...... ห้องศิลป์พระ •••➱ พระแท้แค่ 200 ......

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิลป์พระ9, 8 กันยายน 2017.

  1. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  2. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  3. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  4. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทุกรายการครับผม ขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  5. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    24.เหรียญหลวงพ่อโกศล วัดคุ้งยาง ปี2516 จ.สุราษฎร์ธานี
    บล๊อคธรรมดา สวยมาก

    อาจารย์โกศล วัดคุ้งยาง ท่านเป็นคนพื้นเพจังหวัดนครปฐม และท่านยังเป็นเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดดอนยาหอมและหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม อาจารย์โกศลก่อนที่ท่านจะบวชท่านมีวิชาอาคมมาก่อนแล้วจนเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ชุมเสือและชุมโจรท่านมีฉายาว่า ขุนโจร 5นัด หลังการนั้นทางราชการได้อภัยโทษให้แก่ขุนโจรและขุนเสือต่างๆ เพราะทางราชการไม่สามารถทำอันตรายใดๆได้กับอาจารย์โกศล และหลักจากนั้นท่านเริ่มเบื่อหน่ายกับการที่ท่านปฎิบัตรตัวอยู่ในขณะนั้น..ท่านจึงเดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อบวช และท่านได้มาเจอวัดคุ้งยาง..และท่านเห็นว่าวัดนี้เป็นวัดที่สงบคู่ควรแก่การฝึกปฎิบัตรสมาธิและจิตใจและคาถาอาคมต่างๆซึ่งวัดคุ้งยางได้ตั้งอยู่ใน ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีและอยู่ติดกับแม่น้ำตาปี(จากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน)ด้วยความที่ท่านมีวัตรปฎิบัตรที่น่าเลื่อมใสจึงเป็นที่นับถือของบันดาลลูกศิษย์ลูกหามากมายโดยเฉพาะทางด้านอยู่ยงคงกระพันและมหาอุต..จึงทำให้ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลจากมือท่านเป็นที่หวงแหของลูกศิษย์เป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็น ผ้ายันต์ ตะกรุด รูปถ่าย เสื้อยันต์และเหรียญเพราะวัตถุมงคลที่ท่านสร้างแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์มีประสบการณ์มากมายและเด่นชัด.

    135.jpg
     
  6. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    25.เหรียญหลวงพ่อฤทธิ์ วัดพลับพลาชัย ปี2517 จ.เพชรบุรี "จอง">>>พี่j999

    หลวงพ่อฤทธิ์ วัดพลับพลาชัย เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่น2 เหรียญรุ่นแรก ส้รางปี2497 >>> หลวงพ่อฤทธิ์ ท่านเป็นพระเกจิที่เก่งมากอีกท่าน ประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด นานๆจะเจอแบบสวย กะไหร่เงินเต็มๆ 100% สะใจน่าเก็บราคาย่อมเยาว์ แบ่งในราคาต่ำกว่าทุน..

    123.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2017
  7. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    26.เหรียญพ่อท่านบุญให้ วัดท่าม่วง สรงน้ำ ๘๒ จ.นครศรีธรรมราช "จอง">>>พี่j999
    +ตอกโค๊ต รันนัมเบอร์ สวย100%

    “บุญให้ สุขขนาน” เป็นชื่อและสกุลเดิมของพ่อท่านบุญให้ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๔๗๑ ณ หมู่บ้านบางทองคำ ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสงฆ์ และนางทองนวล สุขขนาน ครอบครัวมีพี่น้อง ๙ คน ท่านเป็นคนที่ ๖



    ในช่วงวัยเยาว์ ท่านมีอุปนิสัยเรียบร้อย เป็นเด็กดี ไม่ชอบเที่ยวเตร่ ตั้งแต่เริ่มเข้าวัยรุ่นมีความประพฤติเรียบร้อย จิตใจฝักใฝ่สนใจหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เป็นคนขยันขันแข็ง มีจิตใจเมตตากรุณามาตั้งแต่วัยเยาว์ แม้กระทั่งวัวที่เลี้ยงไว้ไถนา ท่านให้ความรักดูแลเป็นอย่างดี จะคอยตัดหญ้าให้กินมาโดยตลอด

    กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบททดแทนคุณบุพการี เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๑ ณ วัดพระหอม ต.บ้านกลาง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีพระธรรมปาลาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดฝาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปทุโม" มีความหมายว่า ดอกบัว

    เมื่อได้อุปสมบทแล้ว ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม รวมทั้งได้ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิชาจาก พระครูทักษิณธรรมสาร ตลอดเวลา ๓ พรรษา ท่านได้คอยปรนนิบัติรับใช้พระครูทักษิณธรรมสาร ซึ่งเป็นลูกศิษย์พ่อท่านจับ วัดท่าลิพง อย่างใกล้ชิด ได้รับเมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาคาถาอาคมต่างๆ ให้อย่างครบถ้วน


    พ่อท่านได้หมั่นฝึกฝนปฏิบัติวิทยาคมต่างๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจนเชี่ยวชาญ เกิดพลังสมาธิอย่างน่าอัศจรรย์ สรรพวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนจากพระครูทักษิณธรรมสารแห่งวัดพระหอม เป็นวิชาสายเดียวกับพ่อท่านเอื้อม แห่งวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่

    ต่อมา พ.ศ.๒๔๙๔ ท่านได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดเขมาภิรตาราม อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยเป็นเวลา ๑๓ ปี หลังจากนั้น อาจารย์ก็ให้พ่อท่านบุญให้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าบันเทิงธรรม เขตบางกอกน้อย ซึ่งที่นั่นท่านได้บูรณะซ่อมแซมกุฏิ สร้างศาลา โรงธรรม เสนาสนะต่างๆ ครบ ๓ ปี กระทั่ง พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระหอม เป็นเวลา ๑ ปี ก่อนย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่ามะเดื่อ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เป็นเวลา ๖ ปี ณ ที่แห่งนี้เอง ที่พ่อท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาต่างๆ กับพระอาจารย์สำนักเขาอ้อ หลายท่าน เช่น พระสมุห์สงฆ์ วัดตะโหมด, พระครูกาชาด วัดดอนศาลา, พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์, พ่อท่านทอง เป็นต้น

    96.jpg

    16.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2017
  8. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    27.เหรียญหลวงพ่อทอง วัดป่ากอ รุ่นแรก พิมพ์นั่งเต็มองค์ลงยา จ.สงขลา "จอง">>>พี่j999
    +สภาพสวยมาก

