อยากให้แม่ชีช่วยตอบ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ตาแก่, 4 กันยายน 2008.

  1. ตาแก่

    ตาแก่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +30
    กราบนมัสการแม่ชีที่เคารพ
    ผมเองสนใจปฏิบัติธรรมเพราะเริ่มจาการอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤษีลิง วัดท่าซุง แล้วเกิดไม่ค่อยเชื่อท่านเลยอยากลองให้รู้ ก็เริ่มจาการสวดมนต์และศึกษาการภาวนา สมาธิจากหนังสือของหลากหลายสำนัก ชอบอ่านมากแต่ไม่ค่อยได้ซื้อเพราะว่าตอนนี้ตกงานไม่มีเงินส่วนตัว ต้องรอเงินจากพี่ให้ใช้ผมเองต้องประหยัดก็ไปอ่านตามวัดเอาครับ ที่ท่านผู้ใจบุญเอามาบริจาคไว้ตามวัด ตามห้องนั่งสมาธินะครับ ส่วนมาแล้วผมจะไปอ่านทีร้านหนังสือนายอินทร์เพราะเขาให้อ่านฟรีได้และยังใจดีมีที่นั่งอ่านอีกครับ เขาช่างใจดีเหลือเกิน ปกติร้านอื่นๆ เราอ่านเขาไม่ว่าครับแต่ไม่มีที่นั่งให้หรอกครับ ต้องขอบคุณเจ้าของบริษัทไว้ด้วยขอให้ได้บุญเยอะๆครับ
    พอผมเริ่มหัดอ่าน ผมก็ลองปฏิบัติ พอนานๆเข้ารู้สึก ตัวเองมีอาการแปลกไปจากเมื่อก่อน คือคล้ายกับว่าเข้าสมาธิได้ระดับอุปจาระสมาธิครับ ผมไม่แน่ใจนะครับ เพราะผมคิดว่าเป็นขั้นนี้เพราะอาการตัวเบาสบาย ตามหนังสือเขาบอกไว้นะครับ แต่พอรู้สึกเป็นสมาธิแล้วมันเหมือนว่าจิตจะหลุดออก ผมก็ปล่อยให้ออกไปรับรู้ พูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือสิ่งแปลกๆ มาหลายครั้งเหมือนกันครับ หากไม่ปล่อยให้ออกเราก็นับลมหายใจต่อก็เบาสบายบางทีก็เหมือนตัวจะลอยขึ้นหรือตัวไถลไปกับพื้นห้องเร็วมาก บางทีผมเบื่ออาการผมก็ลืมตาสมาธิก็คายออก ช่วงที่เหมือนว่าอาการจิตออกไปในที่ที่เรากำหนด คืออย่างเวลาหลุดปุ๊บผมก็กำหนดว่าไปหาพ่อทีเสีย หรือแม่ หรือคุณย่า ส่วนมากไม่พบ ไปเจออะไรแปลกอย่างเช่นไปเจอธาตุ(เหมือนทีเขาใส่กระดูกญาติๆทีเสียนะครับ) เจอสองครั้งครับสำหรับเรื่องธาตุ ครั้งแรกที่เจอธาต ผมลองกำหนดว่าไปหาพุทธเจ้า จิตก็พุ่งออกไปเร็วมาก นานเหมือนจะรอบโลกได้ก็มาหยุดที่ธาตุใครไม่รู้ผมก็กราบแล้วก็กลับ โดยไม่ค่อยเขาใจว่ามันคือธาตอะไรด้วยซ้ำเหมือนว่าสมาธิจะคายเร็วมาก แค่ 2-5 นาทีโดยประมาณ พอไม่เจอก็กลับเท่านั้น อีกครั้งก็คิดไปหา ย่า ก็ไปเจอธาตุอีกแล้วตอนแรกที่มาถึงก็หยุดสัมผัสด้วยมือคลำรอบธาตุองค์นี้ใจก็คิดว่าเป็น พอตั้งจิตให้เข้มขึ้นก็ชัดขึ้นครับตอนแรกเหมือนมันมืดสลัวๆมองไม่ชัดว่าเป็นอะไรแต่พอรู้จากการสัมผัสด้วยมือ สักครู่ธาตุก็ถามและคุยโต้ตอบกับผม ท่านบอกมาหาใคร ผมบอกมาหา คุณย่าผม ท่านถามว่า ตายมานานหรือยัง ผมเกิดจำไม่ได้ไม่มั่นใจตัวเอง แต่ก็ตอบว่าประมาณ 10 ปีแล้ว ท่านบอกไม่มีนะ ดินแดนนี้ไม่ใช่ดินแดนคนพุทธเขาอยู่กัน ผมเลยกลับ งงๆ และไม่แน่ใจว่าอะไรกันแน่ จริงหรือไม่จริง แต่ผมหลังจากผมทำสมาธิ ก็จะมีอาการอย่างนี้ประจำ บางทีก็ไปโน้นไปนี้ตามที่ผมกำหนด แต่บางทีก็ไปหยุดที่มืดๆ แล้วไม่ไปต่อไม่เห็นอะไรผมก็เลยลืมตาสมาธิก็คลายออก เป็นอย่างนี้เกือบทุกครั้งมีครั้งหนึ่ง พอมันหยุดที่มืดๆ ผมนึกได้ก็ลองใหม่ตั้งสมาธิเพิ่มซิ คราวนี้มันกลับวิ่งไปได้และถึงที่แล้วมันก็หยุดเอง และเจอได้พูดได้คุยได้เห็นอะไรแปลก ๆก็สนุกดีครับ
    แต่มา 2 ครั้งล่าสุด ผมก็คิดไปนรก จิตก็พุ่งตรงไปเหมือนเดิมแต่วิ่งไปคราวนี้เหมือนมีอะไรเสียดทานผมไว้ไม่พุ่งไปปรื้อเหมือนก่อน มันพุ่งแบบฟืดๆครับ
