อานิสงค์การทําบุญทุกชนิด

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 11 มีนาคม 2007.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    บุญกิริยาวัตถุ
    บุญกิริยาวัตถุ แปลว่าหลักแห่งการบำเพ็ญบุญ หรือหลักแห่งการทำบุญ บุญกิริยาวัตถุ โดยย่อมี 3 อย่าง คือ
    1.ทานมัย บุญเกิดจากการให้ทาน
    2.ศีลมัย บุญเกิดจากการรักษาศีล
    3.ภาวนามัย บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
    หมายความว่า วิธี หรือหลักแห่งการทำบุญในพระพุทธศาสนา เมื่อพูดโดยย่อแล้วก็มีเพียง 3 อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา แต่ถ้าขยายความให้กว้างออกไป บุญกิริยาวัตถุมี 10 ประการ คือ
    1.ทานมัย บุญเกิดจากการให้ทาน
    2.ศีลมัย บุญเกิดจากการรักษาศีล
    3.ภาวนามัย บุญเกิดจากการเจริญภาวนา
    4.อปจายนมัย บุญเกิดจากการอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
    5.ไวยยาวัจจมัย บุญเกิดจากการขวนขวายในกิจที่ชอบ
    6.ปัตติทานมัย บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ
    7.ปัตตานุโมทนามัย บุญเกิดจากการอนุโมทนาส่วนบุญ
    8.ธัมมัสสวนมัย บุญเกิดจากการฟังธรรม
    9.ธัมมเทสนามัย บุญเกิดจากการแสดงธรรม
    10.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความเห็นให้ตรง การปรับปรุงความคิดเห็นให้ถูก

    มาสร้างบุญกันเถอะ

    1. นั่งสมาธิ อย่างน้อยวันละ 15 นาที(หรือ เดินจงกรม ก็ได้)
    อานิสงส์ - เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า เพื่อจิตใจที่สว่างผ่อนปรนจาก กิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
    จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
    เจ้า กรรมนายเวร และญาติมิตรที่ ล่วงลับ จะได้ บุญกุศล

    2. สวดมนต์ ด้วย พระคาถา ต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
    อานิสงส์ - เพื่อให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็น สมาธิ ได้เร็ว แนะนำพระคาถา พาหุงมหากา, พระคาถาชินบัญชร, พระคาถา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น เมื่อสวดเสร็จต้อง แผ่เมตตา ทุกครั้ง

    3. ถวายยารักษาโรค ให้วัด, ออกเงินค่ารักษาให้พระตาม โรงพยาบาลสงฆ์
    อานิสงส์ - ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา สุขภาพกาย จิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้ และภพหน้า ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา

    4. ทำบุญตักบาตร ทุกเช้า
    อานิสงส์ - ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร ตายไปไม่หิวโหย อยู่ใน ภพ ที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหาร อุดมสมบูรณ์

    5. ทำหนังสือ หรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับ ธรรมะ แจกฟรีแก่ผู้คนเป็น ธรรมทาน
    อานิสงส์ - เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ ธรรม จึงสว่างไปด้วย ลาภยศ สรรเสริญ ปัญญา และ บุญบาร มีอย่างท่วมท้น เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรม ให้ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน

    6. สร้างพระ สร้างพระถวายวัด
    อานิสงส์ - ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ ของ พุทธศาสนา ตลอดไป

    7. แบ่งเวลาชีวิตไป บวชชีพราหมณ์ หรือ บวชพระ อย่างน้อย 9 วันขึ้นไป
    อานิสงส์ - ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ ผ่อนปรน หนี้กรรม อุทิศผลบุญให้ญาติ มิตรและ เจ้ากรรมนายเวร สร้างปัจจัยไปสู่ นิพพาน ในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของ พุทธศาสนา จิตเป็นกุศล

    8. บริจาคเลือด หรือ บริจาค ร่างกาย
    อานิสงส์ - ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดา ปกปักรักษา ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วน ภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง

    9. ปล่อยนก ปล่อยปลา ที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้ง ปล่อย สัตว์ ไถ่ชีวิต สัตว์ต่าง ๆ
    อานิสงส์ - ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต ชดใช้หนี้กรรม ให้ เจ้ากรรมนายเวร ที่ เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใสเป็นอิสระ

