดูแลหลวงปู่สรวงชนิดกินนอนและขับรถพาท่านเดินทางทั่วประเทศและเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวมหัศจรรย์ของหลวงปู่สรวงกับผมลูกศิษย์ท่านนี้คือ..กำนันชัยหรือพี่สัญชัยที่คนไปกราบหลวงปู่สรวงรู้จักดี หลังจากกลับมาถึงกรุงเทพผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องหวยเพราะผมไม่ชอบเรื่องหวยจึงไม่ได้ซื้อพอหวยออกกำลังขับรถไปทำธุระเปิดวิทยุฟังเพลงหมุนไปตรงสถานีที่กำลังถ่ายทอดการออกสลากกินแบ่ง..สองตัวล่างออก06และสามตัวบนก็ออกตัวเลขที่ท่านเขียนให้ตรงๆและนี่คือครั้งแรกที่ท่านได้แสดง..อนาสตังคญานรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแก่ผม....

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1177617882248983
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    [​IMG]

    หลวงปู่สรวงเป็นพระที่ยึดจิตเป็นใหญ่วินัยเป็นรองหากคนที่พบท่านเป็นครั้งแรกและยึดติดในรูปแบบและยิ่งไม่เข้าใจในเรื่อง..สมมุติบัญญัติหรือกฏเกณฑ์ข้อบังคับเพื่อให้เป็นกรอบในการดำรงค์ชีวิต..ยิ่งการเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรยิ่งมีวินัยบัญญัติมากมายโดยเฉพาะศิล227ข้อแต่หลวงปู่สรวงท่านไม่ยึดติดจึงดูภาพภายนอกท่านไม่สำรวมหากเป็นพระธรรมดาถือว่าอาบัติ..เช่นนึกจะฉันท์ก็ฉันท์ไม่มีกาลเวลานึกจะถ่ายก็ถ่ายต่อหน้าคนหรือถอดสลงอาบน้ำกลางถนนแต่หากพระที่ท่านละสมมุติบัญญัติอย่างหลวงปู่สรวงหรือหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรมซึ่งท่านพ้นจากการยึดมั่นถือมั่นหรือละสมมุติบัญญัติได้แล้วท่านจะไม่มีเขามีเรามีเพศหญิงเพศชายเพราะการกำหนดเพศเป็นสมมุติที่มนุษย์กำหนดแยกแยะขึ้นมาดังนั้นบางทีท่านจะรับของจากมือหรือผูกข้อมือผู้หญิงด้วยตัวท่านเอง..เรื่องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าคนนับสิบที่เถียงนาบ้านละลมมีสามีภรรยาคู่หนึ่งศรัทธาหลวงปู่สรวงมากมีโอกาสจะนำอาหารมาถวายหลวงปู่บ่อยๆ..วันหนึ่งเมื่อถวายอาหารหลวงปู่เสร็จหลวงปู่ได้เอามือจับหน้าอกผู้หญิงคนนี้ต่อหน้าสามีและคนที่ไปเฝ้าขอหวย..สามีของผู้หญิงคนนี้โกรธหลวงปู่มากส่วนภรรยาก็อับอายรีบจูงมือกันกลับพร้อมกับตำหนิหลวงปู่ในใจและหมดความนับถือ หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ภรรยาซึ่งป่วยเป็นมะเร็งที่เต้านมต้องเข้ารับการผ่าตัดตามกำหนดนัดหมายที่รพ.หลังจากหมอนำเข้าห้องเอกเรย์ตรวจเช็คก่อนผ่าตัดก็ประหลาดใจนำฟิลม์เอกเรย์มาเปรียบเทียบกันฟิลม์ก่อนหน้านั้นยังเห็นก้อนเนื้อร้ายขนาดใหญ่แต่ฟิลม์เอกเรย์ที่พึ่งถ่ายกลับไม่พบก้อนเนื้อร้ายจึงถามผู้หญิงว่าไปทำอะไรมาก้อนเนื้อมะเร็งถึงหายไปคนไข้ก็ตอบว่าไม่ได้ไปทำอะไรทั้งนั้นทำตามที่หมอบอกทุกอย่าง..หมอก็บอกให้กลับบ้านได้ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว.. สองสามีภรรยาเมื่อกลับมาถึงบ้านจึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนบ้านฟังทุกคนลงความเห็นว่าก้อนเนื้อมะเร็งหายไปคงเป็นเพราะหลวงปู่สรวงท่านเมตตารักษาสองผัวเมียจึงรีบแต่งขันธ์5ไปขอขมาหลวงปู่เมื่อไปถึงเถียงนาหลวงปู่ท่านยิ้มๆโดยไม่พูดอะไร...ปัจจุปันสามีภรรยาคู่นี้ยังมีชีวิตอยู่ที่บ้านละลม...

