หลวงพ่อสด แยกกายมาจากต้นธาตุต้นธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย belives, 29 ตุลาคม 2010.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ก็นี่แหละ ท่องตำหรับ ตำรามา มันก็ได้แค่นั้นแหละ

    ก็ อัปปนาสมาธิ ในปุถุชน เหมือนพระอริยะเสียเมื่อไรเล่า ในปุถุชน นั้นใช้กำลังสมาบัติข่มลงไปให้จิตสงบนิ่ง

    แต่ ในพระอริยะนั้น ละสิ่งที่เป็นสังขาร ให้ดับไป จิตก็สงบนิ่ง

    เตชพาโล สงสัยจะมีแต่ราคาคุยเสียกระมัง
     
  2. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    คุณนี่แถไปเรื่อย

    ทั้งปุถุชน และ พระอริยะ นั้น ต้องละต้องดับสังขาร
    เพื่อให้จิต สงบนิ่งเหมือนกัน

    ถ้าไม่ละไม่ดับสังขาร จิตจะสงบนิ่งเหรอ
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เตชพาโล ฟังให้ดี

    คุณยังข้องอยู่ เยอะ ธรรมทั้งหลาย ไม่ใช่อยู่ที่ความจำ ความนึกได้คิดได้เท่านั้น

    ไม่ใช่ว่า นึกได้ แล้ว แสดงว่าเรามีปัญญาแล้วนะ

    ธรรมนี้ ไม่ต้องมีปัญญาก็ได้ แต่ เป็น ตาธรรม คือ รู้ตามสภาพ แล้วย่อมรู้หมด

    ยังต้องผ่านด่านอีกมาก เตชพาโล

    สติคุณยังไม่กล้าพอ ต้องหมั่นเจริญ สติ ในอริยาบทให้มาก ไม่ใช่เอาแต่เล่นเว็บไม่หลับไม่นอน

    เวลา พูด เวลานึก เวลาคิด เวลารู้สึก ให้เอาสติกำกับให้ดี แล้วเอาหิริโอตัปปะ ตามจับไปพร้อมกับสติ

    นั่นแหละ จะทำให้ เกิด กุศลธรรม ใน พูด ในนึก ในคิด ในรู้สึก

    ขอตัว
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    นี่ ตีโง่สเปโต ก่อนนอน อีกแล้ว

    ความเป็นสังขารภพใหญ่ ในตัวตนของปุถุชน ไม่ได้ดับไป แต่ ถูกกดข่ม
    แต่ พระอริยะ สังขารในภพ น้อยใหญ่ ถูกดับไป

    เอาความผมไปถามครูบาอาจารย์ ว่าจริงหรือไม่ แล้วค่อยมาแย้ง ภายหลังก้ไม่สาย
     
  5. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    คุณก็เลิกระรานคนอื่นได้แล้ว

    ตัวคุณนี่อ่อนหัดทั้งทางธรรม และ การเมือง นะผมจะบอกให้
     
  6. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ผมว่ามันเหมือนกับอรหันต์รากไทรกับอรหันต์ตุ่มยังไงๆพิกลนะ5555พอเหอะ
     
  7. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ไปลากอะไรมาแถอีกล่ะ

    พูดเรื่อง สมาธิ กับ สติ ในปุถุชน กับ พระอรหันต์อยู่ดี ๆ
    ไปลาก ภพ ลาก สังขารอะไรมาเกี่ยวข้องอีก

    มันต้องไปน้ำขุ่น ๆ ใช่มั้ยถึงจะรอดได้
     
  8. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ถ้าไ่ม่ตอบอะไรผมก็ขอตัวเหมือนกัน
    มี ลิมิต แค่นี้แหละ
    นะ ถกเถียงกัน เืพื่อเสริมปัญญา ในการพิจารณาธรรม
    อย่าคิดมาก
     
  9. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    เรื่องพระอรหันต์ย่านไทร ​
    (ปาโรหอรหันต์)

