หุ้นขายเนื้อสัตว์ หุ้นขายเหล้า หุ้นธนาคาร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Gorgeous, 17 มีนาคม 2013.

  1. Gorgeous

    Gorgeous เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +109
    เรียนถามแม่ชีครับ การที่เราเอาเงินออมไปลงทุนซื้อหุ้น
    - ซื้อหุ้นของบริษัทที่มีการเชือดเนื้อสัตว์และนำมาขาย
    - ซื้อหุ้นบริษัทที่ขายเหล้า
    - ซื้่อหุ้นธนาคารที่มีการออกเงินกู้
    หุ้นตัวไหนจัดว่าผิดทางธรรม ไม่เป็นสัมมาอาชีพบ้างครับอาจารย์
    และอยากทราบว่าขอบข่ายการซื้อหุ้นยังไงเราถึงจะไม่ผิดทางธรรม ขอบพระคุุณครับ
     
  2. mozard002

    mozard002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +433
    จริงๆหุ้นไม่ใช่การพนันนะครับ เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่างๆได้ ถึงมันจะมีขึ้นมีลงแต่ก็ไม่ได้เกิดจากการทอยลูกเต๋าหรือปาเป้า ไม่เหมือนการเล่นไพ่หรือไฮโล หรือแทงหวย เล่นหุ้นก็คล้ายๆกับการเปิดกิจการอะไรสักอย่าง มันมีทั้งขายดีและขายไม่ดี หรือขาดทุนบ้างเป็นปกติ แต่ทุกอย่างเราสามารถเข้าไปจัดการได้ด้วยความรู้ความเข้าใจ เรื่องหุ้นนั้นถ้าคุณไปซื้อหุ้นของกิจการหนึ่ง ตามกฏหมายนั้นหมายความว่าคุณร่วมเป็นเจ้าของในกิจการนั้น และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการประกอบธุรกิจนั้นแล้ว เพราะ 1.ถ้าธุรกิจมีกำไร คุณได้ปันผล 2. ถ้าธุจกินเจ๊งเงินที่ลงไปก็จะสูญ

    เรื่องธนาคารที่ปล่อยเงินกู้นั้นผมอ่านไม่เจอว่าพระพุทธเจ้าท่านว่าควรเว้น

    ความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ว่าอาชีพไหนมันก็สามารถสร้างผลกรรมได้ทั้งนั้นแหละครับถ้าเราลองนั่งคิดให้รอบด้าน เช่น เปิดร้านขายอาหารก็มีคนมากินเยอะแยะ บางคนใจร้อนก็ด่าคนทำบ้าง หรือบางที่เห็นว่าเค้าขายดีเลยหาอะไรมาขายบ้างก็กลายเป็นว่าเบียดเบียนคนที่ตั้งร้านอยู่ก่อนแล้วแบบนี้ ถือว่าสร้างกรรมไหมครับ ถ้าจะเอาแบบละเอียดจริงแค่พูดอะไรออกไปประโยคเดียวแล้วส่งผลกับคนอื่นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมมันก้เกิดผลเหมือนกัน ส่วนที่บาปหรือไม่ผมว่าอยู่ที่เจตนาแล้วละครับ

    ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ
     
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ต้องทำความเข้าใจให้ถูกก่อน ว่า หุ้น คือ อะไร
    การซื้อหุ้น ไม่ใช่การซื้อกระดาษ ไม่ใช่การไปถือครองหุ้น แบบ ลอยๆ

    แต่คือ การ เข้าไปเป็นส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ บริษัทนั้นๆ (แม้ว่าหุ้นส่วนน้อย จะไม่มีอำนาจในการบริหาร)

    ดังนั้นแล้ว เงินที่คุณซื้อหุ้นของบริษัทผลิตภัณฑ์จากสัตว์ คืออะไร?

    ก็เงินที่ไปสร้างโรงฆ่าสัตว์ ไปจ้างพนักงานฆ่าสัตว์ นั่นแหละ

    เงินที่ไปซื้อหุ้นสุรา คืออะไร?
    ก็เงินไปสร้างโรงงานกลั่นเหล้า นั่นแหละ

    แนะนำเพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ
     
  4. rattanaphan

    rattanaphan คุณเข้ม สหายแห่งธนนม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +386
    การซื้อหุ้น หากเป็นการลงทุนจริงๆ ขอเน้นว่าลงทุนจริงๆ คุณต้องมีชื่อในรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นและมีการถือหุ้นจริง รอปันผลกำไร จากผลประกอบการจริงๆ

