"เขา"บอกว่ายอดพระกัณฑ์ฯหาสาระไม่ได้ !!!

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย มิ่งมังคลา, 13 มิถุนายน 2012.

  1. มิ่งมังคลา

    มิ่งมังคลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +403
    จากกระทู้ในเว็ปพันทิพย์

    เขาบอกว่าคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกหาสาระไม่ได้ ทำผมแทบตะลึง !!! ผมสวดมานาน ทำไมเขาจึงมาว่าอย่างงี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

    ใครรู้ลึกรู้จริงช่วยอธิบายด้วยครับ


    PANTIP.COM : Y12214591
     
  2. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ แต่ว่าทุกบทสวดสามารถสวดเพื่อสมาธิ อภิญญาได้ เหมือนเรื่องเล่านะโมพุทธาแยะ ที่สวดจนเสกหินเป็นขนมได้ แต่พอรู้ภายหลังว่ามันต้องเป็นยะ กำลังใจก็หายจนทำไม่ได้เหมือนเดิม จนพระอีกองค์ท่านต้องมาแก้ให้จนมีกำลังใจสวดได้ผลเหมือนเดิม
     
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    เรื่องถูกผิดตามบาลี ผมขอเลี่ยงไว้ไม่พูดในข้อนั้นแล้วกันครับ

    แต่เรื่องกำลังใจ ความศรัทธา ว่ากันตรงนี้ดีกว่า
    ท่านคิดว่า ผู้ที่สวดมนต์ได้คล่องแคล่ว เสียงไพเราะ สวดบทที่มีแต่คนนิยมกันว่า ขลัง
    แต่ขณะนั้นจิตใจผู้ที่สวด ไม่ได้เป็นสมาธิเลย คิดแต่เรื่องอกุศลตลอดเวลา

    กับผู้ที่สวดมนต์ไม่คล่อง ติดๆ ขัดๆ ข้าง อ่านออกเสียงผิดบ้าง แต่จิตใจขณะนั้น นึกถึงพระรัตนตรัยตลอดเวลา ไม่เสื่อมคลายลง

    ผู้ใด สวดแล้วได้ผลดีกว่ากันครับ?
     
  4. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    บทสวดยอดพระกัณฑ์เป็นบทสวดมนต์ที่มีอานุภาพสูงมาก ผู้ที่ไม่มีจิตศรัทธาจะไม่รู้หรอกว่า มีอานุภาพอย่างไร ผู้ที่เลื่อมใสเท่านั้นถึงจะรู้พุทธคุณนั้นดี สำหรับผมนั้นบทสวดยอดคาถาพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้มีอานุภาพมากมายหาที่สุดไม่ได้ เพราะสิ่งต่างๆที่ผมได้รับจากบทสวดบทนี้ทำให้ผมเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ผมขอยกพุทธคุณบางอย่างให้ทราบนะครับเกี่ยวกับบทสวดยอดคาถาพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ที่กระผมได้รับโดยตรงจากตัวเอง ก็คือ สามารถช่วยเหลือผู้ที่ตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมาได้ สามารถช่วยเหลือวิญญาณที่ลำบากให้สามารถหลุดพ้นจากวิบากรรมตรงนั้นได้ ถ้าจะถามว่าจริงหรือที่บอกมา โกหกหรือเปล่า ถ้าผมโกหกผลของผมที่ได้รับมิอยู่แล้ว ในเมื่อผมรู้แล้ว แล้วตัวผมจะทำไปทำไม ถ้าคุณไม่ได้พิสูจน์ด้วยตนเองคุณก็จะไม่รู้ ผู้ที่รู้ไม่จริงคือผู้ที่ไม่มีความศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธคุณบทนั้นๆ เห็นเค้าว่าดีก็เอามาสวดบ้าง แต่ตอนสวดไม่ได้มีจิตมุ่งมั่นอยู่กับพระธรรม คิดอยากได้อย่างเดียวว่าต้องได้พุทธคุณอย่างนู้น อย่างนี้ พอไม่ได้อย่างที่ตนเองหวังก็โทษว่าบทสวดบทนั้นไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ คนเราถ้าเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ ว่าอยากเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ ผู้นั้นแหละจะประสบผลสำเร็จ ไม่ว่าจะกระทำสิ่งใดก็ตามแต่


