" หลวงพ่อกล้วย" พระผู้เลิศด้วย "บุญญาภินิหาร" ที่ยังทรงธาตขันธ์อยู่

..........ในยุคปัจจุบัน ...... "พระเดชพระคุณ.. หลวงพ่อกล้วย"......... แห่งวัดป่า "ธรรมอุทยาน" ......... อ.เมืองจ.ขอนเเก่น เป็นพระผู้ทรง "อภินิหารเเห่งบุญ" รูปหนื่ง ซึ่งผู้เขียนใด้มีโอกาสเดินทางไปที่ขอนแก่น ใด้เเวะกราบท่าน เป็นระยะเวลาสิบกว่าปี ซึ่งขอเล่าในส่วนที่จะเป็นประโยชน์แก่ ท่านทั้งหลาย ตามสมควร วัดของท่านเป็น " วัดพิเศษ"............... คือ "เป็นวัดเปิดตลอดเวลา24ชั่วโมง" ............ท่านจะจัดสถานที่ไว้ให้ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรมแก่ พระและโยม ท่านจัดสถานที่เอาไว้ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นาชนิด ,,,, มีศาลาสำหรับสวดมนต์ ศาลาปฏิบัติธรรม มีลานปฏิบัติธรรม........................... รอบ พระพุทธรูปปางลีลา สูง19เมตร ................ พระพุทธรูปหยกชิ้นเดียว ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก 3องค์ มีห้องกรรมฐานสำหรับญาติโยมพักฟรี ........... ศาลาริมสระน้ำ ............ ธรรมจักใหญ่ ........ เเละถาวรวัตถุอื่นอีกมาก ที่สำคัญ............. "ปฏิปทา ความเมตตาในการโปรดญาติโยม ............. เเละ บุญญาภินิหาร....... องค์ท่าน เป็นที่เลื่องลือ " ดังจะ นำมาเล่า ต่อไป.......

 

"ฟ้าผ่าเเล้ง" .................... หลวงพ่อท่านมีเมตตา พาญาติโยม ไปสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ..................... เช่น พระใหญ่เเห่ง "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เเละอีกหลายที่ในเมืองไทย "สำนักสงฆ์ภูป่าไร่"กลางป่าสงวนเเห่งชาติ จ. มุกดาหาร คืออีกสถานที่ๆท่านพาคณะไปสร้าง ......................... เวลากลางวัน วันหนึ่งในฤดูแล้ง หลวงพ่อท่าน กำลังนั่งปรึกษาหารือ กับพระลูกศิษย์ เเละญาติโยม ณ "ภูป่าไร่" จู่ๆมี เจัาหน้าที่ราชการ ป่าไม้พร้อมตำรวจ เข้ามาหมู่ใหญ่ เขาเหล่านั้น ทำความเคารพ ท่าน ตามสมควรเเล้ว................ แจ้งข้อกล่าวหาแก่ท่าน ว่า "ชาว บ้านในละแวกนี้เเจ้ง ความให้จับกุมดำเนินคดีท่านและคณะ ใน ข้อหา บุกรุก ป่าสงวนเเห่งชาติ ณ เทือกเขาภูพานแห่งนี้....................คณะศิษย์หลายคนตกใจ หน้าถอดสี แต่ หลวงพ่อ ท่าน ยิ้ม เเละ กล่าว เหตุผลในลักษณะว่า"................................ ท่านไม่ใด้มาทำลายป่า แต่กลับรักษาป่าไม้ให้คงอยู่ ทั้งจะเป็นที่ปฏิบัติธรรม ของผู้คนเเถวนี้ ซึ่ง ณ ที่อื่นๆ เเละพระสงฆ์ หลายรูปในหลายสถานที่ ก็ปฏิบัติในลักษณะนี้ ...................ที่แห่งนี้ ก็อยู่ในเขต ป่าสงวนแห่งชาติ ที่เป็นป่าเสื่อมโทรม ไม่ใช่เขตอุทยานเเห่งชาติ " แต่คณะเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ยอม อย่างไร จะจับกุมให้ใด้อยู่ดี ................. เฝ้าล้อมท่านอยู่นาน ว่ากันว่า เป็นเวลาหลายชั่วโมง เขาเหล่านั้นก็ไม่กล้า ขยับตัวเข้าไปหาองค์ท่าน ยังนั่งล้อมอยู่อย่างเดิม พลัน เกิดเหตุ มหัศจรรย์ ขึ้น มี ............... "สายฟ้าพุ่ง จากอากาศ ลงมายังพื้นดินใกล้ หมู่คน .............ทั้ง บังเกิด กลุ่มควัน และฝุ่นดิน คละคลุ้ง ไปทั่วบริเวณ........... ยังความตกตะลึงด้วยความกลัวของคนทั้งหลาย ........ยกเว้นหลวงพ่อ" (ขณะนั้นเป็นฤดูเเล้ง ท้องฟ้าปลอดโปรง) เมื่อฝุ่นจางและ หายตกใจแล้ว ........... หลวงพ่อ จึง ถามขึ้นด้วยความเมตตาว่า "จะเอายังไง" คณะเจ้าหน้าที่ .....................คง ปรึกษากันก่อนหน้าแล้ว) คนหนึ่งจึงกล่าวขึ้นว่า "ต่อไปนี้ คณะของเขา ขอรับใชหลวงพ่อ (หลายคน กลายเป็น ลูกศิษย์ของท่าน ในเวลาต่อมา) และดูเเล ภูป่าไร่แห่งนี้ หากมีการที่ต้องใช้ ต้นไม้ในกิจของสงฆ์ ........... พวกเขา จะเป็นผู้จัดการให้ตามสมควร นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์ ใน "บุญญาภินิหารย์" ของ "หลวงพ่อกล้วย" เเห่ง วัดป่าธรรมอุทยาน จ.ขอนเเก่น ซึ่งทำให้หลวงพ่อ ใด้รับการถวาย นามอีกนามหนึ่งว่า............ " หลวงพ่อ ...ศักดิ์สิทธิ์.." : ซึ่งผู้เขียน จะ ขอนำมาเล่าต่อไป

