อยากรู้เรื่องพระพุทธเจ้าองค์ปราบมาร สรุปแล้วท่านจะตายเป็นคนสุดท้ายใช่หรือไม่ ?

สงสัยเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าองค์ปราบมาร จึงอยากให้ช่วยคิดช่วยตอบหน่อยครับ

ที่อ่านเจอในพจนานุกรมพุทธศาสตร์ เมื่อกล่าวถึงมาร จะมีมารอยู่ 5 แบบ
1 กิเลสมาร แปลได้ง่ายๆคือ กิเลส
กิเลสของแต่ละคนจะไปปราบหมดได้อย่างไร แต่ละคนต้องปราบของตนเอง จะปราบหมดได้อย่างไร ?
2 ขันธมาร แปลได้ง่ายๆคือ ขันธ์ 5
หากไม่มีขันธ์ 5 จะเป็นร่างกายและเป็นมนุษย์ ? ขันธ์ 5 เป็นเรื่องปกติของร่างกาย
จะปราบร่างกายที่ประกอบด้วยขันธ์ 5 อย่างไร ?
3 อภิสังขารมาร แปลว่าอะไรไม่รู้ แต่พิมพ์ไว้ว่า เป็นตัวปรุงแต่งกรรม นำให้เกิด ชาติ ชรา เป็นต้น
ปราบตัวปรุงแต่งกรรม ???
4 เทวปุตตมาร แปลว่า เทพบุตร เทพยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดแห่งชั้นกามาวจร หน่วงเหนี่ยวไว้ ไม่ให้พ้นจากอำนาจตน
ปราบเทวบุตรผู้นี้ จะมีผู้อื่นในอนาคตหรือไม่ แล้วจะปราบอย่างไร?
5 มัจจุมาร แปลว่าความตาย ปราบความตาย ?

แต่พิมพ์ไปพิมพ์มาแล้ว สรุปว่า ท่านจะตายเป็นคนสุดท้าย ?
มีแต่วิธีนี้เท่านั้นกระมังที่จะปราบมารได้หมด

 

พระพุทธเจ้าองค์ปราบมาร นี่หมายถึง ท่านองค์ปราบมาร ที่มีปรากฎในหนังสือของคณะพรสวรรค์ หรือเปล่าครับ

 

ใช่แล้วครับ หมายถึงท่านองค์ปราบมาร ที่ปรากฏในหนังสือของคณะพรสวรรค์

ใช่แล้วครับ หมายถึงท่านองค์ปราบมาร ที่ปรากฏในหนังสือของคณะพรสวรรค์
ท่านปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย ที่ได้รู้มาคือจะปราบมารให้สิ้น ให้ทุกดวงจิตทุกดวงวิญญาณไปนิพพานหมด
ผมเรียกเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปราบมาร
หากท่านจะปราบมารเสียสิ้นตามที่ตั้งใจ

สัตว์ต่างๆที่จะเกิดมาอีกจะต้องไม่ติดกิเลส ไม่ติดกาม ไม่ติดในภพ
และจะตัดสิ้นอย่างแน่นอน ดำเนินทางไปสู่โสดาบันได้หมดเป็นอย่างต่ำ
เทวดาต้องดำเนินทางไปสู่นิพพาน
ความตายนั้นจะมีผลกับพระโสดาบันเพียงไม่กี่ชาติก็จบเพียงเท่านั้น
เข้าใจตามนี้ถูกไหม

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นตายคนสุดท้ายสินะครับ

 

ท่านทรงปราบมาร ในหนังสือคณะพรสวรรค์กล่าวว่า เป็นผู้ที่สนับสนุนการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เป็นเบื้องหลังของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และท่านจะรอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย

ผมได้เคยเรียนถาม ท่านอ.คนเมืองบัว นานแล้ว ท่านสรุปให้ฟังว่า
" พระพุทธเจ้าปราบมารองค์สุดท้าย แห่งอนันตะพุทธเจ้านั้น ไม่มีแน่นอน
หนังสือพรสวรรค์ส่วนใหญ่ ได้จากการเข้าทรง แล้วนำมาเป็นบรรทัดฐาน
ดูแล้วมีความคลาดเคลื่อนมาก เป็นวิสัยของศิษย์หลวงพ่อไม่ควรทำ
เพราะถือว่าปฏิบัติธรรม นำไปทรงเจ้า เป็นการดึงฟ้าสูงให้ลงต่ำ
บางเรื่องก็ขัดแย้งกับคำแนะนำของหลวงพ่อ อีกด้วยซ้ำ "

 

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับ

 

โอ๊ยสับสน

 

ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ พระพุทธเจ้าองค์ปราบมาร นี่ถ้าตามความเข้าใจของผมเองเข้าใจว่า จะได้เป็นองค์สุดท้ายของรอบนึง ซึ่งอาจเป็นรอบของการจบวางระดวงจิตในจักรวาลอย่างกลาง(ใช้ศัพท์ไม่เป็นเอาง่ายๆแล้วกันนะ)แต่ก็จะมีการเกิดในรอบต่อๆ ไป อันนี้เป็นความสงสัยอย่างแรก ส่วนอีกอย่างถ้าพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายบำเพ็ญบารมีเต็มเสียแล้ว แล้วผู้ที่กำลังบำเพ็ญในขณะนี้อยู่ล่ะ จะต้องไปเป็นสุดท้ายของอะไร อันนี้ก็สงสัยอีกอย่าง แต่ที่แน่ๆ ถ้าสมเด็จปู่องค์ปฐมเป็นองค์แรกของอนันตจักรวาลก็เท่ากับว่าก่อนหน้านั้นล่ะ พระนิพพานว่างเปล่าจากดวงจิตหรืออย่างไร และถ้าเป็นองค์ต้นอย่างแท้จริงก็น่าจะมีองค์สุดท้ายของอนันตจักรวาลจริงๆ หรือไม่ อันนี้แม้คำตอบที่ได้ว่า ดวงจิตมีกำเนิดไม่สิ้นสุดก็จริง แต่ถ้าเหตุแห่งการกำเนิดจิตเหล่านั้นดับได้ล่ะ อันนี้ก็น่าคิดเหมือนกันว่าอาจจะดับวัฎฎสงสารนี้ได้เลยก็ได้ อันนี้เป็นความสงสัยตามนิสัยพุทธภูมิ มิได้มีเจตนาจะให้เกิดความคิดแตกแยก ถ้าได้คำตอบที่มีเหตุมีผลก็จะช่วยให้คลายสงสัยและให้เกิดปัญญาได้เยอะกับหลายๆ ท่านในที่นี้เหมือนกัน

 

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับเกี่ยวกับเรื่องที่มีบางท่านปารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายถ้าหมายถึงทั้งหมดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วนั้น ในตำราเล่มของผมนี่บอกว่าเห็นจะเหนื่อยเปล่าถัาเป็นมวยก็ได้แค่ซ้อมมากยกเปล่าๆแต่ไม่มีโอกาสได้เป็นแชมป์ เหตุผลคือวิสัยของสัตว์นรกที่อยู่ในโลกันต์นรกนั้นก็เป็นนิยตมิจฉาทิฐิไม่มีวันเปลื่ยนไปเป็นสัมมาทิฐิอย่างเที่ยงแท้แน่นอน แม้พระเดชพระคุณพระราชกวี ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเวลาที่ท่านจะเอ่ยถึงท่านจะเรียกว่าช้างปาริไลยกะแทบจะทุกครั้งท่านก็บอกว่าวิสัยของสัตว์นรกในโลกันต์นั้นเป็นนิยตวิสัยสัตว์นรกไม่มีวันเปลี่ยน จึงน่าหนักใจแทนท่านที่จะสงเคราะสรรพสัตว์ให้หมดไป จะทดลองดูก็ได้นะครับว่าวิสัยของสัตว์ประเภท ปะทะปะระมะ ที่แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเ้จ้าในอดีตท่านก็ยังสงเคราะไม่ได้ แล้วในอนาคตกาลยังจะมีท่านใดที่คิดว่าจะมีความสามารถมากกว่าแน่หรือ เอาแค่พอกำลังกันเถอะนะครับ 10 กุมภาพันธ์ 2549

 

ที่พูดมาก็ถูก แต่ถ้าพูดกันในภาษาคนที่ตั้งความปราถนาเป็นองค์สุดท้าย ไม่ว่าจะสุดท้ายของช่วงหรือของทั้งหมด ก็มีความคิดที่นอกเหนือจากนั้น คือถ้าจะพูดกันเรื่องการสงเคราะห์สัตว์ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหน ก็ขึ้นอยู่กับบารมีของสัตว์โลกนั้นๆ ด้วย ถึงแม้พระพุทธเจ้าจะสงเคราะห์ไม่ได้ก็ใช่ว่าจะไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ใดเลยที่จะสงเคราะห์ไม่ได้ แต่เมื่อวาระกรรมของสัตว์นั้นๆ ลดลงแล้วก็ย่อมมีโอกาสเช่นกัน ตามกาลเวลาที่ผ่านล่วงไป จุดต่างระหว่างความรู้สึกของผู้ปราถนาพุทธภูมิธรรมดา กับองค์สุดท้ายจะเป็นเรื่องความเชื่อและกำหนดเวลา ถ้าเป็นแบบธรรมดาจะกำหนดไว้ว่าจะบำเพ็ญเป็นแบบใด ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ แต่ถ้าองค์สุดท้ายจะไม่ได้กำหนดเวลาและความเชื่อว่าจะต้องมีองค์สุดท้าย อันนี้ถ้าจะนับว่าเป็นมวยซ้อมยกเปล่าๆ ก็ต้องขอบอกว่าถ้าคิดอย่างนั้นมันตื้นเกินไป อย่างน้อยพุทธภูมิก็ช่วยสร้างกระแสกรรมกับสัตว์โลกให้เข้าสู่กระแสธรรมได้ไม่ใช่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้มรรคผลแต่ก็ช่วยสงต่อให้พระพุทธเจ้าองค์ต่อๆ ไปได้

 

ในฐานะที่ผมวิริยาธิกะพิเศษตามหลักสูตรในตำราแล้วไม่มีอะไรเลยที่คนประเภทนี้จะไม่เคยได้เข้าไปแตะต้องมันมารสชาดของสิ่งต่างๆนั้นมันแทบจะเรียกว่าซึบซาบอยู่ในสายเลือดย่อมจะรู้ซึ้งถึงความทุกข์ยากระทมขมขื่นในทุกสถานการณ์จริง ในถนนสายพระโพธิญาณนี้ในความรู้สึกส่วนตัวของผมแล้วแทบจะไม่มีใครเลยที่ผมจะไม่รู้จักหรือเคยเกี่ยวเนื่องกันมาในอดีตและที่จะมีต่อไปในอนาคตสิ่งใดที่ผมรู้และนำมาพูดผมถือว่าผมพูดฉะเพาะกับคนที่เคยเกี่ยวเนื่องกันมาเท่านั้น เพราะผมเองผมจะเดินตามฉะเพาะรอยพระพุทธบาทตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมาพระสัมมาสัมพูทธเจ้าทุกๆพระองค์ และมีรอยพระบาทของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเท่านั้น พูดเพราะจากที่รู้มานี่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็สั่งสมบุญญาธิการมาตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมท่านก็สงเคราะได้ฉะเพาะคนที่เลื่อมใสในท่านคนที่ไม่เลื่อมใสก็ด่าว่าร้ายท่านต่างๆนาๆก็มีจำนวนนับไม่ถ้วนที่สุดวิสัยที่ท่านจะสงเคราะได้ หลวงปู่ปานท่านก็สงเคราะได้ฉะเพาะคนของท่าน หลวงปู่ครูบาศรีวิชัยท่านก็สงเคราะได้ฉะเพาะคนของท่าน หรือแม้แต่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชกวี(อ่ำ ธัมมทัตโต)ซึ่งท่านจะไปตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระองค์ที่10ในอนาคตวงค์ท่านก็สงเคราะได้ฉะเพาะคนที่เลื่อมใสในท่านเท่านั้น ทีนี้เรามาดูสภาพตามความเป็นจริงกันในชาตินี้ยกตัวอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงที่ในอดีตเอาแค่สมัยเชียงแสนมาจนปัจจุบันที่ท่านเมตตาปราณีมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชนชาติไทยอย่างสุดประมาณท่านลงมาเกิดทั้งกู้ชาติทั้งทนุบำรุงทั้งประเทศชาติทั้งพระพุทธศาสนาความดีของท่านนั้นท่านทรงความดีชั้นเลิศจนนาทีสุดท้ายของขันธ์ห้าของท่านความดีที่ท่านมีความรักมีความห่วงใยหมู่คณะลูกหลานของท่านอุตส่าห์ลงมาเกิดอย่างต่อเนื่องถ้าจะบอกว่าก่อนหน้านี้ท่านคือพระพุทธเจ้าหลวง ร.5ก็จะไม่เชื่ออีกขอหลักฐานอีกสำหรับเรื่องนี้ว่าท่านจะใช่ร.5หรือปล่าวลูกหลานของท่านทุกคนรู้ดี ท่านก็ยังตั้งชื่อเรือ 3 ลำของท่านเป็นอนุสรณ์ ชื่อ คนึงหา พาถวิล สินธุสวาท เป็นการระลึกถึงท่านแม่ทั้งสามคือแม่ใหญ่ แม่กลาง และแม่เล็ก ตามลำดับ ความดีของท่านหลายคนรู้ว่าท่านดีแต่ถามว่ามีกี่คนที่ศรัทธาเลื่อมใสปารนาตั้งใจอธิฐานติดตาม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นทุกคนก็รู้ว่าท่านทรงความดีอย่างสุดประเสริฐ มีกี่คนที่คิดจะทำความดีที่พระองค์ท่านสั่งและสอน เอาให้ใกล้ตัวที่สุดพระคุณความดีของพ่อของแม่นั้นท่วมล้นพ้นหัวของลูกทุกคน