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1186560861354685:0
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    full.jpg
    เรื่องปาฏิหารย์ของหลวงปู่สรวงมีมากมายจนเล่าไม่หมดโดยเฉพาะคนเล่าหรือคนที่ประสพกับอิทธิปาฏิหารย์มีมากมายและยังมีชีวิตอยู่ยืนยันเรื่องราวของพระเหนือโลกที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆบนโลกใบนี้โดยเฉพาะพี่ชัยหรือกำนันสัญชัยศิษย์ผู้อุปถากหลวงปู่สรวงจนวาระสุดท้ายที่เถียงนาบ้านละลม พี่ชัยเป็นคนแถวสระแก้วอรัญด้วยความชอบในเรื่องเสี่ยงโชคทำให้ได้มาใกล้ชิดดูแลหลวงปู่สรวงชนิดกินนอนอยู่กับหลวงปู่สรวง..ค่ำไหนนอนนั่นตะลอนไปทุกที่ๆหลวงปู่สรวงสั่งจึงพบประสพการณ์เหนือคำอธิบายเหนือเหตุผลเหนือตรรกะหรือคำที่พูดถึงว่าไม่ควรคิดในพุทธศาสนาเพราะมันอธิบายไม่ได้..อจินตรัยคือคำนี้ วันหนึ่งมีลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งเคารพศรัทธาหลวงปู่สรวงมากเพราะเคยมีโชคลาภจากหลวงปู่สรวงมาทำบุญและขอหวยเมื่อถวายของเสร็จหลวงปู่สรวงก็สั่งให้ยกก้อนหินขนาดเท่าหินที่ถมทำเขื่อนไปใส่ท้ายรถจนเต็มหน้ารถเชิดขึ้นเห็นได้ชัดจากนน.หินมากจนโช๊คหลังแทบรับน้ำหนักไม่ไหวแล้วหลวงปู่ท่านขึ้นรถด้านข้างคนขับแล้วก็สั่งให้ลูกศิษย์คนนี้ขับรถกลับบ้านโดยท่านนั่งมาด้วยจนถึงปักธงชัยท่านก็ลง..ลูกศิษย์คนนี้นึกในใจว่าหรือหลวงปู่จะให้โชคจึงนำทะเบียนรถไปซื้อหวยและก็เป็นจริงดังที่คิดไว้งวดนั้นหวยออกทะเบียนรถของลูกศิษย์คนนี้จริงๆทำให้ลูกศิษย์คนนี้ถูกหวยนับสิบล้านบาทและนำเงินมาถวายหลวงปู่สรวงสองแสนบาท..หลวงปู่สรวงท่านก็ทำเหมือนเดิมให้พี่ชัยพาขึ้นรถขับออกมาจากเถียงนาบ้านละลมพอขึ้นถนนใหญ่ท่านก็เอาเงินสองแสนบาทมาโปรยไปตลอดทางจนหมด..พอรถวิ่งมาถึงนางรองน้ำมันหมดพี่ชัยเข้าปั๊มเพื่อเติมน้ำมันขอเงินหลวงปู่เติมน้ำมันเพราะพี่ชัยไม่มีเงินเลยมีเงินเหลือในกระเป๋าไม่ถึงร้อย..หลวงปู่พูดกับพี่ชัยว่าไม่มีเงินเหลือเลยโปรยไปหมดแล้ว..พี่ชัยก็รู้ว่าหลวงปู่ท่านไม่เคยเก็บเงินไว้เลยแต่ก็ลองล้วงดูในย่ามเก่าๆของหลวงปู่ก็ไม่มีเงินเลยสักบาทเลยโทรศัพท์หาลูกศิษย์หลวงปู่เพื่อขอยืมเงินมาเติมน้ำมันขณะนั้นหลวงปู่ก็เปิดประตูรถลงมาถือย่ามเดินไปที่ป่าข้างปั๊มสักพักก็เดินกลับมาที่รถส่งย่ามให้พี่ชัยก็ล้วงมือควานลงไปปรากฏว่าพบเงินใบละพันสองใบจึงนำเงินไปเติมน้ำมันเต็มถังแล้วก็พาหลวงปู่สรวงกลับเถียงนาบ้านละลม พี่ชัยบอกว่าไม่รู้ว่าเงินมาจากไหนเพราะครั้งแรกก็ค้นย่ามอย่างละเอียดก็ไม่มีเงินสักบาท..พอหลวงปู่ถือย่ามลงไปในป่าข้างปั๊มดี๋ยวเดียวก็มีเงินในย่ามสองพัน..ท่านคงลงไปเสกเงินหรือไปบิณฑบาตรเงินกับเทวดา..ถามท่านๆไม่พูดอะไรว่าเอาเงินมาจากไหน.... ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพประกอบเรื่องนี้...

