อยากรู้เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายที่อยู่ข้างเจ้าแม่กวนอิม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย soonyata, 24 เมษายน 2006.

  1. soonyata

    soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +3,675
    ใครมีประวัติของเทพบุตรและเทพธิดาสององค์นี้บ้างคะ ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไรและมีความเป็นมาอย่างไรถึงมารับใช้เจ้าแม่กวนอิม หาประวัติมาหลายเล่มแล้วหาไม่เจอ ใครทราบช่วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ[b-wai]
     
  2. อุ่นทิพย์

    อุ่นทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +254
    เจ้าแม่กวนอิม มักจะประทับโดยมีเด็กชายและ หญิงขนาบข้างพระองค์เสมอ ๆนะคะ

    เด็กชาย มีชือว่า สุทธนะ เป็นชาวอินเดียและขาพิการนะคะ หน้าตาไม่งามเท่าไหร่ เด็กน้อยนี้ดั้นด้นเดินทางมาจากอินเดียเพือมาขอเรียนพระธรรมคำสั้งสอนจากเจ้าแม่กวนอิมโดยตรงค่ะ ถึงแม้เขาจะขาพิการ แต่ด้วยศรัทธาที่แท้จริง และผ่านการทดสอบจากเจ้าแม่แล้ว เด็กชายสุืทธนะ ก็หายจากขาพิการ พร้อมกับมีหน้าตางดงามเหมือนคนปรกติทั้วไปค่ะ

    ส่วนเด็กหญิงมีชือว่า ลุ่งหนู นะคะ ชืออาจจะเรียกเพี้ยนกันไปตามท้องถิ่นนะคะ ลุ่งหนูเป็นหลานเจ้าสมุทรนะคะ ที่ท่านเจ้าสมุทรส่งมาถวายไข่มุกราตรีที่จะส่องแสงงดงามเสมอ ๆ เพือเป็นการตอบแทนที่เจ้าแม่กวนอิมได้ช่วยชีวิตลูกชายของเจ้าสมุทรไว้นะคะ เมือคราวที่ลูกชายพลาดท่าโดนชาวประมงจับตัวขึ้นฝั่งมาได้นะคะและกำลังจะโดนฆ่าชำแหละเนือขายนะคะ เจ้าแม่กวนอิมได้ส่ง สุทธนะมาทำการซือปลาด้่วยเงินทังหมดของเจ้าแม่นะคะ แต่ก็ซือไม่ได้นะคะ เพราะคนเกิดทราบว่าถ้าไ้ด้ทานปลาซึ่งเป็นลูกแห่งเจ้าสมุทร คนผู้นั้นจะเป็นอมตะไ่ม่มีวัีนตายค่ะ แต่เจ้าแม่กวนอิมก็สามารถไถ่ชีวิตลูกชายเจ้าสมุทรได้ในที่สุดเนืองจากท่านได้ แสดงธรรมเทศนาแด่ชาวบ้าน จนพวกเขาซาบซึ้งและตกลงใจที่จะไม่คร่าชีวิตเจ้า ปลาน้อยค่ะ

    ภายหลังเด็กหญิงลุ่งหนู เมือไ้ด้ถวายสร้อยไข่มุกราตรีแล้วก็มีความเลือมใสในธรรมปฏิบัติแห่งเจ้าแม่กวนอิม จึงได้ปวาราณาตัวเป็นศิษย์แห่งเจ้าแม่ ซึ่งเจ้าแม่ก็ยินดีรัีบเด็กหญิงลุ่งหนูไว้เป็นศิษย์นะคะ โดยมีข้อแม้ว่า เด็กหญิงลุ่งหนูจะต้องเป็นเจ้าของไข่มุกราตรีต่อไปค่ะ

    สั้น ๆ ก่อนนะคะ คุณ ๆ จะเห็นเจ้าแม่กวนอิม ปรากฏร่างเสมอ ๆ พร้อมกับเด็กชายหญิง เด็กชายจะยืนโค้งตัวไปเหมือนย่อเข่าหน่อย เพือรำลึกว่าครั้งหนึ่งเขาเคยขาพิิารนะคะ ส่วนเด้กหญิงก็จะถือสร้อยมุกเสมอ ๆ ซึ่งก็คือไข่มุกราตรีนั้นเองค่ะ
    หวังว่าคงได้รับความรู้นะคะ ขอบคุณสารานุกรมเสรีนะคะ:z16
     
