เข้าใจเวทนาธรรมจะปล่อยวางสุขหรือทุกข์ได้ง่ายลงไหมครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 26 เมษายน 2017.

  1. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    สุขและทุกข์ที่ไปๆ มาๆเป็นไปตามธรรมชาติของจิตที่มี
    ปัจจัยหมุนเวียนเข้ามาปรุงแต่งสลับกัน
    ตลอดเวลาขณะที่สติตามไม่ทัน
    ถ้าเราเข้าใจว่านั่นเป็นแค่เวทนาและย่อมจะต้อง
    เปลี่ยนไปไม่ช้าก็เร็ว
    บางทีก็สุขอยู่แค่เป็นนาที
    บางครั้งก็ทุกข์อยู่เป็นชั่วโมงเป็นวัน เป็นเดือน
    ก็มีเช่นคนที่นอนเจ็บป่วยมันยากที่จะสลัดเวทนา
    ออกง่ายๆ
    อยากฟังความเห็นเกี่ยวกับเวทนาดังนี้

    ๑.สุขเวทนาและทุกเวทนา จะรู้เท่าทันเพื่อการปล่อยวางอย่างไร....ปล่อยวางแล้วเหลืออะไร

    ๒.สุขเวทนาจะเกิดมากในคนที่มีบุญกุศลมาก
    กว่าคนบาปหรือไม่ครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    แม้นโพสไปก้ไม่อ่าน แต่ก้ขอผ่าน ไปตามธรรมเปนใหญ่

    อันการณ์บัณฑิตผู้ปราศเปลื่อง
    จะลือเรื่องเวทนามาสิกขา
    ใจละเอียดพร้อมปฏิภานนำปัญญา
    เวทนาหนาอย่านำสุขทุกข์โลกๆมาวิจัย

    เวทนาของปราชนั้นมีอยู่
    ฌาณสามสี่สู่สุขแลอยู่อุเบกขา
    พิจารณาเพียร(สติ)นำอยู่ชื่อว่าสุขาปฏิปทา
    กำหนดรู้ดับแลเสื่อมนา ปฏิปทาทุกขาเรียกกันไป

    คนมีบุญมีบาปธรรมขาวดำมีเสมอกันด้วยความดับ
    ยกไตรลักษณสัมปยุติเวทนาพ้นการตรึก
    รู้ชัดๆ(เกิดดับ)ง่าย รู้เร็ว เนิ่นนานรู้ช้า ได้หมด
    จิตจะปลดเพราะสาวไปชัด ดับพร้อมเวทนา ทางปลง


    ปล.ลิง : เวทนานุสติปัฏฐาน เปนของ ผู้ทรงฌาณ
    ป.ตลิงปิง : หายใจเข้าออก พร้อมมรณา จิตไม่ห่างจาก ฌาณ1-9 ( 9 ในกรณีนี้ "อานนท์ เธอจง..." )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2017
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    ชาวบ้านชาวพุทธควรต้องมีวิธีจัดการกับเวทนาได้ด้วย
    จะเป็นการลดความหลงอยู่ในกองทุกข์กองสุข
    จึงจะได้รับประโยชน์จากศาสนาพุทธใกล้
    เคียงกัน
    ถูกมิถูก
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    ถ้าไม่อาศัยกิเลส แล้วจะไปอาศัยอะไร
    และไม่อาศัยกายแล้วจะขับรถยังงัย....งง
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    การที่จะเกิดเวทนาชนิดไหนขึ้นมาขึ้นกับสังขารการปรุงแต่ง การที่บางคนเป็นสุข บางคนเป็นทุกข์กับเหตุการณ์เดียวกันเพราะแต่ละคนมีการปรุงแต่งทางกาย วาจา ใจ ไม่เหมือนกัน เหตุการณ์เดียวกันคนนึงมองว่าไม่ดีเกิดทุกขเวทนา คนนึงมองว่าดีเกิดสุขเวทนา อย่างฝนตกบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ เกิดเวทนาแบบไหนขึ้นกับการให้ความหมายสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พอเกิดเวทนาขึ้นแล้ว ถ้าเราไม่ยึดมั่นในเวทนาทั้งสุข ทั้งทุกข์ วางเฉยได้ จะไม่เกิดอนุสัยกิเลศตามมา ต่อไปก็จะรู้ตัวในการปรุงแต่งมากขึ้น เพราะการปรุงแต่งของเราก็เกิดจากการตอบสนองเก่าๆ ต่อเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน มันเลยปรุงแต่งเป็นทุกข์ สุข แบบที่เราไม่รู้ตัว
     