    ภิกษุโกหก ​
    (ผู้หลอกลวง) อีกรูปหนึ่ง อาศัยอยู่ที่บรรณศาลาใกล้ภูเขา
    ลูกหนึ่ง ก็ต้นไทรต้นหนึ่งมีอยู่ที่เงื้อมเขา
    (เหว) ข้างหลังแห่งบรรณศาลา ราก
    ของต้นไทรนั้น ไปปรากฏอยู่ที่พื้นดินส่วนหนึ่ง
    . มนุษย์ทั้งหลายเดินมาตาม
    ทางแล้ว ย่อมนิมนต์ภิกษุนั้นเพื่อภัตตาหาร
    . ภิกษุนั้นถือบาตรและจีวรแล้ว
    โหนลงมาตามรากของต้นไทรนั้น แล้วมาปรากฏตัวใกล้ประตูบ้าน
    . ลำดับนั้น
    ผู้อันมนุษย์ทั้งหลายผู้มาถึงที่ลังถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญท่านมาทางไหน ดังนี้
    ภิกษุนั้น ย่อมแสดงซึ่งความที่ตนเป็นผู้มีอาสวะสิ้นแล้วด้วยคำว่า ชื่อว่า ทางอัน
    สมณะทั้งหลายมาแล้ว ไม่สมควรถาม สมณะทั้งหลาย ย่อมมาโดยที่อันตน
    ปรารถนาแล้ว ๆ
    . ดังนี้. ก็บุรุษผู้ฉลาดคนหนึ่งฟังเรื่องโดยตลอด ทราบแล้ว
    คิดว่า เราจักเฝ้าจับดูภิกษุนี้ ดังนี้ ในวันหนึ่ง เขาเห็นที่เป็นที่ภิกษุนั้นอยู่
    ดังนี้ ในวันหนึ่ง เขาเห็นที่เป็นที่ภิกษุนั้น ก้าวลงตามรากต้นไทร จึงตัด
    รากไทรนั้นข้างหลัง เหลือไว้เล็กน้อย
    . ภิกษุผู้หลอกลวงนั้น คิดว่า เราจัก
    จับรากไทรก้าวลงไป จึงจับรากไทรนั้น ทีนั้น ก็หล่นลงไปที่ดินเหนียว
    บอบช้ำแล้ว เธอทราบว่า ใคร ๆ ทราบเรื่องของตนแล้ว จึงหนีออกไป ดังนี้
    .

    ความเป็นแห่งบุคคลผู้ปรารถนาลามก ชื่อว่า สภาพลามก ก็เมื่อว่า
    โดยลักษณะแล้ว บัณฑิตพึงทราบว่า ความที่บุคคลนั้น ยังบุคคลอื่นให้สรร
    เสริญความดีอันไม่มีอยู่และความที่ตนเป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในการรับ ข้อนี้
    เป็นลักษณะของความเป็นผู้มีความปรารถนาลามก ดังนี้​
    .
    เรื่องพระอรหันต์ตุ่มน้ำ ​
    (จาฏิอรหันต์)

    ได้ยินว่า ภิกษุโกหก ​
    (ผู้หลอกลวง) รูปหนึ่งฝังตุ่มน้ำใบใหญ่ไว้
    ภายในห้องของตน ย่อมเข้าไปในตุ่มในเวลาที่พวกมนุษย์มาหา มนุษย์ทั้งหลาย
    จึงถามกันว่า พระเถระไปไหน ดังนี้
    . ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวว่า พระเถระ
    อยู่ในห้อง ดังนี้ พวกมนุษย์แม้เข้าไปค้นหาอยู่ เมื่อไม่เห็นจึงออกมาแล้ว
    กล่าวว่า พระเถระไม่มี ดังนี้ ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวว่า พระเถระอยู่ภายใน
    ห้องนั้นแหละ ดังนี้ พวกมนุษย์จึงเข้าไปอีก พระเถระนั้นออกจากตุ่มแล้ว
    มานั่งอยู่ที่ตั่ง
    . ลำดับนั้น เมื่อมนุษย์ทั้งหลายกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พวก
    กระผมไม่เห็นท่านเมื่อเขามาครั้งแรกจึงออกไป ท่านไปอยู่ที่ไหน ดังนี้ ภิกษุ
    นั้น ย่อมแสดงซึ่งความที่ตนเป็นผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ด้วยคำว่า ชื่อว่า สมณะ
    ทั้งหลายย่อมไปสู่ที่อันตนปรารถนาแล้ว ๆ ดังนี้
    .