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1198798250130946:0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    full.jpg

    full.jpg
    เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เนื้ออัลปาก้า

    เหรียญหลวงปู่สรวงรุ่นนี้เป็นที่ใผ่ฝันของคนที่ศรัทธาอยากเป็นเจ้าของเหรียญรุ่นนี้ซึ่งในวงการเรียกว่าเหรียญรุ่น1.บล็อกนิยมหรือบล็อกสามารถหรืออีกชื่อหนึ่งบล็อกลานโพธิ..เพราะหนังสือลานโพธิได้นำเรื่องของหลวงปู่มาจัดพิมพ์เผยแพร่อย่างละเอียดหลังหลวงปู่สรวงละสังขารแล้วจนหลวงปู่เป็นที่รู้จักของมหาชน..แต่น้อยคนที่จะรู้ว่ามูลเหตุที่จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้เพราะอะไร..ผมอยู่ในเหตุการณ์ตอนจัดสร้างจึงขอนำข้อมูลมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานต่อสาธารณะชน เรื่องมีอยู่ว่าพี่ชัยหรือกำนันสัญชัยได้มารับใช้อุปถากหลวงปู่สรวงแบบก้นกุฏิจริงๆกินนอนทุกที่ทุกทางกับหลวงปู่ไปไหนไปกันจนไม่มีเวลาหาเงินผ่อนค่างวดรถที่ตัวเองผ่อนกับไฟแนนด์ถึง6เดือนไฟแนนด์จึงตามมาเอารถที่แกขับรับใช้หลวงปู่คืนซึ่งแกก็มอบรถคืนให้ด้วยดี..เมื่อไปบอกหลวงปู่สรวงว่า"คืนรถเขาไปแล้วไม่มีรถพาหลวงปู่ไปไหนแล้ว"หลวงปู่ถึงกับน้ำตาไหลไม่พูดอะไรขึ้นไปนั่งหลับตาบนเถียงนา..พี่ชัยได้โทรหาผมเรื่องไม่มีรถผมเลยบอกให้พี่ชัยไปขออนุญาติหลวงปู่สร้างพระเพื่อหาเงินมาซื้อรถรับใช้หลวงปู่โดยกำชับพี่ชัยว่า#อย่าสร้างเยอะ#ผมจะช่วยประชาสัมพันธ์หาทุนให้ตอนนั้นผมยังเขียนหนังสือในนิตรสารโลกทิพย์โลกลี้ลับ พี่ชัยหายไปพักใหญ่แล้วโทรกลับมาบอกหลวงปู่อนุญาติแล้วแกเลยไปหาพี่สามารถชวนกันไปทำบล็อกและปั๊มเหรียญเป็นเนื้ออัลปาก้า1,000เหรียญทองแดง1,000เหรียญแล้วให้หลวงปู่เสก..