เข้าฌานสมาบัติในช่วงน้ำท่วมกันดีไหม?

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย NICKAZ, 4 พฤศจิกายน 2011.

  1. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นเดียวกันครับ

    ขอขอบคุณ คุณ constantin4115 เป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาทักทายกันอยู่เสมอครับ คุณ constantin4115 ก็กล่าวถึงผมเกินไปอีกแล้ว

    ถ้าจะกล่าวถึงในวงการผู้ฝึกอภิญญา ผมก็เป็นได้แค่หางอึ่งเท่านั้นล่ะ เพราะฉะนั้น เท่ากับว่าคุณ constantin4115 กับผมก็เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็น "หางอึ่ง" เหมือนกันนั่นเอง ดังนั้น มีอะไรก็คุยกันได้ครับ อย่าไปถือว่าใครเป็นหางอึ่งหรือใครจะรู้มากกว่าใคร ไม่แน่ ผมอาจจะถือโอกาสเรียนรู้จากคุณ constantin4115 เพิ่มเติมไปในตัวด้วยก็ได้

    อีกอย่าง ในห้องอภิญญา xp นี้ จุดมุ่งหมายชัดเจนอยู่แล้วว่า มีไว้เพื่อ

    "ใช้เล่าประสบการณ์จากการฝึกสมาธิ เช่น การฝึกมโนมยิทธิ สมาธินิมิต ตาทิพย์ หูทิพย์ ถอดจิต อิทธฤทธิ์ และ อภิญญา ฯลฯ
    ตั้งแต่ระดับขั้นเริ่มต้นฝึกจนถึงระดับขั้นสูง.. เพื่อเป็นธรรมทาน เป็นกำลังใจให้แก่ผู้สนใจ"


    อันนี้ชัดเจนครับว่าห้องนี้มีไว้ทำอะไร ผมเลยเข้ามาคุยได้ด้วยความสะดวกใจ ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอีโก้หรือความอยากอวดอะไร (เพราะไม่ได้มีอะไรจะอวดได้อยู่แล้ว) และถ้าผมยึดถืออย่างนั้น ในกระทู้นี้ทั้งหมด ผมคงจะเป็นพวกมีอีโก้สูงหรืออยากอวดมากจริงๆ แต่แท้จริงแล้ว เคราะห์ดีที่ผมไม่ได้คิดอยากนั้น จึงไม่ได้คิดว่าเรื่องที่เอามาคุยในกระทู้นี้มันจะเป็นอีโก้หรือความอยากอวดใดๆทั้งสิ้น

    ผมจึงอยากให้มีการคุยในกระทู้ให้เต็มที่ เพื่อเป็นธรรมทานและเป็นกำลังใจให้กับผู้สนใจทั่วไป โดยเฉพาะคุณ constantin4115 ฝึกมาได้ถึงฌาน 4 ตามที่เล่ามา แสดงว่าอยู่ในขั้นที่ไม่ธรรมดาแล้ว การพูดคุยกันในห้องนี้ ถึงแม้จะรู้สึกว่าไร้สาระสำหรับตัวเอง แต่อย่างน้อยผมว่าไม่ไร้สาระสำหรับผู้อื่นแน่นอน ในการที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สนใจทั่วไปและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของห้องอย่างแท้จริง

    ผมเข้ามาสัมผัสกับเว็บไซด์นี้ได้ไม่นาน ที่เข้าเพราะเห็นว่าเป็นแหล่งความรู้ที่ดี มีหลักวิชาแนะนำในการปฏิบัติได้อย่างค่อนข้างจะครบถ้วน ทั้งในรูปแบบไฟล์เอกสาร ไฟล์เสียง คลิปวีดีโอ เหมาะสำหรับการศึกษาด้วยตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

    ที่สำคัญอย่างยิ่ง เว็บไซด์นี้ยังมีเว็บบอร์ดที่เป็นชุมชนนักปฏิบัติ เข้ามาพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลาด้วย ผมรู้สึกทึ่งในความรู้ความสามารถของสมาชิกแต่ละท่าน ที่ใช้เวลาปฏิบัติแล้ว ยังมีเวลามาพูดคุยกันอีก ส่วนผม หน้าที่การงานที่มีอยู่ รวมเวลาของการฝึกปฏิบัติแล้ว วันๆแทบไม่เหลือเวลามาพูดคุยกับใคร ดังนั้น ผมจึงยกย่องท่านทั้งหลายในที่นี้ว่าจัดสรรเวลาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ

    เหตุผลที่ผมต้องให้เวลากับการฝึกปฏิบัติอย่างมาก เพราะตระหนักว่าเวลาที่มีอยู่มันเหลือไม่มาก สำหรับผู้ที่ฝึก"อนาคตังสญาณ"แล้ว เราจะทราบจุดจบของตัวเองเป็นอย่างดี ดังนั้น ที่ผ่านมา ผมจึงไม่ค่อยจะได้คุยกับใคร เนื่องจากต้องการเร่งตัวเองให้บรรลุภารกิจตามที่ได้ตั้งใจไว้

    ต่อจากนี้ไป ทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาที ผมจะไม่ปล่อยใจให้อยู่ในความประมาทอย่างแน่นอน โดยยึดถือปัจฉิมโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ตั้ง

    “หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว วะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ”


    สำหรับเรื่องอภิญญาสมาบัติ แม้จะเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทั้งหลายมองว่าเป็นของเด็กเล่น เป็นเรื่องของผู้ที่มีความรู้ความสามารถไม่มากนัก ผมก็ยังถือว่าตัวเองก็แค่หางอึ่ง แน่นอนว่าในวงการอภิญญานั้น "เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า" เสมอ แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร สิ่งที่พอจะกระทำได้อยู่เสมอก็คือต้องทำการ ซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อมและซ้อม เพื่อการพัฒนาตัวเองต่อไป

    สำหรับผมแล้ว ครูเป็นผู้ที่สำคัญที่สุด จะไม่ยอมออกนอกลู่นอกทางจากที่ครูสอนเด็ดขาด

    ครูจะเป็นพระอริยเจ้าชั้นไหน ผมไม่ทราบ เพราะครูไม่เคยบอก ผมเองก็ไม่มีภูมิธรรมที่จะไปทราบได้ว่าครูมีความรู้ถึงขั้นไหน แต่สิ่งที่ครูแสดงให้เห็น ทำให้เชื่อมั่นได้ในความดีของครู

    เวลาครูเข้าฌานสมาบัติ ครูจะเข้าฌานไปถึงชั้นไหน เนวสัญญานาสัญญายตนะ หรือว่าจะเป็น สัญญาเวทยิตนิโรธ ผมก็ไม่ทราบได้ เพราะครูไม่เคยบอกและผมก็ไม่ได้มีภูมิธรรมที่จะไปทราบได้ ศิษย์เห็นครูเข้าฌานสมาบัติ เกิดร้อนวิชา เข้าฌานสมาบัติตามบ้าง ก๊อกๆแก็กๆ อยู่แค่อุปจารสมาธิ ปฐมฌาน ก็หมดภูมิเสียแล้ว ไปต่อไม่ได้ ครูก็ทราบดี เดือดร้อนถึงครู ต้องมาเคี่ยวเข็ญ กวดขัน ให้ศิษย์ทำให้ได้อย่างครู (เหลือก็แต่สัญญาเวทยิตนิโรธอย่างเดียวนี่ล่ะ ที่ยังติดค้างอยู่ภายในใจ เพราะภูมิธรรมยังไม่ถึงขั้น แต่ก็จะพยายามพัฒนาตัวเอง เพื่อไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ต่อไป)

    ถึงจะเป็นพวกขี้เกียจ รักความสบาย แต่ผมก็คิดว่าผมมีอยู่อย่างหนึ่งที่หล่อเลี้ยงเป็นกำลังใจอยู่ ก็คือความปรารถนาที่จะให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ที่สำคัญ ผมมั่นใจว่าผมมีอิทธิบาท 4 พอสมควรในการที่จะไม่ยอมแพ้กับคำสั่งสอนและบททดสอบของครู เพราะผมถือหลักประจำใจอยู่ตลอดมาว่า

