เขาเรียกว่า "ผีอำ" หรือ "ฝันไป"

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 7 ธันวาคม 2012.

  1. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    :cool::cool::cool: อันนี้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านนะคะ ...

    ... เรื่องที่จะเล่านี้คือเกิดขึ้นกับตัวเอง .. ซึ่งเกิดบ่อยมากโดยเฉพาะตอนเด็ก ๆ ดิฉันเคยประสบอุบัติเหตุตอนเล็ก ๆ ตกจากบ้านชั้นสองกระแทกพื้นอย่างแรงจนช็อคตาค้างคะ .. นานประมาณ 5 - 10 นาที ในระหว่างนั้นดิฉันมองเห็นเป็นภาพตัวเองช็อคตาค้างมือหงิกงอแล้วมีพี่อีกคนอุ้มวิ่งไปหาแม่คะ แต่ดิฉันยืนมองตัวเองที่พี่เขาอุ้มไปร้องเรียกก็ไม่มีใครได้ยิน แต่ดิฉันได้ยินเขาพูดกันทุกคำจนพี่คนนั้นนำดิฉันพาดบ่าเขย่าจึงได้สติ นี้ครั้งแรกในชีวิต

    .. หลังจากนั้นก็เจอเรื่อยมาเหมือนตัวเองลุกขึ้นมาแล้วไปคุยกับเจ้าที่แถวนั้นบ้างวิญญาณบริเวรนั้นบ้าง ทั้งที่ร่างกายเรานอนอยู่กับที่ ซึ่งเราไม่รู้ว่าแถวนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มารู้ความจริงตอนที่ตื่นนอนแล้วไปถามเจ้าของบ้านถึงรู้ว่าเจอดีเข้าแล้ว..

    .. ส่วนอาการที่เกิดก่อนจะเป็นแบบนั้น คือ พอหัวถึงหมอนจะมีอาการเหมือนหน้ามืด บางครั้งมองเห็นภาพมุ้งละเอียดบางครั้งหยาบ บางครั้งใกล้บ้างไกลบ้างดึงเข้าดึงออก แล้วก็วืดเลยเหมือนกลั้นหายใจ แล้วพอเราลุกขึ้นหันไปที่หมอนจะเห็นตัวเองนอนอยู่ แล้วก็จะเห็นผีบ้าง เจ้าที่บ้าง มาคุยด้วยมาบอกเรื่องต่าง ๆ มาแกล้งเราบ้าง แต่เรารู้สึกได้ และ เคยได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระทำด้วย ทำให้ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร จะยกตัวอย่างที่มีพยานด้วยแล้วกันนะคะ

    .. ตอนอายุ 15 (ปีนี้ 34) กลับจากงานแต่งงานที่สารคามมาทางอุดร แล้วมาจอดนอนพักที่ริมถนนฝั่งตรงข้ามคิวรถเก่าอำเภอหนองวอซอข้างโรงพยาบาลฯ เพราะเวลานั้นตีสองกว่าแล้วเราไปหลายคนคะ แต่มี 4 คนที่เอาเสือไปปูรองนอนตรงท้องร่องข้างทาง .. พอล้มตัวลงนอนก็เกิดอาการอย่างที่กล่าวคะ ลุกนั้งมองไปฝั่งตรงข้ามเจอผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กและอีกมือจูงลูกจะข้ามถนน แต่เขาไม่เดินคะเขาลอยมาดิฉันตกใจมองคนอื่น ๆ หลับหมด รู้เลยว่าโดนแน่แล้ว!! เสียงเด็กคนนั้นถามว่า "มึงมานอนทำไมตรงนี้" แล้วแม่เขาคะโกรธมาก ดิฉันก็กลัวมากเพราะสภาพทั้งสองคนน่ากลัวมาก เสื้อผ้าขาดเลือดเกราะแถมกลิ่นไม่ดีเลย เหมือนจะมีรถวิ่งมาเป็นรถบัสสาย อุดร-เลย แต่ต้องตกใจเพราะผู้โดยสารไม่ใช่คนคะ พอรถจอดพวกนั้นก็แห่กันคงรถมาแบกดิฉันจะเอาขึ้นรถไปด้วย .. แต่เข้าไปได้แค่หัวติดแขนที่กางไว้ หูก็ได้ยินเสียงคนแม่ว่า "เอามันไปด้วยอยากมานอนทับที่..ดีนัก" .. ดิฉันร้องก็ร้องไม่ได้ แต่แล้วเด็กคนนั้นก็คว้ามือดิฉันเหวี่ยงลงไปตกข้างทางที่เดิมคะ ตัวดิฉันสะดุ้งนิดหน่อยแต่ยังลุกไม่ได้เพราะจุกมากเจ็บที่หลังเหมือนกระแทก แต่ตายังมองเห็นป้าน้อยลุกขึ้นแล้วบ่นอะไรไม่รู้แล้วเดินขึ้นไปนอนบนรถ สักพักอาดำก็ลุกขึ้นมามองหน้ามองหลังแล้วขึ้นรถไปนอนกับแฟน .. แม่ดิฉันก็ลุกอีกคนแต่ลุกขึ้นมาเอาผ้าปัดยุ่งให้แล้วก็บ่นว่าจะมากวนกันทำไมต่างคนต่างอยู่สิ .. ส่วนตัวดิฉันเหรอคะเหมือนคนช็อคตาค้างพูดไม่ได้ พยายามกระดิกนิ้วตัวเองจนหลุดลุกพรวดขึ้นมา แม่ถามว่ารีบลุกทำไมทำไมไม่นอนต่อ .. ดิฉันเหมือนคนเหนื่อยอะคะ บอกแม่ไปว่านอนไม่ได้แล้ว แม่ไม่ถามอะไรสักคำเราเลยขึ้นรถกลับบ้านกัน ..

    .... พอมาถึงบ้านเข้าบ้านไม่ได้ต้องนอนใต้ถุนบ้านเพราะไม่มีกุญแจ นอนตรงแคร่ใต้ถุนบ้านกับแม่สองคน พอหัวถึงหมอนก็เป้นอีกคะ ก็คิดแค่ว่าอะไรกันนักหนาเหนื่อยแล้วนะ ตัวขยับไม่ได้คะแต่ตามองไปรอบ ๆ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ผ้าถุงเสื้อขาดผมเผ้าหยุ่งเหยิงเดินผ่านใต้ถุนบ้านไป ดิฉันได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าหันมานะ มันดันหันมาแสยะยิ้มให้แล้วรู้อีกทีมันก็ขึ้นคร่อมตัวดิฉันจับแขนไว้แล้วก้มหน้าลงมาหัวเราะ อิอิ เหมือนคนสนุกที่ได้แกล้งดิฉัน ที่สำคัญคือเธอคนนั้นกลิ่นเหม็นมากเหม็นเหมือนตัวอะไรตาย .. ดิฉันก็แก้ด้วยการสวดมนต์สวดผิดสวดถูกและกระดิกนิ้วมือตัวเองเหมือนเดิม พอกระดิกนิ้วได้รีบพลิกตัวเลยคะหลุดแล้ว ... เหนื่อยมากไม่นอนหงายอีกเลยคะ จนทุกวันนี้จะนอนคว่ำหน้า หรือตะแคงแทน ...

