อานุภาพพระคาถาชินบัญชร โดย เพชรพิษณุ

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 8 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    อานุภาพพระคาถาชินบัญชร
    โดย เพชรพิษณุ คัดลอกจากหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง
    ความอัศจรรย์สิ่งเร้นลับและอานุภาพต่างนี้ๆบางท่านก็ได้ประสบพบเห็นมากับตัวเอง และจากปากของผู้อื่น จะเป็นอานุภาพของพระเครื่องก็ดี พระคาถาต่างๆก็ดี บางครั้งบางคราวเราท่านก็ยากแก่การจะพิสูจน์ได้โดยง่ายและทันต่อเวลาเหมือนวิชาของวิทยาศาสตร์ นอกเสียจากว่าจะประสบพบมาเท่านั้น
    จะว่ากันไปแล้วไสยศาสตร์ก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ซึ่งคล้ายๆอานุภาพต่างๆ และพลังจิต บางท่านก็เชื่ออย่างงมงาย บางท่านก็ไม่เชื่อ ข้าพเจ้าผู้เขียนก็เหมือนกัน ไม่เคยเชื่อเรื่องอย่างงี้มาก่อนเลย จนได้ประสบมากับตัวจึงมีความศรัทธาขึ้นมาทีละน้อย และเรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้ ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นเรื่องที่ประสบมา
    ในต้นปีพุทธศักราช 2523 ตอนนั้นข้าพเจ้ากำลังจะปลดประจำการ เนื่องจากได้รับใช้ประเทศชาติมาจนครบ 2 ปี ตาม พ.ร.บ. การเป็นทหาร และบังเอิญในปีนั้นข้าพเจ้าก็ได้สอบเพื่อที่จะบรรจุเป็นข้าราชการประจำไว้ และสอบได้
    พอพ้นจากเกณฑ์ข้าพเจ้าก็ได้รับการบรรจุประจำการอยู่ในกองทัพแห่งหนึ่ง และในกองทัพนี้ระเบียบวินัยก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากเพราะเป็นหน่วยรบ ประกอบกับ ผบ.ท่านเป็นคนฝักใฝ่ในธรรมปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    กล่าวคือ ทุกเช้าที่รวมพลท่านจะแจกธรรมะถ้ามีเวลาพร้อมทั้งสวดมนต์ทำสมาธิ และท่านมักจะแจกพระคาถาดีๆอยู่เสมอ สุดแท้แต่ผู้ใดจะจดจำเอาและแถมมีรางวัลให้ทุกครั้งไป
    อยู่มาวันหนึ่ง ท่านก็เอาพระคาถาชินบัญชร ของหลวงพ่อพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) มาแจกพร้อมกับตั้งรางวัลไว้ให้อย่างงามคือถ้าผู้ใดสามารถท่องบ่นจนจำขึ้นใจได้ภายใน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน จะมีรางวัลแจกตามลำดับ ให้มารับรางวัลได้ทุกคน
    พระคาถานี้ก็ใช่ว่าจะจำกันได้ง่ายๆ เพราะมีความยาวและท่องยาก เนื่องจากเป็นภาษาบาลี ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อข้าพเจ้ามาก เพราะก่อนนี้ข้าพเจ้าไม่เคยสนใจเรื่องพระคาถาอาคมอะไรใดๆทั้งสิ้น อันนี้ก็หวังเพียงอยากจะได้รางวัลเท่านั้น ไม่ได้หวังที่จะเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นเลย ข้าพเจ้าก็ลองเอาไปท่องดู (เล่นๆ)
    ปรากฏว่า ไม่ถึงเดือนข้าพเจ้าก็สามารถท่องและจำได้จนขึ้นใจ จะเป็นด้วยบุญบารมีเก่าหรืออะไรก็สุดจะเดา พอแน่ใจว่าจำได้แน่แล้วข้าพเจ้าก็ได้ท่องให้ ผบ.ท่านฟัง ท่านพอใจและได้มอบรางวัลให้ตามสัญญา ข้าพเจ้าได้รับรางวัลเป็นคนแรกของกองพัน