    สิงคนิทเทส
    อธิบาย การพูดทิ่มแทง​
    ชื่อว่า ​
    สิงคะ เพราะอรรถว่า เป็นเครื่องทิ่มแทง. เครื่องทิ่มแทงนี้
    เป็นชื่อของการทิ่มแทงเพราะกิเลส กล่าวคือ ความที่วาจานั้นเป็นเครื่องทิ่มแทง
    ชองชาวเมือง
    . ความเป็นแห่งวาจาเป็นเครื่องทิ่มแทง ชื่อว่าสภาพแห่งวาจาเป็น
    เครื่องทิ่มแทง อีกอย่างหนึ่ง อาการเป็นเครื่องพูดทิ่มแทง ก็ชื่อว่า สภาพที่พูด
    ทิ่มแทง
    . ความเป็นแห่งบุคคลผู้พูดเป็นสีเหลียม ชื่อว่า การพูดเป็นสีเหลี่ยม.

    การพูดเป็นสี่คมก็อย่างนั้น​
    . ความเป็นแห่งบุคคลผู้พูดเป็นเหลี่ยมเป็นคู ชื่อว่า
    สภาพที่พูดมีเหลี่ยมมีคู
    . คำนี้ เป็นชื่อของความเป็นของบุคคลผู้ชำนาญการ
    พูดทิ่มแทง ซึ่งตระเตรียมไว้ก่อนนั่นแหละ
    (เช่นกับขุดบ่อล่อปลา) คำนอก
    นี้เป็นไวพจน์ของคำพูดทิ่มแทงทั้งนั้น
    . การพูดทิ่มแทงด้วยอำนาจแห่งกิเลส
    ท่านกล่าวไว้ด้วยบทแม้ทั้งหมด ด้วยอาการอย่างนี้
    .
    ตินติณนิทเทส
    อธิบาย การพูดเกียดกัน​
    คำว่า ​
    ตินฺติณํ ได้แก่ การพูดติเตียน หรือพูดเกียดกัน. อาการ
    แห่งความประพฤติเกียดกัน เรียกว่ากิริยาที่พูดเกียดกัน
    . ความเป็นแห่งบุคคล
    ผู้พรั่งพร้อมด้วยความเกียดกันของผู้พูดด้วยความเกียดกัน ชื่อว่าสภาพที่เกียด
    กัน
    . ความเป็นแห่งบุคคลผู้ละโมบ ชื่อว่า สภาพที่ละโมบ. คำนอกจากนี้
    เป็นคำอธิบายความเป็นแห่งกิริยาอาการของคำพูดเกียดกัน
    . คำว่าปุจฺฉญฺชิกตา

    ได้แก่ ความหวั่นไหวของการเสวยอารมณ์ในฐานะแห่งประโยชน์ที่ควรได้
    หรือไม่ควรได้ ท่านเรียกว่า ความประพฤติถ่อมตน​
    . คำว่า สาธุกมฺยตา

    ได้แก่ ความปรารถนาที่จะได้สิ่งอันประณีตยิ่งขึ้นไป​
    . ท่านกล่าวอาการเกียดกัน
    ไว้ ด้วยสามารถแห่งกิเลสด้วยบททั้งปวง โดยหมายเอาว่า วัตถุของผู้อื่นเป็น
    ราวกะว่าเป็นของตน เช่นกับการเห่าของสุนัขที่กำลังดื่มน้ำข้าวที่รางน้ำข้าว
    เพราะเห็นสุนัขอื่นมา ดังนี้
    .

     
  10. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    คุณเก่งคุณควรสำรวมกว่านี้
    หากสิ่งใดเป็นธรรมก็พึงแสดง
    หากเป็นกิเลสก็พึงเก็บไว้อย่าให้มันแปดเปื้อนผู้อื่น
    และระลึกถึงความตายเอาไว้