    หลวงพ่อทอง สุสังวโร วัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุ 92 ปี พรรษา 54 อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกวัดป่ากอสุวรรณาราม ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา พระอาจารย์ ์ชื่อดังมรณภาพด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 เวลา 12.08 น. ณ กุฎิของหลวงปู่ทองเอง ปัจจุบันร่างสังขารของหลวงปู่ทองบรรจุใน โลงแก้ว สภาพ สังขารของหลวงปู่ทองแห้งกลายเป็นหิน เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า งอกยาวขึ้น เห็นได้ชัดเจนมากทุกวันจะมีบรรดาศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซีย ชาวจีน ชาวสิงคโปร์ เดินทางมาเคารพร่างสังขารของหลวงปู่ทอง สุสังวโร จำนวนมากมาย เปรียบเสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่ที่วัดสุวรรณาราม ประวัติของหลวงปู่ทอง สุสังวโร หลวงปู่ทอง สุสังวโร เกิดเมื่อวันเสาร์ เดือน 4 ปีระกา พ.ศ. 2452 เป็นบุตรของนายนวน และนางเภาทอง ห่อเพชร บิดาและมารดาของหลวงปู่ทอง มี บุตรด้วยกัน 3 คน คือ นายแดง นายทอง (หลวงปู่ทอง สุสังวโร) ส่วนคนที่ 3 นั้นเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ เมื่อหลวงปู่ทอง สุสังวโร อายุได้ 3 ขวบ มารดา (นางเภาทอง ห่อเพชร) ได้ถึงแก่กรรม บิดา (นายนวน ห่อเพชร) พาไปฝากไว้กับลุงยอด กับป้าหนุ้ย เลี้ยงที่บ้านลุงและป้าของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ด้านการศึกษา พออายุได้ 6 ขวบ ลุง ยอด ห่อเพชร ได้พาหลวงปู่ทองไปเข้าโรงเรียนที่วัดแม่เปียะ หลวงปู่ทองเรียนหนังสือยังมิได้จบชั้น ป.4 ป้าดำซึ่งเป็นญาติของหลวงปู่ทองอีกคนได้พาหลวงปู่ทองไปเรียน อยู่ที่บ้านไร่ คลองปอม ให้หลวงปู่ทองช่วยทำไร่จนอายุครบ 20 ปี บรรพชาและอุปสมบท ป้าดำได้พาหลวงปู่ทอง กลับมาบวชที่วัดแม่เปียะ ตำบลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ในสมัยนั้น มีท่านพระคุณใช้ เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเมื่อ พ.ศ. 2473 ได้ฉายาว่า พระทอง ธรรมเสโน อยู่ที่วัดแม่เปียะไม่นาน หลวงพ่อลี ซึ่งเป็นคนแม่เปียะ บวชที่วัดแม่เปียะ แต่ได้ไปสร้างวัดอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้าน พบหลวงปู่ทอง และได้ชวนหลวงปู่ทองไปอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ณ วัดสีตะวัน ปัจจุบัน เรียกวัดบุญญาราม หรือวัดธรรมนุ่ม คนจีนจะเรียกวัดธรรมบุญ อยู่ที่รัฐอีโป ประเทศมาเลเซีย หลวงปู่ทอง สุสังวโร อยู่ที่วัดบุญญารามได้ไม่นาน พ่อท่านเพชร สิ้นบุญ (มรณภาพ) ที่วัดแม่เปียะ เผาศพพ่อท่านเพชรที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ กับวัด นั่นเอง หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้เดินทางกลับมาที่วัดแม่เปียะ เมื่อหลวงปู่อง เดินทางมาแล้ว ก็ได้สร้าง กุฎิอยู่ที่ต้นโพธิ์ใกล้ๆ เมรุเผาศพของหลวงพ่อเพชร ต่อมามีโยมมาตามหาพ่อท่านเส้ง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพ่อท่านฟลอย ซึ่งท่านเก่งในทางปฏิบัติวิปัสสนา และท่านเป็นคน บ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอยู่ที่วัดพลีควาย (วัดพรหมประดิษย์ฐาราม) เมื่อได้พบกันแล้ว หลวงปู่ทองได้ฟังคำสอนและนึกเลื่อมใสพ่อท่านเส้งๆ สืบหาโยมคนหนึ่ง คือ แม่ชีเนียม พ่อท่านเส้งได้เดินทางมาจังหวัดสงขลา