อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. พระบรมศาสดา และเหล่าผู้พระสาวก

โคตมพุทธวงศ์ ว่าด้วยพระประวัติของพระโคดมพุทธเจ้า
มีข้อความตอนหนึ่งว่า
"เรามีการประชุมสาวก ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ครั้งเดียว
ภิกษุประมาณ ๑,๒๕๐ รูป ได้มาประชุมกัน"
ขุ.พุทฺธ.(ไทย) ๓๓/๕/๗๑๘ มหาจุฬา ฯ

อรรถกถาพุทธวงศ์ ชื่อมธุรัตถวิสาสินี ได้อธิบายว่า
ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีสาวกสันนิบาตประชุมพระสาวกครั้งเดียวเท่านั้น คือ การประชุมพระอรหันต์สาวก ๑,๒๕๐ รูป เหล่านี้คือ ชฏิลสามพี่น้องมีพระอุรุเวลกัสสปเป็นต้น ๑,๐๐๐ รูป พระอัครสาวกทั้งสอง ๒๕๐ รูป. ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า เรามีสันนิบาตประชุมพระสาวก ผู้แสวงหาคุณยิ่งใหญ่ เพียงครั้งเดียว คือการประชุมภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป.
ขุ.พุทฺธ.อ.(ไทย) ๗๓/๗๓๐ มหามกุฏฯ

 

พระโอวาทปาติโมกข์ (คาถาที่ ๓)
อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร
มตฺฺุตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธานสาสนนฺติ ฯ
ที.ม.(บาลี) ๑๐/๕๔/๕๗ สยามรัฐ

การไม่กล่าวร้ายผู้อื่น การไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ความสำรวมในปาติโมกข์ ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร
การอยู่ในเสนาสนะที่สงัด การประกอบความเพียรในอธิจิต
นี้คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ที.ม.(ไทย) ๑๐/๙๐/๕๑ มหาจุฬา ฯ

 

ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อดวงอาทิตย์ยังปรากฏอยู่ ทรงจบเทศนานี้ แล้วเสด็จลงจากภูเขาคิชฌกูฏเสด็จไปพระวิหารเวฬุวันได้ทรงประชุมพระสาวก.ได้มีสันนิบาตประกอบด้วยองค์ ๔. องค์ ๔ เหล่านี้คือ วันนั้นเป็นวันอุโบสถขึ้น ๑๕ ค่ำ ประกอบด้วยมาฆนักษัตร ๑ ภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป ประชุมกันตามธรรมดาของตน ๆ ไม่มีใครนัดหมายมา ๑ ภิกษุเหล่านั้นไม่มีแม้สักรูปหนึ่งที่เป็นปุถุชน หรือพระโสดาบัน พระสกกาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ผู้สุกขวิปัสสก ภิกษุทั้งหมดเป็นผู้ใดอภิญญาหกทั้งนั้น ๑ มิได้ปลงผมด้วยมีดโกนบวชแม้แต่รูปเดียว ภิกษุทั้งหมดเป็นเอหิภิกขุ ๑.
อรรถกถาทีฆนขสูตร ม.ม.อ.(ไทย) ๒๐/๔๘๕ มหามกุฏฯ

 

วิธีการภาวนา คือ วิธีสังเกตตัวเอง สังเกตจิตที่มีนิสัยหลุกหลิก ไม่อยู่เป็นปกติสุข ด้วยการมีสติตามระลึกรู้ความเคลื่อนไหวของจิต โดยมีธรรมบทใดบทหนึ่ง เป็นคำบริกรรม เพื่อเป็นยารักษาจิตให้ทรงตัวอยู่ได้ด้วยความสงบสุขในขณะการภาวนา.

....หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต

 

รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ยังทำ
รู้ว่าเป็นกรรม แต่ก็ยังก่อ
รู้ว่าเป็นบาป แต่ก็ยังไม่รู้จักพอ
คนเราก็เป็นแบบนี้หนอ รู้ทุกอย่าง แตไม่รู้จัก
"ห้ามใจตนเอง".

