อานิสงส์พระคาถาชินบัญชร

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย TUK2800, 20 ตุลาคม 2008.

  1. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อานิสงส์พระคาถาชินบัญชร


    พระคาถาชินบัญชรนี้เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ตกทอดมาจากลังกา เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ค้นพบในคัมภีร์โบราณ ได้ดัดแปลงแก้ไขแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ได้เนื้อถ้อยกระทงความสมบูรณ์ แปลออกมาแล้วแต่มีสิ่งสิริมงคลแก่ผู้สวดภาวนาทุกประการ <O:p</O:p



    พระคาถานี้เป็นการอัญเชิญพระพุทธานุภาพแห่งพระบรมศาสดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้าที่ได้เคยมาตรัสรู้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเป็นอัญเชิญพระอรหันต์ขีณาสพ อันสำเร็จคุณธรรมวิเศษแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน นอกนั้นยังอัญเชิญพระสูตรต่าง ๆ อันโบราณาจารย์เจ้าถือว่าเป็นพระพุทธมนต์อันวิเศษ ตั้งแต่กระหม่อมจอมขวัญของผู้ภาวนา พระคาถาลงมาจนล้อมรอบตัว จนกระทั่งหาช่องโหว่ให้อันตรายสอดแทรกเข้ามามิได้

    <O:p</O:p
    อานุภาพแห่งพระคาถาชินบัญชร

    ผู้ใดได้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรนี้เป็นประจำอยู่สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดความสิริมงคลสมบูรณ์พูนผล ศัตรูหมู่พาลไม่กล้ากล้ำกลาย ไปทางใดย่อมเกิดเมตตามหานิยม เกิดลาภผลทวี ขจัดภัยจากภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่าง ๆ ทำน้ำมนต์รดแก้วิกลจริตแก้สรรพโรคภัยหายสิ้นเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนาดังคำโบราณว่า

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2008
  2. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    อนุโมทนาครับ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอเชิญบริจาค โครงการสร้างทรัพยากรมนุษย์ผู้ด้อยโอกาส กับ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง
    --> http://palungjit.org/showthrea...26#post1546426
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    ขอความเมตตา สร้างชีวิตใหม่ ช่วยน้องผ่าตัดใบหน้า ให้สดใสเหมือนเดิม
    --> http://palungjit.org/showthrea...17#post1440317
    มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองกันครับ
    --> http://palungjit.org/showthrea...70#post1435870
     
  3. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    [​IMG]

    [​IMG]

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.426610/[/music]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ....

    การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
    <!-- / message -->
     
  5. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,662
    ค่าพลัง:
    +9,236
    พระคาถาชินบัญชรนี้มีความศักดิ์สิทธิ์จริง
    ขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ
     
  6. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อานิสงค์ของการสวดมนต์
    สำหรับใครที่คิดว่าเราสวดมนต์ไปวันๆเพื่อประโยชน์อะไร ท่องๆไปบางครั้งสวดไปเราเองก็ไม่ไดรู้หรือทราบถึงคำแปลเลยแม้แต่อย่างใดดังนั้นมีหลายคนที่ตั้งคำถามที่ว่าเราสวดมนต์ หรือแม้แต่ อ่านหนังสือธรรมะไปเพื่ออะไรมาดูกันด้านล่างนี้เลย ... .. .
    1. ไล่ความขี้เกียจ :ขณะสวดมนต์ อารมณ์เบื่อ เซื่องซึม ง่วงนอน เกียจคร้าน จะหมดไป เกิดความแช่มชื่น<O:p</O:p
    กระฉับกระเฉงขึ้น
    2. ตัดความเห็นแก่ตัว :เพราะขณะนั้นอารมณ์ของเราหน่วงอยู่ที่การสวด ไม่ได้คิดถึงตัวเอง ความโลภ โกรธ หลงจึง<O:p</O:p
    มิได้กล้ำกลายเข้าสู่วาระจิต
    3. ได้ปัญญา : การสวดมนต์โดยรู้คำแปลรู้ความหมาย ย่อมทำให้ผู้สวดได้ปัญญา ความรู้ แทนที่จะสวดแจ้วแจ้ว <O:p</O:p
    เหมือนนกแก้วนกขุนทอง โดยไม่รู้อะไรเลย เป็นเหตุให้ถูกค่อนว่า ทำอะไรโง่ๆ
    4. จิตเป็นสมาธิ : เพราะขณะนั้นผู้สวดต้องสำรวมใจแน่วแน่ มิฉะนั้นจะสวดผิดได้หน้าลืมหลัง เมื่อจิตเป็นสมาธิ <O:p</O:p
    ความสงบเยือกเย็นในจิตจะเกิดขึ้น
    5. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า : เพราะขณะนั้น ผู้สวดมีกาย วาจาปกติ มีศีล มีใจแน่วแน่ มีสมาธิมีความรู้ระลึกถึงคุณความดี<O:p</O:p
    ของพระพุทธเจ้ามีปัญญาเท่ากับเฝ้าพระองค์ด้วยการปฏิบัติบูชา ครบไตรสิกขาอย่างแท้จริง ... .. .