ที่บ้านนายปรีดาได้เจอกับแม่ชีเนียมตอนเช้าออกมาบิณฑบาต พ่อท่านเส้งได้นิมนต์แม่ชีเนียมมาเทศน์ที่วัดพลีควาย เพราะว่ามีชีเนียมทานอาหารเจ ถือปฏิบัติเทศน์สอนประชาชนเก่งมาก ชื่อของแม่ชีเนียมโด่งดังมาก แม่ชีเนียมได้รับนิมนต์พ่อท่านเส้งมาเทศน์ที่ วัดพลีควาย หลวงปู่ทองไป ที่วัดพลีควายที่พ่อท่านเส้งอยู่ได้พบแม่ชีเนียมเป็นครั้งแรก ได้ถามความเป็นจนมาเป็นที่เข้าใจ ต่อจากนั้นไม่นานพ่อท่านเส้งก็กลับ จังหวัดสุราษฏร์ธานี หลวงปู่ทอง สุสังวโร ก็ออกธุดงค์ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้พบกับพ่อท่านเส้งอีกครั้ง พ่อท่านเส้งลูบหลังหลวงปู่ทอง สุสังวโร 3 ครั้ง พร้อมกับให้พร แล้วกลับไปบ้านดอน หลวงปู่ทองได้เดินทางกลับนาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ได้พบกับแม่ชีเนียม ซึ่งกลับจากกรุงเทพมหานคร มาพร้อมกับนายคง แม่ชีเนียมได้ ถามหลวงปู่ทองว่าปีนี้ท่านจะจำพรรษาที่ไหน หลวงปู่ทองตอบว่าท่านจะจำพรรษาที่บ้านไร่ เพราะว่าเป็นบ้านเดิมของป้าดำผู้มีพระคุณ แม่ชีเนียมบอกหลวงปู่ทองว่าอย่าไป คนเดียว จะไม่สบาย แต่หลวงปูทองบอกว่ารับปากโยมไว้แล้วก็ต้องไป พอใกล้วันเข้าพรราาหลวงปู่ทองก็ล้มป่วย พระอุปัชฌาย์ช่วยรักษาจนหายจากอาการป่วย ที่วัดแม่เปียะ อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา หลวงปู่ทองได้ลาสิกขาบท ออกไปอยู่ที่บ้านของป้าดำ ต่อมาได้ลาป้าดำตั้งใจจะตามหาพ่อท่านเส้ง หลวงปู่ทองได้ไปหาแม่ชีเนียมในตัวเมือง สงขลา เมื่อไปถึงบอกความประสงค์กับแม่ชีเนียม แม่ชีบอกจะไปด้วยให้อยู่ที่นี่ก่อนแล้วค่อยไป ตั้งแต่นั้นมาก็อยู่กับแม่ชีเนียมตลอดมา หลวงปู่ทอง สุสังวโร บวชครั้งแรก 7 พรรษา พอสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2484 ช่วงนั้น หลวงปู่ทองได้ลาแม่ชีเนียมมาที่นาม่วง อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลาอีกครั้ง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 ณ พัทสีมาวัดทุ่งฆ้อโฆษิตาราม มีพระครูวิจารย์ธรรมโฆษิต (แช่ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านสุกแก้ว วัดพลีควาย เป็นพระคู่ สวด กำนันผ่อง เป็นเจ้าภาพฝ่ายรับรอง ประมาณ พ.ศ. 2485 อยู่จำพรรษา 1 พรรษา แล้วไปอยู่ที่วัดพลีควายได้ออกธุดงค์ไปเกาะแก้วพิศดาร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสุราษฎร์ ธานี จังหวัดชุมพร จังหวัดสุโขทัย ในสมัยนั้น การเดินทางแสนลำบากสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาและสัตว์ดุร้าย แต่หลวงปู่ทอง ท่านไม่เคยกลัว ท่านเดินทางกลับจาก การธุดงค์ก็มาจำพรรษาอยู่ที่พรุเกษา อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ต่อมาออกจากพรุเกษาก็ก็มาอยู่วัดกลางใจงาม (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งอำเภอนาหม่อม) พอได้ 7 พรรษา ไป อยู่ที่ป่าบ้านนา 2 พรรษา และไปอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาว อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย มอ. หาดใหญ่ ในสมัยก่อนเป็นเป็นป่าช้าใหญ่มาก วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501-2502 ออกพรรษาไปอยู่บ้านนาทองสุก ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา อยู่ได้ 9 พรรษา ก็ได้กลับมาอยู่ที่ป่าช้าวัดโคกนาวอีก ครั้งต่อมาได้ออกจากป่าช้าโคกนาว และ ได้ไปอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 