"...หลัก๑๐๐ พระเครื่อง วัตถุมงคล(หลวงพ่อคูณ,หลวงปู่ศุข,หลวงปู่สรวง,หลวงพ่อแพ)..."

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 30 มิถุนายน 2017.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    $...เปิดให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ $...พระเครื่องทั้งหมดที่ลงในกระทู้นี้ผมขอรับประกันตามกฎของเว็บ และยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)

    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วัน $... ทุกชิ้นจัดส่ง EMS ฟรีครับ $...โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่ - Pm หรือเบอร์โทร 0819151824
    ชำระเงินได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขา ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล
    ชื่อบัญชี ว่าที่ร้อยตรีสกล ทองดี
    เลขที่บัญชี 982-4-04009-9
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2017
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๑.พระกริ่งเนื้อผงปิดตามหาลาภ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รุ่นคูณเศรษฐี ปลุกเสกไตรมาสปี๓๖ สร้างศลาผ่านศึกนเรศวร มหาพุทธาภิเษก วันกองทัพไทย ๒๕ ม.ค. ๓๗ เปิดบูชา ๑๕๐ บาท
    มีพระเครื่องประเภทหนึ่ง ซึ่งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน

    ในนาม "พระปิดตา"

    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้น นับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้

    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ

    การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย
    ซึ่ง เราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙
    การ ปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็นปริศนาธรรมที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสนาธุระทั้งสิ้น
    สรุปคำว่าพระปิดตา ชนิดของพระปิดตาแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ
    1.พระปิดตามหาอุดโดยสมบูรณ์เรียกว่าพระปิดทวารทั้งเก้า นั่งยองหรือพระเจ้าในครรภ์ พระปิดตากุมารในครรภ์
    2.พระ ปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม” ปิด ตานั่งขัดสมาธิ หรือพระเจ้าเข้านิโรธสมบัติ ผิดลักษณะจากทารกในครรภ์ ตามเหตุผลแล้วการเข้านิโรธ ไม่เป็นการปิด ทวารอะไร
    3.พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “ พระควัมปติ”
    พระปิดตา ถึงจะแบ่งตามลักษณะที่กล่าวมาแต่ พุทธคุณในองค์พระ(พระปิดตา)อาจจะไม่เป็นแบบที่กล่าวมาเสมอไปอยู่ ที่พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างจะบรรจุพุทธคุณอธิษฐานจิตให้พระปิดตามีพุทธคุณตาม ที่ท่านต้องการ
    ส่วนพระคาถาที่มีนิยมใช้อาราธนาพระปิดตา
    นะโมพุทธัสสะ คะวัมปะติสสะ
    นะโมธัมมัสสะ คะวัมปะติสสะ
    นะโมสังฆัสสะ คะวัมปะติสสะ
    สุขา สุขะ วะรัง นะโมพุทธายะ
    มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา เจวะ เสกขา ธัมมา ยะธาพุทโมนะ ฯ
    " เป็นโภคทรัพย์ เจริญด้วยโชคภาลเมตตามหานิยม "
    .......................
    พระคาถาพิมพ์พระภควัมปติ "ปิดตา"
    ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
    โลกุตตะโร จะ มหาเถโร อะหัง วันทามิตัง สะทา ควัมปติ จะ มหาเถโร มหาโภโค มหาลาโภ เชยยะสิทธิเม
    ข้อมูลจาก คมชัดลึก :)"Thank You
    IMG20170630083453.jpg IMG20170630083518.jpg IMG20170630083528.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๒.สมเด็จฐานสิงห์ปรกโพธิ์ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รุ่นคูณเศรษฐี มหาพุทธาภิเษก วันกองทัพไทย ๒๕ ม.ค. ๓๗ เปิดบูชา ๑๕๐ บาท

    IMG20170630083240.jpg IMG20170630083320.jpg IMG20170630083339.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๓.พระผง หลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นมหากุศล ๑๙ วิสาขะบูชา ๓๒ อย. สุสานไตรลักษณ์ ศาลางาม ลำปาง เปิดให้บูชา ๓๐๐ บาท
    get_auc3_img (1).jpg
    พระรุ่นนี้จัดสร้างโดย คุณสุธันย์ สุนทรเสวี เมื่อปี 2532 ทั้งนี้ปัจจัยที่ได้จากการบูชาวัตถุมงคลนี้ได้ยกให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนา สถานีอนามัยวัดน้อยแสงจันทร์ สมุทรสงคราม