    "สิ่งที่เราทำไม่ได้ อย่าคิดว่าผู้อื่นจะทำไม่ได้ แต่สิ่งที่ผู้อื่นทำได้ เราก็ต้องทำให้ได้ด้วย"

    หวังว่าเรื่องราวของผม คงจะเป็นกำลังใจให้กับผู้เริ่มฝึกปฏิบัติได้ไม่มากก็น้อย (สำหรับท่านที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากแล้วในบอร์ดนี้ ผมคงไม่อาจเอื้อมที่จะไปเป็นกำลังใจให้ท่านนะครับ) ผมซึ่งอาจจะเป็นคนที่ไม่เอาไหนในสายตาของครู (ถึงต้องพยายามเคี่ยวเข็ญให้ได้ดี) ยังมีความตั้งใจฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่องได้ ดังนั้น ผมเชื่อว่าในบอร์ดนี้ แต่ละท่าน น่าจะมีกำลังใจสูงกว่าผมเยอะ มีความเพียรมากกว่าผมเยอะ (ไม่ใช่พวกขี้เกียจอย่างผม) ก็คงจะต้องฝึกฝนตัวเองได้ดีกว่าผมอย่างมากมายแน่ๆ

    ไปล่ะครับ ขอตัวไปฝึกปฏิบัติต่อ เพื่อ "อาสวักขยญาณ " อันเป็นสิ่งที่เฝ้าหา ถ้าบรรลุได้ ก็จะนำไปสู่การเสร็จสิ้นของภารกิจในชาติภพนี้เสียที ขอขอบคุณท่านสมาชิกที่ได้ติดตามอ่านกระทู้ไร้สาระ กระทู้นี้นะครับ
     
  2. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    ถ้าจิตลง อะไรในสามโลกธาตุก็ทำลายไม่ได้ คำสอนจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ผมชอบมากๆ

    เข้ามาตอบที่กระทู้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ายังติดค้างสมาชิกอีกหนึ่งท่าน ที่ได้สละเวลาเข้ามาอ่านกระทู้ของผม ต้องขอขอบคุณคุณแสนสวาทด้วยนะครับ ที่ได้เข้ามาทักทายกัน

    เห็นคุณแสนสวาทรับดูจริตที่เหมาะกับการเจริญกรรมฐานอยู่ด้วย ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นการกุศลอย่างหนึ่ง ที่ผมขออนุโมทนาด้วย

    เข้ามาขอบคุณคุณแสนสวาทแล้ว ยังไม่ทราบว่าจะเอาอะไรมาคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับท่านสมาชิกดี? ไหนๆ ก็เข้ามาแล้ว นานๆจะได้มีโอกาสเข้ามาเสียที งั้นคุยกันเรื่องเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยในการฝึกอภิญญาก็แล้วกันนะครับ

    คุณแสนสวาทพูดถึงจริตในการเจริญกรรมฐาน แต่เดิม เวลาผมเริ่มฝึกอภิญญาใหม่ๆ ไม่ทราบหรอกว่าตัวเองมีของเก่าหรือไม่ อย่างไร การฝึกจึงเริ่มแบบจัดหนัก จัดเต็มกันไปเลย ซึ่งก็ต้องทำตามแบบธรรมเนียมคือการฝึกกสิณ 10

    ทีนี้การฝึกกสิณ 10 ท่านว่าไว้ว่าให้เลือกฝึกที่ถูกจริตกับตัวเองก่อน จะได้ไปไว ผมก็ใช้วิธีง่ายๆ คือ มีอยู่ 10 อย่าง ก็ดูว่าชอบอะไรมากที่สุด ก็เลือกอย่างนั้น ผมชอบไฟ ดังนั้น กสิณกองแรกสำหรับการเริ่มต้นฝึกอภิญญาของผมคือ เตโชกสิณ

    ในบรรดากสิณ 10 ภูตกสิณ 3 คือ ไฟ น้ำ ดิน และวรรณกสิณ 4 คือ สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีขาว และอาโลกกสิณ นั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับผม เพราะคุ้นเคยดีในชีวิตประจำวัน หลับตา ลืมตา สร้างนิมิตได้ทันที ไม่ยุ่งยาก