พิธีเสกเหรียญรุ่นนี้ไม่เหมือนเกจิอาจารย์ที่ไหนโดยหลวงปู่ท่านนั่งเพ่งดูสักครู่แล้วท่านก็โยนเหรียญทั้งหมดลงพื้นดินแล้วบอกให้พี่ชัยและพี่สามารถไปเก็บเหรียญขึ้นมา พี่ชัยนำเหรียญมาให้ผม300เหรียญผมก็ประชาสัมพันธ์ในหนังสือโลกลี้ลับโดยผมไม่กำหนดราคาใครทำบุญ10บาทก็ให้หนึ่งเหรียญร้อยบาทก็หนึ่งเหรียญพันบาทก็หนึ่งเหรียญทำให้เหรียญที่ผมรับมาหมดลงอย่างรวดเร็วได้เงินจากส่วนนี้เกือบเจ็ดหมื่นบาทรวมกับของลูกศิษย์ที่เคารพหลวงปู่โดยเฉพาะเสี่ยสุระได้สำรองเงินให้ไปออกรถ..นิสสันบิ๊กเอ็มสีบรอนเงิน..(คันที่อยู่ในรูปตอนหลวงปู่ไปปลุกเสกพระหลวงปู่หมุนรวยทันใจที่วัดป่าหนองหล่ม)หลังจากนั้นผู้ที่ได้รับเหรียญไปเกิดประสพการณ์ปาฏิหารย์มากมายจนเป็นที่เสาะหาด้วยมีจำนวนน้อยแค่สองพันเหรียญและกลายเป็นเหรียญยอดนิยมในเวลาต่อมา..ปัจจุปันรถคันนี้กำนันสัญชัยได้มอบถวายให้พระอาจารย์ขวัญเมืองเจ้าอาวาสวัดป่าหนองหล่ม..จ.สระแก้วเพื่อระลึกถึงว่าครั้งหนึ่งหลวงปู่สรวงได้มาช่วยปลุกเสกพระให้หลวงปู่หมุนอีกครั้งหลังจากที่ในอดีตหลวงปู่สรวงเคยไปช่วยหลวงปู่หมุนเสกลูกนิมิตตลอดคืนยันรุ่งที่วัดป่าสามัคคีธรรม(ดอนอะราง)มาในอดีต...สาธุ

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1207626989248072:0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2017
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    [​IMG]