    10. ให้ทุนการศึกษา, บริจาคหนังสือ หรือสื่อการเรียนต่าง ๆ, อาสาสอนหนังสือ
    อานิสงส์ - ทำให้มี สติปัญญา ดี ในภพต่อ ๆ ไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม

    11.ให้เงินขอทาน, ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
    อานิสงส์ - ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้ง ภพนี้ และ ภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก เกิดมา ชาติหน้า จะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง จะได้เงินทองกลับ มาอย่างไม่คาดฝัน

    12. รักษาศีล 5 หรือ ศีล 8

    อานิสงส์ - ไม่ต้องไปเกิดเป็น เปรต หรือ สัตว์นรก ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ ครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง กรรมเวร จะไม่ถาโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดา นางฟ้า ปกปักรักษา

    อานิสงส์ 10 ข้อของการ ไม่กินเนื้อสัตว์
    1. เป็นที่รักของบรรดา เทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
    2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
    3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
    4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
    5. มีอายุมั่นขวัญยืน
    6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก เทพ ทั้งปวง
    7. ยามหลับ นิมิต เห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
    8. ย่อมระงับการ จองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
    9. สามารถดำรงอยู่ในกระแส พระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่ อบายภูมิ
    10. ทันทีที่ละ สังขาร จากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่ สุคติภพ

    อานิสงส์การจัด สร้างพระพุทธรูป หรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับ พระธรรม คำสอน เป็นกุศลดังนี้
    1. อกุศลกรรม ใน อดีตชาติ แต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
    2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
    3. เจ้ากรรมนายเวร ใน อดีตชาติ แต่ปางก่อน เมื่อได้รับ ส่วนบุญ ไปแล้วก็จะเลิก จองเวร จองกรรม
    4. เหล่า ยักษ์ ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
    5. จิตใจสงบ ราศี ผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
    6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
    7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพ ยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
    8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญ สตรีจะได้ เกิด เป็นชายเพื่อ บวช
    9. พ้นจากมวล อกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
    10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็น กุศลจิต แก่ทุกคนที่ได้พบเห็น เป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟัง ธรรม จาก พระอริยเจ้า ปัญญาในธรรมแก่กล้า สามารถได้ อภิญญาหก สำเร็จ โพธิญาณ

    อานิสงส์ การ บวชพระ บวชชีพราหมณ์
    (บวช ชั่วคราวเพื่อ สร้างบุญ, อุทิศ ให้พ่อแม่ เจ้ากรรมนายเวร)
    1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญ ตามปรารถนา
    2. เจ้ากรรมนายเวร จะ อโหสิกรรม หนี้กรรม ในอดีตจะคลี่คลาย
    3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
    4. เป็นปัจจัยสู่ พระนิพพาน ในภพต่อๆไป
    5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
    6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็น สัจธรรม แห่งชีวิต
    7. เป็นที่รักที่ เมตตามหานิยม ของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่า เทวดา
    8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงิน ไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
    9. โรคภัย ของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและ รักษาหาย
    10. ตอบแทน พระคุณ ของ พ่อแม่ ได้เต็มที่สำหรับผู้ที่ บวช ไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่าง ๆ ก็สามารถได้รับ อานิสงส์ เหล่านี้ ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้ บวช สนับสนุนส่งเสริม อาสาการให้คนได้บวช

    <CENTER>++++++++++++++++++++++++++</CENTER>

    ถวายฉัตรยอด พระเจดีย์ ได้รับการเคารพยกย่อง เกิดในชาติตระกูลสูง มีสง่าราศี

    ถวายทองคำ ผิวพรรณงาม เปล่งปลั่ง อุดมมั่งคั่ง

    ถวายเงิน ใจสว่างไสว อยู่เย็นเป็นสุข

    ถวายอัญมณี รัศมีกายทิพย์สว่าง มีราศี มักประสบโชคดี

    ถวาย บรรจุพระเครื่อง มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค มักมีคนช่วยเหลือเวลามีปัญหา