ปี หลวงปู่ทองได้กลับมาที่เขารูปช้าง อยู่ได้ 6 พรรษา แล้วมาอยู่ที่ต้นแซะ (ปัจจุบันเป็นสำนักสงฆ์ต้นแซะ ใกล้วัดปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา) อยู่ได้ 2 พรรษา มีพระธุดงค์แนะนำให้ไปหมู่บ้านกระเหรี่ยวแถวจังหวัดเพชรบุรี หลวงปู่ทองเกิดล้มป่วยเป็นไข้ป่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด จึงได้ธุดงค์กลับจาก หมู่บ้านกระเหรี่ยง เมื่อกลับมาทุกคนช่วยกันรักษาหลวงปู่ทอง สุสังวโร จนหายจากอาการป่วย ด้วยโรคไข้ป่า หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้พบญาติ คือ นายแคล้ว อยู่บ้าน ควนโตน ซึ่งเป็นญาติในฐานะน้องชาย อยู่ได้ไม่กี่วันจึงชวนสามเณร ที่มาพร้อมกับหลวงปู่ทอง ธุดงค์มาที่ป่ากอ ซี่งเป็นที่ของนายแดง หลวงปู่ทอง สุสังวโร จึงได้จำวัดที่ ป่ากอ ที่บริเวณป่ากอนี้สมัยก่อน เคยเป็นวัด มีพ่อท่านองค์หนึ่งและสามเณรมาอยู่ในสมัยก่อน เสือได้กินสามเณร พ่อท่านเลยไปจากป่ากอ ต่อมาได้มีนายแดง เป็นคนหนุ่มโสด ยังไม่มีครอบครัว เพื่อนบ้านเรียกว่าท่านแดง ได้พาหลานชื่อ นายสี อินอุทัย มาอยู่ด้วย ตั้งรกราก ช่วยกันทำมาหากิน มีต้นไผ่อยู่หลายกอ พันธุ์ไม้อื่นๆ อีกจำนวนมาก หากใคร เข้ามาส่วนใหญ่จะหลงทาง เดินทางกลับไม่ถูก หลวงปู่ทอง สุสังวโร รู้ประวัติที่นี่ดี จึงเรียกนายแดง มาคุยเพื่อปลูกศาลา เมื่อหลวงปู่ทอง กลับจากธุดงคร์จะได้มาพักผ่อน และได้อยู่ใกล้ลูกหลาน เพราะว่าเป็นบ้านเกิด นายแดงได้ยกที่ดินให้ประมาณ 3 ไร่ ในปี พ.ศ. 2518 หลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้มาจำพรรษาที่วัดป่ากอ เป็นครั้งแรก จึงได้ถือ กำเนิดสำนักสงฆ์ป่ากอขึ้นในปีนี้เอง ผลงานและการกุศล ในชีวิตสมณเพศของหลวงปู่ทอง สุสังวโร ได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าในการปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญประโยชน์แก่พระพุทธศานา และประเทศชาติ ในปี พ.ศ. 2542 ได้ช่วยทางราชการเพื่อการกุศล ดังนี้ - ซื้อที่ดินบ้านชายนา ให้ผู้ใหญ่บ้านทวี รับมอบและสร้างศาลาพักร้อน - ซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ มอบให้โรงพยาบาลกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา - ช่วยเหลือชาติ มอบเงินให้นายชวน หลีกภัย (ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) เป็นผู้รับมอบ - สร้างที่พักสายตรวจให้ สภอ.นาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา - บริจาควัสดุอุปกรณ์ให้แก่โรงพยาบาลนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ความศรัทธาของชาวต่างชาติ หลวงปู่ทอง สุสังวโร เป็นพระปฏิบัติเช่นเดียวกับพระนักปฏิบัติโดยทั่วไป ความศรัทธาของ ประชาชน ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ได้ฟังธรรมะของหลวงปู่ทอง ท่านจะแสดงธรรมง่ายๆ ให้นำไปปฏิบัติ เมื่อผู้ฟังนำไปปฏิบัติแล้วก็เกิดผล จึงทำให้ประชาชน ชาวต่างชาติดได้ทราบกิตติศัพท์ ของหลวงปู่ทอง สุสังวโร พากันเดินทางไปนมัสการและฟังธรรมกันจนวัดป่ากอสุวรรณารามเปลี่ยนแปลงจากสำนักสงฆ์ที่ไม่มีถาวรวัตถุ จนเวลานี้มีกุฎิ ศาลา และอาคารก่อสร้างต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแรงศรัทธา จากประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาติที่เข้ามากราบไหว้หลวงปู่ทอง ได้แก่ ชาวมาเลเซีย ชาวสิงคโปร์ ชาวจีนและชาวอินโดนีเซีย