    ที่เป็นปัญหาสำหรับผม เห็นจะเป็นอากาศกสิณและวาโยกสิณ เพราะมันมองไม่เห็น จึงต้องใช้เวลาไปนั่งมอง พิจารณาบ้าง อาศัยพื้นฐานจากอานาปนสติ เข้าฌาน 4 อานาปนสติ แล้วหลบอารมณ์เล็กน้อย ไปจับอารมณ์ของวาโยและอากาศกสิณ เท่านี้ก็พอถูไถไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

    หลังจากนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือกสิณทั้ง 10 ต้องซ้อมให้คล่อง การฝึกทรงนิมิตเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการฝึกอภิญญาขั้นสูง การหัดทรงมโนภาพของสิ่งต่างๆ จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะมาก ตอนฝึกกสิณ 10 เราจับภาพนิมิตในแบบธรรมดา เป็นรูปทรงกลม แต่ในการปฏิบัติขั้นสูง การสร้างมโนภาพของสิ่งต่างๆ ในใจ มักจะมีรูปทรงที่ไม่แน่นอน หลากหลาย รายละเอียดก็มาก ดังนั้น ถ้าสมาธิไม่ถึงขั้นจริงๆ มโนภาพที่ได้ก็จะไม่สมบูรณ์

    ถ้าจะถามว่าการทรงมโนภาพของสิ่งต่างๆ ที่มีรายละเอียดเยอะ ให้เกิดเป็นนิมิตชัดเจนในใจทำได้อย่างไร ตอบได้ว่าอาศัยกำลังของสมาบัติในการควบคุมภาพนิมิตเอาไว้ให้ได้ครับ ดังนั้น สมาธิต้องแน่นอนจริงๆ เพราะว่านิมิตจะเกิดได้ ต้องอาศัยจิตที่เป็นฌาน ฌานเกิดขึ้น นิมิตทรงอยู่ ฌานเสื่อมสลาย นิมิตก็เสือมสลายไปด้วย

    ยกตัวอย่างที่พวกคล่องๆ เขาชอบเล่นกัน แบบว่าเป็นของพื้นฐานเลย(ที่เขาว่ากันว่าเป็นของระดับทารก) ในเรื่องของทูเรภาพ การอธิษฐานให้ของใกล้ๆ ไปอยู่ในที่ไกลๆ หรือเอาของไกลๆ มาอยู่ในที่ใกล้ๆ อย่างนี้ต้องอาศัยการสร้างมโนภาพของสิ่งที่ต้องการเคลื่อนย้าย แล้วเพ่งจนใจสงบ จากนั้นจึงอธิษฐานผลให้เป็นไปตามต้องการ (อันนี้ว่ากันแบบช้าๆ แต่ท่านที่ชำนาญ ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าฌาน แค่นึกก็เป็นไปในทันที) แบบนี้จะเห็นได้ว่าการมโนภาพของวัตถุต้นแบบที่ทำให้เกิดเป็นนิมิตในใจจะต้องชัดเจน ในการนี้ก็ต้องอาศัยกำลังสมาธิในระดับสูงทีเดียว

    เรื่องทูเรภาพนี้ ครูเคยบอกกับผมว่า ถ้าคล่องจริงๆ จะเอาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ที่อยู่ไกลๆ นอกโลก ให้เข้ามาใกล้ๆ ไว้ลูบคลำเล่นก็ยังได้ ผมก็แปลกใจ ลูบคลำดวงอาทิตย์เล่นได้เชียวหรือ ในดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยานิวเคลียร์ อุณหภูมิสูงเป็นแสน เป็นล้านองศา มันร้อนมากนะนั่นน่ะ ครูบอกว่าจะไปยากอะไร ถ้าใจอยากจะให้ร้อนหรืออยากจะให้เย็น ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ เรื่องอภิญญานั้นใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน

    อย่างนี้ตรงกับคำของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เลย ที่ท่านยกให้ใจเป็นใหญ่ ถึงกับกล่าวไว้ว่า "ถ้าจิตลง อะไรในสามโลกธาตุก็ทำลายไม่ได้" อันนี้ผมชอบมากจริงๆ หลวงตาท่านกล่าวไว้ตรงใจผมที่สุด