    โดยวัตถุมลคลชุดนี้สร้างมวลสารอันศักสิทธิ์ +จีวรหลวงพ่อเกษม พิธีอธิษฐานจิต จัดขึ้นเมื่อวันวิสาขบูชา ตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม 2532 ในพิธีมหากุศลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข
    ท่านหลวงพ่อเกษมได้เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างยาวนาน เกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม และในขณะเดียวกัน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา ก็ได้เริ่ม เดินญาณส่งจิตมายังมณฑลพิธีเพื่อร่วมเสกด้วย จัดเป็นวัตถุมงคลที่พระอริยะ ที่มีผู้เคารพนับถืออย่างสูงทั้งสองรูป ได้ร่วมอธิษฐานจิต อย่างเข้มขลัง น่าบูชาติดตัวเป็นอย่างยิ่งเพิ่มเติมเมื่อ 19 ก.ค. 2552 ( จากเวป http://prasaksit.wordpress.com )
    หลวงพ่อเกษม บอกว่า หลวงปู่ดู่เป็นพระใจเพชร อ่านมาจากที่นี่ครับ
    เรื่องราวนำมาจากในเวปสวนขัน
    เช้ามืดวันหนึ่งที่กุฎิหลวงปู่ เมื่อราวสี่สิบปีมาแล้ว
    พระลูกศิษย์ ของหลวงปู่มากราบนมัสการหลวงปู่ตอนเช้าอย่างที่ทำเป็นปรกติทุกวัน แต่วันนั้น มีสิ่งผิดแผกไปจากเดิม คือ หลวงปู่ยังไม่ออกมานอกกุฏิสักที ทำให้พระองค์นั้นนึกสงสัย และสงสัยมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหลวงปู่สนทนากับใครอยู่ในกุฏิ ซึ่งธรรมดาแล้วท่านไม่เคยรับแขกที่ในกุฏิเนื่องจากภายในกุฏิท่านนั้นแคบมาก
    พระองค์ นี้จึงยอมเสียมารยาทแอบมองหลวงปู่ผ่านทางช่องข้างฝากุฏิหลวงปู่ จึงพบว่าหลวงปู่นั่งสนทนากับพระรูปร่างผอม ๆ อีกองค์หนึ่งอยู่ ซึ่งท่านไม่รู้จัก กระทั่งวันรุ่งขึ้นได้เห็นรูปพระองค์นี้ในหนังสือพิมพ์ ท่านจึงอุทานว่า องค์นี้แหล่ะ พระที่หลวงปู่นั่งสนทนากันในกุฏิ จากรายละเอียดในหนังสือพิมพ์ พระลูกศิษย์หลวงปู่ท่านนั้นจึงทราบว่า พระที่ท่านเห็นสนทนากับหลวงปู่ในกุฏิก็คือ หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ นั่นเอง
    ไม่มีใครทราบความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่ดู่ กับหลวงปู่เกษม เพราะท่านไม่เคยเดินทางไปมาหาสู่กัน แต่ก็แปลกอย่างยิ่งที่ท่านทั้งสองมักกล่าวถึงกันเสมอ ๆ ช่างต่างจากทางโลกที่ว่าเมื่อฉันเก่งแล้ว ฉันก็จะเก่งที่สุดอยู่คนเดียว เก่งเหนือใครทั้งหมด ทิฐิมานะของผู้ปฏิบัติกับผู้ไม่ได้ปฏิบัติจึงต่างกันราวฟ้ากับดิน
    หากยังมีใครสงสัยว่าเมื่อหลวงปู่ดู่ไม่เคยย่างกรายออกนอกวัดสะแกเลย เหตุใดหนังสือเอกสารประกอบวัตถุมงคลจึงชอบเขียนกันนักว่า หลวงปู่ดู่ วัดสะแกมีรายนามพระเกจิในพิธี อย่างเช่นพิธีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีอายุครบ ๕๐ ปีนั้นก็ได้มีการนิมนต์หลวงปู่ดู่มาในพิธี มาร่วมอธิษฐานจิตเหรียญพระพุทธสิหิงส์จำลอง ที่จัดสร้างเป็นที่ระลึกและเพื่อจัดหาปัจจัยบำรุงมหาวิทยาลัยฯซึ่งประกอบพิธีที่อาคารหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    โดยมีการนิมนต์พระเถระจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นหลวงปู่รับนิมนต์ที่จะร่วมพิธี แต่หลวงปู่ขอที่จะไม่เดินทางไป (ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติปรกติของหลวงปู่ที่งดรับนิมนต์ออกนอกวัด) หลวง ปู่กล่าวกับท่านอธิการบดีว่า ขอให้ปูอาสนะและผ้าขาวในส่วนที่นั่งสำหรับหลวงปู่ จากนั้นหลวงปู่ได้สอบถามถึงกำหนดวันเวลาที่เริ่มพิธี เพื่อท่านจะได้นั่งกรรมฐานจากที่วัดในวันเวลาดังกล่าว.จึงเป็นข้อยืนยันได้ว่า หลวงปู่ดู่นั้นไม่ได้นั่งปลุกเสกในพิธี จะมีก็เพียงการปลุกเสกแบบเดินญาณมาเท่านั้น(นำมาจากกระทู้ในสวนขัน เพิ่มเติมเมื่อ 3 สค.2552)
    IMG20170630082819.jpg IMG20170630082936.jpg IMG20170630082955.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2017
  5. พุทธเจริญ

    พุทธเจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2015
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +7,864
    จองครับ
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบ
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๔.พระพิมพ์ใบโพธิ์ เนื้อทองแดง หลวงพ่อคูณ ปริสทโธ รุ่นเสาร์๕ คูณทรัพย์แสนล้าน วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ๒๓ มีนาคม ๒๕๓๙ เปิดบูชา ๑๕๐ บาท

    IMG20170630085422.jpg IMG20170630084727.jpg IMG20170630084825.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๕.รูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รุ่นเมตตาบารมี วัดบ้านไร่ ต.ุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พ.ศ.๒๕๓๕ เปิดให้บูชา ๓๐๐ บาท
    “วัตถุมงคลของกู เน้นไปทางคลาดแคล้ว และปลอดภัยก็พอแล้ว แต่ไอ้คนที่เอาของกูไปใช้ ถ้ามันประพฤติปฏิบัติตัวไม่ดี คุณพระก็ไม่คุ้มครองด๊อก...” หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ สอนศิษย์
    อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/499246
    IMG20170630090609.jpg IMG20170630091039.jpg IMG20170630091052.jpg IMG20170630091106.jpg IMG20170630091147.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๖.รูปเอกลักษณ์แบบปั๊มรุ่นแรก เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ รุ่นเสาร์๕ คูณทวี วัดบ้านไร่ ต.ุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ๒๗ มี.ค. ๓๖ เปิดให้บูชา ๒๕๐ บาท
    IMG20170630085928.jpg IMG20170630090012.jpg IMG20170630090347.jpg IMG20170630090258.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๗.สมเด็จคะแนน ตะกรุดทองคำ หลวงพ่อแพ ๙๕ ปี วัดพิกุลทอง จ.สุพรรบุรี เปิดให้บูชา ๓๐๐ บาท
    หลวงพ่อแพ เริ่มสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 และด้วยความศรัทธาในท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านจึงได้สร้าง “พระสมเด็จ” ขึ้น โดยยึดถือแนวทางการสร้างของสมเด็จโตเป็นส่วนใหญ่ รวมแล้ววัตถุมงคลของท่านมีไม่ต่ำกว่า 300 พิมพ์ มีทั้งเนื้อผงและเนื้อโลหะ มีอาทิ พระสมเด็จ พระนางพญา พระรอด พระปิดตา พระลีลาทุ่งเศรษฐี พระสิวลี พระสังกัจจายน์ พระขุนแผน พระผงรูปเหมือน นางกวัก ฯลฯ ซึ่งท่านจะไม่เน้นเรื่องความสวยงามเป็นหลัก หากแต่เน้นในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ จะพิถีพิถันในการปลุกเสกให้เกิดความเข้มขลัง แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวง, เมตตามหานิยม, อุดมด้วยลาภผลและโภคทรัพย์ แต่ผู้ที่ใช้วัตถุมงคลของท่านแล้วจะเกิดพุทธคุณได้นั้น ต้องรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด
    ด้านค่านิยมนั้น สำหรับ ‘พระเนื้อผง’ ที่มีเนื้อหาจัดสุด มีความฝีมือประณีตสุด และราคาแพงที่สุด คือ “พระสมเด็จแพพัน” ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2510 คำว่า “แพ” นั้น หมายถึง หลวงพ่อแพ ส่วนคำว่า “พัน” หมายถึง พระอธิการพัน อดีตเจ้าอาวาสผู้เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อครั้งบวชเณรที่ท่านเคารพนับถือมาก พุทธลักษณะด้านหน้า จะเป็นพระสมเด็จพิมพ์อกครุฑเศียรบาตร หรือ ทรงไกเซอร์ ซึ่งต่อมารูปแบบพระสมเด็จที่สร้างในภายหลัง จะยึดเอกลักษณ์พิมพ์ทรงเดียวกันทั้งด้านหน้าและหลัง ต่างกันที่ตัวเลขด้านหลังที่อยู่ตรงกลางใต้รูปเหมือน และเนื้อหามวลสารเท่านั้น ได้แก่ แพ ๒ พัน, แพ ๓ พัน ... จนถึง แพ ๙ พัน จุดสังเกตสำคัญ คือ หากมองด้วยตาเปล่า สีสันวรรณะขององค์พระจะออกเป็นสีขาวหม่นเล็กน้อย แต่ถ้าส่องกล้องดูจะเห็น “รูพรุน” เท่าหรือเล็กกว่าปลายเข็มอยู่ทั่วองค์พระ อันเกิดจากการยุบตัวหรือหดตัวของผิวพระที่ผ่านกาลเวลามากว่า 48 ปี นอกจากนี้ภายหลังยังมีการสร้างพระสมเด็จแพพันขึ้นอีก แต่ต่างกันที่เนื้อหามวลสาร เช่น พระสมเด็จแพพัน ปี 16 เนื้อแร่ธาตุดำ-แร่ธาตุแดง เป็นต้น
    IMG20170630085815.jpg IMG20170630085849.jpg IMG20170630085901.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๘.พระผงเนื้อว่านยา พิมพ์ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ปี ๒๕๐๘ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก เปิดให้บูชา ๕๐๐ บาท
    พระผงเนื้อว่านยา หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ปี 2508 หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก และอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ศุขมาร่วมปลุกเสก