 

......." เจาะน้ำบาดาล".........ณ สำนักสงฆ์บนหลังเขา เเห่งหนึ่ง ................... ที่ "หลวงพ่อ" ท่านสร้างขึ้นใหม่ ท่านกำลัง ดูช่าง ทำการ เจาะน้ำบาดาล อยู่ ช่างแจ้งแก่ท่านว่า"........................... เจาะจนเกือบจะลึกสุดความสามารถของเครื่องมือเจาะเเล้ว"................... (ในเบื้อง ต้น อาจจะมีหลายคนถวายคำปรึกษา เเก่หลวงพ่อก่อนเจาะ น้ำว่า ถึงจะเจาะลึกกว่าความสามารถ ของเครื่องเจาะ ก็ไม่มีโอกาสจะใด้น้ำ พอใช้,,,,,,,,,,,,,,,,,,, ท่าน ยังยืนยันให้ ลงมือเริ่มงาน) ..เเละในที่สุดช่าง .............คงจะมารายท่านว่า สุดความสามารถเเล้ว ....ท่าน จึงกล่าว ลอยๆ ขึ้นว่า .."ถ้า เจาะน้ำไม่ใด้ ก็ไม่เป็นวัด นะ"...สุดคำพูดของท่าน......................... เกิดสิ่งที่ทำให้คณะศิษย์ ที่ยืนรายรอบบ่อ ต้องตกตะลึง ........................"น้ำพุ่งขึ้นมา ล้นปากบ่อบาดาลที่กำลังเจาะ" เเละสามารถ ใช้ใด้ดี ทั้งคุณภาพ และมากพอใช้ต่อมา ..( ไม่แน่ใจว่า เหตุเกิด ที่ภูป่าไร่ หรือ แห่งอื่น)....................... เป็นเหตุการณ์ แห่งความ ทรงจำในหมู่ ลูกศิษย์ ใกล้ชิดมาจนปัจจุบัน....

 