    ผมขอบอกได้เลยว่า บทสวดยอดคาถาพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี่แหละที่ทางเบื้องบนเค้าสวดกันทุกวัน เพราะสรรพคุณมีมากกว่าที่คนบางคนคิดไม่ถึง แค่ถ้าเราสวดไปคิดถึงคำแปลไป เราจะทราบได้เลยว่า การเกิดโดยที่ไม่ต้องไปตกสู่อบายภูมินั้นมีหนทางในการเดินทางไปอย่างไร อย่าคิดแต่เพียงว่าสวดยอดพระกัณฑ์แล้วไม่ตกอบายภูมิแน่ มันไม่แน่เสมอไป ถ้าผู้ที่เชื่อมั่นในบทสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้อย่าแน่วแน่ สักวันหนึ่งผู้นั้นก็จะได้เห็นพระธรรมที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่นามธรรม โดยไม่ต้องไปหาฝึกอภิญญาที่ไหน แค่การสวดมนต์อย่างเดียวก็สามารถเข้าถึงพระธรรมของพระพุทธองค์ได้ ดังคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า "ผู้ที่จะรู้ ผู้ที่จะเห็น จะต้องปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น"


    อนุโมทนาบุญ แด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2012
  5. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916

    สวดมานานแล้ว อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ผมสวดมาได้จะ 2 ปีครึ่ง ไม่ทราบว่าขณะสวดได้ระลึกถึงคำแปลด้วยไหมครับ ถ้ายังผมแนะนำให้ระลึกถึงคำแปลด้วยนะครับ แล้วเราจะได้เห็นภาพยนต์ยิ่งใหญ่อีกเรื่องนึงเลยทีเดียว ทำให้เรามีสมาธิ มีจิตลดกิเลสได้เยอะเลยทีเดียว ผมขอยกตัวอย่างนะครับ ตั้งแต่แรกเลยคือ พระพุทธคุณห้องเดียว ตามมาด้วยขันธ์ ๕ ที่กล่าวถึง ในตัวคนเราทำไมต้องมีรูปร่างแบบนี้ สามารถนึกคิด ปรุงแต่งเรื่องราวต่างๆได้อย่างไร ใครเป็นผู้ที่คิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ตามมาด้วยธาตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดเป็นคนมีตัวตนขึ้นมา ต้องประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง ยิ่งเราพิจารณาลงไปลึกๆเราก็จะรู้ว่า เออตัวเรามันไม่ใช่ตัวเราจริงๆ มันมีแค่จิตอย่างเดียวที่เป็นของๆเรา นี่ขนาดผ่านไปแค่สองสามตอนเอง ที่เหลือลองไปพิจารณาต่อ รับรอง เราจะคิดใหม่ว่า อืม เรานี่โชคดีมากๆเลยที่สามารถสวดบทนี้ได้

    อนุโมทนาบุญแด่เจ้าของกระทู้ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. j.chaisat

    j.chaisat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +842
    ผมรอดตายเพราะสวด พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ติดต่อกัน 7 คืนติดต่อกัน
    คือเคยไปดูดวงถึงสามที่ เพราะไปดูแล้วที่แรกบอกว่าถึงฆาต (วงเล็บเฉยๆ) และผมไปดูอีกที่และคนละวิธีด้วยแต่ดันบอกเหมือนกัน เลยอดใจไม่ได้ว่าถ้าไปดูอีกที่ๆสามผลจะออกมาเป็นไง.....ดันบอกเหมือนกันเลย ...(อ่าวๆ จิตตกสิ..ดันไม่เก่งจริง) กลับมาเลยตั้งจิตอธิษฐานสวดมนต์พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ติดต่อกัน 7 คืนติดต่อกัน และทำบุญทุกอย่างเท่าที่ทำได้ครับ ผ่านมาวันที่แปดรึเก้ามั้งครับ ผมประสบอุบัติเหตุหนักแบบตายแล้วฟื้นครับ แบบไม่น่ารอด รถงี้กระจุยเลย ผมกระโหลกแตก กระดูกหักทั่วตัว สภาพแบบดูไม่เหมือนคนที่จะรอดเลย แต่รอดและออกจากโรงพยาบาลสี่วันครับ ขอบอกนะครับว่าดีแน่นอนล้านเปอร์เซนต์ (ต้องตั้งมั่น เชื่อมั่น และศรัทธาในพระรัตนตรัย ครูอาจารย์) ผมก็ไม่ทราบความหมายหรอก แต่คิดและทำได้เท่านั้นจาก...ใจจริง (ยาวไปนิดแต่ดีแท้ๆ ครับ)
     
