เรื่องเด่น อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล สนทนากับพญายม เมื่อพระอยู่ในนรก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กล่องไม้ขีดไฟ, 12 มิถุนายน 2017.

  1. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    เกี่ยวแน่

    อาจารย์ที่คุณนำมาลงในกระทู้นี้ก็บอกเองว่า

    "ผู้ใดก็ตาม ที่บิดเบือนคำสอนของพระบรมศาสดา ทำให้คนไม่หนักแน่นในฐาน เกิดการขัดแย้งกับข้อหิริ โอตัปปะ คือความละอายชั่วกลัวบาป ก็เท่ากับปรามาสคำสอนของพระพุทธองค์ไปในตัว ผิดแค่องศาเดียว แต่เป็นองศาที่เป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ต้องประสบกรรมหนักหนานัก ส่วนกรรมของผู้ที่แอบอ้างเอาธรรมมาหากิน มาแสวงหาลาภ ยศ สรรเสริญ นี่คงไม่ต้องพรรณา"

    กด like คือชื่่นชอบส่วนตัว ไม่ผิดกฏหมายเป็นปัจจตัง แต่กด "Share" มีความผิดตามกฏหมาย ครบองค์ประกอบความผิด มีส่วนร่วมในการสนับสนุนมิจฉาทิฐิ "สัทธธรรมปฏิรูป" จะตีเนียนว่าไม่เกี่ยวไม่ได้นะครับ^^

    อาจารย์คนนี้ชี้ไปที่ภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ต้องตีความก็รู้ว่าหมายถึงภิกษุรูปไหน ก็ไม่รู้ว่าแกมีจุดประสงค์อะไรที่ทำแบบนี้จริงๆกันแน่นะครับ^^
     
  2. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    นั้นแชร์อีก นะ คุณศิษย์โง่(ไม่รู้สมชื่อหรือเปล่า?)

    สนทนากับหลวงพ่อพระฤาษี ลิงดำ เนื่องด้วย

    หนังสือ ฆราวาสบรรลุธรรม

    เช้าวันพุธที่ 16 มีนาคม 2559 เป็นวันที่อาจารย์ต้องเขียนโพสต์สอนศิษย์ใน Techoblog.org แต่วางแผนไว้แล้วว่า เขียนไม่ได้แน่นอนเพราะต้องเร่งตรวจปรู๊ฟหนังสือฆราวาสบรรลุธรรม Breaking the Code ที่มี deadline ต้องส่งภายในก่อนเที่ยงวันนี้ เพื่อให้วางจำหน่ายให้ทันงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในสิ้นเดือนมีนาคม การตรวจปรู๊ฟหนังสือ 300 กว่าหน้าทำมา 3 วันแล้วก็ยังไม่เสร็จ เพราะแม้จะมีผู้ช่วยแก้แล้วก็ยังมีพลาดและผู้เรียงพิมพ์ก็มีพลาดเช่นกันเป็นเรื่องธรรมดา

    ขณะที่กำลังขมักเขม้นอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งคือโต๊ะทานอาหาร และโต๊ะสารพัดนึก เมื่อตรวจอ่านไปถึงบทการบรรลุธรรม 3 ระดับ คือระดับสัพพัญูผู้รู้แจ้ง ระดับโพธิญาณของพระโพธิสัตว์ และระดับอรหันต์ เมื่อมาถึงระดับที่สองคือ ระดับโพธิญาณ จิตได้เชื่อมถึงกระแสคำว่า “จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ”ทำให้จิตนึกถึงพระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้เขียนคำทำนายนั้น และในทันที กระแสจิตของหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ ก็สื่อส่งมาถึงอาจารย์ พร้อมด้วยกระแสพระรัตนตรัยแผ่ซ่าน ท่านกล่าวว่าเพราะจิตอาจารย์พุ่งไปหาท่าน จึงได้มีการสื่อสารทางวิถีจิตชั่วขณะ