    ... พอตอนเช้าถึงรู้ว่าที่เจอเมื่อคืนคืออะไร .. ครั้งแรก เป็นผีแม่ลูกคะตายมาเดือนหนึ่งได้ เธอไปคลอดลูกที่โรงบาลและจะกลับบ้าน อุ้มลูกเล็ก ๆ และจูงลูกอีกคนจะข้ามถนนแต่ข้ามไม่พ้นโดนรถชนกระเด็นมาตายทั้งสามคนตรงท้องร่องที่พวกดิฉันไปนอนนั้นแหละ ส่วนรถบัสคันที่เจอเป็นรถบัสที่คว่ำตายเมื่อสองสามปีก่อนคะ .. ป้าน้อยบอกว่าเจอดีเป็นเงาผู้ชายสองคนมานั้งทับแกเลยรีบลุกหนี ส่วนอาดำได้ยินเสียงวัวควายมากมายวิ่งมาทางที่แกนอน ส่วนแม่แกก็เจอแต่ไม่บอกว่าเป็นไง และ ผีผู้หญิงที่เจอตรงใต้ถุนบ้านแม่บอกว่าเขาเรียก "ผีอีซิ่นเฮี้ยน" เป็นวิญญาณผู้หญิงที่ตายเพราะโดนข่มขืน มีมานานแล้วแถวบ้านคนเจอบ่อยคะ ... บ้านเก่าของดิฉันอยู่ที่ บ้านกุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู สมัยก่อนเขาเรียก "คุ้มโรงหนัง" เพราะมีโรงหนังสร้างไว้ข้างบ้าน

    บ้านเก่าที่เราอยู่ .. ภาพแรกตัวบ้าน ... ภาพสอง สภาพปัจจุบันที่ยกขึ้นและย้ายไปไว้ท้ายสุดที่ดิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_1009.JPG
      SAM_1009.JPG
      ขนาดไฟล์:
      269.9 KB
      เปิดดู:
      271
    • SAM_1005.JPG
      SAM_1005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      253.2 KB
      เปิดดู:
      268
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2013
  2. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ส่วนเรื่องที่สอง .. เกิดที่อำเภอท่าบ่อ ชื่อบ้านอะไรจำไม่ได้ แต่ติดแม่น้ำโขงสวมาก

    ... ดิฉันได้เดินทางไปทำงานที่นั้นกับพี่อีกคนเป็นบ้านแฟนเก่าเขา พอไปถึงก็เป็นบ้านปกติคะบ้านไม้สองชั้นข้างบนไม้ข้างล่างปูนดูมีฐานนะ ปกติไปทำงานไม่คิดไรมากแต่พี่เขาดูเป็นห่วงเรามากถามว่านอนได้ไหม๊เราบอกนอนได้ พี่เขาให้เรานอนในห้องเก่าเขา เราก็เปิดไฟนอนปกติเพราะเป็นคนกลัวผีกลัวความมืด พอหัวถึงหมอนปั๊บมันไม่เหมือนครั้งแรกที่เล่ามันวืดแล้วมืดสนิทเลย มองดูเหมือนเราอยู่ข้างบนบ้านเขา (นอนข้างล่าง)ทั้งที่เราไม่เคยขึ้นไปเลย หันไปมองรอบ ๆ เพราะได้ยินเสียงตรวนดัง .. มองแบบกลัว ๆ ก็เจอเลยคะ แขกไม่รับเชิญ เป็นผู้หญิงเลือดเต็มตัวโดนล่ามไว้กับเสาบ้านแต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้น คือ เธอท้องด้วย บริเวณนั้นเป็นชั้นบนตรงกับห้องข้างล่างที่ดิฉันนอนเลยคะ หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเอาแล้วไงโดนแล้วไง มองหาทางหนีอย่างเดียวเลยเอาไงดี หันไปเจอเป็นบันไดทางลงซึ่งในความเป็นจริงของตัวบ้านที่เจอมันไม่มี เปิดประตูได้วิ่งลงมาเลยคะ หันไปก็เจอเธอคนนั้นกวักมือร้องขอให้ช่วย เป็นคุณจะช่วยไหม๊คะ ดิฉันไม่ละคะถึงจะเป็นความฝันก็เถอะ .. เผ่นแน็บ ..... สะดุ้งตื่นมารีบสวดมนต์เลยคะ

    ... พอตอนเช้าก็เลยถามพี่ที่พาเราไปว่าบ้านนี้มีผีด้วยเหรอ .. คำตอบเป็นไปตามความคาดหมายพี่เขาพาไปหาแม่เจ้าของบ้าน .. แม่บอกว่าแม่ซื้อบ้านกหลังนี้ต่อเขามาอีกที และ มีคนตายจริงเป็นหญิงเสียสติโดนข่มขืนจนท้องพ่อแม่ก็เลยเอามาล่ามโซ่ไว้บ่นบ้านจนตายทั้งที่ยังไม่คลอด .. ฟังแล้วก็หายกลัวหน่อยเป็นสงสารแทน และ แม่ก็บอกอีกว่าบันไดที่ดิฉันฝันเห็นก็มีอยู่จริงตรงหน้าห้องนอนดิฉันเองแต่พ่อได้ทำพิธีแล้วและเปลี่ยนทางบันไดไปไว้ตรงที่เห็นปัจจุบัน แม่เขาก็ตกใจนะว่ายังอยู่อีกเหรอสิบกว่าปีแล้วนะ ... ก็ได้แค่บอกแม่ทำบุญให้เขาด้วยเพราะสภาพที่เห็นเขาน่าสงสารมาก .. แล้วดิฉันก็กลับกรุงเทพในวันนั้นเลยคะไม่อยู่อีกคืนแน่นอน ....
     
  3. psri

    psri Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +44
    สนุกมากกครับ ขอบคุณมาก
     
  4. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    น่าสงสารผู้หญิงคนนั้นมากเลย ท้องแล้วยังโดนล่ามตายก็ยังไปไหนไม่ได้
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    อาการกายละเอียดหลุดออกจากร่างกายเนื่องจากอุบัตเหตุแบบกรณีนี้แบบของคุณ ตามความจริง
    แล้วถือว่าเป็นเรื่องดีและปกติครับ..ถ้าคุณฝึกสมาธิ.กำลังสมาธิจะเป็นแบบค่อนข้างมั่นคง.สามารถ
    ต่อยอดฝึกพวกความสามารถพิเศษได้สบายหายห่วงครับ..คริ คริ แถมเรื่องสัมผัส.แปลกๆทาง
    ภพภูมิที่จะเข้ามาก็จะพิศดารแหวกแนว..และมากกว่าปกติๆด้วย..คือ จะสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่
    สูงสุดยันระดับล่างสุด..และพวกสัมผัสการรับรู้แบบเฉพาะ..​

    แต่ปัญหาปัจจุบันของคุณตอนนี้ขาด
    เรื่องการอุทิศส่วนกุศลแบบในใจให้ทางภพภูมิ ณ เวลานี้ครับ.พวกวิญญานระดับล่างเลยไม่เกรงใจเรา
    เพราะเค้ายังไม่เห็นกระแสตัวนี้ครับ...ไปซ้อมอุทิศส่วนกุศลในใจแบบแปรสภาพบุญให้คล่องๆไว้ ณ ครับแล้วก็อุทิศส่วน
    กุศลให้เป็นนิสัยไว้ เวลาไปต่างที่ ต่างถิ่น หรือ ก่อนทำสมาธิ..การเข้ามาของภพภูมิต่างๆจะดีขึ้น.
    และจะเป็นตัวช่วยลดเรื่องความกลัวได้ด้วยเนื่องจากเราจะมีเมตตาเป็นทุนเดิมในจิตครับ..
     
  6. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    #### ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า เป็นปลื้มมากเลยคะที่คุณ nopphakan ได้เข้ามาอ่านและให้ความรู้ดิฉันคะ

    .. ขอเรียนถามนิดหนึ่งคะ " ไปซ้อมอุทิศส่วนกุศลในใจแบบแปรสภาพบุญให้คล่องๆไว้ " คือ ให้อุทิศผลบุญให้บ่อย ๆ ใช่ไหม๊คะ พอดีติดตรงคำว่า แปรสภาพบุญคะ รบกวนด้วยนะคะ

    .... สิ่งที่เล่า คือ เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คะ ทุกวันนี้ดิฉันก็ได้ทำบุญเกือบทุกวัน บ่อย ๆ คะ และสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลทุกวัน มีพระวัดใกล้บ้านท่านแนะนำว่า "ให้ทำทุกอย่างที่เป็นความดี ไม่ว่าเล็ก หรือ ใหญ่ บุญนั้นจะสะสมกันไปสักวันมันก็จะมากเอง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป " และ พยายามรักษาศลีให้ครบ ยังขาดแต่การนั้งสมาธิที่เพิ่งเริ่มแค่กำหนดลมหายใจ ดิฉันใช้ พุท โธ คะ ... เคยไปบวชชีพราหมณ์หลายครั้งเวลาบวชก้จะรู้สึกเป็นภาพแปลก ๆ เข้ามาบ่อย ๆ หนักสุด คือ เสียงคะ เสียงที่ไม่มีที่มา ... บางครั้งทำงานอยู่ก็จะคิดพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ว่าทำไม เพราะอะไร หาเหตุ และ ผลคะ ตอนนั้นดึกมากแล้วอยู่คนเดียวในร้าน ได้ยินเสียงเหมือนแม่เรียกชื่อหันไปมองไม่มีใครแม่ก็หลับอยู่ แต่แว๊บหนึ่งมันเป็นภาพผู้หญิงใส่ชุดกษัติร์เต็มยศมาเรียก แต่รับรู้ได้ว่าเสียงนั้นเรียกด้วยความรักเหมือนที่แม่เราเรียกเราเวลาอารมณ์ดีคะ
    ..... เคยมีพระรูปหนึ่งแถว ๆ บ.เชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท ท่านตอบคำถามดิฉันว่า "โยมจะมาถามพระทำไม แค่โยมนั้งสมาธิ โยมก็จะรู้ทุกอย่างเองไม่ต้องถามใคร " แต่ปัญหามัน คือ นั้งยังไงละ ... นั้งหลับตาท่อง พุท โธ ตามลมหายใจแค่นี้หรือ .. แล้วอะไรละที่เรียกว่า สมาธิจริง ... ถ้ามันคือความนิ่งของสติ เวลาดิฉันขับรถคนเดี่ยวเปิดเพลงเร็วดัง ๆ สติดิฉันก็ยังนิ่งไม่วอกแว๊กอะไร ขับรถได้ดีกว่าปกติอีกคะ .. อุบัติเหตุชอบเกิดเวลาขับช้าไม่รู้ทำไม

    .... คุณ nopphakan อย่าเพิ่งรำคาญดิฉันนะคะ ในใจดิฉันมันเกิดความสงสัยอยู่ตลอดเวลายิ่งตอนเด็กคำถามมันขึ้นมาตลอดเวลาโดยเฉพาะสัมผัสพวกนี้ ดิฉันแสวงหาคำตอบให้ใจตัวเองมานานแล้วคะ ได้คำตอบแต่ไม่กระจ่าง ทุกวันนี้ความฝันก็นับวันยิ่งพิศดารขึ้นทุกที ชอบฝันถึงพระบ่อย ๆ เวลาท่านมาก็จะมาบอกให้ทำนั้นทำนี้ บางรูปท่านก็ถามแปลก ๆ บางรูปก็ให้ไปหาสถานที่แปลก ๆ แต่วิญญาณที่มาเดี๋ยวนี้เขาไม่ทำอะไรดิฉันได้แล้วคะ ถ้าใครจะทำร้ายดิฉันสู้ยิบตาถึงเป็นในฝันก็เถอะ ตอนนี้ก็ฝึกสังเกตลมหายใจคะ รู้สึกเบื่ออาหาร เบื่อเนื้อสัตว์ ชิมอาหารที่ดิบไม่ได้เลยแม้แต่ปลาร้า ก่อนนอนก็ททำสมาธิมันก็วูบเหมือนดับไฟ
    ... หวังว่าดิฉันจะได้เมตตาได้รับคำแนะนำจากคุณ nopphakan ที่เหมาะสมกับตัวดิฉันนะคะ ..
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ตอบ
    ไม่รำคาญครับ เพราะพอเข้าใจครับ เป็นนิสัยปกติของคนมีสัมผัสแบบนี้แล้วยังไม่เคลียร์
    ก็อย่าลืมฝึกเจริญสตินะครับ.กำลังสตินอกจากจะช่วยให้ทราบคำตอบที่แท้จริงได้หลังจากเราไม่เก็บมาคิดแล้ว ในนิมิตรถ้าหากกำลังสติเรามากพอ..เราจะสามารถที่จะมีกำลังในการมองนิมิตรที่ผ่านเข้ามาได้..จะทำให้เราสามารถแยกได้ ว่านิมิตรในจริงหรือหลอกด้วยตัวเราเองครับ
    ส่วนความคิด ที่บอกวิญญานถ้าคิดจะทำร้ายคุณๆจะสู้ยิบตา...


    ให้เลิกคิดแบบนี้เก็บลงพื้นดินไปเลยครับ.ให้มีเมตตาให้มากๆ เพราะต่อไปถ้าเราปฏิบัตได้อีกระดับ เราจะเจอพวก โอปาติกะ หรือ พวกภูติที่มีฤิทธิ์ ที่มาทดสอบกำลังใจ..ต่อให้คาถาหรือบทสวดมนต์ใดๆในโลกหรือมีพระเครื่องทั้งห้องก็ไม่สามารถ ทำอะไรเค้าได้ครับ.และมักไม่มาเดี่ยวด้วยนะครับบอกไว้ก่อนล่วงหน้า...เอาว่าพระธุดงค์มีฤิทธิ์เก่งๆยังเสร็จ.อย่าว่าแต่เราๆเลยครับ..คนไม่เคยเจอไม่เข้าใจหรอกครับเรื่องนี้ แต่บอกไว้ก่อนครับ..เมตตาเท่านั้นแล้วจะปลอดภัย


    ความจริงที่บอกคุณข้างบนเพียงแค่คลายความสงสัยให้คุณเฉยๆ.ถ้าคุณไม่เจอพระที่มีอภิญญา
    และเข้าใจว่าอาการของการคนที่มีของเก่ามาก่อน จะตอบปัญหาลักษณะแบบของคุณไม่ได้หรอก
    ครับ.แต่ทั้งนีั้ทั้งนั้่นไม่ใช่ประเด็นหลัก...



    เรื่องสัมผัสทางภพภูมิ ไม่ใช่ประเด็นหลักครับ..ประเด็นหลักคือ กำลังสติเราจะสามารถทราบ
    ได้ไหมว่า​ หลังจากที่เราสัมผัสไม่ว่าทางใดๆนะครับ..เราจะเข้าใจวัตถุประสงค์์หรือไม่..แบบคุณต้องยกตัวอย่าง เช่น คุณได้้ยินเสียงเรียกทางหูด้านซ้าย กำลังสติจะบอกให้คุณต้องทำอะไร.เช่น คุณจะมัวแต่ไปสงสัยว่าเป็นเสียงอะไร ใครเรียกคุณ หรือ กำลังสติจะบอกให้คุณรีบอุทิศส่วนกุศลแบบแปรสภาพบุญให้เจ้าของเสียง ณ ปัจจุบันขณะนั้น..หรือ คุณได้เสียงเรียกทางหูด้านขวา..กำลังสติคุณจะบอกให้คุณ สงสัยว่าเจ้าของเป็นใคร ต้องไปถามพระรูปนั้นรูปนี้ให้ได้..หรือ ว่ากำลังสติจะบอกให้คุณทราบว่า อืมๆตอนนี้เรายังไม่รู้ ก็ไม่ต้องเก็บมาคิดหรอก เด่วไม่ต้องคิด ซักพักเราจะได้รับคำตอบเอง...ทำนองนี้
    พอจะเข้าใจที่พยายามสื่อนะครับ
    ส่วนแนวทางการปฏิบัติ ที่เหมาะกับคุณ ในเว๊ปนี้ คุณให้ คุณ poppyrose ช่วยตรวจสอบได้ครับ..ถ้ารอคุณ โอรสทศพล อาจนานเพราะจะไม่ค่อยว่าง...ส่วนเรื่องอาหารหรือกิริยาที่เกิด
    ในระหว่างการทำสมาธิก็ทำนองเดียวกันครับ ไม่ต้องสนใจ ให้มองเป็นเรื่องปกติครับ สักแต่ว่าดู ว่ารู้ ว่าเห็น.นะครับ...
    ขอบคุณครับ..
     
  8. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ## ขอบคุณคุณคะ .. ดิฉันจะศึกษา และพยายาม ทำตามคำแนะนำนะคะ

    .... ตอนนี้ก็จะอุทิศก่อนสวดมนต์ และ หลังสวดมนต์ เวลาเจออะไรที่น่าสงสารก็จะอุทิศให้คะ .. ตอนนี้จิตใจก็ดีขึ้นยอมรับว่าแต่ก่อนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่ยอมใครยึดคติว่า แค้นนี้สิบปีก็ไม่สาย .. ตอนนี้เปลี่ยนแล้วคะมันน้อยลงเอง .. ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา .. คิดหาเหตุ และ ผล .. จิตใจดีขึ้นไม่อาฆาตใครมากเหมือนเดิมแล้ว บางคนที่เราเคย แช่ง เขาไปพอเราเห็นชีวิตเขาแย่ไม่มีความสุขเราก็เริ่มสงสารเขาคะ ขออโหสิกรรมทุกคนทุกอย่างทุกครั้งอุทิศบุญให้พวกเขา รู้สึกผิดคะยิ่งศึกษายิ่งเห็น เวทนาในชีวิตคนบอกตัวเองว่าโชคดีแล้วเรายังมีโอกาศ .. บางคนเขาหมดโอกาสทำความดีไปแล้ว ..