 

ความโศก ความคร่ำครวญ และความทุกข์หลากหลายมีในโลกนี้
ย่อมเกิดมีได้เพราะอาศัยสิ่งเป็นที่รัก
เมื่อไม่มีสิ่งเป็นที่รัก ความเศร้าโศกเป็นต้นเหล่านี้ก็ไม่มี
เพราะฉะนั้น คนที่ไม่มีสิ่งเป็นที่รักในโลกไหนๆ
จึงชื่อว่ามีความสุข ปราศจากความเศร้าโศก
ดังนั้น ผู้ปรารถนาความไม่เศร้าโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี
จึงไม่ควรยึดสิ่งเป็นที่รักในโลกไหน ๆ
วิสาขาสูตร ขุ.อุ.(ไทย) ๒๕/๗๘/๓๔๑ มหาจุฬา ฯ

 

พึงดับกรรม ทางกาย วาจาจิต
ดับความคิด ปรุงแต่ง หยุดสับสน
ดับดีชั่ว ดับสุขทุกข์ ดับบุคคล
จิตหลุดพ้น เหนือบุญบาป ดับสิ้นกรรม..

 

ความรักที่แท้จริง ก็คือ การเจริญเมตตา
ในพรหมวิหาร ๔ ทุกขณะจิต
ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

เมตตาแปลว่าความรัก คำว่าความรัก ในที่นี้
ไม่ได้หมายความว่า ความรักที่ประกอบ
ไปด้วยกามคุณ เหมือนหนุ่มรักสาว สาวรักหนุ่ม
หรือ หญิงรักชาย ชายรักหญิง ปรารถนาจะครองคู่
นั่นเป็นเรื่องความรักเกี่ยวกับราคะ อำนาจของกิเลส
ไม่ใช่เมตตา-ความรัก ในพรหมวิหาร ๔

ลักษณะของเมตตา-ความรัก ในพรหมวิหาร ๔
ควรสร้างความรู้สึกคุมอารมณ์ไว้ตลอดวันว่า
เราจะหวังสร้างความเมตตาสงเคราะห์เพื่อน
ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่มีในโลกนี้ทั้งมวล
เราจะไม่สร้างความสะเทือนใจ ความลำบากกาย
ให้เกิดมีขึ้นแก่คนและสัตว์

เพราะความสุขความทุกข์ของคนและสัตว์ทั้งมวล
เราถือว่าเป็นภาระของเราที่จะต้องสงเคราะห์
หรือสนับสนุน ความทุกข์มีขึ้น เราจะมีทุกข์
เสมอด้วยเขา ถ้าเขามีสุข เราจะสบายใจ
ด้วยกับเขา มีความรู้สึกรักคนและสัตว์ทั่วโลก
เสมอด้วยรักตนเอง




https://www.facebook.com/BuddhaSattha/

 

พระโสณาเถรี เอตทัคคะในฝ่ายผู้ปรารถนาความเพียร ธิดาเศรษฐีในสมัยพุทธกาลที่บรรลุพระอรหันต์

 

พระนันทาเถรี ภิกษุณีเอตทัคคะผู้เพ่งด้วยฌาณ สตรีผู้สูงศักดิ์ในสมัยพุทธกาล

 

ทำไมพวกเราภาวนาไม่ได้ คนเรานี้กะแปลกนั่งกินข้าวเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงหรือคุยกันเป็นมื้อเป็นวันนั่งได้
บัดนั่งภาวนาว่า พุธโธ พุธโธ วันละสิบยี่สิบนาทีว่าบ่ได้ ปานนั้นอยากไปสวรรค์นิพพาน
เฮ็ดเอาเด้อเอาประโยชน์จากมันร่างกาย มีก้นบ่แม้นเอาไว้ถ่านั่งขี้ซื่อๆ..."

:: โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร ::