เรื่องเด่น อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ"หลวงพ่อปาน" แสดงอิทธิฤทธิแก่ "หลวงปู่คำคะนิง"

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 19 มิถุนายน 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    อัศจรรย์ยิ่ง!! เมื่อ"หลวงพ่อปาน" แสดงอิทธิฤทธิแก่ "หลวงปู่คำคะนิง"


    0581_5464.jpg

    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค แสดงอิทธิฤทธิ์กับ หลวงปู่คำคะนิง วัดถ้ำคูหาสวรรค์

    ...เมื่อหลวงปู่คำคะนิงเดินธุดงค์ผ่านเข้าเขตเชียงตุง(ประเทศพม่าในปัจจุบัน ห่างจากด่านอ.แม่สายของไทยประมาณร้อยกว่ากม.) ในเขตป่าใหญ่เทือกเขาแห่งหนึ่งเป็นภูเขาดิน มีอุโมงค์พอที่จะเป็นที่พักพิง หลวงปู่ท่านจึงคิดในใจว่าจะเอาที่ตรงนี้เป็นที่ตายโดยจะไม่ให้ใครเห็นแม้แต่ซากศพของท่านเอง หลวงปู่ท่านได้อยู่มาถึงหนึ่งพรรษา หลังจากผ่านไปประมาณเดือนห้าหรือเดือนหก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้พาคณะธุดงค์ผ่านมาในเขตเชียงตุง มาพบหลวงปู่คำคะนิงในป่าลึก

    ...ครั้นเมื่อพบกัน หลวงพ่อปานก็พูดขึ้นว่า
    “ เออ...นี้พระหรือคน ”

    หลวงปู่คำคะนิงได้ยิน ก็เกิดโมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที แล้วพูดขึ้นว่า
    “ พระนะมันอยู่ที่ไหน เฮ้ย...พระมันอยู่ที่ไหนวะ ”

    หลวงพ่อปานท่านก็ย้อนตอบว่า
    “ อ้าว...ก็เห็นผมยาว ผ้าก็อีหรุปุปะสีเหลืองก็ไม่มี แล้วใครเขาจะรู้ว่าพระหรือคน ”

    หลวงปู่คำคะนิงท่านก็ถามหลวงพ่อปานว่า
    “ พระมันอยู่ที่ผมหรือวะ ” หลวงพ่อปานตอบว่า ไม่ใช่

    หลวงปู่คำคะนิงท่านก็ถามหลวงพ่อว่า
    “ พระมันอยู่ที่ผ้าเหลืองหรือวะ ” หลวงพ่อปานตอบว่า ไม่ใช่


    หลวงปู่คำคะนิงก็ถามอีกว่า
    “ แล้วพระมันอยู่ที่ไหนเล่า ”

    หลวงพ่อปานก็ตอบว่า
    “ พระน่ะอยู่ที่ใจสะอาดนะซี ”

    หลวงปู่คำคะนิงท่านก็เลยหันมาตะคอกเข้าใส่เอาว่า
    “ ถ้าอย่างนั้นก็เสือกถามทำไมล่ะวะพระหรือคน ”

    หลวงพ่อปานท่านก็เลยตอกกลับให้ว่า
    “ เห็นผมเผ้ายาวรุงรังอย่างนั้นนี่ใครจะไปรู้เล่า ”

    หลวงปู่คำคะนิงก็ยังไม่หายโมโห เลยกระแทกให้ว่า
    “ ก็ในเมื่อพระไม่ได้อยู่ที่ผม ไม่ได้อยู่ที่ผ้าแล้ว เสือกมาถามทำไม ทำไมไม่ดูใจคน ไอ้พระบ้านพระเมือง พระกินข้าวชาวบ้านแบบนี้อวดดีมันจะต้องเห็นดีกัน ”

    .....หลวงปู่คำคนิงพูดจบ ท่านเดือดโมโหจัดก็เลยหันไปคว้าเอาหวายอันยาวร่วมวา ขว้างผลุงไปตรงหน้าหลวงพ่อปาน อัศจรรย์เป็นที่สุด ไม้หายไปกลายเป็นงูตัวยาวใหญ่พุ่งฉกเข้าหากลุ่มพระธุดงค์หลวงพ่อปาน(หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ,หลวงพ่อฤๅษีฯเล็ก และหลวงพ่อฤๅษีฯขาว)แตกฮือหลบฉากไปแอบอยู่ข้างหลังพ่อปานกันหมด ต่างก็แปลกใจไปตาม ๆ กันไม้ไหงกลายเป็นงู

    .....อัศจรรย์มาก ใบไม้ของหลวงพ่อปานก็กลายเป็นนกตัวใหญ่โฉบเอางูของหลวงปู่คำคนิงหายไปทั้งงูแลนกใหญ่ พองูตกลงมาถึงพื้นดินงูนั้นก็กลายเป็นช้างใหญ่ ส่วนของหลวงพ่อปานก็กลายเป็นเสือต่อสู้กันต่างฝ่ายต่างก็บันดาลให้เป็นสัตว์ร้าย ต่อสู้กันเต็มไปหมด ยังไม่มีใครแพ้ ชนะ ต่างคนต่างบันดาลลมพายุฝนเข้ากระหน่ำกันจนทำให้ฝุ่นตลบไปหมดในบริเวณนั้น เวลาผ่านไปครึ่งค่อนวัน ก็หามีใครแพ้ชนะไม่ จนต่างฝ่ายต่างเหนื่อยอ่อน ทำอะไรกันไม่ได้


