อากาศหนาวกับความทรงจำยายของฉันชี้ทางบุญ ตอนที่1

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ชัยยะ, 23 พฤศจิกายน 2009.

  1. ชัยยะ

    ชัยยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    31
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36
    เริ่มเข้าสู่เหมันต์ อากาศเริ่มหนาว ตอนแรกนึกว่าเมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคมย้อนไปเมือ่10ปีก่อน ก็ต้องเตรียมรื้อตู้เสื้อผ้าเตรียมหาเสื้อกันหนาว แต่มาสมัยนี้ อากาศเปลี่ยนไปตามระยะเวลา พอตุลาก็ยังเฉยๆ ก็เอาเสื้อกันหนาวเก็บเข้าแต่พอมาวันนี้ (คือวันที่ 21 พ.ย. 52) หนาวจับใจ เล่นเอาความดันพุ่งปี๊ด หาเสื้อหนาวแทบไม่ทัน พูดถึงเดือนนี้ มีอะไรน่าสนใจมั้ง ก็คงจะเป็นวันลอยกระทง และเทศการทอดกฐิน พูดถึงเดินสายการทำบุญของ คุณปู่ ย่า ตา ยาย ย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเด็กๆ (แปลว่าตอนนี้แก่แร้ว) "คนแก่มักติดในความหลัง คนวัยกำลังกลัดมันมักเฝ้าฝันถึงแต่อนาคตอนางอ" มาพูดถึงความหลัง สมัยยังเด็กไม่รู้หรอกว่ากฐินคืออะไรทอดผ้าป่าคืออะไร รู้แต่เพียงว่าพอออกพรรษาคุณยาย จะเตรียมของให้ยุ่งแต่เช้ามีข้าวสาร ดอกบัวปลากระป๋อง ปัจจัย แต่ที่ลืมไม่ได้คือ ข้าวต้มมัด เตรียมไปตักบาตรเทโวแต่เช้า แล้วยายก็ยกตะกล้าขึ้นจบระหว่างคิ้วปากก้บ่นไรไม่รู้พึมพัมๆ แต่จับใจความและจำได้ว่า "ข้าวของข้าพเจ้านี้ข้าวเหมือนดอกบัว" จำได้แค่เนี่ยแหละ 5 ขวบ สายตาที่มองแรกๆตอนประมาณ 5 ขวบ งงแต่ก็ทำตามเอามือยกขึ้นนะและท่องตาม ยายเลยหัวเราะ ถามว่าท่องไร เราก็งงหนูก็ท่องตามยายนั่นแหละ ยายขำใหญ่เลย แล้วก็บอกว่าเอ้าจับที่ตระกล้าข้าวสารและของแห้งท่องตามยายน่ะ
    " ข้าวของข้าพเจ้านี้ ขาวเหมือนดอกบัว อัญเชิญขึ้นเหนือหัว ถวายแด่พระสงฆ์ จิตใจจำนงค์ มั่นตรงต่อพระนิพพาน ขอให้ถึงเมืองแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้พบพระศรีอาริย ในอนาคตตกาลนั้นเทอญ" สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    ต่อไปเป็นการสนาทนาระหว่างยายกับหลานแสนที่จะขี้สงสัยระหว่าทางเดินไปวัดเพื่อตักบาตร