    ข้าพเจ้าเลยคิดเล่นๆว่า คงเป็นเพราะอานุภาพของพระคาถาชินบัญชรแน่ๆ เพียงแต่ท่องจำได้ยังทำให้ได้รับรางวัล ข้าพเจ้าเลยท่องบ่นอยู่ทุกๆวันตั้งแต่นั้นมา เพราะคิดว่าคงจะเป็นของดีมีประโยชน์เป็นแน่
    กล่าวกันว่าพระคาถาชินบัญชรนี้มีอานุภาพมากมายเหลือจะพรรณา สุดแล้วแต่ท่านผู้ใดจะนึกคิดใช้ในคราวจำเป็นโดยให้ระลึกถึงเจ้าของพระคาถา และอานุภาพก็เริ่มฉายชัดขึ้นมาอีกครั้งคือ ในคืนวันหนึ่งต้นฤดูฝน ข้าพเจ้าและ ผบ.ร้อยพร้อมคนขับรถได้นั่งรถจี๊ปเล็กออกไปธุระที่นอกหน่วย ข้าพเจ้านั่งข้างหลัง ผบ.ร้อยนั่งข้างหน้าคู่คนขับ
    พอออกมาจากหน่วยได้ไม่เท่าไร ฝนก็เริ่มเทลงมาทันที อย่างหนัก จนทำให้มองไม่เห็นถนนหนทางในระยะไกลได้และถนนก็ลื่นเพราะเป็นฝนต้นปี
    ในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็เลยเอาพระคาถาชินบัญชรมาท่องเพื่อแก้เซ็ง พอท่องกำลังเพลินๆ ก็ปรากฏสิ่งไม่คาดฝันได้บังเกิดขึ้น
    สิ่งนั้นก็คือได้มีรถสิบล้อพุ่งชนข้างหลังรถจี๊บอย่างแรงจนทำให้รถจี๊ปกระเด็นไปหลายเมตร ท่านผู้อ่านลองหลับตานึกถึงสภาพรถว่าจะเป็นสภาพเช่นไร เหมือนช้างชนหมู
    ข้าพเจ้ายังคงนั่งงงอยู่บนรถ ส่วนคนขับและผบ.ร้อยหลุดกระเด็นตกจากรถทั้งคู่ไม่รู้ว่าไปกันได้อย่างไร พอข้าพเจ้าหายงง ก็ลงจากรถช่วยพยุง ผบ.ร้อยและคนขับรถส่งโรงพยาบาล ส่วนข้าพเจ้าไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเลย
    ผบ.ร้อยและคนขับรถนั้นต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือน ซึ่งสภาพตามความเป็นจริงแล้วข้าพเจ้านั่งอยู่ข้างหลัง แล้วรถชนข้างหลัง อันตรายย่อมมีจะมีมากกว่าคนที่อยู่ข้างหน้า อย่างแน่นอนแต่กลับตรงกันข้าม คนนั่งข้างหน้ากลับได้รับอันตรายมาก
    ข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้มั่นใจเรื่องอานุภาพของพระคาถาชินบัญชรหรอก เพราะคิดว่าอาจจะเป็นการบังเอิญมากกว่า
    จนกระทั่งวันหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติการพิเศษที่เขาค้อ อยู่ได้เดือนเศษๆ ผู้บังคับบัญชาท่านจะออกไปทำธุระที่ตัวจังหวัด ระหว่างทางลงจากเขาค้อถึงตัวจังหวัดก็ไม่ไกลนัก แต่เนื่องจากถนนหนทางในสมัยนั้นเป็นป่าทึบต้องขึ้นเขาลงห้วยเสื่ยงอันตรายต่างๆนานัปการ
    พอส่งตัวผู้บังคับบัญชาที่ตัวจังหวัดแล้ว ท่านก็ให้ข้าพเจ้าเอารถกลับขึ้นฐานปฏิบัติการที่เขาค้อเพียงลำพังคนเดียวในช่วงบ่ายของปลายเดือนมิถุนายนของวันนั้น อยู่ๆฝนก็ได้ตกลงมาอย่างลืมหูลืมตา ไม่ขึ้นประกอบกับสภาพภูมิประเทศ จึงทำให้อากาศมืดครึ้ม เพราะปรกติอากาศบนเขาค้อจะหนาวเย็นหมอกหนาอยู่ตลอดเวลา บางวันจะไม่มีโอกาสได้เห็น แสงตะวันเลย
    ข้าพเจ้าก็พยายามบังคับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่อุบัติเหตุย่อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ประกอบกับข้าพเจ้าไม่ชำนาญ เส้นทางก็เป็นได้ คือไม่ว่าจะใช้ความพยายามสักเท่าไร รถก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดเสียแล้ว รถส่ายไปส่ายมาเหมือนงูอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดความพยายามก็สิ้นสุดลง คือรถได้แหกโค้งและดิ่งลงเหวข้างทางลึกมาก