  6. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :mad::p การนึกคิดตามตำรา เป็นแค่สัญญา-ยังไม่สามารถกำจัด เวทนาที่เกิดจากความรู้สึกจริงตามขันธ์5 ได้..แก้ทุกข์ด้วยสัญญาไม่ได้ ไม่มีเกิดขึ้นจริง..
    เพราะความรู้สึกที่ จิต ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม - การกำจัดเวทนาให้ได้ต้องกำจัดที่ "ความรู้สึก" ที่เกิดขึ้นจริงภายในจิต-ไม่ใช่ นึกคิดเอาเองแบบใช้ตำรา-สัญญาความจำนั่นมันเป็นแค่ละเวทนาด้วยสัญญา..หลอกลวงแก้ทุกข์ไม่ได้จริง
     
  7. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :oops::pฉนั้นจึงต้องแปลสัญญา เขาให้เป็นปัญญาให้ได้ ด้วยวิธีการ.. ภาวนา-ภาวนา-จิตก็จะเกิดการเดินมรรค..โดยปริยายไปในตัวด้วย..จิตที่กำลังพิจราณาธรรม หากเกิดปัญญาจะมีอาการ.. ปฏิเวธเกิดขึ้นที่จิต-ปฏิเวธ- นี่คือ ความรู้สึกจริง..ที่แก้ทุกข์ได้ทันทีชัดเจน อาการสลดสังเวชจะเกิด ดับเวทนาได้ฉับพลัน ด้วยกำลังสมาธิจิต ที่ใช้พิจราณาแบบ "ตั้งใจมั่น" ตามกำลังแค่ปฐมฌานก็ได้แล้วคัรบแล้วกำลังสมาธิมันจะพัฒนาไปเอง (วิปัสสนาแบบใช้ความคิด-เดินมรรคในตัว)
     
  8. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :) ภาวนา อีกแบบหนึ่งก็ทำได้ โดยวิธี เฝ้าดูจิต-เฝ้าดู การเกิด-ดับ ของวิญญาณที่จะพยายามดิ้นรนออกไปเกาะสิ่งภายนอก สมุห์ทัยวาระ เกิด-ตัด-ดับ-ไม่ใช้ความคิด..ตามวงจรปฏิจจะสมุปบาท ..
    ทำด้วยใจที่จดจ่อแต่ไม่เครียดตั้งใจมั่นแบบรู้..ว่าจิต กำลังจะส่งออก-ไปเกาะอารมณ์ใด เวทนาจะเกิดทันที ..เวทนาเกิดทันที-ก็ให้ตัดเสียให้ทัน ทำได้บ่อยๆนานๆ-จิตจะเกิดสมาธิเอง หากทรงอยู่ได้ตลอดเวลาด้วย สติปัฎฐานสี่-อีกชั้นในการปฏิบัติ-ก็จะเห็นการรู้ตัวทั่วพร้อมชัดเจนขึ้น ชัดเจนขึ้น ทำให้เป็นครับ ..การรู้สึกตัวทั่วพร้อม..
    :):):) จิตจับที่ ลมหรือกายให้ได้ติดต่อนานๆ เวทนาจะหาย-เวทนาจะหาย..เข้าใจตรงนี้ไหมครับ เพราะจิตเกิดดับรวดเร็วมากแต่ก็จับได้ทีละอารมณ์เท่านั้นจิตจับอารมณ์ได้เพียงทีละอารมณ์ :mad:หากจิตลืมหลง-ลม-กาย-:eek::rolleyes:เวทนาจะครอบงำทันที..เป็นผู้ลืมหลงซะแล้ว สาธุ
     
  9. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ผิดถูกแลกเปลี่ยนธรรมกันนะคัรบ ตามสบาย
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,302
    ค่าพลัง:
    +12,628
    ภิกษุหรือโยม ครับ
     
  11. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ผมเป็น โยม-อนาคาริกครับ..โยมครับ สาธุ
    :mad::)..วาสนาทำให้เราสนทนากัน-ด้วยเหตุปัจจัยตามธาตุนิสสัยผู้ชอบ-สะสมสุตตะ -ทุกสรรพสิ่งล้วน ไม่แน่วันนี้เป็นมิตร พรุ่งนี้อาจเป็นศัตรู- ศัตรูวันนี้ พรุ้งนี้อาจเป็นมิตร ทางโซเชียล
    :)o_O สรุป สุดท้ายล้วนลงที่เมตตากันและกันตามกำลังอินทรีย์ครับ
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มะมีหลังคาในเรือนที่อาสัยหรอ

    หน้านี้ หน้ามรสุม ฝนตก อย่าลืมทำหลังคาหละ

    อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...