    แต่ในการโพสนี้ เขาถามว่าซื้อหุ้นฯ มันคือการเล่นหุ้นในตลาด มันก็ตัวเดียวกันนั่นแหละ เอาความจริงๆ ตรงไปตรงมาทุคนก็คิดซื้อถูกหวังขายแพงกันทั้งนั้น ลุ้นกันเป็นนาทีๆ รอราคาขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ มันไม่ใช่การรอผลกำไรจากผลประกอบการจริงๆ มันคือ ระบบทุนนิยม เมื่อราคาหุ้นตกราคาถูกกว่าที่ซื้อมา ใจก็เป็นทุกข์เป็นร้อน สุดท้ายบางรายก็เจ๊งหมดเงินกันไปแล้วก็ไปหาเงินไปเสาะหาหุ้นตัวใหม่ หวังลุ้นได้กำไรไปวันๆ บางวันหุ้นที่ซื้อมาราคาพุ่งก็ดีใจเกิดความโลภเข้าครอบงำ ทำไมเราไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ให้มันมากกว่านี้น๊า ไม่งั้นได้เงินมากกว่านี้แน่ เป็นก็มันวงจรแบบนี้วนไปวนมา มันจะต่างอะไรกับเล่นการพนัน เช่น เล่นไฮโลมีได้ก็มีเสีย งั้นเปลี่ยนคำพูดใหม่ให้ดูดีในสังคม ลงทุนในวงไฮโล ผมลงทุนเอาเงินวาง เลขต่ำ พอเจ้ามือเปิดถ้วยออกมาเป็นเลขสูง โอ้! ขาดทุน งั้นลงทุนใหม่ ลงเลขสูงบ้าง? มันก็วนไปวนมาแบบนี้เหมือนกัน

    สรุป มันก็แล้วแต่ความคิดเห็นแต่ละบุคคลนะครับ ส่วนตัวผมการเล่นหุ้นแบบซื้อขายเก็งกำไร มันคือการพนันครับ
     
  5. ปิยะราช

    ปิยะราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +85
    ลองหาข้อมูลที่ ชมรมกัลยณธรรม ดูครับผมเคยฟัง อาจารย์ ดร.สนองพูดเอาไว้
     
  6. Dacky14K

    Dacky14K Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +70
    พิจารณาจากจิตใต้สำนึก โดยปราศจากเหตุผลทางโลกทั้งมาลนะครับ ทั้ง3อย่างก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกรรมทั้งสิ้น พวกเราชาวพุทธต้องใช้ปัญญา ไม่ต้องไปหาเหตุผลจนทำให้รู้สึกว่ามันไม่ผิดศีลธรรมแล้วจึงกระทำได้ เพราะ ฟ้ารู้ ดินรู้ ตัวเราเองรู้
     
  7. rattanaphan

    rattanaphan คุณเข้ม สหายแห่งธนนม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +386
    ขออนุญาต แก้ไขในความเข้าใจผิดของผมเป็นอย่างมาก หลังจากที่ผมได้เรียนสอบถามครูบาอาจารย์แล้วท่านว่า การที่ไปซื้อหุ้นจะแบบไหนก็ตาม กับบริษัทหรือกับผู้ประกอบอาชีพต้องห้าม 5 อย่างนั้น มันก็คือการไปร่วมเป็นเจ้าของกับเขาด้วยจะมากจะน้อยขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ซื้อไปนั่นเอง มันก็เท่ากับร่วมอนุโมทนาบาปกับเขาด้วย ส่วนจะบาปจะน้อยก็ขึ้นกับจำนวนหุ้นที่เป็นเจ้าของด้วยว่ามีกี่หุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตามสัดส่วนรับบาปไปตามนั้น ขออภัยทุกท่านที่เคยเข้ามาอ่านข้อความที่ผมโพสไว้นี้ด้วยครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    VI เค้าไม่ได้ลุ้นหุ้นกันทุกนาทีนะครับ ส่วนใหญ่มองกัน 5 ปี 10 ปีโน่น
    สรุปคือ อารมณ์ครับ ถ้ามีการวางแผน ร่วมวงธุรกิจด้วยแล้ว (คือ ลงทุนในหุ้น) (ไม่ใช่เล่นหุ้น ซึ่ง คือ การเก็งกำไร) อารมณ์ไม่ขึ้นไม่ลงมาก เฉยๆ เหมือนเราเอาเงินไปเก็บไว้ ถ้ากิจการไหนดี เราซื้อหุ้นไป 10 ปีก็ยังดี ราคามันก็ต้องสูงอยู่แล้ว ถ้ามองแบบคนเล่นหุ้น กับคนลงทุนมันต่างกัน คุณซื้อบ้านอยู่ 1000000 บาท เวลาผ่านไป 10 ปี มีถนนตัดผ่าน รถไฟฟ้าผ่าน คุณจะขาย 1000000 บาทอยู่เหรอ อยู่ในโลกมนุษย์ ต้องปล่อยวางบ้าง ทำงานทุกงาน ขนาดหมอ ยังสร้างกรรมเลย แต่หากมัวแต่คิดมากตึงเกินไป ก็เคียด หย่อนเกินไปก็อยู่ไม่ได้ สบายๆครับ