    ที่มาhttp://dharma.thaiware.com/dharma_article.php?id=129
     
  7. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    อนุโมทนากับสาระดีดีที่แบ่งปันให้กันครับ

    [​IMG] สาธุ สาธุ สาธุ [​IMG]
     
  8. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD>พระคาถาชินบัญชร </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>
    [​IMG]
    ในการสวด คาถาชินบัญชร เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งๆ ขึ้น ก่อนจะเจริญภาวนา จึงขอให้ตั้งนะโม 3 จบ และน้อมจิตระลึกถึงคุณพระคุณสมเด็จโต ด้วยคำบูชาดังนี้

    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง
    อัตถิกาเยกายะ ญายะ
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต ธะนะกาโมละเภธะนัง
    เทวานังปิยะตังสุตตะวา
    ท้าวเวสสุวัณโณ
    นะโมพุทธายะ​


    พระคาถาชินบัญชร





    ๑.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ชะยา สะนา กะตา พุทธา
    จะตุ สัจจา สะภัง ระสัง

    </TD><TD style="TEXT-ALIGN: left">เชตะวา มารัง สะวา หะนัง
    เย ปิวิงสุ นะรา สะภา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๒.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ตัณหังกะราทะโย พุทธา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง

    </TD><TD>อัฏฐะวีสะติ นา ยะกา
    มัตถะเก เต มุนิส สะรา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มี ๒๘ พระองค์ คือ พระผู้ทรงนามว่า ตันหังกร เป็นอาทิ พระพุทธเจ้าจอมมุนีทั้งหมดนั้น



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๓.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง

    </TD><TD width="50%">พุทโธ ธัมโม ทะวิโล จะเน
    อุเร สัพพะคุณา กะโร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่บนศรีษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๔.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">หะทะเย เม อะนุรุทโธ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภา คัสสะมิง

    </TD><TD>สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
    โมคคัลลาโน จะวา มะเก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจ พระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณฑัญญะอยู่เบื้องหลัง



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๕.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง
    กัสสะโป จะมะหา นาโม

    </TD><TD>อาสุง อานันทะราหุโล
    อุภาสุง วามะโส ตะเก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๖.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">เกสะโต ปิฏฐิภา คัสสะมิง
    นิสินโน สิริสัม ปันโน

    </TD><TD>สุริโย วะ ปะภัง กะโร
    โสภีโต มุนิปุง คะโว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มุนีผู้ประเสริฐ คือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๗.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">กุมาระกัสสะโป เถโร
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง

    </TD><TD>มะเหสี จิตตะวา ทะโก
    ปะติฏฐาสิ คุณา กะโร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระเถระกุมาระกัสสปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากประจำ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๘.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ
    เถรา ปัญจะอิเม ชาตา

    </TD><TD>อุปาลี นันทะสี วะลี
    นะลาเต ติละกา มะมะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวลี พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๙.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">เสสา สีติ มะหาเถรา
    เอเตสีติ มะหาเถรา
    ชะลันตา สีละเต เชนะ