    .... เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงเทวดาผู้หญิงที่ประจำตัวดิฉันเองคะ .. จะพยายามไม่อยากรู้อยากเห็นอีกคะ จะพยายามปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ขณะที่เขียนข้อความนี้ หูของดิฉันก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านไปมาตลอด ยิ่งดึกยิ่งเป็น อาจเป็นเพราะแถวนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นเยอะทำให้สัมผัสได้ง่าย ในนิมิตรที่บอกว่า สู้ยิบตานั้น คือ ชีวิตของดิฉันมักเจอกับคนที่ถูกกระทำคุณไสย์ หรือ พวกที่มีสัมผัสพิเศษ ( แฟนคนปัจจุบันก็เคยถูกกระทำมา) บางครั้งเขาก็มาไม่ดีกับเราเท่าไหร่ มาทั้งทางตรง และ ทางอ้อม เพราะบางคนดิฉันไปช่วยเขา แค่พาเขาไปหาพระที่พอช่วยได้ หรือ พาไปวัดทำบุญ เมื่อกลับมาก็จะเจอในนิมิตร กุมารบ้าง สัตว์เดรัจฉานบ้าง ฯ โดยเฉพาะ "ปอบ" ดิฉันจะเจอบ่อยตอนเด็ก มาขออยู่ด้วยมาชวนไปทำไม่ดี แต่ดิฉันไม่เอาพอฝันแบบนี้จะมีคนตายแถวบ้านประจำ แต่ตัวดิฉันจะหนีมันทรมานมาก และ จะเหนื่อยเมื่อเวลาที่เราตื่นปวดไปทั้งตัวอาจเพราะเราเป็นเด็กในตอนนั้น มันทำให้ดิฉันรู้สึกว่าเราต้องสู้เราจะหนีตลอดชีวิตไม่ได้ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ไปทำเขานะคะ .. แต่ส่วนมากเขาจะมาไม่ดีกับเราเขาโกรธที่เราไปช่วยคนที่มาขอให้เราช่วย ในส่วนตัวเราสงสารคนเหล่านั้นคะ แต่ต่อไปจะพยายามใช้เมตตาเข้าหาก่อนนะคะ ..

    .... พระที่พอมีอภิญญาดิฉันก็ได้พบท่านคะ ท่านอยู่ใกล้บ้านดิฉันนี้แหละคะ .. แต่ท่านจะพูดน้อยในเรื่องนี้ท่านมีแค่บอกว่าไม่ต้องคิดมาก .. เดี๋ยวก็ดีเองทำดีต่อไป สักวันดิฉันจะเข้าใจทุกอย่างเอง .. ตอนนี้ท่านก็ร่ำ ๆ จะเข้าป่าทำให้ดิฉันรู้สึกเคว้งมาก ๆ

    ... เมื่อวานลองติดต่อคุณแสนสวาทท่านไม่ว่างท่านไปปฏิบัติธรรมคะ .. ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่านนะคะ .. ดิฉันรู้สึกดีมากคะที่ได้มาเจอเว็ปนี้ ทำให้ดิฉันรู้สึกไม่โด่ดเดียว ไม่ต้องงมเข็มในมหาสมุทร รู้สึกว่าที่นี้จะมีวิธีที่ดีสำหรับดิฉันคะ

    ... ดิฉันขออนุญาติเอาประสบการณ์แปลก ๆ มาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังต่อนะคะ .. สาธุ ในธรรมมะทานของท่านที่เมตตาแก่ดิฉันคะ ขอให้ท่านสมความมุ่งมาตรปรารถนาทุกประการ สุขภาพแข็งแรงนะคะ สาธุ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2012
  9. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    เรื่องที่ 3 เจ้าที่ในบ้านเช่า ..

    .... เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณปี 50 เป็นตำบลหนึ่งที่อำเภอ บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ดิฉันได้ไปช่วยงานพี่ที่บริษัทออกพื้นที่ ซึ่งพี่เขาได้เช่าบ้านหลังหนึ่งให้พวกเราอยู่ เพราะเขารู้ว่าดิฉันกลัวผีมาก ในคราวก่อนที่มานั้นนอนที่บ้านเขา ปรากฏว่าดิฉันเจอกุมารทองสองตน มายืนมองดิฉันที่ประตูห้องนอน ดิฉันได้เรียกกุมารทองให้เข้ามาหาตนหนึ่ง อีกตนหนึ่งไปวิ่งเล่นซึ่งตอนนั้ดิฉันให้เขากินนมดิฉันเอง สะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาก็รู้สึกคัดที่นมมาก ( ดิฉันเป็นคนมีน้ำนมข้างซ้ายตั้งแต่คลอดลูกมา จะมีวันละหยอดทั้งที่ลูกชายแทบไม่เคยได้ดูดนมเลย ยังมีจนทุกวันนี้แต่ไม่มีทุกวัน ) ทำให้ไม่กล้านอนที่นั้นอีก ..

    ... สภาพบ้านเช่าใหญ่มากในหมู่บ้านนั้นแต่ราคาเช่าแค่ 2500 บาท เป็นบ้านชั้นเดียวกว้างมาก ๆ เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ แต่ไม่มีใครกล้ามาอยู่ .. ดิฉันนอนที่นั้นกับแฟน และ น้องที่ทำงานอีกสองคน มีลูกเมียเขาด้วยสองคน แต่คนเช่าไม่มานอน .. หึ ๆ
    ... พอเข้าไปในบ้านสภาพที่เจอเป็นโถงโล่ง ๆ สามห้องยาวเลยคะ สุดเป้นครัวด้านซ้าย ห้องน้ำด้านขวา แต่ตรงทางเข้าห้องครัวมีโต๊ะวางพระไว้คะ เราก็เอ๊ะยังไง .. เริ่มคิดแหละ .. จะนอนได้ไหม๊นะ .. แต่คงไม่มีไรมั้ง .. ปลอบใจตัวเองคะ

    ก่อนนอนก็สวดมนต์ไหว้พระเอาพระไว้ใต้หมอน แฟนเรานอนใกล้โต๊ะที่มีพระต่อมาเป็นเรา และที่นอนถัดไปก็เป็นน้อง ๆ ... พอหลับได้แป๊บหนึ่งมันเริ่มเลยคะ เป็นภาพในห้องโถงที่เรานอน เหมือนมีใครจ้องเราอยู่เราก็เริ่มกลัวแล้วเอ๊ะยังไง เราคิดไปเองแน่ๆ นอนต่อคะ .. แต่พอเหมือนจะหลับตาตามันดันมองไปทางประตูครัวเห็นเป็นผู้ชายวัยกลางคนใส่ชุดสีขาวมีผ้าพาดบ่าเดินออกมาจากครัว เอาแล้วไงงานงอกแล้วเรา เพราะในครัวตรงผนังที่กั้นระหว่างห้องน้ำด้านบนเราเห็นเป็นผีพันผ้าเป็นมัมมี่หน้าดำปิ๊ด มีรอยถูกยิงที่หน้าผากนั้งอยู่นิ่ง ๆ บอกตัวเองว่าดีนะที่เป็นความฝันไม่งั้นนะ ฮึ ๆ ร้องบ้านแตกแน่ .. แล้วผู้ชายชุดขาวคนนั้นก็มาคุยกับเราบอกว่า "จะมาอยู่ที่บ้านนี้ใช่ไหม๊ งั้นก็ต้องทำให้ถูกต้อง" เราก็บอกเขาว่าเดี๋ยวพรุ้งนี้จะบอกน้องให้เพราะเราไม่ได้อยู่มาแค่ชั่วคราว แล้วเขาก็เดินกลับไปทางเดิม ... แต่ไอ้มัมมี่ตัวนั้นสิมองเราเขม็งเลย .. เราก็ได้แต่เบือนหน้าหนี

    ... ตอนเช้ามาพี่ที่ทำงานมาคำแรกทักทายเราได้น่ารักมาก "เป็นไงเมื่อคืนเจออะไรไหม๊" เราก็เลยสวนไปว่าเจอดิทำไมไม่บอกก่อนละ จะได้เตรียมตัวเขาก็บอกว่าไม่กล้าบอกเราเพราะรู้ว่้าเรากลัวผีมาก กลัวเรานอนไม่ได้แล้วเขาก็เล่าให้เราฟังว่า

    ... เดิมทีบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านได้แฟนฝรั่งเลยสร้างบ้านนี้ให้แม่ตัวเองอยู่ .. แต่ตอนนั้นที่บ้านหลังนี้เขาจะเล่นไพ่กันทุกวัน มีผู้หญิงคนหนึ่งแฟนเป็น อบต. แกชอบมาเล่นแบบชนิดข้ามวันข้ามคืน แต่แฟนแกก้มาเล่นด้วยเป็นบางครั้ง จนมีข่าวว่าแกติดผู้ชายที่มาเล่นไพ่ด้วยกันประกอบกับแกไม่ค่อยสนใจงานบ้าน มีปากเสียงกับแฟนบ่อยแกเลยบอกว่าจะไม่มาเล่น .. แต่อย่างว่าแหละคะมันติดไปแล้ว วันนั้นแกมาเล่นจเย็นแฟนแกโมโหตามมาไม่พูดพล่ามทำเพลง ยิงใส่แสกหน้าแกล้มตึงตรงทางเข้าครัวตรงที่โต๊ะพระตั้งนั้นแหละคะ พอเขามาเอาศพแกเขาก็เอาผ้าขาวมาพันตัวก่อนเอาศพไปทำพิธี .. ดิฉันพูดไรไม่ออก ไม่พอแกยังแถมเรื่องที่มีคนไล่เป้ดมาเช่าอยู่ก่อนหน้าพวกดิฉันว่าเขาเจอเป็นเหมือนคนห้อยขาลงมาจากประตู แลบลิ้นยาวมากแค่นั้นแหละคะเขาก็ย้ายออกวันนั้นกันเลยอยู่ไม่ได้ พี่เขาบอกว่าพวกนั้นคงมาทำไม่ดีไว้ที่บ้านเลยโดน แล้วก็ว่างมาสองเดือนพี่เขาเลยมาเช่าให้นี้แหละคะ พอฟังจบดิฉันก็เล่าความฝันให้ฟังว่า ผู้ชายคนนั้นสั่งเสียว่าให้ทำอะไรบ้าง แล้วดิฉันก็ไม่ไปเหยียบที่นั้นอีก ..
     
  10. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    เรื่องที่ 4 บ้านอาถรรพ์

    ..... เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวดิฉันมากที่สุดเพราะมันเป็นบ้านดิฉันเองคะ .. ย้อนไปประมาณปี 2526 ดิฉันได้อาศัยอยู่ที่ บ้านร่องน้ำใส ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พ่อดิฉันได้สร้างบ้านหลังใหม่หลังอู่ซ่อมรถของพ่อ เป็นบ้านไม้สองชั้นด้านล่างโล่งคะ ที่บอกว่าอาถรรพ์เพราะพ่อเขาชอบเรียนวิชามนต์ หาของอาถรรพ์ของเก่า คุณไสยย์แกชอบลองคะ อย่างแรกพ่อเขาปลูกบ้านในพรรษาคะเอาฤกษ์ที่แข็งมาก และใช้พวกไม้ต้องห้ามในการสร้างบ้าน เช่น ไม้ตะเคียน ไม้แยงตะวัน ไม้ยืนต้นตาย ฯ โดยแกจะเข้าไปตัดเองในป่าลึกคะ สมัยนั้นยังบ้านนอกมากไฟฟ้าไม่มีประปาไม่มีต้องไปแบกน้ำตามสระ หรือ บ่อน้ำมาไว้กิน หรือ ดูดน้ำใต้ดินมาใช้ ...
    ... เรื่องแรกนี้มันเกิดกับหลานชายของพ่อคะ เพราะว่าสมัยนั้นจะมีเด็กวัยรุ่นที่ทางบ้านส่งมาเรียนวิชาซ่อมรถกับพ่อเยอะมากคะสิบกว่าคน พี่คนนี้ชื่อยงค์คะหน้าตาดีมาก ๆ อย่างที่รู้เด็กช่างส่วนมากเกเรมาก่อน พ่อก็เอามาฝึกวิชาให้ เหตุเกิดขึ้นตอนเช้าวันหนึ่งคะทุกคนตื่นนอนจะลงมาทำงานกัน ตอนนั้นดิฉันนอนที่อู่กับพ่อแม่ยังไม่ขึ้นนอนบ้านใหม่ ตอนนั้นให้พี่ ๆ เขาไปนอนกัน พี่วิรัตน์วิ่งมาหาพ่อบอกว่าพี่ยงค์เป็นไรไม่รู้ปลูกยังไงก็ไม่ตื่นคะ เขย่าก็แล้ว เรียกก็แล้วไม่ตื่น พ่อกับดิฉันก็เลยขึ้นไปดูคะ ตอนนั้นก็กลัวคะแต่อยากรู้มากกว่า สิ่งที่เห็นคือ พี่ยงค์นอนนิ่งคะแต่หายใจ แกนอนหันหัวตรงเสาบ้านต้นหนึ่ง พ่อบอกว่าเป็นเสารองจากเสาเอกทำจากต้นตะเคียน และ ตอนนี้มัน "ตกน้ำมัน" พ่อไปยืนที่ปลายเท้าพี่ยงค์ แล้วพ่อก็พนมมือหลับตาสักพัก แกเตะไปที่ตัวพี่ยงค์อย่างแรกคะ ได้ผลพี่แกตื่นลุกขึ้นมาแบบตกใจสุดขีด ตอนนั้นดิฉันแค่ 5 ขวบ แต่เหตุการณ์มันติดตามาก พ่อเขาก็บ่นว่าทำอะไรกันไม่ดีหรือเปล่า ทุกคนเงียบคะ พอถามพี่ยงค์แกบอกว่าเมื่อคืนแกเข้านอนปกติแต่แกมานอนตรงนี้ทำไมไม่รู้ พอหลับตาแกเห็นผู้หญิงคนหนึ่งคะใส่ชุดไทย สไบสีแดงผมยาวสวยมากมายืนตรงปลายเท้า ( สวยจริงคะขาวด้วยแถมดุอีกต่างหาก อันนี้ดิฉันเจอเองในฝันนี้แหละคะ เล่ารอบหลังนะคะ ) แล้วยิ้มให้บอกว่าแอบชอบแกมานานแล้ว มาชวนไปอยู่ด้วยกัน แต่แกไม่ยอมไปผู้หญิงคนนั้นเลยจะลากแกไปคะ พอดีพอเตะแกตื่นก่อน แล้วพ่อก็เอาขันดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ตรงเสาตะเคียนต้นนั้น ดิฉันเหรอคะตามไปดูตาปริบ ๆ ละคะ เพราะความอยากรู้อยากเห็น พ่อสวดอะไรไม่รู้แต่ที่แน่ ๆ และจำได้คือ พ่อพุดกับเสาตกน้ำมันว่า "อยู่ด้วยกันดี ๆ ไม่ได้เหรอทำไมต้องมารบกวนกันแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่ไปสิจะมารบกวนกันอีกทำไม" แล้วพ่อก็เอาอะไรไม่รู้ไปป้ายตรงที่ตกน้ำมัน ถามแกแกบอกว่าสะกดไว้ไม่ให้ออกมากวนคนอื่นเขา หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากดิฉันจะเจอเขาในฝันตัวเองเท่านั้น แต่ไม่ค่อยอยากเจอหรอกคะเจอที่ไรบ้านร้อนเป็นไฟทุกที ...

    .... ผ่านไปนานหลายปีคะดิฉันโตเป็นสาวเรียนมหาลัยแล้วคะ ได้กลับบ้านไปปรากฏว่า พี่ยงค์แกกลับมาคะมาช่วยพ่อทำงานแต่แกพาเมียมาด้วย พ่อเลยให้นอนตรงด้านหลังชานบ้าน พี่สะใภ้เล่าให้ฟังว่านอนแทบไม่ได้เลย ได้ยินเสียงคนเดินทุกคืน ล่าสุดแกเผ่นหนีไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บอกว่านอนไม่ได้แล้วเจอจัง ๆ แกบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินลากผมมาจากเสาต้นเดิมแหละคะ ตอนแรก ๆ ไม่เท่าไหร่มองไม่เห็น แต่คราวนี้แกเจอแบบเป็นตัวเดินลากผมมาเดินวนรอบมุ้งแล้วเอาหน้ามาแนบมุ้งที่แกนอนเท่านั้นแหละตอนเช้าแกย้ายออกจากบ้านดิฉันไปเลย แต่แม่บอกว่ามันสำออยออเซาะพี่ยงค์เท่านั้นแหละ ... ในส่วนตัวดิฉันเชื่อพี่สะใภ้คะ เพราะนอกจากแกกับแฟนแล้ว ลุงก็ยังเคยเห็นเหมือนกันผู้หญิงผมยาวใส่สไบแดง ....

    .... ทุกวันนี้ดิฉันขายบ้านหลังนั้นไปแล้วคะ เพราะพ่อแม่เลิกกัน .. ไม่รู้ว่าเพราะเป็นความอรงของอาถรรพ์ของบ้าน หรือ เพราะจิตใจคนเรานะคะ แต่พ่อแม่ยกบ้านหลังนั้นให้ดิฉันแกสั่งไว้ว่า "ให้รื้อบ้านขายทิ้งสะถ้าจะอยู่ เพราะดิฉันรับความแรงไม่ได้หรอก" แต่ดิฉันขายเลยคะ เอามาสร้างร้านขายอาหารอยู่กับแม่ทุกวันนี้ .. แต่กว่าจะขายได้ก็นานพอดูคะร่วมปี เคยมีคนไปนอนเฝ้าบ้านนะคะ แต่ไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนบ้านสักคนนอนข้างล้างหมดคะ ขนาดขายบ้านไปแล้วเขาเอาให้คนงานอยู่ก็ไม่มีใครขึ้นไปข้างบนคะ ทุกคนบอกว่าไม่อยากขึ้นไป .. สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรับรู้เหมือนกัน คือ ทุก ๆ วัน บ้านจะลั่นเหมือนมีคนเดินไปมาจากเสาต้นนั้นไปด้านหลังบ้าน ไปกลับแบบนั้นตลอด .. แต่ไม่มีใครตอบได้ว่าทำไมนอกจากพ่อ และ แกก็เล่าทุกอย่างให้ดิฉันฟังตลอดคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้คะ เพราะไม่ใช่แค่เสาตะเคียนต้นนี้ที่มีนางไม้ ห้องนอนดิฉันเองก็มีตนหนึ่งห้องพ่อก็มีตนหนึ่ง แถมไม่ถูกกันด้วยนะคะ มีครั้งหนึ่งดิฉันฝันเห็นว่าสองตนจากห้องดิฉัน และ ห้องพ่อเดินออกจากเสามาตบกันตรงห้องโถงใกล้เสาตะเคียนโดยมีผู้หญิงใส่สไบแดงยืนมองดูเฉย ๆ ถ้าดิฉันจะบอกว่าเขาตบกันเพื่อแย่งตัวดิฉันไม่รู้ทุกคนจะคิดว่าดิฉันบ้าไหม๊ เพราะทุกครั้งที่ฝันตอนเด็ก ๆ ดิฉันเป็น " ผู้ชาย " คะ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีด้วยสิคะ และ ในตอนนั้นดิฉันจะชอบฝันว่า นางไม้ที่เสาตรงหัวนอนดิฉันจะมาร่วมหลับนอนกับดิฉันเหมือนเป็นสามีพันยากันเลยละคะ .. และเมื่อสักปีกว่า ๆ อยู่ ๆ ดิฉันก็ฝันเห็นนางไม้ตนนั้นมาหาดิฉันมาขออยู่ด้วยคะ แต่ดิฉันไม่ตอบอะไรเขาไปนิ่ง ๆ งงมากกว่าว่ามาได้ไง .. พอแม่โทกลับไปที่บ้านปรากฏว่าคนที่ซื้อบ้านไปเขา "ยกบ้านถอยหลังไปไว้ท้ายที่คะเพื่อทำโรงเก็บปุ๋ย"

    ... และในทุก ๆ ครั้งที่มีอะไรมากระทบในฝัน ดิฉันจะฝันเห็นบ้านหลังนั้นตั้งอยู่ที่เดิม และ ดิฉันก็ไปที่นั้นบ่อย ๆ ในฝัน อาจเป็นเพราะความผูกพันธ์ที่มีติดอยู่ที่นั้นก็ได้ ..
     
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณกาลีนาน่าจะลองไปฝึกมโยยิทธิดูน่าจะเข้าฌาณได้ไวนะคะ ถ้าเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว อย่างของดิฉันไม่เคยโดนผีอำ แต่มีบ่อยเวลาหลับวิญญาณออกจากร่างเอง และมนไม่ใช่ฝันเพราะสถานทีที่ไปพอไปค้นล้วมีจริง และมันจะชัดมากเหมือนเราไปด้ยกายเนื้อ เวลาจ้องภาพด้านหน้ามันจะไม่สลายแบบเวลาฝัน มันจะเหมือนเห็นด้วยตาจะจะ วิญญาณออกจากร่างบางครั้งเป็นบ่อย มีอยู่ทีนึงไปเจอผีและเขาตามมาบ้านขนาดลุกจากเตียงแล้วเสียงยังได้ยินอยู่ เป็นประสบการณ์นากลัวคะแต่มันเป็นโลกของจิตที่เราควบคุมได้ แต่ต้องมีสมาธิ
     
  12. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ดีใจจังคะที่คุณ DuchessFidgette เข้ามาอ่านโพสดิฉันด้วย

    ... ตอนนี้กำลังหาคนช่วยชี้ทางคะ .. เพราะลองอ่านเองมันยากสำหรับเรา อาจเป็นเพราะเราขี้สงสัยด้วยมั้งคะ .. เพราะถ้าเอาวันเดือนปีเกิดไปตรวจดู มันจะขึ้นว่า ดิฉันมีเทพคุ้มครอง และ เป็นมิตรกับวิญญาณ สามารถทรงเจ้าเข้าผีได้ .. แต่ตลอดชีวิตไม่เคยเจอว่าท่านมาแบบจัง ๆ เห็นแต่ในนิมิตซะมากกว่า .. แต่ก่อนเข้าใจว่าเพราะพ่อเราเขาชอบแสวงหาวิชาไสยย์เวท ชอบท่องเที่ยวไปขุดสมบัติตามที่ต่าง ๆ ทำให้ดิฉันต้องเจอวิญญาณพวกนี้บ่อย ๆ แต่ตอนนี้เข้าใจตรงจุดนี้ดีแล้วคะ ... ความฝัน นิมิตรไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับดิฉันแล้วคะ .. แต่ดิฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นอิสระมากกว่าในโลกความเป็นจริง เพราะโลกนั้นมันเหมือนจริงมากคะ มากซะจนดิฉันคิดเองว่ามันอยู่แค่เส้นบาง ๆ กันไว้ .. ถ้าคุณ DuchessFidgette จำได้เรื่องแฟนที่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุของดิฉัน .. มันคือเครื่องยืนยันว่า ดิฉันไม่ได้ประสาท หรือ บ้า เพราะบางสิ่งที่เขาทำให้เรารับรู้ว่ามีโลกอีกโลกหนึ่ง หรือ หลาย ๆ โลกอยู่ซ้อนกับภพมนุษย์ของเรา ทำให้เชื่อในความรักระหว่างภพชาติ คำสัญญา การชดใช้กรรมต่าง ๆ เป็นแรงผลักดันให้ดิฉันหันหน้าเข้าวัด ศึกษาธรรม บวกกับความสงสัย เรื่องแปลก ๆ ของคนรอบตัว ทำให้ดิฉันกลับไปนึกถึงตอนเด็กเล็ก ๆ ที่เหมือนมีสิ่งหนึ่งสั่งเราเสมอว่า เรามีหน้าที่ต้องทำ แต่ไม่รู้คืออะไร .. พยายามหนีสิ่งเหล่านั้น แต่ชีวิตไม่มีความสุขเลย เลยกลับใจหันหน้าเข้าหาทุกสิ่งที่เราสงสัย ศึกษาและเรียนรู้ไปเพื่อสักวันเราจะเจอเส้นทางที่เป็นของเราเอง มันอาจจะดูช้าไปสำหรับอายุขนาดนี้ แต่ดิฉันยังมีลมหายใจ ตราบใดหน้าที่ที่ต้องทำยังไม่สำเร็จดิฉันคงไม่ถอยหลังแน่ ทุกก้าวอาจจะช้ากว่าคนอื่น แต่ดิฉันก็จะเดินทางแสวงหามันคะ

