เกิดอะไรขึ้นในยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย น า ทู รี, 19 ธันวาคม 2011.

  1. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    ช่วงนี้ที่ท้องสนามหลวง มีพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้ากัสสปะ ท่านเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่สาม หรือองค์ก่อนหน้า ที่จะมาถึงสมเด็จพระสมณโคดม ในยุคของพวกเราจ้ะ

    [​IMG]

    www.th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2

    พระกัสสปะพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์นี้ ทรงจุติลงมาในโลกมนุษย์หลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระโกนาคมพุทธเจ้าแล้ว

    โดยนับตั้งแต่อายุมนุษย์ลดลงจากสองหมื่นปีเหลือ 10 ปี แล้วเพิ่มขึ้นจนถึงสองหมื่นปีอีกครั้ง พระองค์จึงเสด็จลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    พระองค์เกิดในตระกูลพราหมณ์ บิดานามว่าพรหมทัต มารดานามว่าธนวดี มเหสีนามว่าสุนันทา มีโอรสชื่อว่าวิชิตเสน ทรงเป็นฆราวาสอยู่ 2,000 ปี เมื่อเห็นเทวทูตทั้งสี่ จึงออกผนวช บำเพ็ญเพียรอยู่ 7 วันก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

    พระอัครสาวกของพระองค์คือพระติสสเถระและพระภารทวาชเถระ พระอัครสาวิกาคือพระอนุลาเถรีและพระอุรุเวลาเถรี อัครอุบาสกคือ สุมงคลอุบาสกและฆฏิการอุบาสก อัครสาวิกาคือวิชิตเสนาอุบาสิกาและภัททาอุบาสิกา พระกายสูง 20 ศอก

    รัศมีพระกายเหมือนจันทร์ทรงกลด มีพระชนมายุได้สองหมื่นปี พระศาสนาของพระองค์อยู่ได้สองหมื่นปี

    ในสมัยพุทธกาลนี้ พระโคตมพุทธเจ้าได้เกิดเป็นโชติปาลมานพ สหายของฆฏิการอุบาสก ได้ฟังธรรมแล้วมีจิตเลื่อมใสจึงออกบวช

    และได้รับพุทธพยากรณ์ว่าต่อไปภายหน้า โชติปาลภิกษุ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

    [​IMG]

    พระทันตธาตุ อัญเชิญมาจากประเทศภูฐาน ให้ชาวไทยได้สักการะ ก็พอดีมีความสนใจเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ จึงไปค้นดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน ก็ได้เจอบทความที่น่าสนใจนี้จ้ะ

    เกิดอะไรขึ้นในยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ
    คัดจากพระไตรปิฎก เล่ม 33

    " ในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ พระนายก พระนามว่า วิปัสสี ผู้มีพระเนตร
    งาม ทรงเห็นแจ้งธรรมทั้งปวง ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว เราเป็นผู้มีจิต
    ขัดเคือง ได้พูดตู่สาวกของพระพุทธเจ้าผู้คงที่พระองค์นั้น ผู้สิ้นอาสวะ
    ทั้งปวงแล้ว

    ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ และเราจับสลากแล้ว
    ถวายข้าวสุกที่หุงด้วยน้ำนม แก่พระเถระทั้งหลายผู้แสวงหาคุณอัน
    ใหญ่ผู้เป็นสาวกของพระผู้แกล้วกล้ากว่านรชนพระองค์นั้นแหละ

    ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของพรหม มีพระยศใหญ่
    ประเสริฐกว่านักปราชญ์ พระนามว่ากัสสป ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
    พระองค์ทรงยังศาสนธรรมให้รุ่งโรจน์ ข่มขี่เดียรถีย์ผู้หลอกลวงเสีย
    ทรงแนะนำเวไนยสัตว์แล้ว เสด็จปรินิพพานพร้อมทั้งพระสาวก

    ครั้นเมื่อพระโลกนาถพร้อมทั้งพระสาวกปรินิพพานแล้ว ครั้นเมื่อ
    พระศาสนธรรม กำลังจะสิ้นศูนย์อันตรธาน ทวยเทพและมนุษย์พา
    กันสลดใจ สยายผม มีหน้าเศร้า คร่ำครวญว่า ดวงตาคือธรรมจัก
    ดับแล้ว เราจักไม่ได้เห็นท่านที่มีวัตรดีงามทั้งหลาย เราจักไม่ได้ฟัง
    พระสัทธรรม น่าสังเวช เราเป็นคนมีบุญน้อย

    ครั้งนั้น พื้นปฐพีทั้งหมดนี้ ทั้งใหญ่ทั้งหนา ได้ไหวสะเทือน สาครสมุทรพูดได้ แม่น้ำร้องอย่างน่าสงสาร