  7. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    เขาจะว่าอย่างไร ก็ช่างเขาเถิดนะคะ
    หากเราเชื่อมั่น เราศรัทธา ก็เป็นคุณกับเรา
    ติงเองมีความเห็นว่าบทสวดนี้ถูกจริตของตนมากที่สุดค่ะ
     
  8. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    บทสวดยอดพระกัณฑ์ฯดิฉันเพิ่งมาเพิ่มทีหลัง สวดมาได้เกือบปีแล้วค่ะ ดิฉันสวดมนต์10กว่าปี มีอยู่วันหนึ่งเมื่อปีที่แล้วใกล้ๆกับเข้าพรรษาจู่ๆก็นึกอยากสวดยอดพระกัณฑ์ฯขึ้นมา ...คิดในใจว่าอย่างน้อยในชีวิตน้ีลองสวดเป็นบุญสักคร้ังในชีวิตก็ยังดี ท้ังๆที่หนังสือสวดมนต์ก็อยู่มา10กว่าปีแต่ไม่มีใช้เลย ปรกติจะสวดบทคาถาบูชาดวงชะตา คาถาหลวงพ่อโสธร คาถาบูชาปีมะเส็ง ชิณบัญชร ฯลฯและแผ่เมตตา. ...
    ประสบการณ์สวดวันแรกตะกุกตะกัก เพราะยังใหม่แต่สวดจนจบ ช่วงสวดกลางท้ายๆคาถา ดิฉันมีความรู้สึกว่าจู่ๆก็หายใจลำบากมากรอบๆตัวเหมือนมี...มารุมล้อม ความรู้สึกชัดเจนมาก ใจเริ่มสั่นเต้นถี่ รอบตัวคือบรรยากาศที่ไม่ปรกติ เหมือนโดนรุมล้อมเป็นวงกลมเลย หายใจติดขัดมาก ดิฉันแม้จะกลัวแต่ใจคิดถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คิดถึงหลวงพ่อทุกองค์บนหิ้งพระและสมเด็จพระพุฒาจารย์โตฯ(เพราะประสปการณ์ปาฏิหารย์ที่สวดชิณบัญชร ซึ่งถ้าเล่าคงยาวมาก)ใจจะวิ่งก็ไม่ได้เพราะก่อนสวดได้อ่านว่าถ้าใครสวดยอดพระกัณฑ์ฯเล่นๆจะมีผลร้ายแก่ตัวเอง เลยรวบรวมความกล้าว่า เออ..ตายตอนสวดเดี๋ยวนี้ก็ยอมขอตายในพระศาสนาคิดเตรียมจะไปเจอพยายมล่ะ (ไม่เว่อร์เลยนะ เป็นง้ันจริงๆ เหมือนจฺ่ๆก็ขาดอากาศหายใจอ่ะ) และก็สวดจนจบ อีกประมาณ2-3วันต่อมา นอนอยู่่กลางดึกก็อาการเดิมจู่ๆหายใจไม่ออกเหมือนโดนรุมอีกคราวนี้หนักกว่าเดิมมวลสารในห้องเหมือนมากันเต็มเลย ตกใจมากตะโกนเรียกสามี แต่เขาไม่เป็นไรเลยปรกติดีทุกอย่าง ทรมานชั่วอึดใจ ดิฉันท่องชิณบัณชรเรียกชื่อพระท้ังหมดในใจขอบารมีเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  9. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    สักพักก็หาย แต่เล่นเอาหอบเลยเพราะต้องหายใจลึกๆถี่ๆ ก็เหมือนคนขาดอากาศไงคะ ..เป็นอยู่2คร้ังไม่เป็นอีกเลย ทุกวันนี้เหรอคะ ได้ยอดพระกัณฑ์ฯมา ตามด้วยบทสวดกรวดน้ำ ตามด้วยพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ตามด้วยพาหุงมหาการุณิโก อ้อ บทขอขมาพระรัตนตรัยด้วย จะเห็นได้ว่า ดิฉันตั้งใจแค่ครั้งเดียว แต่ก็สวดมาจนถึงวันนี้และได้สวดอีกหลายบทตามมา