    ถวายแผ่นทองคำเปลวปิด องค์พระเจดีย์ มีราศีผิวพรรณงาม ใจสว่าง อบอุ่นใจ

    ถวาย อิฐ หิน ปูน ทราย มีแต่ความมั่นคงในชีวิต ใจคอหนักแน่น ไม่โลเล

    สร้างองค์พระเจดีย์ มักได้สิ่งอันพึงปรารถนา สุขภาพดี ไม่มีวันอดตาย

    ถวายธงหลากสีประดับองค์พระธาตุ มีสง่าราศี กายทิพย์สว่าง

    ถวายโคมไฟ ให้แสงสว่าง ,เทียน ใจสว่าง ชีวิตสะดวกสบาย มีอุปสรรคน้อยลง มีปัญญาธรรมสูงขึ้น เบิกทางสู่ทิพยเนตร

    ถวายดอกไม้ อันบริสุทธิ์ต่างๆ สุขสงบใจ ใจสะอาดสดชื่นผ่องแผ้ว

    ถวายธูป เครื่องหอม ต่างๆ อบอุ่นมั่นคงในใจ ใจสว่างมีอุปสรรคน้อยลง มีกลิ่นกายสะอาด รู้สึกสดชื่นเสมอ

    ถวายแผ่นหินปูพื้นพระเจดีย์ มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น

    ถวายกระจกสีประดับองค์พระเจดีย์ กายทิพย์สว่าง มีสง่าราศี มีคนศรัทธา เห็นความดีในตัว

    ถวายผ้าเหลืองครอง(หุ้ม)องค์พระเจดีย์ เพิ่ม เนกขัมมบารมี ใจสงบขึ้น มีโอกาสได้วิมุตติธรมเร็วขึ้น

    สรงน้ำพระธาตุ ใจสะอาดสงบสว่างขึ้น กายและใจชุ่มชื่นแจ่มใส สุขภาพดี

    ถวายข้าว อาหาร เวรข้าวบูชาพระธาตุ อุดมสมบูรณ์ อิ่มอกอิ่มใจ สุขภาพดี

    เวียนเทียนรอบองค์พระเจดีย์ เพิ่มวิสัยปัจจัยแห่งกุศลธรรม เป็นสิริมงคล ช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สะอาดขึ้น

    แสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระธาตุจากใจจริง เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิดหรือมองอะไรผิดๆ ได้บารมีวิมุตติรรมจากพระบรมธาตุ พาไปสู่วิสุทธิมรรค ผล นิพพานได้เร็วยิ่งขึ้น

    เป็นเจ้าภาพ หรือมีส่วนช่วยจัดงานฉลองพระธาตุ ประสบสุขในชีวิตโดยทั่ว ไปแทบทุกด้านอุดมมั่งคั่ง มีคนเคารพยกย่องช่วยเหลือเสมอ

    บูรณซ่อมแซมเจดีย์พระธาตุ สุขภาพดี อายุยืน รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี มีฐานะมั่นคง

    สร้างเจดีย์ บรรจุ พระบรมธาตุ ชีวิตมั่นคงสุขสมปรารถนาทุกด้าน เป็นที่เคารพยกย่อง ได้มรรคผล นิพพาน เร็วขึ้น

    ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่าง บุญ ที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึง อานิสงส์ ที่ท่านพึงจะได้รับ จงเร่ง ทำบุญ เสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่าน ล่วงลับ ท่านไม่สามารถ สร้างบุญ ได้อีกจนกว่าจะได้เกิด หากท่านไม่มี บุญ มาหนุนนำแรง กรรม อาจดึงให้ท่านไป สู่ภพ เดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์ นรก ที่ไม่อาจ สร้างบุญ สร้างกุศล ได้ ต่อให้ญาติโยมทำบุญ อุทิศ ให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ
    ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสม บุญบารมี ซึ่ง เป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ
     
  2. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    ทำได้ดังกล่าว ก็เยี่ยมยอดเลยทีเดียว
     
  3. chai8383

    chai8383 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +6,348
    จะขอติงตรงนี้นิดหนึ่งจะได้ไหม เชื่อหรือไม่-ไม่ว่ากันนะครับ เรื่องของอานิสงส์ของการไม่กินเนื้อสัตว์

    อานิสงส์ 10 ข้อของการ ไม่กินเนื้อสัตว์
    1. เป็นที่รักของบรรดา เทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
    2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
    3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
    4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
    5. มีอายุมั่นขวัญยืน
    6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก เทพ ทั้งปวง
    7. ยามหลับ นิมิต เห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
    8. ย่อมระงับการ จองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
    9. สามารถดำรงอยู่ในกระแส พระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่ อบายภูมิ
    10. ทันทีที่ละ สังขาร จากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่ สุคติภพ