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก สร้างด้วยเนื้อว่านยา

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านร่วมสร้างกับหลวงพ่อสำราญ ตอนอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปี 2508 โดยมีการอัญเชิญดวงวิญญาณหลวงปู่ศุขมาร่วมปลุกเสกด้วย

    รายชื่อพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก โดยได้อัญเชิญเกจิอาจารย์ มาร่วมพิธีดังนี้

    1. หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม จ.อุทัยธานี

    พระราชอุทัยกวี (พุฒ สุทตฺโต) วัดทุ่งแก้ว อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี

    2. หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์

    3. หลวงพ่อชม วัดตลุก จ.ชัยนาท

    4. หลวงพ่อบุญ วัดตลุก จ.ชัยนาท

    5. หลวงพ่อสำเภา วัดสะพาน จ.ชัยนาท

    6. หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาท

    7. หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

    8. หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    9. หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร จ.ชัยนาท

    10. หลวงพ่อฉ่อง วัดมหาธาตุ จ.ชัยนาท

    แต่ละท่านไม่ธรรมดาเลย บางท่านเป็นศิษย์ก้นกุฏิ ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ บางท่านเคยเรียนกับ หลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา บางท่านก็เป็นศิษย์หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา เรียกได้ว่า แต่ล่ะท่านตัวจริงสายภาคกลางตอนเกือบๆ บนๆ ราคาหลักร้อย พุทธคุณหลายแสน

    ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกๆของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (สมบัติพ่อให้นอกวัด) ที่ท่านร่วมสร้างและปลุกเสก เคยมีประสบการณ์คนแถววัดถูกยิงด้วยปืนแต่ยิงไม่ออก

    ดูรายชื่อคณาจารย์ดูแล้วไม่ธรรมดา โดยเฉพาะสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วยแล้วสมัยครองวัดปากครองมะขามเฒ่า ถือเป็นสมบัติพ่อให้ยุคแรกเลยก็ว่าได้พระเกือบ 50 ปี สภาพนี้ ไม่ธรรมดา

    พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ปี 2508 เนื้อว่านเกสร 108

    หลวงพ่อสำราญ ท่านทำพิธีพุทธาภิเษก ในอุโบสถวัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยได้ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญดวงวิญญาณ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านมาปลุกเสกด้วยพร้อมกับวัตถุมงคลอีก หลายรูปแบบ เช่น พระสมเด็จ พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ศุข และเหรียญเนื้อตะกั่ว

    รุ่นนี้พิธีใหญ่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาร่วมเสกด้วย และเกจิอีกหลายรูป

    จัดสร้าง 2 พิมพ์ พิมพ์ หลวงปู่ศุข และ หลวงพ่อสำราญ ด้านหลังใช้แม่พิมพ์ ยันต์เดียวกัน
    IMG20170701105052.jpg IMG20170701105102.jpg IMG20170701105115.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2017
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๙.พระสมเด็จ หลวงปู่สรวง บ้านละลม เนื้อดินดำ ดินปราสาทขอม แช่น้ำมนต์ ปลุกเสกปี ๑๙ เปิดให้บูชา ๖๐๐ บาท
    2013_06_01_072744_2_LmKImrnM.jpg

    หลวงปู่ได้จัดสร้างพระเนื้อดินไว้ 1 ชุด มีดังนี้ พระผงพิมพ์เจ้าสัว, ลีลา, สมเด็จ, ขุนแผน, ซุ้มกอ, พระพิฆเนศวร, พระปิดตา, พระสิวลี, นางพญา, ท้าวกุเวร, นางกวัก พิมพ์ต่างๆ เป็นพระเนื้อดิน พระชุดนี้ลูกศิษย์นำมาถวาย และสร้างถวายให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกไว้เมื่อปี 2519 เพื่อมอบให้ญาติโยมที่มาร่วมบริจาคทรัพย์สร้างสำนักสงฆ์ถ้ำภูดิน จ.ศรีสะเกษ จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ สมโภชน์ 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ศิษย์สายหลวงปู่สรวงมาร่วมปลุกเสกมากมายรวม 200 องค์ ทั้งพระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลแถบนั้น มาร่วมงานนี้รวมแล้วนับพันองค์ หลวงปู่สรวงท่านมาเสกให้ในงานทั้ง 3 วัน 3 คืน พระที่เหลือจากการแจกจ่ายในหมู่ศิษย์ ตกอยู่ที่อาจารย์เสริฐ ทุกพิมพ์ หลังจากท่านอาจารย์เสริฐมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาบท เพื่อเดินทางไปร่ำเรียนวิชาอาคมต่อที่เขมรในปี 2540 พระชุดนี้ทุกพิมพ์ได้มอบให้อาจารย์ฉ่อยดูแล โดยนำมาฝากไว้ที่พระอุโบสถวัดสุทัศน์นานถึง 9 ปี บางพิมพ์นานถึง 11 ปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของทางวัดสุทัศน์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง จากพระเถราจารย์ พระคณาจารย์ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศมากมายร่วมประมาณแสนรูป พระชุดนี้มีโยมท่านหนึ่งชื่อ คุณกาศ เทพจันทร์ ได้บูชาไว้หมดทุกพิมพ์ และได้นำออกมาให้บูชาเผยแพร่อย่างเป็นทางการในปัจจุบันนี้ครับ
    พุทธคุณ:
    มีพุทธคุณเด่นด้านเมตตามหานิยม,แคล้วคลาด,โชคลาภและมหาเสน่ห์
    วิธีการบูชา :
    ใช้ผ้าขาวยาว ๑ เมตรครึ่ง
    ดอกสะเลเต คนไทยภาคกลางเรียก ดอกว่านมหาหงษ์ ๕ คู่
    เทียนขี้ผึ้งแท้หนัก ๑ บาท จำนวน ๑ คู่
    เทียนเล็ก ๕ คู่
    หมากพลูบุหรี่ ๙ คำ
    เงินกำนัลครู ๑๒ บาท
    จุดธูป ๙ ดอก (หรือ ๑๙ ดอก )
    คาถาบูชาหลวงปู่สรวงนะโม ๓ จบก่อนแล้วว่าตามนี้
    นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา
    ท่อง ๙ ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่จะค่อยๆหายไปในที่สุด
    ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิระลึกถึงท่านเพื่อเป็นการถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติภาวนา แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง

    IMG20170701164241.jpg IMG20170701164259.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2017
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๑๐.รูปหล่อพระพุทธ วัดไชโยวรวิหาร (เกษไชโย) ๒๕๓๔ ที่ระลึกยกช่อฟ้าพระวิหารหลวง เปิดให้บูชา ๒๐๐ บาท
    wat-chaiyo3.jpg

    วัดไชโยวรวิหาร

    เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท เดิมเป็นวัดราษฎร์เก่าแก่ มีนามว่า วัดไชโย ครั้นเมื่อสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตารามได้เลือกวัดนี้เป็นที่สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ตั้งอยู่กลางแจ้ง กล่าวว่าการก่อสร้างพระพุทธรูปนี้ใช้เวลานานเกือบ 3 ปี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงเสร็จ แล้วสมเด็จพุฒาจารย์ได้ถวายวัดไชโยเป็นวัดหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเกษไชโย”
    ใน พ.ศ.2430 มีการปฏิสังขรณ์วัดเกษไชโยทั้งพระอาราม ทำให้พระพุทธรูปได้รับแรงกระเทือนจากการก่อสร้างพระวิหารก็พังทลายลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่ทดแทนโดยโปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการเป็นแม่กองช่าง โดยรื้อองค์พระเดิมออกหมด วางรากฐานก่อสร้างใหม่ใช้โครงเหล็กรัดอิฐปูนไว้ภายในลดขนาดจากองค์เดิมลงพระพุทธรูปองค์นี้ได้รับพระราชทานนาม “พระมหาพุทธพิมพ์” ขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูง 11 วา ศอก 7 นิ้ว และโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะวัดไชโยให้เป็นพระอารามหลวง นอกจากนี้ยังมีการก่อ พระวิหาร สร้างพระอุโบสถเป็นมุขลดยื่นออกมาทางด้านหน้า มีศาลาราย กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ หอระฆัง ศาลารายกลางวัด ศาลาท่าน้ำ รวมเวลาการปฏิสังขรณ์นานถึง 8 ปี
    พระวิหาร มีความสูงใหญ่มากแห่งหนึ่ง รูปทรงแปลกตา ด้านนอกมีรูปทวารบาลลายรดน้ำ เป็นรูปเสี้ยวกวาง เสาหารด้านหน้า-หลังพระวิหารมีขนาดใหญ่โตมากภายในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปั้นปางสมาธิ ผนังทุกด้านมีภาพจิตรกรรมฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเรื่องพุทธประวัติ ภาพเหล่าทวยเทพที่วิจิตรงดงาม ยังอยู่ในสภาพที่ดี บานประตูแกะสลักอย่างประณีต
    สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ ได้แก่ พระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน
    นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ
    วัดไชโยวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลไชโย อำเภอไชโย จากอ่างทองใช้ทางหลวงหมายเลข 309 (อ่างทอง-สิงห์บุรี) ประมาณ 17 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสถานีตำรวจภูธรตำบลไชโยอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงจุดหมาย
    IMG20170703085813.jpg
    IMG20170703085942.jpg
    IMG20170703085957.jpg
    IMG20170703090103.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2017
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๑๑.พระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร ๓ ต.ค. ๓๐ เปิดให้บูชา ๒๐๐ บาท
    ดาวน์โหลด.jpg
    พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม มีขนาดหน้าพระเพลา๓๓ เซนติเมตร เป็นพระพุทธรูปแบบธยานิพุทธเจ้า ปางประทานพร สมัยศรีวิชัย แต่นักสังเกตบางคนสงสัยว่า “พระพุทธรูป สมัยศรีวิชัย มีเพียงเกตุมาลา เป็นจอมคล้ายสมัยทราวดีเป็นพื้น” พระพุทธรูปองค์นี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อยังทรงผนวชอยู่ ราว พ.ศ.๒๓๙๑ ได้ถวายพระนามว่า “พระไพรีพินาศ”


    ซุ้มเก๋ง ด้านเหนือแห่งพระเจดีย์นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระไพรีพินาศ ในการบูรณปฏิสังขรณ์ปีพุทธศักราช ๒๕๐๗-๘ นี้ ทำประตูเหล็ก ๒ ชั้น ช่องหน้าต่างใส่เหล็กทั้งสองข้าง ฝาผนังปิดโมเสก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ปิดทองพระไพรีพินาศ ในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๘ ด้วย