    98.jpg
    15.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2017
  9. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  10. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  11. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,151
    ค่าพลัง:
    +5,421
    ขอจองครับ
     
  12. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองรายการ 25/26/27 ครับ

    ขอบคุณพี่มากๆครับ ที่อุดหนุนตลอดมาครับ
     
  13. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    28.พระยูไล วัดเล่งเน่ยยี่ กทม "ฉลอง 130 ปี" อุดผงไวโจนะ "จอง ">>> may06

    32.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2017
  14. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    29.เหรียญหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ปี2533 จ.นครนายก "จอง">>>shaj

    เหรียญรุ่นนี้ทันท่านแน่นอน สร้างก่อนท่านมรณะภาพ เป็น 10 ปี วัตถุมงคลหลวงพ่อสนิท เน้นเรื่อง โชคลาภ ค้าขาย แทบทุกรุ่น ท่านจะสร้างพระที่วนเวียนช่วยคนในเรื่องปากท้องเสียส่วนใหญ่ ยกเง้นบางรุ่นที่เหนียวด้วย แต่โดยพื้นฐานแล้วท่านมักจะเสกไปทางโชคลาภ วัตถุมงคลหลวงพ่อสนิท ส่วนใหญ่ที่แพงมักจะเป็นเหรียญรง เช่น สาริกา จรเข้ เต่าหินสบู่ ที่ตัวจริงๆ ราคาหลักหมื่น ถึงหลายๆหมื่นไปแล้วครับ และ มีของเลียนแบบค่อนข้างมากอีกด้วย เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญปี 2533 ทันท่านเสก เป็นเหรียญพระพุทธ และ หลัง รูปเหมือนท่าน บูชาได้ทั้งโชคลาภ และ คุ้มครองครับ

    33.jpg

    หลวงปู่สนิทเป็นพระอริยสงฆ์ที่รักสันโดษ ก่อนสังขารจะร่วงโรย ท่านได้ออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี ท่านไม่สะสมสิ่งของ วัตถุ หรือทรัพย์สินต่างๆ มีเมตตาสูง ไม่เคยแยกแยะว่าผู้มาหาจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกันหมด ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง ในอดีตท่านรักษาผู้ป่วยที่มาพึ่งบารมีทั้งที่ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บและที่ป่วยจากการโดนคุณไสยต่างๆ ผู้ที่เคยไปกราบหรือพึ่งบารมีหลวงปู่จะสามารถสัมผัสจิตอัศจรรย์ของหลวงปู่ได้ด้วยตนเอง อาธิเช่น การรู้ล่วงหน้าว่า จะมีใครมาหา มากี่คน มาหาด้วยเรื่องอะไร เป็นต้น นอกจากนี้หลวงปู่ยังรักษาสัจจะวาจาเท่าชีวิต ดังนั้นคำพูดทุกคำที่ออกจากปากท่านจึงเป็นจริงดังวาจาสิทธิ์ของพระร่วง ท่านพูดอะไรให้ฟังแล้วสิ่งนั้นจะปรากฏเป็นจริงเสมอ หลวงปู่สนิท มรณภาพเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2542 สิริอายุรวม 74 ปี 51 พรรษา สรีระศพของท่านแต่เดิมเก็บรักษาในโลงแก้ว เนื่องเพราะสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย และเส้นเกศาที่เคยปลงเก็บไว้ก็แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์ ที่น่าเสียดายคือในปัจจุบันสรีระของหลวงปู่ได้มีการพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว

    ประวัติด้านการศึกษาพระเวทย์

    ในปี 2496 หลังจากหลวงพ่อสนิทอุปสมบทได้ 6 พรรษา ซึ่ง หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ท่านได้สอนพระภิกษุ-สามเณรในวัด จนสอบนักธรรมตรีได้หลายองค์ ทางพระเถระชั้นผู้ใหญ่จึงให้หลวงพ่อสนิทท่านสอบนักธรรมสนามหลวง หลวงพ่อสนิทท่านจึงสอบนักธรรมสนามหลวงผ่านถึงนักธรรมชั้นโท ในปีหลังๆต่อมาท่านก็ไม่ได้ไปสอบอีกต่อไป คงรับหน้าที่อบรมสั่งสอนพระลูกศิษย์ลูกหาเสมอมา

    เกี่ยวกับทางด้านการศึกษาค้นค้าทางด้านพุทธาคม เนื่องจากหลวงพ่อสนิทท่านสนใจทางไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ได้เสาะแสวงหาอาจารย์ร่ำเรียนคัมภีร์ เลขยันต์ เวทมนต์ คาถาอาคมขลังสรรพวิยาคุณต่างๆจนแตกฉาน ชำนิชนาญด้านสรรพคุณไสยด้านถูกกระทำย่ำยีจากศัตรู รู้รอบด้านการแก้สรรพพิษ ยาเบื่อ ยาเมา และยาสั่ง จาก “ หลวงพ่อดำ วัดกุฎิ ” เกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม เป็นเจ้าตำรับผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อตะกั่วดำ พิมพ์ปักเป้า อันลือชื่อด้านการป้องกันพิษยาสั่ง และคงกระพันชาตรี

    ศิษย์อาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ วัดสันทรีย์

    เมื่อครั้งสมัยหนุ่มแน่นนั้น หลวงพ่อสนิท ได้เดินทางไปปราจีนบุรี เสาะหาอาจารย์ชื่อดังที่สร้างและปลุกเสก “ จระเข้โทน “ กับพระอาจารย์เส็ง แห่งวัดสันทรีย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสันทรีย์ ครั้งแรกในการสร้างและปลุกเสกจระเข้โทนเกิดขึ้นราวๆปี 2470 เป็นเนื้อตะกั่วสีดำ ขนาดลำตัวยาวราวๆ 4 เซนติเมตร หลวงพ่อสนิทท่านมีศักดิ์เป็นหลานของ พระอาจารย์เส็ง ซื่อสัตย์ ซึ่งพระอาจารย์เส็งท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดสันทรีย์ ตั้งแต่ปี 2435 จนถึง 2476 และท่านได้ลาสิกขาบท ซึ่งต่อมาเมื่อหลวงพ่อสนิท มาฝากตัวร่ำเรียนวิชาจระเข้โทนที่วัดสันทรีย์ ซึ่งหลังจากท่านได้ลาสิกขาบทแล้วท่านได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้หลวงพ่อสนิทจนหมดสิ้น และท่านได้ถ่ายทอดวิชาจระเข้โทนจนสำเร็จ จนหลวงพ่อสนิทสามารถสร้างจระเข้โทน เนื้อชินตะกั่วสีดำ และสร้างจระเข้ปางนารายณ์อวตารหลังลูกศรนารายณ์ (จระเข้รุ่นจันทร์เพ็ญ) ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชาแพทย์แผนโบราณจาก พระครูอุทัยธรรมธารี(หลวงพ่อตี่ สุริยวงศ์สวัสดี) วัดท้าวอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี อีกด้วย และได้เดินทางไปศึกษาพระเวทย์จากหลวงพ่อพระอาจารย์ทองดำ วัดโคกหม้อ จ.นครสวรรค์ จนสำเร็จวิทยาคมต่างๆ ทั้งตำรายาโบราณการสูญฝี และโรคภัยต่างๆอย่างชำนาญ