    </TD><TD>วิชิตา ชินะสา วะกา
    ชิตะวันโต ชิโน ระสา
    อังคะมังเค สุสัณ ฐิตา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือ ผู้มีชัยและเป็นพระโอรสเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วนรุ่งโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๐.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ระตะนัง ปุระโต อาสิ
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ

    </TD><TD>ทักขิเณ เมตตะสุต ตะกัง
    วาเม อังคุลิมา ละกัง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้า พระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคสูตรอยู่เบื้องหลัง



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๑.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ขันธะโม ระปะริตัญ จะ
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ

    </TD><TD>อาฏานาฏิยะสุต ตะกัง
    เสสา ปาการะ สัณฐิตา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตรเป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๒.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ชินานา นาวะระสัง ยุตตา
    วาตะปิตตาทิสัญ ชาตา

    </TD><TD>สัตตัปปาการะลัง กะตา
    พาหิรัช ฌัตตุปัท ทะวา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง คือ สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๓.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">อะเสสา วินะยัง ยันตุ
    วะสะโต เม สะกิจเจ นะ

    </TD><TD>อะนันตะ ชินะเต ชะสา
    สะทา สัมพุทธะปัญชะเร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้า ไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อมแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐาน จงกำจัดให้พินาศอย่าให้เหลือ



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๔.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">ชินะ ปัญชะระ มัชฌัมหิ
    สะทา ปาเลนตุมัง สัพเพ

    </TD><TD>วิหะรันตัง มะหิี ตะเล
    เต มะหาปุริสา สะภา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอพระมหาบุรุษ ผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดี ฉะนี้แล



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ๑๕.
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=650 align=center bgColor=#eeeeee border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="50%">อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตา ริสังโฆ
    สัทธัมมานุภาวะ ปาลิโต

    </TD><TD>ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะ ราโย
    จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ ฯ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ



    <O:p</O:phttp://www.dhammadelivery.com
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2008
  9. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
    ให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
    ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด ให้ทุกท่านได้พระนิพพาน
    ในชาตินี้ด้วยเถิด

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์ พร้อมครอบครัวและญาติมิตร

    หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

    นะโม 3 จบ


    หัวใจ อิติปิโส ว่า
    อิสะวาสุ

    นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ นะมะอะอุ

    หัวใจพาหุง
    พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
    หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    หัวใจบารมี 30 ทัส
    ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
    หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
    มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
    หัวใจพระธารณะปริตร
    ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
    หัวใจพระไตรปิฎก
    จิเจรุนิ
    หัวใจพระคาถาชินบัญชร
    ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
    คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    [​IMG]สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง[​IMG]

    แผ่เมตตาจิต
    ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสัมฤทธิ์ผลนั้น เกิดจากกรรม 3 อย่าง คือ มโนกรรม เป็นใหญ่ แล้วค่อยแสดงออกมาทางวจีกรรม หรือกายกรรมที่เป็นรูป การบำเพ็ญสมาธิจิตเป็นกุศลดีกว่า เพราะว่า การแผ่เมตตา 1 ครั้ง ได้กุศลมากกว่าสร้างโบสถ์ 1 หลัง ขณะจิตที่แผ่เมตตานั้น จะเกิดอารมณ์แจ่มใส สรรพสัตว์ไม่มีโทษภัย ตัวท่านก็ไม่มีโทษภัย ฉะนั้น เขาจึงว่านามธรรมมีความสำคัญกว่า