    ให้ดูกายดูใจของตัวเองเอาไว้
    ยมทูตเค้าเตือนมาอยู่ตลอดเวลา

    สั่งสมคุณงามความดีเอาไว้
    อย่าตั้งอยู่ในความประมาืืท

    จะไปสูงหรือไปต่ำก็ตัวเราเองนะ
     
  11. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    นั่นแหละธรรมอ่านให้ดีๆ ตั้งสติพิจารณาสิ่งต่างๆให้ดีๆ ถ้าคุณยังมองเห็นสิ่งต่างๆคลาดเคลื่อนอยู่ ยังไม่รู้จักนำคำสอนทั้งหลายของพระอริยะเจ้าตลอดจนพระศาสดามาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ตนนั้น ยังไม่ถือว่าแจ้งหรอกสำหรับผมถือว่าความประมาททั้งหลายเกิดขึ้นแก่คุณทั้งสองคนนั่นแหละ โดยเฉพาะตัวคุณนะคุณเตชพโล นั่นก็เป็นชื่อขณะเป็นภิกษุหาได้มีประโยชน์เตือนใจอันใดก็หาไม่ อย่าให้เสียประโยชน์ หากคุณมีปัญญาจริงอย่างว่า จงอ่านข้อความทั้งหมดแล้วพิจารณาดูสิว่า เหตุใดอยู่ๆพระศาสดาถึงตรัสเรื่องพระอรหันต์โกหกหลอกลวงทั้งสองประเภทและเรื่องอื่นที่ผมยกตัวอย่างมาทั้งที่จริงมันก็มีอีกมากที่เกี่ยวข้อง อีกคนเขาก็กำลังพิจารณาอยู่ ตัวคุณอย่าทำตัวเหมือนผู้ดิ้นรนทุรนทุรายหน่อยเลย(เพียงแค่แนะนำนะ) มันดีเท่าไหร่แล้วที่มีคนคอยเตือน เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้อะไร ผมไม่นิยมหลอกตนเองมาตั้งไม่รู้ไหนๆแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องบวชอย่างจริงจังในตอนนี้เพราะผมยังมีภาระกิจอีกมากมายที่ต้องสานต่อให้ลุล่วง ผมมาอ่านและศึกษาหาความอันเป็นประโยชน์เท่านั้น บางคราวก็อาจจะกล่าวบางอย่างที่พิจารณาแล้วเหมาะสม ไม่เคยแฝงซึ่งกิเลสนัยอันใด และไม่เคยแฝงซึ่งความมีมานะอันใด รวมไปถึงความคิดว่าเหนือหรือต่ำกว่าผู้ใดก็ดี ผมจะแนะนำคุณนะครับคุณเตชพโลและก็ใครๆอีกหลายคน การที่คนเราจะมีธรรมเป็นผู้บรรลุธรรมหรือเข้าถึงธรรมนั้น มันไม่ได้เพราะเพียงแค่นำเอาธรรมนั้นมาพูดสาธยายได้เพียงเท่านั้น มันเป็นเรื่องของการมีความสามารถนำธรรมทั้งหลายเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับระดับความเป็นจริงของตนเอง จึงเรียกว่า เป็นผู้มีสติสมบูรณ์ คือรู้ตามสถานภาพปัจจุบัน ไม่หลงความคิดไปต่างๆนานา เหมือนที่คุณและใครๆเคยเป็นมาแล้วในอดีตแม้ปัจจุบันก็ยังไม่ยอมทิ้งมันเสียที ดังนั้นผมจึงยกตัวอย่างโดยนำธรรมของพระศาสดามาเป็นเครื่องเตือนใจ เอาไว้ว่า ของใดสมควรของใดไม่สมควร ผมคงมีเวลาคุยกับคุณได้ไม่มากนักหรอกครับ บางทีก็มีอารมณ์อยากตอบและบางทีก็ไม่มีอารมณ์อยากตอบ แต่เวลาตอบโดยมากก็ตอบเพื่อให้ผู้ถามเข้าใจมัน เข้าใจความเป็นจริงของตนและบุคคลอื่นเท่านั้น ไม่ได้บอกให้เชื่อผมนะ ผมให้เชื่อพระศาสดาแล้วพิจารณาดูว่าทำไมกันพระศาสดาจึงสอนอย่างนั้น

    (หากคุณมองเห็นอคติในข้อความเหล่านี้ นั่นแหละคือสภาพความเป็นจริงของตัวคุณ ความประมาททั้งหลายผมสั่งสมและทำลายลงไปมากมายแล้วครับ อย่ากังวลและห่วงผมเลย)