    มีอยู่่ครั้งหนึ่งนะคะ ปรกติเป็นคนขวัญอ่อนซึ่งตกใจง่าย พอเราสะดุ้งเหมือนจะได้รับอันตราย เช่นสะดุ้ง เฮือก!!!! มาเลยค่ะ ..ดิฉันบอกคุณๆไม่ได้หรอกว่าอะไร แต่ความรู้สึกของดิฉันเนี่ยะคือมาจากข้างหลังเลยล้อมรอบเลยเหมือนมี...มาคอยปกป้อง ...
    ใครว่าคาถาไม่ศักดิ์สิทธิ ดิฉันไม่ว่าไร ของใครของมัน ใครทำใครรู้ ใครลองดูใครได้ ...
    อ้อ..ก็ไม่นานมานี้ค่ะ ฝนตกแรงมากหิ้งพระก็ใกล้หน้าต่าง ฝนสาดเราก็นอนอยู่่ในห้องรู้ตัวอีกทีว่าฝนตกก็รีบออกมาจะปิดหน้าต่าง ยังไม่ได้ก้าวไปใกล้หน้าต่างเลยต้องชะงัก ..ไฟหิ้งพระก็เปิดอยฺ่่แต่เทป โอม มณี เป็ง เม โฮม (หาได้ในเวปนี้ค่ะข้ีเกียจอธิบายล่ะ)..มันเงียบไปค่ะ คือดิฉันจะเสียบเทปเสียงสวดไว้ตลอด24ช่ัวโมงเสียบปล๊ักเดียวกับไฟพระสีแดงสองข้าง(ใช้เเทนเทียน)
    ไฟไม่ดับแต่เสียงสวดเทปดับ ได้หยุดสายตากวาดไปรอบๆน้ำฝนสาดเข้ามาจากหน้าต่าง
    ทำให้พื้นเปียกถ้าปรกติดิฉันรีบออกมาไม่ดูมีสิทธิล้มหัวฟาดพื้นไปล่ะ ใครไม่แปลกแต่ดิฉันแปลกค่ะ ประสปการณ์ส่วนตัวต้องเจอเองถึงจะเข้าใจค่ะ ...
    เจ้าของกระทู้เชื่อตรงไหน ทำตรงน้ันค่ะ เชื่อในสิ่งที่ทำแล้วจงทำในสิ่งที่เชื่อ
    ประสบการณ์ของดิฉันเกี่ยวกับการสวดมนต์ยังมีอีกมากให้เล่าคงยาวมากๆ แต่เรื่องราวท้ังหมดลูกหลานดิฉันภายภาคหน้าดิฉันจะเก็บไว้สอนพวกเขา และจะไม่มีการทิ้งการสวดมนต์เด็ดขาด สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  10. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
    เปิดกรุได้ที่เมืองสวรรค์โลก มีคำกล่าวในหนังสือนำว่า ผู้ใดมีไว้ประจำบ้านเรือนมีอานิสงส์ย่ิงกว่าได้สร้างพระเจดีย์ทองคำสูงเทียมเทวโลกและป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำมาหากินเจริญฯ
    ผู้ใดสร้างยอดพระกัณฑ์ฯนี้เป็นธรรมทาน และไว้สวดมนต์สักการะบูชาผลานิสงส์สุดที่จะพรรณนาให้ทั่วถึงได้เป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ จะมีความสุขสิริสวัสด์ิเจริญต่อไปท้ังปัจจุบันกาลและอนาคตภายภาคหน้าตลอดบุตรหลานสืบไป ด้วยอำนาจของความเคารพในพระคาถานี้