..........." สัจจะ บารมี ของชายชรา ."..........ขออนุญาตเเทรกเรื่อง หลวงพ่อ กล้วยสักนิด ................ (ขอท่านทั้งหลาย นำเรื่อง เล็กน้อยๆ ปกิณกะ ต่างๆ ที่ใด้จากประสบการณ์ตรง เเละบุคคลใกล้ชิด.................... อาทิประวัติ พระสุปฏิปัณโณ เรื่อง ......... เกี่ยวกับบุคคล เเละสถานที่ ที่น่าสนใจ มาเล่านะครับ ).........ในราว20 ปีที่ผ่านมา มีโอกาส ใด้รู้จักประวัติ(เคยคุยกับเเก) ของ ชายชราอายุเกือบ 70ปี ผู้หนึ่ง...................... ในอตีต แกเคย เป็นทหารอยู่แถวภาคกลาง มียศเป็น"นายสิบ ทหารบก" ตั้งแต่หนุ่มๆ .....ถือว่ามีอนาคตไกลทีเดียว ซึ่งเพื่อนร่วมรุ่น ไต่เต้า จนกเษียรราชการที่ ยศ พันเอก .........................หลายคน...แต่ เขากลับ ใด้ยศ สิบเอก เท่านั้น ...เรื่องนี้มีที่มา เหตุที่ ไม่ใด้ เลื่อนยศ เพราะแก ......"พูด เเต่ความจริง เเละทำอย่างที่พูด"....มาตลอดชีวิต เลยถามไปว่า เเล้วเกี่ยวกันยังไง....... กับการถูกแป๊ก ขั้น แกตอบมาเรา อดหัวเราะไม่ใด้ .."ผมกินเหล้าเเล้ว ไปยืนด่า นาย ที่บ้านพักนายทหาร ในกรม................... เพราะ มันอม เบี้ยเลี้ยง อมเงินสวัสดิการ ลูกน้องมานาน และผมโดน ขังประจำ" ...แกย้ำว่า รักษาสัจจะมาตลอดชีวิต จึงถามแกว่า เเล้วเป็นไง ตอบว่า ...."คนที่ด่าแม่ ผม ไม่ว่านาย หรือ คนอื่นๆ................... ถ้าอดไม่ใด้ ผมก็เเช่ง ส่งเลย ปรากฏว่า ไม่มีใคร อยู่เป็นคนใด้เกิน7วัน ซักคน" ........ที่ยกตัวอย่างนี้ ขึ้นมา เพราะคิดถึงว่า ประสาอะไรกับ คนธรรมดาที่รักษา 1ในบารมี10 เป็นอย่างดี คิดเห็นถึง................ "อดีตพระโพธิสัตว์"...... พระองค์หนึ่ง ที่พวกเราหลายท่าน นับถือว่าท่านเป็น...... "พ่อเป็น ครู "...... เป็นเเบบอย่างแห่ง..... พระบรมโพธิสัตว์เจ้า คือ ......"พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดท่าซุง"........ ในสมัยท่านเกิดมาสร้างบารมี ในช่วงพุทธกาลนี้ บารมีที่ท่าน บำเพ็ญมา ให้ผลใด้อย่างน่าอัศจรรย์ ดังที่หลายๆท่านทราบดี ...........เเละ ตอนต่อไป จะได้ นำเรื่อง ผลเเห่ง การ... "ประกอบแต่กุศลกรรม โดยถ่ายเดียว"...ของ ....... หลวงพ่อกล้วย มาเล่า ในตอนต่อไป ครับ

 

.............."ภาพถ่าย เเสงแห่ง พลังกุศลกรรม บริสุทธิ์ ของหลวงพ่อ" ...................ณ ศาลา ทำวัตร เย็นถ้าท่านเดินเข้าไป ภายใน(ศาลามีสภาพ กึ่งโล่ง) ที่ผนัง ด้านหลัง จะสะดุดตากับ...ภาพถ่ายขนาดใหญ่ขององค์ พระพุทธรูป (หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปหน้าตัก7เมตรในวัด).....ส่วนล่างภาพถ่าย ปรากฏ....."กลุ่มควันปนแสงสีขาว "...กลุ่มใหญ่ หากเพ่งมอง ให้ดี จะ พอสังเกตเห็น รูปองค์ ของหลวงพ่อ อยู่ลางๆ กลางกลุ่มเเสง ดังกล่าว.....ต่อมา ผู้เขียน มีโอกาสทราบว่า เป็นแสงแห่ง....พลังบุญบริสุทธ์ ..ในอดีตที่ผ่านมา ท่านประกอบเเต่กรรมดี..โดยศีลแทบจะ ไม่ขาดตกบกพร่องเลย.....ในชาตินี้ เเละคงจะเป็นนิสสัย...มาจากอดีตชาติ นั่นเอง

 

..." สะดวกที่ใหน เเสดงธรรมที่นั่น "............... ...ธรรมมะของท่าน สามารถหา ดูใด้จาก.... you tube หรือท่าน ใด้รับนิมนต์ให้แสดงธรรมทาง รายการธรรมมะ ในช่วงเช้ามืด อยู่เป็นประจำ ทาง ฟรีทีวี (ช่อง5หรือช่อง9) เป็นธรรมปฏิบัติที่ ง่ายแต่ลึกซึ้ง ...และ มีคณะศิษย์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ ยอมรับของสังคม เป็นผู้เผยเเพร่ ธรรมเเละเกียรติคุณ ของท่านอยู่หลายท่าน ....อาทิ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ......นักวิทยาศาสตร์ ...( แห่งองค์การ นาซ่า) เเละ ถ้าเรา เดินทางไป ที่วัด ผู้เขียนสังเกตว่า หลวงพ่อ ท่านมักจะอยู่ที่วัดเป็น ส่วนมาก เพื่อ จะอยู่โปรด ญาติโยม จะเห็นท่าน เดินคุมงานก่อสร้างภายในวัด ..เเละ ภาพที่ประทับใจผู้เขียนเเละ เพื่อนร่วมคณะ อยูเสมอคือ จะเห็น หลวงพ่อท่าน แสดงธรรม โปรดญาติโยม...... "ในเกือบทุกโอกาสเเละสถานที่ ".....เคยเห็นท่านยืน แสดงธรรม ณ ลานจอดรถวัด .....ท่านนั่งเเสดงธรรม ตอนหัวค่ำ ตรงทางเดิน หน้าศาลา พระหยก...อง์ท่านเคยกล่าวว่า.... "ถึงเเม้ อายุจะยังไม่แก่นัก ก็ไว้ใจสังขารไม่ใด้"...

 

อืม..ถ้าสามารถมองผ่านแสงสีขาว.ที่ล้อมรอบหลวงพ่อได้.จะเห็นเป็นกายทิพย์
ของภพภูมิต่างๆที่มาร่วมโมทนากับท่านเป็นหลักหลายสิบท่าน..หนึ่งในนั่นมีกายพระสงฆ์ทางด้านซ้าย
มือองค์พระ.ส่วนการมองเห็นขึ้นอยู่กับความละเอียดของจิต.และหลวงพ่อขาวที่คุณเรียก คือหลวงปู่ใหญ่..
ส่วนจะเป็นธรรมกายของใครคิดว่าลูกศิษย์.ที่พอสัมผัสอะไรลึกๆทางสมาธิจะทราบดีว่า
เป็นธรรมกายของใคร..และที่วัดยังมี..ภพภูมิ ๒ ท่านๆแรกคือ ตาแก่ ที่จะคอยสอนสมาธิพระ.ที่มีสัมพันธ์ และแม่ชีที่จะมาทางเสียง..
ส่วนใครจะโชคดีก็แล้วแต่องค์ประกอบหลายๆอย่าง​

..มีอดีตพระที่เคยได้รับการสอนสมาธิและได้รับความช่วย
เหลือจากตาแก่.และหลวงพ่อสอนสมาธิ
(ปกติท่านจะไม่สอนสมาธิใครท่านจะสอนเรื่องการเจริญสติเป็นหลัก)
๒ ท่าน..ที่ทราบ ๑ ใน ๒ ที่หลวงพ่อท่านเมตตาแนะนำและสอนสมาธิให้..อยู่ในเวปพลังจิตนี่หละครับ..
​

 

สวัสดี ปีใหม่จีน ครับ

 

ชอบฟังธรรมะอาจารย์ วรภัทร์นะ งี้ก็ต้องเป็นหลานศิษย์หลวงพ่อกล้วย

แล้วหลวงพ่อกล้วย พุทธภูมิ หรือ สาวกภูมิ ครับ?

 

ผู้ถึงธรรมจริง เป็นผู้อาจหาญ ไม่สะดุ้ง ไม่หลาดกลัว ไม่หลบซ่อน

 

ผมเคยไปร่วมงาน สร้างพระ ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ครับ

 