    ในหนังสือตำนานวัดมีกล่าวว่า “พระไพรีพินาศ ใคร่ครวญตามพระนามน่าจะได้เชิญประดิษฐานไว้ในเก๋งน้อยที่สร้างใหม่ ณ ทักษิณชั้น
    บนแห่งพระเจดีย์ในครั้งนั้น เว้นไว้แต่จักได้ประดิษฐานไว้แล้วในครั้งยังทรงผนวชเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๑ ที่เป็นคราวสิ้นเสี้ยนศัตรู ครั้งแรก”
    พระไพรีพินาศ ในสาสน์สมเด็จ เล่ม ๒ หน้า ๘๕-๙๐-๑๑๖

    สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทูลสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ตั้งปัญหาถามกระหม่อมว่า พระไพรีพินาศนั้น เป็นพระอะไร มาแต่ไหน ทำไมจึงมาอยู่วัดบวรนิเวศ เหตุใดจึงชื่อว่า ไพรีพินาศ เกล้ากระหม่อมหงายท้อง ไม่สามารถตอบได้ อยากรู้เหมือนกัน เคยทูลถามฝ่าพระบาทก็ไม่ทรงทราบเหมือนกัน หันไปหันมาเห็นกรมหมื่นพงศา จึงลองเข้าจดทูลถามดู ตรัสบอกว่า ใครก็ทรงจำชื่อไม่ได้เสียแล้ว เป็นผู้นำมาถวายทูลกระหม่อมเมื่อยังทรงผนวชอยู่ เป็นเวลาติดต่อกับที่หม่อมไกรสรถูกสำเร็จโทษ จึงโปรดตั้งพระนามว่า "พระไพรีพินาศ”
    คาถาบูชาพระไพรีพินาศ
    อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สุจิรํ ปรินิพฺพุโต
    คุเณหิ ธรมาโนทานิ ปารมีหิ จ ทิสฺสติ
    ยาวชีวํ อหํ พุทธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คโต
    ปูเชมิ รตนตฺตยํ ธมฺมํ จรามิ โสตฺถินา.

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างพระไพรีพินาศและพระ ภปร. ของวัดบวรนิเวศวิหารทุกองค์ ดังนี้
    ๑.เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร และซ่อมแซมเสนาสนะวัดบวรนิเวศวิหาร
    ๒. เพื่อเป็นทุนคิลานเภสัชพระภิกษุอาพาธวัดบวรนิเวศวิหาร
    IMG20170703085019.jpg
    IMG20170703085058.jpg
    IMG20170703085109.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2017
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๑๒.รูปหล่อหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคายปี 2539 เปิดให้บูชา ๒๐๐ บาท
    phrasai.jpg
    หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมือง ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ซึ่งมีฐานะเป็นวัดอารามหลวง

    ตั้งอยู่ที่ถนนโพธิ์ชัย ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตัวเมืองหนองคายไปประมาณ 2 กิโลเมตร ตามทาง หลวงหมายเลข 212 ทางไป อ.โพนพิสัย วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นพระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก หน้าตักกว้าง 2 คืบ 8 นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้อล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้วของช่างไม้

    ประวัติการสร้าง
    สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานไว้ในหนังสือประวัติพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพิมพ์แจกในงานทอดกฐินพระราชทาน พ.ศ. 2468 ว่า หลวงพ่อพระใส เป็นพระพุทธรูปหล่อในสมัยล้านช้าง และตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาว่า พระธิดา 3 องค์ แห่งกษัตริย์ล้านช้างเป็นผู้สร้าง บางท่านก็ว่าเป็นพระราชธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ และขนานนาม พระพุทธรูปตามนามของตนเองไว้ด้วยว่า พระเสริมประจำพี่ใหญ่ พระสุกประจำคนกลาง พระใสประจำน้องสุดท้อง มีขนาดลดหลั่นกันตามลำดับ

    การประดิษฐาน
    เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสได้ประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ พ.ศ. ๒๓๒๑ สมัยกรุงธนบุรีได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีก ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น"

    การล่องแพก็ยังล่องมาตามลำดับจนถึงน้ำโขง (ปากน้ำงึม) เฉียงกับบ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