    ขอตอบเจ้าของกระทู้ครับ กรรมนะมันมี
    1. รับความเสี่ยงจากกิจการ หากเกิดโรคระบาด หรือขาดทุนจากกิจการที่เกี่ยวกับเนื่องสัตว์
    2. เตรียมรับผลกระทบจากการต่อต้าน และนโยบายของรัฐเกี่ยวกับเรื่องของมึนเมา
    3. อื่นๆอีกเยอะแยะ แต่ส่วนใหญ่จะส่งผลต่อความรู้สึก เพราะตัวหุ้นที่คุณซื้อนั่นแหละครับ อย่าคิดมาก

    ถ้าไม่มีตลาดหุ้น เราก็เปลี่ยนการปกครองไปเป็นคอมมิวนิสต์สายโซเวียตเก่าเถอะครับ.........
     
  9. Gorgeous

    Gorgeous เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +109
    ขอบคุณครับ แล้วเล่นหุ้นสรุปบาปไหมหนอ
     
  10. rattanaphan

    rattanaphan คุณเข้ม สหายแห่งธนนม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +386
    ผมสรุปตามนี้นะครับ

    เล่นหุ้น ลักษณะเก็งกำไรได้เสียเป็นนาทีเป็นวัน เป็นการพนันอบายมุข ไม่ผิดศีล แต่ผิดมรรค

    ลงทุนในหุ้น ลักษณะนำเงินไปร่วมหุ้นกิจการต่างๆ หรือบรรดากองทุนต่างๆ รอปันผลกำไรที่กิจการทำได้ ไม่ผิดศีล ไม่ผิดมรรค

    เล่นหุ้นหรือร่วมหุ้น กิจการอันเป็นอาชีพต้องห้าม 5 อย่าง (ค้าขายมนุษย์ ค้าขายศรัตราวุธ, ค้าขายสัตว์้้เพื่อขายเพื่อฆ่า, ค้าขายสุราของมึนเมา, ค้าขายยาพิษ)
    ถือเป็นการร่วมบาปกับเขาด้วย มากน้อยขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ครับ

    อนุโมทนาสาธุ
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เรื่องขององค์ของศีลข้อที่ 5

    ในยุคปัจจุบัน ต้องวิเคราะห์ให้แตกฉานให้ละเอียด

    ศีลข้อที่ 5 คือ สุรา เมรย มชฺช ปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ
    งดเว้นจากการเสพ
    1. สุรา
    2. เมรัย
    3. มัชชะ

    สุรา คือ เหล้า
    เมรัย คือ ของหมักดองที่ทำให้มึนเมา
    มัชชะ คือ สิ่งใดก็ตาม ที่ดื่มแล้วทำให้หลงมัวเมา

    ดังนั้นแล้ว การที่หลงมัวเมาไปกับสิ่งใด จะเป็นอบายมุข การพนัน สิ่งใดที่หลงไหลไปแล้วขาดสติ ทำให้ตั้งอยู่ด้วยความประมาท แม้อาจจะเทียบกับอรรถกถาเรื่องศีลแล้ว อาจจะไม่นับโดยตรงว่าผิดศีล แต่โดยเจตนาแล้ว ถ้าถือศีลของใจ ก็คงต้องบอกว่า มัวเมาและขาดสติลงไปแล้ว ในข้อนี้
     
  12. จิตป่วน

    จิตป่วน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +3
    pig_balletpig_balletpig_ballet
     
  13. Dazeng

    Dazeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +110
    หุ้นจะถูกจัดเข้าเป็นการพนันก็ต่อเมื่อผู้ถือครองมีอารมณ์ใจที่ไม่แน่นอนอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขึ้นลงของราคาหุ้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...