อัพเดตข่าวสาร วัดท่าขนุนและหลวงพ่อเล็ก

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์วัดท่าขนุน, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    จะรู้ได้อย่างไรว่ายันต์เกราะเพชรเข้าตัวแล้ว

    เมื่อรับยันต์เกราะเพชรไป จะทราบได้อย่างไรว่าเราได้รับยันต์นั้นแล้ว ? ก็คือในช่วงที่เริ่มพิธีกรรม ถ้าท่านทั้งหลายหลับตาภาวนา เมื่อถึงเวลาแล้วเกิดอาการร้อนหูร้อนหน้า หนักหัว หนักไหล่ หรือว่ามีอาการขนลุกเป็นพัก ๆ หรือเหมือนอย่างกับมีมดแมลงไต่อยู่ตามตัว ให้รู้ว่ายันต์เกราะเพชรกำลังเข้าสู่ตัวของท่านแล้ว ให้ตั้งใจภาวนานึกถึงพระอย่างเดียว

    ในระหว่างที่รับยันต์เกราะเพชรก็ให้พนมมือที่มีธูปสามดอก เทียนหนึ่งเล่ม ซึ่งเป็นเครื่องบูชาคุณพระรัตนตรัย นึกถึงภาพพระประธานในศาลาหรือภาพยันต์เกราะเพชรก็ได้ ให้ครอบตัวของเราลงมา จนกว่าอาตมาจะบอกว่าเต็มแล้วก็ให้เลิกได้

    ในขณะที่ท่านภาวนาอยู่หากว่าผู้ใดมีสิ่งไม่ดีแฝงมา ไม่ว่าจะเป็นไสยศาสตร์หรือผีเจ้าเข้าสิงก็ตาม อาตมาขอบารมีขอท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ พร้อมทั้งอินทกะและบริวารให้สงเคราะห์ช่วยขับไล่สิ่งเหล่านี้ให้ ท่านที่มีสิ่งแฝงมา จะส่งเสียงร้องก็ดี จะดิ้นก็ดี ท่านที่อยู่ใกล้ไม่ต้องไปสนใจ

    ท่านที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว มีหน้าที่คือต้องรักษาศีล ๒ ข้อ ก็คือ ห้ามลักขโมยกับห้ามกินเหล้า กับหน้าที่ในการต้องภาวนาปลุกยันต์เกราะเพชรไว้ทุกเช้า ก็จะสามารถป้องกันอันตรายดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    อยู่กับโลกต้องเคารพสมมติทางโลก ต้องรู้กาลเทศะ
    ระมัดระวังทุกคำพูดและการกระทำ
    ………………………….
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  3. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    คู่ปรับของไสยศาสตร์

    ทางปักษ์ใต้นี่น่ากลัวมาก ทางใต้เขาจะใช้ คุณผีคุณคน คุณผีเขาใช้ผีทำ คุณคนเขาใช้คนทำ มีหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านไปเทศน์ ได้กลิ่นธูปเหมือนกับกลิ่นศพแล้วก็หน้ามืดหมดสติไป หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแล้วจมูกก็บวมแดง แล้วก็เน่าลามไปเรื่อย จนจมูกแหว่งไปเลย

    แล้วอยู่ ๆ วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังจะฉันเช้า ท่านก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงขึงขัง กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย บอกว่า “ลูกกูป่วยแค่นี้พวกมึงรักษาไม่ได้หรือ ?” คนเขาก็แปลกใจ แต่คนแถวนั้นเขาเชื่อเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว ก็ถามว่า “ท่านเป็นใคร ?” ท่านก็บอกว่า “กูคือพระอินทร์ ลูกกูไปโดนเขาทำคุณไสยมา เขาใช้น้ำเหลืองผีตายโหงผสมกับผงธูป ปั้นเป็นธูปแล้วจุดในพิธี”

    เพราะฉะนั้น..ใครเทศน์คู่อยู่จะโดนผีของเขาคุมหมด แล้วใครหายใจเข้าไปจมูกก็เน่าไปด้วย มีคนถามว่า “ในเมื่อรักษาไม่ได้ แล้วพ่อปู่จะรักษาอย่างไร ?” ท่านบอกว่า “ไปเอาน้ำมา เดี๋ยวข้าจะเสกน้ำมนต์ให้” พอท่านเสกน้ำมนต์ให้ ทั้งกินทั้งอาบก็หาย แต่จมูกยังแหว่งอยู่อย่างนั้น

    ทางใต้นี่เล่นกันหนัก ยิ่งทางอีสานออกไปทางด้านเขมรต่ำ อย่างพวกสระแก้ว บุรีรัมย์นั่นยิ่งสาหัสเลย สมัยหลัง ๆ อาตมาไปยังโดนเลย

    ถาม : สระแก้วหรือคะ ?
    ตอบ : โดยเฉพาะตาพระยา พื้นที่ของสระแก้ว ทางด้านตาพระยา อรัญประเทศ พื้นที่จะติดเขมร บุรีรัมย์ก็เหมือนกัน แถวละหานทรายเล่นพวกนี้เยอะแยะเลย

    แต่พวกนี้จะสู้คุณพระไม่ได้ ถ้าหากว่าเราภาวนานึกถึงพระเป็นปกติจนอารมณ์ใจทรงตัว ไสยศาสตร์ทุกอย่างจะทำอะไรไม่ได้ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งคือ เราห้ามเผลอ ถ้าเราเผลอสติเมื่อไร เขาจะทำเอาได้ ช่วงที่เผลอก็คือ ช่วงที่เคลิ้มใกล้จะหลับอย่างหนึ่ง ตอนกำลังกินอย่างหนึ่ง ตอนกำลังเข้าส้วมอย่างหนึ่ง ถ้าหากว่าเผลอสติหลุดเมื่อไร ถ้าเขาจ้องอยู่เราก็ถูกเล่นงานได้

    ดังนั้น..หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกให้พวกเรา หาพระเครื่องของครูบาอาจารย์ที่เรามั่นใจ นำมาพกติดตัวไว้ และอาราธนาไว้ทุกวัน จะป้องกันได้ โดยเฉพาะยันต์เกราะเพชร เป็นคู่ปรับของไสยศาสตร์โดยตรงเลย

    วันก่อนที่เป่ายันต์เกราะเพชร มีอยู่รายหนึ่งดื้อมาก รายนี้โดนไสยศาสตร์มา ซวยจริง ๆ ที่เขาไปมีศัตรูเป็นหมอไสยศาสตร์ ปกติมีศัตรูแล้วศัตรูไปจ้างหมอไสยศาสตร์ทำ รายนี้ดันมีศัตรูเป็นหมอไสยศาสตร์ จึงรับเละอยู่คนเดียว

    มาตรงนี้ก็บอกเขาบอกว่า “ช่วยเต็มที่ไม่ได้นะ ช่วยได้แค่ว่าให้หายกลับบ้านได้เท่านั้น” เขาบอกว่า “ไม่เป็นไรครับ แล้วผมจะหายได้อย่างไร ?” ก็บอกเขาว่า “ต้องไปงานเป่ายันต์เกราะเพชร” พอดีใกล้จะมีงานพอดี มาตอนกำลังจะมีงานพอดีแสดงว่าเขาจะหมดกรรมแล้ว