  3. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    ที่จริงแล้ว เรื่องราวของกิมท้ง กับเง็กนึ่งนั้น มีหลายตำนานมากเลยครับ
    สำหรับกิมท้ง หรือ เด็กชายที่อยู่ข้างพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้น ก็มีหลายตำนานครับ
    ตำนานที่กล่าวถึงกันมากคือ ตำนานการเป็นลูกของปีศาจวัว กับองค์หญิงพัดเหล็ก เราจะรู้จักกันในนามของ อั่งไฮ่หยี่ เป็นเด็กซุกซน อายุ 500 ปีแล้วก็ยังตัวเป็นเด็กอยู่ แล้วก็มีความเฉลียวฉลาด ไม่มีความกลัวใครเลยแม้แต่พ่อตัวเองซึ่งเป็นปีศาจวัวที่ใครๆ ก็กลัว นอกจากนี้แล้วยังไม่ความสามารถในการพ่นเพลิงประลัยกัณฑ์ อีกด้วยดังนั้นจึงไม่มีใครทื่กล้าทำอะไรด้วย เรื่องที่ไปเป็นศิษย์ของพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้น ก็มีเรื่องเล่าที่ว่า เมื่อครั้งพระถังซำจั่ง (พระเฮี่ยงจังแห่งราชวงศ์ถัง เป็นผู้ไปอัญเชิญพรไตรปิฏกที่ชมพูทวีป เพื่อมาเผยแผ่ศาสนาให้กับกุลบุตร กุลธิดาแห่งจงหยวน) ไปอัญเชิญพระไตรปิฏกนั้น ตอนนั้นก็มีสานุศิษย์ที่ร่วมเดินทางด้วย 4 คน คือ งอคง (เจ้าพ่อเฮ่งเจีย) ตือโป่ยก่าย ซัวเจ๋ง และเจ้าชายมังกรขาย(ซึ่งแปลงเป็นม้าเพื่อให้พระถังได้นั่ง เนื่องจากตัวเองได้กินม้าของพระถัง ตอนนั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมจึงได้มีบัญชาให้เจ้าชายแปลงเป็นม้าให้พระถังได้ขี่) ตอนนั้นก็เดินทางผ่านเขตของอั่งไฮ่หยี่ ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ยินมาว่า หากว่าได้กินเนื้อพระถังแล้วจะเพิ่มพูนฤทธิ์เดช และไม่มีวันตาย ดังนั้นจึงได้วางแผนล่อพระถัง และสามารถเอาชนะงอคงได้ (เนื่องจากงอคงแพ้ควันไฟ แล้วทางอั่งไฮ่หยี่ได้พ่นไฟประลัยกัณฑ์ใส่ ทนความร้อนได้ แต่ว่าทนควันไฟไม่ได้) ดังนั้น พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงทราบเหตุ จึงได้ลงมาช่วยเหลือ ด้วยการเสกดอกบัวไว้ที่กลางป่า แล้วก็รอให้อั่งไฮ่หยี่มาถึง เมื่ออั่งไฮ่หยี่มาถึงแล้วเห็นดอกบัวก็ชอบ ก็เลยขึ้นไปนั่งเล่นบนดอกบัว แล้วทำท่าพนมมือ เมื่อพระโพธิสัตว์เห็นดังนั้นแล้ว ก็ทำให้กลีบบัวเป็นเหล็กหนีบตัวของอั่งไฮ่หยี่ ทำให้อั่งไฮ่หยี่ไม่อาจหนีไปได้ แล้วพระโพธิสัตว์จึงได้แสดงองค์ให้เห็น อั่งไฮหยี่ก็ว่า ทำไมเป็นถึงพระโพธิสัตว์จึงได้ใจร้ายกับเด็ก แต่ว่าพระโพธิสัตว์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ทำให้เหล็กที่หนับตัวนั้นหายไป หลังจากนั้น อั่งไฮ่หยี่ก็เริ่มประลองฤทธิ์กับพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งก็โดนพระโพธิสัตว์ปราบได้ตลอดทุกครั้ง จนเมื่อจะหนีก็ถูกพระโพธิสัตว์เสกห่วงใส่ที่มือ และที่ขา ต่อมาก็ที่คอ ซึ่งก็ทำให้พูดหรือทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย ต้องสวดพระนามพระอมิตตาอย่างเดียว หลังจากนั้นก็นำไปที่โปตลา อันเป็นที่พำนักของพระโพธิสัตว์หลังจากนั้นก็ได้รับการอบรมจนกระทั่งสามารถบรรลุพระอรหันต์ หลังจากนั้นก็เป็นศิษย์ที่ติดตาม พระโพธิสัตว์กวนอิมในการโปรดสัตว์ตลอด เราจึงได้เห็นรูปของอั่งไฮ่หยี่ไหว้พระโพธิสัตว์ตลอด หากสังเกตดีๆ ที่มือ เท้า และที่คอ จะต้องมีห่วงที่คล้องไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงการทำความดี ห้ามใจไม่ให้ทำความชั่ว นอกจากนีสังเกตได้ว่า จะเห็นเป็นรูปเด็กตลอด เพราะว่าตำนานเป็นเด็ก
    นี่คือ ตำนานเรื่องแรกของอั่งไฮ่หยี่ครับ
     