    อมนุษย์ตีกลองดังทั่วทั้งสี่ทิศ อสนีบาตอันน่ากลัว ตกลงไปรอบๆ อุกกาบาตตกจากท้องฟ้า

    ดาวหางปรากฏเกลียวแห่งเปลวไฟมีควันพวยพุ่ง หมู่มฤคร้องครวญครางอย่างน่า
    สงสาร


    ครั้งนั้น เราทั้งหลายเป็นภิกษุรวม ๗ รูปด้วยกัน ได้เห็น
    ความอุบาทว์อันร้ายแรง แสดงเหตุว่าพระศาสนาจะสิ้นสูญ จึง
    เกิดความสังเวช คิดกันว่า เว้นพระศาสนาเสีย ไม่ควรที่เราจะมี
    ชีวิตอยู่

    เราทั้งหลายจึงเข้าไปสู่ป่าใหญ่แล้วจะบำเพ็ญเพียรตาม
    คำสอนของพระชินสีห์เจ้า ครั้งนั้น เราทั้งหลายได้พบภูเขาหินใน
    ป่าสูงลิ่ว เราไต่มันขึ้นทางพะอง แล้วผลักพะองให้ตกลงเสีย

    ครั้งนั้น พระเถระได้ตักเตือนเราว่า การอุบัติแห่งพระพุทธเจ้าหา
    ได้ยาก อีกประการหนึ่ง ความเชื่อที่บุคคลได้ไว้ ก็หาได้ยาก
    และพระศาสนายังเหลืออีกเล็กน้อย ผู้ที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเสีย
    จะต้องตกลงไปในสาคร คือความทุกข์อันไม่มีที่สิ้นสุด

    เพราะฉะนั้น พวกเราควรกระทำความเพียร ตลอดเวลาที่พระศาสนายังดำรงอยู่
    เถิด ดังนี้ ครั้งนั้น พระเถระนั้นเป็นพระอรหันต์ พระอนุเถระ
    ได้เป็นพระอนาคามี พวกเราที่เหลือจากนี้ เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์
    ประกอบความเพียร

    จึงได้ไปยังเทวโลก องค์ที่ข้ามสงสารไปได้ปรินิพพานแล้ว
    อีกองค์หนึ่งเกิดในชั้นสุทธาวาส

    เราทั้งหลาย คือ ตัวเรา ๑ พระปุกกุสาติ ๑ พระสภิยะ ๑ พระพาหิยะ ๑
    พระกุมารกัสสป ๑ เกิดในที่นั้นๆ อันพระโคดมบรมศาสดา ทรง
    อนุเคราะห์ จึงหลุดพ้นไปจากเครื่องจองจำ คือสงสารวัฏได้ "

    [​IMG]

    จากบทความนี้ มีคนที่วิเคราะห์กันว่า ในยุคของพระพุทธเจ้ากัสสปะ คงจะมีภัยธรรมชาติรุนแรง ขนาดดาวหางชนโลก จนเกิดแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ จนถึงน้ำท่วม

    www.topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2007/12/X6116960/X6116960.html

    มีคนคาดว่า ท่านอาจจะเป็นมนุษย์จากดาวดวงอื่น เพราะรูปร่างสูงใหญ่มาก และอายุยืนยาวมากจ้ะ
     
  2. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    เนื่องในวโรกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา (5 ธ.ค. 2554) รองพระสังฆราชจากภูฎาน ได้นำพระทันตธาตุ ของพระกัสสปะพระพุทธเจ้า มาให้พุทธศาสนิกชนชาวไทย สักการะบูชา ที่สนามหลวง

    [​IMG]

    พระกัสสปะ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สาม ที่มาจุติในโลกยุคนี้ ซึ่งจะมีพระพุทธเจ้ามาโปรดรวม 5 องค์ด้วยกัน

    หนึ่ง พระกกุสันโธ (สัญญลักษณ์ไก่)

    สอง พระโกนาคม (นาค)

    สาม พระกัสสปะ (เต่า)

    สี่ พระพุทธโคดม (วัว)

    ห้า พระศรีอารย์ (สิงห์)

    พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ที่มาโปรด จะเว้นช่วงระยะเวลาห่างกัน เป็นหมื่นเป็นแสนปี ถ้าเป็นพระกัสสปะ ก็ไม่รู้ว่ามาโปรดเมื่อกี่แสนปีมาแล้ว

    พระพุทธเจ้าแต่ละองค์ มีอายุไม่เท่ากัน องค์แรกมีอายุแปดหมื่นปี ต่อมาอายุก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะทำกรรมกันมากขึ้น

    จนมาถึงยุคพระพุทธเจ้าของเรานี้ (พระโคดม) มีอายุเพียงร้อยปีเท่านั้น ถือว่าสั้นที่สุด เพราะคนมีกิเลสหนามาก ทำบาปมาก ฆ่าฟันกันตลอด ดูจากประวัติศาสตร์ก็ได้