......"วัด ธรรมอุทยาน..สะดวก ต่อการเดินทาง." ...... ... ต้องขออภัยท่านทั้งหลายด้วย..คิดขึ้นใด้ว่า วัดของหลวงพ่อ ท่านเหมาะต่อการ เดินทาง เหมาะต่อการ พักแรมปฏิบัติธรรม (วัดเปิดตลอด24ชั่วโมง ) ...จึงขอเรียนว่า ถ้าท่านจะมาวัด และไม่ใด้ ขับรถมาเอง ท่านสามารถ นั่งรถโดยสาร สาย... กรุงเทพ-อุดรธานี หรือ กรุงเทพ-หนองคาย... หรือภาคตะวันออกก็ สายระยอง-หนองคาย ...ทั้งสามสาย ก่อนซื้้อ ตั๋ว ให้แจ้งว่า...... "จะลงที่ขอนเเก่น เลยตัวเมือง ออกไปทาง จ.อุดร 12 กิโลเมตร บอกจะลงที่ บ้านสำราญ จะไป วัดหลวงพ่อกล้วย วัดจะอยู่ทางขวามือ หลังโรงเรียน ไทยรัฐวิทยา " ......

 

ขอเพิ่มเล็กน้อย..

ปัจจุบัน.วัดยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมง..แต่ถ้าหากจะพักค้างแรมเพื่อปฏิบัติ.ก็อย่าไปดึกมาก
จะไม่สดวกเรื่องที่พักอาศัยและการติดต่อ.ประตูหน้าวัดจะปิดประมาณ ๓ ถึง ๔ ทุ่มแต่ไม่ได้ล็อคตาย...
ส่วนโรงอาหารมีให้รับประทานได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง.ยังไงติดต่อ กับหลวงพี่ต้า
ท่านเป็นรองเจ้าอาวาสไว้ที่เบอร์ 0868588969 ส่วนถ้าจะแวะไปชั่วคราว.เพื่อหามุมสงบๆสำหรับไปปฏิบัติหรือจะแวะชมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ
รวมทั้งไปไหว้พระพุทธรูปที่ตนนับถือเพื่อความสงบของจิตใจ..ยังได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง..

ปล.ทำวัตรเย็น ๑๘.oo น. ทำวัตรเช้า o๒.๓o น.เวลาบิณฑบาตรแปรผันตามการมองเห็นแสงพระอาทิตย์ยามเช้าครับ​

 

....... " หลวงพ่อสงเคราะห์ ".......... วันหนึ่ง ผู้เขียนเเละคณะ เดินทางไปวัดหลวงพ่อ ไปถึงซักราวๆ3ทุ่ม คุยกันว่าวันนี้เรามาดึกเเล้ว คงไม่ได้กราบหลวงพ่อ จึงไปกราบพระพุทธรูปในวัด ทำบุญที่ตู้บริจาค เเล้วชวนกันกลับ ขณะที่ขับรถออกพ้นประตูวัด..... มองเห็นพระรูปหนึ่ง.....ยืนอยู่ที่เงามืด ทางขวาของประตู ทุกคนจึงอุทานขึ้นพร้อมกันว่า " นั่นหลวงพ่อ" พวกเราจึงลงมากราบหลวงพ่อด้วยความ ปีติ ...เหตุการณ์ แบบนี้ ปรากฏ แก่ผู้เขียนเเละ เพื่อนๆบ่อยครั้ง ....วันหนึ่งในระหว่างพรรษา มีโอกาสมาธุระเเถบอีสานเหนือได้ชวนเพื่อน2-3คน จะเข้าไปกราบพระเเละกราบหลวงพ่อ... พวกเราไปถึงประมาณ6โมงเย็นกว่าๆ ซึ่งพระเเละญาติโยมกำลังสวดมนต์ทำวัตร กันอยู่เเน่นศาลา จึงคุยกันว่า พวกเราค่อยๆเดินไปกราบพระหยก กราบพระบรมสารีริกธาตุ เเล้วจะกลับเลยคงไม่ได้พบหลวงพ่อเเล้ว ขณะที่กราบพระบรมสารีริกธาตุ เงยหน้าขึ้นครั้งที่สาม มองเห็น..หลวงพ่อ ...นั่งอยู่ที่มุมมืด ข้างตู้กระจกใหญ่ที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ.. พวกเราทั้ง อึ้งเเละดีใจ จึงตรงเข้าไปกราบท่านที่ใกล้ๆ ท่านจึงทักพวกเราเเละ ให้พร แล้วจึงกราบลาท่าน ...:ซึ่งผู้เขียน ใด้เคยประสบเหตุการณ์แบบ นี้ หลายครั้ง และหลายท่าน คงใด้พบเรื่อง ความเมตตาจากหลวงพ่อ ก็ อยากให้นำมาเล่าเเบ่งปัน เป็นธรรมทาน ต่อไปครับ

 

ขออนุโมทนา..สาธุ
หากมีโอกาสจะได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่อให้ได้ครับ..