    ก่อนที่ข้าพเจ้าจะหมดสติไปนั้น ข้าพเจ้าก็ได้ระลึกถึงพระคาถาชินบัญชรเป็นอันดับแรก และสิ้นสุดลงในเวลานั้น
    ในความรู้สึกของข้าพเจ้าในขณะนั้น เหมือนกำลังฝันไปแต่ก็เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น ในความสลัวและกำลังมึนงงอยู่นั้นก็ได้มีภิกษุแก่ๆรูปหนึ่ง ท่านได้มาฉุดมือของข้าพเจ้าให้ลุกขึ้นและท่านก็ได้พูดว่า "ลุกขึ้นเถอะลูก ตอนนี้ลูกปลอดภัยแล้วไม่ต้องกลัว"
    ข้าพเจ้ารีบลุกขึ้นและมองไปรอบๆบริเวณนั้น แต่ไม่ปรากฏว่าจะพบผู้คนหรือพระภิกษุแก่ๆเลย ทำให้ข้าพเจ้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว
    และในเวลานั้นข้าพเจ้าก็ได้นึกถึงพระคาถาชินบัญชร ขึ้นมาได้ว่า ตอนที่ข้าพเจ้าจะหมดสติไป ข้าพเจ้าก็ได้นึกถึงพระคาถาชินบัญชร หลวงพ่อพุฒาจารย์โต (โต พรหมรังษี) ท่านคงจะมาช่วยลูกอย่างแน่แท้
    (ในขณะนั้นข้าพเจ้าไม่รู้ว่า หลวงพ่อพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ท่านมีรูปลักษณะเช่นไร แต่พอเรื่องที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าได้ผ่านไปแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เห็นรูปถ่ายของท่าน ซึ่งก็เหมือนในนิมิตของข้าพเจ้าไม่มีผิดเลย)
    พอรู้สึกตัวอีกครั้งก็ปรากฏว่าอากาศบริเวณนั้นกำลังจะมืดมิด ไม่ทราบว่าข้าพเจ้าได้หมดสติไปนานเท่าไร ข้าพเจ้าตรวจดูสิ่งของต่างๆ ทุกอย่างอยู่ในสภาพดีพร้อมที่จะใช้งานได้ (นอกจากรถที่อยู่ก้นเหว)
    ดูตามร่างกายส่วนต่างๆ ก็อยู่ในสภาพปรกติ ไม่ทราบเหมือนกันว่าข้าพเจ้าได้กระเด็นออกจากรถตั้งแต่เมื่อไร วิทยุติดต่อทางบก.ก็ติดต่อไม่ได้เลย เพราะว่าอยู่ในเหวลึกและระยะไกลเกิน
    ข้าพเจ้าเลยอธิษฐานจิตกับหลวงพ่อพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) ว่าหากว่าท่านพ่อช่วยลูกจริงๆ แล้วละก็ ขอให้ลูกได้พบกับหน่วยใดหน่วยหนึ่งที่ใกล้ที่สุดแล้วจะได้ติดต่อทางหน่วยต้นสังกัด
    ในความรู้สึกของข้าพเจ้าในตอนนั้น กำลังจะมึดมนหมดหนทางที่จะกลับฐานได้อย่างแน่นอน ก็เหลือเพียงหนทางเดียวเท่านั้น ก็ลองเสี่ยงดู พออธิษฐานจิตเสร็จข้าพเจ้าก็ท่องพระคาถาชินบัญชร ไปตลอดทาง ในระหว่างทางที่ข้าพเจ้ากำลังเดินลัดเลาะขึ้นเขาลงห้วยอยู่นั้น ก็คล้ายกับว่าข้าพเจ้ากำลังเดินกับเพื่อนๆ อีกตั้งหลายคน รู้สึกมีความอบอุ่นขึ้นจนทำให้ลืมเหตุการณ์ไปชั่วขณะหนึ่ง
    และในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้พบกับหน่วยทหารหน่วยหนึ่งที่กลับจากปฏบัติภารกิจผ่านมา ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มปีติเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าก็ได้อาศัยทหารหน่วยนั้นกลับที่ตั้งฐานอย่างปลอดภัย
    นี่ถ้าไม่ได้อานุภาพของพระคาถาชินบัญชรในครั้งนี้ป่านนี้ไม่รู้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ในสภาพเช่นไร?

    https://www.facebook.com/WipassnaYanBarami/posts/677374859033933:0
     

แชร์หน้านี้

Loading...