    ก็ยังเหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)

    ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริม จากวัดโพธิ์ชัย หนองคายไปกรุงเทพฯ และอัญเชิญพระใสจากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนจะอัญเชิญลงไปกรุงเทพฯ ด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธื์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงกรุงเทพฯ ประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก"
    จัดเป็นองค์พระที่เก่าแก่ องค์หนึ่งครับ ผมอยู่ที่ อุดรธานี ในโอกาสปีใหม่หรือสงกรานต์เมื่อได้กลับไปที่บ้าน ก็จะได้ไปสักการะองค์หลวงพ่อพระใสที่หนองคาย ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวลาวมากราบขอพรท่านอยู่ไม่ขาดสายครับ เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอิสานตอนบนรวมถึงบ้านพี่เมืองน้องประเทศลาว กับตำนาน หลวงพ่อเกวียนหัก องค์นี้ครับ

    IMG20170703085253.jpg
    IMG20170703085321.jpg
    IMG20170703085332.jpg
    IMG20170703085524.jpg
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    ๑๓.รูปไข่ร.๕ เนื้อพลอยเรซิ่น วัดสลักเพ็ชร จ.ตราด เปิดให้บูชา ๑๐๐ บาท
    1445592508_5.jpg

    หลวงพ่อเพ็ชร์

    พระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีขนาดหน้าตักกว้าง 65 เซนติเมตร สูง 113 เซนติเมตร สร้างขึ้นจากโลหะสำริดในรูปแบบของศิลปะของรัตนโกสินทร์ ทรงจีวรดอกที่มีลวดลายเป็นดอกพิกุลซึ่งเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากพระแก้วมรกตในเครื่องทรงชุดประจำฤดูฝน ส่วนบัวที่อยู่บรยอดสุดของพระเกศของพระพุทธรูปมีการลงลวดลายอย่างละเอียด ประณีต งดงาม

    ความเป็นมาของหลวงพ่อเพ็ชร์นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ว่ามาจากแหล่งใด แต่เชื่อกันว่าน่าจะได้รับจากขุนนางชั้นสูงในระหว่างช่วงต้นถึงช่วงกลางของรัตนโกสินทร์ เพราะเดิมในสมัยนั้นการคมนาคมของเกาะช้างนั้นยากลำบาก จึงยากที่บุคคลธรรมดาที่มีเพียงเรือลำเล็กๆ จะสามารถเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปได้ จึงตั้งข้อสันนิฐานว่ามีเพียงเรือสำเภาของขุนนางจากราชสำนักเท่านั้นที่จะลำเรียงองค์พระข้ามมายังเกาะช้างได้

    เดิมพระพุทธรูปหลวงพ่อเพ็ชร์ ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหลังเก่า (อุโบสถ 106 ปี) ต่อมาในสมัยของ พระปลัดประกิต อตฺตรกฺโข (เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน) ได้อัญเชิญหลวงพ่อเพ็ชร์ มาประดิษฐาน ณ อาคารด้านนอก เพื่อให้ชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้สักการบูชา

    สำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเพ็ชร์นั้นเป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางทั้งผู้คนในชุมชนสลักเพชร และผู้ที่ได้มีโอกาสเดินทางสัญจรผ่านมา ว่าหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในเรื่องฝนฟ้าอากาศ ท่านช่วยขจัดปัดเป่าพายุลมพายุฝนที่เป็นอุปสรรคขัดขวางพิธีกรรมต่างๆ ของชาวบ้าน มีงานพิธีบุญแห่นาค อุปสมบท เป็นต้น นอกจากนี้ครั้งหนึ่ง คุณสมจิต จงจอหอ นักชกทีมชาติ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ได้เคยมากราบขอพรกับหลวงพ่อก่อนชกในเวทีระดับโลกให้หลวงพ่อช่วยเป็นแรงบันดาลใจจนสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาให้ชาวไทยได้ชื่นชมก็นับว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเพ็ชร์อีกประการหนึ่ง
    บริเวณภายในวัดก็มีรูปหล่อ รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ไว้ให้ผู้เดินทางผ่านมาได้สักการบูชาอีกด้วย

    IMG20170703085621.jpg
    IMG20170703085646.jpg
    IMG20170703085656.jpg
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    วันนี้วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...