    ต่อไปยุคพระศรีอารย์ ซึ่งก็อีกหลายแสนปี ผู้คนจะอายุยืนเป็นหมื่นๆ ปี เหมือนในยุคแรกๆ ใครเกิดในยุคพระศรีอารย์ อยู่กันเบื่อทีเดียวแหละ

    คิดเล่นๆ ว่า โลกเรานี้ คงจะเพิ่งเจริญมาเมื่อหมื่นปีนี้เอง มนุษย์เริ่มตั้งแต่ยุคหิน ยุคเหล็ก ยุคสัมฤทธิ์ จนมาถึงยุคพลาสติก ยุคคอมพิวเตอร์นี่แหละ

    เมื่อหมื่นปีที่แล้ว มนุษย์ยังอยู่ในถ้ำ นุ่งใบไม้ ใช้ขวานหิน ใช้หม้อดิน วิ่งหนีสัตว์ร้ายอยู่ในป่า

    แล้วพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ที่กล่าวมา ท่านมาสอนพวกนี้ที่ไหน ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ขุดหาไปก็เจอะแต่กระดูกไดโนเสาร์ กระโหลกคน ไม่มีโบราณวัตถุอะไรเลย

    มาถึงยุคของพระพุทธเจ้าของเรานี่แหละ ที่มีพยานหลักฐานยืนยันอยู่มากมาย เพราะอินเดียช่วง 2,500 ปีนั้น เจริญรุ่งเรืองมากแล้ว ชาติต่างๆ เช่น กรีก โรมัน อียิปต์ เปอร์เซีย จีน ก็เจริญเช่นเดียวกัน

    จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า น่าจะมีอีกสักโลกสองโลก ที่เจริญรุ่งเรืองกว่าโลกเรา มานานแล้ว และพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ ก็ไปสั่งสอนวนเวียนอยู่บนโลกอื่นๆ จนในที่สุด พระพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ ก็มาโปรดยังโลกของเรา

    และเมื่อพระศรีอารย์มาโปรด ก็คงไม่ใช่โลกใบนี้ เพราะเป็นแสนปี โลกนี้คงแตกสลายไปเสียก่อน

    พระพุทธเจ้าท่านสอนว่า อย่าคิดเรื่องอจินไตยแบบนี้ เพราะไม่เกิดประโยชน์ คิดแต่เพียงว่า ทำอย่างไรจะพ้นทุกข์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก

    ในสมัยพระพุทธองค์ พวกพราหมณ์ถามท่านเรื่องโลก เรื่องมนุษย์เกิดมาอย่างไร เป็นอย่างไร ท่านจะไม่ตอบเลย

    [​IMG]

    www.dhammadelivery.com/webboard.php?action=show&id=16193
     
  3. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    อนุโมทนา สาธุค่ะ หนูสงสัยมานานว่า ทำไม พระทันตธาตุอายุหลายหลายปี มาอยุ่ที่ ภูฐานได้ยังไง
     
  4. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดแน่นอน เพราะตามหลักฐานที่ปรากฏในอรรถกถา ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค สัมปสาทนียสูตร (อรรถกถาคือคัมภีร์ที่น่าเชื่อถือรองจากพระไตรปิฎก) กล่าวไว้ชัดเจนว่า

    นอกจากนี้ ใน อรรถกถาเหมวตสูตร ยังกล่าวไว้อีกว่า พระธาตุของพระกัสสปพุทธเจ้าจะไม่กระจัดกระจายเหมือนพระธาตุของพระโคดมพุทธเจ้า แต่จะรวมอยู่เป็นก้อนเดียวกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

    ซึ่งต่อให้ยังอยู่ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้าก็ตาม ก็จะไม่ได้เห็นพระธาตุที่เป็นฟันของพระกัสสปพุทธเจ้าแน่นอน เพราะพระธาตุของทั้งหมดรวมกันเป็นก้อนเดียว

    ดังนั้นถ้ามีผู้ใดอ้างว่า “นี่เป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นพระองค์นี้ ที่ไม่ใช่พระสมณโคดมพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าเชื่อ พึงทราบว่านั่นไม่ใช่ความจริง!!! “
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มิถุนายน 2012
  5. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ข้อมูลเพิ่มเติม

    นมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อัญเชิญจากประเทศภูฏาน ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!

