อ่านแล้วซึ้งใจเหลือเกิน...เลยนำมาฝากครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เมฆคล้อยอนิจจัง, 9 พฤษภาคม 2005.

  1. เมฆคล้อยอนิจจัง

    เมฆคล้อยอนิจจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +150
    ปรัชญา ปารมิตาหฤทัยสูตร
    พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร....................ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง
    ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว.........ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า
    และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง.......พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้
    สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง...........ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป
    รูปคือความว่างนั่นเอง ....................และความว่างก็คือรูปนั่นเอง
    เวทนา สัญญา.........................สังขาร และวิญญาณ
    ก็เป็นดังนี้ด้วย........................สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย
    มีธรรมชาติแห่งความว่าง ................. ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง
    ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ...........ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง
    ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป.................. ไม่มีเวทนา หรือสัญญา
    ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณ ............... ไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น
    ไม่กายหรือจิต ..............................ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส
    ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์............. ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ
    ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา.......ไม่มีความแก่และความตาย
    และไม่มีความดับลงซึ่งความแก่..............และความตาย ไม่มีความทุกข์
    และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์...........ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์
    และไม่มีมรรคทางให้ถึง.......................ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์
    ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง..........เพราะไม่มีอะไรที่จะต้องลุถึง
    พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา........จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก.........อุปสรรคสิ่งกีดกั้น
    พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ.............ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตา
    ลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด................พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
    ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา...............ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น
    อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง.......ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา
    เป็นมหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์..................เป็นมนต์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่
    เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นยิ่งกว่า.............เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดมาเทียบได้
    ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง............นี่เป็นสัจจะ
    เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล .............ดังนั้น จงท่องมนต์แห่งโลกุตรปัญญา
    คะเต คะเต ปาระคะเต....................... ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา
    ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น.....................ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง
    ลุถึง........................................... การรู้แจ้ง
    ความเบิกบาน.....................................โอม
    (ping-love
    จาก http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/004640.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...