หาทางแก้ไขเรื่องคิดปรามาสพระรัตนตรัย

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย no-ne, 26 เมษายน 2010.

  1. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    เป็นเช่นกันค่ะ...และเป็นมานานแล้ว จำได้แม่นยำว่า เป็นตั้งแต่เริ่มฝึกนั่งสมาธิ พอจิตได้ที่ระดับหนึ่ง ก็จะมีเสียงแทรกเข้ามา เป็นเสียงกล่าวถึง ความมีจริงของพระพุทธเจ้า เป็นเสียงด่าว่า เป็นเสียงทุกอย่างที่เราไม่เคยคิดแบบนั้น เพราะก่อนหน้าที่ตั้งใจฝึก ก็ศรัทธาและเชื่อมั่น จนอยากจะฝึกนั่งสมาธิ แล้วก็เกิดเหตุแบบนี้
    แล้วมันก็เป็นมากขึ้น ปรามาสมากขึ้น หนักขึ้น จนเรากลัว และไม่กล้าจะปฏิบัติธรรมอะไร ที่เกีียวกับ พระพุทธศาสนา เลย เพราะกลัวว่า ถ้าเราไปยุ่งเกี่ยวก็จะกลายเป็นบาป เพราะจิตเรามันไปปรามาส

    ในที่สุด ก็กลายเป็นคนไม่มีศาสนาไปช่วงหนึ่ง เพราะจิตปรามาสนี่ล่ะค่ะ ใช้ชีวิตแบบว่า ทำอะไรก็ได้ ที่อยากทำ จนถึงเวลาที่ถึงจุดอิ่มตัว กับกิเลส เพราะรู้สึกว่า มันไม่ใช่ในสิ่งที่เราต้องการ เพราะเรามักมีคำถาม ถามตัวเองเสมอว่า คนเรา...มนุษย์เรา เกิดมาทำไม? แล้ว เกิดเพื่ออะไร?

    และตอนนี้ ตัวเราก็กลับเข้ามาอยู่ในพุทธศาสนาอีกตามเดิม ถึงแม้ว่า จะทุกข์กับจิตที่ปรามาสพระพุทธเจ้า อย่างที่ไม่อยากจะให้อภัยตัวเอง แต่ก็จะสู้กับมัน จะสู้กับมันให้ถึงที่สุด สิ่งที่แปลก กับการกลับมาในครั้งนี้คือ ทุกครั้งที่ทำบุญใหญ่ๆ ก็จะเกิดปิติยินดี รู้สึกเป็นปลื้มกับการทำบุญ จนน้ำตาคลอทุกครั้งที่ทำ จนแปลกใจกับตัวเอง

    และในที่สุดแล้ว พุทธศาสนา ก็ให้คำตอบอะไรๆกับเรามากมาย และตอนนี้เราก็ได้คำตอบแล้วว่า...คนเราเกิดมาทำไม?

    และไม่ว่า...จะมีคำถามและสงสัยเรื่องไหน เหมือนมีปาฏิหารย์ ให้เราได้คำตอบกลับมาเสมอ...

    ตอนนี้ กำลังรักษาศีล 5 และ มุ่งนิพพานอยู่ค่ะ ถึงแม้จะทุกข์กับจิตปรามาส แต่หวังว่า สักวัน มันจะหาย เพราะตอนนี้ รู้สึกว่า เพราะจิตมันเป็นแบบนี้ เลยไม่โปรดโปร่ง ไม่โล่ง เหมือนมีอะไร ทำให้รู้สึกหนักๆ

    แต่มีคำถามอยู่ข้อหนึ่งว่า.....มีใครเป็นแบบนี้ แล้วหายบ้างค่ะ? จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ที่หายจากความทรมานทางจิตแบบนี้ได้? และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะค่ะ ขอให้สู้ต่อไป สักวันเราคงจะหายดี
     
  2. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    ขออนุโมทนากับคุณพิชญากรด้วยนะคะ ที่กลับมาสู้อีกครั้ง และขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองคุณ ให้คุณได้พบกับทางออกของปัญหาในทุกๆ เรื่องนะคะ บุญรักษาค่ะ .. สาธุ
     