    ตามที่พระท่านถึง 2 องค์เคยบอกใว้นะครับ เท่าที่เคยอ่านเจอ
    ....ข้อความนี้ ผมคัดลอกมา ขออนุญาตก็อปปี้ครับ... จากไหนจำไม่ได้นะครับ


    กินเนื้อสัตว์บาปหรือไม่
    ปัญหา มีพุทธศาสนิกชนบางพวกเห็นว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเพราะเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นฆ่าในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่างไร ?
    พุทธดำรัสตอบ“..... ดูก่อนชีวกเรากล่าวเนื้อว่าไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็นเนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล ดูก่อนชีวกเรากล่าวเนื้อว่าเป็นของควรบริโภค ด้วยเหตุ ๓ ประการคือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็นเนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูก่อนชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.....”

    1. เนื้อที่ได้ยิน เช่นได้ยินชาวบ้านเขา สนทนากันว่าจะมีการฆ่า หมูตัวนั้นตัวนี้ <O:p</O:p
    เพื่อถวายพระคุณเจ้าเป็นต้น...แบบนี้ห้ามรับประเคน
    2. เนื้อที่ได้เห็น เช่น เห็นไก่วิ่งเล่นอยู่สักครู่เดียวได้ยินเสียงมันร้องด้วยความเจ็บปวด <O:p></O:p>
    สักครู่กลายเป็นต้มยำไก่มาถวาย...แบบนี้ก็รู้อยู่แล้วเพราะเมื่อกี๊ก็เห็นมันอยู่<O:p></O:p>
    แต่ก็ตายเพื่อมาเป็นอาหารแก่ตนโดยเฉพาะ...ห้ามรับประ เคน
    3. เนื้อที่ตนรังเกียจก็คือ เนื้อที่ตนเองรังเกียจด้วยเหตุแห่ง 2 มูลเหตุ ใน 2 ข้อแรก


    พระสังฆราชเคยปรารถเรื่องการกินเจกับพระราชินีว่าคนไทยเข้าใจผิดอยู่มาก
    การกินเจ (ตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์)จริงๆไม่ได้บุญครับ


    อธิบายคือ---เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จิตนาการ)ว่าหมูจะไม่ถูกฆ่า---
    เปรียบได้กับ---เรานั่งอยู่บ้านเฉยๆ แล้วคิด(จิตนาการ)ว่าเราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา---
    บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มีไม่เกิด เพราะเรา นึกๆคิดๆไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง
    กินเจบุญที่เราช่วยชีวิตสัตว์ (มี2ข้อคือ 1.ช่วยมัน 2.ไม่ทำร้ายมัน) ก็ไม่เกิดเพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง เป็นเพียงคิดไปเอง

    พระเทวทัตเคยมาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์พระพุทธเจ้าปฎิเสธพร้อมให้เหตุผลว่า
    1.เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็นอกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น
    2.พระต้องควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย
    3.อนุญาติในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน

    การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่
    การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไรเป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วยบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ
    ๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
    ๒. สีลมัยบุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
    ๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
    ๔.อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
    ๕. เวยยาวัจจมัยบุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ
    ๖. ปัตติทานมัยบุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
    ๗. ปัตตานุโมทนามัยบุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
    ๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
    ๙.ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
    ๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง
    เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้วไม่พบว่าการรับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลยจึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา

    <O:p></O:p>
    การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่าการกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อ 1<O:p></O:p>
    คืองดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ
    ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตฺตํ คิดจะฆ่า
    ๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า
    ๕. เตน มรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อจึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเองและไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้งปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อสัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้วเราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย

    <O:p></O:p>
    มีพุทธภาษิต บทหนึ่งว่า “นตฺถิ ปาปํ อกุพฺพโต” “บาปไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ”
    การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกันเพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆไส้เดือนตายได้...ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลย...