  4. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    อีกตำนานหนึ่งที่มีผู้กล่าวถึงคือ ตำนานของเด็กที่ชื่อว่า สุธนกุมาร อย่างที่คุณอุ่นทิพย์กล่าวถึง แต่ว่าจะมีแปลกแตกต่างกันบ้างคือ สุธนกุมาร เป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด มีลักษณะดี แต่มีความซุกซน สุธนกุมาร นั้นเป็นผู้ที่สนใจในเรื่องต่างๆ จนกระทั่งได้ยินเรื่องราวของพระธิดาเมื่ยวซัน ซึ่งเป็นภิกษุณีที่กำลังบำเพ็ญเพียร และได้ยินเรื่องของแจกันบัวขาว ที่ว่าหากมีน้ำเต็มในแจกันเมื่อไหร่ และมีกิ่งหลิวงอกเมื่อไหร่ก็แสดงว่าพระธิดาเมี่ยวซันบรรลุธรรมแล้ว ด้วยความซุกซนก็อยากแกล้งและทำให้ผู้คนเข้าใจผิดก็เลยได้แอบเข้าไปที่พระอุโบสถ แล้วก็เอาน้ำมาเติมพร้อมกับเด็ดกิ่งหลิวมาใส่ หลังจากนั้น ก็แอบดูปรากฏว่า มีภิกษุณีที่เข้ามาเพื่อสวดมนต์ไหว้พระ และทำความสะอาดเข้ามาเห็น ก็ไปแจ้งต่อพระธิดาเมี่ยวซัน หลังจากนั้นก็ได้ป่าวประกาศออกไปถึงข่าวอันนี้ หลังจากนั้นก็มีประชาชนแห่กันมาชื่นชม และก็กล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณอย่างมากมาย สุธนกุมาร ซึ่งได้เห็นเหตุการณ์ตลอดก็ได้แต่หัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็คิดในใจว่าหากว่าได้เห็นว่า พระธิดาเมี่ยวซันไม่ได้บรรลุธรรมจริงก็จะได้ยิ่งเป็นเรื่องสนุก ในวันนั้นพระธิดาเมี่ยวซันก็ได้ปลงผมใหม่ รวมถึงอาบน้ำชำระกายและเจริญภาวนาในพระอุโบสถ เหล่าภิกษุณีและประชาชนทั้งหลายก็ได้ร่วมสวดมนตร์เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสวดมนตร์และรอการบรรลุธรรมของพระธิดาเมี่ยวซันนั้น สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือ สุธนกุมาร นำเอาไม้ติดอยู่ในมือแล้วปีนขึ้นไปบนศีรษะของภิกษุณีเมี่ยวซัน แล้วตีด้วยไม้อย่างแรง ซึ่งตอนที่ตีนั้นทุกคนห้ามไม่ทันเสียแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ เกิดควันสีแดงพวยพุงมาจากศีรษะของภิกษุณีเมี่ยวซันแล้วกลายร่างเป็นพระโพธิสัตว์ผู้บริสุทธิ์สวมอาภรณ์สีขาว พร้อมด้วยคุณาลังกรณ์ทั้งปวง แล้วก็หายไป ปวงชนได้เห็นดังนั้นก็พร้อมกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณอย่างยิ่ง หลังจากนั้นสุธนกุมารก็ได้สำนึกผิดต่อสิ่งที่กระทำลงไป เปลี่ยนแปลงตัวใหม่เป็นเด็กที่ทำตัวดีขึ้นไม่เกเร และต่อมาได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาและจาริกไปสู่โปตละ เพื่อพบพระโพธิสัตว์และอยู่ศึกษาพระธรรมจนบรรลุพระอรหันต์ และต่อมาก็ได้เป็นผู้ที่ทำให้เมี่ยวจวงอ๋องกลับใจเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี และส่งเสริมพระพุทธศาสนาในอาณาจักร
    จบไปอีก 1 ตำนานครับ
     
  5. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    ครับ สำหรับตำนานของกิมท้งนั้น ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน หากว่านำมาเล่าอีกก็คงเล่ากันอีกหลายครับ เพราะต่างท้องที่ก็ต่างตำนาน