    เมื่อเห็นว่า เป็นโอกาสอันดีและจะได้ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อก่อนจะส่งหนังสือเข้าพิมพ์ ด้วยท่านเป็นผู้มีบารมีญาณสูงมาก หนังสือเล่มนี้ก็เผยธรรมชั้นสูงและมีผลต่อการหลุดพ้นของฆราวาส อาจารย์ได้วางงานตรวจชั่วขณะ แล้วตั้งจิตได้สื่อยังดวงจิตหลวงพ่อฤาษีลิงดำอย่างเป็นทางการและเป็นเรื่องเป็นราว สำหรับผู้ที่เป็นศิษย์สายท่าน หากเข้ามาอ่านก็ขอให้อ่านด้วยใจที่ไม่มีอคติ ท่านจะได้ความรู้ดีๆ ไป

    หลังจากนมัสการด้วยความยินดีปรีดาที่ได้สื่อสารทางวิถีจิตถึงท่านตรงๆ เพราะแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยคิดจะส่งจิตถึงท่าน แต่มีความเคารพนับถือในวัตรปฏิบัติและปรีชาญาณรวมถึงความเป็นปูชนียบุคคลที่ท่านมีเจตนารมย์แรงกล้าในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา เมื่อมีสังขารอยู่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านได้ เผยแพร่สายธรรมมโนยิทธิ (ฤทธิทางใจ) เพื่อให้คนที่พอมีวาสนาเดิมมา ได้รู้ได้เห็นว่า นรกสวรรค์มีจริงจะได้ทำตนมีศีลมีสัตย์ อีกทั้งยังสอนให้เหล่าศิษย์มุ่งหน้าสู่นิพพาน หลวงพ่อพระอรหันต์เจ้าท่านละสังขารไปเมื่อปี 2535 สิริอายุขัย 76 ปี ยามนี้ด้วยมีเหตุเชื่อมถึงจึงกราบเรียนถามท่าน….. (หมายเหตุ อาจารย์สื่อถึงท่านด้วยสถานะทางจิต ไม่ใช่แบบสมมติทางกายเนื้อ หลวงพ่อท่านก็กล่าวแก่อาจารย์ด้วยสถานะทางจิตเช่นกัน ความที่ถ่ายทอดมาจึงเป็นเนื้อหาล้วนๆ ไม่มีการใช้คำนำ หรือคำพูดแบบมนุษย์โลกเช่น ค่ะ แบบโยมผู้หญิง ท่านก็มิได้ใช้คำว่าอาตมาหรืออื่นใด เป็นการคุยกันทางจิต แบบไร้เพศจริงๆ)

    “ หลวงพ่อฤาษีเขียนคำทำนายนี้เองหรือไม่อย่างไร ท่านรู้มั้ยว่า ในทางโลกมีคนกล่าวอ้างว่าท่านไม่ใช่ผู้เขียนคำทำนายนี้ โดยกล่าวว่ามีคนเอาชื่อท่านไปแอบอ้าง” หลวงพ่อพระฤาษีกล่าวว่ายืนยันว่า ท่านเขียนเองและผู้ที่ไปอ้างเช่นนั้นก็จะต้องได้รับผลกรรมของเขาเอง

    “แล้วหลวงพ่อฤาษีรู้เรื่อง นารีขี่ม้าขาวได้อย่างไร ว่าเป็นใครและจะมาเมื่อไหร่”

    “รู้จากหลวงปู่เทพโลกอุดร (เป็นการประสานกันทางจิต)”

    หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านเป็นผู้สำเร็จตั้งแต่ยุค 500 ปีหลังพระพุทธกาล มีข่ายพระญาณสูงมาก สถานะทางโลกวิญญาณของท่านสูงกว่าที่คนในโลกคิดว่าท่านเป็นมากนัก หากไปอ่านในหนังสืออาจารย์จะเข้าใจได้