    เรื่องการเอาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์มาลูบคลำเล่นแบบนี้ อย่างผมคงจะอีกนานกว่าจะเข้าถึง เพราะครูก็บอกว่า "อย่างเอ็งมันเร็วเกินไปที่จะทำอย่างนั้น" ก็ตอนนี้ยังเป็นแค่หางอึ่งในแวดวงอภิญญาอยู่เลยนี่ครับ ไม่เป็นไร สำหรับผม ก็คงจะต้องตั้งหน้า ตั้งตา ซ้อม ซ้อม ซ้อม ซ้อมและซ้อม เพื่อการพัฒนาตัวเองต่อไป

    ไปล่ะครับ ดูในกระทู้ไม่ได้มีติดค้างท่านใดแล้ว ปล่อยให้ติดค้างไว้ไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียมารยาทเจ้าของกระทู้กันพอดี งั้นขอตัวไปฝึกปฏิบัติต่อ เพื่อความสำเร็จกิจที่มุ่งหวัง ในการจบสิ้นชาติภพต่อไปครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้อีกครั้งนะครับ
     
  3. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ทำได้ตลอดคับปฏิบัติดีชอบ ไม่จำกัดเวลา สถานที่
     
  4. กิตติภพ12

    กิตติภพ12 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอสอบถามทุก ๆ ท่านครับ คือผมเพิ่งหัดเริ่มนั่งสมาธิ ตอนนี้เริ่มนั่งได้ประมาณวันละ 30 นาที อยากทราบว่าควรทำอย่างไรต่อไป ใช้ภาวนาพุทธโธ หรือบางครั้งนั่งหลับตาแล้วท่องคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤษีลิงดำ จะให้มีความก้าวหน้าต้องทำอย่้างไรบ้าง หัดทำด้วยตนเองครับ
     
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    วิธีที่ผมเดินจงกลม คือ ก้าวท้าวขวา ขวาย่างหนอแล้วเพ่งไปที่กระดูกเท้าขวาให้เห็นกระดูกขาว แล้วพิจารณาความแก่ คือ เราก้าวมาสู่ความแก่อีกก้าวแล้วหนอ นึกภาพตอนเราแก่หรือภาพความแก่ทั้งหลาย แล้ว ยกไตรลักษณ์มาปลงคือ ความแก่ก็ไม่เที่ยงหนอ ไม่ยึดมั่นถือมั่นหนอ ทุกข์ขัง อนิจจัง อนัตตา
    ก้าวท้าวซ้ายต่อ ทำเหมือนเดิม แต่พิจารณาความเจ็บ แล้วปลงด้วยไตรลักษณ์
    ก้าวท้าวขวาต่อ พิจารณาความตาย แล้วปลง
    ก้าวท้าวซ้ายต่อ พิจารณาความพลัดพลาก แล้วปลง
    ก้าวท้าวขวาต่อ พิจารณาเรามีกรรมเป็นของๆตน แล้วปลง
    เดินไปเรื่อยๆสักชั่วโมงแล้ว ไปนั่งสมาธิอีกสัก1ชั่วโมงคับ
    วิธีนั่งสมาธิ ให้จับพองยุบของท้อง วางจิตไว้เหนือสะดือ2 นิ้ว ไม่ว่าเห็นอะไรหรือ อารมณ์อะไรเกิดให้กำหนดรู้ แล้วยกไตรลักษณ์ปลงคับ

    ทำไปเรื่อยๆคับเหนื่อยก็พักแล้วคุณจะได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าจะวิปัสสนา ก็ให้ศึกษาตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ นะครับ

    ถ้าจะนั่งเป็นสมถะ ก็นั่งตามดูลมหายใจไปเรื่อยๆ แล้วเทียบฌานกับที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอน

    ให้หาธรรมะฟังจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อ นะครับ
    ข้อปฏิบัติแบบกึ่งเดียรถีย์ ผิดครูอาจารย์ ปฏิบัติตาม อาจจะหลงได้ครับ
     