    สาธุคั๊บ
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เตชพาโล คุณอย่าไปสนใจ คนไร้ราคา
    อย่าไปโฟกัสที่อื่น
    หากว่า คุณจะถกกับผม ก็เชิญได้ทุกเมื่อ
    ผมยินดี
     
  13. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    คำพูดและความคิดทั้งหลายล้วนแสดงความเป็นตัวและตน ว่าคนไร้ราคาแท้จริงคนทั้งหลายก็หาได้มีราคาจริงๆไม่ เพราะที่มีราคาทั้งหลายนั้นเกิดจากความยึดมั่นว่านั่นว่านี่คือความที่ว่าตนนั้นมีดีเหนือกว่าใครสมควรแล้วละที่เป็นเช่นทุกวันนี้ ถ้าทั้งหมดที่กระทำนั้นเรียกว่าถกธรรม ก็สมควรแล้วละที่ธรรมแห่งตนจะเสื่อมสูญไปเหลือแต่ความโง่อย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้ คนที่น่าจะสนใจคือความจริงของตนกลับไม่สน ไปสนใจราคาที่เป็นเรื่องไร้สาระ ธรรมะที่พร่ำเรียนมาตั้งแต่แก่จนจวนจะหมดอายุขัยไม่ได้ช่วยให้จิตนั้นชำระและดีขึ้นได้เลย กรุณาอย่าทำให้เสื่อมเสียต่อครูบาอาจารย์ที่ท่านพร่ำสอนไว้มากกว่านี้เลย หรือท่านจะสอนแต่ไม่ยอมฟังยอมเข้าใจอย่างว่า เลยกลายเป็นพวกน้ำเต็มแก้วไปโดยปริยาย
    ผมละสังเวชใจกับคุณๆทั้งหลายจังเลย คงยังเจอทุกข์อันแสนสาหัสกันยังไม่พอเลยคิดและแสดงความคิดเห็นแบบนี้ได้ เอาเถอะตามแต่จะสรรสร้างไปดังใจคุณๆก็แล้วกันนะครับ
     
  14. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ผมเอาธรรมะพระอรหันต์สด ๆ ร้อน ๆ เลยนะ มาให้
    จะเอาก็เอา ไม่เอาก็เรื่องของคุณ

    หากเราผิดเราพลาดตรงไหนก็รีบแก้ไขปรับปรุงซะ
    ก็หมั่นสร้างบารมีไป

    คนปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นล้าน ล้าน ล้าน ๆๆๆ
    กว่าจะได้เป็นซัก 2 คนในนั้นก็ยากเต็มที

    มาประพฤติตัวแบบนี้มันจะไหวเหรอ
    เอานะยกจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น
    สิ่งภายนอกมันหนักแต่จิตใจภายในของเรามันเบาได้
     