    วันงานเขาก็มา เขาอยู่รับยันต์รอบสอง รอบแรกอาตมาไม่กล้ากระดิกกระเดี้ย เพราะเป็นงานใหญ่ที่สุดในชีวิต กลัวผิดพลาด ก็ต้องเอาใจจับพระแล้วก็ทำตามพระท่านบอก พอผ่านไปรอบหนึ่ง รอบสองชักจะเคยชิน อาตมาก็เริ่มดูฟ้าดูดินจึงเห็นว่า เวลาที่บารมีพระท่านคลุมลงมา ลักษณะเป็นพุทธนิมิต สิ่งที่ไม่ดีต่าง ๆ ที่เป็นสีดำ จะกระจายออกรอบข้าง เหมือนกับที่เราโยนถ่านที่ร้อน ๆ เข้าไปกลางฝูงมด

    แล้วเจ้าพวกนี้ก็ทั้งเต้นทั้งร้อง เขาร้องว่าอย่างไรรู้ไหม “กูไม่ไป..กูไม่ไป..อย่าเอากูไป..!” คือว่าก่อนที่จะทำพิธีจะมีการอาราธนาบารมีพระ โดยเฉพาะจะขอท้าวมหาราชทั้งสี่และบริวารเป็นที่สุด ถ้าหากว่ามีสิ่งไม่ดีให้ขับไล่ออกไป แต่รายนี้ดื้อมาก จนกระทั่งเทวดาท่านต้องหิ้วคอไป

    เมื่อวานนี้คุณวิทูรย์มาเล่า ฟังแล้วหัวเราะกันแทบตาย อาตมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เขาบอก “คนนั้นนั่งอยู่ข้างผม ผมเองกลัวก็กลัว ไม่มีสมาธิเลย สงสัยจะไม่ได้รับยันต์” …(หัวเราะ)… บอกเขาว่า “ถ้าตั้งใจรับก็ต้องได้อยู่แล้ว เพียงแต่สมาธิเราไม่ดี มัวแต่กลัวผีถึงไม่เกิดอาการอะไรให้รู้ว่าได้รับยันต์แล้ว”

    ถาม : ทำให้เห็นเลยหรือครับ ?
    ตอบ : อาตมาเห็น แต่ว่าคนอื่นจะเห็นแค่เขาดิ้นแล้วร้อง แต่เวลาที่พระท่านมา ถ้าเราใช้ทิพจักขุญาณกำหนดตาม จะเห็นเป็นปกติอยู่แล้ว

    ถาม : อย่างนี้เขาถูกอาจารย์คนที่เป็นหมอไสยศาสตร์ใช้ให้มาหรือครับ ?
    ตอบ : ตั้งแต่บัดนี้ไป ถ้าเขาตั้งใจภาวนา “อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ” ทุกวัน พอกำลังใจตั้งมั่นแล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง อธิษฐานขอให้บารมีพระช่วยคลุมเอาไว้ มีหวังว่าคนที่ทำซวยแน่ ๆ เลย เพราะว่ายันต์เกราะเพชรจะสะท้อนกลับไสยศาสตร์ทุกประเภท

    ถ้ารับยันต์ไปให้ปลุกด้วยอิติปิ โสฯ แต่ถ้าเราไม่ได้รับยันต์ก็ให้นึกถึงภาพพระคลุมตัวเราลงมาเลย แล้วก็ภาวนาอิติปิ โสฯ ให้กำลังใจทรงตัว จากนั้นกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง เอาแบบเดียวกันเลย เราไม่ได้รับยันต์ เราก็อาศัยภาพพระเป็นหลักไปเลย

    เรื่องของยันต์เกราะเพชรเป็นปฏิปักษ์กับไสยศาสตร์โดยตรง ใครทำมาเท่าไรก็จะย้อนคืนไปเท่านั้น

    รอบแรกมีแค่ ๒ คน รอบหลังเยอะหน่อยเหมือนนัดกันมา สงสัยเทวดาท่านเบื่อต้องไปไล่หลายรอบ ก็เลยเอามาไว้รอบเดียวกัน

    ถาม : ถ้าเราสวดอิติปิ โสฯ เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ ?
    ตอบ : ตั้งใจนึกถึงภาพพระคลุมเราลงมา นึกง่าย ๆ นึกสบาย ๆ ชอบพระองค์ไหนก็นึกถึงภาพพระองค์นั้น ให้องค์โต ๆ หน่อย คลุมตัวเราลงมา แล้วก็อธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครองทั้งวัน

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2516

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  4. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    น้ำมนต์ พิธีเสาร์ ๕

    พระอาจารย์กล่าวว่า “ยังเหลือน้ำมนต์เสาร์ห้าอยู่นิดหน่อย อาตมาขอบอกว่าอะไร ๆ อาตมาก็ไม่เก่งจริง เก่งแต่เรื่องน้ำมนต์อย่างเดียว …(หัวเราะ)… วิชาหากินที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านครอบครูให้ ท่านบอกว่า “ข้าเก่งอย่างนี้ เอ็งก็เอาอย่างนี้ไปก็แล้วกัน” น้ำมนต์เสาร์ห้าสำหรับรักษาโรคที่หาสาเหตุไม่ได้ หรือว่าใครต้องการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาก็เอาไปดื่มหรือผสมน้ำอาบได้”

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    -พิธีเสาร์-๕.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  5. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ยันต์เกราะเพชร และ ตะกรุดแม่ทัพ

    ยันต์เกราะเพชรนั้นเป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ที่เมตตาสงเคราะห์แก่ผู้ที่มีความเลื่อมใส การเป่ายันต์เกราะเพชรหรือสร้างยันต์เกราะเพชร เป็นไปตามตำราพระร่วงที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคกรุงสุโขทัย โดยการนำเอาบทพุทธคุณ คือ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ฯลฯ จนถึง ฯลฯ ภะคะวาติ จำนวน ๕๖ คำ มาเขียนลงเป็นแถว แถวละ ๘ คำ รวม ๗ แถวด้วยกัน แล้วชักสูตรสำเร็จเป็นยันต์เกราะเพชร

    ถ้าท่านใดที่รู้จักธงมหาพิชัยสงครามก็จะได้รู้ว่า ยันต์เกราะเพชรจริง ๆ แล้วก็คือยันต์ลูกของธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง ธงมหาพิชัยสงครามเป็นธงนำทัพในสมัยพระร่วง ผืนเดียวสามารถคุ้มได้ทั้งกองทัพ ระยะหลัง ๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน สร้างเครื่องรางที่ป้องกันบุคคลที่ร่วมรบได้ อาจจะป้องกันได้ครั้งละ ๑๐ คน ๑๐๐ คน ๑,๐๐๐ คนแล้วแต่ความสามารถของตน เขาเรียกกันว่า ตะกรุดแม่ทัพ นั่นก็เป็นส่วนของยันต์เกราะเพชรเช่นกัน ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง

    แต่ว่าตะกรุดแม่ทัพนี้ ถ้าเป็นหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ท่านเรียกว่า ตะกรุดมหาโจร ก็คือถึงเวลาออกรบ ต้องแต่งกองโจรออกไปเพื่อตีปล้นค่ายของข้าศึก บุคคลที่เป็นหัวหน้าจะต้องคุ้มกันลูกน้องตัวเองได้ทั้งชุด ก็ต้องพกเอาตะกรุดนี้ติดตัวไป ซึ่งถ้าเป็นสายของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หรือวัดบ้านแค หรือหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ท่านจะเรียกว่า ตะกรุดแม่ทัพ แต่หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ท่านเรียกว่า ตะกรุดมหาโจร ก็คือหัวหน้ากองโจรที่ออกไปปล้นค่ายข้าศึก