 

............"วัดเเห่ง เเสงทิพย์".....................(ผู้เขียน มีความเข้าใจอยู่ว่า หน้าที่ที่แท้จริง ของสรรพสัตว์ทั้งหลายคือ "การตัด กิเลส ให้เป็น สมุทเฉทปหาน"....พระธรรมของพระพุทธองค์...เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องถือปฏิบัติ มิฉะนั้นแล้ว ทางไปของผู้ละเลย คือ อบายภูมิ...ผู้เขียน จะขอเขียน ในส่วนของ เรื่องเล่า ปกิณกะ เกร็ดความรู้ ประวัติบุคคล เเละสถานที่ ตามสมควร แต่ในเเง่ธรรมมะ ต่างๆ ท่านจะติดตามใด้จาก หัวข้ออื่นในเวปนี้ ซึ่งก็ขอโมทนาด้วย กับหลายๆท่าน)..............ท่านที่เคยเห็นภาพถ่าย สถานที่ต่างๆ ภายในวัด ธรรมอุทยานเเห่งนี้ คงจะสังเกต เห็นว่า จะมี ..."กลุ่มเเสง".....ขนาดต่างๆ หลายกลุ่ม....ในเกือบทุกภาพ...ในกลุ่มเเสงนี้จะมี สีต่างๆปนอยู่เป็นจุดๆ..เละจะมีวงกลมซ้อนกัน ของเเสงสีประกอบด้วย ในบางภาพ....ซึ่งเป็นความน่าอัศจรรย์..อีกอย่าง ของวัดเเห่งนี้...ซึ่งมีปรากฏมากจนเเทบไม่น่าเป็นไปใด้..... (บางท่านอาจแย้งว่าเป็นแสงจากกล้อง แต่เคยใช้กล้อง ตัวเดียวกันไปถ่ายสถานที่อื่น ก็ไม่ติดแสงดังกล่าว)..... ผู้เขียน ใด้รับการขยายความ ว่า เป็น เเสง เเห่งเทพ พรหม และท่านอื่นๆ ที่ เกินกว่าความสามารถ ของผู้เขียน จะรู้ใด้ ....แต่ขอบอกท่านว่า ...."เป็น ปรากฏการณ์ สุดพิเศษ ของสถานที่แห่งนี้จริงๆ ".....(ลอง ค้นหาภาพ จาก...google ......you tube นะครับ)

 

...ขอบคุณท่าน......deeprasit................ภาพที่ทุกๆท่าน เห็นคือภาพ ในหัวข้อ..........."ภาพถ่าย แสง เเห่งพลังกุศลกรรมบริสุทธิ์ ของหลวงพ่อ"................ซึ่งภาพที่ถ่ายจาก สถานที่เเห่งนี้ เกิดปรากฏการณ์ ...ในลักษณะ เดียวกันนี้ เป็นจำนวนมาก....

 

โมทนา สาธุ๊ครับ

พระที่ท่านสร้างมีพลังมาก ท่านมีวิชาแปลก ๆ เยอะ

 

."วัดแห่งความ ร่วมมือร่วมใจ ".........................ขอเล่าความประทับ ใจอย่างที่สุดของ ผู้เขียน ที่มีต่อ วัดเเห่งนี้ คือ .......ช่วงปีหลังทางวัดจะมีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าไปในบริเวณ วัดป่าธรรมอุทยานเเล้ว .....จะมีภาพประทับใจผู้มาเยือนคือ ..........จะเห็นภาพ ทั้งพระ เณร แม่ชี โยม ชายหญิง เด็กๆ จำนวนมาก ช่วยกัน ขุดดิน เทปูน ผูกเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต...บางท่านวาดภาพในแผ่น วัสดุที่ จะนำขึ้นประดับ .......ทราบมาว่า แทบจะไม่ใด้จ้างเเรงงานเลย ใด้มีลูกศิษย์ ของท่านที่เป็น วิศวกร ใด้อาสาออกแบบให้คำปรึกษา งานก่อสร้างตามแนวคิด ของหลวงพ่อท่าน ..........เเละ ที่น่าทึ่ง คือ งานก่อสร้าง ที่มีอย่างต่อเนื่อง จะ สำเร็จอย่างรวดเร็วมาก ....ผู้เขียน ไม่เเน่ใจว่า ท่านผลัด กันทำงาน ทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ทราบใด้ ...เพราะจะเข้า ไปวัด ตอนใหน ก็ยังเห็นท่าน ทำงานกันอยู่.......