    เรามาเข้าเรื่องของเง็กนึ่งกันก่อนครับ
    สำหรับเง็กนึ่งนั้นมีเล่าขานน้อยกว่าของกิมท้ง
    อ่อ ลืมแนะนำไปว่า คนจีนเราจะเรียกเด็กชายข้างกวนอิมโพธิสัตว์ว่ากิมท้ง ส่วนเด็กหญิงนั้นเรียกว่า เง็กนึ่ง คำว่ากิมท้งนั้น ชื่อก็บอกเลย คำว่ากิม ก็คือ ทอง ท้ง ก็คือเด็กชาย กิมท้งคือ เด็กชายทองคำ ส่วนเง็กนึ่งนั้นก็มีความหมายที่ดี คือ เง็ก แปลว่าหยก ส่วน นึ่ง คือ ผู้หญิง ก็เลยรวมความแปลว่า เด็กหญิงหยก หยกกับทองคำเป็นอัญมณีสูงค่า เป็นสิ่งที่คนจีนเราใช้ในการติดต่อค้าขายกันมานาน รวมถึงใช้ในการพิธีต่างๆ ตั้งแต่จักรพรรดิจนกระทั่งชาวบ้านทั่วไป ที่จริงแล้วนอกจากชื่อนี้แล้ว เด็กชายนั้นก็ยังมีอีกชื่อคือ ซ่านไฉ หรือ เซี่ยงไช้ (แต้จิ๋ว) คำแปลก็ดีมากครับ คำว่า ซ่าน(เซี่ยง) แปลว่าคุณงามความดี ไฉ หรือ ไช้นั้น แปลว่าฉลาด ปัญญา จะแปลว่า คุณงามความดีแห่งปัญญา หรือ ปัญญาแห่งคุณงามความดี

    เรามาต่อเรื่องของเง็กนึ่งกันดีกว่า เรื่องของเง็กนึ่งนั้นจะเล่ากันน้อยมาก ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื่องจากอะไร ก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมไม่ทราบได้ หรือเป็นเนื่องจากเป็นหญิงหรือไม่ก็ทราบได้ แต่เอาเป็นว่า จากตำนานที่เล่านั้นมีเพียงตำนานเดียวที่เล่าขานกัน และได้ยินมากที่สุดคือ เง็กนึ่งนั้น แต่เดิมเป็นธิดาแห่งมังกรทะเลครับ เป็นเด็กหญิงที่เฉลียวฉลาดมากมาย เป็นหญิงที่ไม่ได้ซุกซนเหมือนกับซ่านไฉ หรือ อั่งไห่หยี่ แต่นางเป็นผู้ที่สามารถด้านปัญญามากกว่า จนกระทั่งเป็นที่เลื่องลือในท้องทะเล ทั้งบรรดาจ้าวมังกรทั้งหลายก็รักใคร่เหมือนกับธิดาแห่งตน เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จโปรดพระโพธิสัตว์และเทพเจ้าทั้งหลายที่ภูเขาโปตละที่ทะเลใต้ อันเป็นที่พำนักแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม ครั้งนั้นนางธิดามังกรก็ได้ฟังธรรมด้วยเช่นกันและได้บรรลุซึ่งพระโพธิสัตวญาณ และได้รับการพยากรณ์ที่จะได้รับการบรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ก็มีหลายคนที่สงสัยอยู่ว่าทำไมผู้ที่มีอัตภาพที่เป็นหญิงถึงได้รับการพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า นอกจากนี้แล้วก็ยังไม่เห็นอานุภาพของธิดามังกรนี้ ดังนั้นธิดามังกรนี้ก็เลยได้อธิษฐานเพศพระพุทธเจ้าขึ้นมาและได้แสดงธรรมต่อเหล่าพระโพธิสัตว์ รวมถึงบรรดาเทพเจ้าทั้งหลาย ในที่ประชุมนั้นก็เห็นและได้เห็นพุทธเกษตรของพระนางที่สว่างไสวยิ่งนัก ประดับด้วยเพชร ไพฑูรย์ อัญมณีมากมาย นอกจากนี้แล้ว ก็มีพุทธรัศมีที่อันใครครอบงำไม่ได้ ดังนั้นในบริษัทนั้นจึงได้น้อมคารวะ และพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงวิสัชชนาแก้ความสงสัยนั้นว่า อันที่จริงแล้ว พุทธภาวะนั้นหาได้ติดยึดอยู่ในรูปหญิงรูปชายนั้นไม่ แท้ที่จริงหาได้มีรูปหญิงรูปชาย ดังนั้นพุทธภาวะเกิดได้ในทุกรูปนาม อีกทั้งนางธิดามังกรนี้ แต่เดิมก็เป็นพระตถาคต(จำชื่อไม่ได้ครับ ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง) แต่แบ่งภาคเพื่อโปรดสัตว์โลก ด้วยเหตุนี้ในอัตภาพในชาตินี้ได้เกิดมาเป็นธิดามังกรทะเลอันเรืองฤทธิ์

    สำหรับเหตุอันมาติดตามพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้นก็มาจากครั้งเมื่อได้ไปประชุมฟังธรรมในธรรมสภา ณ โปตละนั่นเอง ก็เมื่อครั้งพระพุทธองค์ตรัสเรื่องของ สัทธรรมปุณฑริกสูตร สมันตมุขปริวรรตเสร็จ ธิดาพญามังกรนั่นเอง ก็มีความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระโพธิสัตว์กวนอิมอย่างมากในการที่จะทรงช่วยเหลือโปรดสัตว์ ดังนั้นจึงได้ปวารณาตัวเองเป็นศิษย์แห่งพระโพธิสัตว์ อันที่จริง พระโพธิสัตว์กวนอิมนั้นมีเพียงเอกชาติพันธจิต หรือ จะต้องเกิดอีกเพียงชาติเดียวเท่านั้น ก็จะได้ตรัสรู้อภิเษกพระบรมโพธิญาณอันยอดเยี่ยม เป็นพระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมล้นด้วยความกรุณาในหมู่สัตว์ยิ่งนัก และใครโปรดสัตว์ให้หมดโลก ด้วยมีปฏิปทาอันแน่วแน่มานานยิ่งนัก จึงได้ทำให้ธิดามังกรเลื่อมใส และร่วมช่วยเหลือโปรดสัตว์

    สำหรับเรื่องราวตำนานของธิดามังกรนั้นเท่าที่พอจะหาได้ก็มีอยู่เท่านี้ตอนนี้เท่านั้น หากว่ามีตำนานอื่นๆ ที่น่าสนใจ ก็คงได้มีโอกาสนำมาเล่า มาเขียนให้ได้อ่านกันอีก

    แต่ตำนานก็ดี เรื่องราวต่างๆ เรื่องเล่าก็ดี สิ่งเหล่านี้หลายคนอ่านแล้วก็อาจจะคิดถึงเรื่องปาฎิหาริย์มากจนออกอาการไม่เชื่อ ตรงนั้นต้องเข้าใจว่า เรื่องราวเหล่านี้ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เป็นจริงทั้งหมด มีการแต่งเสริม หรือว่า ต่อเติมเข้าไปได้ตามแต่ความคิดคน เพื่อส่งเสริมเรื่องของศรัทธาปสาทะ แต่กระนั้นก็ดี สิ่งที่เราควรกระทำคืออะไร คือการศึกษาเพื่อเรียนรู้สารัตถะที่มี อย่าไปยึดติดในตำนานแล้วลืมเรื่องสารัตถะคือ เรื่องการบำเพ็ญพุทธบารมี สิ่งที่กล่าวไว้ในเรื่องนี้ เรื่องนึงเป็นสิ่งที่เราชาวพุทธควรจะเห็นให้แจ้ง และเจริญให้มาคือ เรื่องการติดยีด อย่าไปติดยึดว่าพุทธภาวะที่แท้นั้น เลือกเพศ ชีวะ สัตว์ หรือบุคคลต่างๆ แท้ที่จริงไม่มีการเลือกเพศ บุคคล หรือว่า ชีวะ หรือว่าสัตวะต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นก็เพียงสิ่งสมมติเท่านั้นเอง แต่จริงๆ ก็ต้องเข้าใจว่า ด้วยการมีสมมติ เราจึงได้นิพพาน หากไม่มีสมมติ นิพพานก็เกิดไม่ได้ เปรียบเหมือนกับดอกบัวที่สวยงามย่อมกำเนิดในโคลนตม หากไม่มีโคลนตม ดอกบัวก็เกิดไม่ได้ พุทธจิตก็เกิดไม่ได้หากไม่มีกิเลส ไม่มีสมมติบัญญัติ นี่แหละเป็นสาระมากกว่าครับ

    ก็ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ
    สาธุ
     
  6. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    มีตำนานองค์หญิงที่เกี่ยวกับหิมะไหมครับ องค์หญิงที่เป็นลูกหลานพระแม่กวนอิม ท่านเคยสื่อผ่านร่างทรงท่านแม่ว่า ท่านอยากคุยกับน้อง และบอกว่าท่านเป็นเจ้าหญิงหิมะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...