  3. chenroom

    chenroom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +124
    อาการรับน้องใหม่นะ สติ ปัญญา สมาธิ ตามให้ทัน แต่บางทีมันไวมากๆ ก็อย่าตกใจอย่าไปกลัวมัน ทำใจให้สะบายๆเรียกสติกลับคืน แล้วคิดว่าความคิดนี้ไม่ใช่ตัวเราไม่เป็นของเราตัวเรานั้น หรือ รักเคารพศัทธาใน พระรัตนตรัย เป็นอย่างยิ่ง แล้วขอขมาพระท่านไปเลื่อยๆนะ จนกว่าอาการจะดีขึ้น แบบทดสอบด่านแรกๆที่นักปฏิบัติส่วนใหญ่เจอกันส่วนคนไม่มีถือว่าดีมาก แต่อย่างไรก็ต้องเจอการทดสอบอีกเป็นแน่แท้ ไม่มีมารธรรมไม่เกิด ส่วนตัวเราเป็นอยู่หลายปี เครียดจนไม่อยากปฏิบัติธรรมเลยพอจะรู้ทันมันขึ้นมาบ้าง นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่ากิเลสมารขวางความดี เรากำลังจะหนีนรกมันไม่ยอมให้พ้นนรกมันเลยหาวิธีฉุดทุกๆทาง ไม่ว่าจะเป็น คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ สิ่งมีชีวิต หรือ อมนุษย์ มันมาทุกๆทาง ตามรู้ให้ทัน ด้วย สติ สมาธิ และ ปัญญา มี ศีล เป็นบทบาทอยู่เบื้องต้น พร้อมทั้งจิตใจที่แข็มแข็งกล้าห่ำหั่นกับมัน ทำไปๆให้แข็มค้นขึ้นๆๆยิ่งๆขึ้นไป เดี๋ยวมันก็อ่อนกำลังไปเอง เพราะเรามีกำลังมีดีกว่ามัน ส่วนตัวเรายอมรับเรายังไม่ได้อะไรเลยแต่เห็นใจคนที่เคยเป็นๆเหมือนกันวิธีนี้อาจจะดีสำหรับใครก็ดีไปหรือไม่ดีก็ขออภัยทุกๆท่านช่วยอดโทษให้ด้วนนะสุดท้าย ขออนุโมทนาทุกท่านที่มุ่งสู่ธรรมทุกๆท่านด้วยนะ
     
  4. บอลมานพ

    บอลมานพ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +17
    อาการนี้ผมเป็นสองครั้ง
    ครั้งแรก คือตอนที่ผมเริ่มสนใจในศาสนาพุทธ เรื่องเกิดแก่เจ็บตาย ทําไมพระพุทธเจ้าถึงต้องละเงินทองความเป็นราชาในขณะที่คนอื่นปราถนาสิ่งเหล่านั้น แล้วพระพุทธเจ้าท่านไม่เปลี่ยนใจอีกด้วย แล้วผมเลยเริ่มเลื่อมใส พอตอนนั้นแหละมันเริ่มมีภาพที่ไม่เหมาะสมจู่ๆพุดขึ้นมาในหัวผม ตอนนั้นไม่ได้ศึกษาธรรมไรนะ แค่เริ่มเลื่อมใสเฉยๆ ผมเลยกังวลมากกลัวบาปด้วย แต่อีกสักพักไม่ใส่ใจอะไร มันก็หายไปง่ายดี

    พอครั้งที่สอง ครั้งที่สองนี้ต่อจากครั้งแรก พอผมเริ่มสนใจศาสนาพุทธ ผมก็เข้าวัดทําสมาธครั้งแรก ตอนนั้นวันพระ แล้วผมก็ขอขมาพระต่อพระพุทธรูป แล้วทําสมาธิ พุทโธ ไปเรื่อยจนผมดันเข้าณาน1 อาการตอนนั้นสุขมาก ฉลาดมาก เลยมั่นใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนนั่นต้องมีจริงแน่ นรก สวรรค์นิพพาน มีจริงแน่นอน เลยทําสมาธิมาเรื่อยๆ จนกระทั้งวันหนึ่งผมนอนทําสมาธิปกติ แล้วจู่ๆมันก็มีความคิดด่าพระขึ้นมา ผมกังวลเลย คิดว่าเราชั่ว ตอนนั้นผมนอนไม่หลับ แล้วก็เปิดอ่านบอร์ดเวปนี้แหละหาวิธีแก้ ก็เจอวิธีแก้ แต่ใจผมยังลังเลว่าจริงๆนั่น มันคือกิเลสจริงหรอวะหรือเป็นเรา แล้วบางครั้งผมเผลอ ก็ละลึกการด่าพระ เลยทำให้เครียดตอนนี้ ก็ยังเป็นอยู่เป็นมา3ปี วิธีแก้ที่ของผมนั่นเหมือนกับ จขกท แต่บางครั้งผมเผลอ เลยด่าความคิดไม่ดี ด่าตัวเราเอง จริงๆไม่ควรทำ
    สิ่งที่ต้องจำไว้เลย
    1. ไม่ต้องสนใจอาการนั่นคนส่วนใหญ่เป็นกันหมดขนาดหลวงพ่อฤาษีท่านก็เป็นแล้วก็หายได้
    2. พออาการนั่นเกิดขึ้นมาด้วยสาเหตุ อกุศลกรรม กิเลส ตัณหา อุปทาน หรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นไม่ใช่เรา ถึงไม่ใช่เรา แต่ความคิดมันเกิดจากเรา เราก็ควรขอขมา (แนะนํา ควรสูดลมหายใจเข้าออกก่อน แล้วค่อยขอขมา
    3. ทําความดีไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นก็ทําตามอย่างที่บอกสองข้อ เดี่ยวมันก็หายเอง


