อยากรู้ทำไม่ต้อน ผมนั้ง สมาธิ ได้ 1ชัวโมง

อยากรู้ทำไม่ต้อน ผมนั้ง สมาธิ ได้ 1ชัวโมง ทำไม่ผมรู้สึกว่า เหมือนมันจะนอนหลับแต่ไม่ใช่นอนหลับ แล้วอีกอย่าง ผมรู้สึกว่า ม้นมีวงกลมใหญ่ๆใน นิมิต คลายๆจอเรดา อะ คับ ผมก็เลยออก จากสมาธิ

 

ตอนสมัยนั้นเวลาเกิดอาการทางสมาธิผมก็มักจะรีบไปถามหลวงพ่อทุกครั้งที่มีอาการแปลกๆนึกว่าท่านจะชมว่าเราดี ที่ไหนได้ ถามทีไรก็ได้คำตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า "ทำต่อไปเรื่อยๆไม่ต้องไปสนใจ"

ต้องย้อนกลับมาถามใจเราว่า เรายอมเชื่อตามท่านพูดไหม??

 

แล้ว หลวงพ่อ ว่าไง บ้างคับ อยากรู้

 

ผมปฏิบัติมาตามแนวทางสายวัดป่า ครูบาอาจารย์วัดที่ผมเคยไปปฏิบัตินี่ขั้น รู้เลยว่าเราคิดจะพูดจะถามอะไรท่าน บางทีนึกในใจยังไม่ทันอ้าปาก ท่านพูดดักเราไว้ก่อนเลย ผมเจอครูบาอาจารย์แบบนี้มา จึงทำให้ผมคิดว่า ที่ท่านบอกไว้แค่นั้น มันไม่ใช่การพูดลอยๆส่งเดชไปแค่นั้นเอง มันมีเหตุมีผลครบถ้วนอยู่แล้ว "ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปสนใจ"

 

คับ แล้วช่วงนี้ พี่นั่งสมาธิ ที่ขั้น ณาม 1 ถึง 4 ยังคับ

 

ถ้าพูดกันแบบนักปฏิบัติจริงๆ ตอนสมัยผมบวชปฏิบัติผมพูดได้ถึงแค่อุปจารสมาธิครับ อาการคล้ายคุณว่า สุขอิ่มอกอิ่มใจ เบาสบายเห็นภาพแสงสีวิญญาณ ผมเห็นมาหมดเหมือนกันครับ แต่ตอนเป็นนักบวชนั้นผมพูดกับใครได้ไม่ค่อยเต็มปาก เรื่องฌานตั้งแต่ฌาน1 เป็นต้นไปยิ่งพูดไม่ได้เลยเลย เผลอพูดว่าเราได้ฌานนั้นฌานนี้ ถ้าไม่ได้จริงขาดความเป็นพระทันที เลยไม่มีใครกล้ายืนยันผลสมาธิตัวเองให้ใครฟังกันครับ เป็นแต่เพียงว่าอุปจาระเห็นภาพแสงสีผมทำได้เป็นปกติครับ

 

ถ้าเราไม่ติดใจในภาพในความสุขสบายในสมาธิที่พบที่เจอ มันจะมาให้เห็นบ่อยๆครับ ถ้าไปสงสัยติดใจเมื่อไร ตัวขวางมาทันที นี่คงเป็นเหตุผลที่หลวงพ่อบอก "ให้ทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปสนใจ" ท่านรู้กว่าที่เราคิดไว้เยอะครับ ระดับปริญญามองเด็กอนุบาลแปบเดียว

 

คับๆพี่

 

เหตุการณ์สมมุติจะแตกต่างจากเหตุการณ์จริงในสมาธิครับ

 

สมาธิแรกๆต้องมีการกำหนดเวลาก่อน
เพื่อเป็นแนวทางให้จิต
หลังๆเราเน้นอารมย์ที่เข้าถึงดังนั้นต่อมา เวลาจึงไม่ใช่ประเด็น นอนไม่หลับ เราต้องปล่อยวางโดยให้มันคิดอะไรก็คิดไป ไม่ต้องไประลึกรู้หรือระลึกคำภาวนาใดๆถึงแก้ได้
และ
กิริยาถ้าคล้ายวงกลม ขยายจากศูนย์กลางเหนือคิ้ว ขนานหน้าเรา แสดงว่าตัดความคิดจากสมองได้ เป็นกิริยา การแสดงภาพของจิตผ่านช่องทางนั้น เป็นเรื่องปกติไม่มีอะไร
ทั่วไปไม่มีอะไร อย่าสนใจ ทำต่อไปครับ
เรื่องพวกนี้ ถ้าไม่รู้ด้วยตัวเองตอนนั้น
ให้เราไม่สนใจ
และปล่อยผ่านไป ถ้าผ่านไปได้
มันจะย้อนรู้ทุกกิริยาย้อนหลังได้เองอัตโนมัติ
ไม่งั้นจะทำให้เราไปได้ช้าครับ