    อานิสงส์การแผ่เมตตา
    ...ผู้ปฏิบัติธรรมนั้น ต้องรู้จักคำว่า แผ่เมตตา คือต้องเข้าใจว่า ความวิเวกวังเวงแห่งการคิดนึกของเราแต่ละบุคคลนั้น มีกระแสแห่งธาตุไฟผสมอยู่ในจิตและวิญญาณกระจายออกไปเ มื่อจิตของเรามีเจตนาบริสุทธิ์ เมื่อจิตของเราเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อนั้นเขาก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา เสมือนหนึ่งเราให้เขากินอาหาร คนที่กินอาหารนั้นย่อมคิดถึงคุณของเราหรืออีกนัยหนึ่งว่า เราผูกมิตรกับเขาๆก็ย่อมเป็นมิตรกับเรา แม้แต่คนอันธพาล เราแผ่เมตตาจิตให้ทุกๆวัน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องเป็นมิตรกับเราจนได้ เมื่อจิตเรามีเจตนาดีต่อดวงวิญญาณทุกๆดวง ดวงวิญญาณทุกๆดวงย่อมรู้กระแสแห่งจิตของเรา เรียกว่ามนุษย์เรานี้มีกระแสธาตุไฟออกจากสังขาร เพราะเป็นพลังแห่งการนั่งสมาธิจิต วิญญาณจะสงบ ธาตุทั้ง 4 นั้น จะเสมอแล้วจะเปล่งเป็นพลังงานออกไป

    ฉะนั้น ผู้ที่นั่งสมาธิปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จิตแน่วแน่แล้ว โรคที่เป็นอยู่มันจะหายไป ถ้าสังขารนั้นไม่ใช่จะพังเต็มทีแล้ว คือไม่ถึงวาระสิ้นอายุขัย หรือว่าสังขารนั้นร่วงโรยเกินไปแล้ว ก็จะรักษาให้มันกระชุ่มกระชวยได้หรือจะให้มันสบายหาย เป็นปกติดั่งเดิมได้

    ประโยชน์จากการฝึกจิต
    ...ผู้ที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนมีสมาธิแน่วแน่ เมื่อจิตนิ่งก็รู้ตน เริ่มพิจารณาตน รู้ตนเองได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น ปัญญานี้เรียกว่า ปัญญาภายในจากจิตวิญญาณ ซึ่งเราจะใช้ปัญญานี้ได้แน่นอน เมื่อเกิดมีปัญหาขึ้นในชีวิตตลอดระยะเวลาอันยาวนานข้างหน้า

    นี่คือประโยชน์ของการฝึกจิตแล้ว คุณของสมาธิยังเป็นพลังป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย เจ็บป่วยได้ กล่าวคือ การบำเพ็ญจิต จนจิตสงบนิ่งแล้ว ระบบต่างๆทางประสาทจะได้รับการพักผ่อน เป็นการปรับธาตุในกายให้เกิดพลังจิตเข้มแข็ง กายเนื้อก็จะแข็งแรงกระชุ่มกระชวยด้วย โลหิตในร่างกายจะหมุนเวียนสะดวกขึ้น ความตึงเครียดตามร่างกายและประสาทต่างๆ จะผ่อนคลายเป็นปกติ โรคต่างๆจะลดน้อยลงโดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดัน โลหิตสูง หายป่วยได้ด้วยการฝึกจิตและเดินจงกรม



    จากหนังสือ เรียน ธรรมะบูชาพระสุปฏิปันโน เล่มของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี
     
  10. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    [​IMG]สาธุ สาธุ สาธุ[​IMG]
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  11. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ [​IMG]
    [​IMG] สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    <!-- / message -->
     
  12. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%"><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    " คาถารุ่งเรื่อง‏ "



    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี

    ตั้งนะโม ๓ จบ ชินะปัญชะระ ปะริตตังมัง รักขะตุ สัพพะทา หรือ
    วิญญาณสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ ๙ จบ
    ( ขอพระอนันตชินเจ้าในบัญชรแวดวงกงล้อม พระโมรปริตรและพระขันธปริตร อรหันต์เจ้า
    จงคุ้มครองรักษาข้าพเจ้าให้พ้นจากภยันตรายสรรพสิ่งทั้งปวง ตลอดเวลาทุกเมื่อ)

    [​IMG] สาธุ ลองดูนะ
     
  13. TKP969

    TKP969 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +34
    (smile)ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
     
  14. DD.

    DD. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +103
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ [​IMG]
    [​IMG]
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  15. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    " การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง "






    ขอบอกบุญต่อด้วยจ้า บริจาคอวัยวะที่ http://www.organdonate.in.th/
    บริจาคดวงตาที่ http://www.eyebankthai.com/
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...