    1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2017
  15. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,243
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  16. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    30."เต่ากริ่ง" หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ปี2533 "จอง">>>shaj

    เต่า!!! เป็นยอดเครื่องรางขึ้นชื่อของท่านลำดับต้นๆเลยทีเดียว ถ้าเป็นแบบหินสบู่แกะราคาแพง มีหลายขนาด หลายฝีมือ เล่นหาไม่ง่ายเลย ถ้ารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเอาของแพง ค่านิยมสูงก็ลองเต่ารุ่นนี้สิครับ ง่ายๆ สบายๆ ดีเหมือนกัน ไม่แตกต่าง ตอนเช่ามาแพงกว่านี้ 3 เท่า วันนี้อยากคืนกำไร ขอ200เท่านี้พอครับ

    พญาเต่ากริ่ง หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย เนื้อโลหะกะไหล่ทอง รุ่นแรกและรุ่นเดียวของท่านที่เป็นเนื้อโลหะ รุ่นนี้ท่านเสกนาน 5 ปี (5 ไตรมาส ทุกคินวันเพ็ญ) คือ สร้างตั้งแต่ปี2528 ออกให้บูชาปี2533 ลพ.สนิทท่านเศกยาวนานมาก
    ใช้สำหรับเตือนภัย หรืออธิษฐานเสี่ยงทาย ให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย จากนั้นอธิษฐานเสี่ยงทาย แล้วลองเขย่าเต่า ถ้าเสียงกริ่งดังสดใสแสดงว่าจะสมประสงค์ ถ้าไม่ดังให้ภาวนาคาถา พญาเต่าเรือน เด่นทางเมตตา ค้าขาย เรียกทรัพย์ คุ้มครองป้องกัน และเตือนภัย

    พญาเต่าเรือนกริ่ง หลวงปู่สนิท ภายในท้องเต่าได้ลงแผ่นโลหะด้วยเลขยันต์ และคาถาอาคมและหัวใจนะต่างๆ ที่ทรงอานุภาพหล่อหลอมเป็นเม็ดบรรจุไว้ในท้องเต่า ทรงอานุภาพยิ่งนัก ถ้าปรารถนาให้เป็นไปอย่างไร ให้ตั้งจิตรำลึก แล้วว่าคาถาพญาเต่าเรือน
    (นะโม 3 จบ) นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ แล้วเขย่ากริ่ง

    33.jpg
    2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2017
  17. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,243
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  18. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    31.เหรียญหลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู ปี2537 จ.นครศรีธรรมราช

    เหรียยนี้ไม่ทันท่านเสกครับ ออกในงานฝังลูกนิมิตร วัดศาลาบางปู หลังจากเหรียญรุ่นแรกแล้ว ก็มีเหรียญนี้ ที่นิยมเก็บกันแม้ไม่แพงมาก แต่ก็ ได้รับความนิยมสมควรสำหรับกลุ่มคนในพื้นที่ที่หลายๆคนไม่มีกำลังเช่ารุ่นแรกแพงๆ แถม ประสบการณ์ด้านแคล้วคราด ก็ดีเยี่ยมเกินราคา ได้ พระครูเมตตาคุณากร(เปลี่ยน กนฺตสีโร) สร้างออกมาเป็นที่ระลึก และ เกจิสายนครศรีธรรมราชหลายท่านปลุกเสก ครับ

    123.jpg

    4.jpg

     
  19. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    รับทราบการจองทั้ง 2 รายการครับผม ขอบคุณพี่มากๆครับ
     
  20. ศิลป์พระ9

    ศิลป์พระ9 Active Member สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    598
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +485
    32.พระพุทธชินราช "จอง ">>> may06

    -แหนบงานเก่า
    -เหรียญพระนามย่อ ภปร. พิธีเสกใหญ่ ปี 2521ออกวัดคีรีวงก์

    $RQB4H2I.jpg
    22.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...