    อาจารย์กราบเรียนถามความอีกมาก พร้อมทั้งขอคำแนะนำในการรับมือกับสิ่งที่จะตามมาหลังจากหนังสือนี้ออกไป ท่านได้เมตตาให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากโดยพุ่งไปที่ศิษย์ฆราวาสที่มีจิตเป็นอริยะ หลวงพ่อฤาษีได้กล่าวถึงการจะส่งศิษย์ของท่านมาเป็นศิษย์อาจารย์ และได้กล่าวถึงเรื่องราวต่างๆ หลายเรื่องเกี่ยวด้วยสภาวะธรรมขั้นสูง ส่วนการสื่อสนทนา ที่พอนำมาเผยได้โดยขออนุญาตแล้วมีดังนี้

    อาจารย์เรียนท่านไปว่า ศิษย์มโนยิทธิเมื่อมีมาเรียนกับอาจารย์ ก็ไม่เคยเรียนให้ได้มรรคผล เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ท่านเมตตาตอบว่า เพราะเขามาเรียนแค่มาหาอาหาร ไม่ได้มุ่งมั่นต่อนิพพานอย่างแท้จริง คือส่วนมากติดอภิญญา มาเรียนเพื่อแสวงหาทางเพิ่มอภิญญาของตน

    “ หลวงพ่อฤาษีรู้สึกอย่างไร ที่ศิษย์ที่ไปปฏิบัติในสายท่านเป็นจำนวนมาก กลายเป็นผู้ลุ่มหลงแสวงอภิญญา มีคนเดินเข้าออกไปเรียนชนิดหัวบันใดไม่แห้ง คนที่พอได้ก็ไม่ตั้งอยู่ในโลกของความจริง มัวแต่ท่องนรกสวรรค์เที่ยวเล่นอยู่ ไม่เป็นตามปณิธานของท่านที่เผยแพร่ธรรมนี้เพื่อให้คนมีความละอายชั่วกลัวบาป ตระหนักตื่นในคำสอนเรื่องนรกสวรรค์ของพระบรมศาสดา”…ท่านเมตตาตอบว่า

    “รู้สึกสลดสังเวช ที่คนสมัยนี้เอาธรรมของพระพุทธเจ้า มาเรียนรู้เป็นของเล่น อย่างไม่มีความเคารพในธรรม บางคนยังเอาไปสู่การทำมาหากิน สร้างลาภยศสรรเสริญใส่ตัวเอง ท่านสลดสังเวชใจ”

    อาจารย์กราบเรียนว่า ศิษย์ของท่านได้สื่อจิตไปเฝ้าจิตท่านเสมอ หลวงพ่อได้เตือนเขาเหล่านั้นเพียงใด ..ท่านว่า เตือนแล้วแต่ก็มีผู้ลุ่มหลงมาก การที่ท่านไม่มีกายเนื้อแล้ว ทำให้การสื่อจิตออกไปสู่นรกสวรรค์ ซึ่งเป็นโลกียะภูมิ ระหว่างทางที่ไป จิตที่มีกิเลสและลุ่มหลงในอภิญญา ทำให้ติดกับดักของกิเลส ทำให้เกิดมีการสำเนากายทิพย์ให้เห็นเป็นจิตท่านขึ้นมามากมาย ผู้ที่ได้พบดวงจิตท่านจริงๆ มีน้อยมาก ท่านย้ำว่า การที่ได้เข้าถึงกายทิพย์ของท่านจริงๆ หากกล่าวเป็นเปอร์เซนต์แล้วจะน่าตกใจ ท่านยังเมตตาอีกว่า อีกหน่อย เมื่ออาจารย์เองละสังขารไปแล้ว ก็จะถูกสำเนากายทิพย์ขึ้นมาด้วยอำนาจของกิเลส เพื่อมาลวงให้ธรรมเสียหาย ผิดเพี้ยน และต่อไปก็จะแตกสายไปและถูกทำให้ผิด เสื่อมเสียหายไปในที่สุด เพราะเมื่อไม่มีกายเนื้อแล้ว ก็ควบคุมยาก