    ......หลวงปู่แหวนท่านบอกว่า "ไอ้วัวควายกินหญู้าตั้งนานไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว......”<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2009
  4. pol47

    pol47 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +14
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยคนครับ ผมชอบที่ว่าหลวงปู่แหวนท่านบอกว่า "ไอ้วัวควายกินหญู้าตั้งนานไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว......”<O:p></O:p> กินใจดีครับ
     
  5. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    ทำบุญด้วยการ รักษาศีล
    ศีล คือ หลักปฏิบัติ สำหรับควบคุมกายและวาจาของคนให้ตั้งอยู่ในความดีงาม เฉพาะผู้ครองเรือน มี ๕ ข้อ

    ความหมาย ของศีล ๕
    ในศีลห้า ข้อที่หนึ่ง พึงกำหนด ขึ้นต้นบท ว่า"ปาณา" ห้ามฆ่าเขา
    ข้อที่สอง "อทินนา" อย่าถือเอา ของที่เขา มิให้ อย่าใฝ่ปอง
    ข้อที่สาม "กาเม" เล่ห์สวาท ต้องเว้นขาด คู่เขา เราอย่าข้อง
    ข้อที่สี่ "มุสา" อย่าคะนอง คำพูดต้อง ตามสัตย์ อรรถธรรม
    ข้อที่ห้า "สุรา" ท่านว่าไว้ ห้ามมิให้ ดื่มเหล้า ทั้งเช้าค่ำ
    เฮโรอีน ฝิ่นยาบ้า พาระกำ ท่านแนะนำ ให้งด เพื่อหมดเวร

    วิธีรักษาศีล ๕
    จะรักษา ศีลห้า ดังว่านั้น ให้คงมั่น ศักดิ์สิทธิ์ สัมฤทธิ์ผล
    จำต้องมี คุณธรรม ประจำตน ตามยุบล โบราณ ท่านสอนมา
    ข้อที่หนึ่ง พึงระวัง ยั้งความโกรธ ไม่เหี้ยมโหด ใฝ่จิต ริษยา
    รู้โอบอ้อม อารี มีเมตตา กรุณา เป็นธรรม ประจำใจ
    สองเลี้ยงชีพ โดยสัมมา อาชีวะ รู้สละ รู้ประหยัด อัชฌาสัย
    ข้อที่สาม คู่ครอง ของใครใคร ไม่สนใจ ยินดีอยู่ แต่คู่ตน
    ข้อที่สี่ มีสัตย์ ประหยัดปาก ไม่พูดมาก กลอกกลับ ให้สับสน
    ข้อที่ห้า สติตั้ง ระวังตน อยากก็ทน หักห้าม ไม่ตามใจ
    ท่านผู้ใด ใจบุญ รู้คุณค่า ของศีลห้า เบญจธรรม ดั่งคำไข
    ประพฤติมั่น อยู่เสมอ ไม่เผลอใจ จะต้องได้ ผลดี มีแก่ตน

    ความเสียหายที่จะได้รับจากการไม่รักษาศีล ๕
    อันบาปกรรม ทั้งห้า ถ้าไม่ละ บาปนั้นจะ ส่งวิบาก ให้ยากเข็ญ
    ตามประเภท เหตุที่ทำ เป็นกรรมเวร คิดให้เห็น เว้นให้ไกล อย่าได้ทำ
    การเบียดเบียน ชีวิต ปลิดชีพเขา ทำให้เรา อายุน้อย ถอยลงต่ำ
    ปราศจาก อนามัย ไข้ประจำ ผู้ใดทำ กรรมนี้ ชีพไม่ยืน
    ปล้นสะดม โกงกิน ทรัพย์สินเขา จะร้อนเร่า จิตใจ ไม่แช่มชื่น
    บางคราวรวย ก็อย่าหวัง ว่ายั่งยืน ต้องเป็นอื่น และจนลง อย่าสงกา
    การสมสู่ คู่ครอง ของผู้อื่น ก็จะชื่น ชั่วประเดี๋ยว จริงเจียวหนา
    ผลของกรรม ทำให้มี ไพรีมา เบียฬบีฑา ปองชีวิต คิดผูกเวร
    การพูดหลอก ลวงใคร ให้หลงผิด โทษจะติด ตามตน ให้คนเห็น
    จะถูกตู่ ใส่ความ ตามประเด็น เท็จจริงเป็น อย่างไร เขาไม่ฟัง
    การดื่มเหล้า เมายา ว่าให้คิด ถ้าเสพติด โทษร้าย เมื่อภายหลัง
    ต้องเสื่อมทรัพย์ อับโชค โรคประดัง ทอนกำลัง ปัญญา พาให้ทราม