    หนังสือยอดพระกัณฑ์นี้ มีกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าเป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกค่ำเช้าแล้ว เป็นการบูชารำลึกถึงพระพุทธเจ้า ผู้นั้นจะไม่ไปตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือน ก็ป้องกันอันตรายต่างๆ จะภาวนาพระคาถาอื่นๆสัก 100ปี อานิสงส์ก็ไม่สูงเท่าภาวนาพระคาถานี้ครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะเนรมิตแผ่นอิฐทองคำก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่มนุษย์โลกสูงขึ้นไปจนถึงพรหมโลก อานิสงส์ก็ยังไมม่เท่าภาวนายอดพระกัณฑ์ฯนี้ และมีคำอธิบายคุณความดีไว้ในต้นฉบับเดิมนั้นอีกนานัปการฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  11. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ต้นฉบับเดิมเปิดกรุได้ที่เมืองสวรรคโลก จารเป็นอักษรขอมจารึกไว้ในใบลาน โบราณาจารย์จึงได้แปลเป็นอักษรไทย หลวงธรรมาธิกรณ์ (พระภิกษุแสง) ได้มาแต่พระแท่นศิลาอาสน์ มณฑลพิษณุโลก
    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกนี้ ถ้าผู้ใดบริจาคทรัพย์สร้างถวายพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ญาติ-มิตรสหาย หรือสวดจนครบ7วัน ครบอายุปัจจุบันของตน จะบังเกิดโชคลาภทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง จะพ้นเคราะห์ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยและภัยพิบัติท้ังปวงฯ
    ผู้ใดตั้งจิตเจริญภาวนายอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกวันละสามจบจะไม่มีบาปกรรม ทำสิ่งใดจะได้สมความปราถนา สวดวันละเจ็ดจบกระดูกลอยน้ำได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  12. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    สวดมนต์ต้องทำด้วยใจ ไม่มีสมาธิ เศร้าแล้วมาสวด โกรธใครแล้วมาสวด ดิฉันว่าไม่เป็นไร เพราะต้องการสวดเพื่อขัดเกลาจิตใจ แต่ไม่ใช่สวดเล่นๆ ไม่นับถือ สวดครึ่งๆกลางๆหรือเอาบทสวดมาล้อเล่น ...บทสวดมนต์ทุกบทมีความขลังในตัว มีอานิสงส์มาก ยิ่งจิตสงบมากความขลังและอานุภาพ อานิสงส์ยิ่งแรง...
    มาสวดมนต์กันเถอะค่ะ มีเวลาน้อยให้เลือกบทง่ายๆ มีเวลามากก็เต็มที่เลยค่ะ ทำบุญง่ายๆไม่ใช้เงินอานิสงส์มาก แล้วจะไม่ทำเหรอคะ...?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2012
  13. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ผู้ที่สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกอยู่ ถ้าได้ไปกราบไหว้แหล่งที่มาของบทสวดนี้ จะรู้สึกปลื้มปิติมาก ซึ่งเมืองสวรรคโลกนั้น ในปัจจุบันก็คือพระแท่นศิลาอาสน์ อยู่ที่ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ผมเป็นคนปทุมธานีได้มีโอกาสขึ้นไปกราบไหว้เท่าที่จำได้ ๕ ครั้งแล้ว