    แต่ก็ผ่านไปได้เหมือนกัน เหมือนมีใจหนาๆพอประมาณทีจะทำให้เราพุ่งไปได้ไม่กระฉูดเหมือนเดิมแปลกนะครับ มันมาของมันเองแล้วก็หยุดของมันเอง เหมือนมันรู้ว่าจะต้องไปที่ไหนหยุดตรงไหนอย่างนั้นแหละครับผมไม่สามารถบอกได้ว่าไม่เอาตรงนี้จะไปต่ออะไรอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ มันมาของมันเองพอถึงเหมือนว่าเอาถึงแล้วอะไรทำนองนี้ครับ มาถึงแท่นเหมือนทีนั่งที่จำจากเก้าอีปูนซิเมนต์ฝังดินไว้เห็นพอนั่งได้ มีแท่นเล็กและแท่นใหญ่ ผมก็นั้งที่แท่นใหญ่แล้วเหมือนมีตัวอะไรหรือคนหรือวิญญาณมาลูบๆ คลำๆ ผมตัวดำน่าขยะแขยง ผมเลยลืมตาก็เลยจบลงแค่นั้น
    -อีกครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กย.2551 นี้เอง ครับผมนอนสมาธิอยู่ใจก็คิดว่าจะไปไหนดี ก็ออกมาพุ่งตรงไปหาญาติคือคุณ อา ผมครับ ผมอยากไปขอโทษอาผมที่ทำให้ลูกเขาเดือดร้อน จิตก็พุ่งตรงไปเร็วครับ ก็ตรงมาที่แห่งหนึ่งเหมือนเป็นบ้านแต่มองไม่ชัดจิตผมคงไม่เข้มแข็งพลังน้อยเลยมองไม่ชัดครับมืดๆ มัวๆ พอมองออกว่าเป็นบ้านมีช่องลม พอมาถึงก็เหมือนตัวเองจากที่พุ่งมามองไม่ออกว่าเป็นลำแสงหรือดวงจิตพุ่งไปแต่พอมาถึงจุดหมายก็กลายเป็นเหมือนร่างกายเราลอยลงมายืนบนพื้นห้อง แต่เหมือนลูกอาผมอีกคนที่ตายไปแล้วเขาอยู่ที่นี้ เขาพูดว่า ผมเก่งขนาดมาได้เลยหรือ เหมือนว่าเขางง และคิดว่าผมฝึกจิตได้ขนาดนี้เลยหรืออะไรทำนองนี้ครับ แต่ตัวอาผมและสามีเขาไม่เจอหรือมองไม่เห็นก็ไม่ทราบนะครับ ว่าเขาอยู่ด้วยกันหรือเปล่า แต่กลับมีวิญญาณสองคนมาจับมือผมคนละข้างลากผมไป และเอาผ้ารัดคอผม จนหายใจไม่ออก ผมเลยลืมตา ก็เลิกไปเลย
    กราบเรียนถามแม่ชีว่า แม่ชีคิดว่าผมเป็นอะไรไป อาการทีผมเป็นนี้เขาเรียกว่า จิตสร้างภาพหลอกตัวเองหรือว่า ผมไปมาจริงๆ ครับ แต่เป็นทุกครั้งหากผมนั่งสมาธิและจิตนิ่ง หากปล่อยจะหลุดและพุ่งไปอย่างนี้ทุกครั้งครับ หากไม่ไปก็จะตัวเบาลอยๆ สบาย ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมเลยกำหนดออกไปดีกว่าสนุกดี แต่หลังมาเจอแต่ผีดุๆ ผมเลยไม่ค่อยอยากไป ตอนแรกที่จะไปนรกผมกะว่าจะลองไปส่วนสวรรคดูบ้างไม่รู้จะไปได้หรือเปล่า และเป็นยังไง ดินแดนสวรรค จะสวยงามแค่ไหน แต่ผมออกที่ไร มักจะชอบตามหาญาตๆ หรือแม่พ่อแค่นี้ กลับไม่อยากไปสวรรค
    -มีครั้งหนึ่งผมลองกำหนดดูว่าตัวเองเป็นอะไรเมื่อชาติที่แล้ว จิตก็ลอยไปที่ถ้ำมืดๆมีแต่ค้างคาวเต็มไปหมดรอบตัวผม จิตผมดำตรงไปเกาะที่กลางฝูงค้างคาวที่ห้อยหัวกันอยู่ในถ้ำ สงสัยผมเป็นค้างคาวเมื่อชาติที่แล้ว ใช่หรือไม่ครับแม่ชี
     
  2. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    อาการแบบนี้เรียกว่า จิตถอดออก หรือถอดจิตไปดูไปเห็นอีกมิติหนึ่ง
    สิ่งที่ควรต้องระวังคือ ตัวหลง หมายความว่า อย่าเพลิดเพลินกับการไปเที่ยวดู เที่ยวเห็นให้มากนัก ต้องพิจารณาในสิ่งที่เห็นด้วย

    การถอดจิตไปนรก สวรรค์นั้นทำได้แต่ต้องมีสติมั่นด้วย เพราะบางทีจิตตกใจ อาจมีปัญหาทางจิต คือเพี้ยนได้

    การทำสมาธิขั้นสูงขึ้นนั้นจึงต้องมีอาจารย์หรือมีครูคอยกำกับสอน ขอให้ฝึกบ่อยๆจนเกิดเป็นความชำนาญแต่อย่าหลงกับมันก็แล้วกันนะ

    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494

แชร์หน้านี้

Loading...