" วัดเเห่งความร่วมมือ ร่วมใจ น่าโมทนาน่าชื่นใจ "

วันนี้ก่อนที่ผู้เขียนจะไปทำกิจส่วนตัวที่ จังหวัดเเถบชายโขง ใด้พาครอบครัวตั้งใจ ไป ถวาย "สังฆทาน" กับ "พระเดชพระคุณหลวงพ่อ กล้วย " เพื่ออุทิศกุศลให้เเด่ "ท่านผู้ดูเเลยาน พาหนะ " คันใหม่

เมื่อไปถึงวัด กราบ "พระพุทธเจ้าปางประสูตร" เเล้ว เดินเลียบโรงครัว
โรงฉัน เข้าไปในวัด เพื่อมองหาหลวงพ่อ ผู้เขียนเห็นภาพประทับใจ เหมือนทุกๆครั้งคือ เห็นภาพ "หลวงพ่อท่าน" นั่งบนเก้าอี้ที่ตั้งบนพื้นที่เปียกชื้น มี " พระเณร ญาติโยมชายหญิง เเม่ชี " พร้อมใจกัน ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตนเองอย่างสงบ เเต่กระฉับกระเฉง เเข็งขัน ในการผูกเหล็ก เข้าเเบบ เทคานเเละเสา ของอาคารหลังใหม่ ที่กำลังก่อสร้าง

เเละในเวลาเดียวกัน มีญาติโยม ทั้งใกล้เเละไกล (ส่วนมากมาจาก กทม.) มากราบฟังธรรม เเละถวายทาน "ตรงที่หลวงพ่อท่านนั่ง " เป็นประธานก่อสร้างอยู่

ผู้เขียนขอย้ำว่า "รู้สึกโมทนา" ในการก่อสร้างเเต่ละอย่างภายในวัดของท่าน
ทั้งรวดเร็ว สวยงาม ลงตัว เเละน่าชื่นชมในความพร้อมเพรียง .....

เเละในปัจุบันผู้เขียนสังเกตุว่าผู้คนจะ มาที่ "วัดป่าธรรมอุทยานเเห่งนี้"ในเเต่ละวัน เป็นจำนวน มากขึั้นๆ ทั้งมาเเวะกราบพระถวายทาน ทั้งมาอยู่ปฎิบัติธรรม

 

...."หลวงพ่อท่าน คิดสิ่งใด จะมีคนช่วยทันที".............................เมื่อสิบกว่าปีก่อน หลวงพ่อท่าน มีความ ดำริห์ ในการจะสร้าง พระ ประธาน ขนาดใหญ่ ใว้ในวัด ซึ่งเป็นปีเเรกๆ ในการสร้าง ถาวรวัตถุ (ซึ่ง มีอยู่มากมาย เเละ ทรงคุณค่า ยิ่ง ในปัจจุบัน)...................ภายหลังจากที่ท่าน คิดจะสร้างพระดังกล่าว ไม่นาน (อาจจะประมาณ วันหรือสองวัน).........มีโยม เดินทางมาจาก ต่างจังหวัด มากราบท่าน ที่วัด (จำใด้ว่านั่งเครื่องบินมาจากกรุง เทพ).............พร้อม สิ่งของในกระเป๋า เมือกราบท่าน เเละ สนทนาสักครู่ เเล้ว .....โยมท่านนี้ จึง พูด ขึ้นว่า......."ผม อยาก ถวายเงิน ให้หลวง พ่อ สักก้อน หนึ่ง เพื่อใช้ในการก่อสร้าง ภายในวัด "......พร้อม กับยื่น ห่อเงินสด ประมาณ 1ล้านบาท.......(ถ้าจำ ไม่คลาดเคลื่อน โยมผู้นี้ เอ่ยปาก ถวาย สร้าง พระพุทธรูป ก่อน ที่หลวงพ่อ จะเอ่ยปาก ให้ทราบ ความต้องการของท่าน) .........:ซึ่งเป็น เรื่อง ราว พิเศษ หนึ่งในหลาย อย่างของ หลวงพ่อท่าน......