    .. แต่ก่อนแม่ไม่เชื่อในสิ่งที่ดิฉันมี เขาหาว่าดิฉันบ้าประสาท แต่ทุกวันนี้ดิฉันบอกเขาว่าการที่เรามีสิ่งนี้อยู่คอยปกป้องตัวดิฉันเองไม่ดีเหรอ ไม่งั้นดิฉันคงตายไปนานแล้ว คงไม่มีลูกของแม่คนนี้แล้ว เพราะนับครั้งไม่ถ้วนกับประสบการณ์เฉียดตาย แต่ก็รอดอย่างปาฏิหารทุกครั้งเหมือนมีใครอีกคนในตัวเราตื่นขึ้นมาเหมือนมีสองคนในร่างเดียว .. บางครั้งก็สงสัยตัวเองอยู่ว่าถ้าเรามีอะไรจริง ๆ แบบที่เขาเรียกว่าองค์ ทำไมเวลาไปดูเขาไหว้ครู ลงทรง ดิฉันไม่เห็น รำ สั่น พูดภาษาแปลก ๆ ฯ แม้แต่ไปตำหนักเพื่อให้เขาลองเรียกลงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฉย ๆ เลยคิดว่าท่านคงเป็นเทวดาที่มาคอยคุ้มครองเราให้ปลอดภัย เพื่อให้เราได้ทำความดี และ ค้นพบหนทางที่เป็นของตนเองคะ
     
  13. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    เรื่องที่ 5 กุมารทอง และ ผมผี 3 ป่าช้า

    .. เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านเก่าที่หนองบัวลำภูคะ ตอนนั้นเรียนประมาณม. 4 กลับจากบ้านยายที่สารคามมาที่บ้านถึงตอนกลางวัน ดิฉันก็ใช้ชีวิตปกติคะ ประมาณ 3-4 ทุ่มก็เข้านอน .. ดิฉันนอนแยกห้องกับพ่อแม่คะเพราะโตแล้ว พอหลับตาลงรู้สึกไม่ดีเลยเหมือนมีใครอยุ่ในห้อง นานกว่าจะข่มตาหลับได้เรียกว่าคุมโปงดีกว่า ... พอหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้เหมือนจะดดนผีอำแต่มองไม่เห็น ตกใจตื่นนอนมาเหนื่อยหอบมากเหมือนเราไปทำไรหนัก ๆ มา .. เป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 วันนับแต่กลับจากสารคาม จนตัวดิฉันเองซูบลงตาโบ๋เป็นหมีแพนด้าเลย เดินไปไหนก็เหมือนลอยไป เข้าคืนที่หกของการโดนผีอำ .. วันนี้สวดมนต์ก่อนนอนเพราะคิดว่าโดนดีเข้าแล้วเรา ... เลยพูดไว้ก่อนนอนว่า .. จะผีจะอะไรก็อย่ามาแกล้งกันแบบนี้มันทรมาน เพราะเหมือนคนอดนอนมาหกคืนแล้ว ตั้งใจไว้ว่าถ้าเจอตัวก็ต้องจัดการให้รู้ซะบ้าง พอเข้านอน ... มาจริงคะมาจริงดังคำท้า .. รู้สึกขยับตัวไม่ได้ที่ขาก็เหมือนมีมือเย็น ๆ สีดำ ๆ จับไว้ทั้งสองข้าง ขยับได้แค่ลุกตาคะ .. มองไปที่ปลายเท้าเป็นเงาสีดำของผู้หญิงผมยาวกระเซอะกระเซิงใส่ชุดขาวตาสีแดงแปร๊ด .. แถมมีเสียงหัวเราะด้วย ฮิ ฮิ ๆๆ มาด้วย .. ยังไม่พอที่ตรงอกก็หนักอึ้งเหมือนมีไรมาทับ กลายเป็นว่าเป็นกุมารทองคะอายุนาจะราว ๆ เท่าเด็ก 9 ขวบ ไว้จุกนุ่งโจงกระเบนมานั้งค่อมร่างดิฉันไว้ .. แถมเอามือจับมือดิฉันทั้งสองข้าง ยื้อยุดฉุกกระชากันนานพอควร เพราะสองรุมหนึ่ง ...แต่ด้วยความที่เราเคยผ่านการโดนอำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน .. ดิฉันตั้งสติแล้วพยายามกระดิกนิ้วซ้ายคะ พอกระดิกได้แค่นั้นแหละคะ ก็ต่อยโครมเข้าที่แก้มกุมารทองตนนั้นมองเห็นตัวปลิวไปตกข้างเตียงดัง ตึ้ง !! แบบว่าตกใจเลยคะ เสียงกุมารทองตนนั้นพูดขึ้นว่า "อะไรแค่นี้ก็ต้องทำร้ายกันด้วยแค่มาเล่นด้วยเฉย ๆ " เอ๊ะเรากำลังฝันไม่ใช่เหรอทำไมมันเหมือนจริงมากจัง มือข้างที่ต่อยก็รู้สึกเจ็บ แต่ที่น่าตกใจคือ แม่คะแม่เรียกดิฉันว่าเป็นอะไร "นอนดิ้นจนตกเตียงเลยเหรอ" ดิฉันก็ตอบแม่ไปแค่ "จร้า"

    .. พอเช้ามาแม่ก็ถามว่าเป็นอะไรแน่ ดูแกเป็นห่วงเรามากพ่อก็ไม่พูดอะไร ดิฉันเลยเล่าให้แม่ฟัง ทีนี้ดิฉันได้เจอจริง ๆ เลยคะ แต่ไม่ใช่กุมารทองกับผีตนนั้นนะคะ เป็นตลับที่เขาใส่ทองตามร้านทองนะคะ มีร่างจำลองกุมารทองอยู่ในตลับพร้อมด้วยเส้นผมยาว ๆ 3 เส้น แม่ยิ้มแล้วก็บอกว่า "เพิ่งได้มาตอนไปสารคามนั้น แหละ" จำได้ว่าวันนั้นดิฉันบ่นอยู่ครึ่งวันว่า จะทำอะไรก็ให้สงสารดิฉันบ้าง รู้อยู่ว่าดิฉันไม่เหมือนเด็กคนอื่น มันนอนไม่ได้เอาเข้าบ้านมาก็ไม่บอก ..

    ... แล้วดิฉันก็ไม่เจอกุมารกับผีตนนั้นอีกเลย พอแม่เลิกกับพ่อแม่ได้มาเปิดร้านอาหารที่สารคาม ดิฉันก็ไปทำงานกรุงเทพไม่ค่อยกลับบ้าน มีอยู่ครั้งหนึ่งแม่เล่าให้ฟังว่า มีลูกค้าหลายคนทักแม่ว่ามีหลานชายสองคนเหรอ แม่บอกมีคนเดียว ลูกค้าบอกไม่นะเขาเห็นมีเด็กผู้ชายนั้งเล่นกองทรายอยู่หน้าร้านด้วย แม่เจอบ่อยคะที่ทักเรื่องเด็ก แต่เมื่อสองปีที่ผ่านมา ดิฉันไปถามแม่เพราะคิดว่าน่าจะเอาเขาไปทำบุญให้ พ่อเลี้ยงดิฉันทำตลับนั้นหายไปคะ ..