    ก็แปลว่าจริง ๆ แล้วตำราของตะกรุดแม่ทัพ ก็ไปจากยันต์เกราะเพชรซึ่งมาจากธงมหาพิชัยสงครามนั่นเอง เป็นส่วนบทพุทธคุณที่จารึกอยู่บริเวณคอธง เมื่อนำมาชักสูตรสำเร็จเป็นยันต์เกราะเพชรแล้ว ก็มีอุปเท่ห์วิธีการใช้ที่แตกต่างกันไป

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    -และ-ตะกรุ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  6. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    คำแนะนำการเตรียมตัวของท่านที่จะเดินทางไปร่วมงานเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน
    ถ้าตั้งใจจะไปร่วมงานที่วัด
    ๑. ไปให้ทันเวลาพิธี
    + หากต้องการนำของไปเข้าพิธี ทางวัดน่าจะเริ่มรับของเวลา ๐๕.๐๐ น. จนถึง ก่อน ๐๗.๐๐ น. เล็กน้อย
    + หากต้องการร่วมพิธีพุทธาภิเษก ไปให้ทัน ๐๗.๐๐ น.
    + หากต้องการร่วมแค่พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร รอบเช้า ๑๐.๐๐ น. / รอบบ่าย ๑๓.๐๐ น.
    ๒. แต่งกายสีอะไรก็ได้ ตามที่เราสะดวก แต่ขอเป็นชุดสุภาพ ไม่สั้นเกิน ไม่โป๊เกิน (ผู้สูงอายุ หาเก้าอี้นั่งได้ตามเหมาะสม)
    ๓. การรับยันต์ต้องใช้ ธูป ๓ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท จำนวน ๑ เล่ม เพื่อรับยันต์ ที่วัดมีจัดไว้ให้บริการ หยอดตู้ตามศรัทธา โดยปกติจะตั้งไว้ที่หน้าประตูทางเข้าศาลา สามารถมองหาได้
    ๔. เมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้วก็หาที่นั่งตามสบาย จับภาพยันต์เกราะเพชรไปเรื่อย ๆ
    ๕. นั่งรอเวลารับยันต์ ถ้ามีเวลาก็ภาวนา พร้อมทั้งจำภาพยันต์ให้ชัดเจน เวลารับให้นึกอาราธนายันต์นั้นลงมาสู่กายของเรา
    ๖. นั่งภาวนาไปเรื่อย ๆ ตามที่พระอาจารย์แนะนำจนจบ
    ๗. ธูปเทียนที่ใช้ในพิธี นำกลับบ้านได้ เอาไว้ใช้แทนมีดหมอ จะไล่ผี แก้คุณไสยศาสตร์ หรือรักษาโรคก็แล้วแต่จะอาราธนา
    ๘. ทางวัด จะนำน้ำขวดเข้าพิธี เมื่อเสร็จพิธีก็กลายเป็นน้ำมนต์ให้บูชา สามารถบูชากลับบ้านได้ ไว้ใช้รักษาโรคได้ตามอธิษฐาน
    ๙. กินอาหารที่โรงทานให้เรียบร้อย
    ๑๐. เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคน
    ป.ล. การรับยันต์แต่ละรอบใช้เวลาไม่เท่ากัน อาจประมาณ ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมงค่ะ

    ท่านที่รับที่บ้าน อย่าลืมเตรียม ธูป ๓ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท จำนวน ๑ เล่มด้วยนะคะ แล้วน้อมจิตน้อมใจฟังถ่ายทอดสดร่วมกันได้ตามตารางเวลาด้านล่างค่ะ

    .jpg
    1503964835_152_คำแนะนำการเตรียมตัวของ.jpg
    เชิญรับชมรับฟังการถ่ายทอดสด งานบวงสรวงไหว้ครู พุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชร
    ณ วัดท่าขนุน ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในวันและเวลาดังต่อไปนี้

    วันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐
    เริ่มถ่ายทอดสดเวลาประมาณ ๗.๐๐ น. เป็นต้นไป

    การเป่ายันต์เกราะเพชรจะมี ๒ รอบ
    รอบเช้า เวลา ๑๐.๐๐ น.
    รอบบ่าย เวลา ๑๓.๐๐ น.

    เพื่อให้ผู้ที่อยู่ทางไกล ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานที่วัดท่าขนุนด้วยตนเอง มีโอกาสได้รับชมรับชม-รับฟังบรรยากาศงานที่วัดท่าขนุนไปพร้อม ๆ กัน

    จึงใคร่ขอเชิญสาธุชนทั้งหลายที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานที่วัดท่าขนุน รับชมรับฟังการถ่ายทอดสดจากวัดท่าขนุน ในช่องทางที่จะได้ประกาศต่อไปนี้ร่วมกัน

    ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ มา ณ ที่นี้

    การรับฟังการถ่ายทอดสดเสียง
    ท่านสามารถรับฟังการถ่ายทอดเสียงสด ตามวันและเวลาดังกล่าว

    โดยท่านสามารถคลิกเปิดฟังได้ที่ลิงค์นี้

    ———————————————————————-

    สำหรับ iphone และ ipad สามารถฟังได้โดยการไปโหลด app ชื่อว่า fstream แล้ว install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิด fstream ขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    more->Setting จากนั้นเปิด Cellular network เพื่อให้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ (สำหรับใครที่ใช้ WIFI อยู่แล้ว ไม่ต้องเปิดค่านี้)

    จากนั้นให้เลือกเมนู

    Favorites->Edit->Add new web radio

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Name : Watthakhanun
    URL : http://210.1.51.131:8000
    Encoding : UTF8

    จากนั้นกด Save แล้วเลือกเมนู Play->Watthakhanun

    ———————————————————————-

    สำหรับ android สามารถฟังได้โดยการไปโหลด app ชื่อว่า A Online Radio แล้ว install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    Live->Add Channel

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Channel URL : http://210.1.51.131:8000

    จากนั้นกด Add แล้วเลือกเมนู Favorites->Unname Server

    ———————————————————————-

    สำหรับ android ท่านที่เพิ่งโหลดแอพใหม่

    เนื่องจาก app “A Online Radio” เปลี่ยนชื่อเป็น “Online Radio” แล้ว

    ท่านสามารถฟังผ่าน app ชื่อ Online Radio แล้วทำการ install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    Station > กด + (มุมบนขวา)

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Station Name : Watthakhanun
    Stream URL : http://210.1.51.131:8000

    จากนั้นกด DONE

    แล้วเลือกเมนู Your station > Watthakhanun.com

    จากนั้นกด Play (มุมขวาล่าง)

    ———————————————————————-
    หรือ You Tube โดยค้นจากชื่อ Account “Sapanboon Channel”

    หมายเหตุ:
    – การถ่ายทอดเสียงจะช้ากว่าเวลาจริงประมาณ ๑ นาที
    – หากเสียงมีการขาดหายไปเป็นช่วง ๆ ไม่นานนัก (ประมาณไม่เกิน ๓ วินาที) ขอให้ท่านรับฟังต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องปกติของระบบ
    – หากเสียงขาดหายไปเป็นเวลานานมากกว่านั้น ให้ท่านลองรีเฟรชหน้านั้นอีกครั้ง

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=195603#post195603

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  7. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    อานุภาพของยันต์เกราะเพชร