มีลูกซักกี่คนที่พูดความปารถนาออกมาดังๆแม้ในวันตายของแม่ของพ่อว่าจะทำความดีตามที่แม่พ่อเคยสอนสั่งจะขอเกิดเป็นลูกของท่านทุกชาติไปจนกว่าจะถึงพระนิพพาน ที่ผมพูดผมพูดตามเหตุตามผลธรรมชาติตามความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพุทธภูมิทุกท่านแม้ตัวเราเองเคยคิดถึงพระคุณความดีของแม่ของพ่อที่อยู่ตรงหน้านี่หรือปล่าวเอาในปัจจุบันนี่แหละว่าจะขอเกิดติดตามแม่ท่านนี้พ่อท่านนี้ไปจนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพาน ในส่วนของผมนี่แม้ว่าผมจะปารถนาพระโพธิญาณในแบบวิริยาธิกะพิเศษซึ่งความเป็นพิเศษนั้นใครก็ได้ลองดูทุนของผมบ้างก็ได้ว่าวิริยาธิกะพิเศษนั้นมันสาหัสอุกกษฏ์ขนาดใหนแม้ใจจะรักเมตตาปราณีชีวิตอื่นๆมากอย่างไรผมก็ไม่มีปัญญาทำให้ทุกชีวิตที่เข้าไปปารถนาที่จะเกื้อกูลตามสติกำลังปัญญาความรู้ความสามารถของผมเขาเลื่อมใสได้แม้แต่คนที่ใกล้ชิดบางคนก็ยังยากที่เขาจะทำตาม ก็อาจจะมีคนคิดอีกว่าก็ทำโง่ๆอย่างนั้นใครเขาจะตามแล้วก็จะมีคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าทำไมไม่ทำอย่างนั้นไม่ทำอย่างนี้ ผมก็ได้แต่คิดแต่ไม่พูดตามประสาคนเกิดมานานจนใกล้จะตายอีกรอบคิดในใจว่าเชิญท่านลองทำในสิ่งที่ท่านพูดดูซิ อันตัวข้าน้อยนั้นรู้รสชาดของเกลือแล้วว่ารสชาดมันเป็นไง ที่พูดนี้พูดทั้งในฐานะพุทธภูมิวิริยาธิกะพิเศษ และในฐานะคนเกิดมานานที่ทำงานที่เป็นหัวหน้าคนทั้งยังทำหน้าที่ QA/QC Inpectorขององค์กรณ์ขุดเจาะสำรวจและผลิตพลังงานก๊าซและน้ำมันแห่งหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีสูงมากระดับชั้นคุณภาพที่ต้องการก็สูงสุดจึงพอจะรู้ว่ามันเหนื่อยมากเพราะสัมผัสกับมันอยู่ตลอดเวลาในเรื่องของคุณภาพทุกรูปแบบแม้เราตั้งเป้าหมายไว้อย่างดีเพียงใดก็ใช่ว่าเราจะควบคุมมันให้เป็นอย่างใจปารถนาได้ทั้งหมด จึงได้บอกว่าเอาแต่พอกำลังเถอะครับ แต่ก็เอาเถอะไม่ขัดคอใคร ขอโมทนาและจะสนับสนุนตามความสามารถของผมและตามธรรมเนียมนิยมของพุทธภูมิทั้งหลายที่สงเคราะเกื้อกูลสนับสนุนส่งเสริมกันตลอดผลัดกันเดินอยู่หน้าอยู่หลังเพื่อทำหน้าที่ภาระกิจของแต่ละท่านตามแต่วาระโอกาส ดังเช่นพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเป็นหนึ่งในขุนดาบสิบพระยาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชท่านสมัยกู้ชาติ สมเด็จพระเจ้าตากก็เคยเกิดเป็นช้างพลายประกายแก้วในสมัยเชียงแสนเป็นช้างคู่บารมีของพระเจ้าพรหมมหาราชกู้ชาติจากพวกของขอมดำ ผมเองก็นิสัยเสียชอบทำตามแบบอย่างของพ่อซะจนเคยตัว มันก็เลยอาจจะดูว่าตื้นเกินไป แต่ปัญญาผมมันคิดได้แค่นั้นจริงๆ เลยไปกว่านั้นคิดไม่ออกจริงๆยอมรับครับ 12 กุมภาพันธ์ 2549

 

ถ้าอยากจะฝืน
ลองดูก็ได้ครับ
เดี๋ยวพอเต็มที่แล้วก็เลิกเอง
อิอิ

 

มารคือสิ่งที่ขวางกั้นความดี,มัจจุมาร มารคือความตาย
เพราะกำลังตั้งหน้าทำความดี ดันตายซะก่อน. นี่คืออรรถถะของคำว่ามัจจุมาร