    การมีกายเนื้อนั้นสำคัญมากเพราะเป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้สายธรรมนั้นเข้มแข็งอยู่ได้ พระรัตนตรัยต่างมีความห่วงใยในกายสังขารของอาจารย์ยิ่งนัก ต้องการให้รักษาธาตุขันธ์ไว้ไม่ให้ทรุด สรุปท้ายท่านเมตตาทิ้งท้ายไว้ว่า . “..มันเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง”

    อาจารย์น้อมนมัสการทำความเคารพท่าน ท่านก็ให้เกียรติสภาวะจิตของอาจารย์ อาจารย์ได้กราบเรียนแก่หลวงพ่อฤาษีว่า ขอให้ท่านโปรดเห็นอาจารย์เป็นดั่งลูกหลาน หากมีอันใดที่จะเมตตาชี้แนะขอนิมนต์ท่านอย่าได้เกรงใจผู้มาถึงใหม่ และต้องมารับภาระอันหนักมาก
     
  3. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    นั้นก็ไปเถียงกับหลวงตาบัวเอาแล้วกัน

    ระหว่างนิวรณ์ vs หลวงตาบัว ใครไปนรกก่อนกัน..
    ผมจะนั้งเชียร์
     
  4. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    นี้ผลของสัทธธรรมปฏิรูป
    "อาจารย์รู้มาว่าพระภิกษุผู้น่าเลื่อมใสรูปหนึ่ง ท่านละสังขารไปนานพอควร ท่านเขียนสอนสั่งธรรมอย่างแยบยลและคมคาย มีผู้นับถือศรัทธาท่านมากทั่วประเทศ เมื่อท่านละสังขารไปแล้ว คำสอนของท่านก็เผยแพร่มากมายกว่าเดิมนัก
    “ ท่านพญายมราช เราขอคำยืนยันจากท่านหน่อยเถอะ ท่านภิกษุ…อยู่กับท่านใช่มั้ย”
    “ใช่แล้วพระคุณเจ้า ถูกเผาอยู่ในนรกภูมินี้
    ”"
     
  5. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    พระแต่งพระไตรปิฏก ในคนอ่าน
    คนก็อ่าน มันไม่รู้หลอก เขายัดไส้อะไรไว้บ้าง

    เป็นกรรมของคนยุคนี้จริงๆ รวมถึงผมด้วย ชอบอ่าน

    พวกถือตำรา ก็ยึดตำราที่ตนอ่าน ใครเขียนต่างที่ตนอ่านมา เถียงชนฝา
    ผมเห็นตอนไปเรียนที่วังน้อย(ตอนบวชอยู่)

    ในหมู่พระที่เรียนด้วยกัน
    เรียกว่าอวดภูมิรู้ตัวเองกันเต็มที่

    จนมาสรุปกัน ที่เราเรียนตำรากัน ใครเป็นคนคัดลอก ใครเป็นคนแปล?
    ภาษามันไม่ตาย มันดิ้นไปมาได้
     
  6. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ดูอย่างกรณีธรรมกาย พระในนั้น เรียนจบประโยคเก้า เกือบร้อยท่าน

    ถึงขนาดแต่งพระไตรปิฎกเอง แต่งด้วยภูมิจิตภูมธรรมทีตัวเองพอใจ

    ไปในภาคหน้า ก็จะมีคนอ่าน คนทั้งหลายพากันจำ

    ต่อไปก็มีคนแบบนิวรณ์ ต้องฟังพระธรรม ฟังคำพระศาสดาเท่านั้น
    และเข้าใจตัวเองว่าบรรลุธรรม
     
  7. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เอามาแชร์ประกอบ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กั๊กๆๆๆๆ อารมพาบด เสียมากมาย วังน้งวางน้อย

    กล่าวหา นักตำรา ยกว่าพระไตรปิฏกผิดเพี้ยน

    แต่พอกล่าวอะไรลอยๆ เลื่อนๆ เปนเพียงโวหาร
    สุดท้ายกลับมาแสรปว่า

    ฟังคำ "พุทธวจน" เท่านั้น

    ลุกเพ่ เอาเท้าขยี้พระไตรปิฏก หาว่า ถูกปลอมปน

    ถามหน่อย

    แล้ว พุทธวจน ของลุกเพ่ อยู่คลองไหน ฮับ
     
  9. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    5. มูลเหตุแห่งสิ่งทั้งหลายในสากลโลกธาตุ

    พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เว้นมหาปัฏฐาน มีนัยประมาณเท่านั้นเท่านี้ ส่วนคัมภีร์มหาปัฏฐาน มีนัยหาประมาณมิได้เป็น "อนันตนัย" เป็นวิสัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรอบรู้ได้ เมื่อพิจารณาพระบาลีที่ว่า เหตุปจฺจโย นั้นได้ความว่า เหตุซึ่งเป็นปัจจัยดั้งเดิมของสิ่งทั้งหลายในสากลโลกธาตุนั้นได้แก่ มโน นั่นเอง มโน เป็นตัวมหาเหตุเป็นตัวเดิม เป็นสิ่งสำคัญ นอนนั้นเป็นแต่อาการเท่านั้น อารมฺมณ จนถึงอวิคฺคต จะเป็นปัจจัยได้ก็เพราะมหาเหตุคือใจเป็นเดิมโดยแท้ ฉะนั้น มโนซึ่งกล่าวไว้ในข้อ ๔ ก็ดี ฐีติ ภูตํ ซึ่งจะกล่าวในข้อ ๖ ก็ดี และมหาธาตุซึ่งกล่าวในข้อนี้ก็ดี ย่อมมีเนื้อความเป็นอันเดียวกัน พระบรมศาสดาจะทรงบัญญัติพระธรรมวินัยก็ดี รู้อะไรๆ ได้ด้วย ทศพลญาณ ก็ดี รอบรู้ สรรพเญยฺยธรรม ทั้งปวงก็ดี ก็เพราะมีมหาเหตุนั้นเป็นดั้งเดิมทีเดียว จึงทรงรอบรู้ได้เป็นอนันตนัย แม้สาวทั้งหลายก็มีมหาเหตุนี้แลเป็นเดิม จึงสามารถรู้ตามคำสอนของพระองค์ได้ด้วยเหตุนี้แลพระอัสสชิเถระผู้เป็นที่ ๕ ของพระปัญจวัคคีย์จึงแสดงธรรมแก่ อุปติสฺส (พระสารีบุตร) ว่า เย ธมฺมา เหตุปภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ ความว่า ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ.....เพราะว่ามหาเหตุนี้เป็นตัวสำคัญ เป็นตัวเดิม เมื่อท่านพระอัสสชิเถระกล่าวถึงที่นี้ (คือมหาเหตุ) ท่านพระสารีบุตรจะไม่หยั่งจิตลงถึงกระแสธรรมอย่างไรเล่า ? เพราะอะไร ทุกสิ่งในโลกก็ต้องเป็นไปแต่มหาเหตุถึงโลกุตตรธรรม ก็คือมหาเหตุ ฉะนั้น มหาปัฏฐาน ท่านจึงว่าเป็น อนันตนัย ผู้มาปฏิบัติใจคือตัวมหาเหตุจนแจ่มกระจ่างสว่างโร่แล้วย่อมสามารถรู้อะไรๆ ทั้งภายในและภายนอกทุกสิ่งทุกประการ สุดจะนับจะประมาณได้ด้วยประการฉะนี้
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เชยระเบิดระเบ้อ

    เอางี้

    ถ้า ลวกเพ่ มีจิตมะเกอะมะดับ เปง หะมาเหงก

    ไหน ลวกเพ่ ควัก สัพพัญูญ ออกมาจาก จิต
    สันติเที่ยง เปนของมะอึ มาให้ดูหน่อย


    ปล.ลิง น้องๆหนูๆ ที่เพ่งธรรม เหนได้ถึงความ
    เคลื่อนไป(มนะ มโน) ให้กำหนดรู้การ เคลื่อนนั้น

    ดัวนั้น ข้อความอันใดปรากฏ ก้ให้ทรงจำให้ดี
    จำให้ขึ้นใจ สาธยายด้วยก้ได้ แต่ให้กำหนดรู้
    "ความพอใจในธรรมวาที" ที่เกิด แล ไม่เกิด
    ให้แยบคาย

    ก้จะรู้วิธีฟังธรรม ที่พ้นภาษา มีความเลื่อมใส
    ในธรรมที่รุ่งเรืองนั้น แล้ว โยนิโสมนสิการวาง
    มุมของใจให้แยบคาย ก้จะเปน หนึ่ง
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    นั้นเอาอย่างนี้
    เลิกมาบ้ายุ่งกับผม
    ผมคนบ้า นะจะบอกให้

    นิวรณ์ จงไป ตามทางท่านเถิด
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กั๊กๆๆ หะมาเหตุ เหนแล้ว เหนจริง ยืนยัน

    รู้อนันตนัย

    มะอึ ควักมาสิ สัพพัญญู อะไรนั่นหนะ

    ให้เด็กเจ็ดขวด อ่าน ยังรู้เลย มโน แปลว่า
    เคลื่อน เปลี่ยนแปลง แปลกปลอม ออกไปจากฐานรู้

    ตกไปจากฐานรู้ แล้ว จะมีฐานะ ว่ารู้รอบ สักแต่ว่า ได้หรอ

    ฮะเอ่อ

    ในเมื่อ สัจจที่เคยกล่าวว่า การสนทนากับอีก
    ฝ่ายมีรสดี ควรทำการสนทนา ลับปัญญตน
    ได้ ไม่เกิดที่คุณจริง

    งั้นก้ว่าไปตามนั้นฮับ มะยุ่งก้ล่าย


    จิตมะเกิดมะดับสันติ!!!!
     
  13. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    อ่า....ครับ ผมก็โง่สมชื่อนั่นแหละครับ แต่ระวังจะเจอคนโง่"อัด"เอาแล้วจะเสียแมวเอานะครับ ก็ลองไปสอบถามคนที่เคยพูดแบบนี้คนก่อนดูได้นะครับ^^


    แต่ตอนนี้ก็อย่างที่บอกกะเอาว่าจะดูเว็บนี้ อย่างห่างๆ แบบห่วงๆ อารมณ์สงบนิ่งกำลังเข้า เพราะเห็นคนที่คล้ายแบบคุณบ่อยๆมันก็เลยสงบนิ่ง ปลงอนิจจัง - กมฺมุนา วตฺตตี โลโก - -/\-

    ก็เลยปล่อยๆไปก่อนนะครับ^^
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ครับ ก็เปิดกระทู้ไว้ล่อเป้า โดนอัดอยู่แล้ว มันจะโดนแบบไหนก็เท่านั้น รออยู่
    ผมมีเป้าหมายนะ คืออยากรู้เวลาเราเขียนไป มันจะเด้งมาแบบไหน
    เพราะในเวปนี้มีหลายประเภท มันน่าสนใจนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2017
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ผมมองอย่างนี้นะคุณศิษย์...

    เราเกิดมาในโลกนี้เพราะโง่แต่กำเนิด
    เพราะเรามีจิตอวิชชาพาดวงจิตเจ้าของมาเวียนว่ายตายเกิด

    อำนาจจิตอวิชชา มันกุมอำนาจความรู้สึกเจ้าของไว้

    มันนั้งบันลังก์ สั่งการให้เจ้าเชื่อตามมัน
    พาให้เห็นผิด ให้กงจักรเป็นดอกบัว

    คุณศิษย์..มองพระแต่ภายนอกเช่น
    เห็นหลวงตาบัว ทำน้ำมนต์
    เห็นหลวงปู่แหวน ดูดบุหรีทั้งวัน
    เห็นหลวงปู่ตื้อ ด่าโยมด้วยคำหยาบคาย
    เห็นหลวงปู่เจี้ยะ ตีขว้างทั้งวัน
    เห็นหลวงพ่อคูณ นั้งไม่เรียบร้อย
    แค่ยกตัวอย่างนะ