    อานุภาพของยันต์เกราะเพชรนั้น ผู้รับยันต์ไปแล้วถ้ารักษาเอาไว้ได้
    ข้อที่ ๑ จะไม่ตายโหง แปลว่าการตายด้วยอุบัติเหตุอันตรายผิดปกติใด ๆ จะไม่เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุหนักเท่าไรก็ตาม รับประกันว่ารักษารอดได้แน่นอน ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือโยมแม่ของอาตมาเอง โดนราชรถ ๑๐ ล้อมาเกย กระดูกด้านขวาของร่างกายตั้งแต่กรามลงไปถึงข้อเท้าหักหมดทุกชิ้น รักษาตัวอยู่ ๓ ปีก็กลับคืนดีมาเหมือนเดิม ตอนแรกที่นอนอยู่ในห้องไอซียู ๑๐ กว่าวัน อาตมาไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อวัดท่าซุง กราบเรียนท่านว่าแม่โดนรถชน นอนอยู่ไอซียูมา ๑๘ วันแล้ว ผมขอถวายสังฆทานให้แม่ครับ หลวงพ่อถามว่า “แม่เคยรับยันต์เกราะเพชรไปหรือเปล่า ?” กราบเรียนหลวงพ่อท่านว่า “เคยรับไปครับ” ท่านบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นไม่ตายแน่นอน” และก็เป็นความจริงตามนั้น คือบุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปจะไม่ตายโหง
    ประการที่ ๒ บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้ารักษาเอาไว้ได้ จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษทั้งหลาย เรื่องนี้อาตมาทดสอบมาด้วยตนเองทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เจตนา ก็คือโดนงูกะปะกัดเข้าที่ชีพจรข้อมือพอดี อาตมาก็ไม่ได้รักษาอะไรมากมาย นอกจากล้างทำความสะอาด เอายาเบตาดีนเทใส่แผล เช็ดแห้งแล้วก็ปิดด้วยพลาสเตอร์ เล่นเอาลูกศิษย์ที่มาจากปักษ์ใต้เครียดจนหัวล้านไปเลย..! บอกว่าเขาอยู่สวนยาง ไอ้งูกะปะนี่กัดใครก็ตาม จะเน่าหลุดเป็นชิ้น ๆ ท้ายสุดก็ตาย แต่ปรากฏว่าอาจารย์เล็กยังสบายดีจนทุกวันนี้ และทุกวันนี้ก็ยังจับงูทุกชนิดเล่นเป็นปกติ

    โดยเฉพาะงูจงอางของวัดท่าขนุน ๒ ตัว ถึงเวลาเลื้อยข้ามถนน หัวพ้นถนนไปแล้วหางยังไม่ขึ้นมาเลย ถ้าหากว่าค่ำ ๆ เวลาทุ่มครึ่งสองทุ่มมักจะขึ้นมาโชว์ตัวเพราะว่าต้องออกไปหากิน จะไม่บอกว่าอยู่บริเวณไหน ถึงเวลาโยมเจอจะได้จับเล่นบ้าง…!

    ประการที่ ๓ บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้ารักษาเอาไว้ได้ จะไม่เป็นอันตรายจากไสยศาสตร์ ใครตั้งใจทำไสยศาสตร์ใส่บุคคลที่มียันต์เกราะเพชรอยู่และอาราธนาทุกวัน อานุภาพของยันต์เกราะเพชรจะสะท้อนกลับไปหมด เขาตั้งใจทำไสยศาสตร์ใส่เราแรงขนาดไหน เขาก็จะรับคืนไปแรงเท่านั้น

    เรื่องนี้รุ่นพี่ของอาตมาก็คือพี่สามารถ ปัจจุบันสึกไปแล้ว อดีตก็คือพระสามารถ ฐานิสฺสโร ถ้าหากว่าไม่รู้จักก็ต้องบอกว่า ท่านเป็นคนออกแบบมณฑปที่ตั้งสังขารหลวงพ่อวัดท่าซุงและปราสาททองคำ ถ้าไม่รู้ก็โปรดรับทราบเอาไว้ว่า นั่นเป็นฝีมือของพี่สามารถ ท่านไปที่ถ้ำตับเต่าในลักษณะของการธุดงค์ ไปเจอเจ้าถิ่นซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าร้อนวิชาท่าไหน เห็นพี่สามารถธุดงค์มาก็ทำไสยศาสตร์ใส่ พี่เขาก็ไม่ได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น ถึงเวลาก็สวดมนต์ไหว้พระ เจริญกรรมฐานตามปกติ ครูบาอาจารย์บอกว่าให้ปลุกยันต์เกราะเพชรไว้ทุกวัน ท่านก็ปลุกตามปกติ

    รุ่งเช้าก่อนออกบิณฑบาตปรากฏว่าพระเจ้าถิ่นวิ่งออกมาบอกว่า “ท่าน..พอเถอะ ๆ ผมไม่สู้แล้ว” พี่สามารถก็งง ๆ ว่า “เต็มเต็งหรือเปล่าวะ ?” ปรากฏว่าตอนสายออกไปบิณฑบาต เจอพระรูปนั้นแก้ผ้าเดินอยู่ในตลาด พี่สามารถก็นึกขึ้นมาได้ว่า ดูท่ามันเล่นเราแน่ ๆ แต่ปรากฏว่ามียันต์เกราะเพชรคุ้มครองอยู่ ก็เลยสะท้อนกลับ ตัวท่านโดนในสิ่งที่ท่านทำเอง

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4651

    .jpg

    เก็บตกงานบวงสรวงไหว้ครู – เป่ายันต์เกราะเพชร วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ – กระดานสนทนาวัดท่

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  8. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ภาพงานพิธีสืบชะตาอายุวัฒนมงคล ครบ ๘๐ ปี พระมหาสิงห์ วิสุทโธ
    วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐

    ขอบพระคุณภาพจากพี่มะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุนค่ะ

    ที่มา /www.facebook.com/hashtag/post196702">#post196702” target=”_blank”>http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=196702 #post196702

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  9. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ขอขมาพระรัตนตรัย แก้การสะท้อนไสยศาสตร์จากยันต์เกราะเพชร

    แต่ว่าอานุภาพของยันต์เกราะเพชรที่แท้จริงนั้น อันดับแรก…ถ้าผู้รับยันต์ไปสามารถรักษาเอาไว้ได้จะไม่ตายโหง ก็แปลว่าท่านจะออกรบก็ดี จะเดินทางก็ตาม หรือทำหน้าที่การงานใด ๆ ก็จะไม่ตายด้วยอาการผิดปกติ อันดับที่สอง…ถ้ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้วรักษาไว้ได้ สามารถป้องกันพิษของสัตว์มีพิษได้ทุกชนิด อันดับที่สาม…ยันต์เกราะเพชรจะสะท้อนไสยศาสตร์ที่บุคคลอื่นตั้งใจทำใส่เรากลับคืนไปทั้งหมด

    วันนี้ตอนพุทธาภิเษก ก็มีนักเลงดีแอบเล่นอาตมาเข้า ป่านนี้ก็น่าจะตะเกียกตะกายไปโรงพยาบาลแล้ว สมน้ำหน้า..! ขอบอกวิธีแก้ที่ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องไปหาหมอคือ แค่ตั้งใจมากราบขอขมาพระรัตนตรัยก็จบแล้ว ถ้าหากว่าไม่ยอมมากราบขอขมาพระรัตนตรัยก็จงลำบากต่อไป

    ยันต์เกราะเพชรเป็นคู่ศึกของไสยศาสตร์โดยตรง เพราะว่าเป็นพุทธานุภาพ คืออานุภาพของพระพุทธเจ้าท่าน พุทธะ แปลว่า ตื่น ส่วน ไสยะ แปลว่า หลับ ในเมื่อตื่นกับหลับ ความสว่างกับความมืด จึงเป็นคู่ศึกแก่กันโดยตรง ท่านใดที่พกยันต์ติดตัวหรือว่ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าสามารถรักษาศีลอย่างน้อย ๒ ข้อได้ ก็คือ การไม่กินเหล้า ซึ่งเป็นการเบียดเบียนตนเองและครอบครัว กับการไม่ลักขโมย ซึ่งเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น ท่านก็จะสามารถรักษายันต์เกราะเพชรให้คุ้มครองตนเองเอาไว้ได้

    ท่านใดที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว จึงควรที่จะเว้นขาดจากแอลกอฮอล์ทั้งปวงและการลักขโมย ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปกินเอาเหล้าหรือว่ากินอาหารที่ผสมเหล้าเข้าไป วิธีสังเกตชัดที่สุดก็คือ จะรู้สึกร้อนวาบออกผิวหนังไปเลย แปลว่ายันต์เกราะเพชรกลับไปหาพระพุทธเจ้าท่านแล้ว ไม่มีอะไรคุ้มกันเราได้แล้ว ถ้ามีการเป่ายันต์เกราะเพชรเมื่อไร ท่านทั้งหลายก็มารับใหม่ หรือถ้าไม่มีก็แปลว่าเราไม่สามารถที่จะรักษาของดีเอาไว้คุ้มครองป้องกันตนเองได้อีกต่อไป

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    -แก้การ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  10. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ยันต์เกราะเพชร กันพิษงูได้

    อีกครั้งหนึ่งอาตมาไปเหยียบ งูเข้าเต็ม ๆ เป็นงูตระกูลงูแมวเซาที่โบราณเขาเรียกว่า งูกล่อมนางนอน เนื่องจากว่าช่วงนั้นอยู่ที่เกาะพระฤๅษีแล้วน้ำท่วม บรรดางูก็ขึ้นมาหาที่นอนกัน อาตมาเองใส่แว่นมองไม่ชัดคิดว่าเป็นกิ่งไม้ เหยียบเข้าไปเต็ม ๆ เจ้างูก็ฉกเข้าเต็มหลังเท้าเหมือนกัน อาตมาสลัดเท้าไปข้างหน้า ทั้งงูทั้งรองเท้าบินเฉียดหัวพระครูน้อยไปนิดเดียว..!

    ก็ใช้วิธีเดิมเอาน้ำล้างแล้วก็ทายา แต่ไม่ใช่ว่าพิษงูจะไม่มีผล เพราะว่าพิษงูยังคงทำงานตามปกติ ก็คือวิ่งจากจุดที่โดนกัดขึ้นมาข้างบน ตอนที่โดนกัดที่ข้อมือก็วิ่งมาถึงข้อศอก แต่ไม่สามารถจะพ้นจากข้อศอกไปได้ เพราะยันต์เกราะเพชรกันเอาไว้ให้ จึงโดนดันกลับไปที่บาดแผล แล้วก็วิ่งจากบาดแผลมาที่ข้อศอกอีก ๓-๔ วาระด้วยกัน ประมาณครึ่งชั่วโมงก็สลายไปเฉย ๆ

    ตอนที่โดนกัดที่เท้าก็ลักษณะเดียวกัน ก็คือ วิ่งขึ้นมาได้ไม่เกินหัวเข่า แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายโดนงูกัด อาตมาขอแนะนำว่าให้ไปหาหมอ เพราะไม่แน่ใจว่าท่านทั้งหลายจะสามารถรักษาศีล ๒ ข้อได้เคร่งครัดแค่ไหน ส่วนอาตมาเองเป็นพระ ถ้ารักษาศีล ๒ ข้อที่หลวงปู่ปานขอไว้ไม่ได้ มีการไปลักขโมยเขา หรือมีการไปดื่มสุราเมรัย ก็ถือว่าสมควรตาย…!

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    -กันพิษงู.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  11. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ผู้หญิงที่ท้องเด็กในท้องก็ได้รับยันต์ด้วย

    เคยมีคนมารับยันต์เกราะเพชรไปโดยที่มีลูกอยู่ในท้อง พอคลอดลูกออกมาลายพร้อยไปทั้งตัว แม่เห็นก็ตกใจ ลืมไปว่าตนเองเป่ายันต์เกราะเพชรมา ถามว่าจะทำอย่างไรดี ? หมอตำแยบอกว่าสบายมาก อมเหล้าพ่นพรวดเดียวหายเกลี้ยงเลย โห…ยาย ไม่ได้คิดเลยว่าเขาได้มาลำบากแค่ไหน

    ท่านที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้าเป็นผู้หญิงและท้องครั้งแรกที่เขาเรียกว่าลูกคนหัวปี คือต้นปีหรือลูกคนแรก ไม่ใช่ลูกหัวปลี ไอ้นั่นเขาเอาไว้แกงเลียง..! โปรดรู้ว่าหัวปีก็คือต้นปี เพราะบางคนขยันมาก มีลูกหัวปีท้ายปี คือมกราคม-กุมภาพันธ์ไปคลอดเดือนตุลาคม พอพฤศจิกายน-ธันวาคมก็ท้องอีกแล้ว ถ้ามีลูกคนแรกอยู่ในท้องแล้วมารับยันต์เกราะเพชรไป ถ้าคลอดออกมาเป็นผู้ชายจะมียันต์ติดตัวมาด้วย บางคนก็เป็นรูปยันต์เกราะเพชรเลย บางคนก็เป็นจุด เป็นขีด มีอยู่รายหนึ่งเป็นรูปกงจักรติดตัวมาเลย แล้วแต่พระท่านจะสงเคราะห์ แต่สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะหายเข้าไปในกระดูกภายใน ๗ วัน

    ก็แปลว่าถ้าลูกเกิดมาลายเป็นตุ๊กแก แต่ภายใน ๗ วันค่อย ๆ หายไปก็เป็นยันต์เกราะเพชร จะไปรู้กันอีกทีว่ารักษายันต์ได้หรือไม่ได้ก็ตอนตายแล้วเผา จะมียันต์เกราะเพชรติดอยู่ที่กระดูก ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงหลายรายพอเผาแล้วเก็บกระดูก เห็นยันต์เกราะเพชรติดอยู่ที่กระดูกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะพระภิกษุวัดท่าซุงรูปหนึ่งคือ หลวงปู่ทองเทศ ฐิตธมฺโม มรณภาพตอนอายุ ๑๐๓ ปี เผาเมรุลอยเก็บกระดูกง่ายมาก ปรากฏว่ามียันต์เกราะเพชรติดอยู่บนขม่อมชัดเจนมาก เสียดายว่าสมัยนั้นไม่มีสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายรูปก็หายาก ไม่อย่างนั้นก็คงได้ถ่ายมาอวดชาวบ้านเขาได้

    สำหรับลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชายคนถัด ๆ ไป คลอดออกมาไม่มียันต์ติดตัวมาก็ไม่ต้องเสียใจ ท่านได้รับยันต์เช่นกัน แต่ว่าไปอยู่ที่กระดูก ไปพิสูจน์กันตอนตายแล้วเผา ว่าจะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูกจริงหรือไม่ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่เกินวิสัยที่จะพิสูจน์ทราบได้ ถ้าอยากจะพิสูจน์ทราบว่าพระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุนเป่ายันต์แล้วมีผลจริงหรือไม่ ? อาตมาจะไม่อ้างอิงของเดิม ๆ หลายรายที่ถ่ายรูปลูกตัวลายพร้อยมาให้ดู โดยเฉพาะแถวภูเก็ต มีอยู่ ๒-๓ รายด้วยกัน แต่จะบอกว่าปีหน้ามีเป่ายันต์ฯ ๒ ครั้ง ให้หาผัวให้ลูกสาวก่อน…! ถ้าหากว่าท้องก็รีบพามาเข้าพิธี คลอดออกมาคนแรกถ้าเป็นผู้ชายก็จะมียันต์ติดตัวให้เห็น

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?p=151568

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  12. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ยันต์เกราะเพชร คูปรับของไสยศาสตร์

    ในส่วนของอานุภาพเกี่ยวกับการสะท้อนไสยศาสตร์กลับไปนั้น อาตมาจะไม่ยกตัวอย่างของตนเองเพราะต้องเอ่ยถึงคนทำ ต้องบอกว่าช่วยรักษาหน้าเขาไว้หน่อย แต่ที่จะเอ่ยถึงก็คือรุ่นพี่ที่บวชอยู่วัดท่าซุง ก็คือ หลวงพี่สามารถ ฐานิสฺสโร หรือนามสกุลเดิมคือ สุขสาธุ ตอนนี้ท่านสึกหาลาเพศไปนานแล้ว

    ตอนนั้นหลวงพี่สามารถยังบวชอยู่ ท่านไปธุดงค์ทางด้านเหนือ ไปพักอยู่บริเวณถ้ำตับเต่าซึ่งตอนนั้นยังไม่เป็นสำนักสงฆ์ ยังไม่เป็นวัด ไปเจอพระอาคันตุกะรูปหนึ่ง ก็เข้าไปปฏิสันถาร แต่ท่านไม่คุยด้วย หลวงพี่สามารถท่านเห็นว่าเขาไม่คุยด้วย ไม่ยินดีด้วย ท่านก็ปลีกตัวไปปักกลดอยู่ด้านหนึ่ง ทำการสวดมนต์ภาวนาของตนเองไปตามปกติ

    ปรากฏว่าตอนใกล้สว่างพระรูปนั้นวิ่งมาที่กลด บอกว่า“ท่าน…พอทีเถอะ ๆ ผมยอมแพ้แล้ว” หลวงพี่สามารถก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นวะ ? ท่านก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่าท่านก็แค่สวดมนต์ภาวนา อาราธนาวัตถุมงคลเป็นปกติของตน เรื่องปรากฏชัดตอนออกบิณฑบาต พระรูปนั้นทิ้งผ้าผ่อนจีวรหมด เดินแก้ผ้าบ่นพึมพำเข้าไปในหมู่บ้าน ญาติโยมต้องช่วยกันจับเพื่อที่จะให้นุ่งผ้าใหม่ พอนุ่งผ้าได้ท่านก็ทึ้งผ้าทิ้งอีก หลวงพี่สามารถถึงได้เฉลียวใจว่า ดูท่าพระรูปนั้นจะทำไสยศาสตร์เล่นงานท่านเพื่อเป็นการลองของ แต่ด้วยความซวย ดันไปทำใส่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุง หรือสายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่รับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว เมื่อโดนสะท้อนกลับไป ตัวเองตั้งใจทำเขาหนักเท่าไร ก็จะได้รับกลับไปหนักเท่านั้น

    ซึ่งวิธีแก้ก็เหมือนกับที่เมื่อครู่ที่อาตมาแนะนำท่านที่บังอาจมาทำเล่นที่นี่ว่า “ไอ้ไสยศาสตร์กระจอก ๆ ของคุณอย่าเสียเวลามาทำแถวนี้ คุณจะเดือดร้อนเอง วิธีแก้ไขก็คือ ให้กราบขอขมาพระรัตนตรัยอย่างจริงใจ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็คือเลิกวิชาไปเลย ท่านก็จะหายจากอาการป่วยจากที่ตั้งใจทำคนอื่นแล้วตัวเองโดนเข้าไป ถือว่าแนะนำให้ด้วยความเมตตา” ถ้าญาติโยมจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรไปเจอใครที่มีอาการแบบนี้ ซึ่งเกิดจากไปทำไสยศาสตร์ใส่บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าเมตตามาก ก็ช่วยแนะนำเขาหน่อยว่าต้องแก้ไขอย่างไร ถ้าเมตตาน้อยก็ภาวนาอิติปิ โสฯ ซ้ำไปเลย..!

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5115

    -คูปรับขอ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  13. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า) วัดท่าขนุน วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐
    เป่ายันต์เกราะเพชรรอบเช้า ๑๐.๐๐ น.
    เป่ายันต์เกราะเพชรรอบบ่าย ๑๓.๐๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  14. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    .jpg

    ถ่ายทอดสดงานเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบบ่าย) วัดท่าขนุน วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐
    เป่ายันต์เกราะเพชรรอบบ่าย ๑๓.๐๐ น.
    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  15. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ภาพงานบวงสรวงไหว้ครู พุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชร

    วันเสาร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
    ณ วัดท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

    ขอบพระคุณรูปจากพี่มะลิแก้ว ตากล้องเว็บวัดท่าขนุนค่ะ

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5771

    -พุ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  16. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    การทำบุญที่จะได้อานิสงส์เต็ม ก็คือ
    ๑) เจตนาบริสุทธิ์
    ๒) ผู้ให้บริสุทธิ์
    ๓) วัตถุทานบริสุทธิ์
    ๔) ผู้รับบริสุทธิ์
    เพราะฉะนั้น..เวลาจิตว่างจากรัก โลภ โกรธ หลงจริง ๆ
    ก็แปลว่าเป็นผู้ให้ที่บริสุทธิ์จริง ๆ
    ………………………
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  17. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    เราทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติ จำเป็นต้องสังวรระวังและสำนึกเอาไว้อยู่เสมอว่า ความตายอยู่กับเราแค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น หายใจเข้า..ถ้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออก..ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน เมื่อความตายอยู่ใกล้ชิดติดตัวเราขนาดนี้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งสั่งสมบุญกุศลใน ทาน ศีล ภาวนา ของเราให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อที่จะอาศัยบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้ เป็นบันไดพาเราก้าวไปสู่ความหลุดพ้น ก็คือเข้าสู่พระนิพพาน

    การสั่งสมบุญกุศลนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุญเล็กบุญใหญ่อย่างไรก็ตาม เราควรที่จะทำทั้งหมด โดยที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ผลบุญทั้งหมดที่เราทำนี้ จงเป็นปัจจัยให้เราเข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด ถ้าอย่างนั้นการสั่งสมบุญของท่านก็จะมีเป้าหมายที่ชัดเจน และไม่หลงผิดไปจากหนทางที่เหมาะที่สม

    ถ้าหากว่าจะยกตัวอย่างบุคคลที่ใคร่ในการสั่งสมบุญ อาตมภาพขอยกตัวอย่างของครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนามของหลวงปู่มหาอำพัน แห่งวัดเทพศิรินทราวาส

    หลวงปู่ท่านจะใส่บาตรทุกเช้า ถึงเวลาก็จะนิมนต์พระภิกษุสามเณรว่า “ท่านใดที่ออกบิณบาต ไม่ว่าจะขาไปหรือขากลับ กรุณาผ่านกุฏิของกระผมด้วย ขอให้กระผมได้มีโอกาสทำบุญกับเนื้อนาบุญอย่างท่านทั้งหลายด้วยเถิดขอรับ”

    อาตมาเองเวลาที่ไปพักอยู่หลวงปู่ท่าน ก็ต้องช่วยเตรียมข้าวปลาอาหาร ทั้งของสดของแห้งเพื่อให้หลวงปู่มีไว้ใส่บาตร จึงเกิดความกังขาขึ้นมาว่า บุคคลที่เข้าถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริงแล้วอย่างหลวงปู่ ยังต้องทำบุญอยู่ทุกวันอีกหรือ ? เพราะใจของท่านพ้นไปแล้วจากการส่งผลของบุญบาปทั้งปวง

    วันหนึ่งจึงได้ปรารภกราบเรียนกับหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ขอรับ บุญของหลวงปู่ก็กินไม่ไหวใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ทำไมยังต้องลำบากลำบนตื่นแต่มืดแต่ดึกขึ้นมาเพื่อใส่บาตรทุกเช้าด้วย ?”

    หลวงปู่ท่านว่า “ไฮ้…คุณก็…คนเราถ้าปีนพ้นเหวขึ้นมาได้ก็มีแต่ต้องตะเกียกตะกายไปให้พ้นจากขอบเหวให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ มัวแต่ไปนั่งเพลินอยู่ตรงนั้น ถ้าหากว่ากลิ้งตุ้บไปอีกแล้วจะว่าอย่างไร ?” นี่คือความไม่ประมาท

    แม้ว่าหลวงปู่ท่านจะชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลสได้อย่างวิเศษยิ่งแล้ว แต่ยังคงสั่งสมบุญเป็นปกติ เป็นปุญฺญกาโม บุคคลผู้ใคร่ในบุญจริง ๆ นี่คือตัวอย่างที่อยากจะบอกว่า ในเมื่อความตายมาจ่ออยู่กับเราแค่ลมหายใจเข้าออกแล้ว เราควรที่จะเร่งสั่งสมบุญใน ทาน ศีล ภาวนา ให้มากเข้าไว้

    ในเรื่องของทาน เราจะเห็นแล้วว่าหลวงปู่ท่านทำทานเป็นปกติ โดยเฉพาะทุกวันศุกร์จะมีการนิมนต์พระมารับสังฆทาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ หลวงปู่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโก ที่เป็นทั้งสหธรรมิกและเป็นทั้งครูบาอาจารย์ของท่าน ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่หลวงปู่ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ ธมฺมวิตกฺโกมรณภาพ จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของหลวงปู่ท่าน โดยไม่ได้เว้นแม้แต่วันศุกร์เดียว

    ในส่วนของศีลนั้น แม้ว่าหลวงปู่จะเป็นพระภิกษุ รักษาศีล ๒๒๗ ข้อพร้อมกับอภิสมาจารต่าง ๆ ก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลาไปเจริญกรรมฐานที่บ้านสายลม ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน หรือที่เรารู้จักกันในนามหลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง นำญาติโยมทั้งหลายสมาทานจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ก็ตาม หลวงปู่ท่านจะพนมมือสมาทานศีลตามไปด้วย สมาทานเสียงดังเป็นตัวอย่างให้แก่ทุกคน

    พอถึงเวลาจบการสมาทานศีล พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงสรุปว่า สีเลน สุคตึ ยนฺติ สีเลน โภคสมฺปทา เป็นต้น ท่านก็กอบรับเอาพรนั้นใส่เศียรเกล้าของตนเป็นตัวอย่าง

    อาตมาเห็นญาติโยมหลายท่านที่ถือศีล ๘ เมื่อได้ยินพระให้ศีล ๕ ก็ไม่รับ แต่หลวงปู่ถือศีล ๒๒๗ และอภิสมาจารอีก ไม่ว่าจะศีล ๕ ศีล ๘ หลวงปู่รับทั้งหมด อาตมาเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนคุณมีเงินอยู่ ๒๒๗ บาท ถึงเวลาเขาให้มา ๕ บาท ถ้าเรารับไว้เราก็ได้เพิ่ม ๕ บาท ให้มา ๘ บาทเรารับไว้ก็ได้เพิ่มมา ๘ บาท ถ้าหากว่าไม่รับก็ถือว่าขาดปัญญา

    หลวงปู่รับศีลโดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ ก็เพราะว่ามีความเคารพในศีลจริง ๆ เห็นคุณของศีลจริง ๆ ว่าศีลรักษาผู้ที่ปฏิบัติไม่ให้ตกลงสู่ที่ต่ำ ศีลเป็นปัจจัยพื้นฐานของความดีทั้งปวง ศีลเป็นบันไดนำเราทั้งหลายก้าวไปสู่พระนิพพาน

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าความตายจ่อชิดติดตัวเรามาจนขนาดนี้แล้ว เราก็ควรจะเร่งรัดในศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นทำ และไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นกระทำการละเมิดศีลนั้น ๆ

    สำหรับในส่วนของการภาวนานั้น ไม่ว่าจะมีงานข้างนอกข้างในดึกดื่นขนาดไหนก็ตาม บางทีถึงขนาดตี ๑ ตี ๒ หลวงปู่ท่านก็ต้องทำการสวดมนต์ไหว้พระก่อน จุดธูปจุดเทียนไหว้พระ หลังจากนั้นกราบพระ แล้วก็สวดมนต์ทำวัตร เมื่อสวดมนต์ทำวัตรเสร็จก็สมาทานพระกรรมฐาน นั่งภาวนาประมาณ ๕ นาที ๑๐ นาทีทุกครั้งไป หลวงปู่ตอนนั้นอายุได้ ๘๐ เศษแล้ว แต่ว่ายังคงทำแบบนั้นอยู่ทุกวัน ไม่เบื่อไม่หน่าย

    อาตมาเองช่วงนั้นอายุเพิ่งจะ ๓๐ ต้น ๆ บางวันเหนื่อยมาจากการตะลอน ๆ ไปกับหลวงปู่ข้ามหลายจังหวัด กลับมาก็คอพับคออ่อนไปไหนไม่รอดแล้ว แต่หลวงปู่ท่านอายุมากกว่าเป็นเท่า ๆ ตัว ถึงเวลายังสวดมนต์ทำวัตร ยังปฏิบัติกรรมฐานเป็นปกติ ก็เพราะว่าความที่จิตของหลวงปู่ท่านปักมั่น จดจ่อแน่วแน่อยู่กับความดีใน ทาน ศีล ภาวนา นั่นเอง

    เมื่อเห็นอยู่ว่าความตายมาจ่ออยู่ในทุกลมหายใจเข้าออกแล้ว ถ้าไม่เร่งสั่งสมความดีเอาไว้ เกิดความดีไม่พอทำให้ตายไปแล้วต้องเกิดใหม่ ก็ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดทนทุกข์ไม่รู้จบเช่นนี้อีก ดังนั้นไม่ว่าจะกลับมาดึกดื่นเที่ยงคืนขนาดไหนก็ตาม จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าขนาดไหนก็ตาม หลวงปู่ต้องสร้างสมความดีที่เคยทำเป็นปกติให้ครบถ้วนสมบูรณ์เสียก่อน แล้วถึงจะยอมเข้าจำวัดหลับนอนเช่นคนปกติทั่วไป