    • ยายจ๋าพระศรีอาริยคือใครจ๊ะทำไม? เราจะต้องขอให้ไปพบพระศรีอาริยเห็นยายให้หนูท่องอธิฐาน หลานถาม
    • ยายยิ้มและคงคิดว่าเป็นช่องทางในการที่จะปลูกฝังความคิดดีๆและอุบายในการให้หลานได้รู้จักการทำบุญ เลยว่ายาวเลย
    • ก็เพราะว่าในยุคของพระศรีอาริยมีแต่สิ่งดีๆนะซิหลาน มีแต่คนดีๆ ไม่มีการฆ่าฟัน ทำร้ายร่างกายกัน ไม่มีขโมย ไม่มีใครแก่งแย้งชิงดีกัน มีแต่สิ่งดีๆแล้วทุกคนก็จะอายุยืน มีร่างกายที่ดีไม่เป็นโรค
    • แล้วหนูใส่บาตรทุกวันจะได้ไปเกิดในยุคพระศรีอาริยเหรอจ๊ะ
    • ถ้าหนูอยากไปเกิดในยุคพระศรีอาริย ก็ต้องใส่บาตรทำบุญ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม อย่างกับวันนี้ที่เราจะไปทำบุญเพื่อเป็นการสะสมบุญ จะได้ไปเกิดในยุคพระศรีอาริยไง
    • อ๋อหนูรู้และทำบุญก็จะได้ไปเกิดในที่ดีๆใช่ไหมจ๊ะ
    • ใช่แล้วจ๊ะแต่ทำบุญอย่างเดียวไม่ได้น่ะต้องทำทานด้วย โดยการ ปล่อยนกปล่อยปลา ถวายของดีๆให้พระสงฆ์ๆ จะเป็นผู้ชี้ทางให้เราได้ไปเกิดในที่ดีๆและการให้ของแก่ผู้ยากไร้ตามความพอได้พอมีของตนน่ะหลาน
    • โตขึ้นหนูจะทำบุญ ให้ทาน จะได้ไปเกิดในที่ดีๆ
    • ทำไมรอโตหล่ะ ทำตอนนี้เลย อย่ารอโต ทำบุญกับยาย เวลายายทำบุญตักบาตรเช้าๆก็ตื่นมาใส่บาตร เวลาไปวัดก็ตามยายมาด้วยอย่างห่วงแต่เล่น จะได้เยอะบุญเยอะๆ ถ้าเราทำตั้งแต่เล็กบุญก็จะได้เต็มไม่พร่องน่ะ " เปรียบสเหมือนหนูเอากระป๋องเปล่ามาเจาะรูพอเหรียญหยอดได้ พอหนูทำบุญอะไรมาก็เอาเหรียญบาทที่แม่ให้ หรือยายให้ ใส่ลงไปหนึ่งครั้ง เท่ากับหนูได้ทำบุญ กว่าหนูจะโตกระป๋องก็เต็มไปด้วยเงินฉันใดก็ฉันนั้น หนูรีบขวยขวายทำบุญตั้งแต่วันนี้กว่าจะโต บุญก็เต็มจริงไหม"
    • งั้นหนูเริ่มทำบุญกับยายตั้งแต่วันนี้เลยน่ะจ๊ะทำทุกอย่างตามยายเลยจ่ะน่ะๆ
    • ได้ซิหลานยายพูดและยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้สอนหลานให้ได้สั่งสมบุญ
    พอดีเดินมาถึงวัดพอดีก็จัดแจงเอาเสื่อมาปูจองที่ อยู่รอบบริเวณพระอุโบสถเสียงพระสงฆ์สวดมนต์ดังออกมาจากพระอุโบสถ เสียงเจื้อยแจ่ว ของเด็กๆวิ่งเล่นกันเสียงคนทักทายกันของผู้เฒ่าผู้แก่


    • พาหลานมาด้วยเหรอดีจังเลย หลานฉันมันไม่เอาไหนให้ถือของห่วงเล่น ดูการ์ตูนกลัวแต่โตขึ้นมันจะลืมประเพณีทำบุญจะทำไม่เป็นน่ะซิฉันหล่ะห่วงมันจริงๆ เสียงยายแต๋วบ่น
    • ก็ต้องมีอุบายนิดหนึ่ง"เด็กสมัยนี้เกิดมาก็ต้องสอนกันตั้งแต่ให้นมกินยันแก่ตายนอนในโลง"ไม่งั้นไม่ทันการ มันคอยจะแหกคอก ยายเรือนกล่าว
    เสียงมัคทายกแว่วมาบอกให้เตรียมตัวพระสงฆ์จะเดินออกมาโปรดแล้ว ถอดรองเท้าด้วยน่ะใครมีปัจจัยก็ใส่ในย่ามเน้อ อย่าใส่ลงไปในบาตร เอ้า!ลูกศิษย์ลูกหาเตรียมตระกล้ามาใส่ให้พร้อมน่ะ"กราบอาราธนานิมนต์พระคุณเจ้าโปรดบรรดาญาติโยมนิมนต์เจ้าข้า"