    เวลาจิตอวิชชามันวางอำนาจสั่งการ ความรู้สึกเจ้าของ
    มันจะออกความเห็นบอกเจ้าของก่อนนะ ให้เจ้าของเชื่อมัน

    มันจะโจมตี พระพวกนี้ไม่ดี มันก็ยกเหตุผลมาอ้างอิงด้วยเหตุผลด้วยสวยหรู

    เจ้าของโง่อยู่แล้ว(ถ้าไม่โง่คงไม่มาเกิด) ก็เชื่อหมด
    จนให้เจ้าของมืดบอดสนิท แล้วอ้างว่าพระนั้น คนนั้น ไม่ดี เลว ชั่ว

    ฉะนั้นอย่าเชื่อความรู้สึกเจ้าของมากนัก เพราะมันมีจิตอวิชชากุมบังเหียนเจ้าของอยู่

    ต้องระวังความรู้สึกตัวเองให้มาก ต้องสอนเจ้าของให้ได้
    ไม่ใช่ ได้เห็นได้ยิน อะไรมา เชื่อหมด

    ใช้หลักกาลามสูตร ดูความรู้สึกตัวเองที่มันถูกบงการมาจากจิตอวิชชา พาหลงผิด..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2017
  16. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    ลบละ จะเอาไงก็ว่าไปตามนั้น จะอวิชชา หรือกะลามาพิสูจน์ ก็แล้วแต่คุณพี่ ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วยละ

    เพราะพึ่งจะเห็นว่าทาง Mod เอาธรรมมะลักษณะนี้มาขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

    โดยส่วนตัว(ผมคนเดียว) ก็คิดว่าห่างๆเว็บนี้ไปก่อนดีกว่า มันไม่ใช่แนวของผม

    ก็คงมีคนดีใจหลายคนทีเดียว 555 ^^
     
  17. ครูเรือง

    ครูเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2010
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +686
    พระศรีอาริย์ จะมาเกิด พ.ศ. 1,002,531 ที่ประเทศพม่า ครับ
     
  18. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    เขียนได้ดีทีเดียวครับ
     
  19. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    เห็นด้วยครับ ผมว่าทางเวปมาสเตอร์ควรมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าข้อมูลถูกต้องไหม เหมาะสมไหม ก่อนที่จะนำมาเป็นกระทู้แนะนำ...
    ผมเห็นหลายกระทู้เลยที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม แต่เอามาเป็นกระทู้แนะนำ...มีอยู่กระทู้หนึง เขียนให้เข้าใจหลักศาสนาผิด ดันเอามาเป็นกระทู้แนะนำ... มีคนอ่านเป็นหลายหมื่นครั้ง.... กรรมไหมล่ะ

    จากส่งเสริมกลายเป็นทำลายซะนี่
     
  20. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +467
    อ่านแล้วพิจารณา จะไม่ปรามาสใดๆ ของผู้ใดทั้งสิ้น มันจะแย้งโดยการปรุงแต่งกันไม่จบสิ้น ที่สุดแล้วอยู่ที่ตัวเราได้ลงมือปฏิบัติหรือยัง เอหิปัสสิโก ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ตนเอง โดยการน้อมคำสอนเข้ามาใส่ตน โอปนยิโก และที่สุดคือ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ ตนจะรู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น อธิบายให้เข้าใจเรื่องกรรมกันโดยไม่ได้ปฎิบัติไม่ได้ มันไม่มีที่สิ้นสุด ได้แค่กล่าวกันคร่าวๆ ให้พอเข้าใจเบื้องต้นเท่านั้น อนุโมทนาบุญครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...