    จากที่ได้กล่าวมาแล้วว่า หลวงปู่ท่านสั่งสมบุญกุศลให้ ทาน ศีล ภาวนา มาวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า โดยไม่มีการเบื่อหน่าย เราทั้งหลายซึ่งมีความดีไม่เท่ากับหลวงปู่ ก็ควรจะเลียนแบบปฏิปทานี้ ในการไขว่คว้าหาความดีทุกอย่างใส่ตัวของเรา เพราะไม่แน่ว่าความตายนั้นจะมาถึงเราเมื่อไร

    ถ้าท่านทั้งหลายทำตามปฏิปทา ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่มหาอำพันได้กระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็แปลว่าท่านทั้งหลายได้เดินตามรอยของพระสุปฏิปันโน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ชำระจิตใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลสได้ เราเองเมื่อเดินตามรอยของท่าน ในที่สุดเราก็สามารถที่จะชำระจิตใจของเราจากกิเลสได้เช่นเดียวกับท่าน

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๕

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  18. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    ต้องสร้างตัวเองให้มั่นคงก่อน การไปทำอย่างอื่นถึงจะได้ผล ถ้าตัวเองยังไม่มั่นคง จะไปทำอะไรให้ดีได้
    …………………………..
    โอวาทของหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ

    .jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  19. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    พระอาจารย์มารับสังฆทานพรุ่งนี้แล้วนะคะ

    .jpg
    ขอเชิญรับฟังการถ่ายทอดสดเสียงกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ

    เนื่องด้วยคณะผู้ดูแลกระดานสนทนาวัดท่าขนุน ได้กราบเรียนขออนุญาตจากพระอาจารย์ (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) ในการดำเนินการจัดตั้งระบบการถ่ายทอดสดเสียงการสอนกรรมฐานตอนเย็นจากบ้านเติมบุญ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในวันและเวลาดังต่อไปนี้

    วันศุกร์ที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันเสาร์ที่ ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    วันอาทิตย์ที่ ๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
    (ถ่ายทอดเสียงการสอนกรรมฐานตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป จนกระทั่งจบกรรมฐานและการอุทิศส่วนกุศล)

    เพื่อให้ผู้ที่อยู่ทางไกล ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมทำกรรมฐานที่บ้านเติมบุญ ด้วยตนเอง มีโอกาสได้รับฟังเสียงสดจากพระอาจารย์ในการสอนกรรมฐาน จะได้ร่วมกันกำหนดจิตน้อมใจฟังธรรมไปพร้อม ๆ กัน

    จึงใคร่ขอเชิญสาธุชนทั้งหลาย ที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมทำกรรมฐาน รับฟังการถ่ายทอดเสียงสดจากบ้านเติมบุญ ในช่องทางที่จะได้ประกาศต่อไปนี้ร่วมกัน

    ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ มา ณ ที่นี้

    การรับฟังการถ่ายทอดสดเสียง
    ท่านสามารถรับฟังการถ่ายทอดเสียงสด ตามวันและเวลาดังกล่าว

    โดยท่านสามารถคลิกเปิดฟังได้ที่ลิงค์นี้

    ———————————————————————-

    สำหรับ iphone และ ipad สามารถฟังได้โดยการไปโหลด app ชื่อว่า fstream แล้ว install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิด fstream ขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    more->Setting จากนั้นเปิด Cellular network เพื่อให้สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ (สำหรับใครที่ใช้ WIFI อยู่แล้ว ไม่ต้องเปิดค่านี้)

    จากนั้นให้เลือกเมนู

    Favorites->Edit->Add new web radio

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Name : Watthakhanun
    URL : http://210.1.51.131:8000
    Encoding : UTF8

    จากนั้นกด Save แล้วเลือกเมนู Play->Watthakhanun

    ———————————————————————-

    สำหรับ android สามารถฟังได้โดยการไปโหลด app ชื่อว่า A Online Radio แล้ว install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    Live->Add Channel

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Channel URL : http://210.1.51.131:8000

    จากนั้นกด Add แล้วเลือกเมนู Favorites->Unname Server

    ———————————————————————-

    สำหรับ android ท่านที่เพิ่งโหลดแอพใหม่

    เนื่องจาก app “A Online Radio” เปลี่ยนชื่อเป็น “Online Radio” แล้ว

    ท่านสามารถฟังผ่าน app ชื่อ Online Radio แล้วทำการ install ลงที่เครื่อง จากนั้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วเลือกเมนู

    Station > กด + (มุมบนขวา)

    แล้วตั้งค่าดังต่อไปนี้

    Station Name : Watthakhanun
    Stream URL : http://210.1.51.131:8000

    จากนั้นกด DONE

    แล้วเลือกเมนู Your station > Watthakhanun.com

    จากนั้นกด Play (มุมขวาล่าง)

    ———————————————————————-
    หรือ You Tube โดยค้นจากชื่อ Account “Sapanboon Channel”
    ———————————————————————-
    หรือ https://www.facebook.com/watthakhanun จะมีการ Live ในช่วงที่ถ่ายทอดสดกรรมฐาน

    หมายเหตุ:
    – การถ่ายทอดเสียงจะช้ากว่าเวลาจริงประมาณ ๑ นาที
    – หากเสียงมีการขาดหายไปเป็นช่วง ๆ ไม่นานนัก (ประมาณไม่เกิน ๓ วินาที) ขอให้ท่านรับฟังต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องปกติของระบบ
    – หากเสียงขาดหายไปเป็นเวลานานมากกว่านั้น ให้ท่านลองรีเฟรชหน้านั้นอีกครั้ง

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4892

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  20. ศิษย์วัดท่าขนุน

    ศิษย์วัดท่าขนุน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    2,510
    กระทู้เรื่องเด่น:
    30
    ค่าพลัง:
    +2,945
    “สำคัญที่สุดก็คือ อย่าทิ้งอานาปานสติ เรื่องของการดูลมหายใจเข้าออก ถ้าหากเราไม่ทิ้งตรงนี้ กำลังใจจะทรงตัวจะมีกำลังพอ ถึงเวลารัก โลภ โกรธ หลง เกิดขึ้นมาจะมีกำลังในการยั้งคิด ในเมื่อยั้งคิดแล้ว แรก ๆ ก็อาจอกจะแตกตาย พอโกรธขึ้นมาก็อยากด่า แต่เราจะมีกำลังพอที่จะห้ามกิเลสได้

    หลังจากนั้นพอฝึกซ้อมมากขึ้น ๆ จะเจอวิธีลดความโกรธนั้นลง ลดความโลภลง ลดราคะลง ทำไปท้ายสุดก็จะมีความแตกฉาน แล้วก็จะคว้าขึ้นเอามาใช้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง ๆ ที่อยู่ตรงหน้า แต่กว่าจะเป็นอย่างนั้นหกล้มหกลุกทุกราย พูดง่าย ๆ ถ้าเป็นนักรบก็แผลทั้งตัว

    กิเลสมันไม่ปรานีเราหรอก มันเห็นเราจะหนี มันก็ตีตาย เพราะฉะนั้น..มีทางเดียวคือต้องสู้กับมันจริง ๆ”

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมิถุนายน ๒๕๕๒ ณ บ้านอนุสาวรีย์

    -อย่าทิ.jpg

    ที่มา วัดท่าขนุน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...