  7. กิตติภพ12

    กิตติภพ12 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +52
    ขอขอบคุณทุกท่านครับ ผมคิดว่าจะรอพระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุนมาบ้านวิริยะบารมีที่วุฒากาศ 24 ซึ่งการเดินทางจากบ้านของผมไม่ไกลเกินไป พอไปได้อยู่แล้วไปเรียนกับท่านดีกว่าครับ กลัวผิดวิธีเรียนแบบมีครูดีกว่า
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หลวงพี่เล็ก เกาะท่านไว้ ไม่หลงแน่นอน... ถ้าคุณสามารถขอเกาะท่านได้นะครับ :p

    ถ้าอยู่ในกรุงเทพ ไม่มีรถส่วนตัว อีกที่นึงที่ผมแนะนำ คือ คณะวิปัสสนาธุระ (คณะ 5) วัดมหาธาตุฯ สนามหลวง ครับ...
     
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    หลงสิคับ อินบุตรปฏิบัติมาจนผมขาวยังไม่ได้อภิญญาอะไรเลย ได้อยู่อย่างนึงคือ ได้แต่พูดนั่นทีพูดนี่ที และหัวเราะบ้างเป็นนิจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ยังไม่ได้ญาน ฌาน อภิญญาอะไร อย่าเพิ่งมาแสดงตนเป็นผู้รู้และจำแนกว่่าวิธีปฏิบัติของใครผิดถูก อันจะหากรรมหนักเข้าสู่ตนเปล่าๆถ้าไปกล่าวล่วงเกินวิธีปฏิบัติที่ได้ญานจิง ได้อภิญญาหรือญานหยั่งรู้สักอย่างแล้วค่อยมาแนะนำดีกว่าคับอินทรบุตร
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สติปัฎฐาน วิชาของพระพุทธเจ้า ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเอามากล่าวเล่นๆ เหมือนกันนะ...
    ตำราโลกไหนเขาสอนกันหละ ว่าวิปัสสนาเพื่อเอาฤทธิ์ หนะ หือ? :)
     
  13. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    อย่าไปปรุงแต่งจิตให้มากกล่าวหาคนอื่นไปทั่วนะอินทรบุตร อภิญญาเป็นผลพลอยได้ผมก็บอกอยู่ผู้มีปัญญาย่อมรู้ได้ ใครที่มีความอยาก คิดหรอจะได้อภิญญา ถ้าตอบแบบมีสาระไม่ได้ก็สำรวมไว้ดี กว่านะท่านผู้เจริญ ไม่งั้นจะเป็นการสั่งสมเวรกรรมเอาง่ายๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2012
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029

    พููดมานี่เข้าตัวเองหมดเลยนะคับ ตนเองทำสมาธิมาตั้งนานจนผมขาวหมดแล้วมั้ง
    ข้อปฏิบัติแบบกึ่งเดียรถีย์ ผิดครูอาจารย์ ปฏิบัติตาม อาจจะหลง ยังไม่เข้าใกล้ ญาน ฌาน เลย และชอบมาแสดงเป็นผู้รู้เกินวิสัยของตนจะรู้ได้ สำรวมไว้บ้างก็ดีนะคับอินทรบุตร ทุกขัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2012
  15. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    โง่ไม่เลิกนะอินทรบุตร พระมหาโมคคัลลานะเถระ (อัครสาวกฝ่ายซ้าย) เอตทัคคะในทางผู้มีฤทธิ์ ภาวนาเพื่อมีฤทธิ์งั้นหรอ อย่าโง่ให้มากอินทรบุตร ยังไม่รีบไปหาผู้รู้แนะนำอีก การจะเกิดญานหรือฤทธิ์แต่ละอย่างเค้าภาวนารักษาศีลมาเท่าไหร่แล้ว ไปขอขมากล่าวล่วงเกินเอตทัคคะในทางผู้มีฤทธิ์และผู้มีฤทธิ์อื่นๆนะ ตัวเองไม่ได้ฤทธิ์ก็อย่าไปกล่าวเสียๆหายๆไปเรื่อยหละ ยิ่งจะทำตนให้มีกรรมจากการล่วงเกินผู้ที่ได้อภิญญาและจะห่างไกลจากอภิญญาเปล่าๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...