    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1047 หลวงพ่อวัดท่าขนุน ท่านก็อธิบายไว้ด้วยอาการเหล่านี่ และ ผมอ่านธรรมของท่านมา มีหลายคนเหมือนกันที่ถามท่านว่า แก้ยังไง ผมลยมั่นใจได้ว่า อาการนี่มันไม่ใช่เรา มันเป็นกิเลสเช่นความโกรธ แต่อาการนีคือ ความหลง หรือโมหะ หรือฟุ้งซ่าน หรือไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่เรา

    ปล. ตอนนี้ผมก็เป็นอยู่แต่ไม่ค่อยด่าพระ แต่จะด่ากิเลสและความคิดที่เป็นบ่อเกิดด่าพระ ซึ่งทำให้ผมเครียดมากเพราะเวลาทำอะไรก็มาสนใจเรื่องพวกนี้ เสียสมาธิมาก ทั้งที่ปกติผม สมาธิดีมากๆ แต่ก็พยายามสร้างสติ ให้มันหยุดด้วย ดูลมหายใจจนี่แหละ

    ปล. อ่อก่อนหน้านีที่เกิดอาการด่าพระ ผมเคยทำสมาธิก่อนนอนนี่แหละจิตสบายๆมีความสุขมาก จู่ๆก็มีเสียงเพลงเกิดขึ้นที่ใจ ผมเลยแน่ใจนั่นคือกิเลสแน่ ความคิดเลวๆนี่ก็เช่นกัน มันไม่ใช่เรา เราต้องไม่สนใจมัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fik.jpg
      fik.jpg
      ขนาดไฟล์:
      838.4 KB
      เปิดดู:
      35
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2015
  5. casxoon

    casxoon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมก็เป็นครับเป็นช่วงฝึกตอนแรกๆ พอเป็นนี่ตกใจมาก ยิ่งพยายามห้าม มันก็ยิ่งแว๊บเข้ามา เหมือนจิตที่ดื้อและซนแล้วเราคุมมันไม่อยู่ ทำให้ไม่กล้านั่งสมาธิไปพักนึง คราวนี้วิธีแก้ของผมคือ ปกติที่เรากลัวส่วนใหญ่ก็คือกลัวความผิดที่เราได้ปรามาสพระพูทธเจ้า คราวนี้ผมตั้งมั่นและคิดว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่เข้าสู่นิพพานแล้วเรื่องเท่านี้ย่อมไม่เป็นสิ่งที่กวนใจท่าน มีแต่เราเท่านั้นที่เอามาคิดกังวล ตราบใดที่เราศรัทธาพระพุทธเจ้าและตั้งใจปฏิบัติไปตามทางที่พระพุทธเจ้าสอน เราต้องกลัวอะไร เราต้องกังวลอะไร ตอนเริ่มต้นจิตเรายังไม่เข้มแข็งพอ แทนที่จะล้มเลิกเราต้องหมั่นสร้างวินัยและตั้งใจปฎิบัติให้มากกว่าเดิม สู้กับมันไปครับ

    *แต่สิ่งที่แปลกใจมากก็คือหนึ่งในวิธีการที่บอกว่าทุกครั้งที่คิดปรามาสให้นึกถึงตัวเรากำลังกราบแทบเท้า พระพุทธเจ้า วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมเป็นเอง พอมาอ่านแล้วมีคนทำเหมือนกันก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...