หลักธรรมะช่วยรักษามะเร็งครั้งที่ 3 ของ บุญสรวง เทวอักษร

ด้วยการรักษาทางการแพทย์และพึ่งตนเองด้วยวิถีพุทธ ทำให้ผู้หญิงคนนี้หายจากโรคร้ายได้ ทั้้งยังเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองให้ห่างไกลความเครียด ตรวจร่างกายเป็นประจำ และมะเร็งก็ไม่กลับมาอีก



เรื่อง : วราภรณ์ ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข

บุญสรวง เทวอักษร ที่ปรึกษาผู้ป่วยมะเร็งอิสระ และรับปรึกษาปัญหาชีวิตทุกรูปแบบ รวมทั้งเป็นคณะกรรมการมูลนิธิด้านศาสนา ส่งเสิรมการบริหารจิต ในชีวิตเธอผ่านการเป็นมะเร็งถึง 3 ครั้ง ได้แก่ มะเร็งทั้งเต้านม ปอด และบริเวณกล้ามเนื้อสะบักหลังด้านขวา แต่เธอก็สามารถพึ่งการรักษาทางการแพทย์และพึ่งตนเองด้วยวิถีพุทธจนสามารถรักษาตนเองได้ราวปาฎิหาริย์ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองจากเป็นคนเครียดในการทำงาน เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด เป็นคนมีอารมณ์ดีที่ดีขึ้น และพึ่งวิถีธรรมชาติรักษาตนเอง

“ดิฉันได้รับคีโมมายาวนานจากการรักษามะเร็งถึง 3 ครั้ง รวมทั้งผลกระทบจากการผ่าตัด ทำให้ร่างกายอ่อนแอมาก ทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด อย่างรุนแรงตามมา การรักษามะเร็งที่สะบักหลังทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อไปทั่วทุกรูขุมขนทั้งร่างกาย ระบบการหายใจมีปัญหา ไอตลอดเวลา อ่อนเพลีย ไม่มีแรงพูด ไม่มีแรงเดิน ทำให้สภาพร่างกายดิฉันไม่สามารถรับยาเคมีต่อไปได้อีก ดิฉันจึงตัดสินใจเลิกรับยาเคมีบำบัด ทั้งๆ ที่ยังรับยาไม่ครบคอร์สตามโปรแกรมการรักษา เพราะดิฉันคิดว่าถ้าเราเป็นมะเร็งลุกลามจนถึงขั้นที่ยาเคมีช่วยเราไม่ได้แล้ว ควบคุมมะเร็งส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่ได้ เราจะไปทุกข์ทรมานกับยาเคมีต่อไปอีกทำไม ตอนนั้นดิฉันคิดว่า ถ้าจะตายก็ให้ตายเพราะมะเร็ง ไม่ใช่ตายเพราะรับยาเคมีเข้าสู่ร่างกายเรามากเกินไป จึงเลิกรับเคมีบำบัดเพราะคุณหมอก็บอกไม่ได้ว่า เคมีบำบัดสามารถช่วยเราให้หายได้”

บุญสรวงจึงหันมาให้กำลังใจตัวเองให้สู้ต่อไปอีกครั้ง โดยหันกลับมาดูแลตนเองด้วยศาสตร์การแพทย์ทางเลือก หรือการแพทย์แบบองค์รวม (Holistic Medicine) เป็นความหวังครั้งสุดท้ายในชีวิต

“ดิฉันใช้วิธีเรียนรู้ศึกษาทั้งจากหนังสือต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ตั้งใจปฏิบัติอย่างจริงจังในทุกเรื่องที่ได้รับการแนะนำมา โดยประยุกต์ให้เข้ากับสภาพร่างกายของตนเอง ที่เรียกกันว่าให้ฟังเสียงความต้องการของร่างกายตนเอง อย่างมีสติ เพราะไม่มีใครจะช่วยเราได้ดีเท่ากับตัวของเราเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตประจำวันใหม่ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจเกิดความสมดุล ทำให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง โดยเฉพาะการเอาชนะจิตใจตนเองให้ได้ เอาชนะกิเลสต่างๆ ที่มาครอบงำ ได้แก่ การเอาชนะความอยากกินอาหารที่มีรสชาติอร่อยแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ เอาชนะความขี้เกียจในการออกกำลังกาย พยายามฝึกตนเองให้รู้จักการปล่อยวาง ทำจิตใจให้เบิกบาน ไม่ยึดติดในอารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบ และไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของทรัพย์สินเงินทอง เพราะเมื่อเราตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้”

หลักพลังชีวิตที่บุญสรวงยึดและปฏิบัติตามอยู่อย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ การกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการที่ดี การดื่มน้ำที่มีคุณภาพ และให้ได้ปริมาณมากเพียงพอ การบริหารลมหายใจ และการหายใจให้ถูกวิธี การทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ การออกกำลังกายเป็นประจำจนตัวร้อนและเหงื่อออก การฝึกพลังลมปราณ พลังชี่กงจักรวาล และข้อสุดท้ายสำคัญไม่แพ้กันคือ การมีทัศนคติเป็นบวกสมาธิ สติ ศึกษาปฏิบัติธรรมควบคู่กันไปด้วย

“วิธีการรักษาตนเองแบบพึ่งตนเองคือ วิถีแพทย์ทางเลือกในแนวธรรมชาติบำบัด ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้ายในชีวิต ด้วยการควบคุมการกินอาหารให้เหมาะสมกับโรค การออกกำลังกายเป็นประจำ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ล้างพิษออกจากร่างกายด้วยวิธีต่างๆ การควบคุมอย่าให้อารมณ์แปรปรวน และสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ดิฉันหายป่วยจากการเป็นมะเร็งคือ การนั่งวิปัสสนาสมาธิและเจริญสติเป็นประจำทุกวัน แบบเปิดโสตประสาททั้งห้า การฝึกชี่กงพลังจักรวาลหรือการเดินพลังลมปราณ ซึ่งเป็นการฝึกในเรื่องการบริหารลมหายใจและพลังชีวิตจากจักรวาล ดิฉันเริ่มรักษาตัวเองตั้งแต่เดือน พ.ย.- ธ.ค. ภายใน 2 เดือน พบว่าร่างกายดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ดิฉันบริหารลมหายใจออกกำลังกายทุกวัน”

ปัจจุบันบุญสรวงปฏิบัติตนแบบห่างไกลความเครียดมา 20 ปีแล้ว เธอก็ยังต้องไปตรวจร่างกายเป็นประจำ และไม่พบว่ามะเร็งกลับมาอีก พร้อมกับการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น นั่งวิปัสสนาและฟังธรรม



ขอขอบคุณที่มา
http://40plus.posttoday.com/dhamma/9303/