หลวงพ่อรู้อารมณ์จิต

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย สัมมาสติ, 21 ตุลาคม 2010.

  1. สัมมาสติ

    สัมมาสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +229
    [​IMG]

    เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 ข้าพเจ้าได้พาภรรยาพร้อมด้วยผู้ติดตามอีก 2 ท่านคือ พ.อ.อ.สายศิริรัตน์และ พ.อ.อ.กริช บำรุงพงษ์ ไปร่วมงานพิธี 100 ปี หลวงปู่ปาน ที่วัดท่าซุง อุทัยธานี

    ในวันนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่ามีพระสุปฏิบันโน ระดับสูงจากภาคเหนือมาร่วมในงานพิธีมากมายอาทิเช่น หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก หลวงปู่คำแสน(เล็ก) วัดดอนมูล หลวงปู่ครูบาธรรมชัย หลวงปู่ครูบาวงศ์ หลวงปู่สิม หลวงปู่บุดดาและหลวงปู่มหาอำพันจากวัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯเป็นต้น

    (ความจริงมีมากกว่านี้ แต่เนื่องจากกาลเวลาผ่านมานานมาก และข้าพเจ้าเกรงจะเกิดการผิดพลาดขึ้นจึงมิกล้าเอ่ยถึงท่านอื่นๆ อีก)

    เมื่อใกล้เวลาที่หลวงพ่อจะขึ้นศาลา ข้าพเจ้าและผู้ติดามก็พากันรีบขึ้นไปรอหลวงพ่ออยู่บนศาลาร่วมกันบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ซึ่งมาชุมนุมกันอยู่อย่างแน่นขนัด และต่างก็ชะเง้อมองลงไปดูขบวนแห่ของหลวงพ่อซึ่งเมื่อเห็นก็บังเกิดอาการขนลุกซู่

    เพราะภาพที่ปรากฏก็คือ หลวงพ่อของเราประทับนั่งอยู่บนเสลี่ยงเป็นสง่า และรอบๆเสลี่ยงนั้นมีหลวงปู่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแล้วข้างต้นเดินตามมาด้วยอาการสงบเสงี่ยมเสมือนหนึ่งขุนศึกถวายอารักขาจอมทัพฉะนั้น

    (นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่เกิดขึ้นในจิตของข้าพเจ้าในขณะนั้นจริงๆ มิใช่มากล่าวเยินยอหลวงพ่อที่เป็นอาจารย์เกินเหตุ)

    เมื่อเสลี่ยงของหลวงพ่อขึ้นมาบนศาลา และเคลื่อนใกล้มายังจุดที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ ข้าพเจ้าสังเกตเห็นหลวงพ่อซึ่งนั่งอยู่บนเสลี่ยงมีผิดสีดำและเคี้ยวหมากอีกด้วย(ตามปกติหลวงพ่อจะไม่ฉันหมาก) จิตในตอนนั้นของข้าพเจ้า ก็บังเกิดความอยากได้ชานหมากที่หลวงพ่อกำลังขบเคี้ยวอยู่ขึ้นมาอย่างรุนแรง

    และคิดว่าหากได้มาข้าพเจ้าจะกินและกลืนลงท้องทันที น่าจะเป็นศิริมงคลอย่างยิ่ง ทันใดนั้นสิ่งที่เหลือเชื่อก็อุบัติขึ้น กล่าวคือ หลวงพ่อคายหมากที่กำลังขบฉับอยู่ลงในฝ่ามือแล้วพูดดังๆ ว่า “เอ้า คุณมนูญ เอาไป” พร้อมกับปาชานหมากนั้นมาทางกลุ่มของข้าพเจ้าซึ่งเบียดอยู่กับศิษย์อื่นๆ แน่นขนัดข้าพเจ้าในขณะนั้นทำอะไรไม่ถูก เพียงแต่ยกแขนแบมือขึ้นเหนือศีรษะ

    ท่ามกลางฝ่ามือของผู้อื่นเป็นจำนวนมากที่กระโดดขึ้นแย่งชานหมากที่ลอยมา แต่ทว่าหมากของหลวงพ่อคำนั้นกลับมาตกอยู่ในฝ่ามือของข้าพเจ้าที่ยกชูขึ้นเฉยๆ ทั้งคำโดยมิได้กระจายหรือตกไปเป็นของผู้ใดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งข้าพเจ้าก็รับเอาใส่ปาก และเคี้ยวกลือลงไปตามที่ได้ตั้งใจไว้แต่แรกโดยทันทีท่ามกลางความประหลาดใจแก่ผู้ที่อยู่รอบข้างเป็นอย่างยิ่ง

    [​IMG]


    ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าดังกล่าวนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากคิดว่าหลวงพ่อรู้ถึงอารมณ์จิตของข้าพเจ้าในขณะนั้นว่า อยากได้ชานหมากที่ท่านกำลังขบเคี้ยวเป็นอย่างยิ่งจึงโยนให้มา และการที่หลวงพ่อจะรู้ถึงอารมณ์จิตของข้าพเจ้าได้หลวงพ่อก็ต้องได้เจโตปริยญาณ อย่างแน่นอน