    ลองคิดดู
    ราว 3,000 ปี ก่อนพุทธกาลปัจจุบัน แค่ 400 - 500 ปี เอง เร็วไปหรือเปล่า ? พระกัสสปพุทธเจ้า ท่านอายุเป็นหมื่นปี (รวมถึงคนยุคเดียวกับท่านด้วย) ถ้าพระกัสสปพุทธเจ้านิพพานเมื่อ 3,000 ปีก่อน ก็คงมีหลักฐานอะไรหลงเหลือไว้บ้าง (ขนาดปีรามิดเก่ากว่านั้นยังอยู่เลย) เพราะศาสนาพุทธนี่สำคัญกว่าปีรามิดมากนะ จะหายไปภายใน 400-500 ปีเชียวหรือ ขนาดศาสนาพระโคดมพุทธเจ้ายังอยู่มา 2 พันกว่าปีเลย
     
  6. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    คุณ DevaIsis
    ข้อมูลในเวป นมัสการพระทันตธาตุ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อัญเชิญจากประเทศภูฏาน ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz! กล่าวว่า

    สงสัยคงเป็นการเข้าใจผิดของผู้ปกครองภูฏานสมัยนั้น ถ้าเป็นพระธาตุจริงก็น่าจะเป็นพระธาตุของ พระมหากัสสป ที่เป็นเอตทัตคะสาวกด้านธุดงควัตรของพระโคดมพุทธเจ้า มากกว่า เพราะชื่อ "กัสสป" ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ไปพ้องกับ พระนาม "กัสสป" ที่เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าองค์ที่แล้ว
     
  7. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    หลวงพ่อรูปหนึ่ง กล่าวว่าพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นเฉพาะช่วงที่มนุษย์มีอายุขัยขาลงเท่านั้น มนุษย์มีอายุขัยน้อยสุด10 ปี มากสุด 1 ล้านปี การลดลงหรือเพิ่มขึ้นของอายุขัย 1 ปี ต้องใช้เวลา 100 ปี เช่น
    มนุษย์ยุคพระพุทธเจ้าโคดม มีอายุขัย 100 ปี และเป็นอายุขาลง เวลาผ่านไปทุกๆ 100 ปี อายุขัยจะลดลง 1 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงอายุขัยต่ำสุด 10 ปี
    ศาสนาพุทธผ่านไปแล้ว 2500 กว่าปี แสดงว่า อายุขัยมนุษย์ลดลงไป 25 ปี(2500/100) มนุษย์ในปัจจุบันจึงมีอายุขัยประมาณ 75 ปี และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 6500 ปีข้างหน้า มนุษย์จะเหลืออายุขัยเพียง 10 ปี จากนั้นจึงจะเป็นช่วงอายุขัยขาขึ้น จนไปถึงอายุขัย 1 ล้านปี ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 100 ล้านปี
    หากยึดถือดังหลักเกณฑ์ด้านบน พระพุทธเจ้ากัสสปะ ซึ่งอุบัติขึ้นในยุคที่มนุษย์มีอายุขัย 20000 ปี (และต้องเป็นช่วงอายุขัยขาลงเท่านั้น) เราจะลองคำนวณดูว่า ระยะเวลาจากยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ จนมาถึงยุคพระพุทธเจ้าโคดม มีระยะเวลาห่างกันกี่ปี
    อายุขัยมนุษย์ยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ = 20000 ปี
     
  8. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    ต่อเลยครับ

    อายุขัยมนุษย์ยุคพระพุทธเจ้าโคดม 100 ปี อายุขัยมนุษย์จากยุคพระพุทธเจ้ากัสสปะ มาจนถึงพระพุทธเจ้าโคดม ลดลงมา = 19900 ปี (20000-100) และต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 19900 * 100 = 1990000 ปี (1.99 ล้านปี)

    ช่วงเวลาห่างระหว่างพระพุทธเจ้าทั้งสอง เกือบ 2 ล้านปี
    ถ้าตรึกตรองด้วยตรรกะทั่วๆไป ก็ยากจะทำใจเชื่อได้ แต่เรื่องโลก(จักรวาล)เป็นอจิณไตย ยากแก่การทำความเข้าใจ สมองคนเราไม่อาจก้าวพ้นไปจากโลกทัศน์ 3 มิติไปได้ เราจึงรู้อะไรน้อยมากๆ เรื่องมิติที่หลากหลาย เรื่องเวลาที่ไม่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความสามารถของสมองเรา แต่มันมีอยู่จริง
     
  9. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    ชัดเจนดีครับ แสดงให้เห็นว่ายุคของพระกัสสปพุทธเจ้าสิ้นสุดโดยภัยธรรมชาติที่ใหญ่หลวงจนสิ้นยุคไป ส่วนยุคนี้จะสิ้นสุดโดยการฆ่าฟันกันของมนุษย์นี่เองเป็นหลัก แต่ทั้งหมดจะเกิดหลังจากที่ศีลธรรมเสื่อมทราม ดังนั้นถ้าไม่อยากประสบภัยต้องฟื้นฟูศีลธรรมกลับคืนมาให้ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...