    หลวงปู่สรวงท่านมักจะเดินทางไปโน่นไปนี่ตลอดเวลาท่านจะไปไหนท่านจะไม่ค่อยบอกว่าจะไปไหนโดยท่านจะพูดสั้นๆแค่จุดหมายปลายทาง..คนขับรถที่คอยอุปถากดูแลท่านตลอดค่ำไหนนอนนั่นกับท่านคือพี่ชัยหรือกำนันสัญชัยและพี่ต้อยจะผลัดกันขับครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านชี้ให้ไปเรื่อยๆขับรถข้ามวันข้ามคืนจนเข้าเขตจ.เชียงใหม่เมื่อเข้าเขตท่านลงไปปัสสาวะที่ป่าข้างทางแล้วให้ตีรถกลับกรุงเทพทันทีจนพี่ชัยอดรนทนความสงสัยไม่ได้ว่าหลวงปู่ให้ขับรถข้ามวันข้ามคืนถึงเชียงใหม่ทำไมจึงเรียนถามท่านๆจึงตอบสั่นๆว่า"ท่านมาโปรดวิญญานสัมภเวสีที่ร่อนเร่หาทางไปภพภูมิอื่นไม่เจอให้พ้นทุกข์ให้ไปผุดไปเกิดใหม่ตามวาระกรรม"เรื่องการโปรดสัมเวสีให้พ้นทุกข์นี้หลวงปู่ศรี..มหาวีโรครูบาอาจารย์พระอรหันต์สายหลวงปู่มั่นท่านก็จะทำเป็นประจำทุกวันก่อนฉันท์ภัตราหารเช้าท่านจะให้ลูกศิษย์ขับรถออกไปตามถนนนอกวัดประมาณชั่วโมงแผ่เมตตาให้สัมภเวสีเร่รอนแล้วท่านจึงกลับวัดฉันท์ภัตราหารเช้า หลวงปู่สรวงท่านจะมาพักเป็นประจำเมื่อเข้ามากรุงเทพที่บ้านของเสี่ยสุระแถวซ.ลาดพร้าว1.เมื่อมาถึงท่านจะให้ก่อกองไฟเหมือนทุกที่ๆท่านไป..เสี่ยสุระนับถือหลวงปู่สรวงมากด้วยเหตุที่หลวงปู่สรวงท่านช่วยรักษาคุณพ่อของเสี่ยสุระให้หายป่วยจากมะเร็งแบบหาคำตอบไม่ได้..เรื่องมีอยู่ว่าพ่อของเสี่ยสุระป่วยเป็นมะเร็งนานมากจนมะเร็งกัดกินเนื้อออกมาเป็นแผลขนาดใหญ่ที่คอแผลเน่าจนหมอที่รพ.หมดหนทางรักษาบอกให้นำคนไข้กลับบ้านเมื่อหมดหนทางรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุปันจึงนำพ่อมากราบหลวงปู่สรวงที่เถียงนาบ้านละลม..เมื่อหลวงปู่สรวงเห็นท่านไม่พูดอะไรลุกขึ้นปัสสาวะใส่ชามและเอาก้นบุหรี่ผสมลงไปแล้วให้พ่อเสี่ยสุระดื่ม..พ่อของเสี่ยสุระเห็นยาที่หลวงปู่ทำให้ต่อหน้าต่อตาก็ไม่อยากดื่มแต่อาการเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลก็สุดจะทนจึงกลั้นใจดื่มลงไปจนหมดหลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์อาการของพ่อเสี่ยสุระเริ่มดีขึ้นเห็นได้ชัดสามารถกินข้าวได้แผลที่คอเริ่มยุบเลือดและน้ำเหลืองที่เคยไหลออกมาตลอดเริ่มหยุดไหลแผลเริ่มแห้งจึงไปขอให้หลวงปู่ทำยาเทวดาให้อีกเมื่อครบหนึ่งเดือนแผลที่คอก็ยุบและแห้งสนิท วันที่ผู้เขียนได้พบและพูดคุยเรื่องนี้กับพ่อคุณสุระที่บ้านลาดพร้าวหลวงปู่สรวงมาถึงที่นี่ประมาณตีหนึ่งโดยมีพี่ชัยและพี่ต้อยโชเฟอร์คู่ใจของหลวงปู่พอมาถึงคนที่บ้านก็ก่อกองไฟหลวงปู่ก็เอาของที่คนถวายโยนเข้ากองไฟหมด..พ่อคุณสุระบอกกับผู้เขียนว่าตอนนี้อาการดีขึ้นจนสามารถขับรถได้เองแล้ว..หลวงปู่สรวงท่านช่วยชีวิตผมให้ชีวิตใหม่กับผมท่านคือที่สุดของที่สุดของพระที่ผมไม่คิดว่าจะมีจริงในโลกนี้..สาธุ

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1194923933851711:0
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    คำบูชาหลวงปู่สรวงและคำอธิษฐานขอพร1.jpg
    คำบูชาหลวงปู่สรวง

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)