    นอกจากนั้นหลวงพ่อจะต้องทรงอภิญญาด้วย จึงสามารถบังคับชานหมากทั้งคำมิให้แตกกระจายและหลบเลี่ยงจากการไขว่คว้าของผู้อื่น จนกระทั่งมาตกลงบนฝ่ามือของข้าพเจ้าได้ดังที่ตั้งใจจะให้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์อีกด้วย

    อีกครั้งหนึ่ง พออากาศตรีเรวัตร วิริยพงศ์(ยศในตอนนั้นขณะที่เป็นเจ้ากรมจเรทหารอากาศ) และนาวาอากาศเอกสมชาย ถึงพุ่ม(ยศในตอนนั้น ขณะที่เป็นรองเจ้ากรมจเรทหารอากาศ) ได้พากันมาที่บ้านพักของข้าพเจ้าในกองบิน 4 ตาคลีจอนเย็นหลังจากการปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมกองบินของกรมจเรฯ ทั้งนี้เพราะทั้งสองท่าน มีความศรัทธาธรรมเลื่อมใสในหลวงพ่อมาก

    และได้ทราบว่าข้าพเจ้าจะเดินทางออกจากกองบินฯในตอนพลบค่ำ เพื่อไปนั่งกรรมฐานที่วัดท่าซุง จึงอยากจะขอติดตามไปด้วย ระหว่างที่ระเวลาออกเดินทาง ท่านทั้งสองก็เล่าถึงความในใจให้ข้าพเจ้าฟังว่า การไปคราวนี้ตั้งใจจะเรียนถามปัญหาธรรมะที่ยังเคลือบแคลงสงสัยในหลายๆเรื่องจากหลวงพ่อ

    ซึ่งข้าพเจ้าก็แนะนำไปว่าให้เรียนถามท่านหลังจากที่หลวงพ่อคุมศิษย์นั่งปฏิบัติกรรมฐานแล้วเพราะจะเป็นช่วงที่หลวงพ่อสอนศิษย์ และให้ศิษย์สอบถาม ทั้งสองก็เข้าใจ ปรากฏว่าในคืนนั้นหลังจากที่หลวงพ่อคุมศิษย์นั่งปฏิบัติพระกรรมฐานเสร็จ

    หลวงพ่อก็สอนทุกคนนานผิดปกติ และเมื่อสอนเสร็จหลวงพ่อก็หันไปพูดกับนาวาอากาศเอกสมชายว่า

    “เป็นยังไง จะคิดปฏิวัติในหรืออย่างไร จึงมีปัญหามากมายนัก ยังจะมีข้ออันใดที่สงสัยอีกไหม? ”

    นาวาอากาศเอกสมชายก็พนมมือตอบหลวงพ่อว่า

    “ที่ผมและเจ้ากรมเรวัตร คุยถกเถียงกันถึงปัญหาธรรมะมาโดยตลอดนั่น หลวงพ่อได้ตอบไปทั้งหมดแล้ว จนไม่มีข้อสงสัยใดใดที่จะต้องสอบถามอีกแล้วครับ”

    เป็นอันว่าหลวงพ่อรู้ถึงอารมณ์จิตของท่านทั้งสองหมดว่าสงสัยอะไรบ้างและการรู้อารมณ์จิตของผู้นั้น หลวงพ่อได้แสดงให้ศิษย์รุ่นต่อๆ มาเห็นมามากต่อมาก หากข้าพเจ้าจะนำมาเล่าก็คงไม่รู้จบ จึงขอยุติไว้เพียงแค่นี้

    อ้างอิง หนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.984161/[/MUSIC]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2010
  2. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    [​IMG]
    หลวงพ่อก็สอนทุกคนนานผิดปกติ และเมื่อสอนเสร็จหลวงพ่อก็หันไปพูดกับนาวาอากาศเอกสมชายว่า

    “เป็นยังไง จะคิดปฏิวัติในหรืออย่างไร จึงมีปัญหามากมายนัก ยังจะมีข้ออันใดที่สงสัยอีกไหม? ”


    นาวาอากาศเอกสมชายก็พนมมือตอบหลวงพ่อว่า

    “ที่ผมและเจ้ากรมเรวัตร คุยถกเถียงกันถึงปัญหาธรรมะมาโดยตลอดนั่น หลวงพ่อได้ตอบไปทั้งหมดแล้ว จนไม่มีข้อสงสัยใดใดที่จะต้องสอบถามอีกแล้วครับ”

    กราบอนุโมทนาสาธุ...อย่างยิ่งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 ตุลาคม 2010
  3. dalin

    dalin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +338
    สาธุ ขอบคุณมากมายนะคะ ที่นำมาเผยแผ่ให้ได้สัมผัสค่ะ
    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...