    ในที่สุดหลวงปู่คำคนิงและหลวงพ่อปานต่างก็นั่งลงหัวเราะกันด้วยความขบขัน หลังจากนั้นหลวงปู่คำคนิงก็บอกคณะธุดงค์ของพ่อปานว่าข้าสองคนนี้เป็นเพื่อนกัน พระธุดงค์ลูกศิษย์หลวงพ่อปานก็เข้าไปกราบหลวงพ่อคำคนิง ท่านก็เอามือลูบศรีษะพระทุกองค์ด้วยความเมตตา หลวงพ่อปานก็บอกกับหลวงปู่คำคนิง ว่าพระพวกนี้เขาอยากเห็นของจริงก็เลยพาเขามาให้เห็นเสีย พระพวกนี้เขาก็เป็นคนจริงเสียด้วย

    ......หลวงปู่คำคนิงก็เลยบอกว่า ข้าน่ะไม่ได้เก่งอะไรหรอก อาจารย์แกเขาเก่งอยู่แล้ว เมื่อพูดจบหลวงพ่อปานก็บอกว่าตัวท่านเองไม่เก่งหรอกสู้หลวงปู่คำคนิงไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ให้ใครเป็นอาจารย์กันผลสุดท้ายตกลงเป็นเพื่อนกันในระหว่างพักแรมด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างโต้ตอบถามธรรมะแก่กันทั้งฝ่ายถามฝ่ายแก้ก็หาได้แพ้ชนะกันไม่ สลับถามตอบกันไปกันมา จนต่างฝ่ายเลิกถามกันไปเอง หลวงพ่อปานและคณะธุดงค์ได้พักอยู่กับหลวงปู่คำคนิงหลายวันพอสมควร จึงได้แยกย้ายจากกัน



    ขอขอบคุณเนื้อหาจาก http://komsanvpr.lnwshop.com/b/169



    -------------------------
    http://www.tnews.co.th/contents/199320
     
  2. นายธนาคาร

    นายธนาคาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +111
    อ่านแล้วยิ้มเลยครับ สาธุครับ... :)
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ผมว่า เป็นการโยงเรื่องเข้าไปในภายหลัง
    เพราะตามประวัติหลวงพ่อปานที่เล่่าโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำนี้
    เล่าแค่ว่า พาไปพบพระประหลาด ที่จีวรขาดปุปะ และไว้ผมยาว
    จนมองไม่ออกว่าเป็นคนหรือเป็นพระ แต่ไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นใคร
    ทั้งหลวงพ่อาษีลิงดำเอง ก็ไม่ได้ระบุชื่อว่า เป็นหลวงปู่คำคะนิง

    ผมมองว่า งานนี้เป็นการพยายามจับแพะชนแกะ เพราะเห็นว่า หลวงปู่คำคะนิง
    ท่านก็เคยบวชเป็นโยคี และไว้ผมยาวเหมือนกัน

    แต่อย่าลืมว่า พระที่หลวงพ่อปานพาพวกหลวงพ่อาษีไปพบนั้น
    ท่านเป็นพระ ไม่ใช่โยคี เพียงแต่ท่านอยู่ในถ้ำรูปเดียว ไม่ได้ปลงผมปลงหนวด แล้วผ้าที่ห่มนั้น ก็เป็นจีวร เพียงแต่เปื่อยจนผุขาดแล้วเท่านั้น

    หลวงพ่อปานสั่งให้พวกหลวงพ่อฤาษี เข้าไปกราบพระองค์นั้น
    ก็แสดงว่า ท่านเป็นพระนั่นเอง ถ้าเป็นโยคี ย่อมถือว่าเป็นฆราวาส
    หลวงพ่อปานท่านจะให้พวกหลวงพ่อฤาษีเข้าไปกราบได้อย่างไร

    อีกเรื่องหนึ่งคือ ตามประวัติของทั้งสองรูปนั้น
    หลวงพ่อปาน บวช พศ. ๒๔๓๙
    หลวงพ่อคำคะนิงเกิด พศ.๒๔๓๗
    ซึ่งหมายความว่า ขณะหลวงพ่อปานบวชพระนั้น หลวงปู่คำคะนิง
    ท่านเพิ่งจะอาย ๒ ขวบแค่นั้นเอง ห่างกันเกือบ ๒๐ ปี
    เป็นไปไม่ได้ ที่จะเป็นสหธรรมิกกัน
     
  4. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,160
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เอาแบบง่ายๆเลย ตามประวัติที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า ท่านระบุว่า เป็นพระ ไม่ใช่โยคี เพียงแต่ไม่ได้ปลงผม และปล่อยผมไว้ยาว
    และจีวรที่ใส่ก็ขาด ไม่ใช่ใส่เสื้อผ้าอย่างโยคี
     

แชร์หน้านี้

Loading...