    สิ้นเสียงมัคคทายกนิมนต์จบภาพที่เห็นคือพระสงฆ์นุ่งห่มจีวรสีเข้มเดินสะพายบาตรเรียงเป็นลำดับดูแล้วอึ้งมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ตักบาตรเทโวรอบพระอุโบสถพระท่านค่อยๆเดินรับศรัทธาญาติโยมด้วยความสงบเยือกเย็น ในใจก็คิดว่า "นี่หรือคนที่จะพาเราไปกับพบพระศรีอาริยเมตไตร " ตื่นเต้น!ใจเต้นตุบๆมากพอท่านเดินมาถึงผมกับยายก็จัดแจงหยิบอาหารแห้งคนละอย่างผมเลือกหยิบข้าวสาร เพราะยายบอกว่าใส่ข้าวก่อน ตื่นเต้นมากครั้งแรก พระท่านค่อยก้มลงเปิดฝาบาตรเล็กน้อย "ผมค่อยๆใส่ข้าวลงไปในบาตรแล้วก็ไม่ลืมที่จะทวงถามเป็นภาษาเด็กว่า"อย่าลืมพาผมไปพบพระศรีอาริยน่ะครับ"เท่านั้นแหละหลวงตาและยายก็ขำ ยายผมก็ขำเพราะคงนึกว่าเอาแล้วไง ! ในตอนนั้นผมก็งงยืนเกาหัวสงสัยว่าขำไรกันเราพูดตลกตรงไหน แต่หลวงตาท่านก็ก้มลงมาตอบผมว่า
    • ถ้าจะให้หลวงตาพาไปก็ได้แต่คงจะวานให้เจ้าช่วยพาอีกหลายคนไปด้วยน่ะแต่ต้องบวชก่อนจะได้พายายและแม่พ่อและคนอื่นๆไปด้วยน่ะ บวชแบบหลวงตาไง ฮึๆๆ
    • งง ! ครับ เรื่องยาวเลย คำถามเกิดขึ้นมากมาย บวชยังไง แล้วทำไมต้องพายายไปด้วย แม่อีกพ่ออีก แต่ก็เอาไว้ก่อนความคิดเด็กๆมันสั้น คิดแต่ปัจจุบันก็หันมาใส่ใจใส่บาตรรูปต่อไปจนหมดทุกรูปเลย
    มันอิ่มใจรู้สึกมีความสุขยังไงไม่รู้"ความรู้สึกนั้นยังคงติดมาจนถึงทุกวันนี้เวลาผมไปทำบุญ จะหาที่เงียบๆแล้วนั่งปิติอยู่ในใจนึกถึงตอนได้ใส่บาตรครั้งแรกกับคุณยาย" พอใส่บาตรเสร็จ มัคทายกก็บอกว่า เอ้า!สาธุชนทั้งหลายใส่บาตรเสร็จแล้วก็ขึ้นมาสดับตรับฟังพระธรรมเทศนาประดับสติปัญญา ตรวจน้ำ ให้เจ้ากรรมนายเวรแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว อย่าได้ชักช้าวันนี้เป็นวันพระพุทธเจ้าเปิดโลก พวกเขารอเราให้แผ่บุญกุศลไปให้อยู่ ขึ้นมาที่ศาลาฟังธรรมน่ะเร็วๆจ้า

    มีต่อภาคสอง สนุกมาก โปรดติดตามตอนต่อไป วันนี้แค่นี้ก่อนครับพอดีเส้นสมองที่ 7 อักเสบอยู่หน้าคอมนานไม่ได้
     
  2. วัสสานะ

    วัสสานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +565
    เวลาเห็นคนสูงอายุมาขายของข้างทางแล้วนึกถึงคุณยายครับ เหมือนกันที่ปลูกฝังชักนำให้ไหว้พระสวดมนต์ทำบุญกุศล
     

แชร์หน้านี้

Loading...