  15. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ผมบอกแล้วไงอย่าคิดมาก

    เอาไว้ผมมีเวลาว่างอย่างนี้อีก
    ค่อยว่ากัน แล้วกัน
     
  16. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอบคุณครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าไหวหรือไม่ไหวจะเชื่อไหมครับ ผมรู้อยู่แล้วอะไรคือหลอกอะไรคือจริงเชื่อไหมครับ ผมเองก็มีข้อผิดพลาดมากมายมหาศาลเช่นเดียวกับโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายก่อนจะเป็นโพธิสัตว์ แล้วรู้ไหมว่าทำไมผมถึงมองว่าธรรมทั้งหลายที่คุณทำเป็นอาการของคนเมา เพราะพูดจากันอยู่ทั้งสองคนมันเหมือนสองคนนั้นพูดไปคนละเรื่อง และเรื่องที่พระพุทธเจ้ามีเป็นล้านๆองค์นั่นนะ ถ้ายังไม่เห็นแจ้งด้วยตนเองก็ไม่ควรเอามาพูด ถึงแม้จะเป็นของใครก็ตามทีคนที่พูดเขาย่อมมีวัตถุประสงค์ที่เป็นไปตามผู้มาฟังธรรมเทศนา เรื่องเหล่านี้ผมพอทราบว่ามีพระพุทธเจ้าที่จะอุบัติในโลกนี้ในอนาคตกาลหลายพระองค์ ก่อนหน้านี้ก็มีมาแล้วหลายพระองค์ แต่เป็นการทราบตามตำราตามคำบอกเล่ายังไม่เห็นจริงกับใจ แต่สิ่งที่ผมสำคัญนั้นผมสำคัญเฉพาะ เมื่อตนเองไม่มีความสามารถจะเห็นความผิดของตนแล้ว ก็เสียเวลาเปล่าที่จะแก้ไขสิ่งใดเพราะแก้ไปก็ไม่ตรงจุด ภายนอกผมหนักภายในผมก็หนักแต่ไม่ได้ทุกข์เพราะความหนัก เป็นแต่เพียงของที่มันควรมีและควรเป็นไปตามนั้นจึงไม่ได้คิดว่าหนักหรือเบา และความจริงแล้วผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าจะกลัวกับระยะเวลาเลย และไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของผู้คนโดยเฉพาะผู้ยังไม่ถึงธรรมว่ามันจะมีผลย่ำยีจิตใจตัดทอนกำลังใจผมลงได้ และผมก็ยังคงมีเจตนาเหมือนเดิมว่า พิจารณาดีๆนะว่า กิเลสกับธรรม มันต่างกันแค่ไหน ไหนๆก็เคยหลงผิดกันมาแล้วทั้งนั้น สำหรับผมยังมีเวลาทำความเข้าใจและพยายามทำความเข้าใจอยู่ แม้จะประมาทไปบ้างแต่ก็ไม่ได้พลาดท่าเสียทีจนต้องเสียจริต จิตวิปลาสไป ผมก็ว่าคุณคงห่วงผมมากๆๆเลยผมก็เลยห่วงคุณมากๆเช่นเดียวกัน
    จะว่าเป็นธรรมก็เป็นธรรมนะ เพราะของต่างๆที่ใครเขาสอนไว้บนโลกนี้ถ้ามีความวิริยะอุตสาหะก็ไม่เกินกำลังจะหาได้ แต่ปัญญาทั้งหลายเป็นของที่เกิดกับตนเองและมีไว้เพื่อให้ตนได้ละสลัดคืนกิเลสนั้นสิ้นไป อันนี้ว่าจริงไหมครับ
    สาธุคั๊บ
     
  17. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    มันจะมาห่วงอะไรกันนักกันหนาวะ
    คุยกับลุงขันธ์แค่นี้ก็ยังห่วง

    ทำเป็นวน ๆ เวียน ๆ มาโพสต์อยู่ได้
     
  18. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    แต่ถึงยังไงก็ตาม
    ผมขอขอบคุณ...และ ดีใจ...
    ที่คุณเป็นห่วงผมนะคุณเก่ง
     
  19. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    รับทราบครับผม ที่คุยกับเขาผมไม่ห่วงหรอกครับ แต่ที่ห่วงคือเอาสิ่งที่มันไม่ดีมาโยนใส่กัน มันมีทั้งทิฐิ ทั้งมานะ ที่มาจากความไม่ยอมกัน ความถือตัวถือตนกันครับ รุณก็ร่ำเรียนมาออกปานนี้ ปฏิบัติธรรมมาออกปานนี้ ถ้าหากรู้ว่าอะไรเรียกธรรม อะไรเรียกความประมาท มันก็ไม่น่าห่วง ผมเลยยกเอาเรื่อง การพูดเพื่อทิ่มแทงว่ามันเป็นอย่างไรมาให้อ่านและลองพิจารณาดู ผมเองก็นับถือและเคารพบูชาพระอริยะเจ้าทั้งหลายอย่างยิ่งยวด หลวงตาบัวก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน และที่โพสต์อยู่ได้มันไม่ได้มีประโยชน์สำหรับคุณก็ลืมๆมันไปเสียเถอะครับ เพราะว่ามันก็ไม่ได้มีและเกิดขึ้นมาจริงๆ เป็นเพียงผลที่เกิดจากเหตุหนึ่งๆเท่านั้นเอง
    สาธุคั๊บ
     
  20. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนาน ตาขันธ์มาหลอกอะไรใครแถวนี้อีกหรอ ถึงได้มีผู้นำธรรมมะข้างบนมานำเสนอ​

    สงสัยจับโกหกอะไรตาขันธ์ได้อีกแล้วสินะ ย่านไทร หรือตุ่ม มันใช่เลยทีเดียว​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...