    #### ดิฉันตั้งใจว่าจะเอาเรื่องลึกลับ เรื่องผี ที่ดิฉันได้เจอมาเล่าในโพสนี้คะเก็บเอาไว้ และ อาจมีประโยชน์แก่บางท่านบ้าง อย่างน้อยก็อ่านแก้เซ็งแก้เหงาไป ขำ ๆ ก็ได้คะ #####
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2012
  14. บัวพ้นตม

    บัวพ้นตม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2013
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +646
    คุณกาลีนะ ประสบการณ์เยอะมากเลยค่ะ อ่านแล้วเพลินดี และได้ขอคิดจากผู้รู้ที่เข้ามาตอบอีกมากมาย ขอบคุณค่ะ({)
     
  15. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ## ขอบคุณคะที่ให้กำลังใจ ... เรื่องผีมีเยอะคะ บางเรื่องก็ยากจะเล่าให้ใครฟังเข้าใจ อย่างเช่นสิ่งที่เจอตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่แฟนที่แพร่ตาย .. ก็เจอแต่เรื่องแปลก ๆ มากขึ้นคะ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังนะคะ
     
  16. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    มาๆมาเล่าให้ฟังเร็วๆไวๆ
     
  17. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ช่วยถ่ายรูปเสาบ้านที่เห็นผู้หญิงท้อง pm มาให้หน่อยได้มั้ยอ่า
     
  18. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    อ่านสนุกดีจังครับ...ผมก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ตั้งกะเด็ก ทำให้เป็นคนกลัวผีมาก จึงได้ท่องพุทโธตลอดเวลา ขนาดในฝันก็ยังท่องเลยนะ..ตอนสมัยเรียนม.ปลายก็ไปหารายได้พิเศษจากการเป็นเช็คเกอร์หนัง มีครั้งนึง โดนให้ไปที่ท่าม่วง ตกค่ำเขาพาเราไปนอน ตอนไปส่งเขาไปกัน2คนแล้วถามย้ำเราว่านอนได้ไหม ก็บอกว่านอนได้ เข้าไปในห้องมีช่องหน้าต่างไม่มีบาน มีกระถางธูปมียันต์มากมาย...แต่ด้วยว่าเรียนวิชาอาคมมาบ้างตั้งกะ 10 ขวบ ตามประสาพวกกลัวผีนี่ต้องเรียนวิชาอาคม จะอ้างว่าลูกผู้ชายไทยสมัยก่อนต้องเรียนวิชาอาคมก็ไม่เชิงเพราะผมเองเป็นลูกเจ๊ก แต่ก็เรียนเอาไว้ ตอนกลางคืนก่อนนอนจะสวดบทบูชาของหลวงพ่อโอภาสี เป็นบทที่กันผีร้ายและวิญญาณต่างๆได้ ไม่ให้เข้าใกล้ในระยะ 20 โยชน์ คืนนั้นก็นอนหลับปกติ เช้ามามองไปทางช่องหน้าต่างถึงได้เห็นว่าเป็นป่าช้า และที่เรานอนคือชั้น2 ของอาคารเก็บศพ ข้างล่างมีศพเก็บอยู่ 9 ศพรอเผา...เดินกลับไปที่บ้านเจ้าของจอหนัง พี่สาวเจ้าของบ้านถามเลยนะว่าเมื่อคืนเจออะไรหรือเปล่า..ในใจก็เคืองนะ มันเหมือนจะแกล้งกัน หรือจะลองกัน ก็เลยบอกว่าไม่มีอะไร แม่เขาก็มานั่งฟังอยู่ด้วย แล้วเขาถามว่าคุณทำยังไง มีอะไรดี ก็เลยบอกว่าท่องคาถาบทนี้แหละ..เขาก็ถึงบางอ้อ..แล้วเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนเขาเคยเจอปีศาจผู้หญิงมายืนกวักมือเรียกที่หน้าบ้านเลย สวดไล่อย่างไรก็ไม่ไป จนมาใช้คาถาบทนี้ สวดแล้วคืนแรกก็ถอยห่างไป คืนถัดๆมาก็ห่างไปเรื่อยๆจนเดี๋ยวนี้ไม่เข้าใกล้อีกแล้ว ไม่เจอกันอีกเลย...เมื่อเขาคิดว่าเราพอจะมีความรู้บ้าง แม่เจ้าของจอ ซึ่งเป็นลูกครึ่งจีนเขมร พ่อแกเป็นหมออาคม เวลาสอนศิษย์อาอึ้มแกจะได้ยิน และด้วยความที่ไม่รู้หนังสือ ความจำจึงดีมาก ฟังเที่ยวเดียวจำได้หมด อาอึ้มเห็นผมพอจะคุยเรื่องพวกนี้ได้ จึงได้สอนคาถาผมมาบางบท เป็นคาถาที่สวดบริกรรมแล้วจะเจอแต่คนดีๆ คนไม่ดีเข้าใกล้ไม่ได้,คาถาทำให้ฟันทน ตัวอาอึัมเองสมัยนั้นก็60กว่าแล้วนะ ฟันแกยังแข็งแรงครบทุกซี่ ผมเองเวลาฟันโยกก็ใช้คาถาบทนี้ฟันก็ไม่หลุด กลับติดแน่นเหมือนเดิม, เหลือคาถาสุดท้ายเป็นเมตตามหานิยมใหญ่ แกบอกว่าท่องให้ฟังรอบเดียวถ้าจำได้เอาไป แต่ถ้าใช้กับผู้หญิงขอให้ตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดได้เกิด..ซวยเลย เมื่อเรียนแล้วใช้ไม่ได้เลยไม่ได้จำ เพราะครึ่งนึงที่อาอึ้มท่องให้ฟังเป็นคาถา นะหน้าทอง ที่ผมทำได้อยู่แล้ว ก็เลยเอาแค่ที่ตัวเองฝึกมาก็พอ ตอนสมัยม.ต้นเคยลองคาถานี้แล้วเหมือนกันนะ เดือนนึงควงไม่ซ้ำหน้าเลย..อิอิ(จนตอนหลังจะโดนพวกรุมกระทืบเลยหยุดลอง แต่ก็ไม่เคยไปทำอะไรผู้หญิงนะ กลัวบาปกรรม อีกอย่างอายุแค่นั้นจะมีปัญญาไปเลี้ยงดูเขาได้ยังไงล่ะ) โตมาหน่อยเลยมาฝึกวิปัสสนา และมาฝึกกับหลวงพ่อฤษี ค่อยมาฝึกต่อกับพระธุดงค์ด้านมหาสติปฐาน เรื่องเหล่านี้เลยอยู่ในเกณฑ์ที่เข้าใจได้ พอรู้ได้ แต่ไม่ค่อยได้สนใจ...คุณกาลีนะ ลองไปวัดท่าซุง แวะไปหาแม่ชีแต๋ว แล้วให้ท่านสอนมโนมยิทธิดูสิ ..ส่วนถ้าขี้เกียจจะเห็น รำคาญ ก็ให้สวดคาถาหลวงพ่อโอภาสี ก่อนนอนกราบหมอน 3 จบ และทุกเช้า สวดมงกุฎพระเจ้า 3 จบครอบหัวไว้ ไม่กี่วันก็เห็นผลนะ หลับสบาย...
     
  19. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    อ้อ..เสาตกน้ำมันก็เคยเจอนะ ลูกน้องที่สุราษฎ์ ชวนไปนอนบ้านแฟนเขา ซึ่งแม่ยายเป็นร่างสืบทอดผีมโนรา ในบ้านมีเสาตกน้ำมัน เขาให้ไปนอนเป็นเพื่อนช่วงที่แม่ยายเขาตาย มุ้งที่ใช้ผูกข้างนึงยังไปผูกไว้กับเสาตกน้ำมันเลย...ลูกน้องนอนไม่ได้ ต้องขอไปกินเบียร์ให้เมาก่อน ขอให้หัวถึงหมอนแล้วหลับไปเลย ส่วนผมพอเข้านอนก็สวดมนต์บูชาพระตามปกติ หัวถึงหมอน แกก็มายืนคร่อมอยู่ใกล้หัว ติดมุ้งเลย แต่เข้ามุ้งไม่ได้ เพราะเสกคาถาปิดเอาไว้ ห้ามเข้า ไม่รู้ทำไมต้องใส่สไบสีแดงกับผ้าถุงสีน้ำหมากมีลายเล็กๆ หรือเป็นเครื่องแบบพวกนี้ก็ไม่รู้ แต่หน้าไม่สวยนะ หน้าตาเป็นยายแก่ สัก 80-90 ปีเลย ยับย่น..ก็คุยกันดีๆนะว่าไม่ได้มารบกวนอะไร ขอมาอาศัยนอนสักคืนนึง มีอะไรจะให้ช่วยก็บอก แกก็บอกว่าพรุ่งนี้เช้า อยากให้เอาเครื่องเซ่นอะไรมาเซ่นไหว้บ้าง ผมรับปากแล้วแกก็ไปนะ ผมก็นอน เช้ามาก็เล่าให้ลูกน้องฟัง จัดเครื่องเซ่นไปให้แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร คบหาเป็นพวกกันไว้
     
  20. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    .. เราไม่ได้ไปแถวนั้นแล้วอะ ตอนนี้เราอย่สารคาม
     

แชร์หน้านี้

Loading...