อานิสงส์จากการช่วยคนแปลกหน้าหรือภาวนา

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย Mathura, 24 กรกฎาคม 2016.

  1. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,161
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,113
    ฉันไปบวชเนกขัมมะครั้งที่สาม ที่วัดเน้นสายกรรมฐานที่ต่างจังหวัด เพื่อฝึกการเจริญสติในชีวิตประจำวัน ฉันยังไม่เรียกว่าตัวเองมีประสบการณ์การภาวนาแกร่งนัก แต่ยังพึ่งเริ่มต้น บางวันทำบ้างไม่ทำบ้าง เพราะด้วยเหตุความวุ่นวายทางโลก การไปปฏิบัติธรรมครั้งที่สามสำหรับฉันเป็นเรื่องธรรมดา ฉันต้องทำหน้าที่เหมือนเด็กวัด และ ปฏิบัติให้ถูกต้องอยู่ในชุดขาว พร้อมสไบ พระอุปัชฌาย์บอกว่าสไบหรือผ้าคาดบ่าเป็นสัญลักษณ์ของนักบวช ฉันถือศีลแปดอย่างเคร่งครัดและภาวนาเท่าที่ทำได้

    ฉันไม่สามารถเดินจงกรมได้บ่อยครั้งนัก เพราะอาการเข่าและกระดูกไม่สู้ดี ตอนเด็กๆ ฉันยังต้องกายภาพ และปัจจุบัน การใส่รองเท้าส้นสูงสำหรับฉันก็เป็นเรื่องที่ทำให้เจ็บปวดขา หรือต้องทานยาแก้ระบมของข้อต่อหรือกระดูกได้ การเดินจงกรมสองครั้งแรกที่ฉันไปปฏิบัติ วันลาสิกขา ขาฉันจะเจ็บปวด แม้ว่าฉันพยายามก้าวเดินจงกรม ใจเป็นสุข แต่ความรู้สึกเวทนาที่เกิดขึ้นมันส่งผลไม่ค่อยดีนักต่อขาของฉัน เวลาเดินจงกรมหรือฝึกการเดินบนเขา เป็นเรื่องยากและอาจส่งผลไม่ดี ฉันไม่รู้ว่าฉันคิดผิดหรือเปล่าแต่ก็ยังคงไปฝีกภาวนาเรื่อยๆ เพื่อเป็นการตอกฐานการภาวนาของตัวเองให้แกร่งขึ้นและเพิ่มแรงศรัทธาต่อการภาวนา

    การภาวนาครั้งที่สาม คราวนี้ฉันเตรียมยามาถวายที่วัดเนื่องจากมีพระชราจำนวนมาก วันบวชเนกขัมมะ ฉันเตรียมช่อดอกไม้ ธูป เทียน และ ของถวายสำหรับวัด กับกระเป๋าเตรียมชุดขาวไปสามชุดพร้อมสไบสีขาว ยาสำหรับวัดต่างจังหวัดเป็นสิ่งที่ฉันมักเตรียมไป เช่น ยาหอมร้อยแปดวัดโพธิ์ ยาจากโรงพยาบาลรัฐแล้วแต่สภาพของพระ หากมีพระชรามาก ฉันจะเตรียมยาแก้ปวดเมื่อยสูตรร้อนและเย็นสำหรับถวายวัดไปด้วยเป็นต้น คราวนี้สัมภาระของฉันไม่มาก มีเพียงฉันเลือกเดินทางไปปฏิบัติในวันธรรมดา อย่างน้อยคงไม่มีใครมารบกวนและสะดวกต่อการวิเวก ฉันขึ้นรถจากอนุสาวรีย์เพื่อเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรี และรถแวะจอดกลางทางเพื่อเติมก๊าซก่อนวิ่งเข้าตัวเมือง ผู้โดยสารจะมีเวลาสิบถึงสิบห้านาทีได้หยุดพัก หรือเข้าห้องน้ำแล้วแต่ว่าจำนวนคิวรถที่รอเติมน้ำมันมีจำนวนมากหรือไม่

    วันนั้นฉันนั่งรออยู่ด้านล่างเดินยืดเส้นยืดสาย และได้ยินเสียงร้องว้ายของผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันหันไปดู ผู้หญิงวัยห้าสิบเศษมากับทีมคณะเหมือนกำลังจะเดินทางไปประชุมสัมมนา เดินสะดุดล้มตรงฟุตบาท สำหรับผู้หญิงสูงวัย การสะดุดล้ม เป็นเรื่องที่เจ็บ ฉันสาวเท้าพยุงหล่อนเพราะแน่ใจกำลังแขนของตัวเอง ฉันไม่ได้ช่วยอะไรมาก นอกจากแบ่งยาทาแก้ปวดเมื่อยที่เตรียมไว้สำหรับถวายวัดให้หญิงแปลกหน้าไปหลอดหนึ่ง พร้อมบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เตรียมมาถวายและคุณจำเป็นค่ะ ระวังอาการปวดเข่านะคะ” ฉันปลีกตัวรีบขึ้นรถตู้ไม่ได้สนใจคนแปลกหน้า หรือแนะนำตัว จุดม่งหมายของฉันคือการไปบวช

    ฉันลืมเรื่องการช่วยคนไป แต่กลับมานึกได้ตอนลาสิกขาเพราะเพื่อนฉันขับรถมารับถามฉันว่า “อาการปวดขาเป็นอย่างไรบ้าง ปรกติแกต้องบ่นนี่ ว่าปวดแข้งปวดขา” สำหรับการภาวนา เดินจงกรม กวาดลานวัด และนั่งสมาธิสามสี่บัลลังก์ เป็นเครื่องทรมานสังขารของฉัน ยิ่งการปวดข้อต่อและการปวดหลัง ฉันทำใจไว้แล้วว่ากลับไปฉันจะเตรียมไปหาหมอเรื่องกล้ามเนื้อหรือข้อต่ออักเสบ แต่คราวนี้ขาของฉันไม่แสดงอาการใดๆ และ กลับรู้สึกเบาหวิว ฉันเอะใจ เอหรือว่านี่เป็นอานิสงส์จากการช่วยคนและการภาวนา ฉันรีบโทรศัพท์กราบถามพระพี่เลี้ยงของฉัน ท่านพูดสั้นๆเพียงว่า “สาธุ อานิสงส์บุญเกิดเร็วดีแท้ น่าจะเกิดจากทั้งบุญจากการช่วยคนและการภาวนา”

    *เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของเพื่อนที่ไปปฏิบัติธรรมและได้หยิบยกมาเล่าในมุมมองของตัวมธุราเองค่ะ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพราะมธุราเองได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยและบวชเนกขัมมะที่วัดนี้ด้วย หากอย่างน้อยเรื่องนี้ยังคงมีความดีอยู่บ้าง มธุราขอยกบุญกุศล และอนุโมทนาผลบุญครั้งนี้แด่ดวงจิตทุกดวง ทุกภพทุกภูมิ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...