    นะโม โพธิสัตโต มะหาคุโณ มะหิทธิโก มะหาลาโภ อะหัง ปูเชมิ สิทธิลาโภ นิรันตะรัง



    คำอธิษฐานขอพร

    พุทธัง ปะสิทธิ ธัมมัง ปะสิทธิ สังฆัง ปะสิทธิ

    อะริยะองค์สรวง สัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ

    อิสะวาสุติ มหาบันดาล สัจจัง ปะสิทธิ เม

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน (เนื้อทองแดง) เช่าบูชามาจากคุณภักดีภูริ(นักเขียนมีชื่อในเครือหนังสือโลกทิพย์-โลกลี้ลับ)

    เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน จัดสร้างโดยพี่ชัยหรือกำนันสัญชัย มีเนื้ออัลปาก้า 1,000 เหรียญ เนื้อทองแดง 1,000 เหรียญ และได้มอบให้คุณภักดีภูริ จำนวน 300 เหรียญ

    คุณภักดีภูริ อยู่ในเหตุการณ์ตอนจัดสร้างเหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เทวดาเล่นดิน พิธีเสกเหรียญรุ่นนี้ไม่เหมือนเกจิอาจารย์ที่ไหน โดยหลวงปู่ท่านนั่งเพ่งดูสักครู่แล้วท่านก็โยนเหรียญทั้งหมดลงพื้นดิน แล้วบอกให้พี่ชัยและพี่สามารถไปเก็บเหรียญขึ้นมา

    หลังจากนั้นผู้ที่ได้รับเหรียญไปเกิดประสพการณ์ปาฏิหารย์มากมายจนเป็นที่เสาะหา ด้วยมีจำนวนน้อยแค่สองพันเหรียญ และกลายเป็นเหรียญยอดนิยมในเวลาต่อมา
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    11111
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B211-jpg.jpg
    E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%8711-jpg.jpg
    2.หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน วัดเทพสรธรรมาราม บูชา 250 บาท

    หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน จัดสร้างและปลุกเสกโดยพระอาจารย์เทียนชัย วัดเทพสรธรรมาราม จ.ปทุมธานี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2018
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    อธิษฐานขอบารมี “หลวงปู่สรวง” คุ้มครองต้องที่นี่! “บายตึ๊กเจีย” ธรรมสถานจากนิมิต หลวงปู่สรวงมาบอกให้สร้าง ที่ศิษย์หลวงปู่ ไม่ควรพลาด!!

    10711117_557152207750766_7318374054379019473_n.jpg
    หลวงปู่สรวงใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดเทพสรธรรมาราม (บายตึ๊กเจีย) ปทุมธานี

    “พระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป” หนึ่งในผู้ศรัทธาองค์หลวงปู่สรวงอย่างสูงสุด ซึ่งหลายคนเชื่อว่าพระอาจารย์เทียนชัยท่านนี้มีความผูกพันกับองค์หลวงปู่สรวงมาแต่อดีตชาติ เคยเป็นลูกเป็นหลานท่านมาก่อน มาปัจจุบันชาตินี้จึงมายกย่องเกียรติคุณของหลวงปู่สรวงให้ผู้คนรู้จักโด่งดังยิ่งๆ ขึ้นไปอีก และเป็นที่รู้กันอีกว่าพระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป ท่านนี้เป็นท่านหนึ่งที่สามารถสื่อญาณสัมผัสองค์หลวงปู่สรวงท่านได้ ซึ่งบางครั้งบางจังหวะผู้ที่ไปกราบอาจสังเกตเห็นได้ จากการนั่งหรือกิริยาท่าทาง แต่จะเป็นเฉพาะบางช่วงเท่านั้น


    4-U1545322-635161679595376339-1.jpg

    วัดเทพสรธรรมาราม (บายตึ๊กเจีย) แห่งนี้ได้รับการเปิดเผยว่าที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจนเป็นวัดวาอารามอย่างที่เห็นล้วนเกิดจากนิมิตที่หลวงปู่สรวงนำพาให้พระอาจารย์เทียนชัยสร้างขึ้น แต่ละสิ่งแต่ละอย่างหลวงปู่สรวงจะเข้าฝันบอกให้ทำสิ่งนี้ก่อนสิ่งนั้นหลังเป็นเช่นนี้มาเรื่อย จนสำเร็จเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างในปัจจุบัน ทำให้พระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป มีความศรัทธาและมั่นใจในบารมีหลวงปู่สรวงเป็นอย่างยิ่ง

