"อดีตชาติของพระพุทธองค์ เมื่อครั้งเกิดเป็น จัมเปยยะนาคราช"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 7 ตุลาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    "อดีตชาติของพระพุทธองค์ เมื่อครั้งเกิดเป็น จัมเปยยะนาคราช"

    คัดลองมาบางส่วน.....


    [​IMG]

    • มนุษยโลกประเสริฐกว่านาคพิภพ

    พระราชาได้เห็นบ้านเมืองอันสวยงามของพญานาค
    จึงสอบถามและได้คำตอบจาก จัมเปยยนาคราช ว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมประชาชน ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญตบะธรรมเพราะเหตุแห่งบุตร ทรัพย์ หรือแม้เพราะเหตุแห่งอายุก็หาไม่ แต่เพราะข้าพระพุทธเจ้า ปรารถนากำเนิดมนุษย์ ฉะนั้น จึงได้บากบั่นมุ่งมั่นบำเพ็ญสมณธรรม”

    เมื่อพระมหาสัตว์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระราชาเมื่อจะทรงทำการชมเชย จึงตรัสพระคาถาว่า......

    “ท่านมีดวงเนตรแดง มีรัศมีส่องแสงสว่าง ประดับตกแต่งแล้ว ปลงเกศาและมัสสุแล้ว ประพรมด้วยจุรณจันทน์แดง ฉายแสงไปทั่วทิศ ดังคนธรรพราชฉะนั้น ท่านเป็นผู้ประกอบด้วยเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก เพรียบพร้อมไปด้วยสรรพกามารมณ์”

    ดูก่อนท่านนาคราช เราขอถามเนื้อความนี้กะท่าน

    มนุษยโลกประเสริฐกว่านาคพิภพด้วยเหตุไร?....

    ลำดับนั้น พระยานาคราช เมื่อจะกราบทูลให้พระราชาทรงทราบจึงกราบทูลว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมประชาชน
    เว้นมนุษยโลกเสียแล้วความบริสุทธิ์
    หรือความสำรวมย่อมไม่มีเลย

    ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญตบะธรรม
    ด้วยตั้งใจว่าเราได้กำเนิดมนุษย์
    แล้วจักทำที่สุดแห่งชาติและมรณะได้”

    พระราชาทรงสดับคำนั้นแล้วตรัสพระคาถาความว่า

    “ชนเหล่าใดมีปัญญาเป็นพหูสูต
    ตรึกตรองเหตุการณ์ถี่ถ้วนมาก
    ชนเหล่านั้นควรคบหาแท้ทีเดียว"

    ดูก่อนพระยานาคราช เราได้เห็นนางนาคกัญญาทั้งหลายของท่านและตัวท่านแล้ว จักทำบุญให้มาก”

    พญานาคราชกราบทูลพระราชาว่า......

    “ชนเหล่าใดมีปัญญาเป็นพหูสูต
    ตรึกตรองเหตุการณ์ถี่ถ้วนมาก
    ชนเหล่านั้นควรคบหาแท้ทีเดียว"

    ข้าแต่พระมหาราชาพระองค์ ได้ทอดพระเนตรเห็นนางนาคกัญญา และตัวข้าพระพุทธเจ้าแล้ว ขอจงบำเพ็ญบุญให้มากเถิด”

    ครั้นพระมหาสัตว์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระเจ้าอุคคเสนะ ทรงมีพระประสงค์จะเสด็จกลับไปยังมนุษยโลก

    จึงตรัสอำลาว่าดูก่อนท่านนาคราชเรามาอยู่ก็เป็นเวลานาน จำจักต้องลากลับไปยังมนุษยโลก

    พระมหาสัตว์เจ้าจึงทูลท้าวเธอว่า ขอเดชะพระมหาราชเจ้าถ้าเช่นนั้น พระองค์โปรดเลือกถือเอาทรัพย์สมบัติไปตามพระประสงค์เถิด

    เมื่อจะทรงแสดงทรัพย์สมบัติ จึงกราบทูลว่ากองเงินและกองทองของข้าพระพุทธเจ้านี้มากมาย สูงประมาณเท่าต้นตาล

    พระองค์จงตรัสสั่งให้พวกราชบุรุษนี้ไปจากนาคพิภพนี้ แล้วจงตรัสสั่งให้สร้างพระราชวังด้วยทองคำ
    ให้สร้างกำแพงด้วยเงินเถิด นี้กองแก้วมุกดาอันเจือปนด้วยแก้วไพฑูรย์ ห้าพันเล่มเกวียน พระองค์จงตรัสสั่งให้ราชบุรุษขนไปจากนาคพิภพนี้ แล้วให้ลาดลง ณ ภูมิภาคภายในพระราชฐาน ภูมิภาคภายในพระราชฐาน ก็จักสะอาดปราศจากเปลือกตมและละอองธุลี

    ขอเดชะพระองค์ผู้เป็นราชาอันประเสริฐผู้ทรงพระปรีชาอันล้ำเลิศ ขอพระองค์โปรดเสวยราชสมบัติครอบครองพระนครพาราณสี อันมั่งคั่งสมบูรณ์ สง่างามล้ำเลิศ ดุจทิพยวิมานเห็นปานฉะนี้เถิด พระเจ้าข้า..

    พระราชาทรงสดับถ้อยคำของพระมหาสัตว์แล้วก็ทรงรับไว้ พระมหาสัตว์จึงให้พนักงานเภรี เที่ยวตีกลองประกาศว่า......

    ราชบุรุษทั้งปวงจงพากันขนเอาทรัพย์สมบัติ
    มีเงินทองเป็นต้นไปตามปรารถนาเถิด แล้วเอาเกวียนหลายร้อยเล่มบรรทุกทรัพย์สมบัติส่งถวายพระราชา

    พระราชาเสด็จออกจากนาคพิภพ กลับไปสู่พระนครพาราณสี ด้วยยศบริวารเป็นอันมาก เล่ากันว่านับแต่นั้นมา พื้นชมพูทวีปจึงเกิดมีเงินมีทองขึ้น

    พระบรมศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วจึงตรัสว่า......

    “โปราณกบัณฑิตทั้งหลายละนาคสมบัติแล้ว
    อยู่รักษาอุโบสถศีลด้วยอาการอย่างนี้”

    จากนั้นทรงประชุมชาดกว่า....

    “หมองูในครั้งนั้นได้มาเป็นพระเทวทัตในบัดนี้
    นางนาคกัญญาสุมนาเทวี ได้มาเป็นราหุลมารดา
    พระเจ้าอุคคเสนราชได้มาเป็นพระสารีบุตร
    ส่วนจัมเปยยนาคราชได้มาเป็นเราผู้ตถาคตฉะนี้แล”


    ติดตามอ่าน จัมเปยยะนาคราชพระสูตรเต็ม และพระสูตรต่างๆ ที่พระพุทธศาสนาเกี่ยวข้องกับพญานาคราชทั้งหลาย ได้ที่ ::
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...