    บทสวดมนต์ส่วนใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่อยากได้ที่มีพระพุทธคุณสูงๆ เพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่น้อยคนนักที่เลือกบทสวดที่เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ เพื่อที่อยากจะพ้นทุกข์โดยตรง ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจริตของแต่ละบุคคลไม่สามารถบังคับกันได้



    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,186
    คืองี้ครับคาถากับความถูกใจเมื่อแปลมีผลต่อความคิดคน แต่ถ้าลึกเข้าไปถึงอานุภาพแล้วมีีหลายคาถาที่แปลแล้วไม่เกี่ยวกับความสวยงามในบทแต่จะว่าด้วยอานุภาพที่ให้และลึกเกินกว่าจะนึก
    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏกก็เป็นเช่นนั้น
    อันนี้ต้องแถลงไขเพราะจะทำให้สำคัญผิด
     
  15. Pinbow

    Pinbow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +297
    เพื่อนดิชั้นเล่าว่าแม่เขาป่วยหนัก เขาตั้งใจสวดยอดพระกันไตรปิฎกหลายเดือน แล้วแม่เขาก็หายป่วยเป็นปกติ อานิสงค์มากจริงๆ
     
  16. ลูกหลานปู่

    ลูกหลานปู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +74
    ถามก่อน...........เขาที่ว่านะใคร....
    ผมจะสาธุ............เพราะ ตัดคู่เข่งที่จะไปทำความดี ได้กุศลไปอีกคน
    *********
    ส่วน ยอดพระกัณฑ์ ดีอย่างไร ไม่อยากอธิบายยยย...
    ***--- คุณ รู้ไหม การบอกคนอื่นผิดๆ เป็นมิจฉาทิฎฐินี่..มันเป็นการสร้างบาป สร้างกรรมแค่ไหน--------------
     
  17. ลูกหลานปู่

    ลูกหลานปู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +74
    การสร้างบุญ การได้กุศล การได้อานิสง ที่เห็นผลทันตานะ........
    มันไม่เหมือนกัน......คาถาบทใหญ่พลังสูงๆนี่.....พลังจิตใครดี คนนั้นได้มาก
    ไม่ต้องไปดูคำแปล....บางคาถาเขาไม่ให้แปล ......เพราะแปลไปมันก็ไม่มีความหมาย
    ความหมายอาจไม่ตรงตามที่เราคิด........แต่คาถา ดีๆนะมันไม่ได้มาจากความคิดนะ....
    มันเกิดจาก เทพ พรม พระพุทธเจ้า พระอริยะ ประทานให้ .....
    บางคน สวดแล้วไม่ได้ผล บ้าง หาว่าไม่ได้ ประโยชน์ บ้างก็ปล่อยเขาไป ช่วยอะไรไม่ได้ จริงๆครับ..............ยิ่งไปบอกคนอื่นว่าไร้สาระด้วยแล้ว....ผมไม่อยากจะพูดเลยยย
    ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนๆนั้น เอาแปนว่าปล่อยๆไปเถอะ.......
    บทบางบทเป็นบทขอ.........แปนบทอ้อนวอนก็จริง แต่ถึงยังไง สวดแล้วเราได้สมาธิ ได้ลด ความขี้เกียจได้แผ่เมตตา ยังไงก็ได้บุญ ได้อานิสง อย่าไปหลงผิดๆนะครับ คาถาพวกนี้ไม่ไใช่ว่าเราคิดเองเอาง่ายๆ......ทำเล่นๆ บาปหนักนะครับ
     
  18. ☼Supermoon☼

    ☼Supermoon☼ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +16
    พอดีได้อ่านก่อนกระทู้จะถูกลบทิ้ง ที่เขาบอกว่าหาสาระมิได้ หมายถึงบท "คาถา" บางส่วนที่คนในกระทู้นั้นบอกว่าเป็นส่วนที่พวกนิยมลัทธิไสยศาสตร์เพิ่มเข้ามา....

    หนังสือเล่มนี้ (ตามลิงก์ด้านล่าง) ระบุว่าพระคาถานี้เป็นการรวมคำสอนจากพระไตรปิฎก และประกอบด้วยบทต่างๆต่อไปนี้

    บทพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑ พุทธคุณ ๙
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๒ พุทธคุณ ๙
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๓ ขันธ์ ๕ สร้างบารมี
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๔ ความรู้แจ้งในธาตุ ๖
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๕ ความรู้แจ้งในจักรวาลและสวรรค์ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๖ ความรู้แจ้งในภูมิ ๔ ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๗ ความรู้แจ้งในรูปฌาน ๕ ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๘ ความร้แจ้งในอรูปฌาน ๔ ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๙ ความรู้แจ้งในอริยมรรค ๔ ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๐ ความรู้แจ้งในอริยผล ๔ ของพระพุทธเจ้า
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๑ หัวใจยอดพระกัณฑ์
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๒ สวดคาถาอย่าทิ้งความดี
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๓ ธรรมะให้ผลยิ่งใหญ่
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๔ อานิสงส์ของการนอบน้อมพระรัตนตรัย
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๕ พระคาถามหาทิพยมนต์
    - อธิบายประกอบยอดพระกัณฑ์ฯ ข้อที่ ๑๖ ที่สุดแห่งการเรียนรู้ คือ ไตรลักษณ์

    (มิได้ต้องการโฆษณา แต่ว่าได้ข้อมูลจากหนังสือเล่มนี้ค่ะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสนพ นี้)
    http://www.lc2u.org/th/detail.php?CatID=3&ProductID=25


    สำหรับส่วนตัวดิฉันเอง ไม่เห็นว่าจะ "หาสาระไม่ได้" ตรงไหน ต่อให้เป็นคาถาส่วนที่แปลไม่ได้ ดิฉันก็ไม่ได้ดูถูกเพราะเคยอ่านเรื่องมนต์คาถามาบ้าง หากคนไหนสวดก็จะทราบได้เองว่าดีหรือไม่อย่างไร มีสาระหรือไม่อย่างไรค่ะ
     
  19. ph240

    ph240 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +119
    พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก (แปล)


    ๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้รู้แจ้งโลก

    ๒. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เอง ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ด้วยเศียรเกล้า

    ๓. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอนุตตะโร คือ ยอดเยี่ยม

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตื่นจากกิเลส

    ๔. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

    ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็น

    ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า

    ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ด้วยเศียรเกล้า

    ๕. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น รูปขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เวทนาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สัญญาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สังขารขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น วิญญาณขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

    ๖. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ดินจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ไฟจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ลมจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ น้ำจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ อากาศจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์

    ๗. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นยามา

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นนิมมานรดี

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในกามาวจรภูมิ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในรูปาวจรภูมิ

    ๘. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปฐมญาน

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ทุติยญาน

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ตติยญาน

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ จตุตถญาน

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปัญจมญาน

    ๙. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากาสานัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ วิญญาณัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากิญจัญญายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ

    ๑๐. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติมรรค

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิมรรค

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิมรรค

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอรหัตตมรรค

    ๑๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติผล และ พระอรหัตตผล

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิผล และ พระอรหัตตผล

    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิผล และ พระอรหัตตผล

    ๑๒. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอิสสระแห่งชมภูทวีป

    ธรรมะฝ่ายกุศล ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ด้วยหัวใจพระวินัยปิฎก ด้วยหัวใจพระสุตตันตปิฎก ด้วยหัวใจพระอภิธรรมปิฎก

    ด้วยมนต์คาถา ด้วยหัวใจมรรคสี่ ผลสี่ และ นิพพานหนึ่ง ด้วยหัวใจพระเจ้าสิบชาติทรงแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ

    ด้วยหัวใจพระพุทธคุณเก้า ด้วยหัวใจพระไตรรัตนคุณ ธรรมะฝ่ายกุศล มีนัยอันวิจิตรพิสดาร

    ๑๓. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

    ๑๔. ธรรมะฝ่ายกุศล ของผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา

    ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ธรรมะฝ่ายกุศล พระพุทธเจ้าเป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นยามา

    ธรรมะฝ่ายกุศล ด้วยความศรัทธาต่อพระพรหม ด้วยพระบารมีอันยอดเยี่ยมของพระโพธิสัตว์ทั้งห้า ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

    ๑๕. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นดุสิต

    ๑๖. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นนิมมานรดี

    ๑๗. ธรรมฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้รู้แจ้ง สังขารขันธ์ รูปขันธ์ เป็นของไม่เที่ยง เป็นความทุกข์ มิใช่เป็นตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัสดี

    ๑๘. ธรรมะฝ่ายกุศล ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นพรหมโลก ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า ด้วยคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งตราบเข้าสู่พระนิพพาน

    ๑๙. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า ด้วยการสวดมนต์พระคาถานี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

    ๒๐. ด้วยการสวดพระคาถามหาทิพมนต์นี้ และด้วยการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

    ๒๑. ด้วยการสวดพระคาถามหาทิพมนต์นี้ และด้วยการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

    ๒๒. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้เข้าถึงรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

    ๒๓. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้เข้าถึงรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

    ๒๔. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

    ๒๕. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว

    ๒๖. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว

    ๒๗. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ด้วยคำสอนของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ด้วยพระธรรมคำสั่งสอน ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง
     
  20. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    "เขา"คือใคร เก่งกว่าพระพุทธเจ้าไหม

    ถ้าคำตอบ คือ ไม่ แล้วเราจะไปสนใจ "เขา" ทำไม
     

แชร์หน้านี้

Loading...