    10426546_557155337750453_3122688010238515646_n.jpg

    ในเวลาต่อมาหลวงปู่สรวงได้เข้านิมิตพระอาจารย์เทียนชัย สื่อให้สร้างองค์หลวงปู่ขนาดใหญ่ขึ้น ๑ องค์ ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นองค์หลวงปู่สรวงขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันได้ทำเสร็จสมบูรณ์เป็นมิ่งขวัญแก่ทางวัดเทพสรธรรมาราม ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าน่าเลื่อมใสอย่างยิ่ง

    หลวงปู่สรวงองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นมาเป็นองค์แรกองค์เดียวในประเทศไทยขณะนี้ ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อให้บารมีหลวงปู่สรวงเป็นที่รู้จักและเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจผู้ศรัทธาหลวงปู่สรวง ยิ่งไปกว่านั้นในเชิงลึกที่สร้างองค์ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาก็เพื่อมุ่งหวังบารมีจากองค์หลวงปู่สรวงบรรเทาทุกข์ร้อนในแผ่นดิน ทำบ้านเมืองให้สงบสุขร่มเย็นมีศีลมีธรรมด้วยอำนาจบารมีจากองค์หลวงปู่สรวง นอกจากนี้แล้วยังมุ่งหวังว่าอำนาจบารมีจากองค์หลวงปู่สรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้จะแผ่บารมีปัดเป่าภัยพิบัติให้ผ่านพ้นไป ไม่เกิดในแผ่นดินหรือเกิดก็จะเกิดน้อยที่สุด แม้เกิดภัยพิบัติแล้วก็ให้เสียหายน้อยที่สุด ด้วยบารมีธรรมขององค์หลวงปู่สรวงท่าน

    5415901-4.jpg
    เรื่องการขอพรจากองค์หลวงปู่สรวงก็คงกล่าวได้ว่าการขอพรจากองค์หลวงปู่สรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดเทพสรธรรมารามแห่งนี้ ทำให้คำขอพรนั้นบรรลุความปรารถนาสมหวังได้รวดเร็วกว่าปกติจริงๆ ดูได้จากการสัมภาษณ์หลายท่านที่มากราบขอพรจากองค์หลวงปู่สรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะพบว่า หลังจากที่ขอพรเพียงไม่นานหรือบางทีขอเดี๋ยวนั้นก็ได้เดี๋ยวนั้นเลยก็มี นี่คือความศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์เป็นกำลังใหญ่จากองค์หลวงปู่สรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีเพียงองค์เดียวในประเทศไทย

    หลายครั้งหลายคราวที่หลวงปู่สรวงสื่อผ่านพระอาจารย์เทียนชัย ชยทีโป โดยผ่านทางนิมิตฝันบ้าง ทางสมาธิบ้าง การดลใจบ้าง ทั้งหมดทำให้ผู้ที่ได้มากราบไหว้หลวงปู่สรวงและพระอาจารย์เทียนชัยเกิดความเชื่อถือศรัทธาอย่างยิ่ง และเชื่อว่าวัดเทพสรธรรมารามแห่งนี้คืออีกหนึ่งวัดที่หลวงปู่สรวงท่านมาแผ่เมตตาบารมีให้ลูหลานประสบความสำเร็จพ้นจากหนี้จากทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง

    เครดิต :
    อธิษฐานขอบารมี “หลวงปู่สรวง” คุ้มครองต้องที่นี่! “บายตึ๊กเจีย” ธรรมสถานจากนิมิต หลวงปู่สรวงมาบอกให้สร้าง ที่ศิษย์หลวงปู่ ไม่ควรพลาด!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...