    ประโยชน์ที่จะได้รับจากการรักษาศีล ๕
    อานิสงส์ ข้อที่หนึ่ง นั้นพึงรู้ ชีพจะอยู่ วัฒนา อย่าฉงน
    อนามัย สมบูรณ์ จำรูญชนม์ ถึงร้อยฝน เทียวนะ จึงจะตาย
    ข้อที่สอง สมบัติ พัสถาน จะโอฬาร ล้นหลาก มีมากหลาย
    ยามใช้สอย ไม่ขาดแคลน แสนสบาย ใช้จนตาย ไม่จน เพราะผลบุญ
    ข้อที่สาม จะไม่มี ไพรีร้าย มาปองหมาย ชีวิต คิดเฉียวฉุน
    จะได้คู่ เป็นศรี มีแต่คุณ ไม่หันหุน กลับกลอก คิดนอกใจ
    ข้อที่สี่ พูดอะไร ใครก็เชื่อ คนไม่เบื่อ ระอา เมื่อปราศรัย
    จะเชิญชวน ชายหญิง ทำสิ่งใด เขาเต็มใจ พร้อมพรัก สมัครทำ
    ข้อที่ห้า อานิสงส์ จงประจักษ์ จะมีหลัก จรรยา ท่าคมขำ
    มีสติ มั่นคง ความทรงจำ ปัญญาล้ำ เลิศสัตว์ ในปฐพี
    หากเห็นจริง หญิงชาย ทั้งหลายเอ๋ย อย่าละเลย พยายาม ตามวิถี
    ประพฤติเถิด เกิดผล กุศลมี เป็นความดี ติดตามอาตม์ ทุกชาติไป


    ขอขอบคุณที่มาคะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=all4u&month=16-01-2006&group=1&gblog=2
     
  6. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    ขอคั่นรายการหน่อยนะ.....


    อยากชวนทำบุญถวายตู้พระไตรปิฎกชุดใหญ่และ CD เสียงอ่านพระไตรปิฎก ถวายหลวงปู่บุญญฤทธิ์...
    (10 เมษายน 2553..เวลา 11.30 น.) ด้วยกัน...

    อันนี้ร่วมทำกับเพื่อนๆๆ สมาชิกเวปพลังจิตค่ะ...ตั้งใจจัดขึ้นมาเอง....บุญใหญ่ บารมีมาก ทำคนหรือสองคน ไม่ดีแน่..
    เลยอยากขอเชิญชวนทุกท่าน ที่ผ่านมาเห็นข้อความนี้ มาร่วมสร้าง และสะสมปัญญาบารมีร่วมกันค่ะ.......

    ท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้นะคะ....

    บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า เขียนโดย ปานโสม
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8....89898/page-90
     
  7. lemon112233

    lemon112233 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +287
    อนุโมทนาสาธุค่ะ

    ขออนุญาติฟอร์เวิร์ดเมลเผยแพร่ความรู้นี้ต่อไปนะค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  8. สีคราม

    สีคราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +182
    เย้ๆทำได้เกือบทุกข้อแล้ว

    อนุโมทนาสาธุ

    นิพพานโดยเร็วเถิด
     
  9. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณค่ะ..............
     
  10. pang_bonbon

    pang_bonbon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +17
    อนุโมทนา สาธุค่ะ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  11. สองเสาร์

    สองเสาร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +124
    อนุโมทนาบุญด้วยคะ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปคะ
     
  12. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +904
  13. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ
    ในบุญกุศลทุกอย่างที่ทุกท่านได้ทำด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  14. bangsaennitting

    bangsaennitting สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ กับข้อความดีๆ
    กมฺมุนา วตฺตตี โลโก : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
     
  15. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขอโมทนาสาธุครับ....
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
    ...ทุกสิ่งอยู่ที่จิต ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า...
    ...ปลูกพืชฉันใด ย่อมได้ผลฉันนั้น...
     
  16. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และทุกๆท่าน
     
  17. chpu

    chpu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +28
    สาธุ...ขออนุญาติเผยแพร่ต่อในเวป"ณาณทิพย์"เพื่อให้สร้างเสริมบุญกันยิ่งขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...